ตอนที่ 567 บาร์บารา
บาร์บาราคือคนแคระน้ำเงินธรรมดาคนหนึ่งที่ไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์และเป็นคนธรรมดามากในกลุ่ม ความเข้มแข็งของเขาระดับปานกลางทำให้เขามักจะถูกรังแกเสมอ แต่เขาก็ผ่านมาได้อย่างราบรื่นและรู้วิธีประจบเอาใจ ดังนั้นเขาจึงมีชีวิตอยู่มาได้เป็นอย่างดี
ตอนแรกเขาคิดว่าวันเวลาจะผ่านไปตามปกติ และพวกเขาจะไปที่ดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์เพื่อต่อสู้กับดินแดนสองสามแห่ง นั่นคือในกรณีที่เขาทำตามเสียงส่วนใหญ่
จนกระทั่งบัดนี้เมื่อจู่ๆ เขาได้ยินหัวหน้าร้องว่า ‘ผู้บุกรุก’ หัวของเขาเหมือนกับถูกฟ้าผ่าและเหมือนกับอดีตที่เขาฝังไปแล้วดูเหมือนจะดึงเขากลับไป
ในปีนั้นเขาถูกเจ้านายผู้นั้นจับและใช้เขาช่วยให้เจ้านายข้ามทะเลฟ้าและเข้าดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์เขายังคิดว่าจะต้องถูกฆ่าตายอย่างแน่นอน แต่เขาคาดไม่ถึงว่าเจ้านายผู้นั้นกลับปล่อยเขาไป
ไม่มีใครรู้ว่าเจ้านายที่เขาสาบานว่าจะจงรักภักดีความจริงแล้วก็คือผู้บุกรุกที่โลกของคนแคระน้ำเงินทั้งหมดสั่นสะเทือนและหวาดกลัว!
ในประวัติศาสตร์คนแคระน้ำเงิน ไม่เคยมีแม้แต่คนเดียวที่นำความหวาดหวั่นขวัญผวามาให้พวกเขาได้ แม้จะผ่านมาหลายปี แต่บาดแผลก็ยังคงชัดเจน คนแคระน้ำเงินเทิดทูนบูชาคนแข็งแกร่ง และบาร์บาราก็รู้ ภายในแผนกต่างๆ ของคนแคระน้ำเงินมีคนฝีมือดีหลายคนแอบเทิดทูนเจ้านายผู้นั้น
นี่ทำให้บาร์บาราลอบยินดีพวกเขาทุกคนไม่รู้ว่าเขาได้ช่วยเจ้านายผู้นั้นมาก่อน และศรัทธาเจ้านายผู้นั้นอีกด้วย
ความจริงเจ้านายเป็นคนดีมาก และบาร์บาราคิดถึงวันคืนที่เขาได้ใช้ร่วมกับเจ้านาย
สิ่งที่บาร์บาราไม่สบายใจก็คือเขาขอร้องให้เจ้านายพาเขาหนีไปด้วย แต่กลับถูกปฏิเสธสิ้นเชิง แต่เจ้านายผู้นั้นไม่ยอมพาเขาไปและปล่อยเขาไว้และจากไปตามลำพัง
บาร์บาราใจสลายอยู่นานและหลังจากผ่านไปสิบปีไม่ว่าเขาพยายามอย่างหนักเพียงไหน เขาไม่เคยสนใจอะไร
เขาเป็นคนแคระคนหนึ่งไม่แตกต่างจากพวกที่เหลือ แต่หลังจากประสบแหตุการณ์สั่นสะเทือนถึงแก่นคนแคระน้ำเงินอื่นทั้งหมดที่มีอยู่ไม่คู่ควรให้เขาสนใจ
เขาเต็มไปด้วยความทรงจำแห่งวันเวลาที่ดี
ทุกครั้งที่คนแคระน้ำเงินเริ่มพูดคุยเรื่องของเจ้านายเขาจะกลายเป็นคนหยิ่งและภาคภูมิใจ
ดังนั้นเมื่อหัวหน้าที่นำทีมอุทานว่า“ผู้บุกรุก” เขาถึงกับตกใจและมองดู สิบห้าปีผ่านไปแล้ว นายท่านกลับมา?
