ตอนที่ 561 - ทักษะแฝงเร้นเกลียดชัง
ทุกคนมองดูเป่าเอ๋อ
ตอนแรกทุกคนคิดว่านางคงก่อเรื่องยุ่งยากทำลายดอกของกระเช้าสมปรารถนา อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขาได้เห็นสีหน้าของเย่ว์หยาง ดูเหมือนว่าความปรารถนาของเป่าเอ๋อถูกปลดปล่อยออกมาจนปลุกนางฟ้านักรบขึ้น และทุกคนจำได้ทันทีว่าเป่าเอ๋อมีโชคดีมาก
เป่าเอ๋อสู้ได้ไม่ดี แต่นางมีโชคเต็มร้อย
จุดนี้ทุกคนรู้จักเป็นอย่างดี
เป็นไปได้ไหมว่าสาวน้อยผู้มีโชคนี้ตั้งความปรารถนาได้สำเร็จโดยบังเอิญ ดังนั้นจึงทำให้นางฟ้านักรบตื่นขึ้นมา?
“ตอนนั้นดูเหมือนว่าข้ากำลังคุยกับพี่หลิวเย่ อา… ข้า ข้าจำไม่ได้จริงๆ” เป่าเอ๋อไม่สามารถพูดอะไรได้ต่อเพราะนางลืมเรื่องของนางเองไปแล้ว สิ่งเดียวที่นางจำได้ก็คือช่วงเวลาที่นางพูดจบดอกไม้ก็เปล่งแสงและหายไปเปลี่ยนเป็นแสงรัศมี และนางฟ้านักรบที่ด้านหลังของนางก็ตื่นขึ้นและเปลี่ยนลักษณะของตนเอง นางตกใจจนหัวใจแทบกระดอน เป็นเรื่องที่แปลก หากเป่าเอ๋อยังจำสิ่งที่นางพูดได้ในสถานการณ์เช่นนั้น!
“จบกัน!” เย่คงและคนอื่นๆ รู้สึกปวดหัวทันที
“เจ้าคิดดูดีๆ เรื่องนี้สำคัญมาก…” เย่ว์หยางต้องการรู้เรื่องที่เกิดขึ้น เพื่อที่ว่าเขาจะสามารถค้นหาเคล็ดลับตั้งความปรารถนากับดอกกระเช้าสมปรารถนา กระเช้าสมปรารถนาไม่เคยเหี่ยวแห้งเลย และยังสามารถใช้ได้อีกครั้งในสามปีข้างหน้า ถ้าเขาสามารถหาวิธีตั้งความปรารถนาได้ เขาจะรุ่งเรืองได้จริงๆ
“ข้าจำไม่ได้จริงๆ…” เป่าเอ๋อเอียงคอและคิดอยู่นาน แต่ในใจนางว่างเปล่าไม่มีอะไร
“นายท่าน, บ่าวจำคำที่น้องเป่าเอ๋อพูดได้” แม้แต่หลิวเย่ก็ยังจำไม่ได้ในช่วงเวลาสั้นๆ แต่สาวลูกครึ่งเอลฟ์สร้างความประหลาดใจให้เย่ว์หยางที่ยังจำได้
“รีบบอกข้ามา เป่าเอ๋อพูดว่าไงในตอนนั้น?” เย่ว์หยางดีใจ
“พี่หลิวเย่บอกว่า นางฟ้านักรบแต่เดิมอยู่ในระดับชั้นศักดิ์สิทธิ์ แต่นายท่านพัฒนาให้เป็นอาวุธเทพร่างมนุษย์ที่มีชีวิต ความคาดหวังของนายท่านสูงเกิน ดังนั้นนางฟ้านักรบจึงไม่อาจตื่นได้ในช่วงเวลาสั้นๆ นี้ แต่น้องเป่าเอ๋อกลับพูดว่า อาวุธเทพร่างมนุษย์จะดีแค่ไหนกันเชียว ถ้าเขาสามารถสร้างอาวุธเทพฟ้าได้ อย่างนั้นแหละถึงจะสุดยอด นางฟ้านักรบถูกโลหะปกคลุมไว้หลายชิ้น ต่อให้นางตื่นขึ้น นางก็คงไม่อาจยืนขึ้นได้หรือสู้ได้” สาวลูกครึ่งเอลฟ์เลียนแบบน้ำเสียงของเป่าเอ๋อและพูดได้เหมือนสมบูรณ์แบบ ทุกคนพยักหน้าเมื่อพวกเขาได้ยินเช่นนั้น ใช่แล้ว นั่นเป็นลีลาวิธีที่เป่าเอ๋อพูด
