ตอนที่แล้วตอนที่ 558 - แรงบันดาลใจแบบ พี่น้องหญิงตระกูลเย่ว์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 560 - เราต้องทำลายสิ่งมีชีวิตข้างหน้าเราหรือไม่?

ตอนที่ 559 - ตื่นขึ้นเอง?


แม้ว่าร่างทั้งสามแบบของนางฟ้านักรบจะสำเร็จในดินแดนพลังงานของหยกสุบิน แต่เย่ว์หยางไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นความสำเร็จหรือไม่

เขารออยู่ในดินแดนภายในถึงสิบนาที หลังจากยืนยันว่าสำเร็จแล้ว จากนั้นเขาจึงตื่นขึ้น ปกติความแตกต่างเรื่องเวลา 10 นาทีในดินแดนของหยกสุบินจะเท่ากับ 10 ชั่วโมง ขณะที่เขาตื่นขึ้น เขาพบว่ามีกลุ่มคนนั่งล้อมรอบตัวเขา ขณะที่พวกเขาพากันพูดสรรเสริญ

“นางฟ้านักรบใหม่ดูเหมือนน้องซวงเอ๋อหน่อยๆ นะ” เป่าเอ๋อกล่าว

“แม้ว่าเขาจะเป็นคนเข้มงวดตามปกติ แต่เขาก็เป็นพี่ชายที่ดีแน่นอน” หลิวเย่ประเมิน

“ความจริงนายท่านสุภาพนุ่มนวลมาก…” สาวลูกครึ่งเอลฟ์ปกป้อง

“แต่ว่า ทำไมนางฟ้านักรบนี้ถึงไม่เคลื่อนไหวล่ะ?”

“เป็นไปได้ไหมว่าเราต้องรอให้มันตื่นขึ้นเอง?”

เสียงกระซิบคุยกันทำให้เย่ว์หยางปวดหัว ใครอนุญาตให้พวกนางเข้ามาในห้องค้นคว้าของเขาเอง? พี่หวี่ไม่ได้เฝ้าอยู่ข้างนอกหรือ?

หลังจากลุกขึ้นนั่ง เขาเตรียมจะไล่พวกนางออกไป แต่เป่าเอ่อทักกลับก่อน “ท่านฟื้นแล้วเหรอ? ท่านหลับสนิทจริงๆ นะ แค่งีบเดียวก็หลับยาวถึง 20 ชั่วโมง ทุกคนเป็นห่วงกันมาก”

20 ชั่วโมง?

เย่ว์หยางตะลึง เขาเข้าไปในดินแดนหยกสุบินเพียง 20 นาทีเองไม่ใช่หรือ?

เมื่อเขามองดูหยกสุบินในมือของเขา หยกสุบินไม่ได้รับความเสียหายเลยแม้แต่น้อย แต่เมื่อเขาขยับมือ หยกสุบินก็กลายเป็นผงธุลีทันที หยกสุบินพลังเหือดหายไปหมดสิ้น วัสดุต่างๆ ที่เขาวางไว้รอบตัวหายไปเช่นกันและแทนที่ด้วยร่างซวงเอ๋อ ต้องใช้เวลาครู่หนึ่งก่อนที่เย่ว์หยางจะตระหนักได้ว่านี่ไม่ใช่ซวงเอ๋อ แต่เป็นนางฟ้านักรบที่มีชีวิต

นางฟ้านักรบแปรเปลี่ยนสภาพเสร็จแล้วและกลับกลายคล้ายกับมนุษย์

มีเพียงสิ่งที่แตกต่างก็คือมีความสามารถในการเปลี่ยนร่างให้สอดคล้องกับการเรียนรู้และต่อสู้

ทุกอย่างเป็นไปตามความปรารถนาของเย่ว์หยาง หลังจากก้มลงเพื่อฟังเสียงเต้นของหัวใจและลมหายใจลึกของนาง เย่ว์หยางตื่นเต้นอย่างอธิบายไม่ถูก ความรู้สึกถึงความสำเร็จเป็นประวัติการณ์ผุดขึ้นในอกเขา ในที่สุดเขาก็สร้างนางฟ้านักรบที่มีชีวิต, มีความรู้สึกและมีความรู้ได้สำเร็จด้วยความคิดของตนเอง

ตอนนี้เขาทำปณิธานที่น่าอัศจรรย์ข้อที่สามของเย่ว์กงได้สำเร็จแล้ว

เย่ว์หยางเป็นเหมือนขึ้นสวรรค์เก้าชั้นฟ้าและอยากจะแบ่งปันความรู้สึกนี้ให้ใครบางคน แต่ก็พบว่าเย่ว์หวี่ไปแล้ว

“เอ๋, นางไปไหน?”

นี่คือนางฟ้านักรบที่เขาค้นคว้าร่วมกับนาง นางไปไหนในช่วงเวลาที่สำคัญแบบนี้?

เย่ว์หยางลุกขึ้นเตรียมไปตามหาตัวเย่ว์หวี่เพื่อแบ่งปันความดีใจ อย่างไรก็ตาม เป่าเอ๋อฉุดเขากลับมา และชี้ไปที่นางฟ้านักรบ ถามอย่างสงสัย “ทำไมนางฟ้านักรบถึงไม่ตื่น? ทั้งที่ท่านตื่นขึ้นแล้ว แต่นางฟ้านักรบก็ยังไม่ตื่นขึ้นพร้อมกันหรอกหรือ?”

เย่ว์หยางก็ยังคงงงกับเรื่องนี้ นางฟ้านักรบคือสิ่งที่ไม่ต้องหลับตลอดเวลานี่

นางสามารถหลับได้เหมือนมนุษย์ แต่นั่นเป็นเพียงการลอกเลียนแบบมนุษย์ นางไม่จำเป็นต้องทำ นางน่าจะสามารถเปลี่ยนแปลงได้ระหว่างการมีชีวิต, การเรียนรู้และรูปแบบการต่อสู้เมื่อใดก็ได้ ถ้าพลังนางหมด นางก็ยังไม่รู้สึกเหนื่อย เย่ว์หยางยื่นมือลูบแก้มของนางฟ้านักรบเบาๆ เขาถ่ายพลังปราณไร้ลักษณ์เข้าไปตรวจสอบเส้นปราณของนาง เขาพบว่าทางเดินปราณของนางเหมือนกับซวงเอ๋อ เพียงสิ่งเดียวที่แตกต่างก็คือหัวใจนางสร้างมาจากหัวใจไตตันที่แข็งแกร่งและเต็มไปด้วยเลือดเทพอยู่ภายใน

“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน” เย่ว์หยางพยายามใช้ความปรารถนาของตนเองปลุกนางฟ้านักรบ แต่ก็พบว่าไม่มีอาการสนองตอบ

ภายในตัวนางฟ้านักรบ มีปณิธานที่เฉพาะตัวมากดูเหมือนจะอยู่ในสภาวะยุ่งเหยิง

มันแตกต่างจากเวลาที่เมื่อมังกรไร้เขาเจี้ยงอิงอยู่ในสภาวะยุ่งเหยิง เย่ว์หยางรู้สึกว่ามีบางอย่างขาดหายไป แต่เขาไม่มีวิธีจับจุดแรงบันดาลใจในตัวเขา

ขาดอะไรไปกันแน่? เย่ว์หยางเริ่มไตร่ตรองถึงปัญหา ไม่มีอะไรผิดปกติในร่างนาง ร่างของนางดีกว่าที่คิดเสียอีก นางได้รับการออกแบบได้เกินมาตรฐานแล้ว คล้ายคลึงกับมนุษย์และถึงระดับสิ่งประดิษฐ์ชั้นเทพ กล่าวอีกอยางหนึ่งก็คือไม่ใช่จักรกลแต่เป็นตุ๊กตารบ (หุ่นแอนดรอยด์) ที่มีชีวิตและความคิด ร่างของนางมีหัวใจไตตันเป็นแก่น, เลือดเทพและเทพเหล็กไหลดาวตกไหลเวียนอยู่ในสายเลือด วงเวทอักษรรูนทั้งสามผสานเข้าด้วยกันเป็นอาวุธที่ไม่มีที่ติ

นางฟ้านักรบที่สมบูรณ์แบบอย่างนี้ ยังขาดอะไรอยู่อีก?

เย่ว์หยางไม่สนใจเป่าเอ๋อที่เอาแต่ยิงคำถามมากมาย และเดินออกมาหาเย่ว์หวี่ บางทีการได้คุยกับนางอาจได้แรงบันดาลใจบางอย่างก็ได้

“พี่รอง, ท่านอยู่ข้างในหรือเปล่า?” เย่ว์หยางไม่เคาะประตูก็เดินเข้าไปข้างใน เย่ว์หวี่กำลังเขียนอะไรบางอย่างลงในบันทึกประจำวันของนาง เมื่อเย่ว์หยางเข้าไป นางประหลาดใจ

“ทำไมเจ้าถึงไม่เคาะประตู? ตกใจแทบตายแล้ว!” เย่ว์หวี่เอามือทาบอกอย่างตกใจและมองเย่ว์หยางอย่างไม่สบายใจ

นางรีบผลักสมุดบันทึกของนางออกไป นี่ทำให้เย่ว์หยางสงสัยว่านางบันทึกอะไรลงไป เป็นไปได้ไหมที่จะมีบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับเขา? เย่ว์หวี่กลัวว่าเย่ว์หยางจะขโมยบันทึกของนางจึงรีบถามขึ้น “เจ้าเพิ่งตื่นเหรอ? ทำไมเจ้าถึงมาที่นี่ได้เล่า? วันนี้ ข้า ข้าเหนื่อยอยู่บ้าง กำลังเตรียมตัวพัก..” นางพยายามผลักเย่ว์หยางออกไปข้างนอกขณะที่นางกล่าว

เย่ว์หยางคว้ามือนาง “ข้าไม่ได้มาขอดูบันทึกประจำวันของท่านสักหน่อย อย่าเพิ่งผลักไสไล่ส่งได้ไหม ข้าแค่ต้องการถามอะไรบางอย่างกับท่าน”

เย่ว์หวี่ร้องด้วยความกลัวทันทีเมื่อเขาจับมือของนาง “อย่านะ อย่านะ, รีบออกไปเถอะ เดี๋ยวคนอื่นอาจจะมาที่นี่ได้ เจ้ามีอะไรจะพูดก็รีบพูดเถอะ”

“ท่านไม่สบายหรือเปล่า?” เย่ว์หยางแตะหน้าผากนาง “ไม่มีไข้ใช่ไหม?”

“หวา.. ข้าเริ่มเหนื่อยแล้ว” เย่ว์หวี่รู้สึกยินดีที่เขากังวลห่วงใยนาง แต่นางอาย เมื่อนางจำได้ว่าเขาคุ้นเคยกับร่างกายนางมากเพียงไหนและยังยืมไปเป็นแบบให้นางฟ้านักรบ ถ้าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนพบเรื่องเช่นนี้ เย่ว์หวี่ไม่รู้จะอธิบายให้นางฟังได้ยังไง สิ่งที่น่าอึดอัดที่สุดก็คือดาบนางฟ้าที่เขามอบให้นาง มีแต่นางกับนางฟ้านักรบเท่านั้นที่มี ดังนั้นอาจจะสร้างความเข้าใจผิดครั้งใหญ่ก็ได้

คงจะดีอยู่หรอกถ้ายืมร่างคนอื่นเป็นแบบ แต่ทำไมเขาต้องใช้ร่างของนางด้วย

เฮ้อ!

นี่เป็นเรื่องที่น่าขายหน้าจริงๆ

เย่ว์หวี่ลอบตัดสินใจ ตั้งแต่พรุ่งนี้ไป นางจะกลับไปที่ปราสาทตระกูลเย่ว์ หรือกลับไปที่สถาบันฉางจิงและอยู่กับอาจารย์ของนาง นางคงไม่ยอมปล่อยผ่านเรื่องนี้ ในอดีตนางลังเลใจกับเรื่องนี้ แต่ตอนนี้ นางจะไม่ยอมปล่อยผ่านอย่างแน่นอน

“อย่างนั้นท่านก็ต้องรีบพัก ท่านจะต้องมีงานหนักในอีกสองสามวันนี้!” เย่ว์หยางต้องการคุยเรื่องนางฟ้านักรบกับเย่ว์หวี่