ทันทีที่เขาชะเง้อคอมองดูและเห็นภาพลักษณ์เขาครั้งแรก เขาตกใจ เป็นนายท่านจริงๆ! แต่เมื่อเขาพินิจอย่างระมัดระวังอีกครั้ง เขาก็ตระหนักได้ว่าเจ้านายยังดูอายุเยาว์ อายุเยาว์เกินไป...เหมือนกับเจ้านายในครั้งกระโน้น...
เดี๋ยวก่อน!
ทันใดนั้นบาร์บาราคิดอะไรบางอย่างขึ้นได้ เจ้านายเคยพูดอย่างไม่ได้ตั้งใจมาก่อนว่าเขามีบุตรคนหนึ่ง
เป็นเป็นได้ว่า...
บาร์บาราตื่นเต้นทันที ยิ่งมองเท่าไหร่ก็ยิ่งเหมือนกับมองดูเขาเพียงแต่บุรุษหนุ่มผู้นั้นดูห้าวหาญกว่าและป่าเถื่อนยิ่งกว่า
ยิ่งบาร์บารามองก็ยิ่งมั่นใจว่าใช่แน่ เขาตื่นเต้นมาก ทายาทของเจ้านาย คุณชายแน่ๆ!
เพราะเหตุผลบางประการหัวใจที่ว้าเหว่ของเขาเริ่มเปลี่ยนเป็นมีชีวิตชีวาอีกครั้งอาการเศร้าหมองและเบื่อหน่ายชีวิตดูเหมือนกลับมีสีสันทันทีและโลกทั้งใบก็เปลี่ยนไป
ข้าไม่อาจลืมอดีตของข้าได้หรือนี่?
ชีวิตแบบเก่าและน่าเบื่อหน่ายนี้เพียงพอแล้วหรือยัง?
บาร์บาราที่ร่างเตี้ยผอมกำหมัดแน่น เขากำลังสั่นไม่หยุดเหมือนกับว่ามีบางอย่างในตัวเขาที่ตื่นขึ้นความอยากรู้อยากเห็นโลกอย่างนั้นหรือ? หรือว่าความปรารถนาที่ฝังลึกอยู่ในหัวใจของเขา? หรือว่าเป็นแรงจูงใจที่ยังดังก้องอยู่ในจิตใจของเขา?
“บาร์บารา ตั้งใจหน่อย! แม้ว่าเจ้าจะเป็นแค่บ่าวรับใช้ชั่วคราวของข้า แต่ข้าไม่ต้องการคนที่ไม่ตั้งใจและเกียจคร้าน!”
“อย่าดูถูกตัวเอง บาร์บารา”
“เจ้าไม่ใช่คนขี้ขลาด บาร์บารา”
“มันดูเหมือนกับไม่แย่นักหรอกแผลของเจ้าไม่ได้หนักหนาอะไรนัก อย่าต้องถึงกับเปลืองยาเลย ยานี้มันแพงมาก”
“ดีมาก บาร์บารา!”
“กลับไปซะ, บาร์บาราเจ้าจะต้องได้เป็นผู้กล้าในหมู่คนแคระน้ำเงินได้แน่นอน...”
จมูกของบาร์บารารู้สึกคันคะเยอน้ำตาเริ่มบดบังทัศนวิสัย นายท่านข้าทำให้ท่านผิดหวัง, ข้าไม่สามารถกลายเป็นวีรบุรุษได้...
สหายรอบตัวทั้งหมดกำลังวิ่งหนีเอาชีวิตรอด บาร์บาราชะเง้อคอ พยายามมองดูอย่างดีที่สุด
ในทัศนวิสัยที่พร่าเลือนของเขาและภาพในความทรงจำสลับกันไปมาน้ำตาของบาร์บาราไม่อาจกลั้นเอาไว้ได้และเริ่มทะลักออกมา
****************
หมู่บ้านหญ้าแดง
แม้ว่าจะเป็นชัยชนะที่ได้มาโดยวิธีการที่แปลกประหลาด แต่ก็ยังเป็นชัยชนะอยู่ดี และทุกคนที่ตอนแรกสภาพจิตใจตึงเครียดก็ผ่อนคลายอย่างสิ้นเชิงและทิ้งตัวลงกับพื้น
ถังเทียนและพวกอีกสองสามคนนั่งลงในท่ามกลางกลุ่มชาวบ้านและดูโดดเด่นมาก
สือหย่งค่อยๆฟื้นคืนจากสภาพจิตใจว่างเปล่า พยายามสูดหายใจลึก เขาเหมือนกับคนตายที่ถูกชุบชีวิต และอารมณ์ของเขาแตกต่างไปมาก
“ผู้บุกรุก...” ถังเทียนพึมพำ
เสี่ยวเอ้อลอยไปตามพื้นที่ซึ่งคนแคระน้ำเงินละลายหายไปเหลือแต่หอกและหลาวดำอยู่บนพื้น เขาหยิบหอกเล่มหนึ่งขึ้นมา หอกดำให้ความรู้สึกที่อันตรายรุนแรงกับเขา
หอกสีดำสนิทเห็นได้ชัดว่าสร้างจากกิ่งไม้ชนิดหนึ่งและบรรจุปราณบางอย่างที่เลือนลางมาก
ปราณชนิดนี้...
