ตอนที่ 17-19 ผู้อาวุโส
บนเส้นทางมังกรลินลี่ย์กำลังบินด้วยความเร็วสูงไปตามเส้นทางที่แกะสลัก
“ก่อนหน้านั้น เพราะการประลองเป็นตายข้าทำให้ประมุขเผ่าโกรธ ขณะที่ข้าออกไปกับเขา ข้ายังกังวลว่าจะต้องเผชิญกับสถานการณ์อันตราย แต่ใครจะคิดกันเล่าว่าไม่เพียงแต่ข้าไม่ถูกลงโทษเท่าน แต่ในพริบตาข้ากลายเป็นผู้อาวุโสของเผ่าได้!” ลินลี่ย์มองดูเกราะฟ้าลายทองที่เขาสวมใส่ อดหัวเราะไม่ได้
“ความเปลี่ยนแปลงในโลกนี้น่าอัศจรรย์จริงๆ” ลินลี่ย์ถอนหายใจ
“ผู้อาวุโส!”ทหารลาดตระเวนตามเส้นทางมังกรหลายคนเมื่อเห็นลินลี่ย์ก็แสดงความเคารพทันที
ลินลี่ย์เหลือบมองทหารลาดตระเวน และพยักหน้าให้เล็กน้อย
ลินลี่ย์บินผ่านนักรบที่ทำความเคารพหลายคน
เมื่อเห็นลินลี่ย์บินผ่านไป หนึ่งในนักรบลาดตระเวนขมวดคิ้ว “ผู้อาวุโสท่านนี้...ดูเหมือนว่าจะเป็นลินลี่ย์ผู้เข้าร่วมประลองเป็นตาย หัวหน้า!ท่านก็ไปดูมาด้วย นั่นลินลี่ย์หรือเปล่า?”
“ข้าเห็นไม่ถนัดนักดูเหมือนจะเป็นลินลี่ย์” หัวหน้าหน่วยกล่าว
“เป็นลินลี่ย์ ข้าเห็นเขาชัดเจน”
“อะไรนะ ลินลี่ย์นั่นคนที่เข้าร่วมประลองเป็นตายกลายเป็นผู้อาวุโสแล้วหรือ?” นักรบลาดตระเวนหลายคนที่ไม่ได้ดูการประลองเป็นตายพากันสงสัย
“แปลกหรือที่เขากลายเป็นผู้อาวุโส? ถ้าไม่ใช่ว่าท่านประมุขมาทันเวลาผู้อาวุโสเอ็มมานูเอลคงถูกฆ่าไปแล้ว ท่านลินลี่ย์มีพลังระดับอสูรเจ็ดดาว!”
ที่สำคัญนักรบลาดตระเวนหลายพันคนได้ดูการประลองนั้น ดังนั้นขณะที่ลินลี่ย์บินไปตามเส้นทางมังกรมีคนมากมายที่จำเขาได้ ในไม่ช้าข่าวว่าลินลี่ย์รับตำแหน่งเป็นผู้อาวุโสก็แพร่กระจายในหมู่นักรบลาดตระเวนอย่างรวดเร็ว
“มาถึงแล้ว” ลินลี่ย์มองดูหุบเขาข้างหน้าเขา ร่างของเขากลายเป็นแสงพุ่งตรงเข้าไปในหุบเขา
ลินลี่ย์บินตรงไปที่สาขายูลาน ในกลางอากาศลินลี่ย์เห็นว่าประตูบ้านพักของเขามีกลุ่มผู้คนรวมตัวกันอยู่บาลุค ทารอส โอลิเวอร์และคนอื่นอีกหลายสิบคนล้วนอยู่ที่นั่น
“หวังว่าลินลี่ย์จะไม่เป็นไร”ฮาซาร์ดถอนหายใจเบาๆ “เป็นเรื่องยากนักกว่าที่สาขายูลานของเราจะมียอดฝีมืออย่างเขาขึ้นมาได้ ถ้าเขาเป็นอะไรไป..ฮึ!” โดยไม่รู้ตัวทุกคนในสาขายูลานถือว่าลินลี่ย์เป็นที่เชิดหน้าชูตาของสาขายูลานของพวกเขา
ผู้เชิดหน้าชูตาของพวกเขาจะถูกปล่อยให้พังพินาศได้ยังไง?
