ตอนที่ 17-20 ประชุมผู้อาวุโส
ขณะเขาก้าวเข้าไปในหอประชุมใหญ่ ลินลี่ย์กวาดสายตามอง“มีผู้อาวุโสมาถึงเพียงสิบสองคนเองหรือ?” เผ่ามังกรฟ้ามีผู้อาวุโสสามสิบหกคนผู้อาวุโสอื่นในหอประชุมเมื่อเห็นลินลี่ย์ ทุกคนหัวเราะทักทายเขา
“ลินลี่ย์! มานั่งตรงนี้” ผู้อาวุโสการ์วีย์กวักมือเรียกเขา
ลินลี่ย์เดินเข้าไปหาและนั่งลงข้างๆ การ์วีย์
การประชุมผู้อาวุโสนี้จัดในหอประชุมขนาดใหญ่มีพื้นที่มากโต๊ะกลมสีแดงเข้มจัดวางตรงกลาง มีเก้าอี้รายล้อมโต๊ะกลม ลินลี่ย์กวาดตามองดูและพบว่า “เอ๊ะ?มีเก้าอี้เพียงสิบหกตัวเองหรือ?”
โต๊ะกลมมีขนาดใหญ่มากและมีมากพอรองรับเก้าอี้ล้อมรอบได้ถึงสี่สิบตัว แต่พวกเขาจัดเก้าอี้ไว้เพียงสิบหกตัว
“การ์วีย์! มีเก้าอี้เพียงสิบหกตัวเท่านั้นหรือ? ไม่ใช่ว่ามีผู้อาวุโสสามสิบหกคนหรอกหรือ?” ลินลี่ย์พูดเบาๆ
“ผู้อาวุโสแห่งหุบเขาอ่างโลหิตไม่ได้เข้าร่วม”การ์วีย์อธิบาย
ลินลี่ย์ลอบถอนหายใจ
หุบเขาอ่างโลหิตอยู่ใจกลางที่สุดของเทือกเขาสกายไรท์ เป็นที่ซึ่งยอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดของเผ่ามังกรฟ้าเผ่าหงส์เพลิง เผ่าพยัคฆ์ขาวและเผ่าพญาเต่าดำอาศัยรวมกันเผ่ามังกรฟ้ามีผู้อาวุโสยี่สิบคนประจำอยู่ที่นั่น
“พวกเขาจะไม่เข้าร่วมประชุมสภาอาวุโส” วันที่ลินลี่ย์ได้เป็นผู้อาวุโสมีผู้อาวุโสเพียงราวๆ สิบคนปรากฏตัวในปราสาท ไม่มีผู้อาวุโสที่อาศัยอยู่ในหุบเขาอ่างโลหิตสักคนที่มาในวันนั้น
“ผู้อาวุโสที่หุบเขาอ่างโลหิตความจริงกำลังเสี่ยงชีวิตต่อสู้เพื่อเผ่าตระกูล” เมื่อสิบห้าวันที่แล้วลินลี่ย์สนทนากับการ์วีย์และพูดคุยถึงความรับผิดชอบของผู้อาวุโสเวลานั้นการ์วีย์อธิบายเรื่องหุบเขาอ่างโลหิตให้เขาฟัง
ตระกูลใหญ่ทั้งแปดก็คอยจ้องอยู่เหมือนเสือร้าย ตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์เผชิญหน้ากับอันตรายใหญ่และแม้ว่าพวกเขาจะสามารถซ่อนตัวอยู่ในเทือกเขาสกายไรท์และทำตัวเหมือนเต่าหดหัวอยู่ในกระดอง...
ด้วยความหยิ่งของตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์เป็นไปได้ยังไงที่พวกเขาจะเอาแต่ซ่อนตัวตลอดไป?
นอกจากนี้ตระกูลใหญ่อย่างพวกเขาจะถูกตัดขาดจากโลกภายนอกได้ยังไง? ตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์เชื่อมโยงกับโลกภายนอก แต่คนที่เกี่ยวข้องกับพวกเขาจะถูกแปดตระกูลใหญ่โจมตีและสังหาร
ตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์จะยอมรับเรื่องนี้เงียบๆ หรือ?
เป็นไปไม่ได้!
ตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์จะต้องตอบโต้โจมตีกลับศัตรูให้รุนแรงขึ้น ดังนั้นหุบเขาอ่างโลหิตจึงถูกสร้างขึ้น
หุบเขาอ่างโลหิตเป็นที่ซึ่งยอดฝีมือของตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์มากกว่าครึ่งรวมกันอยู่ เผ่ามังกรฟ้าจะมีผู้อาวุโสยี่สิบกว่าคนและแน่นอนอสูรหกดาวหลายคนก็อยู่ที่นั่นเช่นกัน คุณสมบัติของคนผู้เข้าสู่หุบเขาอ่างโลหิตจะต้องมีพลังระดับอสูรหกดาว
หุบเขาอ่างโลหิตจุดรวมสำหรับมือดีของตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์
“ผู้อาวุโสสิบหกคนมาพร้อมกันแล้ว” ผู้อาวุโสผมขาวที่ข้างโต๊ะกลมพูดเสียงฟังชัด “การประชุมสภาอาวุโสในรอบพันปีเทียบกับครั้งก่อนมีผู้อาวุโสเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคน นี่คือเรื่องที่ควรค่าแก่การฉลอง”
ผู้อาวุโสจำนวนมากมองมาทางลินลี่ย์
ลินลี่ย์ยิ้มให้กับผู้อาวุโสทุกคนที่แสดงความเป็นมิตร จากนั้นชำเลืองมองผู้อาวุโสผมขาว ลินลี่ย์จำได้ว่าผู้อาวุโสผมขาวนี้เป็นผู้อาวุโสลำดับสองของสภาอาวุโสและเป็นบุตรของกัซลีสัน
“ส่วนงานที่จะมอบหมายให้ทุกคน พักไว้ตอนนี้ก่อน” ผู้อาวุโสรองพูดอย่างเคร่งขรึม “ก่อนอื่นข้าขออธิบายให้ทุกคนทราบถึงผลการต่อสู้ของผู้อาวุโสเผ่ามังกรฟ้าทั้งยี่สิบของเราในหุบเขาอ่างโลหิตช่วงพันปีที่ผ่านมา”
หน้าของผู้อาวุโสทุกคนพลันเคร่งขรึม
หุบเขาอ่างโลหิตเป็นตัวแทนของสถานที่เข่นฆ่ากันในสงครามระหว่างตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์และแปดตระกูลใหญ่
“ผู้อาวุโสยี่สิบกว่าคนของเผ่ามังกรฟ้าของเราในช่วงพันปีที่ผ่านมาฆ่าศัตรูที่เป็นอสูรเจ็ดดาวสองคน และอสูรหกดาวอีกสามสิบหกคน! จำนวนเทพระดับสูงอื่นๆที่ถูกสังหารไปไม่ได้นับ” ผู้อาวุโสรองฝืนใจกล่าว
มากนักหรือ?
ลินลี่ย์ลอบตกใจในรอบพันปีสำหรับพวกเทพเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ในช่วงเวลาสั้นๆ พันปี เผ่ามังกรฟ้าฆ่าอสูรเจ็ดดาวฝ่ายศัตรูไปสองคนและอสูรหกดาวอีกสามสิบคน
อย่างนั้นศัตรูที่พวกเขาฆ่าในหุบเขาอ่างโลหิตมีรวมเท่าใด?
