ตอนที่แล้วตอนที่ 12 บ้านแฟนเก่า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 14 ความโกรธของเรน

ตอนที่ 13 รูนิกลูกศรและลางสังหรณ์ถึงตายครั้งแรก


ตอนที่ 13 รูนิกลูกศรและลางสังหรณ์ถึงตายครั้งแรก

หลินมีสีหน้าอึดอัดกับสถานการณ์ในตอนนี้ บีมคือเพื่อนสนิทของเธอ แต่ตอนนี้เพื่อนสนิทของเธอและแฟนเก่าได้แต่งงานกันแล้ว เธอไม่อยากจะคิดถึงมัน

บีมกอดหลินไม่นานก็ปล่อย แต่บีมไม่ได้สังเกตสีหน้าที่อึดอัดของหลินเลย

“แดนฉันฝากคุณดูเจ้าตัวน้อยหน่อยได้ไหม เดี๋ยวฉันไปอุ่นอาหารให้พวกเขากินกันก่อน ตอนนี้ก็เย็นมากแล้ว” บีมพูดกับสามีของเธอ

“อืม ฝากคุณดูแลพวกเขาด้วย ดูพวกเขาเหนื่อยกันมากเลย” แดนเดินไปยังห้องด้านบนชั้นสอง

“หลินในตู้มีกุ้งอยู่พอดี เดี๋ยวฉันทำต้มยำของโปรดเธอให้นะ” บีมพูดจบก็เดินไปทักทายทุกคนและหยิบน้ำในห้องครัวถัดไปให้ราวกับว่าพวกเขาทุกคนคือแขกที่มาเยี่ยมบ้าน

ขณะที่หยิบของบีมก็หันไปเห็นนานาสาวน้อยวัย 5 ขวบที่นั่งอยู่บนตักแม่ของเธอ

“หนูน่ารักจังเลย ลูกชายของน้าต้องชอบหนูแน่เลย” บีมมองเธอด้วยความเอ็นดู

“พวกคุณมีลูกด้วยเหรอคะ” ไอราถามด้วยความสนใจ

“ใช่แล้ว เจ้าตัวเล็กเขาอายุได้ 1 ขวบครึ่งแล้ว ช่วงนี้เขากินเก่งมาก” บีมหันมาตอบไอรา

“พวกคุณไม่หนีกันเหรอ ตอนนี้ในเมืองวุ่นวายกันมาก พวกผู้ติดเชื้อก็มาถึงแถวนี้แล้ว” ธันวาถามอย่างสงสัย เพราะเจ้าของบ้านนี้ดูเหมือนจะไม่ทุกร้อนอะไรเลย

“แดนเขาเป็นคนตัดสินใจ ฉันก็ทำอะไรมากไม่ได้ แต่ตอนนี้พวกคุณมาแล้วเขาคงจะตัดสินใจหนีอีกที” บีมตอบ ก่อนจะเดินเข้าไปในครัว

ขณะที่ทุกคนพักกันอยู่ที่ห้องนั่งเล่น เรนก็หันไปเห็นว่าอาจารย์หลินนั้นยังยืนอยู่ที่เดิม สีหน้าของเธอนั้นดูเศร้าสร้อยเป็นอย่างมาก

เรนถอนหายใจออกมา ก่อนจะเดินไปหาหญิงสาว

“อาจารย์เป็นอะไรไหมครับ” เรนถามเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“อาจารย์ไม่เป็นอะไรหรอก” หลินหันมายิ้มให้กับเรน

เรนรู้สึกได้เลยว่ารอยยิ้มของเธอนั้นเศร้าเป็นอย่างมาก

“ไปหาทุกคนกันเถอะ” เรนชวนเธอ ก่อนจะหันหลังให้หญิงสาว

แต่แล้วในตอนนั้นเองชายหนุ่มก็รู้สึกได้ว่าหญิงสาวเข้ามาซบเข้าที่แผ่นหลังของเขาและเขาก็ได้ยินเสียงร้องหายที่เบามาก ๆ มาจากเธอ