“ใครจะรู้ว่าประมุขเผ่าจะลงโทษลินลี่ย์ยังไง” ซีซาร์พูดด้วยความกังวลเช่นกัน
“เท่าที่ข้าเห็นในหุบเขามรณะประมุขเผ่าร้ายกาจยิ่งนัก” โอลิเวอร์พูดพร้อมกับขมวดคิ้ว
“ไม่ต้องห่วงไป อย่างน้อยท่านประมุขจะไม่ฆ่าเขาแน่” บาลุคกล่าว เขารู้ดีถึงอันตรายที่ตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์เผชิญพบเจอในปัจจุบัน เวลาอย่างนี้ประมุขเผ่าคงไม่ยอมฆ่ายอดฝีมือคนใดของพวกเขาเป็นแน่
เดเลียยังขมวดคิ้วรออยู่เงียบๆ
“พี่ใหญ่กำลังมา” ทันใดนั้นบีบีพูดพร้อมกับเงยหน้ามอง
“ลินลี่ย์กำลังมาหรือ?” กลุ่มคนมองตามสายตาของบีบีจ้องมองในท้องฟ้า จากข้างบนที่มีหมอกเลือนลาง ร่างมนุษย์ร่างหนึ่งพุ่งลงมาด้วยความเร็วสูง บาลุคและคนอื่นๆมองเห็นแต่แสงพร่ามัวหลากสีไม่ชัดเจน
ร่างที่ลงมายืนนั้นก็คือลินลี่ย์!
บาลุค ทารอสและคนอื่นพากันปากอ้าตาค้างจ้องมองลินลี่ย์
ตลอดทั้งตัวลินลี่ย์อยู่ในชุดเกราะฟ้าที่ปกคลุมไปด้วยลวดลายสีทองให้กลิ่นอายของขุนนางโบราณชั้นสูง ชุดคลุมที่ลินลี่ย์สวมมีลักษณะแปลกประหลาดมีอักษรรูนอยู่ด้านบนสะท้อนแสงหลากสีสัน
นั่นคือเครื่องแบบผู้อาวุโส!
“ลิน...ลี่ย์หรือนั่น?” บาลุค ไรอัน ไดลินและคนอื่นๆจ้องมองลินลี่ย์ด้วยความประหลาดใจ
“หัวหน้าตระกูล” ลินลี่ย์หัวเราะขณะมองดูทุกคน
“ลินลี่ย์! เจ้าเป็นผู้อาวุโสแล้วหรือ?” ตาของฮาซาร์ดแทบถลน
ในเผ่ามังกรฟ้าผู้อาวุโสเป็นสมาชิกเผ่าระดับสูงจริงแท้แน่นอน ผู้อาวุโสทุกคนเป็นอสูรเจ็ดดาวสามารถทำให้สมาชิกในเผ่านับไม่ถ้วนเคารพบูชา พวกเขาทุกคนรู้จักพลังของลินลี่ย์ว่าน่ากลัว แต่ใครจะคิดกันว่า...
ลินลี่ย์จะกลายเป็นผู้อาวุโสได้!
“ทุกคน! อย่ามัวยืนอยู่ข้างนอกเข้าไปคุยกันข้างในเถอะ” ลินลี่ย์หัวเราะขณะกล่าว
“ได้เลย ทุกคน, ไปที่ห้องรับแขก” บาลุคค่อยรู้สึกตัวและรีบกล่าว “ลินลี่ย์,เจ้าไปพร้อมกับประมุขเผ่าและผู้อาวุโส เกิดอะไรขึ้นกันแน่? เจ้าต้องอธิบายให้เราฟังอย่างชัดเจน เราสงสัยมานานแล้ว”
“หัวหน้าตระกูล...” ลินลี่ย์กำลังจะร้องทัก
“เจ้าเรียกข้าว่าบาลุคก็ได้” บาลุคมองดูเครื่องแบบผู้อาวุโสที่ลินลี่ย์สวมใส่อยู่ “ลินลี่ย์! ตอนนี้เจ้าเป็นผู้อาวุโสแล้วมีเพียงคนเดียวที่เจ้าเรียกว่าผู้นำตระกูลหรือไม่ก็ประมุขเผ่า”
ลินลี่ย์เข้าใจความหมายของบาลุค เขาหัวเราะ “ภายในหุบเขา ข้าก็ยังเรียกท่านเป็นหัวหน้าตระกูลอยู่ดี”
บาลุคเมื่อเห็นสีหน้าของลินลี่ย์ก็รู้ว่าพูดไปก็ไร้ประโยชน์ เขาได้แต่ยอมรับโดยปริยาย
สมาชิกคนสำคัญของสาขายูลานมาประชุมกัน พวกเขาฟังลินลี่ย์อธิบายและลินลี่ย์แค่อธิบายคร่าวๆ เว้นในส่วนที่เป็นความลับ ขณะที่ฟังเรื่องที่เกิดขึ้นทุกคนเฉลิมฉลองยินดีกับลินลี่ย์และรู้สึกภูมิใจในตัวเขา
ลินลี่ย์เป็นผู้อาวุโสลำดับ 36 ในสภาอาวุโส!