“การต่อสู้ระหว่างตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์และแปดตระกูลใหญ่อยู่ในสภาพเลวร้ายจริงๆ”ลินลี่ย์พูดกับตนเอง
“อย่างไรก็ตาม ในบรรดาผู้อาวุโสยี่สิบกว่าคนของเรามีผู้อาวุโสสองคนที่พลังตกลงไปมากพวกเขาก็คือผู้อาวุโสยี่สิบเอ็ดแบนดอนและผู้อาวุโสเก้าเจฟส์ร่างแยกธาตุน้ำของผู้อาวุโสแบนดอนถูกทำลายเขาไม่มีพลังระดับอสูรเจ็ดดาวอีกต่อไป ปัจจุบันนี้เขากำลังขังตัวฝึกปรืออยู่ ขณะที่เจฟส์ร่างแยกธาตุน้ำที่ทรงพลังที่สุดของเขาถูกทำลายเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงหลอมรวมกับประกายเทพธาตุน้ำอีกครั้งและพลังของเขากลับคืนมาเช่นกัน...แต่นับจากวันนี้เป็นต้นไปเป็นไปได้ว่าคงยากจะมีความก้าวหน้าแม้แต่ก้าวเดียว” ผู้อาวุโสสองพูดเคร่งขรึม
ทันใดนั้นบรรยากาศในห้องประชุมพลันหนักอึ้ง
“ผู้อาวุโสสองคน คนหนึ่งไม่มีพลังอสูรเจ็ดดาวอีกต่อไป ขณะที่อีกคนจะไม่สามารถฝึกฝีมือให้ก้าวหน้าต่อไปในอนาคตได้” ลินลี่ย์ลอบถอนหายใจ
ลินลี่ย์รู้ว่ากฎของหุบเขาอ่างโลหิตเป็นเช่นไร ผู้อาวุโสที่ออกรบเหล่านั้นทุกคนจะทิ้งร่างแยกที่อ่อนแอไว้ในหุบเขาอ่างโลหิตวิธีนั้นต่อให้พวกเขาตายในการรบข้างนอกพวกเขาก็ยังมีร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ที่รอดอยู่
เป็นไปได้ว่าศัตรูก็ทำเหมือนกัน
แม้ว่าพวกเขาอธิบายถึงความสำเร็จในการสู้รบสามารถฆ่าอสูรเจ็ดดาวได้สองคนแต่มีแนวโน้มว่าร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ของอสูรเจ็ดดาวทั้งสองนั้นก็คงถูกปล่อยไว้ที่ฐานของตน
“ดังนั้นสำหรับร่างเดิมที่ไม่หลอมรวมกับประกายเทพจะมีประโยชน์อย่างนี้”
ผู้อาวุโสเจฟส์ร่างแยกธาตุน้ำที่ทรงพลังที่สุดของเขาถูกทำลายแต่ร่างหลักของเขาไม่เคยหลอมรวมกับประกายเทพเหมือนกับลินลี่ย์ ดังนั้นผู้อาวุโสสามารถใช้ร่างหลักหลอมรวมกับประกายเทพธาตุน้ำได้กลายเป็นเทพชั้นสูง
ทั้งนี้เพราะเขารู้วิธีหลอมรวมกฎธรรมชาติธาตุน้ำแล้ว
ดังนั้นแม้ว่าเขาจะกลายเป็นเทพชั้นสูงผ่านการหลอมรวมประกายเทพโดยวิธีนี้พลังของเขาจะไม่ต่างจากในอดีตมาก เพียงแต่..ในอนาคตคงก้าวหน้าได้ยากมาก
ตัวอย่างเช่นถ้าร่างแยกธาตุดินของลินลี่ย์ถูกทำลาย เขาไม่สามารถใช้สนามพลังโน้มถ่วงได้ อย่างไรก็ตามลินลี่ย์ยังสามารถให้ร่างหลักของเขาหลอมรวมกับประกายเทียมเทพประกายเทพแท้ ประกายเทพชั้นสูงสายธาตุดินยังได้อยู่
เมื่อถึงเวลาลินลี่ย์ยังสามารถใช้สนามพลังศิลาดำ เพียงแต่ไม่สามารถก้าวหน้าต่อไปแต่อย่างใด
“เวลานี้นอกจากผู้อาวุโสสองคนที่เกษียณจากหุบเขาอ่างโลหิต ยังมีหกผู้อาวุโสได้ต่อสู้ในหุบเขาอ่างโลหิตมาสามพันปีและเตรียมเกษียณจากหุบเขาอ่างโลหิต! ดังนั้นกลุ่มของเราทั้งสิบหกจะต้องมีการเสริมกำลังเพิ่มอีกสามตำแหน่ง”
ทันใดนั้นผู้อาวุโสเริ่มพูดคุยกันเองผ่านการใช้สำนึกเทพหรือไม่ก็ไตร่ตรองกันอยู่
“ผู้อาวุโสสามคนจำเป็นต้องไปที่หุบเขาอ่างโลหิต?” ลินลี่ย์รู้ว่าจะเกิดอะไรสำหรับตัวแทนที่หุบเขาอ่างโลหิต
“เพราะคำสั่งของประมุขเผ่าลงโทษเอ็มมานูเอลให้ไปช่วยงานประธานผู้อาวุโส ฉะนั้นบรรดาพวกเราสิบหกคน เอ็มมานูเอลจะต้องไปหุบเขาอ่างโลหิตแน่นอน อีกสองอัตราที่เหลือจะต้องเลือกจากสิบห้าคนที่เหลือแน่”
ลินลี่ย์อดชายตามองดูเอ็มมานูเอลที่อยู่ห่างออกไปมิได้ เอ็มมานูเอลยังคงเงียบ หน้าของเขาไม่เปลี่ยน เห็นได้ชัดว่าเขารู้เรื่องนี้ดี
“ทุกท่าน เชิญเลือกผู้อาวุโสสองคนที่จะเข้าร่วม” ผู้อาวุโสรองมองดูทุกคน
“ข้า!” เสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านข้างของลินลี่ย์ เป็นผู้อาวุโสการ์วีย์ ผู้อาวุโสการ์วีย์หัวเราะ“ก่อนนั้นข้าต้องการไปเหมือนกัน แต่ในแง่พลัง ข้ายังอ่อนแอกว่าคนอื่นดังนั้นข้าจึงได้รับการยกเว้น แต่ครั้งนี้ถึงตาข้าแล้วใช่ไหม?”
