ตอนที่ 14 ความโกรธของเรน
ตอนที่ 14 ความโกรธของเรน
เท้าของเรนค่อย ๆ ก้าวถอยหลังอย่างระมัดระวัง เขาทำให้ตัวเองใจเย็นลง เพราะตื่นกลัวไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร
“คุณเป็นอะไรหรือเปล่า” เสียงของแดนดังขึ้นอีกครั้ง ฟังจากน้ำเสียงของเขาดูจะหงุดหงิดเล็กน้อย
“ไม่เป็นอะไร ผมจะออกไปแล้ว” เรนเดินไปที่ประตู
พริบตาที่ประตูเปิดออกมานั้นเองก็มีเสียงปืนดังขึ้นสนั่นหวั่นไหวไปทั้งห้องน้ำ
ปัง!
แดนที่ยืนอยู่หน้าห้องน้ำ ได้ใช้ปืนลูกซองเล็งจออยู่แล้ว เขายิงทันทีที่เห็นว่าประตูเปิดออกมา แต่หลังจากเสียงปืน แดนกลับพบว่าเรนหายไป
“หายไป!” แดนวิ่งเข้ามาห้องน้ำก็ไม่พบใคร
แดนเหมือนจะฉุกคิดขึ้นมาได้ เขาหันปืนกลับไปที่บริเวณอ่างอาบน้ำมันมีม่านห้องน้ำที่กั้นระหว่างโถส้วมกับอ่างอาบน้ำ
ปัง!
แดนยิงใส่อย่างไม่คิดมาก ทำให้ม่านห้องน้ำขาดกระจุย แต่เขาก็ไม่พบเรน
ตอนนั้นเองมีเสียงประตูขยับดังมาจากด้านหลัง แดนหันกลับไปแววตาเขาก็เบิกกว้างด้วยความตกใจ เพราะแดนเห็นว่า เรนยืนถือปืนเล็งเขา
“แก!” แดนยกปืนลูกซองจะยิงเรน แต่ไม่ทัน
เรนลั่นไกด้วยสีหน้าเยือกเย็นกระหน่ำยิงใส่แดนติดต่อกัน
ปัง! ปัง! ปัง!
เสียงปืนดังขึ้นสามนัด กระสุนยิงเข้าที่หน้าอกของแดน แดนถอยหลังไปตามแรงปะทะจนหงายหลังไปใส่อ่างอาบน้ำที่มีเศษผ้าม่านและรอยกระสุนปืนลูกซอง
จังหวะที่ล้มทำให้เขาเผลอทำปืนลูกซองลั่น โชคดีที่ทิศทางของกระบอกปืนยิงไปบนเพดาน ก่อนที่ปืนจะตกลงที่พื้น
เรนมองดูแดนที่นอนหายใจอย่างยากลำบากอยู่ที่อ่างอาบน้ำ
“แก!...หลบ!...หลังประตู!” แดนพยายามพูดออกมาอย่างยากลำบาก
“ต้องการฆ่าฉันทำไม?” เรนถาม
แต่แดนไม่ตอบและยังพยายามจะจับปืนลูกซองที่หล่นอยู่ข้าง ๆ
เรนหยิบปืนลูกซองขึ้นมา มันเป็นปืนลูกซองแบบปั๊ม ปืนลูกซองเรมิงตัน 870 12 เกจ บรรจุ 5 นัด
แดนมองไปที่เรนและเอื้อมมือไปจับขาของเรน เรนขยับขาถอยออก
“เสียงปืนดังขนาดนี้ทำไมถึงไม่มีใครมาดู” เรนรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี เขารีบวิ่งออกไปจากห้องน้ำ ตรงไปที่ห้องนั่งเล่นและสุดท้ายคือที่ห้องครัว
แต่ด้านหน้าห้องครัวมีคนเดินออกมา
“แกทำอะไรแดน” บีมกล่าวด้วยสีหน้าโหดเหี้ยม
สภาพของเธอนั้นเปื้อนเลือดไปทั้งตัว เธอวิ่งเข้าหาเรนพร้อมกับมีดในมือและคิดจะแทงเขา
ปัง!