สถานะของสาขายูลานในเผ่ามังกรฟ้าต่ำต้อยนัก อย่างไรก็ตามตอนนี้พอสาขายูลานมีผู้อาวุโสเผ่าสถานะของสาขายูลานจึงเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
สำหรับสาขาพวกเขาที่มีผู้อาวุโสอยู่ด้วยก็หมายความว่าคนในตระกูลสาขาพวกเขามีความมั่นใจมากขึ้นขณะอยู่ในเทือกเขาสกายไรท์
รุ่งขึ้นในวันต่อมา ในห้องของลินลี่ย์
“เดเลีย! เดิมทีข้าตั้งใจจะฝึกฝนเงียบๆ จนกว่าจะกลายเป็นเทพชั้นสูง แต่...ข้าขอโทษด้วย ตอนนี้ข้าเป็นผู้อาวุโสไปแล้วเป็นไปได้ว่าชีวิตที่เงียบสงบคงเหลืออยู่อีกไม่นานนัก” ลินลี่ย์กอดเดเลียและกล่าวขอโทษ
เดเลียหัวเราะจากนั้นเงยหน้ามองลินลี่ย์ “เจ้าไม่ต้องขอโทษก็ได้”
“ลินลี่ย์!”มีเสียงหนึ่งดังขึ้นในใจของลินลี่ย์
ลินลี่ย์สะดุ้ง เขายิ้มขอโทษเดเลีย “ข้าไม่คาดเลยว่าจะมาถึงเร็วนัก ข้าเพิ่งเป็นผู้อาวุโสได้เมื่อวานนี้เอง แต่วันนี้มีคนมาตามข้าเสียแล้ว”
“งั้นไปเถอะ” เดเลียกล่าว
ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นกลายเป็นสภาพเลือนรางบินออกไปจากห้องขึ้นไปในท้องฟ้าเหนือหุบเขา บุรุษหนุ่มรูปงามในชุดผู้อาวุโสยืนนิ่งอยู่กับที่ในกลางอากาศ เป็นผู้อาวุโสการ์วีย์
“ลินลี่ย์” การ์วีย์ยิ้มขณะกล่าว
“การ์วีย์ มีอะไรหรือ?” ลินลี่ย์ถาม
“เมื่อวาน เจ้าได้รับแต่งตั้งเป็นผู้อาวุโส ข้าคิดว่าเจ้ายังไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับอำนาจและหน้าที่ของผู้อาวุโส” การ์วีย์หัวเราะอย่างใจเย็น “ดังนั้นท่านประมุขเผ่าสั่งให้ข้ามาช่วยอธิบายรายละเอียดให้เจ้า”
ลินลี่ย์ตาเป็นประกาย “ขอบคุณท่าน”
“เจ้าจะให้ข้ายืนคุยกับเจ้าอยู่อย่างนี้หรือ?” การ์วีย์หัวเราะ
ลินลี่ย์มองดูรอบๆตอนนี้เขากับการ์วีย์กำลังยืนอยู่กลางอากาศเหนือหุบเขา นี่เป็นมารยาทรับแขกที่แย่เอาการ เขาหัวเราะทันที “การ์วีย์! ไปกันเถอะไปที่พักของข้ากัน เราจะได้สนทนากัน” ขณะที่กล่าวลินลี่ย์กับการ์วีย์สองผู้อาวุโสบินลงมาพร้อมกัน