“ข้าขอเสนอตัวเข้าแทนที่!” ทันใดนั้นผู้อาวุโสอีกคนหนึ่งพูดขึ้น “ผู้อาวุโสอื่นกำลังสู้เพื่อเผ่าตระกูลอยู่ข้างนอก ขณะที่ข้ารั้งอยู่ภายในภูเขา ข้ารู้สึกอนาถใจ!”
“การ์วีย์! ยังไม่ถึงคราวเจ้า” มีผู้อาวุโสอีกคนหนึ่งพูดขึ้น “ข้าขอเสนอตัว”
มีความแตกต่างในพลังระหว่างกลุ่มผู้อาวุโสเช่นกัน การ์วีย์ยังอ่อนแอกว่าเห็นได้ชัด สำหรับหุบเขาอ่างโลหิต...ยิ่งได้ผู้อาวุโสที่ทรงพลังเข้าร่วมก็ยิ่งดี
“ข้าจะไปด้วย” บรรดาผู้อาวุโสทั้งสิบหกคนหนึ่งในสามเป็นสตรี สตรีผมหยกหัวเราะขึ้น“ข้าอยากเอาอย่างประธานผู้อาวุโสและช่วยนางต่อสู้เพื่อเผ่าตระกูลเรา”
“เพื่อเผ่าตระกูลเรา ข้าจะไปด้วยเหมือนกัน”
ลินลี่ย์ค่อนข้างประหลาดใจเมื่อมองเห็นฉากภาพนี้ เดิมทีเขาคิดว่าผู้คนจะเกี่ยงกันให้คนอื่นไปสู้ อย่างไรก็ตามตอนนี้ลินลี่ย์พบว่าผู้อาวุโสแปดคนจากสิบหกคนต่างอาสาตนเองโดยไม่ใส่ใจถึงความเป็นตาย
“พอได้แล้ว” ผู้อาวุโสผมทองตะโกนด้วยความไม่พอใจ
ลินลี่ย์หันไปมอง ผู้อาวุโสผมทองก็คือผู้อาวุโสสามของเผ่าเป็นบุตรของประธานผู้อาวุโส เขาชื่อฟอร์ลัน ฟอร์ลันยังมีอีกสถานะหนึ่งคือ..เป็นบิดาของเอ็มมานูเอล
ผู้อาวุโสผมทองฟอร์ลันพูดด้วยเสียงทุ้ม “ข้าเข้าใจว่าทุกท่านต้องการจะรบเพื่อเผ่าของเรา แต่ในการรบ ยิ่งเป็นคนที่มีพลังมากก็ยิ่งดี! ดังนั้นข้าเลือกไว้สองคน คนแรกคือ...”
ฟอร์ลันชี้ไปที่ลินลี่ย์ “ผู้อาวุโสลินลี่ย์!”
ลินลี่ย์ตกใจเล็กน้อย
“ฟอร์ลัน! คำขอให้ตัดสินใจเป็นเรื่องของส่วนบุคคล ไม่ใช่เรื่องให้คนอื่นตัดสินใจ”ผู้อาวุโสสองกล่าว
ฟอร์ลันขมวดคิ้วอย่างดึงดัน จากนั้นพูดเสียงดังชัด“ในฐานะสมาชิกเผ่า และเมื่อเผ่าเผชิญกับอันตราย เราจะไม่สนใจเรื่องนี้ได้อย่างไร? ดูผู้อาวุโสทั้งยี่สิบในหุบเขาอ่างโลหิตสิ ส่วนใหญ่ของพวกเขาต่อสู้อยู่ที่นั่นมาหลายพันปีแล้ว ตามกฎก็คือทุกๆพันปีพวกเขาสามารถออกมาพักได้ แต่พวกเขาไม่ทำ!”