เรนใช้ปืนพกในมือยิงใส่ที่ท้องของหญิงสาวไปหนึ่งนัด
“อ้า!” บีมร้องออกมาและเสียหลักไปชนเข้ากับตู้วางของข้าง ๆ เธอจับไปที่ท้อง มันมีเลือดไหลออกมา คราวนี้เป็นเลือดของเธอเอง
บีมกัดฟัน เธอมีสีหน้าบ้าคลั่งคล้ายคนเสียสติวิ่งเข้าหาเรนโดยไม่สนใจแผลที่หน้าอก
ปัง!
เรนยิงซ้ำไปอีกครั้งทำให้หญิงสาวล้มฟุบไปกับพื้นตายไปในทันที
หลังจากจัดการหญิงสาวแล้ว เขาก็รีบเข้าไปในห้องครัวก็พบว่าตอนนี้ทุกคนนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารในสภาพสติเหม่อลอย ร่างกายอ่อนแรงไร้ซึ่งพละกำลัง สภาพเหมือนคนโดนยากล่อมประสาท
แต่ว่าพอดูดี ๆ เรนกลับพบว่ามีคนหายไปสองคน เรนได้กลิ่นเลือดรุนแรงมาก เขารีบเข้าไปดูท้ายสุดของโต๊ะอาหารก็เห็นว่ารินดาหญิงสาวที่เขาช่วยมาจากรถแท็กซี่พร้อมกับลูกสาวของเธอ
เธอได้นอนหมดแรงอยู่ที่พื้นขณะที่มือเหมือนจะคลานเข้าไปก่อนจะหมดสติ เรนมองต่อไปเขาพบกับภาพที่ชวนสยองมาก
นานาเด็กสาววัย 5 ขวบนอนจมกลองเลือด ที่คอมีบาดแผลขนาดใหญ่ ซึ่งข้าง ๆ มีถาดรองเลือดของเด็กสาวอยู่ เห็นได้ชัดว่าก่อนหน้าที่บีมหญิงสาวคนนั้นจะถือมีดวิ่งออกไปเธอได้ทำเรื่องที่โหดร้ายลง คือการสังหารเด็กสาว 5 ขวบ
“บัดซบ” เรนกัดฟันด้วยความโกรธ เขาไม่คิดว่าจะมีคนบ้า ๆ ที่ทำเรื่องแบบนี้กับเด็กอย่างนานาได้
เรนมีคำถามในหัวหญิงชั่วนั้นทำไปทำไม
ตุบ! ๆ ๆ ๆ
ตอนนั้นเองเรนก็ได้ยินเสียงดังขึ้นมาจากบันได มีบางสิ่งตกลงมาจากชั้นสอง
เรนที่ในตอนนี้สภาพปกติอยู่คนเดียว เขารีบวิ่งไปดูทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น เรนไปถึงก็พบว่ามีคราบเลือด มันเป็นรอยเล็ก ๆ ตรงไปที่ห้องน้ำที่เขาพึ่งออกมา
ไม่ใช่ว่าแดนจะออกจากห้องน้ำ แต่มีบางสิ่งพึ่งเข้าไปที่ห้องน้ำ เรนไม่รอช้ารีบตามไปดูปรากฏว่ามีผู้ติดเชื้อเด็กกำลังกัดไปที่แผลที่หน้าอกของแดนที่ตอนนี้ยังไม่ตาย
“ผู้ติดเชื้อเด็ก!” เรนประหลาดใจกับสิ่งที่เห็น ก่อนที่สมองของเขาจะประติดปะต่อเรื่องราวได้ก็ยิ่งทำให้เรนโกรธมากขึ้นไปอีก
“แกต้องการฆ่าพวกฉันเพื่อเลี้ยงผู้ติดเชื้อเด็กคนนี้” เรนกัดฟันเบิกตากว้างด้วยความโมโหเดินเข้าไปและเล็งปืนไปที่ผู้ติดเชื้อเด็กที่กำลังดูเลือดจากตัวของแดน เพราะมันไม่มีแรงมากพอจะกัดกินเนื้อ
แดนที่ใกล้ตามองเรนด้วยสายตาขอร้อง แต่เรนไม่สนใจ
ปัง!
