ตอนที่แล้วตอนที่ 563 เสี่ยวเอ้อกับหยาหยา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 565 จับราชา

ตอนที่ 564 สือหย่ง


ปลายหอกแทงที่ท้องของหยาหยา

หลังจากวางแผนโจมตีอยู่นานมาก เขาออมแรงไว้เพื่อให้พร้อมลงมือครั้งนี้ ความคมของปลายหอกไม้แทงเข้าที่หน้าท้องกลมของหยาหยา แต่ความรู้สึกที่เขาได้รับจากปลายหอกแตกต่างออกไปมาก

เดี๋ยวก่อน..นั่นมัน...

บึ้ม!

มีเสียงทุ้มดังออกมา หยาหยาที่ขดตัวกลมเหมือนกับลูกบอลที่ยืดหยุ่น หลังจากถูกแทงอย่างดุดันส่งผลให้เกิดแรงระเบิดรุนแรง และขณะที่ยังรู้สึกกลัว  หยาหยามองอย่างมึนงงก่อนจะถอยออกไป

ควั่บ!

หยาหยากลายเป็นจุดดำเล็กๆ ขณะที่มันบินสูงขึ้นทุกที

นะ..นี่.. นี่มัน...

คนแคระน้ำเงินมองดูร่างที่บินสูงขึ้นไปในท้องฟ้าอย่างตะลึง  หอกของเขาที่ใช้ออก เขาทุ่มพลังทั้งหมดในร่างและมัน มันไม่สามารถทำลายผิวของเจ้านั่นได้เลยแม้แต่น้อย...

นะนั่น..นั่น..ผิวของเจ้าตัวนั่น...ประหลาด?

หน้าของเสี่ยวเอ้อที่มีรังสีอำมหิตปกคลุมดูแปลกประหลาด เขาเห็นพลังในการแทงและคิดว่าหยาหยาคงถูกแทงทะลุแน่ แต่เขาไม่คิดเลยว่าแม้แต่ผิวของมันก็ไม่มีรอยขีดข่วน และ..

เสี่ยวเอ้อแหงนมองจุดเล็กๆ ที่บินอยู่บนท้องฟ้าและมีความดีใจอย่างมิอาจอธิบายได้ เจ้านั่นจะต้องอยู่นี่เพื่อเป็นตัวตลกต่อไป....

รอยยิ้มฉายอยู่บนใบหน้าของเขาเพียงชั่วไม่กี่วินาที  ก่อนที่เสี่ยวเอ้อจะรั้งสายตากลับมาที่คนแคระน้ำเงินสูงอายุ หยาหยาใช้ความสามารถเล็งและติดตามร่องรอยซึ่งพิสูจน์ว่าเป้าหมายนั้นยากจะหาพบและนั่นหมายความว่าการเข้าไปคร่ากุมเขาไม่ใช่เรื่องง่าย

แต่แค่อาศัยพลังอ่อนแอของเจ้าเพื่อป้องตัวเองช่างคิดฝันจริงๆ

ตาของเสี่ยวเอ้อกลายเป็นเย็นชา  ร่างของเขาหายไปทันที เคลื่อนย้ายพริบตา

เวลาต่อมาเขาปรากฏอยู่ด้านที่ซึ่งคนแคระน้ำเงินโจมตีหยาหยา พลังเฉพาะตัวของคนแคระน้ำเงินผู้นี้ไม่ธรรมดา  เขารู้สึกถึงอันตรายได้ทันทีและเหวี่ยงหอกกลับมาที่ด้านหลัง ขณะที่เขาเอี้ยวตัวกลับมาและแทงใส่เสี่ยวเอ้ออย่างรุนแรง

ติง!

ปลายกระบี่กับหอกปะทะกันจนเกิดประกายไฟ  เสี่ยวเอ้อคำราม เขาไม่เคลื่อนไหวแม้แต่น้อยทำให้ความเย็นแล่นไปตามสันหลังของคนแคระน้ำเงิน  ความรู้สึกว่าบางอย่างไม่ถูกต้องมันรู้สึกเจ็บที่หน้าอกของมันทันที มันยังคงตะลึงก้มหัวมองดู มันสังเกตเห็นกระบี่ดำแทงทะลุจากอกของมัน

กระบี่หายไปทันที เขาสามารถรู้สึกได้แต่เพียงว่าพลังในร่างเหือดหายไปจากตัว  เขาทรุดตัวและสติก็หลุดลอยหายไป

ไวมาก...