“….” เป่าเอ๋ออายมาก นางก้มหน้าต่ำเกรงว่าเย่ว์หยางจะทำโทษนาง
“ทำได้เยี่ยม!” คาดไม่ถึงว่าเย่ว์หยางมิเพียงแต่ไม่ทำโทษนางเท่านั้น เขาลูบศีรษะนางและกล่าว “เป่าเอ๋อ, การตั้งความปรารถนากับกระเช้าสมปรารถนาครั้งต่อไป ข้าจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้า เจ้าคือเด็กนำโชคแท้จริง”
“จริงเหรอ?” เป่าเอ๋อมีความสุขมากเมื่อนางได้ยินเช่นนั้น
นางกลัวว่าเย่ว์หยางจะไม่ได้ยินคำตอบรับของนาง ดังนั้นฉุดแขนทั้งสองของเขาและดึงหน้าของเขามาใกล้นาง จากนั้นกล่าวอย่างจริงจังและชัดเจน “ตกลง”
ก่อนที่เย่ว์หยางจะทันได้ตอบ นางหันไปอวดกับหลิวเย่และคนอื่น “ข้ามักตั้งความปรารถนาที่ดีมากอยู่เสมอ เมื่อนักพรตชั้นสูงในเผ่าเราจะทำนายด้วยดวงแก้วผลึกของนาง นางมักบอกให้ข้ายืนสวดอ้อนวอนอยู่ข้างๆ นางเสมอ”
หลิวเย่หัวเราะลั่นเมื่อได้ยินนางพูด
ความจริงทุกคนรู้เหตุผลที่นักพรตชั้นสูงบอกให้เป่าเอ๋อยืนอยู่ข้างนางและสวดอ้อนวอนจริงจังเมื่อยามที่นางทำนายโชคด้วยแก้วผลึกกลม เป็นเพราะนางกลัวว่าเป่าเอ๋อจะวิ่งซุกซนและเผลอทำข้าวของแตกเสียหาย หรืออาจจะพูดอะไรผิดไปก็ได้ นั่นคือเหตุผลที่นักพรตชั้นสูงบอกให้เป่าเอ๋ออยู่ข้างๆ นาง นี่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพลังสวดอธิษฐานเลย อย่างไรก็ตาม เมื่อจะพูดว่าการตื่นขึ้นของนางฟ้านักรบที่เป่าเอ๋อมีส่วนร่วมปรารถนาอยู่ด้วย นางจะเป็นอาวุธเทพร่างมนุษย์ หรือว่าเป็นอาวุธเทพฟ้ากันแน่?
นอกจากนี้ความแตกต่างระหว่างอาวุธเทพร่างมนุษย์กับอาวุธเทพฟ้าเป็นเช่นไรกันแน่?
อาวุธเทพร่างมนุษย์ก็คืออาวุธเทพที่มีร่างเหมือนกับมนุษย์นั่นเอง
นั่นคืออสูรชนิดพิเศษที่มีชีวิตและสามารถแปลงร่างเป็นมนุษย์ได้
