ตอนที่ 17- 9 แปดสิบปี
ขณะที่พวกเขาคุยกันเรื่องนี้ บาลุคหัวเราะ“แต่เรื่องที่แปลกก็คือสายเลือดของข้าบริสุทธิ์มากจริงๆ เมื่อผ่านพิธีชุบตัวข้าทำให้นักรบที่คุ้มกันที่นั่นตกใจแทบแย่และผู้อาวุโสถึงกับออกมารับเอง”
“สายเลือดของท่านบริสุทธิ์มากนักหรือ?” ลินลี่ย์มองดูบาลุค
บาลุคเพิ่งอายุหกพันปี ขณะที่ตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์อยู่มานานนับปีไม่ถ้วนเป็นเรื่องแปลกประหลาดมากที่สายเลือดของบาลุคบริสุทธิ์มาก
“โดยทั่วไปแล้วลูกของบรรพบุรุษเราโดยเฉพาะในสมาชิกรุ่นที่สองและรุ่นที่สามของเผ่ามังกรฟ้าเราจะมีสายเลือดบริสุทธิ์มาก แต่คาดไม่ถึงเลยว่าสายเลือดของข้าจะเทียบได้กับรุ่นที่สอง” บาลุคไม่ปกปิดอะไรแม้แต่น้อย
รุ่นที่สองของเผ่ามังกรฟ้าก็เทียบได้กับบุตรและธิดาของมหาเทพมังกรฟ้า
ลูกของมหาเทพมังกรฟ้ามีเลือดที่บริสุทธิ์มากอยู่แล้วสมาชิกของรุ่นที่สามซึ่งมีพรสวรรค์ตามธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ก็ยังเทียบได้กับรุ่นที่สอง
แต่สำหรับรุ่นต่อมา....
บางทีในบางรุ่นจะมีอัจฉริยะปรากฏมีเลือดมังกรฟ้าที่บริสุทธิ์ แต่นี่เป็นเหตุการณ์ที่พบเจอได้ยากอย่างไรก็ตามบาลุคเป็นหนึ่งในตัวอย่างนั้น
“นี่ยังเป็นเหตุให้ผู้อาวุโสนั้นบอกเรื่องเหล่านี้ให้ตระกูลสาขาเราทราบด้วย” บาลุคกล่าว
ก็คงเป็นเช่นนั้น
ตอนนี้ลินลี่ย์เข้าใจแล้ว จนถึงตอนนี้ เขายังสงสัยว่าบาลุครู้เรื่องเหล่านี้ได้ยังไง
“ความจริง,เรื่องราวของบรรพบุรุษของเราและแปดตระกูลเหล่านั้นไม่ใช่เป็นเรื่องลับอะไร ในตระกูล, ทุกคนที่มีสายเลือดบริสุทธิ์มีศักยภาพสูงหรือเป็นระดับเทพชั้นสูงจะรู้เรื่องเหล่านี้กันทั้งนั้น” บาลุคพูดอย่างเคร่งขรึม “ที่สำคัญสงครามระหว่างเผ่าตระกูลเกิดขึ้นถี่มาก”
ลินลี่ย์พยักหน้า “ข้ารู้สึกได้เมื่อตอนเห็นทหารลาดตระเวนเหล่านั้นแล้ว”
ความเข้มงวดกวดขันและเฝ้าระวังของตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์มากยิ่งกว่าการลาดตระเวนของเกาะมิลัวร์เสียอีก
“ลินลี่ย์! พรสวรรค์ธรรมชาติของเจ้าดีกว่าข้าแน่นอน”บาลุคตาเป็นประกาย “เจ้ายังไม่ผ่านพิธีชุบตัวของบรรพบุรุษแต่เจ้าก็แข็งแกร่งทรงพลังมากเสียแล้ว หลังจากเจ้าผ่านพิธีชุบตัวแล้ว เจ้าจะได้รับความรู้แจ้งกฎธรรมชาติธาตุน้ำ”
“รู้แจ้งกฎธรรมชาติธาตุน้ำ?” ลินลี่ย์พูดด้วยความประหลาดใจ
ปัจจุบันนี้เขาได้รับการรู้แจ้งในกฎธาตุดิน ธาตุลมและธาตุไฟเขาไม่มีความรู้อะไรในกฎธาตุอื่น
บาลุคพูดอย่างจริงจัง “ใช่แล้วเผ่ามังกรฟ้าเราคือตระกูลอสูรศักดิ์สิทธิ์สายธาตุน้ำ ถ้าสมาชิกของเผ่าเราไม่สามารถเข้าใจพลังกฎธาตุน้ำอย่างนั้นเราจะกลายเป็นตัวตลก ตอนนี้เจ้าไม่สามารถรู้แจ้งได้ แต่นั่นเป็นเพราะสายเลือดของเจ้ายังไม่ตื่นเต็มที่ หลังจากเจ้าเข้าไปในสระมังกรและผ่านพิธีชุบตัวของบรรพบุรุษเจ้าจะกลายเป็นมังกรฟ้าขณะเดียวกันเจ้าจะบรรลุระดับเทียมเทพในกฎธาตุน้ำ นอกจากนี้เจ้ายังจะได้รับทักษะเทพธรรมชาติของเผ่าเรา”
ลินลี่ย์ตกตะลึง
ในอดีตเมื่อลินลี่ย์มองดูอสูรศักดิ์สิทธิ์กลายเป็นระดับเทพหลังจากโตเต็มวัยแล้ว เขาลอบถอนใจกับความโชคดีของพวกเขา
แต่เขาไม่คาดเลยว่าความจริงนั้นจะเกิดขึ้นกับตัวเขา
“ข้าจะกลายเป็นมังกรฟ้าและไม่เพียงแค่รับทักษะเทพตามธรรมชาติแต่ยังจะกลายเป็นเทพในกฎธาตุน้ำ!” ลินลี่ย์อดดีใจไม่ได้ “มีแนวโน้มว่าในแดนนรกมีคนน้อยนักที่มีร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ห้าร่าง รวมทั้งร่างหลักอย่างข้า”
เมื่อเขาผ่านพิธีชุบตัวของบรรพบุรุษ เขาจะมีร่างแยกธาตุดินไฟ น้ำและลมรวมทั้งร่างหลักเป็นห้าร่าง
ตั้งแต่เกิด เขามีสัมพันธ์ธาตุเข้ากับธาตุดินและลมได้สูงและเขาสามรถใช้ไฟได้ แต่ตอนนี้ เขาจะมีธาตุน้ำ
“เราคือเผ่ามังกรฟ้า!” บาลุคพูดด้วยความภูมิใจ “การฝึกฝนในกฎธาตุน้ำจะก้าวหน้าได้เร็วมากดูข้าสิ แม้แต่ความเข้าใจและความสามารถรู้แจ้งของข้ายังอยู่ในระดับต่ำแต่ในช่วงสองสามพันปีนี้ ข้ารู้แจ้งเคล็ดกฎธาตุน้ำได้ถึงห้าเคล็ดแล้ว ข้าอยู่ห่างจากระดับเทพชั้นสูงไม่ไกลนักแล้ว”
ลินลี่ย์อดประหลาดใจไม่ได้ สำหรับคนผู้หนึ่งได้รับการรู้แจ้งและเชี่ยวชาญเคล็ดลึกลับกฎธาตุน้ำห้าเคล็ดในช่วงเวลาเพียงไม่กี่พันปีนับว่าเร็วมาก
“สวรรค์นับว่าเมตตาต่อเผ่ามังกรฟ้า” ลินลี่ย์พูดกับตนเอง
“หัวหน้าตระกูล, ข้ายังไม่ผ่านพิธีชุบตัวของบรรพบุรุษ อย่างนั้นข้าจะเข้าพิธีได้ยังไง?” ลินลี่ย์รีบถามพิธีชุบตัวของบรรพบุรุษจะช่วยให้เขามีพลังเพิ่มขึ้น ยิ่งเร็วก็ยิ่งดี
“ไม่ต้องรีบร้อน” บาลุคหัวเราะ “พิธีชุบตัวของบรรพบุรุษจะจัดภายในเผ่าทุกๆร้อยปี แม้ว่าเผ่าเราจะมีขนาดใหญ่มาก ทุกๆ ร้อยปีจะมีลูกหลานเกิดใหม่จำนวนหนึ่งดังนั้นพวกเขาจึงจะอนุญาตให้ดำเนินพิธีการชุบตัว”
“โอว” ลินลี่ย์รีบถาม “อย่างนั้นพิธีชุบตัวครั้งต่อไปจัดขึ้นเมื่อใด?”
“ครั้งล่าสุดจัดเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว ดังนั้นถ้าเจ้าต้องการเข้าพิธีชุบตัวของบรรพบุรุษ เจ้าจะต้องคอยอีกแปดสิบปี” บาลุคกล่าว
“แปดสิบปี” ลินลี่ย์ไม่เร่ง
ตั้งแต่เขาอยู่ในเทือกเขาอะเมทิสต์ได้ห้าร้อยปี ลินลี่ย์ไม่ใส่ใจเรื่องเวลาเท่าใดนักเข้าสมาธิรวดเดียว.. หลังจากเขาหลับตาแปดสิบปีผ่านไป เขาอาจลืมตาอีกครั้ง
“ลินลี่ย์, ในอนาคตเจ้าจะต้องทรงพลังมาก ดังนั้นความรับผิดชอบของเจ้าจะต้องยิ่งใหญ่มาก ตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ของเราปัจจุบันนี้ยังสู้กับแปดตระกูลใหญ่เหล่านั้น เจ้าจะต้องเป็นนักรบที่ทรงพลังของตระกูลเราแน่นอน ดังนั้น..เจ้าจำเป็นต้องฝึกหนักมีแต่วิธีนี้เจ้าจึงจะเอาตัวรอดในการสู้รบที่อันตรายในอนาคตได้” บาลุคพูดอย่างจริงจัง
และลินลี่ย์พยักหน้าจริงจัง
แปดตระกูลใหญ่ เจ็ดตระกูลมาจากพิภพอื่น พวกเขาย้ายตระกูลเข้ามาทั้งหมดเพื่อไล่ล่าโจมตีตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ ใครจะคิดกันว่าความเกลียดที่พวกเขามีต่อตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์จะมีมากมายเพียงไหน อย่างไรก็ตามเนื่องจากความหยิ่งผยองของตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์จะไม่มีทางที่พวกเขาจะซ่อนตัวอยู่ในเทือกสกายไรท์ตลอดไป
การสู้รบระหว่างพวกเขาจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
การรบระหว่างตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์และแปดตระกูลใหญ่...เท่าที่ลินลี่ย์เข้ามาเกี่ยวข้อง เขาเริ่มประสบกับฝนโลหิตและพายุการเข่นฆ่า
“ข้าจำเป็นต้องฝึกหนัก” ลินลี่ย์พูดกับตนเอง
เทือกเขาสกายไรท์ แคว้นอินดิโก ยังคงสงบสุขเหมือนเคย บางทีก็มีทหารของตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ถูกส่งออกไปรบกับแปดตระกูลใหญ่ แต่กลุ่มของลินลี่ย์อยู่ลึกเข้าไปในเทือกเขาสกายไรท์ ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้
วันคืนที่ฝึกฝนอย่างสงบสุขผ่านไปอย่างรวดเร็ว ไม่ช้าผ่านไปหกสิบปี
ในวันนี้
ในเทือกเขาสกายไรท์หุบเขาที่กลุ่มของลินลี่ย์อาศัยอยู่ในปัจจุบัน สมาชิกเผ่ามังกรฟ้าหลายคนอาศัยอยู่ที่นี่ทั้งฝึกฝนและรวมตัวกันอยู่
“เราไปสาขายูลาน ไปล้อเจ้าเด็กพวกนั้นกันเถอะ จะมาด้วยกันไหม?” ที่มุมหุบเขามีเด็กหนุ่มหกคนรวมตัวกันอยู่และหนึ่งในนั้นเป็นบุรุษผมฟ้า เขาพูดกลั้วเสียงหัวเราะ
“ข้าไม่ไป”
“ข้าก็ไม่ไป”
อีกห้าคนส่ายศีรษะ และหนึ่งในนั้นพูดขึ้น “พี่รอง! อย่าไปก่อเรื่องยุ่งยากให้สาขายูลานเลย”
“พวกเจ้าเป็นอะไรไป?พวกเจ้าทุกคนขี้ขลาดกันได้ยังไง ก็แค่สาขายูลาน สมาชิกที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเขาก็เป็นแค่เทพแท้ เจ้าจะต้องกลัวอะไร?” บุรุษหนุ่มผมฟ้าไม่พอใจ
“พี่รอง, ในอดีตที่ผ่านมาการไปหาเรื่องกับพวกสาขายูลานก็คงไม่เป็นไร แต่เรื่องที่ท่านไม่รู้ก็คือในรอบร้อยปีที่ท่านปลีกสันโดษมีการเปลี่ยนแปลงในสาขายูลาน”
“การเปลี่ยนแปลงแบบไหน?” บุรุษหนุ่มผมฟ้าแค่นเสียง “หรือว่าในช่วงแค่ไม่กี่ร้อยปีพวกเขาสร้างเทพชั้นสูงออกมา? ช่วงเวลาสองสามร้อยปีที่แล้ว ทั้งตระกูลสาขาของพวกเขามีเทพแท้แค่สิบสองคน นอกจากบาลุคที่ฝึกได้เร็วอยู่บ้าง คนอื่นๆฝึกได้ช้าทั้งนั้น หรือว่าบาลุคกลายเป็นเทพชั้นสูง?”
“ไม่ใช่บาลุค เมื่อหกสิบปีที่แล้วมีสมาชิกอีกคนของเผ่าเรากลับมาและบอกว่าเขาเป็นคนของสาขายูลาน คนในเผ่านึกว่าเขาเป็นแค่เทพแท้ แต่เขายังไม่ขยับเคลื่อนไหวแค่ยืนอยู่กับที่ก็ชัดอัสซูร์จนกระเด็นได้”
บุรุษผมฟ้าตะลึงอย่างช่วยไม่ได้ “เจ้าพูดถึงอัสซูร์หรือ?”
“ไม่ใช่แค่อัสซูร์เท่านั้น เมื่อเราได้ยินเรื่องนี้จากอัสซูร์ เราไม่เชื่อดังนั้นเราจึงไปพร้อมกับพี่ใหญ่เพื่อเอาเรื่องเขาแต่...แม้แต่พี่ใหญ่ก็พ่ายแพ้ลินลี่ย์นั้นอย่างง่ายดาย”
“พี่ใหญ่?” ตอนนี้บุรุษหนุ่มผมฟ้าได้แต่ตกตะลึง “พี่ใหญ่ของข้าก็พ่ายแพ้ด้วยหรือ?”
“ใช่แล้ว ดังนั้นพี่ใหญ่ในตอนนี้จึงปลีกตัวฝึกสมาธิ” หนึ่งในห้าคนนั้นพูดขึ้น
ถึงตอนนี้บุรุษหนุ่มผมฟ้าจึงได้ตระหนักว่าเหตุผลที่เขาไม่พบเห็นพี่ใหญ่ในเวลานี้เพราะเขาปลีกตัวฝึกวิชานั้นเอง เขาคิดว่าพี่ใหญ่ของเขาออกเดินทาง แต่ในความเป็นจริงคือเขาปลีกสันโดษฝึกวิชา
“คนผู้นี้ทรงพลังมากจริงๆ หรือ?” บุรุษหนุ่มผมฟ้าถามด้วยความสงสัย “เขาชื่ออะไร?”
“จากที่พวกสาขายูลานพูดคุยกัน เขามีชื่อว่าลินลี่ย์!” ใครบางคนพูดขึ้น
“ใช่แล้วเขาชื่อลินลี่ย์ สมาชิกสาขายูลานตอนนี้ดีใจกันมาก พวกเขายังพูดว่า...ถ้าเราต้องการสู้กับสาขายูลานอย่างนั้นเราก็ควรมาดูว่าสามารถเอาชนะลินลี่ย์ได้ไหม โชคไม่ดีเทพชั้นสูงในหุบเขาของเราทั้งหมดที่เข้ามาลองดีกับเขาล้วนพ่ายแพ้กันหมด”
“ดังนั้นในช่วงเวลาหกสิบปีที่ผ่านมาไม่มีใครกล้าหาเรื่องพวกสาขายูลานอีกเลย”
หลังจากได้ยินคำอธิบายจากสหายของเขาบุรุษผมฟ้าก็เข้าใจได้ในที่สุด
หุบเขานี้เป็นที่อาศัยของสาขาที่อ่อนแอ หลายสาขามีเทพชั้นสูงเพียงไม่กี่คนและทั่วทั้งหุบเขารวมกันทั้งหมดมีเทพชั้นสูงอยู่เพียงยี่สิบหรือสามสิบคนเท่านั้น แต่ลินลี่ย์สามารถเอาชนะพวกเขาได้หลายคน
เป็นธรรมดาที่สาขาอื่นๆ ที่อยู่ในหุบเขาจะต้องยอมรับสถานะใหม่ของสาขายูลานและไม่หยามทำให้พวกเขาอัปยศ
ที่สำคัญ ถ้าหยามพวกสาขายูลานให้อัปยศ กลับจะเป็นพวกเขานั่นเองที่ได้รับความอับอายและเสียหน้าอย่างแท้จริง
ทันใดนั้น....
ระลอกคลื่นพลังธาตุธรรมชาติไม่มีที่สิ้นสุดจากสวรรค์แผ่ลงมา ระลอกพลังงานเฉพาะอย่างนี้ทำให้บุรุษหนุ่มผมฟ้าและพวกอีกห้าคนตกใจ
“การชะลอลงมาของกฎธาตุธรรมชาติหรือ?” คนทั้งหกตกใจอย่างหนัก
นี่เป็นสัญญาณว่ามีคนกลายเป็นเทพด้วยตัวเอง
ทั้งหกคนเริ่มพูดคุยกันเองทันที
“ใครบรรลุพลังระดับใหม่?”
“การชะลอลงมาของกฎธาตุธรรมชาติมีศูนย์กลางอยู่ที่สาขายูลานเป็นคนจากสาขาพวกเขา”
“อาจเป็นเซียนที่บรรลุกลายเป็นเทพก็ได้ไม่เห็นต้องวุ่นวายขนาดนี้เลย” บุรุษผมฟ้าแค่นเสียง
…………………
ในตอนนี้มีคนหลายคนมารวมอยู่ด้านนอกประตูบ้านลินลี่ย์มีแต่เดเลียและบีบีที่วิ่งเข้าไปข้างใน
“เกิดอะไรขึ้น?” บาลุคเดินเข้ามาถามทันที
ทารอสหัวเราะ “ลินลี่ย์บรรลุระดับใหม่”
“เขากลายเป็นเทพชั้นสูงหรือ?” บาลุคถามผ่านสำนึกเทพทันทีจนถึงตอนนี้มีชาวสาขายูลานมองลินลี่ย์เหมือนกับเป็นเทพชั้นสูงเพียงแต่ทำตัวธรรมดาและซ่อนงำประกายไว้
“ไม่แน่ใจเหมือนกัน” ทารอสส่ายศีรษะ “เขาน่าจะยังไม่ใช่ เมื่อลินลี่ย์มาถึงตอนแรก เขายังคงฝึกเคล็ดที่ห้าของกฎธรรมชาติธาตุดิน”
ขณะที่พวกเขาพูดคุยกันเอง มีร่างสามร่างปรากฏออกมาจากในห้อง
“เขาออกมาแล้ว ลินลี่ย์ออกมาแล้ว” คนในสาขาตระกูลยูลานล้วนตื่นเต้นกันมาก
“ทุกท่าน พวกท่านกลับไปในที่ของตนเองได้แล้วหนึ่งในร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ของข้าแค่บรรลุระดับใหม่เท่านั้นเอง” ลินลี่ย์หัวเราะอย่างใจเย็น เมื่อเห็นกลุ่มคนในตระกูลปรากฏตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเลื่อมใสที่พวกเขามีต่อลินลี่ย์ ลินลี่ย์ก็ยิ่งรู้สึกสุขใจมาก
หลังจากมาถึงที่นี่ลินลี่ย์ไม่ยอมมองดูคนในตระกูลของเขาถูกหยามหยันอัปยศเท่านั้น แต่ยังแสดงพลังทำให้สาขาอื่นตกใจหลายครั้งครา
วันคืนเหล่านี้สาขาตระกูลยูลานไม่จำเป็นต้องทนอับอายอีกต่อไป คนในตระกูลอื่นๆ ก็รู้สึกขอบคุณต่อลินลี่ย์เช่นกัน
“ทุกคน, แยกย้ายกันไปได้แล้ว อย่ารั้งอยู่ที่นี่เลย”บาลุคหัวเราะเช่นกัน
ถึงตอนนี้กลุ่มคนในตระกูลพูดคุยกันหยอกล้อกันเองและแยกย้ายกลับ ขณะที่ทำเช่นนั้นพวกเขาพูดกันในกลุ่มตนเอง“ลินลี่ย์น่ากลัวมากจริงๆ เจ้าคิดว่าร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ร่างไหนของเขาที่บรรลุระดับใหม่?”
“เป็นไปได้ว่า ร่างแยกศักดิ์สิทธิ์วิถีทำลายล้าง”
“อาจจะเป็นร่างแยกธาตุลมก็ได้”
คนในตระกูลเหล่านั้นไม่รู้รายละเอียดสถานะของลินลี่ย์ พวกเขาไม่แน่ใจว่าลินลี่ย์ในตอนนี้ฝึกพลังกฎธาตุชนิดใด
“ลินลี่ย์, เจ้าบรรลุพลังระดับใหม่ชนิดใดกัน?” ซีซาร์เดินเข้ามาหาทักทายและถามเขา
“เป็นร่างแยกธาตุไฟ” ลินลี่ย์หัวเราะ“ถึงตอนนี้ในที่สุดร่างแยกธาตุไฟของข้าก็บรรลุระดับเทพแท้ ข้าฝึกกฎธรรมชาติธาตุไฟได้ช้าจริง”
ซีซาร์ ทารอสและคนอื่นพูดไม่ออกทันที เขาฝึกฝนมายังไม่ถึงพันปี แต่ก็บรรลุระดับเทพแท้ในกฎธาตุดินลมและไฟ.. นี่เขายังบ่นว่าช้าอีกหรือนี่?
“การฝึกฝนในกฎธาตุดินของเจ้ามีความก้าวหน้าขนาดไหน?” ทารอสถาม
“ยังคงเป็นการฝึกในเคล็ดที่ห้า ข้าฝึกถึงระดับคอขวดแล้วยังสงสัยอยู่ว่าข้าจะสามารถเชี่ยวชาญเคล็ดพลังธาตุได้ก่อนพิธีชุบตัวของบรรพบุรุษหรือไม่” ลินลี่ย์กล่าว
เพียงแต่เหลือเวลาอีกยี่สิบปีก่อนจะถึงพิธีชุบตัวของบรรพบุรุษ
ราวๆ สิบปีของพวกเทพถือเป็นช่วงเวลาที่สั้นมาก ร่างหลักของลินลี่ย์อยู่ร่วมกับเดเลีย ขณะที่ร่างแยกศักดิ์สิทธิ์สามร่างยังคงฝึกฝนต่อ แต่กระทั่งถึงวันพิธีชุบตัวของบรรพบุรุษลินลี่ย์ยังคงติดอยู่ที่คอขวดของเคล็ดพลังธาตุ
ในวันนี้เวลาผ่านไปเกือบแปดสิบปีแล้วนับตั้งแต่ลินลี่ย์มาถึงเทือกเขาสกายไรท์
ข้างหน้าที่พักของลินลี่ย์ บาลุคเดินเข้ามาหา
“ลินลี่ย์! คืนนี้พิธีชุบตัวของบรรพบุรุษกำลังจะเริ่มขึ้นข้าลงทะเบียนสมัครชื่อเจ้าไปแล้ว ในไม่ช้าจะมีคนนำเจ้าไปร่วมพิธีชุบตัวของบรรพบุรุษ เตรียมตัวให้พร้อม”
“เข้าใจแล้ว”ตาของลินลี่ย์เต็มไปด้วยความคาดหวังอย่างช่วยไม่ได้
พิธีชุบตัวของบรรพบุรุษ จะเป็นยังไงกัน?