“ช่วยยืนอยู่ตรงนี้สักครู่ได้ไหม” หลินพูดด้วยน้ำเสียงสะอื้น

เรนพยักหน้าเบา ๆ เขายืนนิ่งอยู่ตรงนั้น เรนเข้าใจว่าเธอไม่อยากให้ทุกคนเห็นเธอร้องไห้

“ฉันน่ะเสียใจนะ เขาแอบไปมีอะไรกับเพื่อนสนิทฉันจนเธอท้อง นายคิดว่าการที่ฉันเดินออกมามันดีแล้วใช่ไหม ถ้าตอนนั้นฉันไม่ยอมถอยออกมาและทำให้พวกเราสามคนเจ็บปวดไปพร้อม ๆ กันบางทีฉันคงไม่ต้องมาร้องไห้แบบนี้คนเดียว ฉันรู้สึกเจ็บมากในตอนนั้น ฉันคิดว่าผ่านมาเกือบสองปีกว่าแล้วจะลืมมันได้ แต่ไม่เลย ฮือ...” หลินพึมพำและร้องไห้กับแผ่นหลังของเรน

ทั้งสองยืนอยู่แบบนั้นเกือบ 5 นาที ก่อนที่ต่อมาเสียงสะอื้นจะหายไป เธอถอยออกมาจากเรนและเริ่มเช็ดน้ำตาของตนเองแล้ว

“ขอบใจมากนะ ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว” หลินพูดกับเรนด้วยน้ำเสียงที่กลับมาเป็นปกติ ราวกับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงภาพในผืนน้ำ

เรนที่เงียบมาตลอดก็พูดขึ้นมาว่า “คุณนะเข้มแข็งมากเลยนะรู้ไหม”

หลินได้ยิน เธอก็หน้ามองชายหนุ่มด้วยสีหน้าอึ้ง ก่อนจะเผยรอยยิ้มและกล่าว “ขอบใจนะ”

“เรน อาจารย์หลิน กินอาหารกันเถอะ” ธันวาเดินมาเรียกทั้งสอง

“อืม ฉันกำลังไป” เรนหันกลับไปเขาก็เห็นว่าทุกคนเดินเข้าไปที่ห้องครัวกันแล้ว ตอนนี้พวกเขาไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่กลางวันกันเลย ทำให้รู้สึกหิวมาก

ตอนนั้นเองเรนก็หันไปเห็นแดนที่ยืนอยู่บนบันไดพอดี แววตาของแดนนั้นเย็นชามาก แต่มันก็กลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว

“หลินเขาเป็นแฟนใหม่เธอเหรอ” แดนถามหลิน

“ฉันหิวแล้ว” หลินไม่ตอบ แต่เธอเดินไปพร้อมกับทุกคนในทันที

แดนที่โดนเมินถึงกับคิ้วกระตุก ก่อนจะเดินไปในห้องครัวเหมือนกัน

เรนเดินตามทั้งสองไป ก่อนจะมองไปรอบ ๆ ห้องนั่งเล่น ตอนนั้นเองเขาก็เหลือบไปเห็นรูปถ่ายของแดนที่ตกปลาอยู่บนเรือ

“คุณมีเรือด้วยเหรอ” เรนถาม

“ใช่ ผมมีอยู่ มันจอดอยู่ที่ท่าเรือใกล้ ๆ นี้” แดนหันมาตอบกลับเรนอย่างสงสัย

เรนได้ยินก็เหมือนจะนึกอะไรออก เขายิ้มออกมาในทันที

“พวกเรามีทางหนีแล้ว” เรนพูดออกมา เขาถือรูปของแดนเดินเข้าไปในห้องครัว ตอนนี้ทุกคนอยู่ที่โต๊ะอาหาร พวกเขานั่งลงและด้านหน้าก็มีอาหารไม่กี่อย่างที่บีมนั้นตักให้ทุกคน

“ทางหนี?”