อสูรรูปแบบพิเศษนี้จะเป็นอสูรระดับศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างน้อย อาวุธเทพร่างมนุษย์สามารถเรียนรู้และเติบโตได้เหมือนมนุษย์ มันสามารถแปลงร่างเป็นอาวุธที่เจ้านายต้องการใช้ ตอนแรกอาจจะยังอ่อนแอ แต่หลังเติบโตกล้าแข็งได้ระยะเวลาหนึ่ง ก็จะน่ากลัวยิ่งกว่าอาวุธหรือสมบัติชั้นเทพจริงๆ เพราะอาวุธเทพร่างมนุษย์ก็คือสิ่งประดิษฐ์เทพที่มีร่างเป็นมนุษย์ ที่จะไม่หยุดเติบโตกล้าแข็ง
ทั่วทั้งหอทงเทียนรู้ว่ามีแต่เพียงจื้อจุนเท่านั้นที่มีอาวุธเทพร่างมนุษย์อยู่ตนหนึ่ง
อาวุธเทพร่างมนุษย์ที่จื้อจุนครอบครองก็คือนางฟ้าปีกโลหิต
นางฟ้าปีกโลหิตยังห่างจากขีดจำกัดศักยภาพของนางอยู่มากนัก แต่สภาพปัจจุบันของนางหลังจากแปลงร่างเป็นอาวุธเทพให้จื้อจุนกวัดแกว่งฟาดฟันก็ยังสามารถฆ่านักรบปราณฟ้าระดับหกได้…จากที่เห็นนี้ พลังของอาวุธเทพร่างมนุษย์นั้นน่ากลัวมากจริงๆ เย่ว์หยางยังไม่มีอาวุธเทพร่างมนุษย์ แต่เย่ว์หยางกลับมีอาวุธเทพที่คล้ายคลึงกันในรูปแบบที่มีพลังพิเศษยิ่งกว่า
นั่นคืออสูรทงเทียนแห่งหอทงเทียนนั่นเอง หรืออสูรทองตัวน้อยที่เย่ว์หยางไม่เคยตรวจสอบมันได้เลย
อสูรทองน้อยที่ลึกลับไม่ใช่อาวุธเทพร่างมนุษย์อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม มันจัดอยู่ในประเภทอาวุธเทพร่างอสูรหรืออาจเป็นอาวุธเทพสวรรค์ในตำนานซึ่งถือว่าเหนือกว่าอาวุธเทพได้กระมัง?
เย่ว์หยางไม่อาจปักใจในข้อสันนิษฐานนี้ได้
อาวุธเทพสมบัติโบราณนั้นแบ่งออกเป็นสามชนิดคือ อาวุธเทพร่างมนุษย์, อาวุธเทพดินและอาวุธเทพฟ้า ในที่สุด เป็นหญิงงามอู๋เหินที่พบคำอธิบายจากบันทึกโบราณในหอโบราณ เมื่อหนึ่งหมื่นปีที่แล้ว นักรบหลายคนในทวีปมังกรทะยานมีอาวุธเทพร่างมนุษย์ ยิ่งกว่านั้นพวกเขาเกือบทุกคนฝึกฝนอาวุธเทพร่างมนุษย์เหมือนกับฝึกอสูรพิทักษ์ที่ล้ำค่า ในอดีตไกลโพ้นนั้น กล่าวกันว่าพวกนักรบขอเพียงครอบครองอาวุธเทพฟ้าก็สามารถทำลายได้ทั้งโลกและสวรรค์ได้ อย่างไรก็ตามอาวุธเทพฟ้าเหล่านี้เห็นกันได้ยาก แม้แต่ในสมัยโบราณก็ตาม อาวุธเทพฟ้าและอาวุธเทพดินจะแตกต่างจากอาวุธเทพร่างมนุษย์ อาวุธเทพฟ้าถือกำเนิดมาและมีปณิธานเป็นของตัวเอง ไม่มีทางที่จะผลิตสร้างออกมาได้…
(ลักษณะการแบ่งคล้ายๆ ของพวกวังมารที่แบ่งเป็น มารมนุษย์, มารดิน, มารฟ้า)
อาวุธเทพดินจะแข็งแกร่งมากทันทีที่ถูกสร้างขึ้นมา แต่เติบโตได้ช้ามาก ยิ่งกว่านั้น เพราะมันมีร่างเป็นอสูร ศักยภาพของมันจึงเติบโตอย่างมีข้อจำกัด
