ตอนที่ 17-3 เผ่ามังกรฟ้า
ตามที่ลินลี่ย์ได้เรียนรู้ระหว่างทาง และเรื่องที่เขาได้ยินมาจากเบรุตเช่นกัน จากสิ่งที่ลินลี่ย์เห็นตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ทรงพลังมาก ที่เกาะมิลัวร์หลังจากได้เห็นบันทึกการต่อสู้มากมาย เขาบอกเจ้าปราสาทโมซี่ว่าเขากำลังมุ่งหน้าไปแคว้นอินดิโกและโมซี่ได้พูดคุยเกี่ยวกับตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์
จากสิ่งที่โมซี่บอกดูเหมือนว่าตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์อยู่ในช่วงเวลาตกต่ำอย่างหนัก
แต่ถึงแม้เป็นเช่นนั้นก็ยังแทบเทียบเท่าได้กับตระกูลแบ็คชอว์
“ตระกูลแบ็คชอว์ควบคุมที่เกาะมิลัวร์ไว้ได้อย่างสิ้นเชิง ไม่มีใครกล้ารุกรานพวกเขา! แม้ว่าจะผ่านกาลเวลามานานนับปีไม่ถ้วน ชื่อเสียงของเกาะมิลัวร์ยังคงแผ่ขยายกว้างไกล เรื่องที่คนรับใช้ตระกูลแบ็คชอว์จะถูกฆ่า! ไม่มีมีทางที่เรื่องเช่นนี้จะเกิดขึ้นที่เกาะมิลัวร์ ”
ลินลี่ย์ไม่อยากเชื่อเลยจริงๆ
แคว้นอินดิโกสามารถบอกได้ว่าเป็นฐานใหญ่สำหรับตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในเขตแดนของตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ที่เรืองอำนาจได้อย่างไร?
ทุกคนที่ตรองเรื่องนี้สักครู่จะเข้าใจ
ถ้าตระกูลที่ทรงพลังอย่างแท้จริงเผชิญเรื่องอย่างนี้ พวกเขาจะกำจัดตระกูลโบลีนทั้งตระกูลแน่การฆ่าพวกเขาก็เหมือนเป็นการส่งสัญญาณเตือนอีกฝ่ายให้กลัว
“สถานการณ์ไม่สมเหตุผลเสียเลย” ลินลี่ย์หรี่ตา ความสุขที่เขามีเมื่อตอนมาถึงเขตแดนของตระกูลของเขาเหือดหายไปทันที และลินลี่ย์เริ่มกังวล ดูเหมือนว่าสถานการณ์ของตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์คงไม่ใช่เป็นอย่างที่เขาคิด
ในอสูรโลหะทารอส บีบี เดเลียและคนอื่นตกตะลึงกับสิ่งที่พวกเขาเห็น
ทารอสพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม“ลินลี่ย์!ดูเหมือนว่าตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้มีพลังอำนาจมากนักในแคว้นอินดิโก” เมื่อลินลี่ย์เชิญทารอสและคนอื่นไปที่แคว้นอินดิโกเขามักพูดว่าภายในแคว้นอินดิโกด้วยพลังและอิทธิพลของตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาคงไม่พบเจออันตรายอีกต่อไป
แต่ตอนนี้ดูเหมือน
“ข้าไม่เข้าใจเหมือนกัน”หน้าของลินลี่ย์เคร่งขรึม
ที่สำคัญเขาไม่เคยไปเยือนตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์มาก่อน ทั้งหมดที่เขารู้ เขาได้รับข้อมูลมาจากแหล่งข้างนอกทั้งนั้น
“ข้าขอโทษ!ดูเหมือนข้าจะเป็นเหตุให้ทุกคนต้องเข้าสู่สถานการณ์อันตรายอีกแล้ว”ลินลี่ย์อดไม่ได้ที่จะต้องพูดกับโอลิเวอร์ ทารอสและคนอื่นเมื่อเขาเชิญพวกเขามาพร้อมกับเขา เขาต้องการให้ทุกคนที่มาจากทวีปยูลานได้อยู่ด้วยกันและนั่นจะไม่มีอันตรายมากนัก
เท่าที่เขารู้ไม่ควรมีอันตรายในถิ่นใหญ่ของตระกูลของเขา
แต่ดูเหมือนว่าเขาเข้าใจผิด!
ไดลินหัวเราะ “ลินลี่ย์ อย่ากังวลไปเลย ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นชีวิตของข้า นับได้ว่าเป็นของเจ้า มีอะไรที่ข้าต้องกลัวเล่า?”
“ไปกันเถอะ ต่อให้มีคนต้องการฆ่าเราก่อนอื่นพวกเขาต้องมีพลังพอจะทำเช่นนั้นได้เสียก่อน!”ทารอสกล่าว
ลินลี่ย์พยักหน้า ถ้าตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์สามารถเทียบได้กับตระกูลแบ็คชอว์ในฐานะกองกำลังที่ทรงพลัง ก็ไม่มีทางที่พวกเขาจะถูกทำลายได้ง่ายๆ เหมือนคำที่กล่าวไว้ว่าอูฐแม้กำลังจะอดตายก็ยังตัวใหญ่กว่าม้า
คำพูดของโมซี่แสดงให้เห็นว่าตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ที่อ่อนแอลงก็ยังเทียบได้กับตระกูลแบ็คชอว์
แต่ก่อนที่จะตกต่ำนั้นเล่า?
ตระกูลที่แต่เดิมทรงพลังอย่างไม่มีใดเปรียบจะถูกทำลายอย่างสิ้นเชิงได้ยังไง?
“เราไปเมืองแฟนไซกันก่อน”
เมืองแฟนไซเป็นเมืองที่อยู่ในภาคตะวันออกของแคว้นอินดิโกและเป็นเมืองแรกที่กลุ่มของลินลี่ย์แวะเข้าไปเมื่อเดินทางมาถึงแคว้นอินดิโก เมืองแฟนไซเหมือนกับเมืองอื่นทุกเมืองในแดนนรกมีความคึกคักมาก!
ถนนเต็มไปด้วยผู้คนทุกแห่งหน
“พี่ใหญ่เราจะไปหาตำแหน่งที่อยู่ของตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ได้จากที่ไหน?”บีบีถามอย่างมึนงง
เทพสงครามโอเบรียนหัวเราะ “ก็สถานที่ทำงาน อย่างเช่นปราสาทอสูรเราก็แค่ไปถามคนที่นั่นมีคนที่นี่ซึ่งอยู่ในแคว้นอินโกน่าจะรู้เรื่องตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ดี”
ถามหาที่ปราสาทอสูรนับเป็นความคิดที่ดีเช่นกัน
“ไม่ต้องรีบ เราไปที่ปราสาทบลัดริจกันก่อน!” ลินลี่ย์กล่าว
ทวีปเรดบุดมีปราสาทเรดบุด ขณะที่ทวีปบลัดริจก็มีปราสาทบลัดริจเช่นกัน ทั้งสองมีความเหมือนกัน ทั้งสองปราสาทเป็นแหล่งซื้อและขายของคุณภาพดี
“ทำไมเราต้องไปปราสาทบลัดริจด้วยเล่า?” ไดลินถาม
“บีบี, เจ้ายังจำเมื่อคราวที่เราไปหาซื้อหนังสือที่ปราสาทเรดบุดได้ไหม?” ลินลี่ย์หันไปมองบีบี เขาพยักหน้า “ข้าจำได้ ตอนนั้นเราไปซื้อหนังสือภูมิศาสตร์แดนนรก”
“ใช่แล้วครั้งสุดท้ายเราเพียงแต่ต้องการตรวจสอบภูมิศาสตร์ของแดนนรก ซึ่งเป็นเหตุผลให้เราซื้อหนังสือข้อมูลเกี่ยวกับแคว้นทั้ง 108 นั้นสั้นมาก อย่างไรก็ตามคราวนั้นเราก็ได้พบหนังสือสองสามเล่มบอกเล่ารายละเอียดแต่ละแคว้น”
มีหนังสือที่หนาห้าหรือหกเซ็นติเมตรบอกเล่าข้อมูลแต่ละแคว้น
หนังสือที่มีรายละเอียดเลหล่านั้นระบุถึงแคว้นหนึ่งและเป็นธรรมดาที่จะบอกและชี้ให้เห็นถึงพื้นที่บางแห่งในแคว้นนั้นและแบ่งรายละเอียดข้อมูลของตระกูลที่ทรงพลังส่วนใหญ่ มีแนวโน้มว่าแม้แต่สุดยอดฝีมือก็อาจถูกกล่าวถึงในนั้นด้วย
ตาของเดเลียเป็นประกายและนางพยักหน้าเห็นด้วย “ซื้อเล่มที่มีรายละเอียดเกี่ยวกับแคว้นอินดิโก ตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์มีชื่อเสียงมากในแคว้นอินดิโกคงจะต้องมีอธิบายรายละเอียดและตำแหน่งที่ตั้งไว้อย่างชัดเจนเหมือนกัน”
ลินลี่ย์หัวเราะและพยักหน้า
ถ้าพวกเขาถามคนอื่นคนอื่นอาจจะชี้ไปที่เฉพาะเจาะจงซึ่งพวกเขาก็ไม่รู้ว่าตั้งอยู่ในตำแหน่งใด
ที่สำคัญพวกเขาไม่เคยมีแผนที่แคว้นอินดิโกอย่างละเอียด พวกเขารู้แต่เพียงเส้นทางสภาพภูมิประเทศของสถานที่ เมื่อซื้อหนังสือที่อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับแคว้นอินดิโก พวกเขาจะเข้าใจข้อมูลทางภูมิศาสตร์ในแคว้นอินดิโกได้
“ซื้อหนังสือ? ข้าไม่เคยซื้อหนังสือในแดนนรกมาก่อน” ทารอสหัวเราะ
“ปกติท่านอยู่แต่ในเกาะมิลัวร์ จะต้องมาซื้อหนังสือทำไม? ท่านจะซื้อต่อเมื่อมีความต้องการใช้” ลินลี่ย์พูดจบก็เดินไปที่ปราสาทบลัดริจ
ปราสาทสามแห่งในทุกเมืองมีผู้คนคึกคักพร้อมกับผู้คนหลั่งไหล กลุ่มของลินลี่ย์มาถึงปราสาทบลัดริจ ที่ประตูปราสาทบลัดริจมีทหารจากทวีปบลัดริจยืนรักษาการณ์
“หึหึ ขอบอกเลยว่าเครื่องแบบของกองทัพบลัดริจดูเท่ดีจริงๆยังดีกว่ากองกองทัพเรดบุดและกองทัพสตาร์มิสท์มาก” บีบีพูดเบาๆ ขณะมองดูทหารจากกองทัพบลัดริจที่ประตู
ลินลี่ย์ชำเลืองมองดูพวกเขา “กลิ่นอายน่ากลัวที่เปล่งออกมายังหนักหน่วงกว่ากองทัพเรดบุดและกองทัพสตาร์มิสท์เสียอีก”
“ไปกันเถอะ”ขณะที่พูดลินลี่ย์นำกลุ่มเข้าไปในปราสาทบลัดริจชั้นแรก รูปแบบการจัดการของปราสาทบลัดริจคล้ายกับปราสาทเรดบุดมาก กลุ่มของลินลี่ย์หาห้องร้านค้าซึ่งเชี่ยวชาญในการขายหนังสือมากมาย
ในห้องมีคนเพียงสามคนหนึ่งในนั้นเป็นพนักงาน
“พวกท่านต้องการซื้ออะไร?”เมื่อเห็นกลุ่มของลินลี่ย์เดินเข้ามา และทั้งหมดทุกคนเป็นเทพชั้นสูงพนักงานร้านค้าเดินออกมาต้อนรับทันที
“หนังสือเล่มไหนที่มีข้อมูลเกี่ยวกับที่ตั้งของตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์?”บีบีพูดขึ้นเป็นคนแรก
แต่ลินลี่ย์พูดขึ้น“ที่นี่น่าจะมีหนังสืออธิบายรายละเอียดของแคว้นอินดิโกทั้งหมดใช่ไหม? ข้าต้องการหนังสือนั้น”
“เรามีหนังสือนั้น” พนักงานหญิงดึงหนังสือปกสีดำทึบหนาประมาณสองนิ้วจากนั้นเดินมาส่งให้ลินลี่ย์“เล่มนี้น่าจะเป็นหนังสือที่มีข้อมูลแนะนำแคว้นอินดิโกได้สมบูรณ์ที่สุด”
ลินลี่ย์รับและเริ่มพลิกดูทันที
ในสารบัญหนังสือเล่มนี้ถูกแบ่งเป็นภูมิประเทศพื้นที่อันตราย ตระกูลที่มีชื่อเสียง และอื่นๆ เป็นต้นจากตารางสารบัญลินลี่ย์พบตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ถูกจัดไว้ในด้านบน
“หน้า 158!”ลินลี่ย์อดตื่นเต้นไม่ได้
สิ่งแรกที่ลินลี่ย์สังเกตเห็นก็คือ....
ตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์เป็นคำเรียกทั่วไปเกี่ยวสี่เผ่าตระกูลอสูรศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงพลังอำนาจ
ซึ่งได้แก่
เผ่ามังกรฟ้า- ตระกูลเรดดิง!
เผ่าหงส์เพลิง- ตระกูลนีโม!
เผ่าพยัคฆ์ขาว– ตระกูลไลอัส!
เผ่าเต่าดำ–ตระกูลโบเวน!
ตระกูลอสูรศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่นำโดยเผ่ามังกรฟ้าสี่ตระกูลที่ยิ่งใหญ่รวมกันเป็นหนึ่งและแผ่ขยายอำนาจไปทั่วสี่พิภพศักดิ์สิทธิ์....
ขณะที่อ่านรายละเอียดข้อมูลตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ ลินลี่ย์เริ่มเหงื่อกาฬชุ่ม ประวัติศาสตร์ของตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ทำให้ลินลี่ย์ประหลาดใจ งั้นเดิมทีตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่ได้ถูกจำกัดอยู่ที่แดนนรก!
“โลกธาตุน้ำศักดิ์สิทธิ์ โลกธาตุดินศักดิ์สิทธิ์โลกธาตุไฟศักดิ์สิทธิ์ โลกธาตุลมศักดิ์สิทธิ์, และสี่พิภพระดับสูงดินแดนเทพ,แดนยมโลก, แดนนรก, แดนชีวิต...ทั้งหมดนั้นมีสาขาของตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์!”
ลินลี่ย์ตกตะลึงไปหมด
เกี่ยวกับคำอธิบายในหนังสือตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์นับได้ว่าเป็นตระกูลที่ยิ่งใหญ่ทรงพลังน่าเกรงขามไปทั่วทั้งพิภพชั้นสูงและเจ็ดโลกธาตุศักดิ์สิทธิ์ด้วยเช่นกันพวกเขาอยู่กระจายทั่วทุกที่ แต่แน่นอนในแคว้นอินดิโก แดนนรกเป็นที่ทำการใหญ่ของตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์
“พวกเขาทรงอำนาจมากนักหรือ?” ลินลี่ย์พบว่ายากจะเชื่อได้
“พี่ใหญ่, ขอข้าดูบ้าง”บีบีเมื่อเห็นสีหน้าของลินลี่ย์อดดึงหนังสือมาจากลินลี่ย์ไม่ได้และเริ่มอ่านอย่างระมัดระวัง ขณะที่เขาอ่านตาของบีบีเริ่มขยายโต “โอว..พี่ใหญ่ตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ไม่เบาเลยจริงๆ”
เดเลียโน้มตัวมาดูบ้าง
“พวกเขาดูน่ากลัวมากจริงๆ” เดเลียก็ตะลึงเช่นกัน
“ตอนนี้เราออกไปกันเถอะ คราวนี้ข้ารู้แล้วว่าตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ตั้งอยู่ที่ไหน” ลินลี่ย์อดยิ้มไม่ได้ ตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์เป็นที่หยั่งรากฐานและปักหลักของตระกูลบาลุคเขาเองอาจนับได้แต่เพียงว่าเป็นหนึ่งในหลายสาขาตระกูล
เป็นธรรมดาที่ลินลี่ย์จะดีใจเมื่อรู้ว่าตระกูลหลักนั้นทรงพลังอำนาจมากเพียงไหน
“เดี๋ยวก่อน” ลินลี่ย์ขมวดคิ้วทันที
ถ้าตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ทรงอำนาจมากจริงๆ อย่างนั้นทำไมเมื่อตอนที่เขามา เขาเห็นสมาชิกของตระกูลโบลีนที่มีปีกสีทองถึงได้หยิ่งผยองนัก?
“ท่านกำลังมองหาที่ตั้งของตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ใช่ไหม?” จู่ๆ มีเสียงดังขึ้น
กลุ่มของลินลี่ย์หันไปมอง คนที่พูดคือพนักงานหญิง
พนักงานหญิงหัวเราะและกล่าว“ถ้าท่านต้องการไปตามข้อมูลในหนังสือเพื่อมองหาตระกูลเหล่านั้นไม่มีทางที่พวกท่านจะหาตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์พบ”
“เอ๋?” ลินลี่ย์ตะลึง
“ทำไมถึงไม่ได้เล่า? หนังสือปลอมหรือ?” บีบีถามทันที
พนักงานหญิงส่ายศีรษะ“ไม่, คำอธิบายในหนังสือนั้นเป็นความจริง”
“ถ้าข้อมูลในหนังสือเป็นความจริง แล้วทำไมเราจะหาพวกเขาไม่ได้?” บีบีกล่าว
พนักงานหญิงหัวเราะ “หนังสือเล่มนี้หมุนเวียนขายทั่วไปในทุกเมืองของแดนนรก เพราะแดนนรกกว้างใหญ่ไพศาลมาก แค่ส่งของไปที่อื่นก็อาจใช้เวลาถึงพันปี”
ลินลี่ย์พยักหน้าการส่งหนังสือไปทั่วแดนนรก อาจต้องใช้เวลาเป็นพันปีจริงๆ
“เพราะการส่งสินค้าอย่างเดียวก็ใช้เวลามากเสียแล้วข้อมูลภูมิศาสตร์ในหนังสือจะได้รับการประเมินและปรับปรุงใหม่ทุกๆ ล้านปี หนังสือนี้มีอายุหลายพันปีแล้วและอธิบายถึงสถานการณ์ ตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์เมื่อหลายแสนปีมาแล้ว”พนักงานหญิงกล่าว
แดนนรกกว้างใหญ่ไพศาล ล้านปีในประวัติศาสตร์แดนนรกโบราณ ไม่ถือว่ามาก
“เจ้ากำลังจะบอกว่า...?” ลินลี่ย์เริ่มเข้าใจ
“ใช่แล้ว” พนักงานหญิงหัวเราะ “ถ้าท่านถามคนอื่น พวกเขาอาจจะไม่รู้ แต่เนื่องจากข้าอาศัยอยู่ในแคว้นอินดิโกเสมอมา ข้าคุ้นเคยกับตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์มากตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์เมื่อหมื่นปีที่แล้วตกอยู่ภายใต้การเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ สาขาที่อยู่กระจายตามแดนโลกธาตุศักดิ์สิทธิ์และพิภพชั้นสูงต่างกลับมารวมตัวในแคว้นอินดิโกของแดนนรก”
ตอนนี้ลินลี่ย์เข้าใจแล้ว
ลอร์ดเบรุตไม่ได้หลอกลวงเขา ตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ในปัจจุบันอยู่ในแคว้นอินดิโกจริงๆ
เดเลียถามด้วยความสงสัย “เพราะเหตุไรตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ถึงได้เรียกรวมตระกูลสาขามารวมตัวอยู่ที่แคว้นอินดิโก?” เดเลียไม่เข้าใจ
“ข้าไม่แน่ใจ” พนักงานหญิงพูดพลางหัวเราะ “ปีนั้นมียอดฝีมือจำนวนมากของตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์กลับมา แต่เมื่อพวกเขากลับมาพวกเขาสร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งแคว้นอินดิโกเพราะเมื่อพวกเขากลับมาก็มีการสู้รบตามมานับครั้งไม่ถ้วน”
“สู้รบนับครั้งไม่ถ้วน?” ลินลี่ย์ตะลึง
“ถูกแล้ว” พนักงานหญิงพยักหน้า จากนั้นหัวเราะ “แต่แน่นอน ข้าเป็นแค่คนนอกและรู้อย่างจำกัดทั้งหมดที่ข้ารู้ตอนนี้ก็คือมีการสู้รบกันดุเดือดมาก หลังจากนั้นตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ที่กระจายตัวอยู่ทั่วแคว้นอินดิโกก็มารวมตัวอยู่ในพื้นที่เดียวกัน”
“พื้นที่เดียวกัน?” ลินลี่ย์ยังคงจำได้ถึงสิ่งที่เขาอ่านในหนังสือ
หนังสืออธิบายไว้ว่าในตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์สี่ตระกูลแต่ละตระกูลจะอยู่แยกกัน
“ใช่แล้วตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ในตอนนี้อยู่ใกล้ชิดกันมาก ที่อยู่อาศัยของพวกเขารู้จักกันในนามว่าภูเขาสกายไรท์!” พนักงานบอก
เมื่อได้ยินเช่นนี้ลินลี่ย์นึกย้อนกลับไปเมื่อเขาอ่านหนังสือแนะนำภูมิศาสตร์ทั่วไปของแดนนรกทันทีและข้อมูลที่พูดถึงภูเขาสกายไรท์ ภูเขาสกายไรท์เป็นพื้นที่มีชื่อเสียงมากในแคว้นอินดิโก
ความจริงนี่เป็นเทือกเขาที่เป็นสัญลักษณ์ของแคว้นอินดิโก