หัวของผู้ติดเชื้อเด็กทารกอายุ 1 ขวบ 6 เดือนระเบิดกระจุยเป็นรู
แดนน้ำตาไหลและเขากำลังจะตาย แต่เรนไม่ให้ชายสารเลวคนนี้ตายไปทั้งแบบนี้แน่ เขาจะเป็นคนฆ่ามันเอง เพื่อนานาเด็กสาวที่ตายไป
ปัง!
เรนยิงไปที่หัวของแดนเป็นรู ก่อนจะเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพหดหู่ เขาไม่ได้รู้สึกดีที่ต้องมาทำเรื่องแบบนี้ แต่เรนจะมาแสดงความอ่อนแอไม่ได้
หลังจากจัดการในห้องน้ำเสร็จเรนก็เดินขึ้นไปยังชั้นสองของบ้าน เขาสำรวจห้องด้านบนทีละห้องเพื่อดูให้แน่ใจว่าไม่มีอะไรผิดปกติอีก
ชายหนุ่มไม่พบกับผู้ติดเชื้อตัวอื่น ๆ อีก
“ต้องช่วยคนที่เหลือก่อน” เรนไปที่ห้องครัวแบกพวกเขาออกมาจากห้องครัวมาที่ห้องนั่งเล่น เรนให้พวกเขาดื่มน้ำไปเยอะมาก จากนั้นเรนก็ลากเอาศพของบีมไปที่ห้องน้ำจัดการยิงที่ศีรษะของเธออีกหนึ่งนัด เพราะไม่รู้ว่าเธอจะติดเชื้อด้วยหรือเปล่า
เรนปิดประตูห้องน้ำและหาอะไรขวางไว้ ส่วนของในห้องครัวเรนไม่กล้าหยิบเอาอะไรมากิน เขาเลือกเอาขวดน้ำที่ยิงปิดฝาสนิทและไม่เคยเปิดมาก่อนออกมาจากในห้องครัวเท่านั้น
“เรน” ธันวาสะลึมสะลือมองไปที่เรน
“นายไหวไหม” เรนถามธันวา
“ฉันรู้สึกหมดแรง” ธันวาพูดด้วยน้ำเสียงที่เขามาก ๆ
“ดื่มน้ำนี่เยอะ ๆ” เรนก็เริ่มกรอกน้ำใส่ปากธันวาอย่างระวังเพื่อให้ธันวาดื่มน้ำไปให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ นี่เป็นวิธีเดียวที่เรนสามารถทำได้ในตอนนี้
นอกจากธันวาแล้วคนที่พอได้สติอีกคนก็คือ อาจารย์หลิน
เรนป้อนน้ำให้เธอด้วยเช่นกัน
ต่อมาคือไอราเธอก็เริ่มมีสติ เรนทำวิธีเดียวกันและหวังว่าพวกเขาสามคนจะฟื้นตัวเร็วที่สุด
สุดท้ายคือ รินดา เรนมองเธอย่างสงสารเธอยังไม่ได้สติ แต่สีหน้าก็ยังเต็มไปด้วยความเจ็บปวด เธอเหมือนจะร้องไห้ออกมา
เรนเอาผ้าชุบน้ำและเช็ดใบหน้าของเธอ ตอนนี้เขาทำเท่าที่จะทำได้แล้ว
เคล้ง!