ขณะนั้นเองมีบุรุษคนหนึ่งกำลังบินลงมาที่หุบเขาเป็นคนที่ลินลี่ย์เคยพบเจอวันแรกในภูเขาสกายไรท์ คนที่ต้องการหยามหยันสาขายูลานให้อับอาย...อัสซูร์
“สองสามวันที่ผ่านมานี้ช่างน่าเบื่อจริงๆ แปดตระกูลใหญ่พวกนั้นจับตาดูตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ของเราอย่างไม่วางตาและเมื่อเรานักรบลาดตระเวนออกจากภารกิจ ก็ยังไปไหนไม่ได้ เราต้องอยู่ในภูเขาอย่างเดียว”
“โชคดีที่ในอีกครึ่งเดือนจะถึงเวลารับมอบหมายงานในอีกพันปีต่อไป ถึงคราวข้าลาดตระเวนบ้าง การลาดตระเวนยังดีกว่าอยู่ในหุบเขานี้เฉยๆ” อัสซูร์อารมณ์ดีเป็นพิเศษ แต่ทันใดนั้นเขาหันหน้ามองดูในที่ไกลมีร่างสองร่างกระพริบวาบและหายไป
“เอ๊ะ? ผู้อาวุโส?” อัสซูร์ตกใจ “ผู้อาวุโสสองคน ทำไมพวกเขาออกนอกทางมาในที่หุบเขาของเรา?”
หุบเขานี้เป็นพื้นที่ห่างไกลในอาณาเขตของเผ่ามังกรฟ้า โดยปกติผู้อาวุโสจะมาที่นี่ได้ยังไง?
“หนึ่งในสองผู้อาวุโสดูจากข้างหลังแล้วคุ้นมาก..”อัสซูร์ขมวดคิ้ว เพราะครึ่งหุบเขาถูกปกคลุมไปด้วยหมอกและเนื่องจากผู้อาวุโสทั้งสองคนเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วมาก อัสซูร์จึงเห็นไม่ถนัด “ผู้อาวุโสคนนั้น....ดูเหมือนจะคล้ายลินลี่ย์อยู่บ้าง!”
แต่จากนั้นอัสซูร์หัวเราะทันที “นั่นเป็นไปได้ยังไง? ลินลี่ย์เป็นคนของสาขายูลาน ต่อให้มีพลังยอดเยี่ยม เขาจะเทียบกับผู้อาวุโสคนหนึ่งได้ยังไง ความสามารถเล็กน้อยที่เขามีก็แค่เอาไว้อวดชาวหุบเขาของเราในที่นี้เท่านั้น”
อัสซูร์หัวเราะหยามหยัน จากนั้นบินออกไปจากหุบเขา
ภายในห้องรับแขก ลินลี่ย์และการ์วีย์สนทนากัน
ขณะที่พวกเขาสนทนากันลินลี่ย์เริ่มเข้าใจภาพกิจการของเผ่ามากขึ้นหลายเรื่อง เขาอดลอบถอนใจมิได้ “อำนาจของสภาอาวุโสมากมายจริงๆ ในทั่วทั้งเผ่ามังกรฟ้ากิจการแทบทุกเรื่องจัดการโดยผู้อาวุโส แม้ว่าประมุขเผ่าจะทรงพลัง แต่โดยปกติเขาแทบไม่ได้มีส่วนร่วมในเรื่องใดเลย”
“การ์วีย์ ข้าได้ยินท่านบอกเรื่องราวหลายอย่าง ในตระกูลเราผู้อาวุโสรับผิดชอบค่อนข้างหลายอย่างจริงๆ” ลินลี่ย์หัวเราะ “ข้าสงสัยว่าข้าจะได้รับมอบหมายให้ทำอะไร?”
“ไม่ต้องรีบร้อน ตอนนี้งานทั้งหมดภายในเผ่ามีผู้บังคับบัญชาจัดการอยู่แล้วยังไม่ต้องเปิดเผยในตอนนี้ ดังนั้นในตอนนี้เจ้ายังไม่มีอะไรต้องทำ” การ์วีย์หัวเราะ “ตอนนี้เจ้ามีสิทธิพิเศษและมีอำนาจของผู้อาวุโสโดยยังไม่ต้องรับผิดชอบงานอะไร”
“ที่พักอาศัยของเจ้าและเรื่องอย่างอื่นจัดเตรียมไว้แล้ว” การ์วีย์กล่าว “นอกจากนี้ เจ้ายังเสนอย้ายสาขายูลานของเจ้าไปอยู่ในที่ดีกว่านี้ก็ยังได้”
“ไม่จำเป็น ข้ายินดีจะอยู่ที่นี่” ลินลี่ย์ขมวดคิ้ว “การ์วีย์!จากสิ่งที่ท่านพูด ดูเหมือนว่าตอนนี้ข้ายังไม่มีอะไรต้องทำใช่ไหม?” เผ่าในตอนนี้อยู่ในช่วงวิกฤติแล้วเขาจะสบายใจอยู่ได้ยังไง?
“แน่นอนว่าเจ้ามีเรื่องต้องทำหลายอย่าง เพียงแต่ยังไม่ใช่เวลานี้ รอให้ถึงเวลาประชุมผู้อาวุโสก่อน!” การ์วีย์กล่าว“การประชุมผู้อาวุโสจะมีพันปีต่อครั้งและในระหว่างประชุมแต่ละครั้งจะมีการมอบหมายงานต่างๆ ให้กับผู้อาวุโสแต่ละคน ในฐานะที่เป็นผู้อาวุโสถึงตอนนี้เจ้าจะได้รับมอบหมายงานเช่นกัน”
ตอนนี้ลินลี่ย์เข้าใจแล้ว
“ดังนั้นในตอนนี้เจ้าเพลิดเพลินกับชีวิตสบายๆ ไปพลางๆก่อน หลังจากมีการประชุมเจ้าไม่สามารถหลบเลี่ยงได้ต่อให้เจ้าต้องการทำก็ตาม” การ์วีย์หัวเราะ “ชีวิตสบายๆอย่างที่เจ้ากำลังมีอยู่เช่นนี้เป็นสิ่งที่ผู้อาวุโสอื่นได้แต่ฝัน แต่ทำไม่ได้”
ลินลี่ย์หัวเราะเช่นกัน “โอว..จริงสิ อีกนานเท่าใดถึงจะมีการประชุมผู้อาวุโส?” เนื่องจากพวกเขามีประชุมกันทุกพันปีบางเขาอาจมีเวลาเหลือสบายๆสักร้อยปี
“สิบห้าวัน!” การ์วีย์กล่าว
“สิบห้าวัน?” ลินลี่ย์ประหลาดใจ
ช่วงพันปีระหว่างวาระประชุมสภาผู้อาวุโส...แต่จะมีขึ้นในอีกสิบห้าวันจากนี้ไปหรือ?
“ใช่แล้ว นั่นคือเหตุผลที่ข้าบอกเจ้าให้ระลึกนึกถึงวันสบายๆเหล่านี้ไว้” การ์วีย์หัวเราะขณะยืนขึ้น“ข้าคงต้องไปเสียที เมื่อวาระประชุมสภาอาวุโสเริ่มขึ้นจะมีคนมาเชิญเจ้าเอง”
ลินลี่ย์ยืนขึ้นเช่นกัน และส่งการ์วีย์จากไป
ภายในหุบเขา
“ลินลี่ย์แห่งตระกูลสาขายูลานเขาเป็นผู้อาวุโสแล้วหรือ? เป็นไปไม่ได้!”