“ทั้งหมดนั้นก็เพื่อประโยชน์ของเผ่าพันธุ์! เพื่อประโยชน์ให้ศักดิ์ศรีของเผ่ามังกรฟ้าเราจะไม่ตกต่ำลงไป!”
ฟอร์ลันมองดูลินลี่ย์ “เหตุผลที่ข้าเลือกลินลี่ย์เป็นเพราะสนามพลังโน้มถ่วงของลินลี่ย์นับว่าไม่ธรรมดาเป็นสนามพลังโน้มถ่วงที่ทรงพลังน่าอัศจรรย์ แม้แต่อสูรเจ็ดดาวก็ยังได้รับผลกระทบจนความเร็วตกลงไปมากเมื่ออยู่ในสนามพลังโน้มถ่วง เมื่อยอดฝีมือสู้กัน ถ้าลินลี่ย์รวมอยู่กับผู้อาวุโสหลายคน พลังของเขาจะถูกปลดปล่อยออกมามาก
ผู้อาวุโสในที่ประชุมเข้าใจทันที
ถ้าลินลี่ย์เข้าร่วมกับผู้อาวุโสหลายคนสู้ขณะที่ใช้สนามพลังโน้มถ่วงจะเป็นพลังสนับสนุนที่ทรงประสิทธิภาพมาก
“พลังของตัวลินลี่ย์เองก็ปรากฏชัดกับทุกคนเป็นอย่างดี เขาเหนือกว่าเอ็มมานูเอล เท่าที่ข้าเห็น แค่พลังร่างกายของเขา ในเผ่าเราลินลี่ย์น่าจะจัดอยู่ในลำดับสี่! แม้แต่ข้าก็ยังด้อยกว่า”ฟอร์ลันมองลินลี่ย์ “ลินลี่ย์! ทำไมเจ้าไม่พูดเอง เจ้ายินดีจะไปหรือไม่?”
ลินลี่ย์หัวเราะขณะมองฟอร์ลัน “ผู้อาวุโสสาม ข้าอยากถามอีกคนหนึ่งท่านจะเลือกใคร?”
ฟอร์ลันพูดอย่างจริงจัง “สองคนที่ข้าเลือกไว้..คนหนึ่งคือลินลี่ย์, ขณะที่อีกคนคือ..ตัวข้าเอง! ข้าเชื่อว่าในเรื่องความแข็งแกร่งไม่มีใครที่นี่กล้าพูดว่าเหนือกว่าข้า ครั้งก่อนข้าไม่ได้ไปหุบเขาอ่างโลหิต..ข้ายังเสียใจอยู่จนบัดนี้ ครั้งนี้ข้าขอยืนยันจะไปเอง!”
ลินลี่ย์ขมวดคิ้ว
อีกคนหนึ่งที่ฟอร์ลันเสนอก็คือตัวฟอร์ลันเอง?
“ลินลี่ย์?” ผู้อาวุโสสองมองลินลี่ย์ “เจ้ามีความคิดว่ายังไง?”
ผู้อาวุโสทั้งหมดนี้ยอมรับว่าในการสู้เดี่ยวพวกเขาบางคนกล้าพูดได้ว่าพวกเขาไม่ด้อยกว่าลินลี่ย์ แต่ในแง่การสู้เป็นกลุ่ม...ไม่มีใครกล้าพูดได้ว่าพวกเขาเหนือกว่าลินลี่ย์ ในการรบเป็นกลุ่มสนามพลังศิลาดำของลินลี่ย์เป็นไม้ตายที่ยอดเยี่ยม
เมื่อสนามพลังศิลาดำปรากฏพลังของเขาเองไม่ได้รับผลกระทบ แต่ความเร็วของคู่ต่อสู้จะตกลงไปมาก แม้แต่อสูรเจ็ดดาวในสถานการณ์สู้รบอย่างนี้ ก็จะเอาชนะได้อย่างเด็ดขาด
“ข้าจะไป!” ลินลี่ย์พยักหน้า
“ลินลี่ย์! ไม่เลว” ฟอร์ลันหัวเราะขณะกล่าว
ลินลี่ย์เพียงแต่ยิ้มให้เขา ขณะที่เขากำลังรำพึงในใจ“ฟอร์ลันผู้นี้ดูเหมือนต้องการบังคับให้ข้าไปหุบเขาอ่างโลหิต วิธีที่เขาแสดงออกตอนนี้..ถ้าข้าปฏิเสธที่จะไป เป็นไปได้ว่าผู้อาวุโสอื่นจะดูถูกดูแคลนข้า ทำไมเขาถึงต้องบังคับให้ข้าไปด้วย? หรือว่าเกี่ยวกับเอ็มมานูเอลลูกชายของเขา?”