ทันใดนั้นเสี่ยวเอ้อคิดถึงอาเฮ่อ บางครั้งร่างของอาเฮ่อก็ปล่อยปราณชนิดเดียวกันนี้
แต่เสี่ยวเอ้อขมวดคิ้ว เขาปล่อยเพลิงกลืนวิญญาณซึ่งพอได้กลิ่นปราณก็เหมือนกับฉลามกระโจนเข้าหาหอกดำทันที เพลิงกลืนวิญญาณดูเหมือนงูที่คล่องแคล่ว มันพันรอบหอกอยู่ชั่วไม่กี่วินาที ความมันเงาของหอกก็หายไป เป๊าะหอกตกลงกับพื้นแตกเป็นหลายเสี่ยง
เพลิงกลืนวิญญาณดำขึ้นเล็กน้อย เสี่ยวเอ้อหลับตาและพบว่าความรู้สึกกลับกลายเป็นสุขใจมาก
ความสามารถของเพลิงกลืนวิญญาณในการกลืนจิตวิญญาณยุทธ์นั้นโดดเด่นมาก และรัศมีดำที่ถูกเพลิงกลืนวิญญาณกินก็ยังไม่ถูกดูดซึมไปโดยสิ้นเชิงรัศมีดำนั้นเป็นจิตวิญญาณยุทธ์ที่แตกต่างจากที่เสี่ยวเอ้อเคยมีอยู่ก่อนไปอย่างสิ้นเชิง แต่บรรจุปราณที่เก่าแก่มาก
แม้ว่าร่องรอยของปราณนี้จะดีมากเป็นปราณระดับสูง เพราะเพลิงกลืนวิญญาณไม่สามารถดูดซับได้อย่างสิ้นเชิง แต่เสี่ยวเอ้อรู้ว่ารังสีดำจะเป็นตัวหล่อเลี้ยงเพลิงกลืนวิญญาณได้แน่นอน
เสี่ยวเอ้อใช้งานเพลิงกลืนวิญญาณให้กวาดไปทั่วพื้นที่ทันที
ในหมู่บ้านสือหย่งยืนอยู่ด้านข้างและตั้งใจฟังการถกเถียงกัน
“นี่คือโอกาสดีอย่างแน่นอน! ยังมีอีกหลายที่ซึ่งคลื่นน้ำเงินพยายามจะชิงพื้นที่ในทวีปซางโจว ข้าถามพวกเขาดูแล้วพวกเขาไม่มีพลังพอจะต่อต้านคลื่นน้ำเงิน ในเวลาเช่นนั้นพวกเขาต้องการวีรบุรุษให้มาช่วยฉุดพวกเขาให้พ้นจากวิกฤติ...”
ปิงกำลังถูกอ้อนวอนอย่างกระตือรือร้น
สือหย่งเห็นด้วยในใจ คำพูดเหล่านั้นพูดออกมาได้ดีในช่วงเวลาเช่นนั้น ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าวีรบุรุษ ท่านผู้กล้า โปรดพยักหน้าเห็นชอบด้วยเถิด
เขาลอบมองถังเทียนบุรุษที่อายุเยาว์มาก แต่กลับเป็นผู้นำจริงๆ การเป็นผู้นำไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้าไม่ใช่เพราะความสามารถที่โดดเด่นของเขา อย่างนั้นสถานะของเขาก็คงสูงส่งมาก สือหย่งคิดตามธรรมดาว่าน่าจะเป็นข้อหลังมากกว่า สถานะสูงส่ง..เขาอาจเป็นลูกชายผู้นำเผ่าในทวีปคนเถื่อนก็ได้กระมัง?
เหมิ่งหนาน ชื่อนั้นเหมาะสมกับรูปแบบการใช้ชีวิของคนในทวีปคนเถื่อน
แม้ว่าทวีปต่างๆจะดูถูกทวีปคนเถื่อนเนื่องจากวิธีการน่ารังเกียจและป่าเถื่อนของพวกเขา แต่คนของทวีปคนเถื่อนก็แข็งแกร่งนั่นไม่ใช่เรื่องที่ใครสงสัย ทวีปคนเถื่อนมีขนาดใหญ่กว้างขวางกินพื้นที่ดาวหลายดวง แม้ว่าส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่รกร้างกันดารสภาพแวดล้อมแย่ก็แข็งแกร่งและมีความสามารถในการต่อสู้กันทุกคน
พวกคนเถื่อนก่อตั้งและดำรงชีวิตเป็นเผ่าพันธุ์และนั่นคือหนึ่งในเหตุที่ทวีปอื่นๆ คิดว่าคนเถื่อนกำลังจะมา
หลังจากได้ยินพวกเขาคุยกันแล้วสือหย่งก็ถูกปิงกันออกมาเนื่องจากเขาต้องการหาข้ออ้างให้ตัวเองปรึกษากันก่อน
จากนั้นปิงกล่าวกับถังเทียนเบาๆ“นี่เป็นโอกาสที่ดีมาก ไม่ว่ายังไงเราก็ต้องได้ทวีปซางโจวเอาไว้ เราแค่ต้องการรักษาเสถียรภาพพลังของเราเอาไว้และนี่จะกลายเป็นจุดเชื่อมระหว่างสวรรค์วิถีและดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ เราเพียงแต่ต้องเอาชนะคลื่นน้ำเงินและเจ้าจะกลายเป็นวีรบุรุษผู้มีชื่อเสียง จะไม่มีใครกล้าแตะต้องเจ้า เดิมทีนั้น คลื่นน้ำเงินกำลังกังวลใจ แต่ตอนนี้เจ้าคือผู้บุกรุกใช่ไหม? นี่คือประโยชน์ที่คุ้มค่ามาก”
สำหรับคนอื่นๆคลื่นน้ำเงินคือสิ่งที่จะต้องหลีกเลี่ยง แต่สำหรับปิงมันคือโอกาสที่พระเจ้าประทานให้ นอกจากนี้ความโชคร้ายของคนแคระน้ำเงินคือสิ่งที่ถูกพบและสามารถนำเอามาใช้ได้อย่างรวดเร็ว
หลังจากได้ยินพวกผู้นำของคลื่นน้ำเงินตะโกน“ผู้บุกรุก” แล้ว นั่นไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอน
ถังเทียนไม่สะทกสะท้าน “ลุงกำลังบอกว่าเราควรจะดึงกองทัพกลุ่มดาวหมีใหญ่มาที่นี่?”
“ถูกแล้ว” ปิงพูดเบาๆ “พวกเซียนในที่นี้เป็นคนธรรมดามากแต่พวกเขามีทั้งข้อดีและข้อเสียเมื่อเทียบกับเซียนในสวรรค์วิถีเซียนของสวรรค์วิถีสามารถควบคุมพลังงานได้อย่างแม่นยำ บางอย่างที่เซียนที่นี่ไม่มีทางเทียบได้ ในแง่ของการทำความเข้าใจเรื่องกฎธรรมชาติเซียนในสวรรค์วิถีจะแข็งแกร่งมากกว่า พลังงานที่นี่มีมากเกินไป มากขนาดที่พวกเขาไม่จำเป็นต้องเข้าใจอะไรเลย แต่ในแง่พลังงาน พวกเขาแข็งแกร่งมากกว่า และแม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถควบคุมพลังงานได้เช่นเดียวกับเซียนของเรา พวกเขาก็ยังมีความใกล้ชิดคุ้นเคยกับพลังงานสามารถใช้พลังงานโดยไม่จำเป็นต้องควบคุมให้ถูกต้อง และนั่นทำให้เป็นทหารที่ดีมาก แน่นอนว่าเรายังไม่พบเห็นเซียนที่แข็งแกร่งจริงๆ จากที่นี้ ดังนั้นการประเมินนี้อาจจะยังไม่ถูกต้องนัก”
“และยังมีสิ่งสำคัญอีกเรื่องหนึ่ง คือที่นี่ไม่มีจิตวิญญาณยุทธอยู่เลย สำหรับกองทัพจักรกลนั่นเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก การค้นคว้าโลหะวิญญาณของเซรีนยังไม่เป็นไปด้วยดีนัก เพราะพลังงานของโลหะวิญญาณเปลี่ยนแปลงไปตามธรรมชาติได้สูงมาก แต่มันก็ยังอ่อนแอมาก เซรีนวางแผนใช้มันสร้างอาวุธจักรกลวิญญาณพลังสายเลือด ไม่มีจิตวิญญาณยุทธอยู่ในโลหะที่นี่จึงมีความเหมาะสมในการหลอมสร้างมากกว่า และบางทีนางสามารถค้นคว้าโลหะชนิดใหม่ได้เซรีนจะสามารถสร้างอาวุธจักรกลวิญญาณที่แข็งแกร่งกว่าได้ที่นี่อย่างแน่นอน และอาวุธจักรกลวิญญาณชนิดใหม่นี้จะล้มทฤษฎีในอดีตได้ทั้งหมด อาวุธจักรกลวิญญาณจะกลายเป็นส่วนขยายของเส้นชีพจรในร่างกายของมนุษย์ และด้วยการสนับสนุนของจิตวิญญาณยุทธภายในอาวุธวิญญาณ พวกเขาสามารถสร้างพลังงานหมุนเวียนใหม่ได้ ด้วยเหตุนั้นก็หมายความว่าอาวุธจักรกลวิญญาณสามารถพัฒนาได้!”
ถังเทียนเคลิบเคลิ้มหลงใหลไปกับความตื่นเต้นและคาดหวังของปิง เขาไม่สามารถจินตนาการได้ว่าอาวุธจักรกลวิญญาณจะเพิ่มความแข็งแกร่งได้ขนาดไหน
ปิงยังคงเสนอแนวคิดตนเองต่อไป “ถ้าเราสามารถสร้างความเชื่อมโยงระหว่างทั้งสองได้ เราจะสร้างสถานะไร้พ่ายและเมื่อใดก็ได้เราจะโจมตีศัตรูของเราตลบหลังพวกเขาก็ได้
ถังเทียนเห็นด้วยกับลุงปิง ถ้ามีฐานสำหรับพวกเขาในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์จะเป็นประโยชน์ต่อพวกเขามาก
พอถึงตอนนี้มีเสียงฮือฮาดังมาจากข้างนอก
“นั่นคือคนแคระน้ำเงินคนหนึ่ง...”
“พระเจ้า, ข้าเห็นมันแล้ว เดี๋ยวก่อน... คนแคระน้ำเงินถือธงขาวด้วยเหรอ?”
ทั้งสองคนมองหน้ากันเองและวิ่งออกไป เมื่อเห็นร่างคนแคระที่เตี้ยและผอมบางโบกไม้ในมือของเขาและบนปลายไม้จะมีชุดขาวชุดหนึ่ง
“อย่าขยับ!”
“ข้าไม่ได้มาร้าย!”
……
ทุกคนมองหน้ากันเองแต่ไม่มีใครกล้าเคลื่อนไหว มีคนอยู่มากมายนัก คนแคระน้ำเงินคนเดียวย่อมทำอะไรไม่ได้
คนแคระน้ำเงินเดินมาหาถังเทียนและคำนับแสดงความเคารพ “คุณชายผู้กล้าหาญ ข้าชื่อบาร์บารา ข้าเป็นบ่าวของนายท่านซึ่งก็คือบิดาของท่าน!”
ทุกคนสะดุ้ง
บ่าวคนแคระน้ำเงิน...
“เข้ามา, และเราจะคุยกัน” ถังเทียนพูดอย่างเฉยชา และนำเข้าไป เจ้าคนไร้น้ำใจนั่นอีกแล้ว...
หัวใจของบาร์บาราเต้นแรง เขาสามารถบอกได้ว่าคุณชายอารมณ์ไม่ดีนัก