ทุกคนหันมาสนใจกันในทันที ทำให้ไม่มีใครตักอาหารอะไร

“แม่หนูหิว” นานาเห็นอาหารตรงหน้า เธอก็อยากจะกินมัน

รินดาจึงตักข้าวกับไก่และให้เธอกิน

“เรือนั้นมัน คุณยังเก็บเรือไว้อยู่เหรอ” หลินถามแดนในทันที

“เก็บไว้อยู่ มันจอดอยู่ที่ท่าเรือตรงเดิม” แดนตอบกลับหลิน

บีมขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะบอกกับทุกคนว่า “กินข้าวไปคุยไปเถอะ พวกเราอาจจะหนีไปพร้อม ๆ กัน แต่ต้องมีแรงกันก่อน”

ทุกคนเห็นด้วย เรนก็เช่นกัน เขานั่งลงข้าง ๆ ธันวา แต่ก็ยังไม่ได้กินอะไร เพราะเขาอยากจะพูดเรื่องเรือก่อน

“แม่น้ำสามารถพาออกจากเมืองไปจนถึงถนน 404 ได้หรือเปล่า” เรนถามพวกเขา

“แม่น้ำในเมืองเชื่อมต่อไปยังแม่น้ำด้านนอก หลินก็เคยไปมาก่อน เธอน่าจะจำได้” แดนจงใจเอ่ยขึ้นมาและหันไปมองหลิน

หลินขมวดคิ้วและเงียบไม่พูดอะไร

แดนไม่ใส่ใจเขาหันมาพูดต่อว่า “แต่ว่ามันไปถึงแค่ท่าเรือใกล้ ๆ ท่าจำไม่ผิดน่าจะเป็นท่าเรือ...แป๊บนะ” พูดจบแดนก็วิ่งไปหยิบแผนที่มา มันเป็นแผนที่แม่น้ำและท่าเรือที่ออกแบบมาเพื่อนักตกปลาและคนเดินเรือ ซึ่งระบุจุดสำคัญต่าง ๆ ไว้

“นี่ท่าเรือนี้ ท่าเรือโคสีขาว มันเป็นฟาร์มและร้านคาเฟ่ที่มีท่าเรือ ถ้าลงที่นี่ก็ขับรถอีกแค่ 20 นาทีและเดินตัดป่าตรงนี้ไปประมาณ 200 เมตรก็ถึงถนน 404 แล้ว ว่าแต่ที่นั่นมีอะไร” แดนถามอย่างสงสัย

เรนหันไปมองทุกคน พวกเขาส่วนใหญ่เข้าใจและพยักหน้าเห็นด้วยที่เรนจะบอก

“ที่นั่นมีขบวนทหารที่จะพาคนที่รอดออกไปที่ค่ายลี้ภัยของรัฐบาลทิ้งถิ่นอยู่”

“ค่ายลี้ภัย!”

“แดน เราน่าจะไปที่ค่ายนั่นได้ มันน่าจะปลอดภัยนะ” บีมกล่าวกับสามีของเธอ

แดนได้ยินก็เงียบไป ก่อนจะพยักหน้าตกลง

เรนและทุกคนก็ยินดี แม้หลินจะอึดอัด แต่เธอก็รู้ดีว่าตอนนี้มันไม่ใช่เวลา ถ้าพวกเขาไปด้วยกันแล้วไปถึงที่ถนน 404 เธอก็ไม่คัดค้าน

“เรากินกันก่อนเถอะแล้วค่อยวางแผนว่าจะไปตอนไหนกัน” ธันวาพูดขึ้นมา เพราะเขาหิวสุด ๆ ทุกคนเริ่มกินอาหารของตนเอง

“ผมขอไปเข้าห้องน้ำหน่อยได้ไหม น้ำยังไหลไหม” เรนลุกขึ้น เขารู้สึกปวดปัสสาวะแบบสุด ๆ และอยากจะปลดปล่อยมันก่อนจะเติมของใหม่เข้าไป

