ตอนที่ 566 ตกตะลึง
ตลอดทางจนกระทั่งพวกเขาเข้าหมู่บ้านหญ้าแดง สือหย่งและคณะดูเหมือนอยู่ในอาการมึนงง
เราชนะ?
เราชนะจริงๆ?
สือหย่งรู้สึกค่อนข้างสูญเสีย คลื่นน้ำเงินเกิดขึ้นในหลายทวีปในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์และขณะที่มันเกิดขึ้นเป็นประจำ พวกเขาเปรียบได้กับเจอแผ่นดินไหว แผ่นดินถล่มและน้ำหลากท่วม มีแต่เมืองใหญ่ที่สามารถต้านทานคลื่นน้ำเงินได้ ดาวหญ้าแดงประสบกับคลื่นน้ำเงินมาถึงสี่ครั้งแล้ว และทุกครั้ง ผลก็คืออพยพประชาชน
หมู่บ้านหญ้าแดง....เป็นหมู่บ้านธรรมดาที่สุดเหมือนเคยมีหลายหมู่บ้านที่มีชื่อเดียวกับดาวหญ้าแดง เฉพาะหมู่บ้านแห่งนี้ห่างไกลมากและเป็นหมู่บ้านธรรมดาที่ไม่มีอะไรสนับสนุน
แต่คนร่างใหญ่เหล่านี้...
สือหย่งไม่รู้ว่าคนร่างใหญ่เหล่านี้เป็นใคร แต่เขารู้สึกเคารพพวกเขา แค่อาศัยกำลังเพียงไม่กี่คนพวกเขาก็สามารถผลักดันคลื่นน้ำเงินกลับไปได้ ไม่, เมื่อเห็นชาวบ้านทุกคนนอนอยู่กับพื้นและเห็นทะเลคนแคระน้ำเงินไม่มีที่สุดสือหย่งรู้สึกเหมือนกับว่าพื้นใต้เท้าของเขาอ่อนยวบ
แม้ว่าคนแคระน้ำเงินจะหมอบลงแทบเท้าพวกเขาแต่พวกคนตัวใหญ่ทำได้ยังไง สือหย่งไม่กล้าคิดเรื่องนั้น และเขากล้ายืนยันว่าพวกเขาไม่ใช่คนที่สามารถยั่วได้และไม่ใช่คนที่ทวีปซางโจวจะไปตอแยได้แน่นอน โอวรวมทั้งทวีปเซี่ยโจวด้วย...
จะบ้าหรือเปล่า?ทำไมเจ้าถึงมักคิดแต่เรื่องตอแยคนอื่น..
สือหย่งหลั่งเหงื่อเยียบเย็น โอวพระเจ้าแม้แต่คิดความคิดที่อันตรายอย่างนั้น มันก็น่ากลัวเกินไปเสียแล้ว ตั้งสติไว้! ใจเย็นๆ
“สือหย่ง! ทำไมเจ้ามาอยู่ที่นี่ด้วยเล่า!” ชาวบ้านคนหนึ่งทักทายเขาอย่างอารมณ์ดี
กองกำลังรักษาการณ์หมู่บ้านเป่ากวงก็คือกองทัพเดียวบนดาวหญ้าแดงและเรื่องที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่พวกเขาจะรับดูแล แม้ว่าจะไม่มีอะไรมาก แต่สำหรับชาวบ้าน กองกำลังรักษาการณ์เมืองเป่ากวงก็คือผู้ปกครองดาวหญ้าแดงที่แท้จริง สำหรับสือหย่งผู้เป็นหนึ่งในกองทหารรักษาการณ์เป็นแกนหลัก ในสายตาของชาวบ้าน เขาคือผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่ง
“เราตั้งใจมาส่งข่าวให้พวกเจ้าทุกคน แต่เราไม่เคยคิดเลยว่าจะได้เห็นการสู้รบขนาดใหญ่” สือหย่งยิ้มอย่างฝืนธรรมชาติ ความรู้สึกเหมือนกับว่าคันคอยิบๆเหงื่อเยียบเย็นหลั่งอยู่เต็มหลังซึมออกมานอกเสื้อผ้า พวกเขาจะเดาความคิดข้าได้หรือไม่?
สือหย่งทำเป็นสงสัยกลุ่มสหายที่มากับเขาไม่กล้าพูดอะไร ตั้งแต่เมื่อใดกันที่พวกเขารู้สึกกดดันอย่างนี้เมื่อพวกเขากลับมาที่หมู่บ้าน?
