ตอนที่ 11 สะพานที่ปิดกั้น
ตอนที่ 11 สะพานที่ปิดกั้น
สายฝนได้หยุดตกลงมาแล้ว แต่สภาพอากาศยังคงเย็นเป็นอย่างมาก บวกกับตอนนี้เป็นเวลา 5 โมงเย็นแล้ว ทำให้รอบ ๆ เริ่มมืดมากขึ้นเรื่อย ๆ เวลาก่อนที่ดวงอาทิตย์จะตกนั้นเหลือน้อยลงไปทุกทีแล้ว
เรนและกลุ่มลงมาด้านล่างได้ พวกเขาก็วิ่งตรงไปตามทางเดินที่ใกล้ที่สุด เพื่อเข้ายังประตูทางออกหลังมหาวิทยาลัย
ส่วนผู้ติดเชื้อที่เคยอยู่แถว ๆ รถฮัมวีของทหารก่อนหน้านั้นได้ไล่ตามเสียงรถฮัมวีที่อาจารย์โอขับหนีเอาออกไปทางหน้าประตู พวกผู้ติดเชื้อจึงตามกันไปทางนั้นและบางส่วนก็เข้าไปยังอาคาร 1 เพื่อตามหาพวกเขา
ตอนนี้บนถนนจึงแทบไม่มีผู้ติดเชื้ออยู่เลย
ทั้งกลุ่มวิ่งผ่านจุดหนึ่งที่มีรอยละลายไปกับน้ำฝนที่ไหลตามพื้น ยังมีเศษเนื้อกระจัดกระจายอยู่ จุดตรงนี้คือบริเวณที่สองนักศึกษาโดนอาจารย์โอหักหลังและทิ้งให้ผู้ติดเชื้อกินพวกเขาทั้งเป็น
ทุกคนมีสีหน้าและท่าทีต่างกันไป แต่ก็ไม่มีใครหยุดวิ่งพวกเขาไปกันต่อ ในที่สุดก็มาถึงพื้นที่ด้านหลังสุดของมหาวิทยาลัย มันล้อมไปด้วยอาคาร 4 แห่ง อาคาร 4 ที่อยู่ข้างขวามีถนนขั้นกลางกับอาคาร 5 ที่อยู่ทางด้านซ้ายมือ ถัดไปคืออาคาร 9 อยู่ข้าง ๆ อาคาร 5 มีถนนขั้นกลางทั้งสองด้วย
และสุดท้ายคืออาคาร 11 ที่อยู่ด้านหลังมหาวิทยาลัยที่มีถนนขั้นกลาง
ผังของมหาวิทยาลัยโมบัสนั้นเหมือนกับตัว U
ตอนนี้เรนและกลุ่มอยู่ที่สุดปลายถนนระหว่างอาคาร 4 และอาคาร 5 เส้นทางต่อไปของพวกเขาคือถนนด้านหลังสุดติดกับ อาคาร 11 ซึ่งพอพ้นทางเดินนี้ไปจะเป็นประตูทางออกด้านหลังมหาวิทยาลัย
เรนวิ่งนำทางต่อไป โดยไอราและอาจารย์หลินตามมา ปิดท้ายด้วยธันวา เขาคอยระวังหลังให้ทุกคน
ว๊ากกก!!!
เสียงคำรามดึงขึ้นมาจากอาคารทั้งสองด้าน
เรนหันกลับไปมองทางอาคาร 5 ซึ่งลางสังหรณ์เตือนเขา เป็นจังหวะเดียวกับที่ไอราและคนอื่น ๆ หันไปมอง
“ผู้ติดเชื้อ”
บนอาคารมีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ไม่ต่ำกว่า 100 ตัว พวกมันทั้งหมดยืนอยู่ขอบชั้น อาคาร 5 มีสามชั้นที่เป็นที่จอดรถ ทำให้มันกว้างมากพอ
ผู้ติดเชื้อพากันวิ่งด้วยความเร็วและกระโดดลงไปหาเรนและกลุ่ม
“วิ่ง” เรนตะโกนบอกทุกคน พวกเขาพากันวิ่งในทันที
ส่วนใหญ่กระโดดลงมาตามหลังพวกเขาและเรนก็พาทุกคนถอยห่างออกมา แต่ว่าทางด้านอาคาร 11 ก็มีกระโดดลงมาเหมือนกัน มากกว่าครึ่งตายลงไปจากการตกจากที่สูง แต่ที่เหลือก็ยังลุกขึ้นมาได้
โดยเฉพาะพวกที่พูดได้ พวกมันแข็งแกร่งกว่าพวกที่คำรามได้อย่างเดียว
“แย่แล้วประตูมันล็อก” ไอราพูดด้วยความตกใจ
“ฉันลืมไปว่าประตูจะเปิดปิดเป็นเวลา” อาจารย์หลินพูดด้วยสีหน้าตกใจ
ตอนนั้นเองก็มีผู้ติดเชื้อที่แต่งกายด้วยชุดยามเดินออกมา
“ประตูปิด...ประตูปิด” มันพูดสลับไปมา ก่อนจะตรงเข้าหาเรน แต่เรนรู้ตัวอยู่แล้ว เขายิงมันด้วยธนู ลูกธนูปักเข้าที่เบ้าตา แต่มันไม่ตาย
“ฉันเอง” ธันวาวิ่งเข้าใส่และใช้ขวานฟันเข้าไปข้างใบหู
ปัง!
ขวานฟันเข้าที่ใบหูไปถึงหัวกะโหลก ตัวของผู้ติดเชื้อยามกระเด็นไปกระแทกกับหน้าต่างป้อมยามจนแตกและแน่นิ่งตายอยู่ที่หน้าต่าง
ธันวาออกแรงดึงขวานที่ติดอยู่ในกะโหลกออก
“ฉันจะยื้อมันไว้ให้ นายหากุญแจและไปเปิดประตู” เรนบอกกับธันวา ก่อนที่เขาจะหันกลับไปหาผู้ติดเชื้อและเริ่มฆ่าพวกมัน
ส่วนที่ต้องหากุญแจเพราะมันเป็นล็อกด้านในประตูที่ต้องใช้กุญแจไข ไม่ใช่ล็อกแบบแม่กุญแจที่ยื่นออกมา มันไม่สามารถทุบได้ตามปกติ
ผู้ติดเชื้อหลายตัวได้สูญเสียความสามารถในการเดินและส่วนตัวที่ตามมานั้นความเร็วของพวกมันก็ลดลง เพราะร่างกายที่เสียจากการกระโดดลงมาจากอาคารสูงหลายชั้น
เรนสังหารพวกมันด้วยธนูดอกแรก ดอกที่สองดอกที่สาม ดอกที่สิบ เขายิงไปก็คอยไปเก็บลูกธนูจากตัวที่ตายใกล้ ๆ ด้วย
หลินก็เข้ามาช่วยด้วย เธอคอยยิงตัวที่อยู่ใกล้ ๆ เนื่องจากความแม่นของหญิงสาวยังไม่เท่ากับเรน เพราะเธอไม่ได้ยิงมันมานาน
“ออกแล้ว” ธันวาตะโกนเรียกทุกคน ที่จริงการไขกุญแจนั้นไม่นาน แต่ธันวาต้องไปหากุญแจที่ตกอยู่ในป้อมยามที่ค่อนข้างเละเทะ ด้านในยังมีศพของผู้ติดเชื้อนักศึกษาอยู่ด้วยคนหนึ่ง
ธันวาเดาว่าผู้ติดเชื้อนักศึกษาคนนี้คงมาโจมตียามในป้อม แต่โดนฆ่าตาย ส่วนยามนั้นก็ติดเชื้อจึงกลายมาเป็นผู้ติดเชื้อแบบนี้
“อาจารย์หลินคุณไปก่อน” เรนหันไปบอกหลินที่อยู่ข้าง ๆ
หญิงสาวตกลงรีบวิ่งตามธันวากับไอราออกไป เธอต้องไปที่รถเพราะกุญแจรถอยู่กับเธอ
เรนใช้โอกาสนี้ฆ่าพวกมันอีกหลายตัวและเก็บของที่ได้มาจากผู้ติดเชื้อ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเหรียญทองระบบ เขารวบรวมมาได้มากถึง 30 เหรียญทอง รองลงมาคือ หินพลังงานเขาได้มาเพิ่ม 5 อันและสุดท้ายคือหินรูนิกเปล่าอีก 1
“เรน!” มีเสียงตะโกนมาจากด้านหลังประตู เรนรีบวิ่งออกไป ก่อนจะปิดประตู
ประตูนี่เป็นแบบล็อกในตัว พอมันปิดประตูก็จะล็อกทันที ทำให้ผู้ติดเชื้อไม่สามารถออกมาได้ เรนหันกลับไปก็เห็นว่าธันวา ไอราและอาจารย์หลินนั้นเจอกับผู้ติดเชื้อหลายสิบตัว ซึ่งสถานการณ์วุ่นวายมาก และด้านหลังเรนยังมีผู้ติดเชื้อกลุ่มใหญ่กำลังมาทางนี้
ผู้ติดเชื้อพวกนี้เป็นพวกพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนในบริเวณนี้
เรนไม่รอช้า เขาลงมือฆ่าพวกที่ธันวาและสองสาวสู้อยู่ พอเรนมาช่วยก็ทำให้สถานการณ์ของพวกเขาดีขึ้นมา
อาจารย์หลินหยิบกุญแจรถออกมาปลดล็อกรถทันที
พอเห็นว่ารถปลดล็อกแล้วทุกคนก็วิ่งขึ้นไปกันบนรถ เรนใช้โอกาสที่วิ่งนี้คว้าเอาเหรียญทองระบบมาด้วย เพราะเขาเชื่อว่าในอนาคตต้องใช้พวกมันแน่นอน
เรนขึ้นไปนั่งข้างฝั่งคนขับ อาจารย์หลินเป็นคนขับและธันวากับไอรานั่งเบาะหลังของรถยนต์
อาจารย์หลินรีบขับรถออกไป โดยเธอพยายามไม่ชนผู้ติดเชื้อ เพราะจะทำให้รถเสียหลักได้ แต่ว่าก็ยังมีเฉี่ยวชนใส่ผู้ติดเชื้อล้มไปหลายคน
ทุกคนหันกลับมองผู้ติดเชื้อที่วิ่งตามมาด้านด้านหลัง
“ไปไหนกัน” อาจารย์หลินถาม
“ออกจากเมืองไปที่ถนน 404” เรนบอกกับเธอ
อาจารย์หลินพยักหน้าตกลง เธอขับออกจากซอยและไปที่ถนนใหญ่ในทันที
พอรถออกมาที่ถนนใหญ่ทั้ง 4 คนก็เห็นสภาพเมืองวอริกในสภาพที่เละเทะ ทุกแห่งเกิดเพลิงใหม่จำนวนมาก มีผู้ติดเชื้อเดินเพ่นพ่านไปหมด
ผู้ติดเชื้อหลายคนเข้าไปกัดกินศพของคนที่ตาย ยังมีคนรอดชีวิตอยู่บ้าง บางคนติดอยู่ในรถที่มีผู้ติดเชื้อหลายสิบคนรุมล้อมอยู่ บางคนก็วิ่งหนีพยายามตามรถผู้เชื้อคนอื่น ๆ
และมีคนหนึ่งที่กระโดดใส่รถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าของรถพวกเขา
รถคันนั้นชนคนจนเสียหลังไปชนกับเสาไฟส่องทางข้างทางในทันที
เหตุการณ์จากรถคันนั้นทำให้อาจารย์หลินระวังมากขึ้น เธอไม่อาจจะต้องมาจบลงบนถนน ทั้งที่ใช้ความพยายามในการหนีมามาก
หลังรถขับออกห่างจากมหาวิทยาลัยมาได้ประมาณครึ่งชั่วโมง
ซึ่งออกห่างจากเขตที่มีผู้ติดเชื้อหนาแน่นแล้ว ทำให้ทั้ง 4 คนถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ตอนนี้ท้องฟ้าด้านนอกก็มืดแล้ว เรนมองไปที่นาฬิกาที่หน้ารถ มันเป็นเวลา 6 โมงเย็นแล้ว ไฟถนนบางส่วนยังติดอยู่ แต่เหมือนไฟจะไม่พอเพราะมันติด ๆ ดับ ๆ
“อาจารย์หลิน ในรถมีน้ำไหม” เรนถาม เขารู้สึกคอแห้งเป็นอย่างมาก เรนมองไปรอบ ๆ แต่เห็น เขายื่นมือไปเปิดที่ช่องเก็บของหน้ารถ
“อ้า อย่าเปิดนะ” อาจารย์หลินเหมือนจะนึกขึ้นมาได้ เธอพยายามห้ามเรน แต่เรนกดเปิดไปแล้ว พอช่องเก็บของหน้ารถเปิดออกเรนก็เห็นว่าด้านในมีแท่งสีชมพูและของเล่นผู้ใหญ่อยู่
เรนปิดมันลงไปเงียบ ๆ ทันที แต่อาจารย์หลินนั้นหน้าแดงแล้ว เธออายเป็นอย่างมาก
“ผมไม่เห็นอะไร” เรนพูดขึ้นมา
แต่ดูเหมือนจะให้ผลตรงข้าม อาจารย์หลินยิ่งหน้าแดงเข้าไปใหญ่ เธอตั้งสติว่าเขาเป็นแค่ลูกศิษย์เท่านั้น เธอจะอายทำไม
“น้ำอยู่ช่องหลังเบาะ” อาจารย์หลินพูดด้วยน้ำเสียงอู้อี้
เรนหันกลับไป เขาพบว่าธันวาและไอรานั่นหลับไปแล้ว เรนไม่รบกวนทั้งสอง เขาหยิบน้ำขวดใหญ่ออกมา ก่อนจะเปิดและกำลังจะดื่ม แต่ก็นึกขึ้นมาได้
“อาจารย์จะดื่มไหม” เรนถามหญิงสาว
“อืม” อาจารย์หลินรับมาด้วยมือข้างเดียว ก่อนจะกระดกดื่มไป
หลังเรนดื่มตามไป ก่อนจะปิดฝาขวดน้ำอย่างระวัง ตอนนี้พวกเขามีน้ำจำกัด เรนเจอขวดน้ำด้านหลังอีกสองขวด น้ำพวกนี้หลินได้มาจากตอนที่เติมน้ำมัน
“ธันนายเก็บน้ำขวดนี้ไว้กับตัว” เรนเรียกธันวาเบา ๆ
ธันวาลืมตาขึ้นมา ที่จริงเขาไม่ได้หลับลึกอะไร แค่พักสายตาให้หายเหนื่อย ธันวารับน้ำมาและเปิดเพื่อดื่ม ก่อนจะปลุกให้ไอราขึ้นมาดื่มด้วย
ทั้งสองดื่มน้ำและเก็บส่วนที่เหลือไว้ในกระเป๋า
ขณะที่แบ่งน้ำดื่มกันอยู่ตอนนั้นเองรถก็แบกอย่างกะทันหัน ทำให้ทุกคนตื่นตัวกันในทันที
“แย่แล้วสะพานที่จะพาออกจากเมืองโดนปิด” อาจารย์หลินมองด้วยสีหน้ากังวล
คนอื่น ๆ ก็เช่นกัน ตอนนี้ด้านหน้านั่นเต็มไปด้วยรถยนต์จำนวนมากที่มุ่งหน้าออกจากเมือง แต่เพราะมีรถบนถนนมากเกินไปทำให้รถติด สุดท้ายผู้คนก็ขับแทรกกันจนเกิดอุบัติเหตุและรถไม่สามารถเคลื่อนตัวต่อไปได้
ที่สะพานนี้ยังมีผู้คนที่รอดอยู่อีกจำนวนมาก พวกเขามีเป้าหมายเดียวกันคือออกจากเมือง
แต่ทางที่ออกจากเมืองไปต่อไม่ได้แล้ว
“เราต้องลงเดินเท้า” เรนบอกกับทุกคน แต่ตอนนั้นเองก็เกิดความวุ่นวายขึ้น ที่สะพานมีกลุ่มคนวิ่งหนีตายกัน
เรนและธันวาลงจากรถไปดู ส่วนสองสาวยังอยู่ด้านในเพื่อความปลอดภัย อาจารย์หลินยังไม่ดับเครื่อง เธอเตรียมพร้อมถอยหนีบตลอดเวลา
ธันวาปีนขึ้นไปบนหลังคารถเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น
“ธัน นายเห็นอะไรไหม” เรนถาม
“ซวยแล้วไง มีผู้ติดเชื้อฝูงใหญ่อยู่บนสะพาน พวกมันกำลังมาทางพวกเรา” ธันวาพูดด้วยความตกใจ
ตอนนั้นเรนก็รับรู้ได้ถึงอันตรายจากด้านหลัง เขาหันกลับไปเห็นว่ามีรถแท็กซี่คันหนึ่งขับมาทางพวกเขาด้วยความเร็ว
เรนรีบจับมือของธันวาก่อนจะดึงตัวเขาลงมาทำให้หลบออกมาได้อย่างเฉียดฉิว
ปัง!
ตอนนั้นก็มีรถชนที่ท้ายรถของอาจารย์หลินอย่างแรง ก่อนจะไปเสียหลักไปชนกับรถคันอื่น ๆ
“ไอรา” ธันวาตกใจจนหน้าซีด เขารีบลุกขึ้นและวิ่งไปดูไอราที่ติดอยู่ในรถ
“ธัน...” ไอราเรียกชื่อแฟนหนุ่มของเธอ
“ไอราเธอเป็นอะไรไหม” ธันวาถามด้วยความเป็นห่วง
“ฉันรู้สึกมึนหัว” ไอราจับไปที่หัวของเธอ
ธันวารีบพาเธอออกมาจากรถและดู เขาพบว่าที่ตัวไม่มีบาดแผลอะไร
“ฉันค่อยยังชั่วแล้ว อาจารย์หลินละ” ไอรามองไปที่อาจารย์หลิน
เรนเข้าไปช่วยอาจารย์หลินออกมาเช่นกัน โชคดีที่ทั้งสองคนไม่เป็นอะไรมาก ไม่ได้มีบาดแผลอะไร อาจจะเพราะรถที่ชนท้ายนั้นชนไปแบบเฉียด ๆ เท่านั้นและไม่ได้แรงมาก แต่รถคงไปต่อไม่ได้แล้วเพราะมันติดอยู่กับรถคันอื่น ๆ