ตอนที่แล้วตอนที่ 17-8 ความลับพิธีชุบตัวของบรรพบุรุษ!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 17-10 สระมังกร

ตอนที่ 17- 9 แปดสิบปี


ขณะที่พวกเขาคุยกันเรื่องนี้ บาลุคหัวเราะ“แต่เรื่องที่แปลกก็คือสายเลือดของข้าบริสุทธิ์มากจริงๆ เมื่อผ่านพิธีชุบตัวข้าทำให้นักรบที่คุ้มกันที่นั่นตกใจแทบแย่และผู้อาวุโสถึงกับออกมารับเอง”

“สายเลือดของท่านบริสุทธิ์มากนักหรือ?”  ลินลี่ย์มองดูบาลุค

บาลุคเพิ่งอายุหกพันปี ขณะที่ตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์อยู่มานานนับปีไม่ถ้วนเป็นเรื่องแปลกประหลาดมากที่สายเลือดของบาลุคบริสุทธิ์มาก

“โดยทั่วไปแล้วลูกของบรรพบุรุษเราโดยเฉพาะในสมาชิกรุ่นที่สองและรุ่นที่สามของเผ่ามังกรฟ้าเราจะมีสายเลือดบริสุทธิ์มาก  แต่คาดไม่ถึงเลยว่าสายเลือดของข้าจะเทียบได้กับรุ่นที่สอง”  บาลุคไม่ปกปิดอะไรแม้แต่น้อย

รุ่นที่สองของเผ่ามังกรฟ้าก็เทียบได้กับบุตรและธิดาของมหาเทพมังกรฟ้า

ลูกของมหาเทพมังกรฟ้ามีเลือดที่บริสุทธิ์มากอยู่แล้วสมาชิกของรุ่นที่สามซึ่งมีพรสวรรค์ตามธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ก็ยังเทียบได้กับรุ่นที่สอง

แต่สำหรับรุ่นต่อมา....

บางทีในบางรุ่นจะมีอัจฉริยะปรากฏมีเลือดมังกรฟ้าที่บริสุทธิ์  แต่นี่เป็นเหตุการณ์ที่พบเจอได้ยากอย่างไรก็ตามบาลุคเป็นหนึ่งในตัวอย่างนั้น

“นี่ยังเป็นเหตุให้ผู้อาวุโสนั้นบอกเรื่องเหล่านี้ให้ตระกูลสาขาเราทราบด้วย”  บาลุคกล่าว

ก็คงเป็นเช่นนั้น

ตอนนี้ลินลี่ย์เข้าใจแล้ว จนถึงตอนนี้ เขายังสงสัยว่าบาลุครู้เรื่องเหล่านี้ได้ยังไง

“ความจริง,เรื่องราวของบรรพบุรุษของเราและแปดตระกูลเหล่านั้นไม่ใช่เป็นเรื่องลับอะไร  ในตระกูล, ทุกคนที่มีสายเลือดบริสุทธิ์มีศักยภาพสูงหรือเป็นระดับเทพชั้นสูงจะรู้เรื่องเหล่านี้กันทั้งนั้น”  บาลุคพูดอย่างเคร่งขรึม  “ที่สำคัญสงครามระหว่างเผ่าตระกูลเกิดขึ้นถี่มาก”

ลินลี่ย์พยักหน้า “ข้ารู้สึกได้เมื่อตอนเห็นทหารลาดตระเวนเหล่านั้นแล้ว”

ความเข้มงวดกวดขันและเฝ้าระวังของตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์มากยิ่งกว่าการลาดตระเวนของเกาะมิลัวร์เสียอีก

“ลินลี่ย์! พรสวรรค์ธรรมชาติของเจ้าดีกว่าข้าแน่นอน”บาลุคตาเป็นประกาย “เจ้ายังไม่ผ่านพิธีชุบตัวของบรรพบุรุษแต่เจ้าก็แข็งแกร่งทรงพลังมากเสียแล้ว หลังจากเจ้าผ่านพิธีชุบตัวแล้ว เจ้าจะได้รับความรู้แจ้งกฎธรรมชาติธาตุน้ำ”

“รู้แจ้งกฎธรรมชาติธาตุน้ำ?”  ลินลี่ย์พูดด้วยความประหลาดใจ

ปัจจุบันนี้เขาได้รับการรู้แจ้งในกฎธาตุดิน ธาตุลมและธาตุไฟเขาไม่มีความรู้อะไรในกฎธาตุอื่น

บาลุคพูดอย่างจริงจัง “ใช่แล้วเผ่ามังกรฟ้าเราคือตระกูลอสูรศักดิ์สิทธิ์สายธาตุน้ำ ถ้าสมาชิกของเผ่าเราไม่สามารถเข้าใจพลังกฎธาตุน้ำอย่างนั้นเราจะกลายเป็นตัวตลก ตอนนี้เจ้าไม่สามารถรู้แจ้งได้ แต่นั่นเป็นเพราะสายเลือดของเจ้ายังไม่ตื่นเต็มที่  หลังจากเจ้าเข้าไปในสระมังกรและผ่านพิธีชุบตัวของบรรพบุรุษเจ้าจะกลายเป็นมังกรฟ้าขณะเดียวกันเจ้าจะบรรลุระดับเทียมเทพในกฎธาตุน้ำ นอกจากนี้เจ้ายังจะได้รับทักษะเทพธรรมชาติของเผ่าเรา”

ลินลี่ย์ตกตะลึง

ในอดีตเมื่อลินลี่ย์มองดูอสูรศักดิ์สิทธิ์กลายเป็นระดับเทพหลังจากโตเต็มวัยแล้ว  เขาลอบถอนใจกับความโชคดีของพวกเขา

แต่เขาไม่คาดเลยว่าความจริงนั้นจะเกิดขึ้นกับตัวเขา

“ข้าจะกลายเป็นมังกรฟ้าและไม่เพียงแค่รับทักษะเทพตามธรรมชาติแต่ยังจะกลายเป็นเทพในกฎธาตุน้ำ!”  ลินลี่ย์อดดีใจไม่ได้  “มีแนวโน้มว่าในแดนนรกมีคนน้อยนักที่มีร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ห้าร่าง รวมทั้งร่างหลักอย่างข้า”

เมื่อเขาผ่านพิธีชุบตัวของบรรพบุรุษ เขาจะมีร่างแยกธาตุดินไฟ น้ำและลมรวมทั้งร่างหลักเป็นห้าร่าง

ตั้งแต่เกิด เขามีสัมพันธ์ธาตุเข้ากับธาตุดินและลมได้สูงและเขาสามรถใช้ไฟได้ แต่ตอนนี้ เขาจะมีธาตุน้ำ

“เราคือเผ่ามังกรฟ้า!”  บาลุคพูดด้วยความภูมิใจ  “การฝึกฝนในกฎธาตุน้ำจะก้าวหน้าได้เร็วมากดูข้าสิ แม้แต่ความเข้าใจและความสามารถรู้แจ้งของข้ายังอยู่ในระดับต่ำแต่ในช่วงสองสามพันปีนี้ ข้ารู้แจ้งเคล็ดกฎธาตุน้ำได้ถึงห้าเคล็ดแล้ว  ข้าอยู่ห่างจากระดับเทพชั้นสูงไม่ไกลนักแล้ว”

ลินลี่ย์อดประหลาดใจไม่ได้ สำหรับคนผู้หนึ่งได้รับการรู้แจ้งและเชี่ยวชาญเคล็ดลึกลับกฎธาตุน้ำห้าเคล็ดในช่วงเวลาเพียงไม่กี่พันปีนับว่าเร็วมาก

“สวรรค์นับว่าเมตตาต่อเผ่ามังกรฟ้า” ลินลี่ย์พูดกับตนเอง

“หัวหน้าตระกูล, ข้ายังไม่ผ่านพิธีชุบตัวของบรรพบุรุษ  อย่างนั้นข้าจะเข้าพิธีได้ยังไง?”  ลินลี่ย์รีบถามพิธีชุบตัวของบรรพบุรุษจะช่วยให้เขามีพลังเพิ่มขึ้น ยิ่งเร็วก็ยิ่งดี

“ไม่ต้องรีบร้อน” บาลุคหัวเราะ  “พิธีชุบตัวของบรรพบุรุษจะจัดภายในเผ่าทุกๆร้อยปี แม้ว่าเผ่าเราจะมีขนาดใหญ่มาก ทุกๆ ร้อยปีจะมีลูกหลานเกิดใหม่จำนวนหนึ่งดังนั้นพวกเขาจึงจะอนุญาตให้ดำเนินพิธีการชุบตัว”

“โอว” ลินลี่ย์รีบถาม “อย่างนั้นพิธีชุบตัวครั้งต่อไปจัดขึ้นเมื่อใด?”

“ครั้งล่าสุดจัดเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว ดังนั้นถ้าเจ้าต้องการเข้าพิธีชุบตัวของบรรพบุรุษ  เจ้าจะต้องคอยอีกแปดสิบปี” บาลุคกล่าว

“แปดสิบปี” ลินลี่ย์ไม่เร่ง

ตั้งแต่เขาอยู่ในเทือกเขาอะเมทิสต์ได้ห้าร้อยปี ลินลี่ย์ไม่ใส่ใจเรื่องเวลาเท่าใดนักเข้าสมาธิรวดเดียว.. หลังจากเขาหลับตาแปดสิบปีผ่านไป เขาอาจลืมตาอีกครั้ง

“ลินลี่ย์, ในอนาคตเจ้าจะต้องทรงพลังมาก ดังนั้นความรับผิดชอบของเจ้าจะต้องยิ่งใหญ่มาก ตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ของเราปัจจุบันนี้ยังสู้กับแปดตระกูลใหญ่เหล่านั้น  เจ้าจะต้องเป็นนักรบที่ทรงพลังของตระกูลเราแน่นอน  ดังนั้น..เจ้าจำเป็นต้องฝึกหนักมีแต่วิธีนี้เจ้าจึงจะเอาตัวรอดในการสู้รบที่อันตรายในอนาคตได้”  บาลุคพูดอย่างจริงจัง

และลินลี่ย์พยักหน้าจริงจัง

แปดตระกูลใหญ่ เจ็ดตระกูลมาจากพิภพอื่น  พวกเขาย้ายตระกูลเข้ามาทั้งหมดเพื่อไล่ล่าโจมตีตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์  ใครจะคิดกันว่าความเกลียดที่พวกเขามีต่อตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์จะมีมากมายเพียงไหน  อย่างไรก็ตามเนื่องจากความหยิ่งผยองของตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์จะไม่มีทางที่พวกเขาจะซ่อนตัวอยู่ในเทือกสกายไรท์ตลอดไป

การสู้รบระหว่างพวกเขาจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา

การรบระหว่างตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์และแปดตระกูลใหญ่...เท่าที่ลินลี่ย์เข้ามาเกี่ยวข้อง เขาเริ่มประสบกับฝนโลหิตและพายุการเข่นฆ่า

“ข้าจำเป็นต้องฝึกหนัก” ลินลี่ย์พูดกับตนเอง

เทือกเขาสกายไรท์ แคว้นอินดิโก ยังคงสงบสุขเหมือนเคย บางทีก็มีทหารของตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ถูกส่งออกไปรบกับแปดตระกูลใหญ่ แต่กลุ่มของลินลี่ย์อยู่ลึกเข้าไปในเทือกเขาสกายไรท์ ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้

วันคืนที่ฝึกฝนอย่างสงบสุขผ่านไปอย่างรวดเร็ว  ไม่ช้าผ่านไปหกสิบปี

ในวันนี้

ในเทือกเขาสกายไรท์หุบเขาที่กลุ่มของลินลี่ย์อาศัยอยู่ในปัจจุบัน สมาชิกเผ่ามังกรฟ้าหลายคนอาศัยอยู่ที่นี่ทั้งฝึกฝนและรวมตัวกันอยู่

“เราไปสาขายูลาน ไปล้อเจ้าเด็กพวกนั้นกันเถอะ  จะมาด้วยกันไหม?”  ที่มุมหุบเขามีเด็กหนุ่มหกคนรวมตัวกันอยู่และหนึ่งในนั้นเป็นบุรุษผมฟ้า เขาพูดกลั้วเสียงหัวเราะ

“ข้าไม่ไป”

“ข้าก็ไม่ไป”

อีกห้าคนส่ายศีรษะ และหนึ่งในนั้นพูดขึ้น “พี่รอง! อย่าไปก่อเรื่องยุ่งยากให้สาขายูลานเลย”

“พวกเจ้าเป็นอะไรไป?พวกเจ้าทุกคนขี้ขลาดกันได้ยังไง ก็แค่สาขายูลาน สมาชิกที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเขาก็เป็นแค่เทพแท้  เจ้าจะต้องกลัวอะไร?”  บุรุษหนุ่มผมฟ้าไม่พอใจ

“พี่รอง, ในอดีตที่ผ่านมาการไปหาเรื่องกับพวกสาขายูลานก็คงไม่เป็นไร แต่เรื่องที่ท่านไม่รู้ก็คือในรอบร้อยปีที่ท่านปลีกสันโดษมีการเปลี่ยนแปลงในสาขายูลาน”

“การเปลี่ยนแปลงแบบไหน?”  บุรุษหนุ่มผมฟ้าแค่นเสียง “หรือว่าในช่วงแค่ไม่กี่ร้อยปีพวกเขาสร้างเทพชั้นสูงออกมา?  ช่วงเวลาสองสามร้อยปีที่แล้ว ทั้งตระกูลสาขาของพวกเขามีเทพแท้แค่สิบสองคน  นอกจากบาลุคที่ฝึกได้เร็วอยู่บ้าง คนอื่นๆฝึกได้ช้าทั้งนั้น หรือว่าบาลุคกลายเป็นเทพชั้นสูง?”

“ไม่ใช่บาลุค เมื่อหกสิบปีที่แล้วมีสมาชิกอีกคนของเผ่าเรากลับมาและบอกว่าเขาเป็นคนของสาขายูลาน  คนในเผ่านึกว่าเขาเป็นแค่เทพแท้  แต่เขายังไม่ขยับเคลื่อนไหวแค่ยืนอยู่กับที่ก็ชัดอัสซูร์จนกระเด็นได้”

บุรุษผมฟ้าตะลึงอย่างช่วยไม่ได้  “เจ้าพูดถึงอัสซูร์หรือ?”

“ไม่ใช่แค่อัสซูร์เท่านั้น เมื่อเราได้ยินเรื่องนี้จากอัสซูร์ เราไม่เชื่อดังนั้นเราจึงไปพร้อมกับพี่ใหญ่เพื่อเอาเรื่องเขาแต่...แม้แต่พี่ใหญ่ก็พ่ายแพ้ลินลี่ย์นั้นอย่างง่ายดาย”

“พี่ใหญ่?” ตอนนี้บุรุษหนุ่มผมฟ้าได้แต่ตกตะลึง  “พี่ใหญ่ของข้าก็พ่ายแพ้ด้วยหรือ?”

“ใช่แล้ว ดังนั้นพี่ใหญ่ในตอนนี้จึงปลีกตัวฝึกสมาธิ”  หนึ่งในห้าคนนั้นพูดขึ้น

ถึงตอนนี้บุรุษหนุ่มผมฟ้าจึงได้ตระหนักว่าเหตุผลที่เขาไม่พบเห็นพี่ใหญ่ในเวลานี้เพราะเขาปลีกตัวฝึกวิชานั้นเอง  เขาคิดว่าพี่ใหญ่ของเขาออกเดินทาง  แต่ในความเป็นจริงคือเขาปลีกสันโดษฝึกวิชา

“คนผู้นี้ทรงพลังมากจริงๆ หรือ?”  บุรุษหนุ่มผมฟ้าถามด้วยความสงสัย  “เขาชื่ออะไร?”

“จากที่พวกสาขายูลานพูดคุยกัน เขามีชื่อว่าลินลี่ย์!”  ใครบางคนพูดขึ้น

“ใช่แล้วเขาชื่อลินลี่ย์ สมาชิกสาขายูลานตอนนี้ดีใจกันมาก พวกเขายังพูดว่า...ถ้าเราต้องการสู้กับสาขายูลานอย่างนั้นเราก็ควรมาดูว่าสามารถเอาชนะลินลี่ย์ได้ไหม  โชคไม่ดีเทพชั้นสูงในหุบเขาของเราทั้งหมดที่เข้ามาลองดีกับเขาล้วนพ่ายแพ้กันหมด”

“ดังนั้นในช่วงเวลาหกสิบปีที่ผ่านมาไม่มีใครกล้าหาเรื่องพวกสาขายูลานอีกเลย”

หลังจากได้ยินคำอธิบายจากสหายของเขาบุรุษผมฟ้าก็เข้าใจได้ในที่สุด

หุบเขานี้เป็นที่อาศัยของสาขาที่อ่อนแอ  หลายสาขามีเทพชั้นสูงเพียงไม่กี่คนและทั่วทั้งหุบเขารวมกันทั้งหมดมีเทพชั้นสูงอยู่เพียงยี่สิบหรือสามสิบคนเท่านั้น  แต่ลินลี่ย์สามารถเอาชนะพวกเขาได้หลายคน

เป็นธรรมดาที่สาขาอื่นๆ ที่อยู่ในหุบเขาจะต้องยอมรับสถานะใหม่ของสาขายูลานและไม่หยามทำให้พวกเขาอัปยศ

ที่สำคัญ ถ้าหยามพวกสาขายูลานให้อัปยศ  กลับจะเป็นพวกเขานั่นเองที่ได้รับความอับอายและเสียหน้าอย่างแท้จริง

ทันใดนั้น....

ระลอกคลื่นพลังธาตุธรรมชาติไม่มีที่สิ้นสุดจากสวรรค์แผ่ลงมา ระลอกพลังงานเฉพาะอย่างนี้ทำให้บุรุษหนุ่มผมฟ้าและพวกอีกห้าคนตกใจ

“การชะลอลงมาของกฎธาตุธรรมชาติหรือ?”  คนทั้งหกตกใจอย่างหนัก

นี่เป็นสัญญาณว่ามีคนกลายเป็นเทพด้วยตัวเอง

ทั้งหกคนเริ่มพูดคุยกันเองทันที

“ใครบรรลุพลังระดับใหม่?”

“การชะลอลงมาของกฎธาตุธรรมชาติมีศูนย์กลางอยู่ที่สาขายูลานเป็นคนจากสาขาพวกเขา”

“อาจเป็นเซียนที่บรรลุกลายเป็นเทพก็ได้ไม่เห็นต้องวุ่นวายขนาดนี้เลย” บุรุษผมฟ้าแค่นเสียง

…………………

ในตอนนี้มีคนหลายคนมารวมอยู่ด้านนอกประตูบ้านลินลี่ย์มีแต่เดเลียและบีบีที่วิ่งเข้าไปข้างใน

“เกิดอะไรขึ้น?” บาลุคเดินเข้ามาถามทันที

ทารอสหัวเราะ “ลินลี่ย์บรรลุระดับใหม่”

“เขากลายเป็นเทพชั้นสูงหรือ?” บาลุคถามผ่านสำนึกเทพทันทีจนถึงตอนนี้มีชาวสาขายูลานมองลินลี่ย์เหมือนกับเป็นเทพชั้นสูงเพียงแต่ทำตัวธรรมดาและซ่อนงำประกายไว้

“ไม่แน่ใจเหมือนกัน” ทารอสส่ายศีรษะ “เขาน่าจะยังไม่ใช่ เมื่อลินลี่ย์มาถึงตอนแรก เขายังคงฝึกเคล็ดที่ห้าของกฎธรรมชาติธาตุดิน”

ขณะที่พวกเขาพูดคุยกันเอง มีร่างสามร่างปรากฏออกมาจากในห้อง

“เขาออกมาแล้ว ลินลี่ย์ออกมาแล้ว” คนในสาขาตระกูลยูลานล้วนตื่นเต้นกันมาก

“ทุกท่าน พวกท่านกลับไปในที่ของตนเองได้แล้วหนึ่งในร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ของข้าแค่บรรลุระดับใหม่เท่านั้นเอง”  ลินลี่ย์หัวเราะอย่างใจเย็น  เมื่อเห็นกลุ่มคนในตระกูลปรากฏตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเลื่อมใสที่พวกเขามีต่อลินลี่ย์  ลินลี่ย์ก็ยิ่งรู้สึกสุขใจมาก

หลังจากมาถึงที่นี่ลินลี่ย์ไม่ยอมมองดูคนในตระกูลของเขาถูกหยามหยันอัปยศเท่านั้น แต่ยังแสดงพลังทำให้สาขาอื่นตกใจหลายครั้งครา

วันคืนเหล่านี้สาขาตระกูลยูลานไม่จำเป็นต้องทนอับอายอีกต่อไป  คนในตระกูลอื่นๆ ก็รู้สึกขอบคุณต่อลินลี่ย์เช่นกัน

“ทุกคน, แยกย้ายกันไปได้แล้ว อย่ารั้งอยู่ที่นี่เลย”บาลุคหัวเราะเช่นกัน

ถึงตอนนี้กลุ่มคนในตระกูลพูดคุยกันหยอกล้อกันเองและแยกย้ายกลับ  ขณะที่ทำเช่นนั้นพวกเขาพูดกันในกลุ่มตนเอง“ลินลี่ย์น่ากลัวมากจริงๆ เจ้าคิดว่าร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ร่างไหนของเขาที่บรรลุระดับใหม่?”

“เป็นไปได้ว่า ร่างแยกศักดิ์สิทธิ์วิถีทำลายล้าง”

“อาจจะเป็นร่างแยกธาตุลมก็ได้”

คนในตระกูลเหล่านั้นไม่รู้รายละเอียดสถานะของลินลี่ย์  พวกเขาไม่แน่ใจว่าลินลี่ย์ในตอนนี้ฝึกพลังกฎธาตุชนิดใด

“ลินลี่ย์, เจ้าบรรลุพลังระดับใหม่ชนิดใดกัน?”  ซีซาร์เดินเข้ามาหาทักทายและถามเขา

“เป็นร่างแยกธาตุไฟ” ลินลี่ย์หัวเราะ“ถึงตอนนี้ในที่สุดร่างแยกธาตุไฟของข้าก็บรรลุระดับเทพแท้  ข้าฝึกกฎธรรมชาติธาตุไฟได้ช้าจริง”

ซีซาร์ ทารอสและคนอื่นพูดไม่ออกทันที  เขาฝึกฝนมายังไม่ถึงพันปี แต่ก็บรรลุระดับเทพแท้ในกฎธาตุดินลมและไฟ.. นี่เขายังบ่นว่าช้าอีกหรือนี่?

“การฝึกฝนในกฎธาตุดินของเจ้ามีความก้าวหน้าขนาดไหน?”  ทารอสถาม

“ยังคงเป็นการฝึกในเคล็ดที่ห้า  ข้าฝึกถึงระดับคอขวดแล้วยังสงสัยอยู่ว่าข้าจะสามารถเชี่ยวชาญเคล็ดพลังธาตุได้ก่อนพิธีชุบตัวของบรรพบุรุษหรือไม่”  ลินลี่ย์กล่าว

เพียงแต่เหลือเวลาอีกยี่สิบปีก่อนจะถึงพิธีชุบตัวของบรรพบุรุษ

ราวๆ สิบปีของพวกเทพถือเป็นช่วงเวลาที่สั้นมาก  ร่างหลักของลินลี่ย์อยู่ร่วมกับเดเลีย ขณะที่ร่างแยกศักดิ์สิทธิ์สามร่างยังคงฝึกฝนต่อ  แต่กระทั่งถึงวันพิธีชุบตัวของบรรพบุรุษลินลี่ย์ยังคงติดอยู่ที่คอขวดของเคล็ดพลังธาตุ

ในวันนี้เวลาผ่านไปเกือบแปดสิบปีแล้วนับตั้งแต่ลินลี่ย์มาถึงเทือกเขาสกายไรท์

ข้างหน้าที่พักของลินลี่ย์ บาลุคเดินเข้ามาหา

“ลินลี่ย์!  คืนนี้พิธีชุบตัวของบรรพบุรุษกำลังจะเริ่มขึ้นข้าลงทะเบียนสมัครชื่อเจ้าไปแล้ว ในไม่ช้าจะมีคนนำเจ้าไปร่วมพิธีชุบตัวของบรรพบุรุษ  เตรียมตัวให้พร้อม”

“เข้าใจแล้ว”ตาของลินลี่ย์เต็มไปด้วยความคาดหวังอย่างช่วยไม่ได้

พิธีชุบตัวของบรรพบุรุษ จะเป็นยังไงกัน?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด