ข้าอยู่บ้านร้อยปีก็เข้าสู่วิถีไร้เทียมทาน ตอนที่ 58 มหาจักรพรรดินี? จงคุกเข่าลง!
ข้าอยู่บ้านร้อยปีก็เข้าสู่วิถีไร้เทียมทาน ตอนที่ 58 มหาจักรพรรดินี? จงคุกเข่าลง!
รับศิษย์เพิ่ม!
เหรินชางเหอศิษย์ในนามของเขาได้เข้าใจตราประทับผสานหยินหยางศักดิ์สิทธิ์และหลอมพลังแห่งความตายให้เป็นพลังแห่งชีวิตภายใต้คำชี้แนะของเขา และระบบก็ได้มอบรางวัลให้เขาเป็นการฝึกฝนพลังยุทธ์
ซูเซียนเอ๋อร์สาวใช้ของเขาก็ฝึกวิชายุทธ์ที่เขามอบให้และภายใต้คำชี้แนะของเขา นางก็ได้ทะลวงไปยังขอบเขตต่อไป ฉู่เซวียนก็ได้รับรางวัลเป็นการฝึกฝนพลังยุทธ์อีก
ด้วยเหตุนี้ การรับศิษย์เพิ่มและฝึกฝนพวกเขาจะทำให้เขาสามารถเก็บเกี่ยวรางวัลเป็นการฝึกฝนพลังยุทธ์จากระบบได้
ฉู่เซวียนรู้สึกความสุขมาก ในที่สุดเขาก็ค้นพบวิธีการที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งอย่างรวดเร็วแล้ว
อย่างไรก็ตาม เงื่อนไขในการรับศิษย์ของเขานั้นไม่ควรอ่อนข้อ
หากพรสวรรค์หรือโชคชะตาของศิษย์ที่เขารับมานั้นอยู่ในระดับกลาง ๆ แม้ว่าฉู่เซวียนจะชี้แนะศิษย์ให้ก้าวหน้าได้ ทว่าระบบอาจจะไม่ให้รางวัลเขาเป็นการฝึกฝนพลังยุทธ์
ศิษย์ของเขาจะต้องเป็นบุตรแห่งโชคชะตา
แม้ว่าเหรินชางเหอจะไม่ใช่บุตรแห่งโชคชะตา ทว่าอีกฝ่ายก็ยังเป็นยอดฝีมือขอบเขตสวรรค์ขั้นสูงสุด ด้วยเหตุนี้ ฉู่ซวนจึงถือได้ว่าเหรินชางเหอได้ข้ามเงื่อนไขนี้ไป
เดี๋ยวก่อน! ไม่สิ! เหรินชางเหอสามารถมาพบเจอเขาได้ เพียงแค่นี้ก็พิสูจน์ได้แล้วว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นบุตรแห่งโชคชะตา
เห็นได้ชัดว่าโชคชะตาของเหรินชางเหอมีอยู่พอสมควร มิฉะนั้นอีกฝ่ายคงจะถูกติดอยู่ในถ้ำเทพร่วงหล่น ไม่สามารถเรียนรู้ตราประทับผสานหยินหยางศักดิ์สิทธิ์จากเขาและหนีออกจากที่นั่นได้
ฉู่เซวียนมองไปที่เขตแดนลับแห่งวาสนาทั้งสองและรู้สึกหดหู่ใจ เหตุถึงมันยังไม่ดึงดูดบุตรแห่งโชคชะตามาสักคน
เขาควรจะใช้เขตแดนลับแห่งวาสนาที่อื่นหรือไม่?
......
ฉู่เซวียนรู้สึกลังเล
“รอกันอีกหน่อย หากไม่มีบุตรแห่งโชคชะตาปรากฏขึ้นตามกำหนดสามปี ข้าจะใช้เขตแดนลับแห่งวาสนาที่อื่น”
ฉู่เซวียนตัดสินใจใช้เขตแดนลับแห่งวาสนาต่อไป หากไม่มีบุตรแห่งโชคชะตาปรากฏขึ้นหลังจากระบบมอบรางวัลตามกำหนดสามปีของเขา เขาจะย้ายไปที่อื่น
ตอนนี้เขามีสมบัติมากมาย วิชายุทธ์และพลังลี้ลับนับไม่ถ้วน
เคล็ดวิชาจักรพรรดิอย่างน้อยสิบเล่ม เคล็ดวิชาสวรรค์ หรือเคล็ดวิชาศักดิ์สิทธิ์ หรือแม้แต่พลังลี้ลับต่าง ๆ เขาได้เลือกวิชายุทธ์ที่ทรงพลังเหล่านั้นพร้อมกับสมบัติแห่งฟ้าดิน โอสถ อาวุธจักรพรรดิ และอื่น ๆ อีกมากมายไปวางไว้ในเขตแดนลับแห่งวาสนา
หากมีบุตรแห่งโชคชะตาเข้ามา มันจะไม่มีปัญหาสำหรับพวกเขาที่จะพึ่งพาการเก็บเกี่ยวจากเขตแดนลับแห่งวาสนานี้เพื่อทะลวงไปยังขอบเขตจักรพรรดิหรือแม้แต่ขอบเขตสูงสุด
สามวันต่อมา ปรากฏข่าวหนึ่งที่สั่นสะเทือนไปทั่วแคว้นฉิน!