“เป็นอันตกลง คนก็เลือกได้แล้ว ฟอร์ลัน เอ็มมานูเอล ลินลี่ย์พวกท่านทั้งสามหลังจากประชุมสภาอาวุโสเสร็จ สามารถตรงไปที่หุบเขาอ่างโลหิตได้” ผู้อาวุโสสองมองลินลี่ย์และอีกสองคน “ท่านทั้งสาม รักษาตัวด้วย”
“รักษาตัวเอง”สี่คำนี้ทำให้ลินลี่ย์รู้สึกโล่งใจจากความรู้สึกกดดันที่เขาแบกรับไว้โดยไม่รู้ตัว
“หุบเขาอ่างโลหิต?” ด้วยเหตุผลบางอย่างลินลี่ย์รู้สึกได้ถึงแววคาดหวัง
ตั้งแต่เขารู้ว่าตระกูลตกอยู่ในวิกฤติ ลินลี่ย์รู้ว่าสักวันเขาก็ต้องออกรบเพื่อเผ่าตระกูลเช่นกัน เพียงแต่เขาคาดไม่ถึงว่าวันนั้นจะมาถึงเร็วนัก
ลินลี่ย์และอีกสองคนที่ถูกเลือกไปที่หุบเขาอ่างโลหิต ปกติพวกเขาจะไม่ได้รับมอบหมายให้ทำกิจกรรมอื่นใด หลังจากประชุมสภาผู้อาวุโสเสร็จแล้วผู้อาวุโสสิบสามคนกล่าวลาและส่งลินลี่ย์ ฟอร์ลันและเอ็มมานูเอล
“ลินลี่ย์, ข้าต้องการไปพร้อมกับเจ้าจริงๆ” การ์วีย์หัวเราะ “จำไว้,ช่วยฆ่าศัตรูเผื่อข้าเป็นเพิเศษสักสองสามคนด้วย”
ลินลี่ย์ยิ้มและพยักหน้า
หน้าของการ์วีย์เคร่งขรึมทันที “จำเอาไว้เจ้าต้องระวังตัวให้ดี ปกป้องตัวเองเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ฆ่าศัตรูเป็นเรื่องรองลงไป”
“เข้าใจแล้ว” ลินลี่ย์พยักหน้า
“พอได้แล้ว พวกเจ้าทั้งสามคนไปได้แล้ว หลังจากไปถึงหุบเขาอ่างโลหิตขอให้เชื่อฟังคำสั่งของประธานผู้อาวุโสด้วย” ผู้อาวุโสสองกล่าว ลินลี่ย์ฟอร์ลันและเอ็มมานูเอลอำลาผู้อาวุโสแต่ละคนทันทีและเริ่มบินไปที่กลางเทือกเขาสกายไรท์
เทือกเขาสกายไรท์แบ่งออกเป็นสี่เขตใหญ่ซึ่งแต่ละเขตจะมีตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์แต่ละตระกูลคอยควบคุม
ในใจกลางเทือกเขาสกายไรท์ลึกเข้าไปในหุบเขาก็คือหุบเขาอ่างโลหิต ที่ซึ่งยอดฝีมือของตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์รวมกันอยู่
“การรักษาความปลอดภัยที่นี่ทำอย่างแน่นหนา” ลินลี่ย์มองดูเหนือหุบเขามีนักรบลาดตระเวนอยู่เป็นจำนวนมาก ไม่ใช่แค่เพียงนักรบเกราะฟ้าของเผ่ามังกรฟ้าเท่านั้น แต่ยังมีนักรบเกราะทองของเผ่าหงส์เพลิง..
มีนักรบลาดตระเวนจากตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมด เมื่อคนเหล่านี้เห็นกลุ่มของลินลี่ย์ทั้งสามคนบินเข้ามาพวกเขาแสดงความเคารพทันที
ลินลี่ย์เอ็มมานูเอลและฟอร์ลันบินตรงเข้าไปในส่วนลึกของหุบเขาทันที