ตอนที่ 550 นี่คือกลุ่มดาวหมีใหญ่
ถังเทียนหยุดและหันมารังสีฆ่าฟันพรั่งพรูเหมือนสายน้ำพุ่งเข้ากันหาว
รังสีฆ่าฟันรุนแรงรายล้อมรอบตัวกันหาวทันทีทำให้สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป
เหตุผลที่เขายกคำถามขึ้นถามในงานเลี้ยงเป็นเพราะเขารู้สึกว่าในงานเลี้ยงถังเทียนอาจหวาดหวั่นจนมุม อย่างไรก็ตามเขาไม่เคยคาดมาก่อนในชีวิตว่าถังเทียนจะลงมือต่อหน้าผู้คนมากมายกลายเป็นเรื่องลำบากต่อหน้าคณะทูต
คนผู้นี้...ไม่รู้หรือว่าจะก่อเรื่องน่ารังเกียจต่อหน้าคณะทูต?เขาไม่เข้าใจหรือว่าถ้าเขาไม่ยอมทนต่อเรื่องเล็กๆ น้อยๆเขาจะสร้างผลกระทบต่อแผนใหญ่? คนผู้นี้กลายเป็นผู้ปกครองที่มีอิทธิพลของกลุ่มดาวหมีใหญ่ได้ยังไง?
เขาค่อยๆ หลั่งเหงื่อเยียบเย็นรังสีฆ่าฟันที่รุนแรงห้อมล้อมตัวเขาเหมือนเงา
กันหาวพยายามยืนให้มั่นคง เขาให้กำลังใจตัวเองอยู่ในใจ เขาจะไม่กล้าลงมือ..เขาจะไม่กล้าลงมือแน่นอน.. เขากำลังจะลงมือ...
ทุกคนตกตะลึงกับการกระทำของถังเทียนอย่างสิ้นเชิง ไม่มีใครคิดว่าถังเทียนจะลงมือต่อหน้าธารกำนัลในงานเลี้ยงอย่างนี้
กันหาวสงบใจ เขารวบรวมความกล้า “เป็นไปได้ไหมที่ฝ่าบาทจะรู้สำนึกผิด...”
ร่างเปลี่ยนเป็นเลือนรางต่อหน้าเขาเขาหาร่องรอยถังเทียนไม่เจอ ในที่สุดสีหน้าของกันหาวก็เปลี่ยนไป ถังเทียนกล้าลงมือ!
เขาแค่คิดจะเคลื่อนไหว แต่หลังคอของเขาถูกรวบไว้แน่นทันที ทั้งฝ่ามือนิ้วเหล็กคว้าคอเขาไว้ได้ทันที ไวมาก...
กันหาวไม่อาจเชื่อได้เลยว่าเขาถูกถังเทียนใช้มือยกตัวเขาจนลอยจากพื้น
สีหน้าอังเดรเปลี่ยน ใจของเขาถูกความตกใจครอบงำ ไวมาก! เขามองไม่เห็นความเคลื่อนไหวของถังเทียน ถังเทียนแข็งแกร่งกว่าเมื่อตอนที่เขาอยู่ที่กลุ่มดาวอันโดรเมดามากนักเหมือนกับว่าเปลี่ยนไปเป็นอีกคนหนึ่ง
สการ์เล็ตที่อยู่ด้านข้างเขาตกตะลึงจนปากอ้าค้าง ตั้งแต่ยังเล็กนางเข้าร่วมงานเลี้ยงมามากมายนับไม่ถ้วนนางได้เห็นความเคลื่อนไหวใต้โต๊ะ และการทะเลาะกันทุกรูปแบบมาแล้ว แต่นางไม่เคยพบเห็นมาก่อนว่าเจ้าภาพงานเลี้ยงและเป็นผู้ปกครองจะโจมตีทำร้ายอาคันตุกะตนเองแม้แต่บิดาของนางที่ขึ้นชื่อในเรื่องอารมณ์ร้อนไม่ว่าเขาจะโกรธขนาดไหนเขาจะไม่ลงมือกับแขกขณะอยู่ในงานเลี้ยง
นี่เป็นกฎที่ไม่ได้เขียนระบุไว้ในสังคมของคนชั้นสูง นี่คือการรับประกันความปลอดภัยของคณะทูต ทั้งยังเป็นธรรมเนียมพื้นฐานของทุกกลุ่มดาว!
อย่างไรก็ตาม... กับสิ่งที่นางเห็นด้วยตาตนเอง
สการ์เล็ตแทบไม่อยากเชื่อตาของตนเอง ถังเทียนใช้มือข้างเดียวคว้าคอของกันหาวแขวนอยู่กลางอากาศ
โอว พระเจ้า!
มีกษัตริย์ที่หยาบช้าป่าเถื่อนและไร้อารยธรรมอยู่ด้วย
ทันทีเมื่อถังเทียนเคลื่อนไหว ปราณในตัวของหมิงเยี่ยก็เคลื่อนไหวโดยไม่รู้ตัว ใจของนางตื่นตะลึงอย่างสิ้นเชิง ร่างธรรมชาติของนางมีเพื่อกระบี่และมีสัญชาตญาณไวต่ออันตรายแต่เป็นครั้งแรกที่ปฏิกิริยาพื้นฐานนั้นหลุดพ้นจากการควบคุมของนางไปโดยไม่รู้ตัว
นี่แสดงให้เห็นว่าทันทีที่ถังเทียนลงมือ นางรู้สึกได้ถึงอันตรายรุนแรงได้โดยสัญชาตญาณ
ได้เห็นจิ่งหาวฝึกวิชากระบี่พื้นฐานในสนามฝึกฝนในตอนกลางวันแล้ว นางตกใจลึกๆ กับวิชากระบี่พื้นฐานที่สุดกับบรรจุไว้ด้วยกฎที่เกี่ยวข้องกับหัวใจนางโดยตรงนั่นทำให้หัวใจนางตื่นเต้น
อย่างไรก็ตาม ถังเทียนแตกต่างออกไป เขาอันตรายสุดขีดเหมือนสัตว์ป่า สิ่งที่ก่อกวนปราณในร่างของนางคือรังสีฆ่าฟันที่ถังเทียนปล่อยออกมา! เป็นรังสีฆ่าฟันที่หนาแน่น
คนผู้นี้มีความคิดจะฆ่า....
ช่างน่ากลัวจริงๆ....
หมิงเยี่ยมีสีหน้าซีดขาวมองดูร่างที่กำลังยกกันหาว ถังเทียนเย็นชาและอำมหิต เขาแตกต่างไปจากร่างถังเทียนที่กระตือรือร้นและร่าเริงเมื่อตอนที่อยู่กลุ่มดาวอันโดรเมดา
สายตาของทุกคนจับจ้องที่พวกเขาพวกเขารู้สึกเลือดลมวิ่งขึ้นไปบนศีรษะพวกเขา ความอัปยศอดสูที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนครอบงำกันหาวอย่างลึกล้ำ
ไม่!เขาจะไม่ทำการเคลื่อนไหวอย่างนั้น!
“นี่หมายความว่ายังไงฝ่าบาท?” เสียงเย็นชาดังออกมา ผู้อาวุโสคนหนึ่งหน้ามุ่ยและอารมณ์เย็นชาออกมาจากกลุ่มคน “แม้ว่าน้ำเสียงของกันหาวจะไม่ถูกต้องแต่ฝ่าบาทควรมีความละอายใจต่อองค์การวิญญาณมืดของข้า เป็นไปได้ว่าท่านคิดหรือว่าองค์การวิญญาณมืดจะกลัวกลุ่มดาวหมีใหญ่
เมื่อเห็นว่าผู้อาวุโสฟู่ออกมา กันหาวมีความมั่นใจขึ้นมาทันที ใช่แล้วถังเทียนไม่กล้าแน่นอน
“ถังเทียน!เรื่องในวันนี้จะไม่จบ....”
กร๊อบ คำพูดของกันหาวหยุดเพียงเท่านั้นตาของเขาเหลือกกว้างเหมือนกับว่าเขาไม่เชื่อว่าถังเทียนจะกล้าลงมือโจมตี
“เหลืออีกสิบแปดวินาที”
ถังเทียนพูดออกมาอย่างเย็นชา ไม่มีใครสามารถเข้าใจว่าคำพูดของเขาหมายถึงสิ่งใดและเขาโยนกันหาวที่ไม่เหลือชีวิตลงกับพื้น เขาหมุนตัวเดินออกไปอย่างไม่สนใจอะไร
ผู้อาวุโสฟู่โมโห “หาเรื่องตาย!”
ร่างของเขาระเบิดพลังและพุ่งเข้าหาถังเทียน
รังสีเงินเป็นประกายอยู่ต่อหน้าต่อตาเขาทันที เขาหัวใจเต้นแรงและเบี่ยงตัวถอยออกมาโดยไม่รู้ตัว
หลิงซิ่วยืนอยู่ข้างหน้าอย่างไม่แสดงอารมณ์ หอกแหลมคมของเขาชี้มาที่ผู้อาวุโสฟู่
“วิเศษ วิเศษ วิเศษมาก”ผู้อาวุโสฟู่หัวเราะเพราะโกรธมาก “ฆ่าแขกในงานเลี้ยงของตนเอง ทุกคนที่ นี่คือกลุ่มดาวหมีใหญ่!”
สายตาของทุกคนมองดูที่ถังเทียนซึ่งเดินออกไปโดยไม่หันกลับมา แม้ว่าเมื่อเขาได้ยินคำพูดของผู้อาวุโสฟู่เขาโบกมือและกล่าวคำอำลาโดยไม่หันหน้ากลับมา
ทุกคนยังไม่หายตกใจจากเรื่องที่เกิดขึ้น คำพูดของผู้อาวุโสฟู่เป็นการประกาศความคิดของพวกเขาในตอนนี้อย่างแท้จริง สถานการณ์แบบนี้ไม่เคยได้ยินมาก่อน
“นั่นก็ถูกแล้ว นี่คือกลุ่มดาวหมีใหญ่”
อาเฮ่อส่งเสียงดังขณะที่ค่อยๆ ปรากฏตัว ดึงดูดสายตาของทุกคน ใบหน้าที่อบอุ่นและน่าสนิทคุ้นเคยกลายเป็นเคร่งขรึมทันที
“กลุ่มดาวหมีใหญ่ไม่ยอมรับการยั่วยุใดๆ ทั้งนั้น กลุ่มดาวหมีใหญ่ไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรกับใคร” สายตาอาเฮ่อเย็นชา “เศษความทรงจำของผู้อาวุโสกุ่ยอู๋อยู่กับเราจริงๆ ถ้าองค์การวิญญาณมืดต้องการมันก็ง่ายมาก ท่านมาเอาได้จากศพของพวกเรา”
เสียงสูดหายใจเหน็บหนาวของทุกคนในพื้นที่ดังขึ้น
หนีอวี่หงมองดูอาเฮ่ออย่างเหลือเชื่อ เหมือนกับว่านางไม่สามารถจำอาเฮ่อได้ ความจริงนางยังคงรู้สึกว่าการกระทำของถังเทียนนั้นเกินไปบ้าง และนางยังเห็นอย่างชัดเจนว่ากันหาวมีเจตนาไม่ดี แต่สำหรับนางมีวิธีแก้ปัญหามากมายและไม่จำเป็นต้องใช้วิธีการป่าเถื่อนโหดร้ายเช่นนั้น
การฆ่ากันหาวทำให้แขกทุกคนไม่พอใจและทำให้ทุกคนรู้สึกว่ากลุ่มดาวหมีใหญ่หยิ่งยโสและดูถูกคนอื่นผลักดันให้กลุ่มดาวหมีใหญ่ให้เป็นศัตรูของทุกคน
การกระทำของถังเทียนสำหรับนางแล้ว ขาดความรู้อ่อนหัดทางการเมืองอย่างสิ้นเชิง
คนหยาบคายจริงๆ!
นี่คือการตัดสินของอวี่หงซินที่ยืนมองดูอยู่ด้านข้างแต่เมื่ออาเฮ่อออกมายืนและพูดคำเหล่านี้ทำให้นางตะลึง ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับนางที่ถังเทียนหยาบคาย แต่นางรู้ว่าอาเฮ่อมีสติปัญญา ทำไมอาเฮ่อถึงทำเรื่องไร้สาระอย่างนั้น
“แขก? ทำไมเราจำไม่ได้, เราเคยเชิญองค์การวิญญาณมืดมาเป็นแขกของกลุ่มดาวหมีใหญ่ตั้งแต่เมื่อไหร่? เรายังจัดการเรื่องถงเก๋อในเมืองหานกู่ไม่จบและพวกท่านก็ยังเรียกตัวเองว่าแขกด้วยความเย่อหยิ่งอย่างนั้นหรือ!” น้ำเสียงของอาเฮ่อยิ่งเพิ่มความเย็นชาบรรยากาศรอบตัวเขาไม่อาจคาดคำนวณได้เลย
เซียนผู้เยืนคุ้มกันอยู่รอบๆ มีประสบการณ์กันทุกคน พวกเขามีสีหน้าไม่พอใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งมอนตาซึ่งเป็นเซียนมีประสบกับการต่อสู้ในเมืองหานกู่หน้าของเขาเขียวคล้ำ
เซียนหลายคนปล่อยปราณเตรียมพร้อมบรรยากาศทั่วทั้งงานเลี้ยงกลายเป็นน่าอึดอัด
หนีอวี่หงรู้แจ้งในทันใด นางอดมีประกายตาชื่นชมมิได้ คำพูดของอาเฮ่อเป็นการตอกฝาโลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำเหล่านั้นพูดให้ผู้อาวุโสฟู่ได้ยิน ทำไมคนอื่นจะไม่ได้ยินด้วยเล่า
อาเฮ่อมีเจตนาง่ายๆ ว่า ท่านไม่ได้ถูกข้าเชิญมา พวกท่านมาถึงประตูบ้านข้าและขอร้องด้วยตัวเอง อย่านึกว่าตัวเองเป็นแขกรับเชิญสำคัญสิ!
เป็นไปตามคาด แขกที่ตอนแรกไม่พอใจ พากันเงียบสงบทุกคน
“เนื่องจากท่านเป็นตัวแทนองค์การวิญญาณมืด อย่างนั้นเราจะคลี่คลายปัญหากันในตอนนี้เลยก็ได้!” อาเฮ่อกล่าวอย่างใจเย็น
ผู้อาวุโสฟู่รู้สึกได้ทันทีว่าเขากำลังดิ่งเหวเสียแล้ว ถ้านี่เป็นเหตุให้เกิดสงครามระหว่างองค์การวิญญาณมืดกับกลุ่มดาวหมีใหญ่จริง ก็คงเป็นเรื่องยุ่งยากมากต่อให้เขาต้องการจะตายง่ายๆ ก็ตามดังนั้นเขาโต้เถียงอย่างแข็งขัน “ข้าก็ส่วนข้า, องค์การวิญญาณมืดก็ส่วนองค์การวิญญาณมืด”
“แขกทุกคนที่นั่งอยู่ที่นี่เป็นตัวแทนกลุ่มดาวมหาอำนาจต่างๆ ท่านไม่สามารถเป็นตัวแทนองค์การวิญญาณมืดได้ ดังนั้นใครยอมให้ท่านเข้ามา? ลอบเข้ามาในงานเลี้ยง ท้าทายฝ่าบาทช่างวู่วามจริงๆ!” อาเฮ่อพูดเย็นชา “มัดมือเจ้าซะและเตรียมถูกจับ ข้าไม่ต้องการจะทำให้แขกในงานที่นี่แตกตื่น เราจะเจรจากับองค์การวิญญาณมืดเอง”
หนีอวี่หงเกือบโห่ร้องชื่นชม ถ้าถังเทียนไม่มีปัญญาในเรื่องการเมืองเลย อย่างนั้นความลึกซึ้งของอาเฮ่อเพิ่มขึ้นไปอีกระดับ
คำพูดของอาเฮ่อไม่เพียงแต่ทำให้ผู้อาวุโสฟู่ต้องชะงักเท่านั้น แต่ยังคลี่คลายเรื่องที่เกิดขึ้นด้วย และในขณะเดียวกันยังเป็นการเตือนโดยอ้อมกับทุกคนที่อยู่ในนั้นว่าพวกท่านคิดให้ดีและให้รอบคอบ พวกท่านทุกคนเป็นตัวแทนของกลุ่มดาวของพวกท่านเอง
ด้วยตำแหน่งของผู้อาวุโสฟู่ เขารู้ตัวดีว่าเขาหมดสภาพไปแล้ว
ถ้าเขากล้าแสดงตัวว่าเป็นตัวแทนองค์การวิญญาณมืดนั่นอาจเดิมพันได้ว่ากลุ่มดาวหมีใหญ่จะไม่กล้าประกาศสงครามกับองค์การวิญญาณมืดซึ่งเป็นเรื่องที่เขากล้าพนัน แต่ในฐานะส่วนตัว การกระทำของเขาผิดแน่
เขารู้ว่าถ้าในเวลานี้ เขาเลือกที่จะขัดขืนกลุ่มดาวหมีใหญ่จะฆ่าเขาอย่างไม่ลังเลใจเลย เขารู้ด้วยว่าองค์การวิญญาณมืดจะไม่เอาเรื่องกลุ่มดาวหมีใหญ่และแก้แค้นให้เขาแน่
เจ้าโง่กันหาว!
ถ้าไม่ใช่เพราะเขา สถานการณ์จะไม่ล้มเหลวลุกลามขนาดนั้น กันหาวถูกความโลภในเศษความทรงจำของผู้อาวุโสกุ่ยอู๋ครอบงำตัวเองแท้ๆ
ภารกิจล้มเหลวสิ้นเชิง การลงโทษที่รอเขาหลังอยู่หลังจากกลับไปองค์การวิญญาณมืดคงแย่ยิ่งกว่าตาย
“วิเศษ วิเศษ วิเศษมาก” ผู้อาวุโสฟู่หัวเราะ “เราผู้เฒ่ายอมรับความพ่ายแพ้! ทุกอย่างที่เกิดขึ้นวันนี้ เป็นแค่การกระทำของข้าและกันหาวเท่านั้น ไม่มีอะไรเกี่ยวกับองค์การวิญญาณมืด!”
เมื่อเขาพูดจบปราณพลังสายเลือดและเลือดในเส้นเลือดทั้งหมดในร่างของเขาฉีดพุ่งออก อากาศเต็มไปด้วยเลือดของเขา พอเขาล้มลงสัญญาณชีวิตก็ขาดหายไปจากร่างของเขา
“ลูกผู้ชายที่แท้จริง!”
หลิงซิ่วกล่าว จากนั้นหมุนตัวเดินออกไป
ในเวลาอันรวดเร็ว มีคนเข้ามาทำความสะอาดและงานเลี้ยงเริ่มขึ้นอีกครั้ง แต่ผู้คนในที่นั้นไม่มีอารมณ์ดื่มกินอีกต่อไปทุกสิ่งที่เกิดขึ้นมีข้อมูลมากมายเกินไป และพวกเขาต้องการเวลาแยกแยะ
มีอยู่จุดหนึ่งที่ทุกคนเห็นเป็นเอกฉันท์
ไม่มีใครกล้าดูแคลนกลุ่มดาวหมีใหญ่อีก
พลังที่น่าเกรงขามซึ่งกลุ่มดาวหมีใหญ่แสดงออกมาย้ำให้เห็นถึงความเย็นชาและห้าวของถังเทียน กลยุทธที่โดดเด่นของอาเฮ่อ หอกที่น่ากลัวของหลิงซิ่ว และแม้แต่ความหนักแน่นของหลงโส่วจิงผู้อ่อนแอที่รับหน้าการยั่วยุขององค์การวิญญาณมืด แค่การไม่ยอมถอยพวกเขาก็ทิ้งความประทับใจให้กับทุกคนแล้ว
งานเลี้ยงทำให้ทุกคนเห็นประจักษ์ถึงกำลังใจและกำลังกายที่กล้าแข็งของกลุ่มดาวหมีใหญ่
เมื่อถังเทียนออกมาจากงานเลี้ยง เขาเข้าไปในห้องจิตวิญญาณยุทธตรงไปที่ประตูบรอนซ์เหมือนคนบ้า ด้านข้างเขาปิงแบกโลงน้ำแข็งที่ใสโดยมีลั่วซือที่ได้รับเสียหายหนักนอนอยู่ข้างใน
เมื่อถังเทียนมาถึงประตูดวงดาวบรอนซ์ รังสีฆ่าฟันซึ่งคุกรุ่นเต็มอกของเขาก็จางหายไป สีหน้าเย็นชาราวกับน้ำแข็งเริ่มอ่อนลงเหมือนกับน้ำแข็งละลาย
“ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี มีเวลาอีกสองนาที!
ถังเทียนตบอก หน้าของเขายังมีร่องรอยความกลัวปรากฏอยู่
ปิงไม่ส่งเสียง เขาวางโลงน้ำแข็งไว้ด้านหลังเขา สีหน้าไพ่ที่ไร้ความรู้สึก แสดงให้เห็นความเครียดที่ยากจะเผยให้ใครเห็น
เขานั่งอยู่บนพื้น ชะโงกดูบนโลงน้ำแข็ง เหมือนกับหมื่นปีที่แล้วเมื่อเขาคุยเรื่องอาวุธจักรกลกับลั่วซือ
ภายในโลงน้ำแข็ง ลั่วซือยังโบกมือขวักไขว่ ปากก็รำพึงซ้ำๆกัน
ปิงมองดูประตูดวงดาวบรอนซ์และพูดเสียงนุ่ม “ลั่วซือ, เราจะพบกับอาซิ่นแล้วนะ”
ประตูดวงดาวบรอนซ์กระพริบแสง พอแสงสว่างวาบขึ้น เด็กหนุ่มก็มีอารมณ์อ่อนโยนลงและส่งผลต่อความทรงจำสีเทาของลุงด้วยเช่นกัน