ตอนที่ 556 หนุ่มชาวฟ้า ลุยลุยลุย
ทะเลหิน บุรุษผู้ตื่นเต้นทั้งสี่คนเก็บกวาดไปทุกที่ที่ผ่านไปและเก็บรวบรวมทรัพย์สิน
มีหนอนดำมากมายและพวกเขาก็ได้รับกรวดทองมากมายแต่เตาหลอมสายเลือดในตัวถังเทียนไม่สนใจของพวกนี้อีกต่อไปไม่ว่าถังเทียนพยายามจะทำยังไงก็ตาม เตาหลอมสายเลือดก็ไม่รับกรวดทองอีกต่อไป ถังเทียนสันนิษฐานว่าร่างของเขาดูดซับกรวดทองไว้มากพอแล้วจึงไม่สามารถซึมซับได้อีกต่อไป
ถังเทียนจึงได้แต่เฝ้าดูขณะเสี่ยวเอ้อช่วยจิ่งหาวอาเฮ่อและหลิงซิ่วเสริมพลังอาวุธจิตวิญญาณของพวกเขา
กรวดทองกลับมีความสามารถที่โดดเด่นในการเปลี่ยนแปลงโลหะต่างๆกระบี่ดื่มเลือดเซียน,ปีกมารของอาเฮ่อและหอกเงินของหลิงซิ่วล้วนได้รับการปรับปรุงพลังทั้งสิ้น
การปรับปรุงเลื่อนระดับเป็นเรื่องน่าทึ่งและสมบัติวิญญาณทั้งหมดแข็งแกร่งขึ้นอย่างมากมาย
สิ่งที่ทำให้ถังเทียนตกใจก็คือแม้แต่ลุงปิงก็เอาพยัคฆ์ฟ้าออกมาและขอให้เสี่ยวเอ้อช่วยเสริมพลังให้มันถังเทียนยังจำสีหน้าที่น่ารักของเสี่ยวเอ้อที่ตกตะลึงเมื่อเผชิญกับพยัคฆ์ฟ้าขนาดมหึมาสีหน้าของเขาเขียวคล้ำทันที
แต่ก่อนที่เขาจะปฏิเสธ ถังเทียนโบกมือและยอมรับ
เสี่ยวเอ้ออยากจะร้องไห้เพลิงเกียรติยศชาวยุทธเหลืออยู่เล็กน้อย
มงกุฎเกียรติยศชาวยุทธเป็นสมบัติที่สมาพันธ์ชาวยุทธสร้างเป็นพิเศษและเป็นสมบัติดีชนิดหนึ่ง เพลิงเย็นที่เสี่ยวเอ้อเคยใช้ไม่อาจเข้ากันได้กับเขาอีกต่อไป สำหรับการเข้ากันได้กับมงกุฎเกียรติยศชาวยุทธ เสี่ยวเอ้อต้องเปลี่ยนแปลงพิเศษด้วยการ์ดวิญญาณวิชาเพลิงเกียรติยศชาวยุทธ
เพลิงเกียรติยศชาวยุทธก็คือการ์ดวิญญาณส่วนตัวของสมาพันธ์ชาวยุทธ แต่เมื่อเทียบกับแสงสางยังคงด้อยอยู่ ตราบใดที่ใครๆยินดีจะขุดเงินจำนวนมหาศาลพวกเขาสามารถหาซื้อมาจากตลาดได้ การ์ดนี้ความจริงเมอร์เรย์มอบให้มา แม้ว่าพวกเขาจะพ้นจากแสงลงทัณฑ์ แต่พวกเขาไม่สามารถฝึกวิชาวิญญาณของสมาพันธ์ชาวยุทธได้อีกต่อไป
พวกเขาตัดสินใจเดินตามเส้นทางร่างพลังกายเป็นศูนย์ดังนั้นการ์ดวิชาจิตวิญญาณจึงไม่มีค่าสำหรับพวกเขาอีกต่อไป
ตามที่ศึกษาและค้นคว้าตามแผนงานพญาหมีอย่างต่อเนื่องและด้วยความสำเร็จของผู้ทดลองชุดแรกอย่างหลิงซิ่ว, อาเฮ่อและจิ่งหาวจึงมีคนมากมายเดินตามวิถีเช่นนี้ในกลุ่มดาวหมีใหญ่ในอนาคต
เพลิงเกียรติยศชาวยุทธไม่ค่อยมีอิทธิพลเด็ดขาดเลยกับนุ่มนวลและเยือกเย็น แต่ผลที่ได้โดดเด่นมากเมื่อเทียบกับเพลิงเย็น และด้วยจุดเริ่มต้นร่วมกัน พลังจึงมีทวีคูณเมื่อเพลิงเกียรติยศชาวยุทธถูกใช้ร่วมกับมงกุฏเกียติยศชาวยุทธ
เทียบกับเพลิงมารของถังเทียนเพลิงเกียรติยศชาวยุทธของเสี่ยวเอ้ออ่อนแอกว่า การหลอมเมล็ดทองและผสานเข้ากับสมบัติจิตวิญญาณไม่ใช่งานง่ายสำหรับเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสริมพลังให้พยัคฆ์ฟ้าไม่เคยมีใครทำกับอาวุธจักรกลวิญญาณเหมือนกับสมบัติจิตวิญญาณ ไม่ต่างกับสร้างใหม่ความสามารถของเสี่ยวเอ้อในการใช้เพลิงเกียรติยศชาวยุทธยังตื้น เพลิงสายเล็กๆกับพยัคฆ์ฟ้าขนาดมหึมา แม้แต่จิ่งหาวก็ยังรู้สึกสงสารเสี่ยวเอ้อ
เสี่ยวเอ้อไม่มีทางเลือกได้แต่เสริมพลังให้ครั้งละส่วน จำเป็นต้องใช้เวลายี่สิบวันต่อครั้ง กินเวลามากกว่าที่ใช้เสริมความแข็งแกร่งให้สมบัติของจิ่งหาวและคนอื่น
พยัคฆ์ฟ้าสีฟ้าเดิมในตอนนี้ถูกรมด้วยชั้นสีดำบางๆกลายเป็นสีน้ำเงิน แม้ว่าจะไม่สว่างสดใสเหมือนอดีต แต่มีพลังเพิ่มขึ้น
หลังจากดูดซึมกรวดสีทองความแข็งแรงของพยัคฆ์ฟ้ามากขึ้นอย่างน่าประหลาด เว้นแต่การใช้วิชาจิตวิญญาณแล้วถังเทียนยังไม่สามารถสร้างรอยขีดข่วนบนตัวพยัคฆ์ฟ้าได้
ลุงปิงรู้สึกร่าเริงและสรรเสริญเป็นการใหญ่
แม้ว่างานจะชุกแต่ก็ทำให้เสี่ยวเอ้อก้าวหน้าในการใช้เพลิงเกียรติยศชาวยุทธ ในเวลายี่สิบวันค่าวิญญาณของเพลิงเกียรติยศชาวยุทธเพิ่มขึ้นเป็น 120 จากเดิมที่เป็นเพลิงอ่อนตอนนี้มีขนาดเท่ากำปั้น
เวลาหนึ่งเดือนผ่านไปซึ่งทุกคนล้วนแสวงหาและก้าวหน้า
แต่ทุกคนผิดหวังเนื่องจากพวกเขาไม่พบหินดำหรือไข่หนอนอีกต่อไป
ทะเลหินดูเหมือนจะไม่มีที่สิ้นสุดเนื่องจากถังเทียนและพวกยังคงมองหาหนอนดำต่อไป พวกเขาไม่เร่งและไม่ชักช้า แต่หลังจากเดินหน้าไปเป็นเวลาหนึ่งเดือนฉากภาพที่อยู่ข้างหน้าดูเหมือนจะเปลี่ยนไป
ถ้าไม่ใช่เพราะดวงตาเซกซ์แทนส์พวกเขาคงจะหลงอยู่ในทะเลก้อนหินอีกนาน แต่ถึงอย่างนั้นความรู้สึกไม่มีที่สิ้นสุดนี้บั่นทอนกำลังใจทุกคน โชคดีที่ทั้งสี่คนมีความมานะบากบั่นและไม่ย่อท้อ
กรวดทองเข้มไม่ได้ใช้อีกต่อไป แต่พวกเขายังคงพบเจอขณะเดินทางและจากนิสัยของพวกเขา พวกเขายังคงเก็บเกี่ยวต่อไป
ต้องบอกว่าไม่มีอะไรดีไปกว่าการร่วมต่อสู้จริงๆเพื่อการพัฒนา ช่วงเวลาสั้นๆ หนึ่งเดือน แม้ว่าศัตรูจะมีแต่พวกหนอน แต่ความสามารถและพลังของพวกเขาก็แสดงออกว่าก้าวหน้า
ร่างเงาดำพรั่งพรูบินใส่พวกเขาเหมือนลูกศรกราดเกรี้ยว
หลิงซิ่วแทงหอกของเขาตามปกติ ปลายหอกปลดปล่อยรังสีเงินนับไม่ถ้วนห่อหุ้มหนอนทันที หลิงซิ่วเคลื่อนไหวหอกอย่างนุ่มนวลทำให้จุดรังสีเงินเคลื่อนไหวต่อเนื่องทันที เหมือนกับแส้เงินที่หวดใส่หลังหนอนและหนอนทั้งหมดถูกแช่แข็ง
เผียะ เผียะ เผียะเสียงระเบิดเป็นกลุ่มดังขึ้นขณะที่กลุ่มหนอนถูกแช่แข็ง พลังของหลิงซิ่วไหลเข้าไปในตัวหนอน แม้ว่าพวกมันจะดูเหมือนไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่เนื้อและอวัยวะภายในทั้งหมดถูกกระแทกจนเละ
หลิงซิ่วควงหอก จากนั้นตะโกน “เสี่ยวเอ้อ!”
ควั่บ หนอนดำทั้งหมดเหมือนเมฆดำบินเข้าหาเสี่ยวเอ้อ
พอดีเวลานั้น เสี่ยวเอ้อดึงมงกุฏเกียรติยศชาวยุทธกะโหลกทองคายเพลิงขาวออกมา ดึงซากหนอนเข้าไปในกะโหลก
เสี่ยวเอ้อหลับตาและผนึกไว้หลายครั้ง
หลังจากนั้นชั่วครูภายในเบ้าตาทั้งสองของกะโหลกทอง แสงสีขาวสองสายสว่างวูบและลูกกลมสีทองเล็กลอยออกมาตกลงในมือของเสี่ยวเอ้อ
แม้ว่าจะใช้ประโยชน์อะไรได้ไม่มาก แต่เพื่อไม่ให้สูญเปล่าหนอนทั้งหมดที่พวกเขาพบในเส้นทางจะถูกหลอมเป็นกรวดทองกลม
“นี่มันช่างโง่!” หลิงซิ่วโกรธ “ทุกวัน ทั้งหมดที่เราพบมีแต่พวกหนอน หนอน หนอนเหล่านี้ทำเอาข้าอยากจะอ้วกทุกครั้งที่เจอพวกมัน”
อาเฮ่อตอบอย่างเกียจคร้าน “แต่เจ้ามักเป็นคนแรกที่ลงมือก่อนใคร เจ้าเห็นนี่ ตอนนี้เราเกียจคร้านเกินกว่าจะลงมือทำอะไร”
“ลงมือมันน่าเบื่อก็จริง ไม่ลงมือสิน่าเบื่อยิ่งกว่า!” หลิงซิ่วหงุดหงิดเขาควงหอกและแทงใส่ก้อนหินแตกระเบิดเป็นชิ้น “ถ้าให้ดีที่สุดให้เราพบกับคนที่แข็งแกร่งทรงพลังตอนนี้ จะทำให้ข้าดีใจที่ต่อสู้”
จิ่งหาวฝืนหัวเราะ “พวกเจ้าปากไม่เป็นมงคลเอาเสียเลย
ขณะนั้นทุกคนรู้สึกแตกต่างไปบ้าง พวกเขามักจะเดินทางเข้าไปในที่ว่างมืดซึ่งไม่มีแสง แม้ว่าถังเทียนและตาของเขาจะสามารถเห็นได้ราวกับเป็นกลางวันแต่ก็ยังมืดและเป็นอวกาศดำ
จนกระทั่งในเวลานี้พวกเขาจึงตระหนักได้ทันทีว่าต่อหน้าพวกเขามีแสงเลือนลาง
ทั้งสี่คนมองหน้ากันเองแสดงสีหน้าที่ระมัดระวัง
พวกเขาลดความเร็วและบินไปช้าช้าขณะที่พวกเขายังคงไปข้างหน้าต่อ แสงที่อยู่ข้างหน้าเริ่มสว่างขึ้นทุกที
เมื่อพวกเขาผ่านหินก้อนสุดท้ายไป พวกเขาตะลึงกับสิ่งที่อยู่ข้างพวกเขา แสงสีฟ้าสายตาทั้งหมดของพวกเขาปกคลุมไปด้วยแสงสีฟ้า
แสงสีฟ้าถูกแยกออกจากทะเลหินอย่างชัดเจน แต่จุดสำคัญคือไม่ว่าจะไกลเพียงไหนแต่สายตาของพวกเขาสามารถเห็นได้ มันไร้ขอบเขต
“อะไรกันนี่?” ถังเทียนพึมพำ
“มันคือพลังงานรูปแบบหนึ่ง” สีหน้าที่ปกติจะใจเย็นของจิ่งหาวเต็มไปด้วยความตกใจ “พลังงานมากมายนัก...”
“โลกนี้มีทะเลพลังงานจริงๆ....” อาเฮ่อพูดไม่ออกต่อไป
หลิงซิ่วมองดูแสงสีฟ้าไร้ขอบเขต
เสี่ยวเอ้อและปิงตกใจจนพูดไม่ออกพอกัน
หลังจากผ่านไปนานกลุ่มก็เริ่มตั้งหลัก ใบหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความสงสัย
“พลังงานแปลกประหลาดนี้ข้าไม่เคยเห็นพลังงานที่ไม่รุนแรงแต่กลับมีความมั่นคงแทน ในมือของอาเฮ่อ มีสายรังสีฟ้าลอยอยู่ มันคือบางอย่างที่เขาดึงออกมาจากทะเลแสงสีฟ้า
“ใช่แล้ว มันมั่นคงมากจริงๆ” จิ่งหาวยังคงรับรู้ถึงพลังแปลกอย่างระมัดระวัง “แต่มันยังคงถูกขับออกมาจากร่างของเรา นับเป็นปาฏิหาริย์จริงๆ ทะเลพลังงานที่กว้างใหญ่นี้ ข้าสงสัยว่าจะมีอะไรอยู่ข้างใน นั่นคือจุดที่ข้าสนใจอย่างแท้จริง”
“น่าสนใจ, ยังไงก็ตามเราก็แค่ลุยเข้าไป!” หลิงซิ่วกระตือรือร้นจะเข้าไป
ถังเทียนผงกศีรษะ “เสี่ยวซิ่วซิ่วพูดถูก เนื่องจากเราไม่เคยเห็นที่อย่างนี้มาก่อนและเราจำเป็นต้องผ่านเข้าไป เราไม่ควรจะคิดอะไรมาก!”
จิ่งหาวและอาเฮ่อมองหน้ากันเองและได้แต่ฝืนหัวเราะให้กับความไร้เดียงสาของทั้งสองคน ไม่มีใครรู้ว่าอะไรอยู่ข้างในพลังงานแปลกประหลาด มันประกอบด้วยอะไร และมีลักษณะอย่างไร และสำหรับทะเลพลังงานกว้างขวางไร้ขอบเขต จะมีอะไรสามารถอยู่ข้างในได้? นั่นอาจทำให้ผู้คนยำเกรงอย่างแท้จริง
“นั่นก็จริงไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม เราจำเป็นต้องผ่านเข้าไปอยู่ดี!” จิ่งหาวพูดทันที เนื่องจากการเดินทางของพวกเขาสู่ดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์พวกเขาไม่สามารถถอยกลับได้ แม้ว่าแสงสีฟ้าจะอันตราย พวกเขาก็ยังต้องผ่านเข้าไปอยู่ดี
อาเฮ่อสะบัดมือและพูดด้วยท่าทางดีใจ “ข้ามักจะโดนฉุดลากเข้าไปในเรื่องแบบนี้อยู่เรื่อย”
“ไปกันเถอะ!” ถังเทียนประกาศและกลุ่มพวกเขาบินเข้าหาแสงสีฟ้า
แสงสีฟ้าเหมือนผนังขนาดใหญ่ แผ่ออกมาจำกัดสายตาของพวกเขามันเหมือนกับทะเลแสงสีฟ้า กว้างใหญ่พอๆ กับทะเลโขดหิน
ขณะบินเข้าไปใกล้แสงสีฟ้า ถังเทียนและพวกเริ่มรู้สึกว่าพวกเขาเป็นสิ่งมีชีวิตที่เล็กกระจ้อยร่อย
แม้ว่าทุกคนจะไม่ลังเล แม้ว่าถังเทียนจะเพ่งสมาธิถึง120% เสี่ยวเอ้อ ปิงและหยาหยาซ่อนอยู่ในตัวเขาทั้งหมด แสงสีฟ้าคือพลังงานรูปแบบหนึ่ง และร่างของเขาสามารถขับไล่พลังงานได้ ดังนั้นจึงอันตรายไม่มาก แต่ก็อาจพัฒนาไปเป็นอันตรายสำหรับเสี่ยวเอ้อและปิง
“ทุกคน, อยู่ใกล้ๆและมัดรอบตัวเอาไว้”
ถังเทียนดึงเชือกยาวออกมา เชือกยาวเส้นนี้คือแส้เงินมันมีความเหนียวมาก เนื่องจากถังเทียนเคยลองทำลายมาก่อนแต่ไม่ได้ผล เขาเกรงว่าพวกเขาอาจพลัดกัน
“ข้าจะนำเอง!” จิ่งหาวกล่าว
ถังเทียนส่ายศีรษะกล่าวด้วยเสียงมุ่งมั่น “ทุกคนตามข้ามา แน่นอนข้าจะต้องอยู่หน้าอยู่แล้ว และข้ายังจำเป็นต้องใช้ดวงตาเซกซ์แทนส์นำทางพวกเราด้วย”
“อย่างนั้นก็ระวังด้วย” จิ่งหาวตอบ “ถ้าเจ้าพบอันตรายใดๆให้กระตุกเชือกด้วย”
พลังที่ไร้ขอบเขต เต็มไปด้วยพลังประหลาด ไม่ว่าเซียนคนหนึ่งจะแข็งแกร่งเพียงไหน เมื่อเผชิญหน้ากับมันก็รู้ว่าตนเองเล็กลงทันที
“ได้!” ถังเทียนยิ้มกว้าง “วางใจได้ เราจะสามารถผ่านตรงนี้ไปได้แน่ ไม่มีอะไรที่หยุดหนุ่มชาวฟ้าผู้นี้ได้”
“ใช่แล้ว!”อาเฮ่อหัวเราะ “จะมีอะไรที่หยุดคนห้าวได้เล่า? ไม่มีเลยจริงๆ!”
“ผิดแล้ว!” หลิงซิ่วพูดอย่างอารมณ์ดี “มีอย่างหนึ่งที่หยุดเขาได้!”
อาเฮ่อสับสน “ยังมีอะไรหยุดเขาได้อีก?”
“เชียนฮุ่ย!” หลิงซิ่วหัวเราะก๊าก “เสี่ยวเฮ่อ, เจ้ายังไม่ฉลาดเท่าข้าจริงๆ ด้วย....”
อาเฮ่อพูดไม่ออก
จิ่งหาวอดยิ้มไม่ได้ ความเครียดในหัวใจของเขาคลายตัว บางครั้งได้รวมกลุ่มกับพวกสมองน้อยก็เป็นเรื่องดีเหมือนกัน
ทั้งสี่คนใช้แส้ยาวเชื่อมกันไว้ ถังเทียนเหยียดแขนหันหน้าไปทางทะเลแสงสีฟ้า “เฮ้, หนุ่มชาวฟ้าเตรียมวิ่งเข้าใส่แล้วนะ”
หลิงซิ่ว “ฆ่าฆ่าฆ่า!”
อาเฮ่อ “เจ้าแน่ใจนะว่าเจ้ายังเป็นหนุ่มชาวฟ้าที่ไม่เหลวไหล?”
จิ่งหาว “ความจริง เราสามารถคิดฉายาที่ดีมีความหมายมากกว่าก็ได้นะ...”
ถังเทียนหัวเราะลั่นและพุ่งเข้าไปหาทะเลแสงสีฟ้าทันใด ทั้งสี่คนกลายเป็นริ้วสี่สายพุ่งเข้าหาทะเลแสงสีฟ้าที่กว้างใหญ่ทันที
“หนุ่มชาวฟ้า..ลุย ลุย ลุย!”