อาวุธเทพดินมีจุดอ่อนที่ใหญ่ที่สุดก็คือมันไม่สามารถทำสัญญากับคัมภีร์อัญเชิญได้ตลอดชีวิต
ในครั้งโบราณกาล นักรบจะนิยมใช้อาวุธเทพดินเป็นพาหนะของพวกเขา
ตัวอย่างเช่น ถ้านางฟ้านักรบถูกสร้างขึ้นมาโดยไม่มีชีวิตและเป็นอสูรหุ่นระดับศักดิ์สิทธิ์ล้วนๆ ก็อาจถูกมองว่าเป็นอาวุธเทพดินระดับพื้นฐานแต่น่ากลัวที่สุด
แน่นอน นางฟ้านักรบที่เย่ว์หยางสร้างขึ้นก็เพื่อเติมเต็มปณิธานข้อที่สามของเย่ว์กงมีชีวิต, มีปัญญาและมีความคิด ดังนั้น นางจึงแตกต่าง นางฟ้านักรบชนิดนี้เหนือกว่าหุ่นระดับศักดิ์สิทธิ์ บางทีอาจจะถึงระดับเทพก็เป็นได้ ทั้งนี้เพราะนางฟ้านักรบเช่นนั้นมีพลังแปลงร่างเป็นมนุษย์และนางสามารถเรียนรู้และเติบโต แม้ว่าพลังของนางจะยังไม่พอ นางก็ยังสามารถเรียนรู้และค่อยๆ แข็งแกร่งได้ พลังดั้งเดิมของอาวุธเทพร่างมนุษย์จะอ่อนแอมากกว่าอาวุธเทพดินในตอนแรก แต่ศักยภาพจะเพิ่มมากกว่าและเติบโตได้เร็วกว่า ตราบใดที่พวกเขาฝึกฝนได้ดี บางทีพวกเขาอาจเหนือกว่าอาวุธเทพดินก็ได้
นี่คือเหตุผลที่นักรบชอบใช้อาวุธเทพร่างมนุษย์มากกว่า
สำหรับอาวุธเทพฟ้า พวกเขาได้แต่ตั้งความหวัง แต่ไม่สามารถครอบครองได้…
“นางฟ้านักรบนี้คืออาวุธเทพฟ้าแน่นอน!” เจ้าอ้วนไห่ไม่กล้าเข้าไปใกล้ แต่ยังคอยก่อกวนอยู่หน้าประตูพยายามประจบนางฟ้านักรบ
“คัมภีร์อัญเชิญ, เปิดคัมภีร์ของเจ้าให้ข้าดูหน่อย” เย่ว์หยางบอกนางฟ้านักรบที่นั่งตักเขาอยู่ให้เรียกคัมภีร์อัญเชิญออกมา
“????” นางฟ้านักรบมองดูเย่ว์หยาง
หลังจากนางเห็นท่าทางของเย่ว์หยาง ในที่สุดนางก็เข้าใจ จากนั้นนางเหยียดมือเรียกคัมภีร์อัญเชิญ
นางไม่ต้องบริกรรมอะไรทั้งนั้น
ก็เรียกคัมภีร์อัญเชิญออกมาได้ทันที
นอกจากนี้ ทันทีที่คัมภีร์อัญเชิญถูกเรียกออกมา ทุกคนตกใจปากอ้าค้าง
คัมภีร์ที่นางฟ้านักรบเรียกออกมาเป็นคัมภีร์อัญเชิญระดับทอง ไม่ต้องเริ่มยกระดับจากคัมภีร์ทองแดงและเงิน… เจ้าอ้วนไห่เกือบร้องไห้, เย่คงและพี่น้องตระกูลหลี่น้ำตาคลอเช่นกัน พวกเขาเป็นมนุษย์ แต่พวกเขาไม่สามารถเทียบได้กับนางฟ้านักรบ นางฟ้านักรบนี้นับว่าพิเศษมากจริงๆ นางยังฉลาดยิ่งกว่ามนุษย์เสียอีก!
เทียบกับอาการตื่นตระหนกตกใจของทุกคนแล้ว เย่ว์หยางยังใจเย็นอยู่มาก
เมื่อเสี่ยวเหวินหลีถือกำเนิดตอนแรก เธอก็มีคัมภีร์เพชรอยู่เล่มหนึ่งแล้ว นางฟ้านักรบมีคัมภีร์อัญเชิญชั้นทองก็ยังไม่น่าประทับใจเท่าใด
เย่ว์หยางไม่เคยโอ้อวดความลับของเสี่ยวเหวินหลี มิฉะนั้นเจ้าอ้วนไห่และคนอื่นๆ คงได้ตกใจตายเป็นแน่
ในหน้าแรกของคัมภีร์อัญเชิญ มีภาพเหมือนของนางฟ้านักรบ
ศีรษะของนางเปลี่ยนแปลงต่อเนื่อง บางครั้งก็ดูเหมือนกับซวงเอ๋อในรูปลักษณ์ชีวิตปกติ บางครั้งก็เป็นเหมือนปิงเอ๋อในรูปลักษณ์แทนสติปัญญา บางครั้งก็เป็นเหมือนเย่ว์หวี่ในรูปลักษณ์พร้อมรบ ทุกคนปวดหัวไปตามๆ กันเมื่อเห็นความเปลี่ยนแปลงต่อเนื่องนี้
ดูข้างล่าง มีคำอธิบายทักษะแฝงเร้นและอสูรพิทักษ์ของนาง
ทักษะแฝงเร้นเกลียดชัง : เมื่อทักษะแฝงเร้นนี้ถูกใช้งาน เจ้าของจะได้รับพลังเกลียดชังเพิ่มขึ้นสิบเท่าและเข้าสู่สภาวะคลั่ง ขณะเดียวกันเจ้าของพลังจะได้รับภูมิคุ้มกันผลกระทบด้านลบของพลังทั้งหมด เป้าหมายพลังเกลียดชังจะถูกจับเป้าโดยธนูแห่งความชัง และจะไม่สามารถยกเลิกได้เว้นแต่เจ้าของพลังจะตาย เป้าหมายความเกลียดชังจะต้องสัมพันธ์กับระดับพลังด้วย ระดับปัจจุบันของทักษะนี้คือ ระดับหนึ่ง
“……” คนที่มุงดูพูดไม่ออก
ทักษะแฝงเร้นเกลียดชังนี้น่ากลัวมากจริงๆ
พวกเขาคิดถึงเรื่องนี้แล้ว ถ้านางฟ้านักรบระดับปราณฟ้าใช้พลังเกลียดชังของนางสิบเท่าและเข้าสู่สภาวะคลั่ง ขณะเดียวกันก็ได้รับการคุ้มกันต่อความอ่อนแอ, ความสับสน, ตาบอด, พิษและผลร้ายอื่นๆ และโจมตีศัตรูโดยไม่มีการควบคุมได้ แล้วใครจะหยุดนางได้? ที่แย่ที่สุดก็คือ พลังเกลียดชังนี้ไม่สามารถคลี่คลายได้ ความหวังอย่างเดียวก็คือหวังว่าช่วงเวลาจะสั้น ถ้าทักษะแฝงเร้นเกลียดชังนี้ถึงในระดับสูงสุดและได้ช่วงเวลาทักษะที่ยาวนานที่สุด ใครก็ตามที่ทำให้นางฟ้านักรบโกรธก็เท่ากับหาที่ตาย…
เจ้าอ้วนไห่หลั่งเหงื่อเต็มหน้า โชคดีที่เขาไม่ได้ถูกธนูแห่งความชังของนางฟ้านักรบจับเป้า มิฉะนั้น แม้แต่เย่ว์หยางก็คงไม่สามารถช่วยเขาได้
เมื่อเขานึกถึงเรื่องนี้แล้ว ก็ให้รู้สึกเข่าอ่อนในทันใด
เย่คงและคนอื่นคิดไม่ต่างจากเจ้าอ้วนไห่เท่าใดนัก พวกเขาเริ่มมองดูอสูรพิทักษ์ของนางฟ้านักรบทันที
เทพีความหวัง : อสูรร่างมนุษย์ชนิดพิเศษ ชั้นทองระดับหนึ่ง อสูรพิทักษ์รูปร่างเหมือนนางฟ้า ทักษะพิเศษ : บิน กู่ร้อง ความหวัง
อสูรพิทักษ์นี้ดูจากภายนอกอาจไม่ค่อยแข็งแกร่งนัก มีแต่เพียงเย่ว์หยางที่มีพลังจักษุญาณทิพย์มองเห็นพลังที่น่ากลัวของอสูรพิทักษ์นี้ ถ้าเทพีแห่งความหวังนี้ใช้ร่วมกับทักษะแฝงเร้นเกลียดชังและนางฟ้านักรบเรียกออกมาใช้ได้ นางจะแข็งแกร่งจนทำให้ใครๆ พูดไม่ออกกันเลยทีเดียว
ตัวอย่างเช่น ทักษะพิเศษกู่ร้องซึ่งดูเหมือนจะเป็นทักษะธรรมดาๆ
เย่ว์หยางและคนอื่นๆ ไม่สามารถเห็นเอกลักษณ์ของมันได้
พอเย่ว์หยางรู้ว่าทักษะพิเศษกู่ร้องนี้ช่วยให้พันธมิตรทุกคนผู้ได้ยินเสียงกู่จะมีพลังต่อสู้เพิ่มร้อยเปอร์เซนต์ ทักษะนี้จะถูกปลดปล่อยได้มากน้อยขึ้นอยู่กับระดับของเทพีแห่งความหวัง เพิ่มพลังต่อสู้ได้ถึงร้อยเปอร์เซ็นต์? ทักษะนี้จะทำให้ศัตรูของพวกเขาร้องไห้อย่างช่วยไม่ได้แน่… อีกทักษะหนึ่ง ความหวัง ยังน่ากลัวยิ่งกว่า ทักษะความหวังสามารถลบผลกระทบร้ายทุกอย่างที่มีต่อมิตรสหายร่วมรบได้ในรวดเดียว สามารถคืนพลังของเป้าหมายให้กลับมาอยู่ในสภาพพร้อมขีดสุดได้ หรือจะเพิ่มพลังรบของพันธมิตรขึ้นอีกเท่าตัวก็ยังได้ สิ่งที่ทำให้เย่ว์หยางพูดไม่ออกจริงๆ ก็คือพลังความหวังของนางฟ้านักรบนี้สามารถใช้ได้วันละสามครั้ง
มีอสูรพิทักษ์ที่ทรงพลังคอยช่วยเหลือนาง นางฟ้านักรบมีความน่ากลัวก็คงจะไม่แปลก
“พลังกู่ร้องหมายความว่ายังไง?” เจ้าอ้วนไห่ไม่เข้าใจ
“พลังกู่ร้องเป็นทักษะเสริมพลัง แต่จะเสริมพลังได้มากขนาดไหนขึ้นอยู่กับระดับอสูร…” เจ้าอ้วนไห่ต้องการจะก้าวเข้าไปดูใกล้ๆ แต่เมื่อเย่ว์หยางพูดเช่นนี้ เขาสะดุดอยู่หน้าประตูเสียงดังป้าบ ความจริงเย่ว์หยางปิดบังความจริงที่ว่าการเสริมพลังจะส่งผลกับทุกคน ยิ่งกว่านั้นยังมีความสัมพันธ์กับระดับทักษะ ยิ่งระดับสูง ประสิทธิภาพในการเสริมพลังก็สูงตาม ตามที่เย่ว์หยางคาดการณ์ เมื่อเทพีแห่งความหวังถึงระดับศักดิ์สิทธิ์ อัตราส่วนการเสริมพลังอาจจะมากกว่าร้อยเปอร์เซ็นต์ และอาจมากเป็นทวีคูณก็ได้
“แม้ว่าทักษะแฝงเร้นของเย่คงนับว่าไม่เลว แต่จริงๆ แล้วไม่สามารถเทียบได้กับทักษะแฝงเร้นของนางฟ้านักรบได้” องค์ชายเทียนหลัวเทียบทักษะของพวกเขาและหัวเราะลั่น
“อย่าล้อข้าอีกเลย…” เย่คงได้แต่ส่ายศีรษะฝืนยิ้ม
“นางฟ้านักรบน่ารักมากและแข็งแกร่งด้วย ทำไมทุกคนไม่คิดจะตั้งชื่อดีๆ ให้นางบ้าง” อี้หนานคิดว่าเรื่องที่สำคัญที่ควรทำตอนนี้ก็คือตั้งชื่อนางฟ้านักรบ
“ข้าเลือกชื่อไว้นานแล้ว” เย่ว์หยางมักเป็นจอมบงการเสมอ เขาบอกว่าเขาคิดชื่อเอาไว้นานแล้ว”
“แล้วจะเรียกชื่อนางว่ายังไง?” ทุกคนสงสัยมาก
ต้องรู้ไว้ว่าแม้เย่ว์หยางจะเป็นอัจฉริยะในด้านการฝึกฝน แต่พรสวรรค์ในการตั้งชื่อของเขาแค่ระดับปานกลาง ตั้งชื่อดาบจันทร์เสี้ยวและดาบวิเศษฮุยจินก็ยังนับว่าไม่เลว แต่เมื่อมองดูฮุยไท่หลาง, อาหง, ตั่วตั่ว, อาหมันและชื่ออสูรอื่นๆ แล้ว จากมุมมองนี้จะเห็นได้ว่าความสามารถในการตั้งชื่อของเย่ว์หยางยังเป็นระดับธรรมดา..
เขาจะตั้งชื่อให้นางฟ้านักรบว่าไงกันแน่?
******************