ตอนที่ 7 ปืน ธนู และการเผชิญหน้าที่ตึงเครียด
ตอนที่ 7 ปืน ธนู และการเผชิญหน้าที่ตึงเครียด
“พวกมันตามมาด้านในแล้ว” นักศึกษาที่ข้ามมาได้กล่าวด้วยความตกใจ
คนอื่น ๆ ก็หันกลับไปมองด้วยเช่นกัน
“ช่วยพวกเราด้วย” นักศึกษาสองคนพยายามแทรกตัวออกมาจากช่องห้อง ๆ กัน ทำให้ตัวของทั้งสองติดอยู่ที่ช่องเสียงร้องขอความช่วยเหลือ ทำให้ดึงดูดความสนใจผู้ติดเชื้อคนอื่น ๆ ที่อยู่ด้านนอกอาคาร
“ฆ่าพวกมันซะ” อาจารย์โอบอกพวกทหาร เพราะถ้าเป็นแบบนี้พวกผู้ติดเชื้อคงแห่มาที่นี่แน่
“ช่วยพวกเขาด้วย” อาจารย์สาวหันไปขอร้องกับทุกคน ก่อนจะเข้าไปจับมือแล้วพยายามดึงมือนักศึกษาทั้งสองคนออกมา
เรน ธันวาและไอมองหน้ากัน ก่อนจะรีบเข้าไปช่วยกันดึง
“ปล่อยพวกเขา เราควรไปกันได้แล้ว” ร้อยเอกก้องกล่าวขึ้นมา ก่อนจะพากันวิ่งไปที่รถ อาจารย์โอและนักศึกษาอีกสองก็ตามไปด้วย
‘โหดร้ายกันจัง’ เรนไม่ได้หมายถึงอาจารย์โอ แต่เป็นทหารสองคนนั้น พวกเขามีปืนสามารถจบชีวิตคนทั้งสองได้ แต่กลับเลือกจะให้พวกเขาติดอยู่ตรงหน้าและร้องเรียกพวกผู้ติดเชื้อไม่ต่างจากเหยื่อล่อ ส่วนตนก็วิ่งไปที่รถ
“ธันเราควรไปกันได้แล้ว” เรนบอกกับธันวา
“แล้วพวกเขาละ” ธันวาหันไปถามเรน
“ขอร้องละ ได้โปรดช่วยพวกเขาด้วย” อาจารย์สาวขอร้องเรน เธอถึงจะกลัว แต่ก็อยากจะช่วยลูกศิษย์
“ธันนายพาไอราไปก่อน อย่าให้พวกทหารหนีพวกเราออกไปก่อน เดี๋ยวฉันจะอยู่ช่วยพวกเขา” เรนบอกกับธันวา
“อืม” ธันวาตกลง เขาถือขวานและรีบวิ่งไปยังทางที่ทหารไปก่อนหน้า โดยมีไอราตามมาด้วย ก่อนไปไอราส่งลูกธนูทั้งสามให้กับเรน
“ไม่ ๆ อย่าทิ้งพวกเราไป”
“ขอร้องละพวกผมยังไม่อยากตาย”
นักศึกษาเห็นธันวาและไอราหนีไปก็เริ่มสติแตก
“หุบปากซะแล้วแขม่วท้อง” เรนตวาดพวกเขา แต่เหมือนจะไม่ได้ผล
“ดึงพร้อมกัน” เรนหันไปพูดกับอาจารย์สาว
เธอพยักหน้าให้เรน ก่อนจะออกแรงดึงอีกครั้ง ทั้งสองช่วยกันดึงด้วยแรงทั้งหมดที่มี จนในที่สุดก็ทำให้นักศึกษาสองคนนั้นหลุดออกมาได้ พวกเขาตกลงไปที่พื้น
ส่วนเรนและอาจารย์สาวก็หงายหลังล้มลง
“พวกเธอไม่เป็นอะไรนะ” อาจารย์สาวเข้าไปดูด้วยความเป็นห่วง
ส่วนเรนนั้นลุกขึ้นมาและหยิบอาวุธของตนเอง
นักศึกษาทั้งสองกรีดร้องและจับไปที่ขาของตนเอง
“พวกเขาโดนกัด เราช่วยอะไรไม่ได้แล้ว” เรนพบว่าที่ขาของทั้งสองคนมีรอยกัดหลายแห่ง
“ไม่นะ ไม่ใช่”
“อาจารย์อย่าทิ้งพวกเราไป พวกผมไม่ได้โดนกัด”
นักศึกษาทั้งสองพยายามขอร้องและปิดแผลที่ขา อาจารย์สาวลังเล เธอไม่แน่ใจว่าควรจะทำอย่างไรดี
เรนไม่สนใจคำขอร้องพวกเขา ชายหนุ่มจับมือของอาจารย์สาวและพาเธอวิ่งทันที อาจารย์สาวหันกลับไปมองเสียงข้อร้องอย่างสิ้นหวังของนักศึกษาสองคนนั้น
ใจเธออยากจะกลับไปช่วย แต่ด้วยความกลัวร่างกายของเธอเลือกจะวิ่งหนีตามนักศึกษาหนุ่มตรงหน้าไป
“เราช่วยพวกเขาไม่ได้แล้ว ถ้ากลับไปอาจารย์ได้ตายแน่” เรนบอกกับเธอ เพราะไม่อยากให้หญิงสาวรู้สึกผิด
หญิงสาวหันกลับไปก็พบว่าในตอนนี้มีผู้ติดเชื้อนับสิบเข้าไปรุมกัดนักศึกษาสองคนนั้น เธอจึงรู้ว่ายังไงก็ช่วยไม่ได้แล้ว
ทั้งสองคนตามกลุ่มก่อนหน้าไป
เสียงปืนด้านหน้าดังอย่างต่อเนื่อง พวกเขาพบว่าทหารสองคนนั้นกำลังยิงปะทะกับผู้ติดเชื้อที่ขวางทางไประหว่างรถและพวกเขาอยู่
มันเป็นเพราะเสียงร้องเมื่อครู่ ทำให้ดึงดูดผู้ติดเชื้อพวกนี้กลับออกมาจากอาคารสอง
จ่าชุนกำลังจะวิ่งไป แต่ตอนนั้นก็มีผู้ติดเชื้อคนหนึ่งกัดเข้าไปที่แขนของจ่าชุน
“อ้า!” จ่าชุนร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ตอนนั้นเองปืนของจ่าชุนก็ลั่นไปถูกร้อยเอกก้องที่แขน
ร้อยเอกก้องเจ็บที่แขนเป็นอย่างยิ่ง แต่เขาก็ยังไม่ตาย
“ร้อยเอกรีบหนีไปก่อน” จ่าชุนพยายามคุมสติของตนเองใช้มืออีกข้างดึงมีดพกทหารออกมาและแทงไปที่หัวของผู้ติดเชื้อไม่ยั้ง พอฆ่าผู้ติดเชื้อคนนั้นได้ก็ก้มไปหยิบปืนเอ็ม 4 คาร์บินกระหน่ำยิงหัวของผู้ติดเชื้อที่วิ่งเข้ามาใส่
ขณะที่พยายามต้านพวกผู้ติดเชื้อเพื่อให้ร้อยเอกก้องหนีไป
ร้อยเอกก้องแม้จะอยากสู้จนตัวตาย แต่เขามีภารกิจอยู่ ร้อยเอกก้องถอยออกมาพร้อมกับใช้มือจับแผลที่แขนไปด้วย
จ่าชุนยิงต้านไว้สุดชีวิต แต่ผู้ติดเชื้อมีมากเกินไป สุดท้ายเขาก็ยากจะรอดไปได้ ร้อยเอกก้องวิ่งเข้าเข้าไปในตึกทางด้านหนึ่ง ซึ่งอาจารย์โอและนักศึกษาสองคนก่อนหน้าได้เข้าไป
“ถอยไปซะ” ร้อยเอกก้องใช้ปืนเล็งไปที่พวกเขา อาจารย์โอไม่กล้าล็อกประตูและถอยออกมา
ร้อยเอกก้องเข้าไปด้านในก่อนจะรีบวิ่งไปที่ชั้นสอง อาจารย์โอรีบกลับไปล็อกประตู เพราะมีผู้ติดเชื้อวิ่งตามหลังมา มันเข้าไปกระแทกประตูอย่างแรง แต่ก็ยังไม่สามารถเข้ามาได้
“มีอีกทางรีบไปล็อกประตูทางนั้นเร็ว”
อาจารย์โอนึกขึ้นมาได้ ทางด้านนี้มีทางเข้าสองทาง นักศึกษาคนหนึ่งรีบวิ่งแยกออกไปล็อกประตู ส่วนอาจารย์โอ นักศึกษาอีกคน รีบวิ่งตามร้อยเอกก้องขึ้นไปด้านบนชั้นสองในทันที
“บ้าจริง” ธันวาใช้ขวานสับไปที่หัวของผู้ติดเชื้อและพาไอราหนีไปยังประตูอีกด้านหนึ่ง เมื่อเห็นว่าประตูที่ร้อยเอกก้องเข้าไปเต็มไปด้วยผู้ติดเชื้อ
แต่พอมาถึงพวกเขาก็พบว่ามีนักศึกษาอีกคนกำลังล็อกประตูทางด้านนี้
“เฮ้ยอย่าล็อกนะเว้ย” ธันวาตะโกนบอก แต่ว่าไม่ทันแล้ว นักศึกษานั้นล็อกประตูกระจอกด้านนั้นและพอได้ยินเสียงธันวาก็ตกใจกลัวจนวิ่งหนีไป
“เอายังไงดี” ไอราพูดด้วยสีหน้าตื่นกลัว
“เกิดอะไรขึ้น” เรนและอาจารย์สาวตามมาทัน เขาเห็นว่าทั้งสองยืนอยู่หน้าประตู
“ไอ้บ้านั่นมันล็อกประตูจากด้านใน ฉันจะพังเข้าไป” ธันวาตวาด ก่อนจะยกขวานขึ้นมาสับไปที่ประตูกระจกหลายครั้งทำให้เกิดเสียงดัง
แก็ก!
ประตูกระจกร้าว ธันวารีบใช้ขวานฟันใส่เพิ่มอีก เรนเข้าไปช่วยใช้เท้าถีบไปที่กระจก ทำให้กระจกแตกออก
“เข้าไป”
ทั้งสี่คนเข้าไปด้านใน แต่ตอนนี้ประตูกระจกแตกแล้วทำให้พวกผู้ติดเชื้อสามารถตามมาได้ด้วยเช่นกัน
ปัง!
ตอนนั้นมีเสียงดังขึ้นมาจากด้านบนชั้นสอง พวกเขารีบวิ่งขึ้นไปก่อนจะพบว่ามีผู้ติดเชื้อชมตายอยู่ด้านหน้า เรนและอีกสามวิ่งไปเรื่อย ๆ
“ห้องนั้น” เรนชี้ไปยังห้องหนึ่ง เขารู้สึกผ่านรูนิกลางสังหรณ์ว่ามีคนพึ่งเข้าไป
“จัดไป” ธันวาวิ่งด้วยความเร็วสูง ก่อนจะกระแทกเข้าไปในด้านใน
ปัง!
ประตูเปิดออกมา ธันวาพุ่งเข้าไปจนล้มลง เรน ไอราและอาจารย์สาววิ่งเข้าไป ก่อนจะพบว่าตอนนี้ทหารนอนเจ็บอยู่ที่พื้นและอาจารย์โอได้ถือปืนสั้นที่พึ่งแย่งมาได้เล็งไปที่ร้อยเอกก้อง
“คุณโอคุณจะทำอะไร” อาจารย์สาวถามขึ้นมา
“เขาโดนกัดแล้วที่ขา” อาจารย์โอตอบกลับด้วยสีหน้าบ้าคลั่ง นักศึกษาด้านหลังก็ยืนยันว่าเขาโดนกัดแล้วเช่นกัน เลือดไหนออกมาจากแขนของร้อยเอกก้องถือเป็นสิ่งยืนยันชัดเจน
เรนมองไปที่ทหาร แม้ลางสังหรณ์จะบอกว่าอันตราย แต่มันไม่ได้บอกว่าชายคนนี้จะอันตรายต่อเขา
“อาจารย์ช่วยไปดูแผลเขาหน่อย” เรนบอกกับอาจารย์สาว
หญิงสาวพยักหน้าตกลงและเดินเข้าไปหาร้อยเอกก้อง
“หยุดนะคิดจะทำอะไร” อาจารย์โอเล็งปืนมาที่อาจารย์สาวทำให้เธอหยุดเดินเข้าไปเพราะกลัว
เรนยกธนูเล็งไปที่อาจารย์โอเช่นกัน ธันวาเห็นแบบนั้นก็ถือขวานเตรียมโจมตี แม้จะเผชิญหน้ากับปืน แต่เรนมั่นใจว่าก่อนเขาโดนยิงอาจารย์โอก็จะโดนยิงเหมือนกัน
ทั้งสองเผชิญหน้ากัน
“นักศึกษาพวกคุณกล้าเล็งธนูมาหาผมอย่างนั้นเหรอ จบเรื่องนี้พวกคุณต้องโดนไล่ออก” อาจารย์โอไม่กล้ายิงแต่เริ่มข่มขู่แทน ก่อนจะหันไปหาพวก
“เข้าไปขวางพวกเขา ก่อนที่ทหารคนนี้จะกลายเป็นแบบพวกนั้นแล้วเราจะตายกันหมด”
นักศึกษาอีกสองคนหนึ่งเป็นชายอีกหนึ่งเป็นหญิงหยิบมีดออกมาและจะเดินเข้าไปหาเรนและพวก
“พวกแกกล้าก็เข้ามา” ธันวาตวาดใส่พวกนั้น ไอราเองก็ใช้มีดชี้ไปที่พวกนั้น มีดนี้เธอก็หยิบมาจากห้องครัว
“อาจารย์ช่วยไปดูแผลเขาหน่อย” เรนหันไปบอกกับอาจารย์สาวซ้ำ ที่เขาต้องทำแบบนี้เพราะในตอนนี้เรนยังไม่อยากให้ทหารคนนี้ตาย เขาคือคนที่รู้ว่าค่ายอพยพและทางหนีอยู่ที่ไหน
“อืม” อาจารย์สาวเดินเข้าไปดูที่แผลของร้อยเอกก้อง
“ไม่ใช่แผลถูกกัดแน่นอน” อาจารย์สาวพบว่าแผลนี้ไม่เหมือนรอยกัด
“เป็นไปไม่ได้ เขาต้องโดนกัดแน่นอนฉันไม่เชื่อ” อาจารย์โอยังไม่ยอมแพ้ เขาเล็งปืนไปที่ร้อยเอกก้อง
ร้อยเอกก้องสีหน้าเย็นชาอย่างมาก เขาไม่พูดอะไร เพียงจ้องไปที่อาจารย์โอด้วยแววตาเยือกเย็น
ปัง!
ตอนนั้นมีเสียงทุบที่ประตู ปรากฏว่าเป็นผู้ติดเชื้อ พวกมันตามกลิ่นเลือดมาจนถึงที่นี่ อาจารย์โอหันปืนไปที่ประตูด้วยสีหน้าตื่นตกใจ
ร้อยเอกก้องสบโอกาสก็ใช้จังหวะนั้นหยิบมีดพกของตนเองออกมาและขว้างใส่อาจารย์โอ
“อ้า” อาจารย์โอร้องออกมา เพราะมีดปักเข้าไปที่ไหล
อาจารย์โอตอบสนองโดยการหันปืนไปคิดจะยิงใส่ร้อยเอกก้อง แต่ตอนนั้นเองเรนก็ยิงธนูใส่ที่มือข้างที่ถือปืนของอาจารย์โอ ความเจ็บทำให้อาจารย์โอปล่อยมือจากปืน
ปืน!
นักศึกษาชายที่เห็นปืนตกก็คิดจะวิ่งเข้าไปเก็บมา แต่ว่าธันวาใช้ความสับลงไปที่พื้นข้าง ๆ ปืนขวางนักศึกษาคนนั้นไว้ นักศึกษาที่ตกใจชักมือกลับและถอยหนีด้วยความกลัว
เมื่อเห็นท่าไม่ดีอาจารย์โอก็ลุกขึ้นและวิ่งหนีออกไปทางหน้าต่างทั้งที่ไหล่และมือยังเจ็บอยู่ ก่อนจะออกไปอาจารย์โอดึงเอาธนูออกมาจากมือ และปืนไปตามระเบียงของหน้าต่าง ซึ่งมันมีคานยื่นออกมาคล้ายกันสาดเชื่อมไปยังห้องอื่น ๆ
นักศึกษาชายหนึ่งและสาวหนึ่ง ทั้งสองคนรีบตามอาจารย์โอไป เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ทั้งสองไม่อาจจะรวมกลุ่มได้อีก
“ตามไปไหม” ธันวาถาม
“ไม่ เราไม่มีความจำเป็นต้องไปฆ่าพวกเขา” เรนตอบขณะที่ก้มไปหยิบปืนขึ้นมา ก่อนจะส่งให้กับธันวาจากนั้นเดินไปที่หน้าต่างหยิบลูกศรที่ตกอยู่ขึ้นมา
ตอนนี้เขามีลูกศรแค่สองดอกเท่า ดังนั้นต้องรักษามันให้ดี
“เรนรีบไปกันเถอะ พวกมันเหมือนจะบ้ามากขึ้นแล้ว” ธันวาตะโกนเตือน
ที่ประตูผู้ติดเชื้อพากันทุบประตูจนมันเริ่มพังลงมา
“เลือดพวกมันได้กลิ่นเลือด” ร้อยเอกก้องพูดด้วยสีหน้าซีดขาว
“เราจะไปกันที่ไหน” ไอราถาม เพราะตอนนี้รถก็หนีไม่ได้
“ไปหาอาวุธกันก่อน” เรนพูดขึ้นมา
“อาวุธที่มหาวิทยาลัยไม่มีอาวุธมันผิดกฎหมาย” อาจารย์สาวพูดขึ้นมาเพราะเธอไม่เข้าใจที่เรนพูด
“ใครบอกอาจารย์ นี่ไงอาวุธ” เรนยกธนูในมือให้อาจารย์สาวดู หญิงสาวเข้าใจทันที เรนหมายถึงไปหาธนูและลูกธนูมากเพิ่ม