นอกจากนี้มันยังสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งแผ่นดินหนานโจวในระยะเวลาอันสั้นด้วย
ฉินเค่ออวิ๋นขึ้นครองบัลลังก์ นางกลายเป็นที่รู้จักในฐานะมหาจักรพรรดินีแห่งแคว้นฉิน!
แคว้นฉินได้เปลี่ยนชื่อเป็นจักรวรรดิต้าฉิน และไม่ได้ขึ้นตรงต่อจักรวรรดิต้าเฉียนอีกต่อไป
ทั่วทั้งแผ่นดินหนานโจว ชื่อของจักรวรรดินั้นไม่ใช่สิ่งที่มองข้ามได้
เมื่อก่อนจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิต้าเฉียนนั้นเป็นจักรพรรดิองค์สุดท้ายของแผ่นดินแผ่นดินหนานโจวนี้!
พวกเขามีรากฐานที่ลึกซึ้งและประวัติศาสตร์อันยาวนาน
ราชวงศ์ฉินจะเทียบกับพวกเขาได้อย่างไร?
ในวันที่ฉินเค่ออวิ๋นได้กลายเป็นจักรพรรดินี นางไปที่จักรวรรดิต้าเฉียนเป็นการส่วนตัว และขอให้พวกเขาปล่อยยอดฝีมือของจักรวรรดิต้าฉิน!
ในวันเดียวกันนั้น ทุกคนพบว่าจักรพรรดินีต้าฉินผู้นี้ทรงพลังมากเพียงใด
นางได้ปราบยอดฝีมือของจักรวรรดิต้าเฉียนสิบคนด้วยตัวคนเดียวและสามารถเอาชนะจักรพรรดิคนปัจจุบันของจักรวรรดิต้าเฉียนได้ ซึ่งมันได้สร้างความตกตะลึงให้กับแผ่นดินหนานโจวทั้งหมด!
และนางยังได้นำตระกูลฉิน ตระกูลจ้าว ตระกูลเหอและตระกูลฉู่ไปจากจักรวรรดิต้าเฉียนและเข้าต่อสู้กับจักรพรรดิมารแห่งจักรวรรดิต้าเซี่ยอีกด้วย
พวกเขาได้ใช้ความแข็งแกร่งอันทรงพลังเพื่อจัดการกับจักรพรรดิมาร
ทั่วทั้งแผ่นดินหนานโจวได้สั่นสะเทือน
จักรพรรดินีฉินผู้ยิ่งใหญ่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่ใกล้ชิดกับขอบเขตจักรพรรดิมากที่สุดในแผ่นดินหนานโจว!
นอกจากนี้นางอายุเพียงยี่สิบห้าปีเท่านั้น!
ในวันนี้เสียงคำรามของฉู่เทียนหมิงก็ดังก้องออกไปจวนเก่าตระกูลฉู่
“ฉู่หยวน เจ้าสารเลว! เจ้าหลานชายอกตัญญู!”
ฉู่เซวียนเม้มยิ้มมุมปาด เขาคาดไว้แล้วว่าจะมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น
โชคดีที่ฉู่หยวนไม่ได้อยู่ในอาณาเขตของตระกูลฉู่อีกต่อไป มิฉะนั้นเขาคงจะถูกทุบตีจนตายเป็นแน่
เขาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา วิญญาณอสูรได้ฟื้นตัวเต็มที่แล้วและพลังยุทธ์ก็ใกล้เคียงกับขอบเขตจักรพรรดิมาก
สถานการณ์ของสี่ตระกูลที่ปกครองแคว้นฉินกำลังจะสิ้นสุดลง
ยอดฝีมือที่อยู่ขอบเขตรวมศูนย์ของตระกูลจ้าว, ตระกูลเหอ และตระกูลฉู่ที่กลับมาพร้อมกับฉินเค่ออวิ๋นทั้งหมดล้วนอยู่ภายใต้แคว้นฉิน และไม่ได้กลับไปหาตระกูลของพวกเขา
พวกเขาไม่สามารถไปได้
สามวันต่อมา ได้มีคำสั่งของจักรพรรดินีมาถึงผู้นำตระกูลฉู่ ฉู่เทียนหมิงให้เข้าเฝ้าที่เมืองหลวง!
เมืองฉู่จะถูกเปลี่ยนชื่อเป็นเมืองฉินหนานและจะถูกริบอาณาเขตในรัศมีสามร้อยลี้
ตระกูลจ้าวและตระกูลเหอก็เป็นเช่นเดียวกัน
ผู้นำของทั้งสามตระกูลได้รับคำสั่งให้เข้าเฝ้า
ไม่มีใครอยากจะยอมมอบอาณาเขตที่อยู่ภายใต้การควบคุมของพวกเขามานับพันปีให้กับจักรวรรดิต้าฉิน
อย่างไรก็ตาม การต่อต้านนั้นไร้ประโยชน์
ฉินเค่ออวิ๋นกล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่าไม่มีที่ว่างสำหรับการเจรจา พวกเขาจะเลือกเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของจักรวรรดิต้าฉินหรือจะเลือกถูกขับไล่ออกจากแคว้นต้าฉิน
หากไม่ได้เป็นเพราะความสัมพันธ์อันดีระหว่างตระกูลที่สืบต่อกันมาอย่างยามนาน มิฉะนั้นผลสุดท้ายมันก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะขับไล่
“จักรพรรดินีต้าฉินช่างมีอำนาจเหนือใครและน่าเกรงขามยิ่งนัก”
ซูเซียนเอ๋อร์อ่านรายงานด้วยความชื่นชม
ฉู่เซวียนเหลือบมองนางและกล่าวว่า “อะไร? หรือว่าเจ้าต้องการที่จะเป็นมหาจักรพรรดินีเช่นนั้นด้วย”
“ไม่ใช่เจ้าคะ ข้าแค่อยากอยู่เคียงข้างนายน้อยตลอดไป” ซูเซียนเอ๋อร์ยิ้มอย่างมีเสน่ห์
“เจ้าต้องจำเอาไว้ ชื่อของจักรพรรดินีหรือมหาจักรพรรดินีล้วนเป็นเพียงตำแหน่ง ความแข็งแกร่งต่างหากคือสิ่งสำคัญที่สุด ตราบใดที่เจ้าแข็งแกร่งพอ มหาจักรพรรดินีจะไปมีประโยชน์อันใด?”
“นายน้อยท่านกล่าวถูก!” ซูเซียนเอ๋อร์พยักเห็นด้วย
ความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของนางคือการแข็งแกร่งให้เพียงพอที่จะกลับไปยังจงโจวและจัดการตระกูลซูด้วยมือเพียงข้างเดียวของนาง!
นางจะตบหน้าคนเหล่านั้นอย่างโหดเหี้ยมและสังหารทุกคนที่ครั้งหนึ่งเคยอยากครองความงดงามของนาง!
“ข้าขอบอกว่าหญิงสาวคนนี้หรือก็คือแม่มดชราคนนี้ยังคงต้องการขยายอำนาจไปมากกว่ายิ่งนี้”
ฉู่เซวียนมองดูข้อมูลเกี่ยวกับฉินเค่ออวิ๋นในขณะที่เขาถอนหายใจ
ฉู่เซวียนไม่สนใจเกี่ยวกับการเลือกของตระกูลฉู่
เขาไม่ได้สนใจมากนักว่าเมืองฉู่จะล่มสลายไปหรือไม่
ในความเป็นจริงแล้ว เขาไม่ได้มีความรู้สึกอยากเป็นเจ้าของของตระกูลฉู่
เขาสนใจแค่ฉู่อวิ๋นเท่านั้น
สำหรับฉู่หยวน อีกฝ่ายก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร แม้ว่าชายคนนี้จะจู้จี้ขี้บ่นเล็กน้อย ทว่าเขาก็ทำเพื่อผลประโยชน์ของฉู่เซวียนเท่านั้น
ทว่าทันใดนั้น การแสดงออกของฉู่เซวียนก็เปลี่ยนไป
ในไม่ช้า ได้มีร่างเงาหนึ่งร่างปรากฏขึ้นที่หน้าประตูบ้านของเขา
เสื้อคลุมสีทอง มงกุฎนกฟีนิกซ์ และใบหน้าที่สวยงาม
ฉินเค่ออวิ๋น!
“มหาจักรพรรดินีแห่งต้าฉินฉินเค่ออวิ๋น ลมอะไรหอบท่านมาที่นี่” ฉู่เซวียนถามอย่างประหลาดใจ
ดวงตาของซูเซียนเอ๋อร์เบิกกว้าง มหาจักรพรรดินีแห่งต้าฉินแอบเข้ามาที่นี่?
ฉินเค่ออวิ๋นมองไปที่ซูเซียนเอ๋อร์และขมวดคิ้ว จากนั้นนางจ้องไปที่ ฉู่เซวียนที่ซึ่งนอนอยู่บนเก้าอี้ผ้าใบอย่างเกียจคร้าน และหรี่ตาลง “ข้าคือมหาจักรพรรดินีแห่งต้าฉิน ข้าต้องการแต่งงานกับเจ้า!”
ซูเซียนเอ๋อร์ดูตกใจ
แต่งงานกับฉู่เซวียน?
นางกำลังคิดอะไรอยู่?
ฉู่เซวียนรู้สึกตกตะลึง “แต่งงานกับข้า?”
“ใช่!”
ฉินเค่ออวิ๋นพยักหน้าและกล่าวว่า “ข้าเป็นถึงจักรพรรดินี จะไม่มีห้องนางสนมได้อย่างไร” (หมายถึงฮาเร็ม)
“เจ้าต้องการสนมของจักรพรรดิ?”
สีหน้าของฉู่เซวียนดูแปลก ๆ นางเป็นแม่มดชราเกิดใหม่ นางกล้าคิดเรื่องนี้ได้อย่างไร
“ไม่ใช่!”
ฉินเค่ออวิ๋นส่ายหัวและกล่าวว่า “ผู้ชายหน้าตาดีน้อยเกินไปและข้าก็ไม่รู้ว่าพี่สามของเจ้าไปไหนเช่นกัน ฉะนั้นเจ้าจึงเป็นคนเดียวที่เหมาะสมในตอนนี้ นี่เป็นข้อตกลงที่ดีสำหรับเจ้า”
ฉู่เซวียนเห็นท่าทางน่ารักที่นางแสดงออกมา กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเขาก็พลันกระตุก
เขาสัมผัสใบหน้าของเขาและถอนหายใจ “ข้าจะไม่ปฏิเสธเรื่องข้าหน้าตาดี ทว่าข้านั้นยังไม่อยากแต่งงาน เหตุใดข้าต้องต้องแต่งงานกับเจ้า”
“เจ้าไม่สามารถปฏิเสธได้”
ฉินเค่ออวิ๋นหรี่ตาของนางลงและกล่าวว่า “หากเจ้าตกลง ข้าสามารถยกเว้นการยึดอาณาเขตตระกูลฉู่ได้ แต่หากเจ้าปฏิเสธ ข้าก็จะยังพาตัวเจ้ากลับไปตอนนี้”
“หึหึ”
ฉู่เซวียนหัวเราะเบา ๆ จากนั้นแสงเทวะเจ็ดสีก็ปลดปล่อยออกมาจากร่างกายของเขา
เสียงที่สง่างามดังกึ่งก้อง
“มหาจักรพรรดินีแห่งต้าฉิน! ใครใช้ให้เจ้ากล้าแสดงกิริยาโอหังเช่นนี้ต่อหน้าข้า!”
การแสดงออกของฉินเค่ออวิ๋นเปลี่ยนไปอย่างมาก สีหน้าตกใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนาง กลิ่นอายของนางปะทุขึ้นในขณะที่นางเปิดเผยความแข็งแกร่งที่ใกล้เคียงกับขอบเขตจักรพรรดิ
ในเวลาเดียวกัน นางได้เปิดใช้งานอาณาเขตเทียมของนาง และร่างวิญญาณจิ้งจอกขาวก็ปรากฏตัวขึ้นด้านหลังของนาง นางพยายามที่จะปจัดการกับฉู่เซวียน
“จงคุกเข่า!”
ฉู่เซวียนเอ่ยออกมาเบา ๆ
มนต์แห่งสัจจะ!
ตุบ!
ฉินเค่ออวิ๋นคุกเข่าลงกับพื้น
อาณาเขตเทียมพร้อมร่างวิญญาณงจอกขาวได้สลายไป
สีหน้าของนางตกใจอย่างอธิบายไม่ถูก เขาสามารถระงับพลังนางด้วยคำพูดเพียงคำเดียว ความแข็งแกร่งเช่นนี้คืออะไร?