“เป็นความจริงสมาชิกสาขายูลานพูดกันอย่างมีความสุข จากเท่าที่เห็นไม่น่าจะผิดพลาดได้ แต่ให้ตายเถอะเห็นสีหน้าดีใจของพวกสาขายูลานตอนนี้แล้วข้ารู้สึกหมั่นไส้”
“พวกเขาแค่ปล่อยข่าว ข้าพนันได้”
ในหุบเขาเต็มไปด้วยการสนทนาเรื่องนี้กันอย่างรวดเร็ว สาขายูลานมีสมาชิกหลายร้อยคนคนในตระกูลเหล่านี้หลังจากรู้ว่าลินลี่ย์กลายเป็นผู้อาวุโสก็เที่ยวโอ้อวดต่อหน้าสาขาอื่นในหุบเขาทันที
ทุกคนล้วนให้ความสำคัญกับหน้าตาชื่อเสียง
พวกเทพก็เหมือนกันลินลี่ย์สามารถกลายเป็นผู้อาวุโสของเผ่าได้ คนเก่าแก่ของสาขาตระกูลยูลานก็ย่อมต้องการโอ้อวดบ้างเป็นธรรมดา
อัสซูร์กำลังเดินกลับไปยังที่พักของตนเอง เขาเตรียมตัวสำหรับการผลัดเปลี่ยนเวรของเขา
“ท่านอัสซูร์ ข้าได้ยินว่าลินลี่ย์กลายเป็นผู้อาวุโสแล้ว จริงหรือเปล่า?” หลายคนมาถามอัสซูร์ อัสซูร์เป็นเทพชั้นสูง ถือว่าเป็นคนน่าเกรงขามในหุบเขา
“อย่าไปเชื่อพวกโง่ๆ จากสาขายูลานเลย ลินลี่ย์น่ะหรือจะกลายเป็นผู้อาวุโส?เป็นไปได้ยังไง?” อัสซูร์แค่นเสียง “และเมื่อวานนี้ข้าก็เห็นลินลี่ย์ เขาสวมชุดธรรมดา” สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือในหุบเขาลินลี่ย์ไม่ต้องการสวมเครื่องแบบผู้อาวุโสตลอดทั้งวัน
ทันใดนั้นเขาจ้องมอง เขาจำได้เมื่อช่วงเวลาที่ผ่านมาเขาเห็นร่างผู้อาวุโสสองคนแต่ไกล และเริ่มมีความสงสัยเพิ่มขึ้นในใจ
“ข้าบอกเจ้าว่าเป็นไปไม่ได้” หลายคนเริ่มพูดทันที “สาขายูลานมีผู้อาวุโสในกลุ่มพวกเขาด้วยหรือ?”
“อีกไม่นานข้าจะต้องไปรับผลัดหน้าที่แล้ว ข้าจะถามนักรบอื่นของเผ่าดูเดี๋ยวก็รู้เรื่องนั้นเอง” อัสซูร์กล่าว หุบเขาอยู่ห่างไกลและยอดฝีมือมีจำนวนน้อยมาก ดังนั้นจึงต้องใช้เวลานานกว่าพวกเขาจะรู้ข่าวเกี่ยวกับเผ่าตระกูล
คนเหล่านั้นทุกคนส่งอัสซูร์จากไปด้วยความนับถือทันที
แต่ขณะนั้นเอง...
“ผู้อาวุโสลินลี่ย์!”เสียงดังก้องกังวานไปทั่วหุบเขา ทันใดนั้นทุกคนภายในหุบเขาที่กำลังฝึกบ้างพูดคุยกันบ้าง หรือคนที่บินอยู่ในอากาศพากันตะลึง
อัสซูร์ก็ตะลึงเช่นกัน
ทันใดนั้นคนจำนวนมากบินตรงไปที่แหล่งของเสียงนั้นพวกเขามองหาอย่างระมัดระวัง
เงาร่างชุดดำกำลังบินกำลังบินถอยไปด้วยความเคารพ ขณะที่ลินลี่ย์เองบินออกไปด้วยเช่นกัน
“ประชุมสภาอาวุโสกำลังจะเริ่มหรือ?” ลินลี่ย์กล่าว
“ถูกแล้ว, ท่านผู้อาวุโส” บุรุษชุดดำทั้งสามคำนับ
“งั้นก็ไปกันเถอะ” ลินลี่ย์บินขึ้นไปในอากาศทันทีและคนทั้งสามบินตามหลังด้วยความเคารพ
หลายคนในหุบเขาพากันจ้องมองภาพนี้ปากอ้าตาค้าง หลังจากเห็นลินลี่ย์อยู่ในเครื่องแบบผู้อาวุโสและผ้าคลุมไหล่โบกสะบัดเป็นประกายหลายๆ คนตกตะลึงอย่างแท้จริง