“เสี่ยวซาน, ความจริงก็คือ…” ทันใดนั้นเย่ว์หวี่รู้สึกเศร้า นางเตรียมจะย้ายออกไปวันพรุ่งนี้ แต่บัดนี้นางก็ยังจะโกหกเขา เขามักจะปฏิบัติต่อนางอย่างอบอุ่นและทำตามกฎเกณฑ์ไม่กวนใจนาง บางทีร่างที่สามของนางฟ้านักรบเป็นเพียงภาพสะท้อนของจิตใต้สำนึกของเขาและไม่ใช่ความคิดปกติของเขา ร่างทั้งสามของนางฟ้านักรบก็คือนางเอง, ปิงเอ๋อและซวงเอ๋อ คนอื่นๆ ถือเป็นเรื่องเล็กน้อยเกินไป ดังนั้นเขาคงไม่มีความตั้งใจไม่ดีต่อพวกนาง นี่ยังคงหมายความว่าร่างทั้งสามของนางฟ้านักรบก็คือคนที่สนิทกับเขามากที่สุด

เขาไม่ได้ทำอะไรผิด และนั่นนางเพียงแต่คิดมากเกินไป

เย่ว์หวี่จำได้หลายๆ ที่นางบอกเขาไว้ก่อน ก็เพื่อจะไม่สร้างความกังวลให้เขา นางบอกว่านางจะไม่จากไปตลอดกาล

ตอนนี้ นางกับจะแสดงเจตนาว่านางกำลังจะจากเขาไปและทำร้ายจิตใจเขา… อย่างไรก็ตาม ยิ่งนางอยู่นานขึ้น จิตใจนางก็ว้าวุ่นมากขึ้น นางไม่กล้าเผชิญหน้ากับเขา

เย่ว์หยางสับสน เย่ว์หวี่ต้องการจะบอกอะไรกันแน่?

ตอนนี้ ดูเหมือนว่านางจะเศร้าและต้องการร้องไห้อย่างไม่มีเหตุผล เป็นไปได้ไหมว่าอาการบาดเจ็บของเย่ว์ซานหนักมากและชีวิตของเขาอยู่ในภาวะเสี่ยง? นี่ก็ยังไม่มีเหตุผลเพียงพอ ถ้าเย่ว์ซานยินดีให้เขาช่วย อย่างนั้นเขาก็ยินดีไปช่วยทันที เนื่องจากเขาต้องการทนทุกข์เอง เย่ว์หยางคงไม่อาจทำอะไรได้ แต่แม้ว่าอาการบาดเจ็บของเย่ว์ซานจะหนัก แต่ก็ยังไม่ถึงกับทำให้คนอย่างเขาต้องตาย

“เสี่ยวซาน….” ทันใดนั้นเย่ว์หวี่กอดเย่ว์หยางขณะที่น้ำตาเริ่มไหลเปียกชุ่มไหล่ของเขา

“เอ๋?” เย่ว์หยางยิ่งสับสนหนัก

เมื่อเย่ว์หวี่คลายมือนาง เย่ว์หยางไม่สามารถช่วยอะไรได้ ได้แต่สงสารนางหลังจากเห็นใบหน้าเปื้อนน้ำตา เขายื่นมือปาดน้ำตานางเบาๆ

เย่ว์หวี่เงยหน้าเปื้อนน้ำตาและมองหน้าเย่ว์หยางผ่านม่านน้ำตาที่พร่าเลือน

นางเตรียมจะอำลาเย่ว์หยางหลังจากกล้ำกลืนความเจ็บปวดใจ

ทันใด เสียงร้องหวาดกลัวดังออกมาจากห้องค้นคว้า

เป็นเสียงของเป่าเอ๋อ และคนอื่น!

