ตอนที่ 553 - เลือดจ้าวอสูร
หอทงเทียนตื่นข่าวราวกับไฟลามทุ่ง
นักรบแทบทุกคนล้วนแต่คุยสนทนาเรื่องราวความสำเร็จของคุณชายสามตระกูลเย่ว์อย่างตื่นเต้นไม่รู้จักเบื่อ
คุณชายสามตระกูลเย่ว์ผู้นี้มักจะลี้ลับร่องรอยไม่ชัดเจนจนกระทั่งเขาร่วมมือกับอันซีและสังหารจักรพรรดิสมุทรก้วนหลานได้ จากนั้นมาผู้เยาว์ผู้นี้จึงกลายเป็นจุดสนใจของทุกคน ในที่สุดนักรบของหอทงเทียนได้ยินว่ามีสุดยอดนักสู้รุ่นเยาว์ทรงพลังผิดธรรมดาคนหนึ่งได้รับการยกย่องเชิดชูไปทั่วทั้งทวีปมังกรทะยาน หลังจากนั้นเมื่อกองกำลังนรกดำรุกรานทวีปมังกรทะยาน ชื่อของเขาถูกนำมาเอ่ยถึงอีกครั้ง มีเรื่องเล่าว่าพวกเผ่าพันธุ์ทะเลได้ตั้งรางวัลค่าหัวของเขาถึงสิบล้านเหรียญทอง ทำให้เขาเป็นผู้มีค่าหัวสูงที่สุดในประวัติศาสตร์หอทงเทียน หลังจากนั้นไม่นาน ที่หอทงเทียนชั้นหก คุณชายสามตระกูลเย่ว์ได้ถูกราชาเฮยอวี้ขัดขวางที่ประตูเทเลพอร์ตทำให้คนอื่นพากันวิตกกังวลแทนเขา
ถ้าไม่ใช่เพราะผู้เฒ่าหนานกงและราชันย์ปีศาจใต้มาช่วยเหลือ หลายๆ คนคิดว่าเจ้าผู้เยาว์คนนี้คงได้สะดุดตอตายเป็นแน่…
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เวลาสิบวันจะผ่านไป ไม่ว่ามนุษย์หน้าไหนจะเคยคิดกันบ้างว่าคุณชายสามตระกูลเย่ว์ผู้นี้จะกลายเป็นผู้นำพากลุ่มนักรบของหอทงเทียนเข้าต่อกรกับนักสู้แดนสวรรค์และได้ชัยชนะกลับมา?
ในหอทงเทียนมักจะมีความคลางแคลงใจอยู่เสมอ
หลายคนบอกว่าเป็นแค่เรื่องเหลวไหลไร้สาระ พวกเขาเพียงแต่เชื่อสิ่งที่พวกเขาได้เห็น คุณชายสามตระกูลเย่ว์จะกลับมาจากแดนสวรรค์อย่างผู้มีชัยหลังจากเอาชนะนักสู้ของที่นั่นได้จริงๆ น่ะหรือ?
ขณะรอคอยที่ท้องพระโรงพระราชวังอาณาจักรต้าเซี่ยในทวีปมังกรทะยาน พะยูนนรกที่กลายเป็นผู้รับใช้ของมนุษยชาติสามารถบอกความจริงเรื่องนั้นกับผู้ที่ยังคลางแคลงใจกับเรื่องนั้นที่เกิดขึ้น
ตามตำนานกล่าวไว้ว่าเมื่อหกพันปีที่แล้ว พะยูนนรกอสูรจากแดนสวรรค์นี้ได้มายังหอทงเทียนเนื่องเพราะสงครามระหว่างสามผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์กับจักรพรรดิอวี้ หนึ่งในพวกมันไม่สามารถกลับไปยังแดนสวรรค์ได้ ดังนั้นมันจึงอยู่ในมหาสมุทรที่กว้างใหญ่ในหอทงเทียนชั้นที่สิบกลายเป็นผู้พิทักษ์ที่ได้รับการยกย่องเทิดทูนของชาวเผ่าพันธุ์ทะเล ลูกหลานของพะยูนนรกก็คือราชินีแมงกะพรุนและตระกูลผู้ปกครองของทะเลลึก ช่วงเวลาพันปีต่อมาผู้พิทักษ์เผ่าพันธุ์ทะเลนี้แก่และตายลง เพราะเรื่องนี้เองจักรพรรดิสมุทรก้วนหลานจึงสามารถแสดงอำนาจได้
พะยูนนรกผู้มีพลังปราณฟ้าระดับสองและได้กลายเป็นบรรพบุรุษผู้คุ้มครองได้รับการเทิดทูนบูชาจากเผ่าพันธุ์ทะเลในหอทงเทียนชั้นสิบ ตอนนี้กลายเป็นอสูรรับใช้ของคุณชายสามตระกูลเย่ว์ มันได้รับหน้าที่ให้ประจำอยู่ที่ลานจัตุรัสปรากฏตัวให้ทุกคนเห็น นี่ตั้งใจจะทำอะไรกันแน่?
เพื่ออวดศักดา
นี่คือการตบหน้าราชินีแมงกะพรุนที่สั่งให้ล่าตัวเขาด้วยค่าหัวสิบล้านเหรียญทอง!
การกระทำของคุณชายสามตระกูลเย่ว์เป็นการบอกต่อชาวเผ่าพันธุ์ทะเลว่า เป็นไม่ได้ที่จะจับเขา ว่าแต่รางวัลนั้นช่างน้อยเกินไป
นักรบหลายคนคาดว่าเมื่อราชินีแมงกะพรุนพบว่าพะยูนนรก บรรพบุรุษของพวกเขากลายเป็นอสูรผู้รับใช้คุณชายสามตระกูลเย่ว์ บางทีนางอาจโกรธจนจมูกบิดเบี้ยวก็เป็นได้ อย่างไรก็ตามราชินีแมงกะพรุนไม่ใช่คนที่น่าอนาถที่สุด คนที่อยู่ในสภาพน่าอนาถที่สุดกลับเป็นราชาเฮยอวี้
ผู้อาวุโสอายุหกพันปีผู้นี้กลายเป็นศัตรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในหอทงเทียน ไม่ต้องพูดถึงผู้ใหญ่เลย แม้แต่เด็กก็ยังเรียกเขาว่าสารเลว
แน่นอนว่าพวกที่เชื่อในราชาเฮยอวี้ต่างไม่กล้าส่งเสียง
ภายในหอทงเทียน สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือพลังอำนาจ ไม่ใช่ชื่อเสียง
“คนพวกนี้ไม่มีอะไรจะทำจริงๆ…” เย่ว์หยางพักผ่อนอยู่ในบ้านสวนน้อยในหุบเขาภมรบุปผา ทางเข้าบันไดสวรรค์ก็ยังคงอยู่ที่นี่
เย่ว์หยางได้อยู่ที่นี่มาก่อนแล้ว เพราะกองกำลังนรกดำถอนกำลังออกไป เย่ว์หยางจึงออกจากมิติลวงในวังเทียนหลัว เขาย้ายมาที่สวนน้อยแห่งนี้ ไม่มีใครรบกวนเขาที่นี่ เขาสามารถใช้ชีวิตอิสระเรียบง่าย สิ่งที่เย่ว์หยางต้องการทำในปัจจุบันนี้มากที่สุดก็คือช่วยให้สาวๆ ได้มีพลังรุดหน้า ฝึกอสูรของเขาให้กลายเป็นอสูรในตำนานและค้นคว้าอักษรรูน, ประวัติศาสตร์และเรื่องอื่นๆ ส่วนเรื่องการเมืองการปกครองมีจุนอู๋โหย่ว, ผู้เฒ่าเย่ว์ไห่และอาจารย์จิ้งจอกเฒ่าคอยจัดการ เขาในฐานะผู้เยาว์คงไม่รับเรื่องนั้นมาดูแล ยิ่งกว่านั้นในปัจจุบันนี้ ตระกูลใหญ่ทั้งสี่กลมเกลียวกันเหมือนเหล็ก ต่อให้กองกำลังนรกดำมารุกรานอีกครั้ง พวกเขาก็คงไม่กลัว
ส่วนเรื่องที่มีผู้คนชื่นชมคลั่งไคล้เขานั้น เย่ว์หยางไม่สนใจพวกเขาเลยแม้แต่น้อย
เขามีความคิดกระจ่าง
การเก็บอสูรและทักษะที่ทรงพลังของเขา และใช้พลังฝึกปรือของตัวเขาเอง อย่าว่าแต่พะยูนปีศาจเลย แม้แต่จะฆ่าอสูรเพชฌฆาตโบราณให้ได้ก็ยังเป็นเป้าหมายที่สูง อสูรของเขา, ทักษะการรบและสมบัติของเขาทรงพลังมาก ยิ่งกว่านั้น เขายังช่วยจื้อจุนและจักรพรรดินีราตรีผู้มีพลังแข็งแกร่งเกินจินตนาการอีกได้ นั่นคือเหตุผลเดียวที่ทำให้เขาสามารถใช้พลังรบได้อย่างทรงพลัง
ถ้าจื้อจุนและจักรพรรดินีราตรีไม่มา เย่ว์หยางคงไม่ไปแดนสวรรค์แน่นอน เขาคงไม่ฆ่าเฮยหูนักสู้ปราณฟ้าระดับห้าแน่นอน
ผู้เฒ่าหนานกงประกาศผลการรบต่อชาวโลก แต่เขาปิดบังกระบวนการต่อสู้เอาไว้
ถ้าโลกรู้เรื่องราวการต่อสู้ของจื้อจุน พวกเขาคงพบว่าผู้แข็งแกร่งความจริงแล้วไม่ใช่เย่ว์หยาง แต่เป็นจื้อจุนผู้ที่ไม่ยอมพูดอะไรมาก…
“ไม่มีแบบอย่างแรงบันดาลใจในหอทงเทียนมาเป็นเวลาพันๆ ปีแล้ว นั่นเป็นเรื่องเศร้า ยิ่งกว่านั้นพี่สาวข้ายังบดบังนักสู้คนอื่นและกลายเป็นนักสู้อันดับหนึ่งที่ไร้เทียมทาน ทำให้บุรุษทั้งโลกละอายใจ จนกระทั่งสุดที่รักของข้าได้ปรากฏตัวขึ้น แน่นอนว่าพวกหนุ่มๆ จะได้มีความสุข พูดง่ายๆ ก็คือนี่คือช่วงเวลาที่บุรุษจะได้เชิดหน้ายืดอกของพวกเขาเก๊กหน้าถอนหายใจได้ นี่กลับกลายเป็นช่วงเวลาของเหล่าบุรุษบ้างแล้ว!” คำพูดของนางเซียนหงส์ฟ้าทำให้สาวๆ รอบข้างแอบหัวเราะคิกคักไปตามๆ กัน
“ดูเหมือนว่าไห่อิงอู่จะไม่อยู่ที่นี่แล้วใช่ไหม?” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนประสาทไวรู้ได้ทันทีว่าไห่อิงอู่หายไปเมื่อพวกเขาย้ายมาที่นี่
“องค์หญิง, พี่ไห่อิงอู่กลับไปที่หอทงเทียนชั้นหก นางบอกว่ายังคงมีงานอีกมากที่ต้องดูแลอยู่ที่ป้อมสายฟ้า อย่างไรก็ตามพี่ไห่อิงอู่บอกว่านางจะมาเยี่ยมข้าถ้านางมีเวลา” สาวลูกครึ่งเอลฟ์ยังคงอยู่ต่อ เนื่องจากเสวี่ยอู๋เสีย, องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเจ้าเมืองโล่วฮัวต้องการให้นางรั้งอยู่
เสวี่ยอู๋เสีย, องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเจ้าเมืองโล่วฮัวยังคงต้องการฝึกอีก
แม้ว่าจักรพรรดินีราตรีจะให้พวกนางได้มีเวลาพัก แต่ต่อมาไม่ช้านางก็จะฝึกให้พวกนางเป็นการส่วนตัวอีก ที่สำคัญพวกนางอยู่เป็นเพื่อนเย่ว์หยางสามารถให้เขายืมเรี่ยวแรงได้ พลังของพวกนางไม่เพียงพอ แต่ก็เพียงพอจะรั้งศัตรูของพวกนางไว้ได้ ตอนนี้เย่ว์หยางค้นคว้าหุ่นรบหรือไม่ก็แปลคัมภีร์โบราณทั้งวัน ถ้าไม่ทำก็ไม่มีใครอยู่ที่นั่นเพื่อดูแลเขา
สาวงามอู๋เหินปกติจะคอยดูแลเอาใจใส่เขา แต่เย่ว์หยางเอาตำราประวัติศาสตร์เก่ากลับมานับร้อยเล่ม นางจึงต้องช่วยค้นคว้าหนักกว่าเย่ว์หยางขนาดแทบไม่ได้กินไม่ได้นอน เย่ว์หยางอาจจำเป็นต้องดูแลนางแทนเสียมากกว่า ดังนั้นลืมเรื่องนางไปได้เลย เย่ว์หวี่ก็ดูแลความเป็นอยู่ของทุกคนได้ดี แต่นางจำเป็นต้องไปอยู่ที่ปราสาทตระกูลเย่ว์บ้าง, มิติลวงบ้างและบ้านสวนน้อยแห่งนี้วนเวียนกันไป
ในปราสาทตระกูลเย่ว์ เย่ว์ซานยังคงบาดเจ็บจากการต่อสู้ใหญ่ครั้งก่อน อาการสาหัสมาก ดังนั้นเขายังเป็นผู้ป่วยติดเตียงอยู่
เย่ว์หยางจำเป็นต้องไปเยี่ยมบิดาของนางบ่อยขึ้น
ตอนนี้ข้างตัวเย่ว์หยาง ถ้าไม่มีคนคอยดูแลพวกเขา หญิงงามอู่เหินและเย่ว์หยางอาจจะอดตายโดยไม่มีใครรู้
แม้ว่าสาวมังกรไร้เขาเจี้ยงอิงจะอยู่ที่นั่นด้วย แต่นางและนางพญาแมงมุมก็ไม่รู้จักงานบ้าน นางเองก็ยังต้องการคนคอยดูแลนาง ถ้านางเข้าครัวหนึ่งวัน อาจจะไม่เหลือจานสภาพดีๆ ให้ใช้ก็ได้… นางเซียนหงส์ฟ้า มารกฎฟ้านั้นคาบช้อนเงินช้อนทองมาตั้งแต่เกิด เป็นไปไม่ได้ที่ขึ้นอยู่กับนาง
สาวขี้เมาก็ไม่ได้ดื่มเหล้าอีกต่อไปแล้ว แต่นางกลายเป็นพวกบ้าฝึกวิทยายุทธ
นางจะเข้ามาท้าเย่ว์หยางสู้ทุกครั้งที่เห็นเย่ว์หยาง
ในทางตรงกันข้าม กลับเป็นเด็กหญิงแพนด้าที่คอยช่วยเย่ว์หยางจนวันนี้ แม้ว่าเวลาส่วนใหญ่ เธอจะเพียงแต่มองเขายิ้มให้เขาและเอามือลูบแก้มกลมของเธอ
อี้หนานและเย่ว์ปิงจะฝึกฝนกันอย่างขะมักเขม้น แม้ว่าพวกนางต้องการจะช่วยงานบ้าน แต่เสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนไม่ยอมให้พวกนางทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอี้หนาน นางเชี่ยวชาญพลังวิญญาณ เพราะความปรารถนาที่นางมีต่อเย่ว์หยาง และนางจะก้าวหน้าได้รวดเร็วเชี่ยวชาญในระดับขอบเขตพลังวิญญาณ สำหรับสาวลูกครึ่งเอลฟ์ เสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนยกโทษไม่เอาเรื่องเย่ว์หยางกับนางที่เกิดขึ้นในป้อมสายฟ้า ที่สำคัญคือไม่ใช่ความตั้งใจแต่แรกเริ่มของเขาแล้ว สำหรับสาวลูกครึ่งเอลฟ์ที่น่ารักนี้ไม่มีใครสามารถต้านเสน่ห์ของนางได้
ความจริงความสามารถของไห่อิงอู่ต่างหากที่ทำให้องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเจ้าเมืองโล่วฮัวระมัดระวังเล็กน้อย
สาวน้อยนางนี้เป็นธิดาของจักรพรรดิสมุทร นางไม่ธรรมดา
“พี่ใหญ่ของท่านตอบอะไรมาในจดหมายเหรอ?” จู่ๆ เย่ว์หยางนึกขึ้นได้ว่ามารสัมฤทธิ์ฟ้าได้ตอบจดหมายนางเซียนหงส์ฟ้า
“ก็ไม่มีอะไร มารสัมฤทธิ์ฟ้าเข้าเป็นพันธมิตรกับจักรพรรดิมังกรตัดสินใจสู้กับราชาเฮยอวี้ เขาเป็นสุดยอดนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับหนึ่งในตอนแรก แต่หลังจากต่อสู้ เขาได้ยกระดับเป็นสุดยอดนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับสอง ระดับสูงกว่าข้าเล็กน้อย จักรพรรดิมังกรยังไม่ยกระดับ แต่ข้าได้ยินมาว่าเขายังคงเป็นสุดยอดนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับหนึ่ง ถ้าได้กินเม็ดพลังขุนพลเผ่าสมิงนักสู้ปราณฟ้าที่เจ้ามอบให้เขา เขาน่าจะสามารถยกระดับขึ้นเป็นสุดยอดนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับสองได้… ขณะที่ราชาเฮยอวี้ หลังจากหลบหนีออกมาจากสังเวียนมรณะ บางทีเขาคงถูกกฎรหัสโบราณลงโทษ พลังของเขาอ่อนแอลงมาก ความจริงเขาไม่สามารถเอาชนะมารสัมฤทธิ์ฟ้าและจักรพรรดิมังกรที่ร่วมมือกันต่อสู้เขา จอมปีศาจบารุธที่ตามมาช่วยนักรบทั้งสองแทบไม่มีโอกาสได้แสดงฝีมือ มารสัมฤทธิ์ฟ้าเขียนจดหมายมาถามข้าเรื่องไพ่ทำนายชะตาว่าเป็นพลังกฎรหัสโบราณแบบไหน เขาถามข้าว่ามีอะไรแปลกตอนที่เจ้าใช้พลังออกไป” นางเซียนหงส์ฟ้าตอบ
“ราชาเฮยอวี้ได้รับบาดเจ็บแน่นอน” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนตอบด้วยน้ำเสียงมั่นใจ “ข้าคิดว่าเขาต้องชดใช้กรรมที่เขาทรยศ บางทีร่างของเขาอาจแหลก ราชาเฮยอวี้อาจต้องการเปลี่ยนร่างใหม่
“ข้าไม่กังวลเรื่องราชาเฮยอวี้ในตอนนี้ ข้าห่วงเรื่องจักรพรรดิชื่อตี้และสนมชื่อเฟยมากกว่า” เย่ว์หยางคิดว่าแทนที่จะเป็นราชาเฮยอี้ แต่กลับเป็นจักรพรรดิชื่อตี้ที่มีท่าทีคุกคามทวีปมังกรทะยานมากกว่า พลังของคนผู้นั้นอาจจะเหนือกว่าชางเหยียนจากแดนสวรรค์ก็ได้ ถ้าเขาหายจากอาการบาดเจ็บ และเข้าแดนล่มสลายแห่งทวยเทพรับเอาสมบัติบางอย่าง นั่นคงเป็นเรื่องที่น่าปวดหัวจริงๆ
“จักรพรรดิชื่อตี้ ดูเหมือนว่าเขาได้หลบหนีไปแดนสวรรค์เพื่อพักฟื้นก็ได้นะ…” เสวี่ยอู๋เสียสรุปหลังจากคิดเรื่องนี้เป็นเวลานาน
“นั่นก็เป็นไปได้ เพราะหอทงเทียนไม่ใช่ที่ปลอดภัยนักสำหรับเขา” เจ้าเมืองโล่วฮัวเห็นด้วย
“อย่างนั้นก็แค่แข่งกันพัฒนาเพิ่มพลังของพวกเรา! หวังว่าเราจะสามารถไล่ตามเขาได้ทันก่อนที่เขาจะฟื้นคืนพลัง” เย่ว์หยางมั่นใจในตัวเองมาก หลังจากฆ่าเฮยหูที่เป็นนักรบปราณฟ้าระดับห้า เขายิ่งเพิ่มความมั่นใจขึ้นอีก
สิ่งที่สำคัญที่สุด จื้อจุนช่วยให้เขาได้รู้แจ้ง
เขตแดนสุดยอดนักสู้ปราณก่อกำเนิดที่แท้จริงคือบางอย่างที่ทำให้ระดับอื่นๆ ทั้งหมดกลายเป็นเรื่องไม่สำคัญ
แม้ว่าเย่ว์หยางยังไม่สามารถถึงระดับขอบเขตสุดยอดนักสู้ปราณก่อกำเนิดที่แท้จริงได้ และยังไม่สามารถเชี่ยวชาญหัวใจสุดยอดนักสู้ปราณก่อกำเนิดที่แท้จริงได้ เขาก็มีเป้าหมายที่จะไปให้ถึง
ขณะที่พวกเขากำลังสนทนาเรื่องนี้ เย่คง, เจ้าอ้วนไห่, พี่น้องตระกูลหลี่, เสวี่ยทันหลางและสมาชิกคนอื่นปรากฏตัวที่ประตูเทเลพอร์ตด้านนอก พวกเขามาที่นี่แทบทุกวัน นอกจากมาฟังเย่ว์หยางเล่ารายละเอียดสงครามโบราณ แบ่งปันประสบการณ์ต่อสู้ของแต่ละคน พวกเขาก็ยังมาฝึกลับด้วย ปลาปีศาจสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกสองตัวที่เย่ว์หยางจับมาจากแดนสวรรค์ในตอนนี้กลายเป็นคู่หูฝึกฝนให้พวกเขา
ด้วยระดับพลังของพวกเขา พวกเขาไม่อาจชนะได้อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ด้วยคู่หูฝึกฝนที่แข็งแกร่งนั้น พวกเขาจะสามารถก้าวหน้าได้เร็ว
“ทั้งหมดนี้คือเลือดของจ้าวอสูรเพชฌฆาตโบราณ ข้าใช้เพลิงอมฤตกลั่นหมดแล้ว แม้มีแค่เพียงหยดเดียวแต่ก็พลังมหาศาลจนพวกเจ้าไม่อาจทนได้” เย่ว์หยางล้วงขวดแก้วใสออกมาใบหนึ่ง เขาพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “พวกเจ้าต้องการดื่มจริงๆ หรือเปล่า? พวกเจ้าตัดสินใจจริงๆ หรือยัง? ข้าใช้เวลาค้นคว้าได้ยังไม่มากนัก ดังนั้นขาไม่รู้ว่าเจ้าสิ่งนี้จะส่งผลแบบไหน พวกเจ้าอาจจะเปลี่ยนไปกลายเป็นเหมือนเพชฌฆาตโบราณก็ได้ หรือพวกเจ้าอาจจะตายทันทีที่ดื่มมัน”
“เอื๊อก!” เจ้าอ้วนไห่, เย่คงและคนอื่นๆ เครียดทันทีเมื่อพวกเขาได้ยินเย่ว์หยางพูด พวกเขากลืนน้ำลายอย่างกังวล
“ข้าคิดๆ ดูแล้ว ข้าไม่ต้องการดื่มเลือดสัตว์ประหลาด!” เอลฟ์ทองเป่าเอ๋อเป็นคนแรกที่ยอมแพ้ สำหรับนางแล้ว ไม่ใช่เรื่องสำคัญว่านางจะยกระดับได้เร็วหรือช้า
“ข้าจะดื่ม ต่อให้ร่างกายข้าระเบิดก็ตาม ข้าก็ไม่สน อย่างน้อยข้าต้องการยกระดับเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิด ข้าไม่อยากอยู่อย่างอ่อนแอ” สาวทอเรนฟ่านหลุนเถี่ยทำตรงข้ามกับเป่าเอ๋อ
นางปรารถนาพลังที่ยิ่งใหญ่มาก แม้ว่านางอาจเสียชีวิตเป็นการตอบแทน
ทันใดนั้นเจ้าอ้วนไห่เดินออกมาและโบกมือให้คนอื่น เขาทำท่ายิ้มอย่างสบายใจและกล่าว “ข้าจะขอลองเป็นคนแรก! ฮ่าฮ่า ความจริงข้าก็ดูคล้ายๆ เพชฌฆาตโบราณนะตอนที่ข้าแปลงร่าง บางทีบรรพบุรุษของข้าเมื่อพันปีที่แล้วคงได้ดื่มเลือดของเพชฌฆาตโบราณมาอย่างแน่นอน ฮ่าฮ่า, ฮ่าฮ่า…”
แม้ว่าเขากำลังหัวเราะแต่ว่าเหงื่อเม็ดโป้งผุดออกจากหน้าผากของเขา
ตาย..
เมื่อเผชิญหน้ากับความตาย ใครเล่าจะรู้สึกมั่นใจและสบายใจเล่า?
**********************