“ขอบคุณ,สือหย่งและสหาย! ครั้งนี้เราได้พบกับคนชั้นสูงแล้ว! ฮ่าฮ่า เราสู้กันอย่างมีความสนุก ชีวิตชราของข้านี้นับว่าใช้คุ้มค่าจริงๆ” หนึ่งในชาวบ้านพูดอย่างมีความสุข
“ใช่ใช่ ใช่แล้ว” สือหย่งผงกศีรษะ “พวกเจ้าทำได้สำเร็จขนาดนี้พวกเจ้าคงขู่ขวัญจนพวกมันกลัวได้แน่นอน! ภาพที่เห็นนั้นจับตาจับใจมากแม้แต่ข้าก็ยังอยากขึ้นไปสู้เองเลย”
สหายร่วมทีมพลอยผงกศีรษะตามกันทุกคน หน้าของพวกเขามีแววอิจฉามันเป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การอิจฉาจริงๆ แม้แต่กองกำลังรักษาการณ์เมืองเป่ากวงเป็นกองกำลังแห่งเดียวบนดาวหญ้าแดงความสำเร็จอย่างดีที่สุดก็คือเอาชนะพวกบัดซบจากทวีปเซี่ยโจวได้โดยไม่มีถอย เทียบกันแล้วแตกต่าง ความจริงยังด้อยกว่ากันไกลและน่าละอายด้วยซ้ำ
ชาวบ้านดีใจกันมากและฉีกยิ้มกว้างจนถึงหู
สือหย่งถือโอกาสถามเบาๆ “พวกคนชั้นสูงนี้มาจากไหน?”
ชาวบ้านส่ายศีรษะ “ข้าไม่รู้ เสี่ยวอวี่พาพวกเขามาที่นี่”
“เสี่ยวอวี่?”สือหย่งสะดุ้งไปชั่วขณะ เขารู้ว่าเสี่ยวอวี่เป็นใคร เสี่ยวอวี่เป็นที่รู้จักกันดีในดาวหญ้าแดง เขาเกิดมามีปัญหา เขาไม่สามารถใช้พลังงานได้ เป็นเรื่องที่เห็นได้ยากในดาวของพวกเขาและแม้ว่าเขาจะไม่สามารถใช้พลังงานได้ แต่เขาขยันหมั่นเพียรในการทำธุรกิจการค้าและเรียนรู้ทักษะต่างๆ หลายอย่างนอกจากนั้นเขายังขุดหาแกนหญ้าแดงเพื่อหารายได้ สำหรับเด็กอายุ 12 ปีต้องไปทำอย่างนั้น ทำให้ทุกคนรู้สึกสงสารเขา
“เจ้าต้องการให้ข้าไปแจ้งพวกเขาไหม?” ชาวบ้านถาม
สือหย่งสั่นและส่ายศีรษะทันที “ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร เรารออยู่ที่นี่ รอตรงนี้ดีกว่า”
ภายในบ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้าน ถังเทียนและพวกที่เหลือมีปัญหาอย่างหนึ่ง
“ใครต้องการให้เขายอมรับ?”
ทุกคนที่อยู่ข้างในมองหน้ากันเองทำแบบนั้นเป็นทักษะที่พิเศษมาก และไม่มีใครรู้วิธี
ทันใดนั้นเมื่อคนแคระน้ำเงินแก่เห็นหน้าถังเทียน หน้าของเขาเปลี่ยนไปมันสั่นตั้งแต่ศีรษะยันเท้าและร้องเสียงหลง “ผู้บุกรุก! ผู้บุกรุก...”
แม้ว่าสำเนียงของเขาจะแปร่งแต่ทุกคนสามารถเข้าใจได้อย่างชัดเจน ถังเทียนสะดุ้ง เขาชี้จมูกตัวเอง “เจ้ารู้จักข้าหรือ?”
หน้าของคนแคระน้ำเงินแก่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวสั่นจนพูดไม่ออก และหน้าของเขาเริ่มซีดขาวขึ้นเรื่อยๆ
“เฮ้เฮ้ เฮ้ เขากำลังจะแย่แล้ว...” ถังเทียนตื่นเต้น “ข้ายังไม่ได้ถามอะไรเลย...”
คนแคระน้ำเงินชราหัวห้อยลง เขาหยุดหายใจความหวาดหวั่นขวัญผวาปรากฏอยู่บนหน้าของเขา
ถังเทียนตกใจ
คนอื่นๆ ตกตะลึง
ถังเทียน...ขู่ขวัญจนผู้นำคนแคระน้ำเงินตายได้จริงๆ...
“ข้าทำอะไรเขาหรือ?” ถังเทียนหันมามองพวกที่เหลือ เขาไม่รู้จะทำยังไง
ทุกคนมองดูเขาเงียบๆ
“ข้าคิดว่าเขาตายเพราะเห็นหน้าตาที่น่าเกลียดเกินไปของเจ้า” เสี่ยวเอ้อพูดโพล่งออกมา
“นั่นเป็นเหตุผลที่น่าเชื่อถือ” ปิงพยักหน้าเห็นด้วย
หยาหยาเองก็ผงกหัวโดยไม่รู้ตัวและพอรู้ตัวมันหน้าแดงสลับขาวและรีบส่ายหัวรัวๆ ทันที แก้มยุ้ยของมันกระเพื่อมเป็นระลอก
“แล้วตอนนี้เราจะทำยังไง?” เขาดึงมือกลับ เขารู้สึกยากจะยอมแพ้
“ข้าคิดว่าเราควรคิดว่าจะทำยังไงกับคนแคระน้ำเงินข้างนอก” ปิงยังคงรู้สึกปวดหัวทันที พวกเขาจับตัวผู้นำได้อย่างยากเย็นและต้องการข้อมูลบางอย่าง ตัวอย่างเช่น ไม่ว่าเขาจะได้เห็นจิ่งหาวหรือไม่โลกของคนแคระน้ำเงินถูกแยกจากกันได้ยังไง แต่ก่อนที่เขาจะได้รับข้อมูลอะไร เขาก็ตายเสียก่อน
เขากลัวจนตายจริงๆ...
ปิงมองดูถังเทียนและรำพึงในใจถังห้าวน่าเกลียดมากถึงระดับนี้จริงๆ หรือ? เราแค่ชินกับเขา นั่นคือเหตุผลกระมัง?
ผู้นำคนแคระน้ำเงินตายและปัญหาที่เหลือเป็นเรื่องใหญ่ พวกเขาจะทำยังไงกับคนแคระน้ำเงินข้างนอก? ก่อนนี้ปัญหานี้กวนใจปิงอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ผู้นำของเขาตายก็กลายเป็นเรื่องแย่ยิ่งกว่า
ทันใดนั้น เสียงร้องทรมานดังมาจากด้านนอก
ทุกคนสะดุ้ง พวกเขาวิ่งออกไปข้างนอกทันที และเมื่อพวกเขาเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น หน้าของทุกคนบิดเบี้ยวเหยเกความหนาวสะท้านแล่นไปตามสันหลัง
คนแคระน้ำเงินที่เพิ่งนอนกับพื้นที่ร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดพร้อมกันร่างของทุกคนเหมือนกับน้ำแข็งสีน้ำเงินละลายลงอย่างรวดเร็วต่อหน้าต่อตาพวกเขา
ในพริบตา คนแคระน้ำเงินกลายเป็นสภาพเป็นของเหลวน้ำเงินกันหมดซึ่งซึมเข้าไปในพื้นดินอย่างรวดเร็ว
พวกเขาเห็นไกลเท่าที่จะเห็นได้ พื้นด้านนอกหมู่บ้านทั้งหมดกลายเป็นสีน้ำเงินแปลกประหลาด มีแต่เพียงสิ่งที่เหลืออยู่บนพื้นก็คือหอกและหลาวไม้ดำที่แตกหักเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความฝัน
น่าทึ่งมาก!
มันแปลกมากที่แม้แต่ถังเทียนก็รู้สึกเย็นสันหลังวาบ คนแคระน้ำเงินที่มีจำนวนมากมายปกคลุมไปทุกที่ที่เขามองดูพลันหายไปเหมือนกับหิมะละลาย
ทุกคนมองดูหน้ากันเองและเห็นแต่เพียงแววตกใจอยู่ในตาของแต่ละคน
คนแคระน้ำเงินแปลกประหลาดนี้คืออะไรกันแน่...
ชาวบ้านสือหย่งและกลุ่มสหายร่วมงานของเขาตกใจยิ่งกว่า เขาและท้องของพวกเขาสั่นราวกับเป็นบ้า
ทันใดนั้นสายตาถังเทียนมองดูที่ไกลออกไปและเห็นจุดดำจุดหนึ่ง จุดดำนั้นรวดเร็วมาก และในพริบตา พวกเขาก็บินเข้ามาใกล้ ถังเทียนสั่นทันที เขาเห็นชัดเจนแล้วว่าพวกเขาเป็นใครและวิ่งเข้าไปหา
เป็นเสี่ยวซิ่วซิ่วและพวกนั่นเอง!
ทั้งสามคนท่าทางโทรมมากชุดของพวกเขาขาดรุ่งริ่ง สีหน้าเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด มองดูก็รู้ว่าพวกเขาผ่านพบเจออะไรมามาก เมื่อพวกเขาเห็นถังเทียน พวกเขาดีใจทันที
แต่ในเวลาอันรวดเร็วสีหน้าของพวกเขากลายเป็นกังวล
“ระวัง! มีคนแคระน้ำเงินไล่ตามหลังเรา” หลิงซิ่วตะโกนเต็มกำลัง เขายังรู้สึกอ่อนเพลียอยู่บ้าง
เมื่อคำพูดของเขาดังได้ยินทั่ว หน้าของทุกคนเปลี่ยน มีเพียงถังเทียนที่ไม่สะทกสะท้าน
ในสายตาของเขาทะเลน้ำเงินปรากฏมาอีกครั้งจำนวนคนแคระน้ำเงินที่จะมาถึงน่าประหลาด พวกมันดูเหมือนมหาสมุทรครอบคลุมเต็มภูเขาและพื้นที่ราบ หน้าของเสี่ยวเอ้อและปิงเปลี่ยน ระดับของคนแคระน้ำเงินที่กำลังมาถึงสูงกว่าพวกที่เพิ่งตายไปก่อนนั้นมาก
แย่แล้ว!
หลังจากประสบกับการต่อสู้ที่โหดร้าย แม้ว่าพวกเขาจะชนะ แต่ทุกคนก็เหนื่อย ถ้าไม่ใช่เพราะชัยชนะของเสี่ยวเอ้อที่จับผู้นำได้ การรบคงจะลากยาวออกไปและในที่สุดฝ่ายที่ทนไม่ได้ก็จะเป็นพวกชาวบ้าน เพราะคนแคระน้ำเงินมีมากเกินไป การฆ่าทางผ่านพวกมันไม่ใช่วิธีที่ถูกนัก
พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าหลังจากชนะไปแล้ว ยังมีคลื่นน้ำเงินอีกชุดหนึ่งโผล่ออกมาอีก
ชาวบ้านหลายคนกระแทกนั่งกับพื้น
แต่แทนที่จะกลัวถังเทียนกับมีความสุขมากแทน ทุกคนสามารถหาตัวเจอจนได้ นั่นเป็นข่าวดีที่สุด! ก่อนหน้านั้นเขาเตรียมเข่นฆ่าจนไปถึงค่ายพวกคนแคระน้ำเงินเพื่อค้นหาตัวเสี่ยวซิ่วซิ่วและพวกแต่ตอนนี้ทุกคนปลอดภัยไร้ปัญหาแล้วยังจะมีข่าวดีอะไรมากไปกว่านี้?
เทียบกับสู้เข่นฆ่าไปจนถึงค่ายพวกคนแคระน้ำเงินแล้วคลื่นน้ำเงินที่อยู่ต่อหน้าเขานับว่าไม่มีอะไรเลย
ถ้าเราเอาชนะไม่ได้ เราสามารถหนีได้..
ถังเทียนไม่ลืมตะโกนสิ่งที่เขาคิด “ทุกคนมาอยู่ข้างหลังข้า! ข้าจะรับมือคลื่นลูกแรกก่อน!”
เสี่ยวซิ่วซิ่วอาเฮ่อและจิ่งหาวแสดงสีหน้าตื่นเต้น พวกเขาไม่พูดอะไรและหลบไปด้านหลัง ในหมู่บ้านหญ้าแดง ปิงรวบรวมชาวบ้านแล้วเพื่อเตรียมตัวถอย
ถังเทียนลากโซ่ตะขาบถ่วงน้ำหนักออกมาและจ้องมองคลื่นน้ำเงินที่กำลังเข้ามา
พวกเขาเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว!
พวกเขาแข็งแกร่งมากกว่าชุดก่อนนั้น!
คนแคระน้ำเงินที่กำลังเข้ามามีรูปขบวนที่เข้มงวดมีลักษณะของกองทัพ สายตาถังเทียนมองดูกิ่งน้ำแข็งในมือพวกมัน หัวใจของเขาเต้นแรงเห็นได้ชัดว่าเป็นกิ่งต้นน้ำแข็งฟ้าที่พวกเขาพบเห็นที่ทะเลแสง
กิ่งน้ำแข็งสีฟ้าไม่ใช่ข่าวดี..มิน่าเล่าเสี่ยวซิ่วซิ่วถึงได้ดูโทรมนัก ถังเทียนกระชับลูกตุ้มไว้แน่น
คนแคระน้ำเงินคาดไม่ถึงว่าจะมีคนทีกล้าหยุดพวกมัน เมื่อพวกมันมาถึงหน้าถังเทียน พวกมันหยุดทันที
ความรู้สึกนั้นเมื่อคลื่นบ้าคลั่งมาถึงอย่างรวดเร็ว แต่การหยุดทันใดโดยไม่มีคำเตือนทำให้ถังเทียนหัวใจเต้นแรงอีกครั้ง
ปิงสีหน้าเปลี่ยน เขาอยู่ด้านหลัง และเมื่อเขาเห็นกองกำลังจัดตั้งขบวนทัพที่เข้มงวดมีแต่กองทัพที่ได้รับการฝึกฝนมาแล้วจึงจะทำได้ ทักษะการจัดตั้งขบวนทัพทำให้ปิงรู้ว่าปัญหาใหญ่กำลังตามมา
เมื่อเผชิญหน้ากับรังสีฆ่าฟันของกองทัพ ถังเทียนสามารถรู้สึกได้ถึงความโกรธที่ออกมาจากพวกเขา
หัวใจของเขาเต้นแรงสัญชาตญาณของเขาแหลมคมและสามารถรู้สึกได้ถึงเจตนาตั้งใจฆ่าทำให้ผมขนในร่างกายลุกชัน หลังของเขาหลั่งเหงื่อเยียบเย็น เขาบังคับตนเองให้เข้มแข็ง เขาเตรียมพร้อมตราบเท่าที่มีบางอย่างผิดปกติ เขาจะถอยและหนีทันที
ข้าจะลงมือรอบแรกและถ่วงเวลาไว้ระยะหนึ่ง
ถังเทียนไม่เคยรู้สึกกดดันอย่างนั้นมาก่อนในชีวิต แม้ว่าสีหน้าของเขาจะมั่นคง แต่จิตสำนึกของเขามักรู้สึกได้ถึงเสี่ยวซิ่วซิ่วและพวกที่เหลือ ตราบใดที่พวกเขาเชื่อมโยงกับปิง อย่างนั้นพวกเขาก็สามารถถอยได้
เขาลอบแจ้งให้เสี่ยวเอ้อเตรียมใช้วิชาเคลื่อนย้ายพริบตา
แต่เขาต้องให้ความสำคัญกับการถ่วงเวลาคนแคระน้ำเงิน ดังนั้นถังเทียนค่อยๆ ควงตะขาบถ่วงน้ำหนักตาของเขาหรี่มองมองอากาศอย่างยอดฝีมือ
ขณะนั้นผู้นำของคนแคระน้ำเงินเห็นหน้าของถังเทียน สีหน้าของเขาเปลี่ยนทันทีและโพล่งออกมา“ผู้บุกรุก!”
เป็นครั้งที่สองที่ถังเทียนได้ยินวลีนี้และตอนแรกเขากังวลมากโพล่งออกมาว่า “อะไรนะ?”
เมื่อพูดเช่นนั้นถังเทียนสบถในใจ หรือว่าข้าเปิดเผยตัวเองไปแล้ว? ข้าพยายามถ่วงเวลาไว้ตอนนี้ ข้าจะต้องทำให้ได้ไม่ว่ายังไงก็ตาม...
แต่ก่อนที่เขาจะทันรู้ตัว กองทัพคนแคระน้ำเงินถอยหนีไปด้วยความเร็วไวกว่าเมื่อตอนมาหลายเท่า
กะ..เกิดอะไรขึ้น...
ปากของถังเทียนอ้าค้าง เขามองดูพื้นที่ว่างข้างหน้าซึ่งดูว่างเปล่าอย่างรวดเร็ว และคลื่นน้ำเงินหนีไปไกลอย่างรวดเร็ว ปิงและชาวบ้านที่อยู่ด้านหลังตะลึงกันไปหมด เสี่ยวเอ้อเตรียมจะใช้เคลื่อนย้ายในพริบตาช่วยถังเทียนก็ตะลึง เสี่ยวซิ่วซิ่วก็ตะลึง อาเฮ่อก็ตะลึง จิ่งหาวก็ยังตะลึงไปด้วย ทุกคนตะลึงกันหมด
ถังเทียนที่ลอยอยู่ลำพังในอากาศรู้สึกผิดหวัง
“มันเกิดบ้าอะไรขึ้นกันวะนี่?”