ตอนที่ 549 บุ่มบ่ามเป็นมาร
“ข้าไม่มีเวลาจริงๆ!” ถังเทียนอธิบายให้โส่วจิงเหมือนกับว่าชีวิตของเขาขึ้นอยู่กับมัน “ข้าจะต้องไป...”
โส่วจิงพยายามตัดบทเขา “ข้าขอเวลาเพียงสิบนาที สิบนาทีเท่านั้น! กับงานราตรีสโมสรอย่างนั้นถ้าฝ่าบาทไม่ปรากฏตัว อย่างนั้นจะเป็นการผิดธรรมเนียมต่อคนทุกระดับ! ทั้งกับงานใหญ่กับคณะทูตานุทูตจากหลายกลุ่มดาว ทั้งหมดนั้นเป็นคนสำคัญจากกลุ่มของพวกเขา ถ้าฝ่าบาทไม่ปรากฏตัว แล้วเราจะอธิบายแก้ต่างให้ได้ยังไง?”
โส่วจิงแสดงสีหน้าว่า “ถ้าเจ้ากลุ่มดาวยังคงยืนกราน อย่างนั้นนั้นเขาจะตายเพื่อแสดงความจริงใจ”ทำให้ถังเทียนรู้สึกปวดหัว โส่วจิงเป็นคนดีทุกอย่าง แต่เมื่อถึงคราวยืนกราน ต่อให้กระทิงเปลี่ยวเก้าตัวก็ฉุดเขาไม่อยู่
โส่วจิงจับตัวถังเทียนแน่นและไม่ยอมปล่อยมือไม่ว่ายังไงก็ตาม ขณะที่ผี่ผาแอบขำอยู่ข้างๆ
ถ้าเป็นคนอื่น ถังเทียนคงอาละวาดทุบตีไปแล้ว แต่โส่วจิงมีร่างกายอ่อนแอและปกติถังเทียนไม่กล้าแตะต้องเขา ถ้าขาดมือขาดเท้าอย่างโส่วจิงไปนั่นนับเป็นปัญหาใหญ่เลยทีเดียว
ถังเทียนตะลึงอยู่กับที่เมื่อโส่วจิงจับตัวเขาไว้ เขาไม่กล้าใช้กำลังใดๆ ได้แต่ยอมตามเขา “ก็ได้ 10 นาที แค่ 10 นาทีเท่านั้นนะ ไม่มีแถมแม้แต่วินาทีเดียว 10 นาทีเท่านั้น!”
โส่วจินทวนคำทันที “ข้าต้องการเวลาฝ่าบาทเพียงสิบนาทีเท่านั้น!”
ดีแล้ว เอาตามนั้น...
ถังเทียนแอบฉลองในใจ เขาอยู่ห่างจุดนัดพบกับเชียนฮุ่ย 15 นาที ถ้าถึงเวลาแล้วถังเทียนจะไม่สนใจเรื่องคณะทูตของกลุ่มดาวจะมีอะไรนักหนาเมื่อเทียบกับเรื่องของเชียนฮุ่ย!
ภายใต้การฉุดลากของโส่วจิงถังเทียนฉีกยิ้มแล้วค้างเอาไว้ในทุกที่ๆ เขาปรากฏตัว
“ไฮ้..สวัสดีทุกท่าน!”
“สบายดีนะ สบายดีไหม!”
“ช่าย ช่ายช่ายแล้ว ยินดีที่ได้พบปะทุกท่าน ยินดีที่ได้พบทุกท่าน!”
……
ถังเทียนต้อนรับทุกคนเหมือนกับเครื่องจักรกระแสผู้คนปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าเขา ใบหน้าที่จู่ๆ ก็ยื่นเข้ามาใกล้ ทำให้เขาตกใจเสียงที่ดังจอแจไม่รู้จักจบสิ้นทำให้ถังเทียนปวดหัวและเบื่อหน่าย อีกนิดเดียว ถังเทียนพึมพำในใจ เขารู้สึกจะเป็นลม สติของเขากำลังจะหลุดเหมือนกับว่าเขาอยู่ในสนามรบและมีศัตรูอยู่ทุกที่รายล้อมเขาหนาแน่นไปหมด
ข้ารู้สึกเหมือนอยากกวาดล้างสถานที่ให้หมด...
โชคดีที่ถังเทียนไม่สูญเสียสติ เนื่องจากเขารู้ตัวว่ายังอยู่ในงานเลี้ยง
บุ่มบ่ามเป็นมาร บุ่มบ่ามเป็นมาร.. แต่เป็นมารก็แข็งแกร่งดีนี่ จะเอายังไงดีหว่า...
ถังเทียนยังคงแปะยิ้มไว้บนใบหน้า แต่ในใจของเขานับเวลาถอยหลังเช่นกัน ไม้ตายนับถอยหลังของข้าคือ... ไม่นะ, รอเดี๋ยว,นับเวลาถอยหลังอีก 10 นาที...
เทียบกับเขาแล้วอาเฮ่อที่อยู่ด้านข้างยังดูสุภาพและสง่างามยิ้มอย่างสดใสหมดจดเหมือนลมในฤดูใบไม้ผลิ ท่าทางของเขางามสง่าดึงดูดสายตาหลายคู่ได้เป็นอย่างดี หลิงซิ่วสวมชุดนักรบพาหนะน้ำแข็งเงินสีขาวขลิบทองยืนตัวตรงแน่วเหมือนคันทวนด้วยสีหน้าที่เย็นชามองดูเหมือนครูฝึกที่สง่างามแต่โหดห้าวมีแต่เว่ยเว่ยอันที่อยู่ใกล้ตัวอยู่ในใจเขาเท่านั้น
ถังเทียนผู้น่าสงสารถูกโส่วจิงคล้องแขนฉุดดึงไว้แน่นคล้ายเกรงว่าเขาจะหลุดหนีหายไป
“เฮ้, ถังเทียน!”
อังเดรผมทองสะดุดตาของถังเทียน ในที่สุดก็ได้พบคนที่เขาคุ้นเคยบ้าง ถังเทียนถอนหายใจ “อังเดร, เจ้าก็มาเหมือนกัน”
“ดูสีหน้าของเจ้า ดูเหมือนเจ้าจะไม่สนุกกับงานนี้เลย” อังเดรพูดตามตรง นอกจากคนอื่นที่เรียกเขาว่าฝ่าบาทมีอังเดรนี่แหละที่เรียกชื่อถังเทียนโดยตรง ทั้งสองคนเคยพบกันมาก่อนและนี่เองทำให้รู้สึกสนิทกันอยู่บ้าง
“ความจริงข้ายินดีออกไปต่อสู้ยังจะดีกว่า!” ถังเทียนเปิดเผยความรู้สึกและฝืนยิ้ม
เหลืออีกแปดนาที....
“ถูกแล้ว, สมรภูมิคือบ้านของลูกผู้ชาย!” อังเดรมีท่าทางเข้าใจจากนั้นผลักสการ์เล็ตที่อยู่ข้างหลังเขามาข้างหน้า “นี่คือสการ์เล็ตน้องสาวของข้า”
เมื่อสการ์เล็ตปรากฏตัวก็ดึงดูดสายตานับคู่ไม่ถ้วนได้ทันที ผู้คนที่รายล้อมถังเทียนเงียบเสียงลงทันที
สการ์เล็ตเป็นสตรีที่งดงามมากหลังจากผ่านการประทินโฉมอย่างละเอียดประณีต ผมบลอนด์ของนางหยักสลวยและชุดยาวผ้ามันระยับสีฟ้ามีภาพดวงอาทิตย์ฉายแสงทองทั่วแผ่นผืนทะเลที่ใสเหมือนผลึก ไหล่ที่เปลือยเผยให้เห็นกระดูกไหปลาร้าที่บอบบางประกอบกับอกที่เต็มอวบอิ่มของนางดูน่าลุ่มหลง เอวที่โค้งคอดกิ่วของนางทำให้ผู้คนไม่สามารถละสายตาจากนางได้เลย
“คารวะหนุ่มชาวฟ้า!”
เสียงอบอุ่นยั่วยวนใจเหมือนสายน้ำดึงดูดใจผู้คนยิ่งนัก
แสงสีทองและความมันระยับจากชุดราตรีภายใต้แสงจันทร์ส่องสะท้อนเป็นพิเศษทำให้ถังเทียนไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน เกิดความเงียบอย่างฉับพลัน เสียงของสการ์เล็ตทำให้หัวใจของถังเทียนที่กำลังเร่งเวลาแทบบ้ารู้สึกสะดุ้ง
รัศมีอะไร!
หรือว่าจอมมารจะออกมา...
ดวงตาของถังเทียนเป็นประกายแวววาว เกือบจะใช้วิชายุทธออกมาแล้วแต่เมื่อในที่สุดถังเทียนเห็นว่าเป็นใบหน้าของสุภาพสตรีคนหนึ่ง เขาข่มความรู้สึกร้ายกาจในใจลงจนได้....
ช่างเป็นสมรภูมิที่น่ากลัวจริงๆ...
หลังของถังเทียนหลั่งเหงื่อเยียบเย็น ภาพที่อยู่ต่อหน้าเขาเป็นสมรภูมิที่น่ากลัวที่สุด มีศัตรูแปลกประหลาดมากมายอยู่ตรงนั้นและเขายังต้องต่อสู้กับความชั่วร้ายในจิตใจ
เขาเกือบพ่ายแพ้ต่อมารในใจแล้ว... อันตรายนัก...
ถังเทียนยังมีความกลัวเหลืออยู่ในใจ เขาฝืนยิ้มขณะทักทายสการ์เล็ต “แม่นางสการ์เล็ต”
เหลือเวลาอีกเจ็ดนาทีครึ่ง
ทำไมเวลาถึงคืบคลานผ่านไปช้านัก
ถังเทียนไม่ได้รู้สึกว่า“เวลากำลังคืบคลาน”มานานแล้ว ในสถานที่ยุ่งเหยิงเช่นนั้น ช่างทรมานจริงๆ เขาสัญญากับตนเองว่า จะไม่เข้าร่วมงานเลี้ยงใดๆอีกเลย ให้เขาไปฝึกฝนหรือต่อสู้ดีกว่ากลับมายังที่ซึ่งน่ากลัวแบบนี้
“ร่างกายของหนุ่มชาวฟ้ารู้สึกไม่ดีหรือ?” สการ์เล็ตถามด้วยความห่วงใย “หน้าของเจ้าดูเหมือนจะซีดเล็กน้อย”
เสียงของนางอบอุ่นและน่าหลงใหลมากและมีแฝงด้วยความห่วงใย บุรุษที่อยู่ใกล้ๆทุกคนแสดงอาการเหมือนกับมึนเมา
มันเกือบทำให้ข้าฆ่าเจ้าเสียแล้ว...
ถังเทียนเกือบโพล่งออกมา ก็ได้ สการ์เล็ตยังไร้เดียงสา แต่นี่ไม่ใช่วิถีที่ควรเป็นหน้าของเขาแสดงรอยยิ้มซึ่งน่าเกลียดยิ่งกว่าร้องไห้เสียอีก “ฮะฮะ, ข้าไม่ค่อยสบายเล็กน้อย พวกท่านเชิญสนุกกันต่อนะ ข้าจะไปทักทายทุกคนก่อน”
เหลืออีกเพียงเจ็ดนาที!
ก่อนที่ทั้งสองคนจะได้ทันตอบ ถังเทียนลอบพาโส่วจิงซึ่งจับมือเขาไว้แน่นและใช้มืออีกข้างหนึ่งแหวกขอทางคนข้างหน้าและเบียดฝูงคนออกไปอย่างรวดเร็วจากนั้นถามโส่วจิงเสียงอ่อย “เหลืออีกเจ็ดนาที รีบบอกมาจะให้ข้าไปทักทายใครอีก?”
เมื่อเห็นด้านหลังถังเทียนสีหน้าสการ์เล็ตกลายเป็นเย็นชา นางปฏิเสธบุรุษทุกคนที่ตามพัวพันนางและตามอังเดรไปที่มุมหนึ่ง
นางไม่ยอมละสายตาจากถังเทียนเลย
“อะไรกัน? เจ้าแพ้เสียแล้วหรือ?” อังเดรชูแก้วและมองร่างที่เหมือนหมดแรงของถังเทียนและหัวเราะเบาๆ “นานแล้วนะตั้งแต่ข้าเห็นเจ้าทำสีหน้าพ่ายแพ้”
สการ์เล็ตเม้มริมฝีปากแน่น นางไม่เชื่อสิ่งที่เกิดขึ้น ตั้งแต่แรกถังเทียนยังมองนางอยู่เลยและนางไม่เคยพบประสบการณ์เช่นนั้นมาก่อน
นางใช้ความสามารถมากมายและคิดเรื่องการแต่งหน้าและทักทายเขา หลังจากคิดอยู่นานนางคาดไม่ถึงว่าถังเทียนจะไม่ตื่นเต้น นางสามารถเห็นได้ว่าถังเทียนยิ้มให้นางอย่างสุดฝืนและยากลำบาก
นานแค่ไหนกันแล้วตั้งแต่นางเผชิญกับการทักทายที่เย็นชาอย่างนั้น
ไม่เคยมาก่อน!
ตั้งแต่อายุน้อยตราบใดที่นางยิ้มคนนับไม่ถ้วนล้วนยินดีจะทำทุกอย่างเพื่อนาง รูปร่างนางงดงาม ทำให้นางเป็นคนพิเศษสุดในโลกและนางเชื่อว่านางสามารถข่มโลกได้
แต่, นางล้มเหลว
นางล้มเหลวจริงๆ
แรงกระทบใจครั้งนี้หนักขณะที่นางจับแก้วไว้แน่นนางใช้แรงมากโดยไม่รู้ตัวจนนิ้วของนางซีดขาว
ฉากภาพที่ปรากฏหลายคนได้เห็น หมิงเยี่ยเลิกคิ้วความจริงสการ์เล็ตก็สดสวยงดงามจนแม้แต่นางก็ยังตะลึง แต่ถังเทียนไม่ยอมมองดูนาง นางมองดูหวีจีที่อยู่ข้างนาง แม้ว่าหวีจีจะแตกต่างจากสการ์เล็ตก็ตามแต่หมิงเยี่ยรู้สึกว่าความคิดของเบื้องบนไม่มีทางสำเร็จได้
ถังเทียนรู้สึกละลานตาไปหมดและจำใครไม่ได้สักคนและมีสิ่งเดียวที่เขาทำก็คือนับเวลาอยู่ในใจ
เหลืออีกสองนาที
ทันใดนั้นมีเสียงหนึ่งดังแว่วเข้าหูเขา
“ข้าสงสัยจริงๆว่าฝ่าบาทจะรู้จักผู้อาวุโสกุ่ยอู๋หรือไม่?” บุรุษผมแดงจ้องมองตาถังเทียนที่มองตอบเขา และเขาลุกขึ้นพูด “ข้ากันหาวจากองค์การวิญญาณมืด”
ผู้อาวุโสกุ่ยอู๋!
ใจที่มึนชาของถังเทียนพลันตื่นตัวขึ้นทันที
กันหาวจงใจไม่ลดเสียงและผู้คนโดยรอบที่ได้ยินเสียงเขาตะลึงทันที กุ่ยอู๋ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสามเซียนสุดยอดขององค์การวิญญาณมืด เพราะจู่ๆ กันหาวถามเรื่องนั้นขึ้น จึงเหมือนกับโยนระเบิดลงในท่ามกลางผู้คน
สถานะของกุ่ยอู๋ได้รับการเคารพนับถือเป็นอย่างมากถูกจัดอยู่ในสุดยอดสามเซียนในประวัติศาสตร์องค์การวิญญาณมืด ความคงอยู่ที่แข็งแกร่งขนาดนั้นเป็นเรื่องที่ไม่สามารถนึกเรื่องเช่นนี้ออกได้ในวันนี้
เรื่องนี้ทำให้ทุกคนคาดเดาไปต่างๆ นานาถังเทียนและผู้อาวุโสกุ่ยอู๋มีความเกี่ยวข้องกันยังไง?
ผู้อาวุโสจากคณะทูตของกลุ่มดาวคันชั่งตาเป็นประกายกันทุกคน พวกเขามักคาดเดาอยู่เสมอว่ากลุ่มดาวหมีใหญ่มีสมบัติมากมายและด้วยข้อสงสัยของกันหาวทำให้พวกเขาเห็นความเป็นไปได้ทันที
สถานที่เงียบลงทันที
หลายคนลอบตื่นเต้น จากตั้งแต่แรกสถานะและพื้นหลังของถังเทียนมักเป็นความลับอยู่เสมอ และไม่มีใครรู้เรื่องเขา แต่ถังเทียนกลับรุ่งเรืองขึ้นมาด้วยความเร็วอย่างน่าทึ่งและทำให้โลกตกตะลึง หลายๆคนลอบคาดเดาว่าถังเทียนมาจากที่ซึ่งมีเบื้องหลังยิ่งใหญ่ ถ้าไม่อย่างนั้นเขาจะกลายเป็นผู้ทรงอำนาจอิทธิพลอย่างนั้นได้ยังไง
“ผู้อาวุโสกุ่ยอู๋?” ถังเทียนย้อนถามโดยไม่รู้ตัว
แม้ว่าเขาพยายามดิ้นรนออกจากความวุ่นวาย แต่สมาธิของเขาอยู่ที่การนับถอยหลังเหลืออีกหนึ่งนาทีสี่สิบห้าวินาที....
“ถูกแล้ว!” กันหาวใจเย็นกล่าวอย่างไม่สะทกสะท้าน ตาของเขาร้อนแรง “จำได้ว่ากระบี่ดื่มเลือดเซียนเป็นของสะสมของผู้อาวุโสกุ่ยอู๋ องค์การวิญญาณมืดได้ตรวจสอบยืนยันในบันทึกแล้ว ข้าหวังว่าฝ่าบาทจะอธิบายว่าทำไมกระบี่ดื่มเลือดเซียนตกไปอยู่ในมือของจิ่งหาว?”
“อธิบาย?” ถังเทียนมองดูกันหาวด้วยท่าทีแปลกประหลาด “ทำไมข้าต้องอธิบายด้วย?”
กันหาวหรี่ตาของเขา “ฝ่าบาท, ผู้อาวุโสกุ่ยอู๋ คือเซียนเทพเจ้าในองค์การวิญญาณมืด! ของสะสมของผู้อาวุโสกุ่ยอู๋ก็คือสิ่งที่องค์การวิญญาณมืดของข้าบอกได้ว่าจะไม่นั่งเฉยทนดูมันตกไปอยู่ในเงื้อมมือของคนอื่น”
เหลืออีกหนึ่งนาทียี่สิบวินาที...
ก่อนที่ถังเทียนจะพูด หลงโส่วจิงซึ่งเกาะถังเทียนไว้ตลอดลุกขึ้นโดยไม่ลังเลตอบอย่างเย็นชา“ประการแรก ท่านมีคุณสมบัติเป็นตัวแทนองค์การวิญญาณมืดหรือไม่? ประการที่สององค์การวิญญาณมืดพยายามจะคุกคามกลุ่มดาวหมีใหญ่ของข้าใช่หรือไม่?”
กันหาวโบกมือและหัวเราะ “ทำไมเจ้าถึงพูดอย่างนั้น ท่านโส่วจิง? ข้าก็แค่ต้องการชี้แจง ถ้าข้าเสียมารยาท ข้าหวังว่าท่านจะยกโทษให้ข้าด้วย
เหลืออีกหนึ่งนาที...
ถังเทียนซึ่งไม่ได้ใส่ใจ เตรียมพร้อมจะออกไปแล้ว
กันหาวหรี่ตา เมื่อเห็นว่าถังเทียนเตรียมจะเดินจากไป เขาตะโกน “ฝ่าบาท ได้โปรดรอก่อน ข้า...”
รังสีอำมหิตในใจของถังเทียนไม่สามารถข่มเอาไว้ได้ในที่สุด