“น้ำไหลอยู่ แต่เบาหน่อย ห้องน้ำอยู่ตรงข้างบันไดทางขึ้นชั้นสอง ให้ฉันพาไปไหม” บีมแนะนำและถามเรน ขณะที่เธอตักอาหารให้กับแดน

“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมเดินไปเอง” เรนกล่าวอย่างเกรงใจ การที่ทั้งสองให้พวกเขามาหลบและยังแบ่งอาหารให้ก็ถือว่าดีมากแล้ว

เรนลุกขึ้น ก่อนจะเดินออกจากห้องครัว เขาหยิบเอาลูกธนูของตนเองที่วางอยู่ในห้องนั่งเล่นไปด้วย เขาเดินเข้าไปที่ข้างบันได

ตอนนั้นเรนก็รู้สึกแปลก ๆ เขาเงยหน้าขึ้นไปด้านบนบันไดชั้นสอง เรนจ้องมันและยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น

“มีอะไรหรือเปล่า” แดนที่เดินตามหลังเรนมาถาม

เรนหันกลับไปด้วยความประหลาดใจ

“เปล่าหรอกครับ ผมไปเข้าห้องน้ำก่อน”

“เข้าห้องน้ำทำไมต้องเอาลูกธนูไปด้วย” แดนมองไปที่ธนูและถามด้วยความสงสัย

“ก็แค่เอาไปล้าง ลูกธนูมันเลอะ” เรนตอบกลับและเดินไปเข้าห้องน้ำ ส่วนแดนนั้นเดินขึ้นไปชั้นบนเพื่อไปดูลูกของเขา

เรนมองอยู่จนแดนขึ้นไปชั้นสอง เขาจึงปิดประตูห้องน้ำและก็ปลดปล่อยออกมา หลังจากนั้นพอใจแล้วเขาก็ลุกขึ้นไปล้างหน้า น้ำที่ล้างหน้าของเขาเป็นสีขุ่นออกน้ำตาล ซึ่งมาจากคราบสกปรกและเลือดที่กระเด็นมาเลอะ แม้กลิ่นของมันจะเหม็น แต่ถ้าต้องเจอเหตุการณ์แบบเรนมาเกือบทั้งวันไม่นานก็จะชินกลิ่นไปเอง

“ทำไมเมื่อกี้ฉันรู้สึกไม่ดีเลย” เรนนึกไปถึงด้านบนชั้นสองที่เขายืนจ้องเมื่อครู่

เรนรู้สึกตื่นตัวเล็กน้อยและกังวล ซึ่งเรนก็ไม่แน่ใจ ส่วนรูนิกลางสังหรณ์ก็ไม่ได้เตือนอะไร เพราะมันจะเตือนต่ออันตรายที่เกิดขึ้นใน 3 วินาทีข้างหน้าเท่านั้น

“ฉันคงคิดมากไป ต้องผ่อนคลายลงบ้าง” เรนล้างหน้าอีกครั้งเพื่อให้รู้สึกสดชื่น เขาก็หยิบลูกธนูออกมา

เรนคิดจะลองสร้างรูนิกดู ถ้ามันทำให้เขาได้อุปกรณ์ที่มีความสามารถดี ๆ ก็คงจะดีมากในตอนที่ต้องไปที่เรือ

การสร้างรูนิกจะต้องใช้หินรูนิกเปล่า 1 ชิ้น จากนั้นก็ตัวต้นแบบในการสร้างรูนิกและสุดท้ายคือเหรียญทองระบบ

หินรูนิกเปล่าเรนมีพวกมันอยู่ 5 ชิ้น ส่วนตัวตนแบบเขาเลือกลูกธนู ตอนแรกเรนคิดจะเลือกธนู แต่เปลี่ยนไป เพราะเขากลัวว่ามีอะไรที่ผิดพลาดเกิดขึ้นหรือสิ่งที่เขาไม่รู้แล้วทำให้ธนูพัง แบบนั้นเท่ากับเขาทำลายอาวุธตัวเอง

