ตอนที่ 558 พายุ
สีหน้าทุกคนเปลี่ยนไปอย่างช่วยไม่ได้
เมื่อเห็นถังเทียนและพวกที่เหลือคลื่นคนแคระน้ำเงินโห่ร้องลั่นแปลกประหลาดขณะที่ปากิ่งน้ำแข็งในมือถี่ยิบกิ่งน้ำแข็งฟ้าพุ่งออกมาเหมือนเป็นหอก
โอว!
ท้องฟ้าเต็มไปด้วยธนูฟ้าเหมือนเป็นเงาเมฆเลือนลางพุ่งเข้าหาคนทั้งสี่
เสียงหวีดหวิวแหวกอากาศฟังแล้วหนังศีรษะชาถังเทียนจ้องมองอย่างโมโหพลางตะโกน “เสี่ยวเอ้อ”
ปากของเสี่ยวเอ้อกระตุกถูกเจ้าเด็กโง่จิกหัวใช้เขามีความอดทนจำกัด เขาแค่นเสียงถือร่มหยาหยาและชี้ปลายไปที่ศัตรูและบิดด้ามร่มทำให้ร่มหยาหยาปล่อยแสงออกมาเหมือนกับโล่ขนาดใหญ่มันหมุนรอบตัวและพุ่งไปข้างหน้า
ถังเทียนรู้ว่าร่มหยาหยาไม่สามารถต้านรับการโจมตีดังนั้นเขาตะโกน“วิ่ง!”
สหายทั้งสามตามหลังร่มหยาหยาติดๆ พวกเขาต้องการฉวยโอกาสบุกเข้าไปในแนวแถวของคนแคระน้ำเงินหลังจากนั้นก็จะมีโอกาส กิ่งน้ำแข็งฟ้านับว่าแปลกประหลาดมากและอันตรายคุกคามพวกเขา
เสี่ยวเอ้อไม่สนใจเรื่องร่มหยาหยา ใบหน้าที่น่ารักของเขาเปลี่ยนเป็นเย็นชา พุ่งเข้าหาด้วยคำสั่งคำเดียว ขณะเดียวกันเขาถือโอกาสดึงกระบี่ปราบสมุทรที่ลอยอยู่ในมิติว่างเพลิงดำออกมา
กระบี่ปราบสมุทรดุร้ายและบางถืออยู่ในมือน้อยของเขา เพลิงดำไหลออกมาพร้อมกับรูปที่น่ารักมองดูเป็นภาพที่แปลกตามาก
เสี่ยวเอ้อสะบัดตัวกระบี่อย่างนุ่มนวล เพลิงกลืนวิญญาณทะลักเข้าไปในกระบี่ปราบสมุทรอย่างเงียบงันทำให้เพลิงดำมิติว่างมีชั้นสีรุ้งทันที
ปัง!
กิ่งน้ำแข็งฟาดใส่ร่มหยาหยาเหมือนฝนตก ขณะที่เศษน้ำแข็งแตกกระจายไปทุกที่ร่มหยาหยาระเบิดดังปังคลื่นระเบิดที่รุนแรงกวาดเปลี่ยนกิ่งน้ำแข็งฟ้ากลายเป็นเศษน้ำแข็งทันที
ถังเทียนและพวกที่เหลือฉวยโอกาสพุ่งเข้าไปในในท่ามกลางคนแคระน้ำเงิน
คนแคระน้ำเงินทั้งหมดชูกิ่งน้ำแข็งฟ้าในมือขึ้นและพุ่งตรงเข้าหาถังเทียนและพวก
ความเร็วของถังเทียนไวอย่างเหลือเชื่อ พลังของแสงแห่งทะเลน้ำเงินดูเหมือนจะไม่มีผลต่อร่างกายของเขา เขาเพียงแต่รู้สึกเหมือนมีลูกบอลเพลิงแห่งความโกรธลุกไหม้อยู่ในอก ทั่วทั้งตัวมีพลังยากจะหยั่งถึง
การพุ่งใส่ของเขาตรงและเรียบง่ายมีพลังที่รุนแรงสามารถคว่ำคนแคระที่ขวางทางหลายคนได้ทันที ในแสงทะเลสีน้ำเงินนี้พลังร่างกายที่บริสุทธิ์ของเขามีพลังเป็นทวีคูณ
ร่างของถังเทียนบิดเบี้ยวทันทีในสายตาที่สะดุ้งและตกใจของคนแคระน้ำเงิน ยังมีภาพเงาไล่ตาม หมัดของเขากระแทกใส่อกของมันอย่างรุนแรง
คนแคระน้ำเงินนี้ถูกกระแทกเหมือนกับบอลและกระเด้งไปชนกระแทกแถวของพวกมันที่อยู่ด้านหลังทำให้ไม่สามารถหลบได้ทัน พวกมันกระอักโลหิตรุนแรง
เสียงหวีดหวิวดังมาจากด้านบนถังเทียนไม่ต้องเงยหน้า เขาย่อตัวและวิ่งตรงเข้าใส่เขา
เป๊ง!”
เสียงกระเพื่อมและกระแทกดังขึ้นขณะที่มีเจ็ดแปดร่างระเบิดกระเด็นปลิวไปทั่ว
ด้วยความเร็วราวสายฟ้าและพลังระเบิดทุกที่ซึ่งถังเทียนบุกเข้าไปจะเต็มไปด้วยพลัง ไม่มีท่วงท่าสวยงามเขาลุยเป็นแนวตรงและคล่องแคล่วเหมือนสัตว์ดุร้ายกระหายเลือด
ไม่ห่างจากถังเทียนเสี่ยวเอ้อกวัดแกว่งกระบี่ปราบสมุทรในมือของเขาทุกครั้งที่สะบัดกระบี่เขาต้องปลิดปลงไปสองสามชีวิต แม้ว่าเพลิงกลืนวิญญาณจะมีความสามารถในการทำร้ายมากมาย แต่ว่าถึงผลสำเร็จในการฆ่ายังห่างจากกระบี่ปราบสมุทรยิ่งนัก
น่าเสียดายที่พลังงานที่หนาแน่นนั้นน่าประหลาดเกินไป ไม่เหมาะจะใช้กับวิชาวิญญาณ ไม่อย่างนั้นแค่เพียงกระพริบตาไม่กี่ที เขาจะกลายเป็นเครื่องจักรฆ่าคนทันที
แม้ว่าความสำเร็จในการใช้กระบี่จะไม่เท่ากับจิ่งหาวแต่เจตนาฆ่าที่หนักหน่วงของเขายังหนาแน่นมากกว่าของจิ่งหาว ร่างของเขากับสีหน้าเย็นชาปานน้ำแข็งและกระบี่เซียนปราบสมุทรมองดูเหมือนเป็นกลุ่มหมอกดำหากใครได้เห็นเขาตอนนี้คงได้เสียวสันหลังเป็นแน่
ตรงกันข้ามกับจิ่งหาวที่เหมือนกับจะเดินเล่น ทุกท่วงท่ากระบี่ของเขาชัดเจน เป็นไปไม่ได้ที่จะหลบเหมือนกับว่าคู่ต่อสู้เสนอตัวเข้าหากระบี่เองอย่างโง่งม
เทียบกับความเรียบง่ายและทื่ออย่างที่สุดของจิ่งหาวแล้ว อาเฮ่อกลับตรงกันข้าม ปลายแถบแสงคล่องแคล่วสว่างเหมือนกับมีกระเรียนดำร่ายรำอยู่โดยมีหลิวซิ่วอยู่บนหลัง เขาบิดตัวหมุนตัวอย่างไม่ลังเลใจ
ในพริบตาเดียว สี่คนที่เหลือด้านหลังกองเป็นศพอยู่บนพื้น แต่คนแคระน้ำเงินไม่มีความตั้งใจจะถอยแต่อย่างใด
เสียงกรีดร้องสยดสยองเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยมและความโกรธ พวกมันหลั่งไหลมาจากทุกทิศไม่มีหยุด
ไม่มีผู้ใดสังเกตว่าภายในทะเลแสงที่เงียบสงบมีพายุที่น่ากลัวกำลังก่อตัว
ถังเทียนรู้สึกแต่เพียงว่ารอบๆเขาเต็มไปด้วยใบหน้าสามเหลี่ยมของคนแคระน้ำเงิน มันเหมือนกับว่าจะหลั่งไหลเข้ามาไม่มีที่สุด การสู้รบที่บ้าระห่ำผ่านไปครึ่งชั่วโมงเต็มและแม้แต่ตัวถังเทียนเองก็จำไม่ได้ว่าฆ่าคนแคระน้ำเงินไปเท่าใดแล้ว ทั่วทั้งร่างของเขาเต็มไปด้วยเลือดสีน้ำเงินแปลกเรี่ยวแรงของเขาลดลงอย่างรวดเร็ว แขนขาทั้งสองล้าและเจ็บปวด
เขาชำเลืองไปทางสหายที่เหลือและสภาพไม่ได้ดีกว่ากันเลย พลังงานที่นี่หนาแน่นเกินไปและประกอบกับความมั่นคงของพลังงานทำให้พวกเขาไม่สามารถใช้วิชาจิตวิญญาณได้
ร่างกายของถังเทียนแข็งแรงกว่าคนอื่นมากและเขายังดูดซับพลังของกรวดทองไปด้วย แม้ว่าจะเสริมพลังมาอย่างน่ากลัว แต่ถ้ายังคงเป็นไปแบบนี้ เขารู้สึกว่าพลังงานของเขาคงไม่เหลืออยู่แน่ และสถานการณ์ของสหายอีกสามก็เริ่มย่ำแย่แล้ว
ฝีเท้าของทุกคนเริ่มชะลอลงและความถี่ในการโจมตีตกลงไป
จะปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้...
ถังเทียนไม่ใช่มือสมัครเล่นอีกแล้ว การสู้รบครั้งแล้วครั้งเล่าเป็นเวลานานทำให้เขาเติบโตโดยไม่รู้แล้ว เขาต้องหาผู้นำของคนแคระน้ำเงิน เพียงแค่นั้นเขาก็อาจจะหยุดการสู้รบไม่มีที่สิ้นสุดนี้ได้
สายตาของเขากวาดมองไปทั่วสนามรบ จะจับโจรให้ได้ทั้งหมดก็ต้องจับหัวหน้าโจรให้ได้ก่อน!
เมื่อมองดูคนแคระน้ำเงินข้างหน้ามองดูเหมือนทะเลมนุษย์ ไม่สามารถเห็นที่สุดได้ มีแต่หน้าสามเหลี่ยมคล้ายกันหมดแทบจะทำให้ถังเทียนอาเจียน
ทันใดนั้นสายตาของเขามองเห็นคนแคระน้ำเงินที่มีลักษณะแตกต่าง คนแคระนั้นมีผิวน้ำเงินที่เข้มกว่าคนแคระน้ำเงินปกติและมีผิวเป็นมัน
เป็นแกนั่นเอง!
วิญญาณของถังเทียนสะท้านและเตรียมพุ่งเข้าหาคนแคระน้ำเงินนั้น
ขณะนั้นเองคนแคระน้ำเงินนั้นส่งเสียงกรีดร้องหวาดกลัวทันทีสนามรบที่บ้าระห่ำตกอยู่ภายในเสียงกรีดร้องหวาดกลัว ตอนนี้นิ่งเงียบชั่วคราว คนแคระน้ำเงินทั้งหมดที่กำลังโถมเข้ามาโจมตีอย่างบ้าคลั่งจากทั้งสี่ทิศหยุดนิ่งสีหน้าท่าทางหวาดกลัว
ภาพที่ตามมาทำให้ถังเทียนตกตะลึง
คนแคระน้ำเงินหันหลังและหนีเอาชีวิตรอดแม้กระทั่งวิ่งผ่านเขาไป เหมือนกับว่าพวกมันไม่เห็นเขา
ถังเทียนตะลึง เฮ้ยๆเรายังสู้เพื่อเอาตัวรอดอยู่ไม่ใช่หรือ...
คนแคระน้ำเงินถอยออกไปเหมือนกับคลื่นน้ำลดลงทิ้งไว้แต่ศพอยู่กับพื้น พวกมันหนีไปกรีดร้องไป
สี่สหายถอนหายใจโล่งอก พวกเขาหมิ่นเหม่อยู่ปลายทางแล้ว ทุกคนหมดเรี่ยวแรง นอกจากถังเทียน คนอื่นล้วนเคยใช้วิชาจิตวิญญาณต้องมาอาศัยแต่พลังกายซึ่งห่างเหินจากสิ่งที่เขาคุ้นเคย
“แย่แล้ว!”
สีหน้าถังเทียนเปลี่ยนความรู้สึกถึงอันตรายรุนแรงผุดขึ้นในใจของเขา ผมขนทั่วร่างลุกชัน เขาทำได้แต่เพียงตะโกน แต่ที่ทะเลแสงน้ำเงินข้างหน้า จะกลายเป็นเหมือนสัตว์ประหลาดที่ตกใจตื่นกลายเป็นโหดอำมหิต
พลังงานน้ำเงินที่ปรากฏคล้ายกับสายน้ำหมุนวน
แครก แครก แครก!
จากมุมมองพวกเขาป่าน้ำแข็งฟ้าที่ไม่มีที่สิ้นสุดพลันแตกป่นกลายเป็นเศษน้ำแข็งเหมือนกับว่ามีมือที่มองไม่เห็นบดขยี้อย่างไม่ปราณี
เสี่ยวเอ้อตั้งหลักได้เร็ว เขาเปลี่ยนร่างเป็นแสงและเข้าไปอยู่ในเตาหลอมพลังงานในตัวถังเทียนทันที
ปัง!
จู่ๆพลังที่กล้าแข็งบดกระแทกทำให้พื้นโลกแตกไล่หลัง ทุกคนรู้สึกเหมือนโลกหมุนปั่นรอบตัวพลังที่กว้างขวางไร้ขอบเขตข้างหน้าไม่สิ้นสุด ทำให้พวกเขาไม่สามารถทรงตัวได้
พวกเขาพยายามดิ้นรนเหมือนเรือน้อยที่พยายามลอยตัวเหนือคลื่นพิโรธ พวกเขาถูกผลักไปทั่วทุกทิศอย่างช่วยไม่ได้
ถังเทียนไม่สามารถตั้งตัวได้และคนอื่นกระเด็นห่างออกไปและหายไปไม่เหลือร่องรอย
“ไม่...........”
ถังเทียนเบิกตาค้างแทบฉีกขาด
คลื่นขนาดยักษ์ก่อตัวที่ด้านหลังถังเทียน มันกระแทกใส่หลังเขาอย่างรุนแรงทำให้เขากระอักโลหิตออกมาเต็มปาก สายตาของเขาพลันมืดดับและสิ้นสติทันที
คลื่นทะเลแสงมหึมาเป็นเหมือนสัตว์ประหลาดที่โกรธเกรี้ยววังวนและระลอกคลื่นนับไม่ถ้วนโหมกระหน่ำใส่อยู่ในทะเลแสงน้ำเงิน
พลังงานน้ำเงินที่มั่นคงพลันเปลี่ยนเป็นอันตรายและบ้าคลั่งผิดธรรมดาทันที
******
ห้องปฏิบัติการพลังสายเลือดเมืองสามวิญญาณ
“เป็นยังไงบ้าง?” ปิงอดรนทนไม่ได้และถามผู้เฒ่าเฟ่ย เขาส่งไข่หนอนมาให้ห้องปฏิบัติการพลังสายเลือดในเมืองสามวิญญาณเป็นพิเศษ เขาไม่เคยเห็นสิ่งมีชีวิตลึกลับมาก่อนและสงสัยมากว่าไข่พวกนี้จะขยายพันธุ์ต่อได้ไหม
เขามีลางสังหรณ์ว่าไข่นั้นจะต้องมีคุณค่ามาก
นอกจากไข่แล้วเขายังนำกรวดทองเข้มมากมายกลับมาด้วยมอบให้เซรีนส่วนหนึ่งและให้ผู้เฒ่าเฟ่ยส่วนหนึ่ง ถังเทียนสามารถซึมซับกรวดทองได้พิสูจน์ว่าทองดำนี้สามารถใช้เสริมพลังร่างกายได้
เพื่อความปลอดภัยเขาขอให้เพิ่มการป้องกันในเมืองสามวิญญาณ ก่อนที่กำลังหนุนจะมาถึงเขายังคงต้องยืนป้องกันเองและแม้แต่หยาหยาก็ยังถูกบังคับให้มาช่วยเขา
“นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้เห็นสิ่งลึกลับอย่างนั้น” หน้าของผู้เฒ่าเฟ่ยเต็มไปด้วยความประหลาดใจ “ระดับความสมบูรณ์ของต้นกำเนิดวิญญาณภายในมีเหนือล้ำกว่าสิ่งมีชีวิตอื่นๆ นอกจากนี้ มันยังบรรจุปด้วยกฎแห่งชีวิตและมีความสามารถในการเยียวยาตนเองสูงซึ่งสามารถใช้รักษาบาดแผลและอาการบาดเจ็บสนามพลังวิญญาณได้”
ร่างของปิงสั่นสะท้าน “สามารถรักษาขุนพลวิญญาณได้ไหม?”
“ได้นะถ้าเป็นไปตามทฤษฎี” ผู้เฒ่าเฟ่ยพยักหน้า “แต่เราจำเป็นต้องทดลองก่อน จากนั้นเราจึงจะได้ข้อสรุปที่ถูกต้อง”
หน้าไพ่ของปิงไม่อาจจะระงับความสุขได้ ถ้าสิ่งที่ผู้เฒ่าเฟ่ยคำนวณไว้เป็นจริง อย่างนั้นก็หมายความว่าลั่วซือสามารถรักษาได้
ผู้เฒ่าเฟ่ยยังมีอาการตื่นเต้น “กรวดทองดำนี้ยังเป็นของที่พิเศษมากมันช่วยในการพัฒนาพลังสายเลือดมาก แต่เรายังต้องดำเนินการทดลองเพิ่มก่อน”
ถังเทียนไม่สนใจการคัดค้านหัวชนฝาของเสี่ยวเอ้อ เขานำคัมภีร์โบราณของผู้อาวุโสกุ่ยอู๋หลายเล่มมามอบให้ห้องปฏิบัติการพลังสายเลือด คัมภีร์โบราณของกุ่ยอู๋จะช่วยห้องปฏิบัติการพลังสายเลือดได้มาก ความสามารถในปัจจุบันนี้ของห้องปฏิบัติการพลังสายเลือดเกินกว่าที่คนอื่นคาดคิดไปมาก และจากตั้งแต่แรก ผู้อาวุโสเฟ่ยและสมาชิกที่เหลือไม่เคยได้สร้างผลสำเร็จที่โดดเด่น แต่ถังเทียนก็ยังปฏิบัติกับพวกเขาเป็นอย่างดี พวกเขาจึงปลาบปลื้มใจและมีแรงบันดาลใจมากขึ้น
ดังนั้นเมื่อพวกเขาได้รับไข่และกรวดทองดำ ทั่วทั้งห้องค้นคว้าพลังสายเลือดดูเหมือนจะมีแรงกระตุ้นอย่างสูง
“ข้าจะต้องมีงานยุ่งแน่” ผู้อาวุโสเฟ่ยพูดและออกไปอย่างรวดเร็ว จิตวิญญาณนักสู้ของเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เสียเวลาก็เท่ากับเสียความอดทน
ปิงไม่ถือสาแม้แต่น้อย และเต็มไปด้วยความคาดหวังถึงภาพอนาคตข้างหน้า
ในที่สุดปิงรอให้กำลังเสริมมาถึง กำลังเสริมครั้งนี้อยู่ในระดับที่เพียงพอ เมืองสามวิญญาณกลายเป็นฐานสำคัญของถังเทียนและกลุ่มดาวหมีใหญ่ ยุทธศาสตร์ของสถานที่ดังกล่าวไม่จำเป็นต้องพูดถึงเลย
ถังโฉ่วเซรีนและติงตังมาคอยดูแล และเซียนอีกสิบหกคน กองทัพจักรกลคอยจับตาดูพร้อมกัน
เมืองสามวิญญาณเริ่มต้นขยายตัวอีกครั้ง
ในที่สุดปิงก็สบายใจและเตรียมตัวกลับ แต่ทันใดนั้นเขามีสีหน้าเปลี่ยนไป ถังเทียนพบกับอุบัติเหตุ!