ขณะที่เรนกำลังวุ่นวายอยู่นั้นก็มีเสียงดังมาจากด้านนอกบริเวณหน้าบ้าน เรนรีบวิ่งไปดูก็พบว่ามีผู้ติดเชื้อมากกว่า 20 คนกำลังพยายามจะพังรั้วเข้ามาที่บ้าน
“เสียงปืนและกลิ่นเลือด” กลิ่นเลือดในบ้านได้ล่อพวกมันเข้ามา
สถานการณ์ในตอนนี้จะหนีไปก็คงทำไม่ได้ ทางเลือกเดียวคือจัดการลดจำนวนพวกมันให้ได้มากที่สุดก่อนที่พวกมันจะเพิ่มมากขึ้นจนพังประตูรั้วเข้ามาได้
แต่จะใช้ปืนยิงก็ไม่ได้ เพราะแบบนั้นเสียงจะยิ่งล่อพวกมันมามากขึ้นเรื่อย ๆ
ชายหนุ่มเดินเข้าไปหยิบคันธนูของตนเองมาและทดลองใช้รูนิกลูกศรดู
เขาใช้รูนิกลูกศรยิงใส่พวกผู้ติดเชื้อด้วยระยะแค่ 10 เมตรยังไงก็ไม่มีพลาดแถมพวกมันก็ไม่ได้หลบด้วย รูนิกลูกศรไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไปเลย สภาพของมันก็เหมือนลูกศรทั่วไป จะต่างก็ตรงที่เรนสามารถเรียกมันกลับมาได้
จะพูดให้ถูกคือมันเป็นหนึ่งในฟังก์ชันของรูนิกทั่ว ๆ ไป
รูนิกจะกลับมาหาเจ้าของเสมอในระยะห่างที่ไม่เกิน 100 เมตรถ้าเจ้าของเรียกกลับมา และการเรียกใช้งานจะมีเวลาคูลด์ดาวที่ 3 วินาที
นั้นหมายความว่าเขายิงออกไปและเรียกกลับมารอ 3 วินาทีก็สามารถยิงได้ไหม ซึ่งมันเหมาะกับการยิงธนูของเขามาก
เรนเริ่มสังหารอย่างต่อเนื่องผ่านไปครึ่งชั่วโมงในที่สุดเรนก็ฆ่าผู้ติดเชื้อทั้ง 20 ตัวและอีก 3 ตัวที่มาใหม่จนหมด เขาเดินไปเก็บของที่ลอยอยู่หน้าประตูมา มันเป็นเหรียญทองระบบ 30 เหรียญและ 2 หินรูนิกเปล่า 3 หินพลังงาน
จากนั้นเรนก็เข้าไปด้านในบ้านเพื่อดูว่าทุกคนอาการเป็นอย่างไรบ้าง
ทุกคนยังไม่ฟื้นตัวมากนัก เรนต้องรอ โดยระหว่างนี้เขาก็จัดการรื้อของในบ้านอย่างไม่เกรงใจ เพราะจากที่เจ้าของบ้านทำมันทำให้เขาแค้นมาก
เรนเอาทุกอย่างจนกระทั่งเจอกับกระสุนปืนลูกซองอยู่ 1 กล่อง พอนับแล้วก็เหลือประมาณ 53 นัดได้
ผ่านไป 3 ชั่วโมง
ธันวานั้นนั่งตัวชุ่มไปด้วยเหงื่อ เขาเดินไปฉี่มาสองรอบแล้ว แน่นอนว่าเป็นถังน้ำที่เรนนั้นวางไว้ให้ เพราะในตอนนี้ห้องน้ำมีแต่ศพ
ส่วนไอราและอาจารย์หลินทั้งสองก็ไปปลดปล่อยยังห้องเก็บของที่อยู่ข้างห้องน้ำ
สีหน้าของทั้งสามแม้จะยังซีดอยู่ แต่ก็ดูมีเรื่องในการเดินแล้ว โดยเฉพาะอาจารย์หลินเธอฟื้นตัวได้เร็วกว่าทั้งสองคนมาก
“เกิดอะไรขึ้นเรน ทำไมพวกเราถึงเป็นแบบนี้” ธันวาถาม
“นายจำอะไรได้บ้าง” เรนถามกลับไป
“พวกเรากินอาหารบนโต๊ะแล้วก็สลบไป จากนั้นมันก็เบลอมากจนแทบจะจำอะไรไม่ได้อีกเลย” ธันวาพยายามนึกและเล่าออกมา
เรนเริ่มเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ทั้งสามคนฟัง พอพวกเขาได้ยินก็พากันมีสีหน้าไม่อยากจะเชื่อและต่างก็โกรธแค้นแดนและบีมเป็นอย่างมาก
“ถ้าไม่เป็นเพราะฉันพาทุกคนมาที่นี่” อาจารย์หลินเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด เธอโทษตัวเองอีกครั้ง เพราะถ้าเธอไม่พาทุกคนมาที่นี่ เด็กสาวนานก็คงไม่ตาย
“อย่าโทษตัวเองแบบนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะคุณมาที่นี่พวกเราคงตายอยู่ด้านนอกแล้ว คนที่ควรจะโทษคือไอ้ชั่วนั้น” เรนพูดกับเธอเพื่อให้หญิงสาวได้สติ
หลินกัดปากแน่น แม้จะไม่พูดออกมาอีก แต่แววตาของเธอก็ฟ้องว่าเธอยังไม่ให้อภัยตัวเอง
“ถ้าคุณอย่างชดเชยก็ช่วยไปดูแลเธอหน่อย” เรนชี้ไปที่รินดาที่นอนหน้าซีดขาวอยู่บนโซฟา ไม่รู้ว่าเป็นเพราะฤทธิ์ยาหรือการกระทบกระเทือนจิตใจ ทำให้เธอยังไม่ฟื้นขึ้นมา
หลินพยักหน้าตกลงและเดินด้วยท่าทางน่าสงสารไปนั่งข้าง ๆ และคอยเช็ดตัวให้รินดา
“เรนผ่านไปกี่ชั่วโมงแล้ว” ธันวาถาม
“ตอนนี้สามทุ่มครึ่งแล้ว” เรนตอบกลับไป
“เราคงไปไม่ทันขบวนอพยพ ถ้านายไปคนเดียว...” ธันวากำลังจะพูดต่อ แต่โดนเรนพูดขัดขึ้นมาซะก่อน
“ไปคนเดียว ฉันคงตายเพราะขับเรือไม่เป็น” เรนตอบไป ก่อนจะส่งน้ำให้ธันวา เพื่อให้เขาดื่มเพิ่ม
ธันวาดื่มน้ำเพิ่มไปอีกขวด แม้จะรู้สึกแน่น แต่ยังไงเขาก็ต้องดื่มเพื่อเอายาออกมาให้เร็วที่สุด ธันวายังส่งให้ไอราที่รู้สึกมึนหัวดื่มอีกด้วย
เรนหันไปมองอาจารย์หลิน เธอฟื้นตัวเร็วกว่าธันวาและไอรามาก ทั้งที่โดนยาเหมือนกัน แต่สิ่งที่ไม่เหมือนคืออาจารย์หลินปลุกวงแหวนรากฐานเป็นผู้ใช้วงแหวนแล้ว
แสดงว่าการฟื้นตัวของผู้ใช้วงแหวนเร็วกว่าคนทั่วไป
“ไม่นะ ฮือ...อย่าทำลูกฉัน”
ตอนนั้นรินดาที่หมดสติไปนานก็ฟื้นขึ้นมา เธอร้องไห้ออกมาไม่หยุดและพยายามจะคว้าจับไปทั่วด้วยสภาพที่อ่อนแรง