ส่วนเหรียญทองระบบมันขึ้นอยู่กับขนาดและชนิดของตัวต้นแบบที่ไม่ตายตัว เรนก็ไม่แน่ใจว่ามันคำนวณยังไง แต่เขามีเหรียญทองระบบอยู่ 60 เหรียญ ซึ่งน่าจะเพียงพอ

เรนวางหินรูนิกเปล่าไว้ด้านหน้า ตามด้วยลูกธนู ที่ตัวแหวนก็แจ้งเตือนราคากับเขา ซึ่งก็คือ 10 เหรียญทองระบบ เรนสามารถดึงมาใช้จากในฟังก์ชันเหรียญระบบได้เลย โดยไม่ต้องเอาออกมา

หินรูนิกเปล่า + ลูกธนูคาร์บอน + 10 เหรียญทองระบบ

แหวนดูดเอาหินรูนิกเปล่าและลูกธนูเข้าไปและเหรียญทองระบบของเขาก็โดนหักออกไป 10 เหรียญในทันที

เรนเฝ้ามองทุกอย่างด้วยความตื่นเต้น มันใช้เวลาประมาณ 1 นาที นี่สุดกระบวนการทุกอย่างก็เสร็จสิ้น

“สำเร็จ” แหวนพลังขึ้นข้อความแจ้งกับเขา ก่อนที่มันจะปล่อยรูนิกลูกศรออกมา

เรนรับรูนิกลูกศรไว้ในมือและตรวจสอบมัน

“ตรวจสอบ”

“รูนิกลูกศร (1) : ระดับ 1 ขั้น ไม่มี ใช้พลังงาน 1 หน่วยต่อ 1 ชั่วโมง”

‘ระดับเติบโตแค่ 1 หมายความว่ามันจะมีระดับสูงสุดแค่ระดับ 1 ขั้นสมบูรณ์เท่านั้นและตอนนี้ก็เป็นแค่รูนิกระดับหนึ่งที่ไม่มีขั้นด้วยซ้ำ’ เรนคิดในใจ

เรนยังสงสัยอยู่ว่าแหวนพลังเอาอะไรมาตัดสินว่าสิ่งนี้เติบโตได้แค่ไหน เรนลองถามดูในทันทีและคำตอบที่ได้ก็คือ

ระดับของรูนิกขึ้นอยู่กับตัวตนแบบในการสร้าง

“ถ้าฉันใช้เรือดำน้ำสร้างรูนิกมันจะมีระดับการเติบโตเท่าไหร่กัน แต่ว่าเหรียญทองที่ใช้คงมากมายแน่นอน” เรนพึมพำอย่างติดตลก

ก๊อก ๆ ในตอนนั้นเองก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นมา พร้อมกับเสียงเรียกของแดน

“นายเข้าห้องน้ำเสร็จหรือยัง พอดีฉันจะเข้าต่อ”

“สักครู่ครับ” เรนพึ่งนึกขึ้นได้ว่าเขาอาจจะเข้าห้องน้ำนานเกินไป ในบ้านมีหลายคน คนอื่น ๆ คงอยากจะเข้าห้องน้ำเหมือนกัน

เรนจัดการสวมใส่รูนิกลูกศรในทันที ก่อนจะแกล้งล้างหน้าอีกครั้งและเดินไปจะเปิดประตูออกไปด้านนอก

แต่ในวินาทีที่เขาจับไปที่ลูกบิดเรนกับได้รับลางสังหรณ์ถึงตายส่งมาเตือนเขา ร่างของเรนเหงื่อออกไปทั้งตัว เขารู้สึกหายใจไม่ออกในทันที

‘นี่มัน!’ เรนมองไปที่ประตู เขาไม่กล้าเปิดออกไป เพราะถ้าเปิดในตอนนี้ไม่เกิน 3 วินาทีเขาจะตาย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด