ตอนที่ 554 รังหิน
พวกเขาระมัดระวังกันทุกคนขณะบินเข้าไปในทะเลหิน ถังเทียนควบคุมดวงตาเซกซ์แทนส์ไม่ให้มันบินเร็วเกินไป
ก้อนหินต่างๆ เป็นเพียงสิ่งที่พวกเขาเห็นเท่านั้นพื้นที่ภายในเงียบกริบ
“ระวังนะมีบางอย่างแปลกประหลาด!” สัญชาตญาณของถังเทียนแหลมคมที่สุดเหมือนกับว่าเขาสามารถรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างหมอบรออยู่ในความมืด เขาเตือนสหายที่เหลือทันที
ทั้งสามคนระมัดระวังมากขึ้นเนื่องจากพวกเขาเชื่อในสัญชาตญาณของถังเทียน แม้ว่าบางครั้งเขาอาจมองดูไม่น่าเชื่อถือ แต่ในสมรภูมิ การตัดสินใจของถังเทียนแทบจะผิดพลาดได้ยาก แม้แต่เสี่ยวเอ้อที่หยิ่งผยองก็ยังระมัดระวังมากขึ้น เนื่องจากเขาเคยเห็นสัญชาตญาณสัตว์ป่าของเจ้าเด็กโง่มาแล้ว
“ดูหินก้อนนั้น!” อาเฮ่ออุทานเรียกความสนใจของทุกคน
สายตาทุกคนมองตานิ้วอาเฮ่อที่ชี้ตรงไปที่หินซึ่งดูธรรมดาก้อนหนึ่ง ผิวของมันมีรูพรุนคล้ายรังผึ้งทำให้ผมขนของทุกคนลุกชัน
“ระวัง!” ถังเทียนสีหน้าเปลี่ยนทันที
ขณะที่เขาพูดออกมาฝูงเงาสีดำสนิทก็บินออกมาจากรูพรุนเหล่านั้นพุ่งเข้าหาพวกเขาราวกับสายฝน
ฝูงเงาดำเหล่านั้นไวมากขนาดที่พวกเขามองตาเปล่าไม่เห็น
เสี่ยวเอ้อมีปฏิกิริยาไวที่สุดร่มหยาหยากางออกมากันหน้ากลุ่มทันที แสงระยิบระยับปรากฏอยู่บนผิวร่มและเปลี่ยนสภาพม่านแสงป้องกัน ร่มหยาหยาพังไปแล้วตอนที่สู้กับเซียนจากวิหารเซียนและด้วยค่าพลังวิญญาณปัจจุบันของมัน มันใช้ประโยชน์ได้ไม่มากนัก ถ้าเป็นเสี่ยวเอ้อในอดีต เขาคงโยนทิ้งไปแล้ว เพราะมันไร้ประโยชน์ แต่หยาหยาช่วยเขาไว้ ดังนั้นเขาจึงเก็บไว้อย่างไม่เต็มใจ
สำหรับคนที่จุกจิกกับความสมบูรณ์ย้ำคิดย้ำทำ การเก็บบางอย่างไว้เป็นที่ระลึกและเป็นของไม่มีค่ายากจะยอมรับได้จริงๆ
ดังนั้นเสี่ยวเอ้อใช้พลังมากมายทันทีเพื่อสร้างร่มหยาหยาขึ้นมาอีกครั้ง
ร่มหยาหยาใหม่มีลักษณะค่อนไปทางใช้ป้องกันมากกว่าและเสี่ยวเอ้อไม่สนใจว่าเขาจะต้องทุ่มทุนอะไรกับมัน เขาเพิ่มมงกุฎเกียรติยศชาวยุทธซึ่งก็คือหม้อหลอมรูปกะโหลกที่แข็งแกร่ง ดังนั้นร่มหยาหยาใหม่จึงมีคุณสมบัติป้องกันที่โดดเด่น
ติง ติง ติง!
เสียงโจมตีระดมเข้ามาเหมือนสายฝน เสียงดังมาจากร่ม ขณะเดียวกันพลังที่น่าทึ่งมากก็ปล่อยออกมาจากร่มเช่นกัน
หยาหยาสีหน้าเปลี่ยน
ร่มหยาหยาถูกบังคับให้ถอยหลัง พลังกล้าแข็งทำให้ผิวของร่มเกิดประกายไฟ อวกาศมืดมีเกิดความสว่างขึ้น
เสี่ยวเอ้อสูดลมหายใจลึกและหมุนด้ามร่มทันที
วืดดดด
ผิวของร่มหมุนอย่างรวดเร็วมากการหมุนที่รวดเร็วทำให้พลังโจมตีแฉลบ
ชิ้ง ชิ้ง ชิ้ง!
ร่างสีดำถูกร่มเหวี่ยงออกไปและพุ่งเข้าไปในก้อนหินรอบๆขณะเดียวกันเกิดเสียงเจาะที่ยากจะทนทานขณะที่ร่างนั้นทะลวงเข้าไปในก้อนหิน เสียงนั้นแสบแก้วหู
เมื่อเผชิญกับเงาร่างดำหินที่แข็งแกร่งกลายเป็นเหมือนกับเต้าหู้ เกิดรูขนาดเท่าหัวแม่มือหน้าของพวกเขาทุกคนเปลี่ยนไปพร้อมกัน ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจว่ารูปรากฏอยู่บนก้อนหินได้อย่างไร
เงาร่างดำแยกย้ายไปทุกที่และพุ่งเข้าหากลุ่มของถังเทียนอีกครั้ง
เหมือนกับสายฟ้า!
แต่พวกเขาทุกคนผ่านการต่อสู้มาหลายศึกแล้วตอนแรกพวกเขาตกตะลึง แต่พวกเขาก็รู้สึกตัวตั้งสมาธิได้ทันที คนแรกที่โต้ตอบก็คือหลิงซิ่วเขาบิดฝ่ามืออย่างนุ่มนวลและประกายรังสีเงินกระจายอยู่รอบตัวเขา
เมื่อเงาร่างดำพุ่งเข้ามาในรังสีเงินเผียะ เผียะ เผียะ ทั้งหมดระเบิดเป็นชิ้น
หลิงซิ่วรู้สึกตื่นเต้น เงาร่างดำทั้งหมดแข็งแกร่ง แข็งแกร่งมากกว่าที่เขานึกภาพออก และเขาถูกผลักกลับด้วยคลื่นสะท้อนที่รุนแรงซึ่งเกิดจากการโจมตี
แต่พลังอย่างนี้เพียงแต่ทำให้เขาตื่นเต้นขึ้น
ปะทะกันโดยตรงคือรูปแบบการโจมตีที่เขาโปรดปราน โดยไม่ต้องลังเลใจ ร่างของเขาลอยไปพร้อมกับหอกขณะที่รังสีเงินระดมใส่ออกไปเหมือนสายฝนต่อหน้าเขากักร่างเงาดำที่กำลังบินเข้าหาเขา
เผียะ เผียะ เผียะ!
เสียงระเบิดรุนแรงดังออกมาจากรังสีหอกฝนเงิน
อาเฮ่อชักกระบี่ออกจากฝักมาถือไว้ในมือเสียงกระเรียนร้องกระตุ้นจิตวิญญาณของทุกคน
เหมือนกับกระเรียนดำร่ายรำทะยานขึ้นเขาร่ายรำไปพร้อมกับกระบี่การใช้ท่าที่ประหลาดก่อให้เกิดระลอกคลื่นไร้ลักษณ์มีอาเฮ่อเป็นจุดศูนย์กลางกระจายพลังออกไปด้านนอก ร่างเงาดำทั้งหมดถูกระลอกคลื่นไร้ลักษณ์กวาดผ่านจนเกิดอาการซึมเซา
จากนั้นทุกคนสังเกตได้ว่าร่างเงาดำนั้นแท้จริงก็คือหนอนสีดำ
หนอนสีดำที่มีขนาดเท่านิ้วมือตัวของมันดำเงามีลักษณะคล้ายโลหะ ลำตัวเต็มไปด้วยข้อต่อทำให้พวกมันโค้งหมุนได้ ข้อต่อทั้งหมดเหล่านี้เป็นเหมือนสปริงที่ถูกบีบเข้าด้วยกันขณะที่มันงอก็สามารถเก็บกักพลังงานที่มีศักยภาพมหาศาลได้ทันทีที่พวกมันสัมผัสกับก้อนหิน พวกมันจะงอเหมือนสปริงที่สัมผัสอยู่ก้อนหินแล้วใช้แรงเฉื่อยยิงพลังออกไปและทิ้งรูลึกขนาดหัวแม่มือไว้บนก้อนหิน
อาเฮ่อไม่เคยเห็นหนอนดำเหล่านี้ในบันทึกโบราณใดๆมาก่อน เขี้ยวที่ปากหน้าเหมือนกับอาวุธคล้ายมีดโกนที่คมสองเล่มและสิ่งที่น่ากลัวก็คือดาบที่คมทั้งสองที่เคลื่อนด้วยความถี่เร็ว ขนาดหินแข็งเมื่อเจอกับอาวุธเหล่านั้นก็ยังถูกตัดขาดเหมือนเต้าหู้
ขณะนั้นอาเฮ่อดูเหมือนจะตกภวังค์คล้ายกับภาพลวงตาร่างที่ร่ายรำของเขาเลือนราง
ถ้าเราจะบอกว่าสนามพลังวิญญาณของจิ่งหาวคือภูตกระบี่หาได้ยากแล้ว อย่างนั้นสนามพลังวิญญาณของอาเฮ่อก็ลึกลับและหยั่งไม่ถึงยากยิ่งกว่า แม้แต่อาเฮ่อเองก็คาดไม่ถึงว่าหลังจากฝึกด้วยวิชากระบี่กระเรียนฟ้าจนจบสิ่งที่เขาฝึกออกมาไม่ใช่วิชากระบี่ แต่เป็นวิธีบูชายัญ
ร่ายรำแบบหมอผีบูชายัญที่เป็นแบบดั้งเดิมของชาวตะวันออก
นี่ทำให้เขาหัวเราะมิออกร้องไห้มิได้ แต่การร่ายรำนี้ลี้ลับและสามารถหยั่งถึงได้ซึ่งนำกลิ่นอายที่ได้รับยกย่องออมาจากป่าทึบแฝงไว้ด้วยพลังที่น่าทึ่ง จากนั้นเขาจึงเข้าใจ สำนักกระเรียนฟ้ามีวิชามากมาย ตัวอย่างเช่นกระบี่หมุนระบำกระเรียนซึ่งมีข้อมูลวิชาระบำนี้อยู่ด้วยเหมือนกัน
เจ้าสำนักเดิมจากดินแดนตะวันออกไกลและหลังจากที่บรรพบุรุษสมัยก่อนล่วงลับไปแล้ว ไม่มีใครสามารถอธิบายทฤษฎีที่ลึกซึ้งของวิชานี้ได้
วิชากระบี่ของสำนักกระเรียนไม่ใช่ได้มุ่งไปที่กระบี่ แต่เป็นเครื่องมือและอุปกรณ์สำหรับพิธีบูชายัญ และการรู้แจ้งนี้ทำให้อาเฮ่อพูดไม่ออกและเนื่องจากว่าเขาไม่สามารถฝึกวิชาจิตวิญญาณอย่างอื่นได้เขาจึงทำได้แต่เรียนอย่างงุ่มง่ามเคอะเขินผ่านการรู้แจ้งของเขา
ขณะนั้นเอง เขาเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่าแม้อยู่ในระดับเซียนแล้ว ตอนแรกเขาคิดว่าด้วยความเข้าใจของเขาเรื่องความเข้าใจและและกฎธรรมชาติ เขาน่าจะสามารถเข้าใจชัดได้ลึกขึ้นถึงการสอนจากสำนักได้
แต่เขาตระหนักอย่างคาดไม่ถึงเลยว่าจะมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เขาไม่เข้าใจ
เขาไม่ได้มีสนามพลังวิญญาณแค่เพียงหนึ่งเท่านั้นแต่มีถึงสอง หนึ่งนั้นก็คือสนามพลังวิญญาณที่อยู่ระหว่างคิ้วของเขาและอีกหนึ่งอยู่ในกระบี่กระเรียนที่เขาถืออยู่ ในอดีต เขาคิดว่ากระบี่กระเรียนก็คือสมบัติเซียนของกลุ่มดาวกระเรียน แต่จากนั้นเขาจึงพบว่ามันคือเครื่องมือที่บรรพบุรุษจากดินแดนตะวันออกนำมาด้วย และบรรพบุรุษของเขาก็ใช้พลังที่ไร้ขีดจำกัดของเขาเพื่อบังคับกลุ่มดาวกระเรียนให้เป็นของพวกเขา
สนามพลังวิญญาณหนึ่งใหญ่หนึ่งเล็กสามารถยกระดับให้ถาวรได้
แน่นอนว่าสำหรับอาเฮ่อในปัจจุบันนี้ได้รับความสนใจเป็นอย่างดีและร่างที่ปราดเปรียวนั้นจะคอยจับตาเขาเป็นครั้งๆ
มันคล้ายกับท่าโบราณแฝงไปด้วยพลังงานที่สามารถทำให้ใจสั่นได้
ระลอกไร้ลักษณ์นี้สามารถรบกวนสมาธิได้ อาเฮ่อทดลองมาแล้วมันแตกต่างสิ้นเชิงจากวิชาจิตวิญญาณลวงตาอย่างอื่น มันสามารถส่งผลโดยตรงต่อความสนใจของคนและยากจะป้องกัน
หนอนดำไม่มีสติปัญญาที่สูงอะไร หลังจากถูกระลอกคลื่นไร้ลักษณ์กวาดใส่ร่างของพวกมันชะงักและสูญเสียการควบคุม
กระบี่กระเรียนในมืออาเฮ่อกวาดใส่เหมือนสายลม
หนอนดำร่วงหายไปกับสายลมอย่างรวดเร็ว
กระบี่ของจิ่งหาวแตกต่างจากอาเฮ่อชัดเจนเหมือนตอนกลางวันและตรงเหมือนไม้บรรทัดกวาดไปรอบๆ วิชากระบี่ของเขาไม่เร็วเกินไม่ช้าเกินไปหรือรวดเร็วแต่เงาร่างดำไม่สามารถหลบจากภาพกระบี่ไปได้
ในมือของเขากระบี่ดื่มเลือดเซียนเชื่องเชื่อยิ่งนักสามารถแสดงฝีมือโดยไม่ปล่อยความกระหายเลือดแต่อย่างใด
วิชากระบี่ที่เรียบง่ายไม่มีการปรุงแต่งแทงใส่หนอนดำซึ่งมีร่างที่แข็งแกร่งมากแต่ตัดหนอนดำขาด ความคิดของจิ่งหาวและท่ากระบี่ที่สมบูรณ์แบบตัดหนอนดำจนขาด
ในพริบตาเดียวซากหนอกดำนับไม่ถ้วนที่ตัวขาดครึ่งลอยอยู่รอบตัวเขา
หมัดของถังเทียนปลดปล่อยออกไปเหมือนลมทุกหมัดจะห่อหุ้มด้วยเพลิงสีแดง เปลวเพลิงมารวิลเลียมไม่เคยถูกเสี่ยวเอ้อนำมาใช้และตกค้างอยู่ในร่างถังเทียนกลายเป็นอาวุธที่ดีที่สุดของเขา
ถังเทียนใช้เวลานานกว่าจะคุ้นเคยตราผนึกวิลเลียมในฐานที่เป็นกฎธรรมชาติต่างๆผนึกเอาไว้ ไม่มีพลังงานอยู่ในเศษที่บริสุทธิ์เหล่านี้ ในบางห้วงความรู้สึกเพลิงมารในตัวถังเทียนจะไม่ใช่เพลิงมารอย่างสมบูรณ์อีกต่อไป มันยังขาดส่วนที่มีพลังงาน
แต่วิลเลียมคงไม่มีทางคาดได้เลยว่าเพลิงมารของเขาจะกลับกลายเป็นแข็งแกร่งมากกว่าเดิมหลังจากลบล้างพลังงานออกไป กลายเป็นเพลิงที่พิเศษไม่ซ้ำใครขึ้นอยู่กับกฎธรรมชาติที่แตกต่าง
ถังเทียนยังคงห่างจากความเชี่ยวชาญเพลิงมารที่แท้จริง แต่เขามีอำนาจควบคุมได้บ้างแล้ว
ความเคลื่อนไหวของเขารวดเร็วมาก ตราบเท่าที่เพลิงมารเฉียดผ่านฝูงหนอนดำเพลิงจะเผาไหม้ร่างหนอนดำจนทั้งตัวหนอนดำเผาไหม้จนหมด
ถังเทียนสร้างชั้นไฟครอบคลุมทั้งร่าง
ซี่.... ซี่..... ซี่....!
หนอนดำพุ่งเข้าไปในชั้นผนังเพลิงเหมือนหนอนบิน
สิ่งแปลกเรื่องเดียวก็คือไม่มีหนอนดำไหนเลยสักตัวที่กระโจนใส่เสี่ยวเอ้อ เหนือหัวเสี่ยวเอ้อลูกปัดลูกหนึ่งลอยอยู่ปล่อยแสงสีเขียวครอบคลุมตัวเสี่ยวเอ้อ
ลูกปัดข่มพลัง
ปราณที่ทรงพลังจากลูกปัดข่มพลังยังคงป้องกันพวกหนอนโง่ที่รู้แต่จะฆ่าแต่ไม่กล้าเข้าใกล้เขา
ในเวลาอันรวดเร็วฝูงหนอนดำก็ถูกกำจัด
ทั้งสี่คนหยุดชัยชนะไม่ได้ทำให้พวกเขาดีใจ แต่กลับทำให้สีหน้าพวกเขาเขียวคล้ำ หนอนดำนับได้ว่าแข็งแกร่ง และพบพวกมันตอนที่เพิ่งเข้าทะเลหิน นั่นทำให้พวกเขาทุกคนมีความรู้สึกแย่ผุดขึ้นมาในใจพวกเขา
ทะเลก้อนหินที่กว้างขวางไม่ปลอดภัย
เส้นทางยังอีกยาวไกลและไม่มีผู้ใดรู้ว่ายังมีอันตรายอะไรรออยู่ข้างหน้า
“หนอนดำเหล่านี้ไม่เคยมีบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์หรือบันทึกใดๆ” อาเฮ่อจับซากหนอนและมองดูอย่างระมัดระวัง เขาไม่สามารถทำลายเปลือกนอกที่แข็งเหมือนโลหะได้
“เอ๊ะ!” ทันใดนั้น ถังเทียนอุทานออกมาเรียกความสนใจของพวกที่เหลือ
เม็ดทองสีเข้มขนาดเท่าเมล็ดข้าวสารลอยอยู่รอบตัวถังเทียน เขาหยิบขึ้นมาและอุทานด้วยความประหลาดใจ “นี่มันแข็งจริงๆ ข้าคิดว่าข้าสามารถเผามันด้วยเพลิงมารของข้าแล้วแต่มันก็ยังไม่ถูกเผา
คำพูดของเขาสร้างความเครียดให้พวกเขา
พลังของเพลิงมารของถังเทียนแข็งแกร่งทรงพลังมาก แม้ว่าถังเทียนจะยังไม่พบชัดเจนว่ามันเป็นเพลิงแบบไหน แต่มันคือกฎไฟธรรมชาติแน่นอน พลังของกฎไฟธรรมชาติใดๆล้วนมีพลังมากกว่าเพลิงธรรมดาและนั่นเจ้าสิ่งนั้นไม่ถูกเพลิงกฎธรรมชาติเผาไหม้ได้...
คำพูดของถังเทียนเตือนอาเฮ่อทันที อาเฮ่อมองดูรอบตัวอย่างระมัดระวัง ตาของเขาทอประกายวูบ หนอนดำทั้งหมดที่เขาเป็นคนทำลายจะทิ้งกรวดไว้ด้านหลังนับไม่ถ้วน ถ้าไม่ใช่เพราะถังเทียนเตือนเขาก็คงไม่ทันสังเกต
“ข้าก็มีอยู่ตรงนี้เช่นกัน แต่พวกมันไม่ใช่เม็ดโลหะ แต่เป็นกรวดดำ”
เมื่อได้ยินสิ่งที่อาเฮ่อพูดจิ่งหาวและหลิงซิ่วมองหน้ากันเอง โดยไม่ได้พูดอะไร พวกเขารวบรวมซากหนอนรอบๆแม้ว่าพวกเขาจะไม่พบประโยชน์ของการใช้ทองดำ แต่เห็นได้ชัด
นี่คือของดีแน่นอน