ตอนที่ 557 คนแคระน้ำเงิน
พลังงานสีน้ำเงินไหลเวียนรอบตัวพวกเขา พวกเขาเหมือนกับก้อนกรวดที่ถูกโยนลงไปในน้ำที่เงียบสงบก่อเป็นระลอกคลื่น
พวกเขาระมัดระวังกันมากเนื่องจากแสงสีน้ำเงินโดยรอบตัวพวกเขาถูกขับออกไป ทั้งสี่คนมีร่างพลังกายเป็นศูนย์ขณะที่ถังเทียนเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุด ดังนั้นแสงน้ำเงินจึงอยู่ห่างจากเขา 1.5 เมตร ขณะที่อีกสามคนพลังอ่อนกว่าแสงน้ำเงินจึงเข้าใกล้พวกเขาได้
การไปข้างหน้ากลายเป็นเรื่องยากมาก เหมือนกับเดินอยู่ในน้ำ จนถึงที่สุดแล้วพวกเขาก็ต้องเคลื่อนไหวด้วยท่าว่ายน้ำกันจริงๆ
หลังจากเข้าไปในแสงสีน้ำเงินมันไม่ได้ดูแพรวพราวเหมือนเมื่อตอนที่พวกเขามองดูจากด้านนอก ภายในกลายเป็นสีฟ้าบริสุทธิ์เหมือนอยู่ในน้ำ
หลังจากเดินทางเป็นเวลานาน สีก็ค่อยๆ เปลี่ยนไป ถังเทียนหรี่ตามองดูวัตถุข้างหน้า “นั่นอะไร?”
จิตใจทุกคนถูกปลุกเร้า มีแรงต้านที่แข็งแกร่งอยู่ในในทะเลแสงสีคราม มันบั่นทอนกำลังกายของพวกเขาและในสภาพแวดล้อมแปลกถิ่นเช่นนั้น พวกเขายังคงเพ่งมองหาทาง ดังนั้นพลังร่างกายของพวกเขาจึงหมดไปโดยไม่รู้ตัว
ทั้งสี่คนแหวกว่ายตรงไปที่วัตถุแปลกประหลาดทันที เมื่อเห็นว่าเป็นปะการังน้ำเงินที่มีขนาดเท่าต้นไม้และโปร่งใสและบริสุทธิ์ ถังเทียนและสหายรายล้อมปะการังน้ำแข็งน้ำเงินและประหลาดใจกับมัน มันสูงราวคนสามคนต่อตัวกัน
“มันคือพลังงานตกผลึก” อาเฮ่อศึกษามาอย่างละเอียดและตระหนักว่าตัวปะการังน้ำเงินนั้นเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่การเติบโตของมันช้ามาก
“เพราะมันสูงมาก ข้าคิดว่ามันต้องใช้เวลาราวๆ สองสามหมื่นปี” เป็นครั้งแรกที่จิ่งหาวได้เห็นสิ่งนี้ “เราจะลองตัดมาดูไหมว่ามันคืออะไร?”
ข้อเสนอของเขาได้รับความเห็นชอบจากพวกที่เหลือ
ถังเทียนยื่นมือออกแล้วตัดเบาๆได้ปะการังน้ำเงินออกมาชิ้นหนึ่ง เมื่อเห็นเช่นนั้นทุกคนก็ทำเหมือนกัน
“ผนึกพลังงานที่แปลกประหลาด” ถังเทียนพยายามตรวจสอบอย่างระมัดระวังและประหลาดใจ
คำอธิบายของอาเฮ่อชัดเจนกว่าและตรงประเด็นมาก “มันคือของพิเศษเฉพาะจริงๆ ความบริสุทธิ์ของผลึกพลังงานนี้มากมายกว่าหินดวงดาวเสียอีก แต่องค์ประกอบของพลังงานนี้มั่นคงเกินไป ไม่ค่อยมีประโยชน์มากสำหรับเรา”
“ถ้าองค์ประกอบพลังงานเสถียร เราก็สามารถใช้มันสร้างสมบัติวิญญาณได้” จิ่งหาวคิดไปในเชิงนี้ เขากับอาเฮ่อมีความรู้มาก
จู่ๆ ถังเทียนก็รู้สึกปิติยินดี “โอวพระเจ้า! ข้ารู้แล้วว่ามันคืออะไร! นี่คือต้นน้ำแข็งฟ้า! ผู้อาวุโสกุ่ยอู๋เคยพูดถึงมันมาก่อน ดังนั้นข้าเลยรู้สึกแปลกใจว่าคุ้นๆ นัก”
เขาทุ่มเทเวลามากเป็นพิเศษในการแยกแยะบันทึกสมบัติของผู้อาวุโสกุ่ยอู๋และคาดไม่ถึงเลยว่าจะได้มาใช้ที่นี่
“ต้นน้ำแข็งฟ้า!”
อาเฮ่อและจิ่งหาวสะดุ้ง และจากนั้นสีหน้าที่หลงใหลทั้งสองเคยได้ยินชื่อต้นน้ำแข็งฟ้ามาก่อน
“ตำนานบอกไว้ว่ากลุ่มดาวกันย์(หญิงสาว)มีสมบัติวิญญาณชั้นทองชื่อไม้เท้าเทพสตรีสร้างมาจากต้นน้ำแข็งฟ้าซึ่งถูกขัดเกลาและถือกำเนิดจากภายในบ่อพลังดวงดาวหลังจากผ่านเวลามาหลายพันปี หรือว่าจะเป็นต้นน้ำแข็งฟ้านี้?” อาเฮ่อมองดูต้นน้ำแข็งฟ้าที่อยู่ต่อหน้าพวกเขาด้วยความรู้สึกมึนงง“ นี่มันใหญ่มาก...”
จิ่งหาวไม่แน่ใจเช่นกัน “หรือว่าเป็นอะไรบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับเขาหรือเปล่า? ข้ายังรู้สึกว่าต้นน้ำแข็งฟ้าไม่น่าจะสูงใหญ่มาก”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ถังเทียนก็ชักไม่แน่ใจเหมือนกัน ไม้เท้าเทพสตรีมีสถานะสูงส่งในกลุ่มดาวกันย์และด้วยการค้ำชูของเซียนหญิงหลี่เจินกลุ่มดาวกันย์จึงมีสมบัติวิญญาณระดับทองที่ชื่อเสียงและสุดยอดที่สุด
“ไม่ว่ามันคืออะไรเราควรจะเก็บไว้ก่อน” หลิงซิ่วรู้สึกเหลืออด
ถังเทียนเห็นด้วย จากนั้นเขาเก็บต้นน้ำแข็งฟ้าไว้ทั้งหมด
พวกเขาเดินหน้าต่อ แต่ในเวลาอันรวดเร็วก็พบต้นน้ำแข็งฟ้าอีกต้นหนึ่งและหลังจากนั้นไม่นานก็พบอีกต้นหนึ่ง....
“คงไม่น่าใช่ต้นน้ำแข็งฟ้าแล้วกระมัง” จิ่งหาวแน่ใจ
“ใช่แล้วมีต้นน้ำแข็งฟ้ามากเกินไป เกิดอะไรขึ้นกับสวรรค์กันแน่?” อาเฮ่อหยอกล้อหน้าตาย
ถังเทียนรู้สึกอาย เขาก็รู้สึกว่าเขาผิดแน่ จะมีต้นน้ำแข็งฟ้ามากมายขนาดนั้นได้ยังไง มันคือสมบัติที่สวรรค์ส่งมาให้อย่างแท้จริง แต่เพื่อไม่ให้เสียเวลาเปล่าถังเทียนยังคงเก็บหมดทุกต้นที่พบเจอ
หลังจากไปได้ระยะทางไกลแล้ว เมื่อถังเทียนยังเห็นภาพข้างหน้าเขาเขาก็เลิกเก็บรวบรวมทันที
เงาสะท้อนในดวงตาของเขาคือต้นน้ำแข็งฟ้าขนาดต่างๆเป็นดงแน่นขนัดไม่รู้จักหมดสิ้นอยู่ต่อหน้าเขา
ต้นน้ำแข็งฟ้า...
ก็ได้...ข้าผิดเอง
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าถังห้าว มาดูต้นน้ำแข็งฟ้าของเจ้าเร็วๆเข้า!” หลิงซิ่วมีความสุขเพราะถังเทียนทำผิดพลาดเห็นได้ชัดว่าเป็นเรื่องมีความหมาย
ถังเทียนจ้องหลิงซิ่วอย่างไม่พอใจ “ต้องการสู้มากเลยใช่ไหม?เจ้างี่เง่า!”
หลิงซิ่วส่ายหัวและแหวกว่ายเข้าหาถังเทียนและกล่าว “ถังห้าวบอกว่าเขาต้องการต้นน้ำแข็งฟ้าต้นเดียวและทันใดนั้นสวรรค์ส่งต้นน้ำแข็งฟ้ามาให้เขาทั้งผืนป่า....ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”
ทันใดนั้นดูเหมือนถังเทียนจะจับสัญญาณได้ว่ามีบางอย่างกวาดผ่านไปภายในป่าเขาตื่นตัวและตะโกนทันที “ระวัง!”
ก่อนที่เขาจะพูดจบธนูสีน้ำเงินนับไม่ถ้วนยิงออกมาจากป่าต้นน้ำแข็งฟ้า
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!
ธนูน้ำเงินไวเหมือนสายฟ้า พริบตาเดียวก็มาถึงหน้าพวกเขา
เมื่อได้ยินเสียงเตือนของถังเทียนหลิงซิ่วตั้งหลักได้เป็นคนแรก หอกเงินในมือระเบิดพลังออกมาโดยไม่ต้องคิดกลุ่มจุดเงินหนาแน่นถูกสร้างขึ้นมาเหมือนกับสายฝน พุ่งออกมาปกป้องทุกคนไว้ภายใน
ติง!
เศษน้ำแข็งที่ปลิวอยู่ใกล้พวกเขาทำให้ถังเทียนสังเกตได้ว่าธนูน้ำเงินที่ถูกยิงออกมาก็คือกิ่งต้นน้ำแข็งฟ้านั่นเอง
หลิงซิ่วครางขณะที่เขาตัวสั่น
ต้นน้ำแข็งฟ้าที่เขาเพิ่งล้อเลียนมาเมื่อครู่บรรจุพลังที่แปลกประหลาดซึ่งเข้าไปในสายเลือดของเขาผ่านหอกของเขา และความหนาวเหน็บสุดจะพรรณนาซึมซาบเข้าไปในร่างของเขาอาการมึนชาเริ่มแผ่ไปทั่วกายของเขา
แต่เขาไม่ถอยสักก้าว แต่สถานการณ์ไม่อำนวยให้เขาทำ เพราะทันทีที่เขาทำทุกคนจะสัมผัสฝนลูกศรน้ำเงินและถูกตรึงให้ต้องป้องกันอย่างเดียว....
เขาไม่ถอยแต่กับเดินหน้าแทน ดวงตาสีแดงเพลิงทอประกายโชติช่วง เขาคำราม หอกและตัวเขากลายเป็นหนึ่งระเบิดพลังฝนสีเงินออกไป เขานำพลังเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมากกว่าครั้งไหนๆพุ่งทะยานเข้าหาดงน้ำแข็งฟ้า
ติง ติง ติง!
เศษน้ำแข็งนับไม่ถ้วนแตกกระจายทำให้หลิงซิ่วครางทำให้เขาต้องบินกลับมาด้วยความเร็วที่มากกว่าเดิมพลังแผ่ไปตามเชือกแส้ที่มัดเอวของเขาพลอยทำให้ทุกคนปลิวไปกับเขาด้วย
หลิงซิ่วหมดสติ หน้าของเขามีสีน้ำเงินแปลกประหลาด ผมของเขาและมีชั้นน้ำแข็งก่อตัว
“เสี่ยวซิ่วซิ่ว!”
นัยน์ตาทุกคนเปลี่ยนเป็นสีแดงทันที
ถังเทียนคำราม ทันใดนั้นเขาดึงแส้เงินที่เอวเขา ถังเทียนพอโกรธจะมีพลังมากกว่าปกติและแส้เงินที่เหนียวทนถูกเขาดึงจนขาด
จิ่งหาวรวดเร็วพอกันใช้กระบี่ตัดแส้ยาวและวิ่งลุยไปข้างหน้า
อาเฮ่อช้ากว่าครึ่งก้าว เขาตั้งท่าได้ก็คว้าหลิงซิ่วขึ้นมาประคองไว้ที่หลัง
จากในป่า ธนูน้ำเงินนับไม่ถ้วนพุ่งมาอีกครั้งถังเทียนไม่สนใจป้องกัน เขาหลบได้หมดราวกับภูตพราย ผ่านธนูน้ำเงินไปได้ในพริบตาก็เข้าไปถึงชายขอบป่า
พอเมื่อเขาเห็นได้ชัดว่าผู้ที่โจมตีพวกเขาก็คือกลุ่มมนุษย์สีน้ำเงินที่มีส่วนสูงเมตรเดียว ผิวของพวกเขามีสีน้ำเงินแปลกประหลาด ศีรษะเป็นทรงสามเหลี่ยมคว่ำนัยน์ตาแดงปลายชี้ขึ้นมองดูชั่วร้าย
พวกมันพูดด้วยภาษาซึ่งถังเทียนฟังไม่เข้าใจตะโกนอย่างต่อเนื่อง โบกแขนท่าทางประหลาดและตั้งใจฆ่าแน่ บนเอวของพวกมันมีกิ่งต้นน้ำแข็งฟ้ามากมายนั่นคืออาวุธของพวกมันอย่างเห็นได้ชัด
“เสี่ยวเอ้อ!”
ถังเทียนคำราม เพลิงมารสีแดงลุกโชนบนฝ่ามือ อาการบาดเจ็บของหลิงซิ่วทำให้หงุดหงิดมาก
เสี่ยวเอ้อลอยออกมาพอเห็นคนตัวเล็กสีผิวน้ำเงินประหลาด เขาอุทาน “คนแคระน้ำเงิน!”
อาเฮ่ออยู่ด้านหลังเมื่อได้ยินเสียงตะโกนของเสี่ยวเอ้อเขาหรี่ตาทันที
คนแคระน้ำเงินคือสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวมาก แม้ว่าพวกมันจะโตดูเหมือนคนแคระ แต่พวกมันไม่ได้มีสติปัญญาสูงโหดร้ายและดุดันไม่กลัวตาย สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็คือคนแคระน้ำเงินมีความสามารถในการแพร่พันธุ์มาก พวกมันเพิ่มคนได้หลายรุ่นคนในช่วงเวลาสั้นๆ นั่นคือเหตุผลที่เผ่าพันธุ์ของพวกมันมีจำนวนมาก พวกมันจะโถมเข้าหาศัตรูเป็นแนวเหมือนสายน้ำทำให้ศัตรูมึนชาเพราะทะเลน้ำเงินที่น่ากลัว
โชคดีที่สิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวเหล่านี้พบเห็นได้ยากยิ่งและปรากฏอยู่แต่เพียงในตำนานเท่านั้น เซียนหลายคนยังสงสัยอยู่ว่าจะมีสิ่งมีชีวิตเช่นนั้นอยู่จริงหรือไม่
แต่พวกเขาไม่เคยคาดเลยว่าจะได้พบกับคนแคระน้ำเงินในตำนาน...
ถังเทียนผู้เข้าสู่สภาวะอำมหิตไม่สนใจว่าคนแคระน้ำเงินคืออะไรต่อให้เป็นเทพเจ้าในตำนานมายืนต่อหน้าเขา เขาก็ยังต้องการต่อยให้ตาย
เขาต่อยใส่คนแคระน้ำเงินที่อยู่ใกล้ที่สุด แต่มันไม่กลัวแม้แต่น้อยมันร้องลั่นจากนั้นคว้ากิ่งน้ำแข็งฟ้าและพุ่งเข้าหาถังเทียน
ถังเทียนสามารถมองเห็นหน้าสามเหลี่ยมที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังและตั้งใจฆ่า
ไปตายซะ!
ร่างถังเทียนหาบวับเหมือนภูตพรายและมาปรากฏอยู่ข้างตัวคนแคระน้ำเงิน หมัดของเขาที่ปกคลุมด้วยเพลิงมารกระแทกใส่เอวคนแคระน้ำเงินเต็มที่
พลังที่รุนแรงทำให้ร่างของคนแคระน้ำเงินรูปร่างเปลี่ยนโค้งเหมือนคันธนู ใบหน้าที่แต่เดิมดุร้ายกลายเป็นเต็มไปด้วยความกลัวทันที
ปัง!
คนแคระน้ำเงินรู้สึกเหมือนกับว่ามันได้ปะทะกับสัตว์ร้ายที่บ้าคลั่งก่อนที่มันจะปลิวกระเด็นไปไกล
ถังเทียนที่เพิ่งปล่อยหมัดออกงอหลังของเขา บิดตัวโดยไม่มองมือของเขาวกกลับไปด้านหลังและกระแทกศีรษะคนแคระน้ำเงินที่ใกล้เข้าและกดกระแทกลงพื้น
เพลิงกลืนวิญญาณของเสี่ยวเอ้อประทับลงบนหลังของคนแคระน้ำเงินเงียบๆทำให้มันแข็งชะงัก เพลิงกลืนวิญญาณเหมือนกับกระแสน้ำรุนแรงทะลวงผ่านร่างของมัน ในพริบตาเดียวก็ทะลุออกมาจากอกของมันและร่างของคนแคระน้ำเงินที่ลอยอยู่แต่เดิมพลันปราศจากชีวิต
กระบี่ดื่มเลือดเซียนในมือของจิ่งหาวต้านรับกิ่งน้ำแข็งฟ้าที่กำลังมาถึง คนแคระน้ำเงินที่ขว้างกิ่งน้ำแข็งฟ้ามาอย่างต่อเนื่องมีสีหน้าดีใจ แต่ในช่วงต่อมาหน้าของมันแข็งค้าง
กิ่งน้ำแข็งที่เปาะไม่ได้ถูกกระแทกแตกเลยแม้แต่น้อย!
แต่ถูกเหวี่ยงลอยไปทางอื่น
เป็นไปได้ยังไง....
ก่อนที่มันจะรู้สึกตัว บุรุษที่ถือกระบี่พลังไสกระบี่มาแต่ไกล ไม่มีแสง ไม่มีเสียง ไม่มีอะไรแต่มันรู้สึกเจ็บปวดรุนแรงที่หน้าอกมันและตาของมันกลายเป็นสีดำ
อาเฮ่อแบกหลิงซิ่วทั้งบิดตัวหมุนตัวเหมือนไส้ตะเกียงเล็กๆ เขาหลบกิ่งน้ำแข็งฟ้าได้หมด เขาสั่นข้อมือและกระบี่กระเรียนทองเปล่งรัศมีทองเข้าไปในร่างของคนแคระน้ำเงิน
มันครางและหยุดหายใจ
อาเฮ่อถอนหายใจโล่งอก คนแคระน้ำเงินมีพลังปานกลาง แต่มันใช้กิ่งน้ำแข็งฟ้าซึ่งมีพลังแปลก โดยไม่ต้องให้เขาเตือนถังเทียนและจิ่งหาวเห็นจุดนั้นแล้ว ทั้งสองคนโจมตีแต่คอยหลบกิ่งน้ำแข็ง
ไม่มีปัญหาอะไรกับการต่อสู้ แต่ทำไมถึงมีคนแคระน้ำเงินที่นี่...
ทันใดนั้นอาเฮ่อมีความรู้สึกอย่างหนึ่ง เขาเงยหน้า และมองดูลึกเข้าไปในป่าหน้าของเขาถึงกับบิดเบี้ยว
คนแคระน้ำเงินนับไม่ถ้วนกำลังหลั่งไหลเข้ามาเหมือนกระแสน้ำบ่าขณะที่มีเสียงแปลกประหลาด