ตอนที่ 5 พบทหารที่รอดชีวิต
ตอนที่ 5 พบทหารที่รอดชีวิต
พวกเขาวิ่งลงมาด้วยความร้อนรน ลงมาที่ชั้น 4 ทั้งสามคนพบกับคนคลุ้มคลั่งอยู่สองคน หนึ่งอยู่หน้า อีกคนทางด้านหลัง
เรนที่สัมผัสได้ถึงอันตรายอยู่แล้ว เขายกธนูรอยิง
ปัก!
ลูกธนูยิงเข้าไปที่หัวของคนคลุ้มคลั่งที่อยู่ทางด้านหลังและทำให้มันตายในทันที เรนไม่มีเวลาไปตามเก็บเพราะในตอนนี้มีพวกคนคลุ้มคลั่งกลุ่มใหญ่ได้วิ่งขึ้นมาจนจะถึงพวกเขาแล้ว
“ฮา!” ธันวาจัดการตัวที่อยู่ด้านหน้า เขาใช้ด้ามไม้ถูพื้นแทงเข้าไปที่หน้าอกของคนคลั่งเพื่อหยุดมัน ก่อนจะใช้เท้าถีบไปที่ตัวของคนคลั่งจนมันหงายหลังล้มลง
“ตาย” ธันวาดึงเอาด้ามไม้ถูพื้นออกมาจากหน้าอกคนคลั่งและแทงซ้ำไปที่ดวงตาของมัน
คนคลั่งตายลงไปในทันที ก่อนจะมีเหรียญทองลอยออกมาจากศพอีกเหรียญ
ธันวาคว้ามันและรีบวิ่งไปต่อด้านหลังมีไอราและตามมาด้วยเรน
พวกเขามาถึงสะพานเชื่อมไปยังอาคารเรียนที่สองแล้ว แต่ปรากฏว่าตรงทางเชื่อมด้านนี้มันประตูม้วนอะลูมิเนียมอยู่ ซึ่งที่ด้านล่างมีแม่กุญแจล็อกไว้
ธันวารีบใช้ด้ามไม้ถูพื้นกระแทกไปที่แม่กุญแจ แต่ไม่ออก ชายหนุ่มรีบใช้ไม้งัดแม่กุญแจจากนั้นก็ออกแรงบิดไม้ ด้ามไม้ถูพื้นในมือของธันวาหักครึ่งดัง แก็ก!
“ซวยละ!” ธันวาถึงกับหน้าเสีย
“ธันตรงนั้น” ไอราชี้ไปที่ตู้ฉุกเฉินมันมีพวกสายฉีดน้ำดับเพลิงในอาคารและขวานอยู่
“ไปเอามาเดียวฉันยื้อทางนี้ไว้” เรนบอกกับธันวาและรับเอาลูกศรจากไอรา ก่อนจะยิงตัวที่วิ่งมาหาเขา
ปัก!
คนคลั่งอีกคนล้มลงไถลไปกับพื้นห่างจากเรนไม่กี่ก้าว เรนรีบวิ่งไปดึงลูกศรออกมาและเล็งไปที่คนคลุ้มคลั่งอีกคน
ธันวาทิ้งด้ามไม้ถูพื้นและวิ่งตรงไปยังตู้เก็บขวานดับเพลิง เขาใช้ไหล่กระแทกเข้ากับตู้จนกระจกแตก ก่อนจะหยิบเอาขวานดับเพลิงด้ามยาวสีแดงสดออกมา
ธันวารีบกลับมาที่ประตู ก่อนจะใช้ขวานสับไปที่แม่กุญแจ ด้วยแรงของธันวาสับไปสองทีแม้กุญแจก็หลุดออก เขารีบเอาแม่กุญแจออกและเปิดประตู
ด้านตรงข้ามไม่มีคนคลั่งอยู่ ธันวาข้ามมาก่อนและตามมาด้วยไอรา จังหวะนั้นไอรายื่นมือไปหยิบเอาด้ามไม้ที่หักมาด้วย
“เรนเร็ว!” ธันวาตะโกนเรียกเรนด้วยความกังวล
เรนยิงลูกธนูใส่คนคลั่งอีกคนที่เป็นอันตรายต่อเขามากที่สุด ก่อนจะรีบมุดข้าไปมือของคนคลั่งยื่นตามมาหวังจะจับเรน แต่จังหวะนั้นธันวาและไอราช่วยกันปิดประตูพอดีให้มันข้ามมาได้ แต่มือยังยื่นเข้ามาอีกฝั่งได้
เรนรีบวางธนูไม้รีเคิร์ฟในมือและหยิบเอาขวานที่วางอยู่ที่พื้นมาสับไปที่มือนั่นจนขาดทำให้ประตูปิดสนิท
“ใช้นี่ขัดไว้” ไอราใช้มืออีกข้างส่งด้ามไม้ถูพื้นให้กับเรน
เรนรับมาและใช้มันขัดไปที่ห่วงคล้องด้านล่าง แทนแม่กุญแจ
ปัง! ๆ ๆ
กลุ่มคนคลั่งทุบประตูม้วนอย่างต่อเนื่อง แต่มันไม่สามารถเข้ามาได้ เพราะด้านล่างมีด้ามไม้ถูพื้นขัดไว้อยู่
“ไปกันต่อเถอะ” เรนหอบหายใจ ส่งขวานให้กับธันวาและก้มไปหยิบธนูไม้ของตนขึ้นมา ตอนนี้เขาเหลือลูกธนูแค่ 3 ดอกเท่านั้น เพราะอีกดอกเขาเก็บกลับมาไม่ทัน
และก่อนหน้านี้เรนก็ได้ของมาจากคนคลั่งอีกจำนวนหนึ่ง มันเป็นเหรียญทอง 3 เหรียญและหินสีขาวขุ่นอีก 1 ชิ้น
พวกเขาไปกันต่อ แต่ว่าในตอนนี้เมื่อมองไปทางซ้ายหรือขวาก็ยากจะระบุได้ว่าพวกทหารนั้นอยู่ที่ไหนกัน
ปัง!
ขณะที่เรนและพวกไม่รู้ว่าจะไปทางไหนกันต่อ พวกเขาก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นมาและกลุ่มคนวิ่งอยู่ชั้น 2 ของอาคาร
เรน ธันวาและไอรามองหน้ากันในทันที พวกเขารู้ว่านี่หมายถึงอะไร ในมหาวิทยาลัยแห่งนี้คนที่มีปืนคนมีแต่ทหารพวกนั้น ดังนั้นคนที่ยิงปืนเมื่อครู่ต้องเป็นพวกทหารอย่างแน่นอน
“ไปกัน”
ทั้งสามรีบวิ่งไปที่ชั้นสองของอาคารแห่งนี้
แต่ว่าพวกที่ได้ยินเสียงปืนไม่ได้มีแค่เรน แต่ยังมีพวกกลุ่มคนคลุ้มคลั่งด้วย พวกมันไม่สนใจตามเรนและพวกอีก เนื่องจากโดนเสียงปืนดึงดูดความสนใจ
กลุ่มคนคลุ้มคลั่งพากันกระโดดลงจากอาคารหอพักลงไปยังด้านล่างในทันที
...
เรนวิ่งลงมาจนถึงชั้นสองของอาคารสองแห่งนี้ ด้านล่างมีศพของคนคลุ้มคลั่งหลายคนนอนตายอยู่ที่พื้น พวกเขาวิ่งไปตามทางเดินที่มีศพหลังจากเลี้ยวไปทางซ้ายมือก็เจอเข้ากับห้องจำนวนมาก
“ระวังด้านหน้าอันตราย” เรนบอกกับธันวาและไอรา ทั้งสองคนยกไฟฉายส่องไปที่ทางด้านห้าในทันที พวกเขาทั้งสามก็เห็นว่ามีทหารอยู่
“นั่นทหาร” ไอราพูดด้วยความยินดี
“ไม่ใช่แล้ว พวกเขาเป็นพวกมันแล้ว” ทหารคลุ้มคลั่งสองคนพยายามจะพังประตูเข้าไปด้านในห้องทางด้านขวาของพวกเขา
“พวกทหารตายไปแล้วอย่างนั้นเหรอ บ้าจริงพวกเรามาเสียเวลาแล้ว” ธันวาพูดด้วยความผิดหวัง เพราะคิดว่าทหารคงตายไปหมดแล้ว
“ยังก่อน ดูเหมือนพวกมันพยายามเข้าไปในห้อง แสดงว่ามีคนรอดอยู่” เรนชี้ให้พวกเขาดู พวกนี้มันตอบสนองต่อผู้รอดชีวิตมาก แสดงว่ายังมีคนรอดอยู่ ทั้งสามภาวนาให้เป็นพวกทหาร
ทหารคลุ้มคลั่งสองคนนั้นพอโดนแสงไฟส่องพวกมันก็หันมาจ้องและเอียงคอไปที่เรนและพวก
“ช่วยผมด้วย” ทหารคลุ้มคลั่งคนหนึ่งพูดออกมาประโยคหนึ่งและวิ่งตรงมาหาเรนและพวก
เรนรอจังหวะอยู่แล้ว เขายิงไปที่หัวของมันในทันที
ปัก!
ทหารคลุ้มคลั่งคนนั้นล้มลง ส่วนอีกตัวธันวาก็วิ่งเข้าไปหามันและใช้ขวานในมือสับไปที่หัวของมันตรง ๆ ทำให้คนคลั่งตายไปในทันที
เรนเก็บลูกธนูออกมา เขาพบกับของเหรียญทองอีก 1 เหรียญและหินสีใสอีกหนึ่งเม็ด เรนเก็บมันไป ส่วนตัวที่ธันวาฆ่านั้นไม่มีอะไรออกมา
ธันวาไม่ได้สนใจมากนัก เพราะที่เขาสนใจคือประตูด้านหน้า มันล็อกอยู่
“เฮ้ มีใครอยู่ไหม” ธันวาทุบไปที่ประตูและตะโกนเรียกคนในนั้น
“พวกคุณทหารได้อยู่ด้านในหรือเปล่า” ไอราเองก็ช่วยธันวาทุบประตู
เรนระวังด้านหลัง ก่อนจะมองทางประตูและพูดขึ้นมาด้วยเช่นกัน
“พวกคุณอยู่ในนั้นใช้ไหม เปิดประตูให้พวกเราหน่อย พวกผมเป็นนักศึกษาจากหอพักในมหาวิทยาลัย”
“ทุบเลยละกัน” ธันวาคิดจะใช้ขวานทุบประตู แต่ตอนนั้นประตูก็เปิดพร้อมกับมีปากกระบอกปืนโผล่ออกมา
“ถอยออกไป” ทหารชี้ปากกระบอกปืนไปที่ธันวา
“อย่ายิงนะ ผมไม่ใช่พวกมัน” ธันวารีบบอกพวกเขาและถอยหลังออกมาหลายก้าวด้วยความระมัดระวัง
ทหารเปิดประตูออกมากว้างขึ้น ทำให้เรนและพวกเห็นว่าด้านในมีทหารสองคนเล็งปืนมาทางพวกเขา ทั้งสองมองสำรวจเรน ธันวาและไอราอย่างระมัดระวัง
“โดนกัดหรือเปล่า” ทหารผมทองที่อยู่ใกล้หน้าประตูสุดถามพวกเขา
“ไม่โดน” เรนตอบไปอย่างใจเย็น ก่อนจะถามกลับว่า “ให้พวกเราเข้าไปได้ไหม ถ้าอยู่ตรงนี้พวกที่ตามมาคงเจอพวกเราแน่”
“หมุนตัวไปรอบ ๆ ก่อน” ทหารผมทองสั่งพร้อมกับขยับปืนในมือให้พวกเขาทำตาม ทหารทั้งสองไม่ยอมให้พวกเขาเข้ามาจนกว่าจะมั่นใจว่าทั้งสามคนไม่โดนกัด
เรนและพวกมองหน้ากัน ก่อนจะทำตามที่พวกเขาบอก เมื่อมั่นใจว่าไม่มีใครโดนกัดทหารผมทองก็ปล่อยให้พวกเขาเข้ามา ทหารผมทองโผล่หัวไปดูที่ด้านนอกซ้ายขวา ก่อนจะปิดประตูในทันที
ด้านในเรนและพวกยังคงถูกทหารอีกนายที่ข้อมือของเขามีกระเป๋าล็อกกับกุญแจข้อมือติดมาด้วย เขาเดาว่ากระเป๋านั่นต้องไม่ใช่สิ่งของธรรมดา
ตอนนั้นเองเรนก็สัมผัสได้ถึงแรงกระตุ้นที่มาจากเตาหลอมพระเจ้าต่อกระเป๋าใบนั้น
‘กระเป๋านั่นมีอะไรกันถึงทำให้เตาหลอมพระเจ้าต้องการให้เราเอามันมา’ เรนคิดในใจ ยังไม่ทันจะได้หายสงสัยเรนก็โดนไฟฉายส่องไปที่ตาจนเขาต้องยกมือขึ้นมาบังและหรี่ตา
“อย่าเอามือบัง ผมต้องตรวจดูว่าพวกคุณติดเชื้อมาหรือเปล่า”
“ถ้าติดเชื้อตาจะเป็นยังไง” เรนถาม
“ดวงตาจะมีเลือดซึมออกมา”
ทหารคนนั้นระวังตัวอย่างเต็มที่และใช้ไฟฉายส่องไปที่ดวงตาของพวกเขาทั้งสามคน หลังจากตรวจจนแน่ใจในที่สุดทหารก็เก็บไฟฉายลงไป
“พวกเขาไม่ได้ติดเชื้อ” ทหารคนนั้นบอกกับทหารผมทอง
“พวกนายฆ่าผู้ติดเชื้อด้านนอกมาอย่างนั้นเหรอ” ทหารผมทองถาม
“ผู้ติดเชื้อ! หมายถึงพวกคนคลุ้มคลั่งนั่นนะเหรอ” เรนพูดขึ้นมา
“ใช่ พวกเขาคือสิ่งที่เรียกว่า ผู้ติดเชื้อ พวกนายมาที่นี่ได้ยังไง” ทหารถามต่อ
“พวกเรามาจากทางหอพักที่นั่นมีประตูทางเชื่อมอยู่ แต่ว่าตรงนั้นมีพวกมันอยู่เต็มไปหมดเลย” ธันวาตอบคำถาม
“พวกคุณพาพวกเราออกไปจากที่นี่ได้ไหม พวกเราอยากจะไปที่หลุมหลบภัยหรือค่ายลี้ภัย”
ทั้งสองเงียบไปสักพัก จนในที่สุดทหารที่มีกระเป๋าติดอยู่ที่แขนก็พูดขึ้นมา
“พวกคุณจะตามพวกเรามาก็ได้ แต่ว่าพวกเราอยู่ในภารกิจและคงจะมาปกป้องพวกคุณตลอดไม่ได้”
“ตกลง” เรนตอบไป
“ผมธันวา นี่เรน ส่วนเธอชื่อไอรา ผมเรียกพวกคุณว่าอะไร” ธันวาเริ่มถามชื่อ เพราะถ้าจะไปด้วยกันก็ควรจะทำความรู้จักกันไว้ ซึ่งเรื่องการเข้าสังคมธันวาเก่งกว่าเรนมาก
“นี่จ่าชุน ส่วนผมร้อยเอกก้อง” ร้อยเอกก้องแนะนำทหารผมทองก่อนจะบอกชื่อตัวเอง
“ร้อยเอกครับ พวกเราไปกันก่อนที่พวกมันจะมากันมากกว่านี้เถอะ” จ่าชุนแนะนำ
“อืม” ร้อยเอกก้องพยักหน้าตกลง จากนั้นก็หันไปพูดกับพวกของเรน “ตามมาและระวังหลังด้วย”
พูดจบทหารทั้งสองก็เปิดประตูและเตรียมออกไป
“พวกเขาต้องการกำลังของพวกเราในการหนีออกไป ระวังกันด้วย” เรนพูดเสียงเขากับธันวาและไอรา เรนมองดูจากสถานการณ์ ทหารสองนายนี้ดูจะให้ความสำคัญที่กระเป๋าถือมามากกว่าสิ่งใด ดังนั้นการที่ทั้งสองตกลงเพราะต้องการคนมาช่วยสู้กับพวกผู้ติดเชื้อ
“เราจะตามพวกเขาไปไหม” ธันวาหันกลับมาถาม ตั้งแต่ที่เรนพาตนและไอราออกมาจากหอพักได้อย่างปลอดภัย ธันวาก็เริ่มจะถามความเห็นเรนก่อนตัดสินใจโดยไม่รู้ตัว
“แน่นอน” เรนตอบกลับไป เพราะอย่างไรทหารสองคนนี้ก็รู้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นมากกว่าพวกเขารวมทั้งทางหนีด้วย