เย่ว์หยางและเย่ว์หวี่สะดุ้ง ด้วยความเข้าใจกันดี ทั้งสองคนรีบมุ่งตรงไปที่ประตูห้องค้นคว้า ด้านซ้ายของเย่ว์หยางถือดาบวิเศษฮุยจิน ด้านขวาเย่ว์หวี่กระตุ้นการทำงานของดาบนางฟ้า ทั้งสองเข้าไปในคนหนึ่งเตรียมรุก อีกคนหนึ่งเตรียมตั้งรับ

ทั้งสองคิดว่ามีศัตรูบุกเข้ามาลักพาตัวเป่าเอ๋อ แต่ไม่เคยคิดว่าพวกเขาเข้าใจผิด

แสงสว่างเจิดจ้าฉายอยู่ภายในห้องค้นคว้าทดลอง

กลิ่นหอมที่ไม่ธรรมดาและไฟสีสันสวยงามฉายเต็มทั่วทั้งห้องค้นคว้า เกิดพลังงานที่ไม่รู้หมดสิ้นขึ้น ลำแสงที่สามารถเห็นได้ในช่วงทำสัญญากับคัมภีร์อัญเชิญฉายจากห้องขึ้นสู่ท้องฟ้า… เย่คง, เจ้าอ้วนไห่และคนอื่นๆ ที่กำลังฝึกซ้อมฝีมือกันอยู่เงยหน้ามอง พวกเขาพบว่าลำแสงที่ฉายขึ้นไปบนท้องฟ้านั้นมีความสูงมากกว่าสองร้อยเมตร พวกเขางงงันทันที

ใครทำสัญญากับคัมภีร์?

ลำแสงสูงสองร้อยเมตร? นี่ผิดธรรมดาเกินไปหรือเปล่า?

พวกเขายกเลิกการฝึก ต่างคนต่างวิ่งกลับมาอย่างบ้าคลั่ง ราวกับว่าพวกเขาโดนเลือดไก่ฉีดใส่ (ประมาณผีโดนน้ำมนต์) พวกเขาอยากรู้ว่าใครกันที่มีพรสวรรค์มากมายขนาดนั้น

ภายในห้อง เย่ว์หยางปกป้องและกันสาวลูกครึ่งเอลฟ์, เป่าเอ๋อและหลิวเย่ไว้ข้างหลังของเขา เขามองดูนางฟ้านักรบที่กำลังลอยตัวในอากาศยังคงสลับอาวุธของนางอยู่ในร่างที่สาม เขาเห็นเย่ว์หวี่อีกคนหนึ่งที่ลอยอยู่ในอากาศขณะที่มือถือคัมภีร์อัญเชิญในมือ ดาบนางฟ้าในมือนางที่ถูกเชื่อมโดยเทพเหล็กไหลดาวตกผสานเข้าในร่างของนางสำเร็จแล้ว

อย่าว่าแต่เย่ว์หยางเลย แม้แต่เป่าเอ๋อผู้ไม่รู้เรื่องตุ๊กตารบก็ยังเข้าใจว่าตอนนี้นางฟ้านักรบสำเร็จแล้ว

“ดีมากเลย, พี่หวี่ เราทำสำเร็จแล้ว นางฟ้านักรบนี้ยังทำสัญญากับคัมภีร์อัญเชิญได้ด้วยตัวเอง” เย่ว์หยางไม่อาจอดกลั้นความปลื้มใจเผลอกอดเย่ว์หวี่อย่างตื่นเต้น

“อะแฮ่ม!” เย่ว์หวี่รีบผลักเขาออกไปห่างๆ เมื่อเห็นเย่ว์หยางยังคงกอดเป่าเอ๋อและคนอื่นด้วย นางก็เข้าใจว่าเขาไม่ได้มีความคิดแบบนั้น เพียงแต่เขาสุขใจเกินไป นางจึงค่อยรู้สึกโล่งใจ อย่างไรก็ตามนางอดที่จะหน้าแดงด้วยความอายมิได้

เย่คงและพวกเข้ามาถึงโดยเร็วและเห็นเย่ว์หวี่ในกลางอากาศและเย่ว์หวี่บนพื้น

ทั้งสองมีดาบนางฟ้า ดังนั้นพวกเขาจึงไม่รู้ว่าใครตัวจริง ใครตัวปลอม

พวกเขาแทบคิดว่าพวกเขาตาฝาดไป

โชคดีที่พวกเขาจำได้เรื่องนางฟ้านักรบของเย่ว์หยางได้ ดังนั้นพวกเขาจึงเข้าใจได้ทันทีว่าเย่ว์หวี่ที่ลอยอยู่ในอากาศคือนางฟ้านักรบตัวจริง!

*******************

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด