ตอนที่ 17-14 ท้าประลอง
ขณะที่ลินลี่ย์กระเด็นออกมากระแทกระเบียงทางเดินข้างนอกมีรอยโลหิตปรากฏที่ริมฝีปากของเขา
เขารีบลุกจากพื้นทันทีและหนีออกไปที่โถงใหญ่ราวกับประกายไฟ ลินลี่ย์หัวเราะในใจอย่างเยือกเย็น“เอ็มมานูเอลคิดว่าเขาจะสามารถฆ่าข้าได้หรือ? อย่างไรก็ตาม เว้นแต่เป็นเรื่องจำเป็น ไม่มีทางที่ข้าจะเปิดเผยพลังของข้าเร็วนัก” ขณะที่ลินลี่ย์รู้สึกตัว เขาตะโกนทันที“ผู้อาวุโสการ์วีย์ ช่วยข้าด้วย!”
เสียงประตูระเบิดและเสียงตะโกนของลินลี่ย์..แม้แต่เทพชั้นสูงผู้มีพลังน้อยยังได้ยิน และพวกเขาจะไม่ได้ยินได้ยังไง?
“ควั่บ!” “ควั่บ!”
มีหลายคนปรากฏตัวจากที่ไกลบินเข้ามาด้วยความเร็วสูง โดยมีการ์วีย์บุรุษหนุ่มรูปงามเป็นคนนำ
“อย่าคิดหลบหนีเด็ดขาด!” เสียงเกรี้ยวกราดดังขึ้นและร่างของเอ็มมานูเอลกระพริบวาบไล่ตามลินลี่ย์ไปอย่างรวดเร็วราวกับลูกธนู
ลินลี่ย์เมื่อเห็นการ์วีย์และเจ้าหน้าที่ชุดดำก็บินไปหลบอยู่ข้างหลังพวกเขาทันที ถึงตอนนี้เขากล่าว “ผู้อาวุโสการ์วีย์! ผู้อาวุโสเอ็มมานูเอลต้องการฆ่าข้า!” เมื่อการ์วีย์ได้ยินเช่นนี้ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาแสดงอาการโกรธทันที
“เอ็มมานูเอล! เจ้ากำลังทำอะไร!” การ์วีย์ตวาด
เอ็มมานูเอลชะงัก ถลึงตามองลินลี่ย์ด้วยความโกรธ จากนั้นมองการ์วีย์ “การ์วีย์! หลีกไปซะ”
“ลินลี่ย์เป็นคนของเผ่าเราทำไมท่านต้องการฆ่าเขา?” การ์วีย์โกรธเช่นกัน “อย่างนั้นเหตุผลที่เจ้าต้องการคุยกับเขาเป็นการส่วนตัวก็เพื่อที่ว่าจะฆ่าเขาได้ง่ายๆ สินะ”
“ไม่, ไม่ใช่อย่างนั้น”
เอ็มมานูเอลรีบกล่าว เอ็มมานูเอลเห็นการ์วีย์ปรากฏตัวก็รู้ว่าสถานการณ์เช่นนี้ทวีความซับซ้อน นี่เป็นเรื่องที่เขากริ่งเกรงที่สุด แต่เขาประหลาดใจเช่นกัน “แรงฟาดฝ่ามือนั้นไม่สามารถฆ่าลินลี่ย์ได้ สมบัติมหาเทพทรงพลังและใช้ประโยชน์ในการปกป้องชีวิตได้จริงๆ”
ลินลี่ย์มีเลือดหยดออกจากริมฝีปากของเขา หน้าของเขาซีดขาว
เอ็มมานูเอลเชื่อว่าเหตุผลที่เขาไม่สามารถฆ่าลินลี่ย์ด้วยพลังโจมตีครั้งเดียวเป็นเพราะแหวนมังกรขนด
เขายังไม่รู้.....
ว่าเลือดที่ซึมออกมาจากมุมปากและหน้าที่ซีดขาวของลินลี่ย์เป็นส่วนหนึ่งของการเสแสร้ง
“ฝ่ามือเรียบง่ายอย่างนั้นด้วยพลังป้องกันของข้าไม่มีทางทำอันตรายได้แม้แต่น้อย” ลินลี่ย์เย้ยหยันอยู่ในใจ “อย่างไรก็ตามตอนนี้ซ่อนพลังของเราไว้เป็นดีที่สุด” หลังจากมาถึงตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์เขาตัดสินใจใช้ชีวิตเงียบๆ อยู่กับครอบครัวและสหายสักระยะหนึ่ง หลังจากเป็นเทพชั้นสูงแล้ว เขาจึงค่อยออกรบ
นอกจากนี้ หลังจากเป็นเทพชั้นสูงเขาอาจจะใช้ประโยชน์ได้มากยิ่งกว่า
เขายังไม่สามารถเปิดเผยพลังของเขาในตอนนี้ได้ เมื่อเขาเปิดเผยไป วันคืนที่สงบสุขของเขาจะจบลง
“ลินลี่ย์, บอกข้ามา นี่มันเรื่องอะไร?” การ์วีย์มองดูลินลี่ย์
“ผู้อาวุโสการ์วีย์ ข้าไม่ได้ล่วงเกินผู้อาวุโสเอ็มมานูเอลแม้แต่น้อย แต่เขากลับต้องการฆ่าข้าโดยไม่มีเหตุผลแม้แต่น้อย” ลินลี่ย์กล่าว เรื่องแหวนมังกรขนดไม่อาจเปิดเผยได้อย่างแน่นอน ตอนนี้ลินลี่ย์เปลี่ยนลักษณะของแหวนมังกรขนดไปแล้ว
แม้แต่สมบัติเทพก็สามารถเปลี่ยนลักษณะภายนอกได้ ดังนั้นสมบัติมหาเทพก็ทำได้เป็นเรื่องธรรมดา
ลินลี่ย์เสียใจที่ไม่เปลี่ยนลักษณะของแหวนมังกรขนดเมื่อในอดีต ที่สำคัญไม่มีใครเคยพบมันมาก่อนดังนั้นเขาจึงประมาทไม่ทันได้ระมัดระวัง ประการที่สองเนื่องจากพลังของเขาเพิ่มขึ้นมาก ดังนั้นจึงมีความมั่นใจในตนเองเกินไป แต่ใครจะคิดกันเล่าว่าเรื่องเช่นนี้จะเกิดขึ้น?”
“เอ็มมานูเอล?” การ์วีย์มองดูเขา
“การ์วีย์! เจ้าจะเชื่อข้าหรือจะเชื่อเขา?” ความโกรธของเอ็มมานูเอลเพิ่มขึ้นและหน้าของเขาบิดเบี้ยวน่าเกลียดเหลือทน “ลินลี่ย์ผู้นี้บังอาจล่วงเกินข้า วันนี้ข้าจะต้องฆ่าเขาให้ได้แน่นอน การ์วีย์! หลีกทาง”
เจ้าหน้าที่ชุดดำที่ระเบียงทางเดินพากันประหลาดใจ เอ็มมานูเอลผู้นี้ควบคุมตนเองไม่ได้
“เอ็มมานูเอล!” การ์วีย์ตวาดเย็นชา “เราอยู่ในเทือกเขาสกายไรท์! กฎของเผ่าก็คือเราจะฆ่ากันเองตามอำเภอใจไม่ได้ รู้ตัวไหมว่าเจ้าทำอะไรอยู่!”
“ผู้อาวุโสเอ็มมานูเอล ข้าก็อยากรู้จริงๆทำไมท่านถึงต้องการฆ่าข้า” ลินลี่ย์มองเอ็มมานูเอลขณะกล่าว
“ใช่แล้ว ทำไมเจ้าถึงต้องการฆ่าเขา?” การ์วีย์มองดูเขาเช่นกัน
เอ็มมานูเอลถลึงตามองลินลี่ย์ ตาของเขาแทบมีไฟลุก เขาโกรธโกรธที่ลินลี่ย์ไม่รู้ว่าอะไรดีชั่วสำหรับตนเอง “ข้าอุตส่าห์ยอมเสนอพลังมหาเทพหยดหนึ่งแลก แต่เขาก็ยังไม่ยอมรับเขาบังคับให้ข้าลงมือ” เอ็มมานูเอลตัดสินใจทันที
“ผู้อาวุโสเอ็มมานูเอล ทำไมท่านถึงโกรธนักหนาด้วย? ดูเหมือนว่าท่านไม่ใช่คนเจ้าโทสะเลย” ลินลี่ย์หัวเราะอย่างใจเย็น “ถ้าดึงดันกันไปแบบนี้ เราก็แค่สู้กันให้จบ ถ้าปลาไม่ตาย ก็แหขาดกันไปข้างหนึ่ง!”
จิตใจของเอ็มมานูเอลตึงเครียด
ตอนนี้มีอะไรที่เขาจะต้องกลัวด้วย?
ไม่ใช่การแทรกแซงของการ์วีย์ เขากลัวว่าลินลี่ย์จะเปิดเผยความจริงที่ว่าเขามีแหวนมังกรฟ้าต่อสาธารณชนเมื่อเรื่องนี้ถูกเปิดเผย... แม้ว่าทางเผ่าจะไม่ริบไว้ก็ตาม แต่ไม่มีทางที่แหวนจะตกมาถึงมือของเอ็มมานูเอล
“ก็ได้ ลินลี่ย์” เอ็มมานูเอลแค่นเสียง “เจ้าร้ายกาจนักไม่ใช่หรือ?”
“ข้าน่ะหรือ ร้าย? นั่นไม่เกินไปหน่อยหรือ?” ลินลี่ย์ตอบ
การ์วีย์ที่อยู่ใกล้ๆและเจ้าหน้าที่ชุดดำต่างสับสนไปหมด พวกเขาไม่รู้ว่าลินลี่ย์กับเอ็มมานูเอลกำลังพูดเรื่องอะไร
“ผู้อาวุโสเอ็มมานูเอล ข้าในฐานะผู้เยาว์อยากจะพูดสักสองสามคำ” ลินลี่ย์จ้องมองเอ็มมานูเอล พร้อมกับยิ้มที่มุมปาก “คนเราบางครั้งอย่าโลภเป็นดีที่สุด ความโลภจะทำให้ท่านตายได้ สิ่งที่เป็นของท่านก็จะเป็นของท่านอะไรไม่เป็นของท่าน ท่านไม่มีทางได้เป็นเจ้าของ”
เอ็มมานูเอลเริ่มหัวเราะด้วยความโกรธ
“เด็กน้อย, ข้าก็จะขอย้อนวาจาของเจ้า” เอ็มมานูเอลพูดด้วยความโมโห “อย่าโลภเกินไปความโลภจะทำให้ชีวิตของเจ้าดับสูญ!”
“เหรอ?ชีวิตข้าดับสูญ?” ลินลี่ย์เริ่มหัวเราะ “ท่านผู้อาวุโสที่น่านับถือท่านเป็นผู้มีพลังระดับอสูรเจ็ดดาวคนหนึ่ง ขณะที่ข้าเป็นเพียงเทพแท้ ข้ายอมรับว่าพลังของข้าด้อยกว่าของท่านและไม่ใช่เรื่องยากที่ท่านจะเอาชีวิตข้า แต่ท่านไม่รู้สึกว่าน่ารังเกียจเกินไปหรือ?”
“พวกเจ้าทั้งสองคนพูดเรื่องอะไรกัน!” การ์วีย์พูดด้วยความโมโห
“เอ็มมานูเอล” การ์วีย์กล่าว “ถ้าลินลี่ย์กระทำการไม่เคารพต่อเจ้าจริงๆ เจ้าไปฟ้องร้องกับสภาอาวุโสได้ ทางสภาฯจะตัดสินลงโทษลินลี่ย์แน่นอน”
เอ็มมานูเอลสูดหายใจลึก จากนั้นพูดช้าๆ “ลินลี่ย์, เจ้าล่วงเกินข้าจนไม่อาจอภัยให้ได้ข้า..ขอท้าประลองเป็นตายกับเจ้า!”
“ประลองเป็นตาย?”
การ์วีย์และเจ้าหน้าที่ชุดดำที่ระเบียงทางเดินตะลึงกันหมด การ์วีย์เพ่งมองเอ็มมานูเอลด้วยความประหลาดใจจากนั้นส่งสำนึกเทพคุย “เอ็มมานูเอล,เจ้าทำอะไรลงไป? เขาเป็นแค่เทพแท้ ถ้าเจ้าต้องการฆ่าเขาจริงๆ ก็แค่รายงานให้สภาอาวุโสทราบทำไมต้องท้าประลองเป็นตาย?”
แต่การ์วีย์จะรู้ได้ยังไงว่าเอ็มมานูเอลต้องการฆ่าลินลี่ย์เป็นการส่วนตัวและชิงเอาแหวนมังกรฟ้าของเขา?
เจ้าหน้าที่ชุดดำทุกคนมองลินลี่ย์ด้วยแววตาเห็นใจ
“ขอถามได้ไหม ประลองเป็นตายคืออะไร?” ลินลี่ย์ส่งเสียงขึ้น
ทันใดนั้นผู้อาวุโสการ์วีย์และเจ้าหน้าที่อื่นต่างประหลาดใจกันทุกคน ลินลี่ย์ไม่รู้แม้กระทั่งว่าประลองเป็นตายคืออะไร?
การ์วีย์ลอบถอนหายใจ รู้สึกเศร้าต่อลินลี่ย์ ในที่สุดเขาอธิบาย “ลินลี่ย์,ในเผ่าตระกูลเรามีคนมากมาย เมื่อหลายคนอยู่ร่วมกัน จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีการขัดแย้งเลย เมื่อความขัดแย้งทวีคูณขึ้นจนถึงระดับที่ไม่มีใครยอมกันนอกจากตายกันไปข้างหนึ่งความขัดแย้งเช่นนี้จะไม่มีทางประนีประนอมกันได้ แม้ว่าเผ่าเราจะมีกฎไม่อนุญาตให้คนในเผ่าฆ่ากันเอง แต่เมื่อความเกลียดชังเพิ่มพูนมากขึ้น บางครั้งการวางเฉยเป็นเรื่องที่ไร้ประโยชน์”
“เมื่อถึงตอนนี้ เหลืออยู่เพียงเงื่อนไขเดียว ประลองเป็นตาย!”
การ์วีย์พูดจริงจัง “การประลองเป็นตายเป็นการประลองที่โหดเหี้ยมอำมหิตทั้งสองฝ่ายจะต่อสู้กันจนตายไปข้างหนึ่ง แต่แน่นอนว่าถ้าผู้ชนะไว้ชีวิตผู้แพ้ นั่นก็ได้รับอนุญาตเช่นกัน อย่างไรก็ตามโดยทั่วไปในการประลองเป็นตายนั้นทั้งสองฝ่ายจะไม่ยุติจนกว่าจะมีอีกฝ่ายหนึ่งตาย”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ตอนนี้ลินลี่ย์จึงค่อยเข้าใจ
เขารู้สึกโกรธอย่างช่วยไม่ได้ “เอ็มมานูเอลผู้นี้ไม่ต้องการปล่อยเรา ไม่ว่าด้วยเงื่อนไขใดๆก็ตาม”
“เป็นไปได้ไหมว่าข้าจะรับคำท้านี้?” ลินลี่ย์ถาม
“เจ้าสามารถปฏิเสธได้” การ์วีย์กล่าว “อย่างไรก็ตามแม้ว่าเจ้าจะปฏิเสธ เขาก็สามารถยื่นคำร้องต่อสภาอาวุโสได้ เมื่อสภาอาวุโสยอมรับ แม้ว่าเจ้าจะปฏิเสธ..เจ้าก็ต้องร่วมประลองเป็นตายอยู่ดี”
“ฮ่าฮ่า...” ลินลี่ย์เริ่มหัวเราะ “สภาอาวุโสน่ะหรือ?”
เอ็มมานูเอลเองเป็นสมาชิกสภาอาวุโสอยู่แล้ว ถ้าเอ็มมานูเอลยื่นคำร้องขอท้าประลองเป็นตายมีหรือจะไม่ผ่าน?
“ลินลี่ย์! ถ้าเจ้าเสียใจก็ยังไม่สายเกินไป” เอ็มมานูเอลหัวเราะเย็นชา “เงื่อนไขของข้าไม่เปลี่ยน ข้าไว้ชีวิตเจ้าได้” ข้อเสนอของเอ็มมานูเอลใช้หยดพลังมหาเทพหนึ่งหยดแลกเปลี่ยนแหวนมังกรขนด
ลินลี่ย์มองดูเขา ยิ่งมองนัยน์ตาของเขาก็ยิ่งเย็นชา
“ยังไม่สายเกินไปที่ข้าจะปฏิเสธน่ะหรือ?” ลินลี่ย์มีรอยยิ้มหยันบนใบหน้า
“ใช่แล้ว” เอ็มมานูเอลพยักหน้า
“เอ็มมานูเอล ข้าจะบอกท่านอย่างนี้” ลินลี่ย์แค่นเสียง “ข้าขอปฏิเสธคำท้าประลองเป็นตายของท่าน!”
“เจ้าปฏิเสธไปก็ไร้ประโยชน์” เอ็มมานูเอลกล่าว
ลินลี่ย์แค่นเสียง “ข้าปฏิเสธตอนนี้เท่านั้น ส่วนสภาอาวุโสจะยอมรับคำขอของท่านหรือไม่ ข้าไม่รบกวนเกี่ยวข้อง ข้าจะบอกท่านเรื่องหนึ่งเหมือนกัน ....เอ็มมานูเอล ถ้าท่านเสียใจตอนนี้ก็ยังไม่สายเกินไป ในอนาคตต่อให้ท่านเสียใจ ตอนนั้นก็คงสายเกินไป”
หลังจากพูดเสร็จลินลี่ย์หันหน้ากลับและเดินจากไป หน้าของเขาเย็นชาราวกับเคลือบด้วยน้ำแข็ง
ลินลี่ย์มีแรงกระตุ้นอยากฆ่าแล้วในตอนนี้
“เดิมทีข้าต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขจนกว่าจะกลายเป็นเทพชั้นสูง เอ็มมานูเอล!เจ้าบังคับข้าเองนะ!” ลินลี่ย์ไม่ลังเลอีกต่อไป ถ้าเขาต้องเข้าร่วมประลองเป็นตาย เขาคงจะฆ่าเอ็มมานูเอลแน่!
เมื่อเห็นลินลี่ย์หันหลังจากไป เอ็มมานูเอลหัวเราะเย็นชา
“ปฏิเสธหรือ? เจ้ายังจะปฏิเสธได้หรือ?” เอ็มมานูเอลหัวเราะ “เมื่อถึงเวลาต่อให้เจ้าเสียใจก็ไม่สำคัญแล้ว” เอ็มมานูเอลส่ายศีรษะแล้วจากไปโดยไม่สนใจการ์วีย์
การ์วีย์ถอนหายใจ
“น่าเสียดายอัจฉริยะผู้นี้ เขากำลังจะตาย” การ์วีย์ไม่คิดว่าลินลี่ย์จะมีโอกาสรอดชีวิต เอ็มมานูเอลเป็นสมาชิกรุ่นที่สี่ของตระกูล บิดาของเขาเป็นสมาชิกรุ่นที่สามขณะที่ย่าของเขาเป็นสมาชิกรุ่นที่สอง
ทั่วทั้งเผ่ามังกรฟ้า มีสมาชิกรุ่นสองเพียงสองคนเป็นพี่ชายและน้องสาว คนแรกเป็นประมุขเผ่ามังกรฟ้า เป็นบุตรชายของมหามังกรฟ้าบรรพบุรุษของเผ่า ส่วนอีกคนหนึ่งเป็นน้องสาวของประมุขเผ่า
สถานะของเอ็มมานูเอลในเผ่าถึงจะไม่สูงล้ำมาก แต่อิทธิพลของเขาก็ยังมีอยู่
สำหรับการ์วีย์เล่า? เขามาจากคนรุ่นหลังเป็นหมื่นๆรุ่น แม้ว่าเขาจะเป็นอสูรเจ็ดดาวแต่อิทธิพลของเขายังด้อยกว่าเป็นธรรมดา
ตกดึกคืนนั้น พระจันทร์สีม่วงลอยเด่นอยู่ในท้องฟ้า
ลินลี่ย์บินไปตามเส้นทางมังกร เขาจำทางกลับบ้านได้ชัดเจน
“แหวนมังกรขนดนี้” ลินลี่ย์ก้มหน้ามองดู ในใจของเขาอดนึกถึงภาพในอดีตสมัยที่ยังเยาว์วัยมิได้
เพราะแหวนมังกรขนดนี้ เขาจึงได้พบกับปู่เดลิน
เพราะปู่เดลินช่วยเขาจึงกลายเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งทรงพลัง
เป็นเวลาหลายปี เพราะแหวนมังกรขนดเขาสามารถชดเชยความแตกต่างในพลังวิญญาณของเขาเมื่อเทียบกับเทพชั้นสูง เพราะแหวนมังกรขนด เขาจึงกล้าสู้กับอสูรเจ็ดดาวได้ โดยไม่รู้ตัว...
ตลอดชีวิตของเขาผูกพันอยู่กับแหวนมังกรขนด
“ทุกคนอย่าฝันไปเลยว่าจะชิงแหวนมังกรขนดไปจากข้าได้”ลินลี่ย์พูดเบาๆ
“ถ้าข้าถูกบังคับให้เข้าประลองเป็นตาย”ดวงตาลินลี่ย์เย็นชากระจ่างชัดทันที “ข้าจะฆ่าเอ็มมานูเอลนั้นแน่นอน ตอนนี้เขาเป็นเพียงคนเดียวที่รู้เรื่องแหวนมังกรขนดนี้ เขาคงไม่โง่พอเผยแพร่ข่าวนี้ ถ้าข้าฆ่าเขา ก็ไม่มีใครรู้เรื่องนี้”
ในวันนั้นเอ็มมานูเอลกลับมาทันทีและตามหาผู้อาวุโสสามคนเพื่อให้ช่วยจัดการประลองเป็นตาย
ตามปกติการประลองจะได้รับความยินยอมจากผู้อาวุโสสามคน
“เอ็มมานูเอล,ทำไมเจ้าเรียกเราทั้งสามคนมาอย่างเร่งด่วนอย่างนี้?” บุรุษสองคนสตรีหนึ่งคนทั้งสามอยู่ในชุดเกราะฟ้าลายทองและชุดคลุมยาวที่มีอักษรรูนวิเศษ
สามผู้อาวุโส
“มีเทพแท้คนหนึ่งบังอาจล่วงเกินข้า เขาไม่ให้ความเคารพข้าแม้แต่น้อย” เอ็มมานูเอลพูดด้วยความโมโห“ข้าจะต้องฆ่าเขาให้ได้ ข้าขออนุญาตประลองเป็นตาย ท่านทั้งสามคนช่วยอนุมัติคำขอให้ข้าด้วย” ขณะที่เขาพูด เขายื่นเอกสารแผ่นหนึ่ง
ผู้อาวุโสทั้งสามชำเลืองมองเอกสาร จากนั้นมองหน้ากันเอง
นี่ล้อกันเล่นใช่ไหม?
ผู้อาวุโสคนหนึ่งจะเข้าร่วมประลองเป็นตายเพื่อฆ่าเทพแท้?
สตรีผมทองหัวเราะ “เอ็มมานูเอล ในฐานะคนที่รับตำแหน่งผู้อาวุโส เป็นไปได้ยังไงที่เจ้าต้องไปโต้เถียงกับเทพแท้?”
“ข้าจะต้องฆ่าเขาให้ได้” เอ็มมานูเอลกล่าว
ชายชราผมขาวที่เป็นผู้อาวุโสอีกคนหนึ่งหัวเราะ “เอ็มมานูเอล! ถ้าเจ้าต้องการฆ่าเขาจริงๆก็แค่บอกเหตุผลที่เขาล่วงเกินเจ้า เราจะส่งคนไปคร่ากุมเขา ตามกฎของเผ่าเราสามารถประหารเขาได้ด้วยข้อหาล่วงเกินผู้อาวุโสทำไมต้องประลองเป็นตายด้วย? เจ้าเป็นผู้อาวุโสที่น่านับถือกำลังจะประลองเป็นตายกับเทพแท้ นี่มันน่าขันเกินไปหรือเปล่า?”
“พวกท่านทั้งสามคนแค่ถือว่าข้า..เอ็มมานูเอลขอร้องให้พวกท่านช่วยข้าได้ไหม?” เอ็มมานูเอลกล่าว
ทั้งสามคนมองหน้ากันเอง
“ก็ได้ เราเห็นด้วย” ผู้อาวุโสทั้งสามคนดึงปากกาขนนกออกมาและลงลายมือชื่อไว้บนเอกสาร
เอ็มมานูเอลเมื่อเห็นเช่นนี้ก็หัวเราะลั่น ในใจของเขา เขาพูดกับตนเอง “ลินลี่ย์! ตอนนี้สายเกินไปสำหรับเจ้าต่อให้เจ้าเสียใจก็ตาม”