เสี่ยวเอ้อไม่ผ่อนคลายตัวเอง  เมื่อกระบี่ปราบสมุทรและหอกดำสัมผัสกันปราณดำก็รั่วออกมาจากปลายหอกเข้าไปที่กระบี่ปราบสมุทรซึ่งซึ่งเพลิงดำมิติว่างไม่สามารถปรับแต่งได้  กระบี่ปราบสมุทรยังคงมีเพลิงกลืนวิญญาณพันอยู่รอบ

เพลิงกลืนวิญญาณสีรุ้งหมองกระหน่ำใส่ปราณดำราวกับว่ามันได้กลิ่นอาหารโอชะ

เสี่ยวเอ้อตกตะลึง ดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์แปลกจริงๆ!

ด้วยข้อมูลทั้งหมดที่เขาค้นพบเกี่ยวกับสถานที่นี้ แม้ว่าพลังงานในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์จะประหลาดแต่กลับไม่มีพลังวิญญาณ  สามารถทำให้เพลิงกลืนวิญญาณตื่นเต้นยินดีได้  ปราณดำนั่นคืออะไร?

แต่ตอนนี้ไม่มีเวลาคิดเรื่องนั้น ต้องจับเจ้านั่นให้ได้ก่อน!

ดวงตาของเสี่ยวเอ้อมีร่องรอยจริงจัง

เขาหายตัวอีกครั้ง

*************************

สือหย่งบินอย่างสุดกำลังใบหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความกระวนกระวาย ไม่มีใครคาดว่าคลื่นน้ำเงินคราวนี้จะน่ากลัวมากนักแค่เพียงไม่กี่วันมานี้ชาวบ้านเกือบหมดถูกคลื่นน้ำเงินกลืน

ทวีปซางโจวเป็นทวีปเล็กอยู่แล้วและดาวหญ้าแดงก็เป็นดาวเคราะห์ขนาดเล็ก  ซึ่งถ้ายังลดขนาดลงอีกก็ไม่ควรเรียกว่าดาวเคราะห์อีกต่อไป ประชากรไม่ถึงหกหมื่นคน และพวกเขากระจัดกระจายกันอยู่  ดาวหญ้าแดงมีเมืองที่น่าสงสารเพียงแห่งเดียวคือเมืองเป่ากวง

เมืองนี้ถ้าเอาไปวางไว้ในดาวดวงอื่น จะเป็นแค่เมืองเล็กๆ

ดาวหญ้าแดงยากจนมากจริงๆนอกจากวัสดุคุณภาพต่ำไม่กี่อย่างพวกเขาไม่มีอะไร ไม่มีมหาอำนาจใดต้องการมัน หรือแม้แต่จะครอบครองแม้แต่โจรก็ยังดูถูกดาวหญ้าแดง แสดงว่าเป็นดาวที่ยากจนเพียงไหน

สือหย่งอยู่ในกองทหารรักษาการณ์เมืองเป่ากวงและอาจมองได้ว่าเป็นเพียงกองทัพของดาวหญ้าแดงก็ได้  พวกเขาได้รับมอบหมายหน้าที่ให้ดูแลความสงบสุขและมั่นคงในชีวิตประจำวันและรับภารกิจครั้งเดียวขณะหารายได้บางส่วน  ทหารรักษาการณ์เมืองเป่ากวงคือกองทหารประจำหมู่บ้านระดับต่ำที่สุดพวกเขาไม่แข็งแกร่ง แต่พวกเขาทุกคนเป็นชาวท้องถิ่น พวกเขาถูกพิจารณาให้ย้ายครอบครัวมาหมู่บ้าน พวกเขาไม่เคยปฏิเสธหรือขมวดคิ้วเมื่อต้องมาปกป้องบ้านของพวกเขา

สือหย่งคือผู้บัญชาการของกองกำลังรักษาการณ์เมืองสือหย่งและเป็นมาเกินกว่าสองปีแล้ว  เพราะเขายังแข็งแกร่งไม่พอ  เขาสามารถกลับไปหมู่ได้  แต่ภายในกองกำลังรักษาการณ์เขาถูกมองว่าแข็งแกร่งทรงพลัง

“สือหย่ง มันแย่จริงๆ หรือเปล่า?”  หนึ่งในสมาชิกถาม  เขากลัว

“ใช่แล้ว” สือหย่งตอบ “ไม่เพียงแต่เกิดขึ้นในดาวหญ้าแดงเท่านั้น แต่คลื่นน้ำเงินยังคงเข้าไปในทวีปเซี่ยโจวด้วยดูเหมือนว่ามันเกิดขึ้นในดาวเคราะห์น้อยในเวลาเดียวกันมีเพียงดาวหญ้าแดงของเราทวีปซางโจว และดาวอีกสองดวงปลอดภัย”

“เจ้าเอาจริงหรือ ทำไมเราถึงโชคร้ายนัก” สมาชิกอีกคนบ่น

“ไม่สำคัญ อย่างมากเราก็แค่รวบรวมทุกคนและอพยพไปยังดาวชิงกู่(หุบเขาเขียว) หรือไม่ก็ฮุ่ยหลี่ (ทุ่งการุณย์) กัน” สือหย่งถอนหายใจ “มีแนวโน้มว่าทวีปเซี่ยโจวคงจะล่มสลายไปแล้วในเวลานี้ดาวทั้งสามดวงถูกคลื่นน้ำเงินรุกราน ข้าเกรงว่าเป็นการยึดมากกว่าปล้น”

ทวีปซางโจวและทวีปเซี่ยโจวมีสัมพันธ์ที่แย่  พวกเขามีข้อพิพาทกันเองอยู่หลายครา ทวีปเซี่ยโจวมิได้แข็งแกร่งกว่าทวีปซางโจวเท่าใดนักและในอดีตที่ผ่านมาไม่กี่ปีสือหย่งและพวกก็ได้รับความเสียหายเพราะคนของทวีปซางโจว  แต่เวลานี้ไม่มีใครมีอารมณ์ยินดีกับหายนะของพวกเขา

ทุกครั้งที่เกิดคลื่นน้ำเงินจะเกิดแม่น้ำโลหิตสายธารเลือดตามมา  ทวีปใหญ่ๆยังรอดตัว พวกเขามีการจัดการและสามารถต้านทานคลื่นน้ำเงินได้  แต่ทวีปที่เล็กกว่ามักจะนำไปสู่ความล่มสลายและถูกสังหาร

เวลานี้ไม่มีสัญญาณว่าจะเกิดคลื่นน้ำเงินมาก่อน  และมันมหาศาลและน่ากลัวมาก

ด้วยพลังที่เล็กน้อยกองทหารรักษาการณ์หมู่บ้านเป่ากวงยังไม่เพียงพอแม้แต่จะป้องกันกองกำลังคนแคระน้ำเงินได้เท่านั้น  ยังไม่ต้องพูดถึงคลื่นน้ำเงินเลย

“เราคงทำได้แต่เพียงดูว่าชะตากรรมอะไรรอเราอยู่  แจ้งคนที่เหลือ ช่วยเท่าที่จะช่วยได้”  สือหย่งถอนหายใจ

คนที่เหลือเงียบ

ทันใดนั้นสือหย่งมีสีหน้าเปลี่ยนไป  “เฮ้, ฟังนั่น,  นั่นเสียงอะไร?”

สมาชิกคนอื่นๆ สะดุ้ง และตั้งใจฟังทันที

“เหมือนกับเป็นเสียงระเบิด”

“ข้างหน้านี้คือหมู่บ้านหญ้าแดง,  เป็นไปได้หรือว่า...”

สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งสือหย่ง เขาตะโกนลั่น  “เร็วเข้า  ไปกันเถอะ!”

ในไม่ช้าพวกเขาทุกคนก็เห็นหมู่บ้านหญ้าแดงและภาพที่อยู่ต่อหน้าพวกเขาทำให้ทุกคนตะลึงทำอะไรไม่ถูก

เหนือหมู่บ้านหญ้าแดงมีมนุษย์จักรกลขนาดใหญ่คนหนึ่งลอยตัวอยู่ลำแสงนับไม่ถ้วนผุดออกมาจากทุกมุมของหมู่บ้าน พลังงานรวมตัวอยู่บนร่างของมนุษย์จักรกลยักษ์พลังงานที่เข้มข้มคลุมรอบตัวจักรกลเป็นรัศมีกลมแพรวพราว  แม้จากที่ไกลๆพวกเขารู้สึกได้ถึงพลังน่ากลัวที่ปล่อยออกมาจากจักรกล มันส่งอิทธิพลที่น่ากลัวมากเหมือนกับว่าจักรกลยักษ์นั่นคือเทพสงคราม!

มนุษย์จักรกลยักษ์โบกมือ กระสุนลูกหนึ่งจะยิงออกเป็นแนวมีหางไฟบินตามออกไปไกล!

ทันใดนั้นเสียงระเบิดดังมาจากที่ไกลออกไป

แข็งแกร่งมาก

สือหย่งตะลึงพลังที่มนุษย์จักรกลยักษ์ใช้ออกแข็งแกร่งมากทำให้เขาต้องการเทิดทูนและคุกเข่าให้เขา เขาออกจากบ้านท่องเที่ยวไปทั่วโลกและเห็นกองทหารรักษาการณ์และผู้นำทหารระดับสูงมาทุกรูปแบบ แต่ไม่มีใครมีความแข็งแกร่งเทียบได้กับเทพสงคราม!

ที่ตามมาหลังจากยิงกระสุนแสงออกไปแล้ว  รัศมีแสงรอบตัวมนุษย์จักรกลยักษ์จางลงอย่างเห็นได้ชัด  สือหย่งสามารถเห็นได้ชัดเจนมากขึ้นและหน้าของเขายิ่งตกใจอย่างหนัก

เป็นร่างที่ใหญ่โตและทรงพลังมาก

เขาเคยเห็นอาวุธจักรกลที่เลิศหรูประณีตมาก่อนเทียบกับอาวุธจักรสีฟ้าประณีตสวยงามด้านหน้าของเขาแล้ว อาวุธจักรกลเหล่านั้นเหมือนเศษกระป๋องน่าเกลียดมาก

เขาไม่กล้าคิดว่าคนสำคัญนี้มาจากที่ใดถึงได้มีคุณสมบัติได้ขับขี่อาวุธจักรกลที่สวยงามอย่างนี้

“เยี่ยมมาก อีกครั้งหนึ่ง”

“จากนี้ไป รักษาจังหวะเอาไว้”

เสียงของมนุษย์ดังก้องออกมาปลุกสือหย่งให้ตื่นจากภวังค์ จากนั้นเขาสังเกตว่าคนที่อยู่ในกองรักษาการณ์เบานี้แท้จริงก็คือชาวบ้านในหมู่บ้านหญ้าแดงนั่นเอง!

ไม่มีทาง....

สือหย่งรู้สึกเหมือนกับว่าความรู้ทั้งหมดที่เขามีเกี่ยวกับโลกกำลังถล่มทลายลง  เป็นไปได้ยังไงที่ชาวบ้านทุกคนจะสร้างแนวรบเช่นนั้นได้?  นี่ต้องเป็นภาพลวงตา... เป็นไปได้ยังไง...

เดี๋ยวก่อน!

พวกเขากำลังสู้กับบางอย่าง....

สือหย่งสั่นอาวุธจักรกลทำให้เขาตกตะลึงเกินไปจนเขาลืมเรื่องที่สำคัญที่สุด  คลื่นน้ำเงิน!  ชาวบ้านบางทีกำลังสู้กับคลื่นน้ำเงิน! เป็นไปได้ไหมว่าชาวบ้านหญ้าแดงพบกับคลื่นน้ำเงินแล้ว?

สือหย่งสูดหายใจลึกและบังคับตนเองให้ใจเย็นแล้วตะโกน  “ไปดูกัน!”

สมาชิกรอบตัวเขาหน้าซีดขาวและขาไม่มีแรง เมื่อเห็นว่าสือหย่งไม่สนใจพวกเขาและรวบรวมความกล้าได้ก่อนจะวิ่งไปที่หมู่บ้านหญ้าแดง

แต่เส้นทางที่เขาเลือกไม่ได้ตรงเข้าไปที่ด้านหน้าหมู่บ้านหญ้าแดง  แต่อ้อมไปเข้าด้านข้างแทน

เมื่อเขาเข้าไปใกล้หมู่บ้านหญ้าแดง เขารู้สึกเหมือนกับว่าเครื่องจักรกลบนฟ้ามองมาทางเขาและร่างของเขาชะงักค้างทันทีใจของเขาโหวงเหวงว่างเปล่า

เขารู้สึกว่าหลังจากผ่านไปสิบวินาที หัวใจของเขาสั่น

แค่เพียงชำเลืองมอง แต่ก็ให้ความรู้สึกกดดันที่น่ากลัว..

สือหย่งกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก  เขาไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองดูจักรกลเขาเดินไปรอบๆ หมู่บ้านหญ้าแดงอย่างระมัดระวังเพื่อป้องกันการเข้าใจผิดเขาทอดระยะห่างจากหมู่บ้าน

เมื่อเขาทอดสายตาไปเบื้องล่างมือของเขาเย็นเฉียบและหน้าของเขาไร้สีเลือด

คลื่นน้ำเงิน!

คลื่นน้ำเงินไม่เห็นที่สุดทำให้ผู้คนรู้สึกสิ้นหวัง  ต่อหน้าคนแคระน้ำเงินมากมายมหาศาลพลังของแต่ละคนไม่พอและไม่สำคัญอย่างแน่นอน

เขาเกือบจะหันหลังวิ่งหนีแล้ว คลื่นน้ำเงินที่น่ากลัวไม่ใช่สิ่งที่เมืองเป่ากวงเคยต่อต้านมาก่อน

หนี!

นั่นคือคำเดียวที่อยู่ในใจของสือหย่ง  แต่หลังจากนั้นความรู้สึกละอายใจรุนแรงก็ท่วมเข้ามาในใจของเขา  คนอื่นกำลังต่อสู้กับคลื่นน้ำเงิน  แต่ข้ากลับคิดได้เรื่องเดียวคือวิ่งหนี...ช่างน่าอายเกินไปแล้ว!

สือหย่งหลับตาและสูดหายใจลึกสองสามครั้ง  หลังจากสงบจิตใจตนเองลงได้  เขาลืมตาอีกครั้งและประเมินสถานการณ์รบทั้งหมด

เขาต้องการดูว่าพวกเขารับมือกับคลื่นน้ำเงินอย่างไรและบางทีพวกเขายังจำเป็นต้องช่วยป้องกันเมืองเป่ากวง ปกป้องครอบครัวคือหัวใจของภารกิจกองทหารรักษาการณ์เมืองเป่ากวง ถ้าพวกเขาไม่มีแม้แต่ความพยายามปกป้องพวกเขาและหนีไปพวกเขาจะหันกลับไปสู้หน้าครอบครัวและญาติพี่น้องเหมือนก่อนได้ยังไง?

เขามองดูอย่างระมัดระวัง

แต่เมื่อสายตาของเขามองดูร่างหนึ่งที่อยู่ที่ท่ามกลางคลื่นน้ำเงินเขาอดสูดหายใจหนาวเหน็บไม่ได้

คนเถื่อนหรือนั่น

บุรุษคนหนึ่งเหมือนดาวตกเดี๋ยวพุ่งขึ้นเดี๋ยวตกลงพร้อมกับลูกตุ้มที่ถืออยู่  เหมือนกับว่าเป็นของเล่นชิ้นหนึ่งด้วยมีดทั้งหมดที่อยู่ในนั้น ทำให้ดูเหมือนเครื่องปั่นเนื้อ  วิธีต่อสู้ของเขาแปลกประหลาดมาก กระโดดขึ้นลงเหมือนกบทุกครั้งที่โดดลงมาจะมีเลือดเนื้อสาดกระจายเสียงร้องโหยหวน

ไม่มีคนแคระน้ำเงินแม้แต่คนเดียวที่สามารถเข้าไปใกล้เขาได้ และหอกทั้งหมดพุ่งใส่รอบตัวเขาเหมือนกับห่าฝน แต่เมื่อเผชิญกับสายลมที่เกิดขึ้นจากเครื่องบดเนื้อของเหล่านั้นก็เป็นเหมือนกิ่งไม้อ่อนบางและแตกหักเสียหายหมด

ไม่ว่าตรงที่ใดที่เขาโดดลงไปก็จะกลายเป็นพื้นที่ยุ่งเหยิงและไม่มีใครรอด

ทัพหน้าของคนแคระน้ำเงินแตกกระจายและควบคุมไม่ได้  เสียงระเบิดแตกกระจายเหมือนเป็นตัวช่วยสนับสนุนและบุรุษที่เหมือนสัตว์ป่าผู้นั้นอยู่ในพื้นที่ที่ยุ่งเหยิง

แข็งแกร่งมาก...

สือหย่งตะลึงไปหมด

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด