ตอนที่แล้วตอนที่ 16-32 พลานุภาพของมหาเทพ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 17-2 มุ่งสู่แคว้นอินดิโก

ตอนที่ 17-1 ความเร็วในการฝึก


“ครืนนน...”คลื่นทะเลกระทบชายฝั่งทะเลของเกาะมิลัวร์แบ็ควิลประมุขตระกูลแบ็คชอว์ยืนคู่กับยูไรห์และพวกพ้องขณะที่กลุ่มของลินลี่ย์ขึ้นสู่อสูรโลหะ และเริ่มต้นเดินทางสู่ทวีปบลัดริจ

อสูรโลหะแปลงร่างเป็นเรือและที่ด้านหน้าของเรือ

“ในที่สุด เราก็จากไปได้เสียที”โอเบรียนถอนหายใจตื้นตัน

“ใช่แล้ว, เราออกมาแล้ว”  ซีซาร์พูดย้ำ “ข้าจะลืมที่นี่ ตลอดไป!”  ลินลี่ย์ชำเลืองมองซีซาร์ ก่อนนี้ซีซาร์ขอให้เขาช่วยสืบดูเรื่องที่เกิดขึ้นกับเซซิล  แม้ว่าลินลี่ย์จะพบว่าสถานการณ์ผ่านไปแล้วและก็ยังไม่แน่ใจว่าเซซิลยังมีชีวิตอยู่หรือไม่...

เขายังคงบอกซีซาร์ว่าเซซิลสบายดีและยังใช้ชีวิตอยู่ในคฤหาสน์ตระกูล

“บางทีวิธีนี้ ซีซาร์คงจะรู้สึกขมขื่นบ้าง”ลินลี่ย์บอกกับตัวเอง

“ในที่สุดเราก็จากไปได้เสียที  ท่านพ่อเราจากไปได้จริงๆ”  คลีโอ ราชสีห์หกตาบุตรคนโตตื่นเต้นมากเช่นกัน  ในอดีตที่ผ่านมา เขากับน้องชายไม่รู้ว่าบิดาของพวกเขาถูกครอบงำวิญญาณพวกเขาเพิ่งมารู้เอาตอนนี้

พวกเขารู้สึกหวาดกลัวแม้แค่เพียงนึกถึง

“ใช่แล้ว เรากำลังจะจากไป  เราหนีออกมาได้แล้ว”  ไดลินจ้องมองท้องฟ้าทิศอาคเนย์ไกลออกไปโดยไม่เปลี่ยนทิศทาง  เป็นไปได้ว่าเขาจะไม่มีทางกลับไปเกาะมิลัวร์อีก

“กี๊ซซซซซซ!”ทันใดนั้นเสียงเสียดแก้วหูดังขึ้นสะท้อนไปทั่วท้องฟ้า

ลินลี่ย์หันไปมองเป็นทารอสนั่นเอง ทารอสแหงนหน้าและส่งเสียงกู่ร้องขณะที่ร่างกายสั่นสะท้าน  หลังจากผ่านไปนานในที่สุดเขาก็ชะงักเสียงกู่ร้อง ทารอสหันมองลินลี่ย์ ตาของเขาแดงระเรื่อ “ลินลี่ย์!  ข้าจะไม่พูดอะไรมากเกี่ยวกับความกรุณาที่เจ้ามีต่อข้า  ขอบคุณจริงๆ”

คนที่ไม่เคยถูกครอบงำวิญญาณจะไม่มีทางเข้าใจว่าทารอสและไดลินรู้สึกยังไงในตอนนี้

“ฮ่าฮ่า, ไปกันเถอะ ไปทวีปบลัดริจไปแคว้นอินดิโกกัน” ลินลี่ย์กุมมือเดเลีย

การเดินทางในทะเลสตาร์มิสท์ของพวกเขาเป็นไปอย่างราบรื่นพวกเขาพบกับโจรบ้างเป็นครั้งคราว แต่เนื่องจากพลังอำนาจของกลุ่มของลินลี่ย์ บรรดาเทพชั้นสูงในกลุ่มพวกเขาทั้งหมดแค่ปรากฏตัวพวกโจรก็หนีไปด้วยความหวาดกลัวทันที

การเดินทางช่วงนี้เป็นไปอย่างธรรมดา

ภายในห้องโดยสารเรือ

ลินลี่ย์นั่งขัดสมาธิอยู่ที่มุมห้อง  ร่างหลักของเขาและร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามร่างอยู่ในท่าเดียวกันทั้งหมด  หลังจากประสบการณ์ครั้งล่าสุดลินลี่ย์ตระหนักว่าจุดอ่อนที่สำคัญที่สุดของเขาก็คือ วิญญาณของเขา!

ไม่ใช่ว่าเคล็ดความรู้ลึกลับของเขาในเรื่องพลังป้องกันวิญญาณอ่อนแอ!

ปัจจุบันนี้เขาหลอมรวมเคล็ดชีพจรโลก,เคล็ดสนามพลังโน้มถ่วงและเคล็ดแก่นธาตุดิน พลังป้องกันวิญญาณของเขาในส่วนของเคล็ดความรู้ลึกลับไม่ได้อ่อนแอเลย  ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดก็คือพื้นฐานของเขา  กล่าวอีกอย่างหนึ่งก็คือพลังของวิญญาณของเขา!

พลังวิญญาณของเทพแท้ในแง่คุณภาพยังอ่อนแอห่างไกลจากพลังวิญญาณของเทพชั้นสูง  แม้ว่าลินลี่ย์จะใช้เคล็ดลึกลับปลดปล่อยพลังวิญญาณแต่ก็มีพลังป้องกันทางวิญญาณเทียบได้กับเทพชั้นสูงระดับธรรมดาเท่านั้นนอกจากนี้ยังมีสมบัติมหาเทพป้องกันวิญญาณที่ชำรุดคอยช่วย พูดให้ถูกก็คือเป็นเพราะสมบัติมหาเทพทำให้ลินลี่ย์สามารถท่องเที่ยวผ่านทะเลสตาร์มิสท์ฆ่าแกนมอร์ตินและฆ่าเทพชั้นสูงอีกหลายคน ถ้าเขาไม่มีสิ่งนี้ลินลี่ย์ที่เป็นเพียงเทพแท้จะแข็งแกร่งมากขนาดนั้นได้ยังไง?

สมบัติมหาเทพเป็นสิ่งที่ทรงพลังมาก

“ตอนนี้เป้าหมายอันดับหนึ่งของข้าก็คือต้องบรรลุระดับเทพชั้นสูงให้เร็วเท่าที่เป็นไปได้”  ลินลี่ย์รู้ว่าตนเองจะต้องพัฒนาทางด้านใด  “เมื่อข้ากลายเป็นเทพชั้นสูง  ข้าจะสามารถกลั่นอะเมทิสต์ได้อีกมากมายและด้วยอะเมทิสต์มากมายนั้นช่วยเพิ่มพลังเทพชั้นสูงให้สูงขึ้นเป็นธรรมดา  พลังวิญญาณของข้าจะเพิ่มขึ้นอีกสิบเท่า!  เมื่อเรื่องนั้นเกิดขึ้นตราบเท่าที่ข้าเพียงป้องกันส่วนที่ชำรุดของสมบัติมหาเทพประเภทป้องกันวิญญาณ ข้าไม่จำเป็นต้องกลัวอสูรเจ็ดดาวที่เชี่ยวชาญทักษะโจมตีวิญญาณ”

ลินลี่ย์รู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี

บางทีอาจจะง่ายกว่าสำหรับบางคนที่เป็นระดับเทพแท้หลอมรวมเคล็ดลึกลับเมื่อถึงระดับเทพชั้นสูง ระดับความยากก็จะเพิ่มขึ้นอีกมากมาย

แต่ขณะเดียวกันการหลอมรวมเคล็ดลึกลับมากมายในฐานะเทพแท้ ก็ยังใช้เวลานานอย่างน่าประหลาดใจ  ตัวอย่างเช่น เคล็ดเดินดินของกฎธาตุดินจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เริ่มหลอมรวมกับอีกสามเคล็ดก่อนนั้นแต่อย่างใด  การหลอมรวมยังทำได้น้อยมาก

“ตอนนี้ข้ามีเคล็ดลึกลับสามอย่างแล้ว  ถ้าข้าจำเป็นต้องหลอมรวมเคล็ดสี่เคล็ดดูเหมือนว่าข้าต้องขอบคุณดาวนำโชคของข้าแล้วจึงจะสามารถหลอมรวมทั้งหมดได้ในเวลาหมื่นปี”

“เมื่อเร็วนี้ข้าได้รับความเข้าใจพื้นฐานของเคล็ดพลังธาตุ ข้าต้องรีบเชี่ยวชาญเคล็ดพลังธาตุและจากนั้นค่อยฝึกเคล็ดพลังชีวิต เมื่อฝึกทั้งหกเคล็ดสำเร็จ ข้าจะกลายเป็นเทพชั้นสูงจากนั้นพลังของข้าจะเพิ่มขึ้นอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพลังป้องกันวัตถุหยาบหรือพลังป้องกันวิญญาณ  ข้าจะไม่มีจุดอ่อนใดๆ ข้าจะสามารถจัดการอสูรเจ็ดดาวได้ทั้งหมด”

ลินลี่ย์รู้ว่าเมื่อกลายเป็นเทพชั้นสูงก็ยังมีความเป็นไปได้กับการหลอมรวมเคล็ดลึกลับ เพียงแต่ระดับความยากจะเพิ่มขึ้นอีกมาก

“ทันทีที่ข้ากลายเป็นเทพชั้นสูง  ข้าจะค่อยๆ หลอมรวมเคล็ดเหล่านั้นต่อไป”

ตราบเท่าที่ข้ากลายเป็นเทพชั้นสูงด้วยตัวเอง  ก็ยังจะมีความหวังในการหลอมรวมเคล็ดต่างๆ

“คงต้องขอบคุณโมซี่ถ้าไม่ใช่เพราะการหวดค้อนยักษ์ของเขา ใครจะรู้ว่าจะต้องใช้เวลานานเพียงไหนกว่าข้าจะได้รู้แจ้งเคล็ดพลังธาตุ?”  ลินลี่ย์สะท้านใจ ทำให้ร่างหลักของเขาร่างแยกธาตุดินเพ่งลึกถึงการฝึกเคล็ดพลังธาตุ

ตอนนี้ลินลี่ย์ชอบกฎธาตุดิน

สำหรับกฎธาตุลมลินลี่ย์เพียงแต่เพิ่งฝึกได้เพียงห้าเคล็ด มีอีกสี่เคล็ดจะต้องฝึกเพิ่มขึ้น  และเวลาที่ใช้ก็คงมากมายเช่นกัน

สำหรับกฎธรรมชาติธาตุไฟร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ธาตุไฟของลินลี่ย์ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ถึงระดับเทพแท้

“การฝึกกฎธรรมชาติธาตุไฟชักช้ามาก”ลินลี่ย์ตอนนี้ให้ความสำคัญต่อพรสวรรค์มาก

ถ้าผู้ฝึกมีพรสวรรค์  อย่างนั้นเขาจะฝึกฝนได้เร็วอย่างเช่นลินลี่ย์ที่ฝึกฝนในกฎธาตุดินและกฎธาตุลม ในเวลาไม่ถึงพันปีลินลี่ย์ก็เรียนรู้กฎธรรมชาติธาตุดินถึงห้าเคล็ด

แต่ถ้าคนที่มีพรสวรรค์ต่ำ..

ต่อให้ไม่ติดอยู่ที่คอขวดของการฝึกลินลี่ย์ก็ยังยากจะเชี่ยวชาญเคล็ดกฎธาตุไฟที่สองได้

การบรรลุผ่านคอขวดของการฝึกจำเป็นต้องอาศัยการรู้แจ้งโชคและความสามารถในการทำความเข้าใจ

อย่างไรก็ตามปกติแล้วการฝึกมักจะขึ้นอยู่กับพรสวรรค์

ความสัมพันธ์สายธาตุที่ลินลี่ย์มีต่อธาตุดินและและธาตุลมที่เขาได้ทดสอบเมื่อคราวเยาว์วัยอยู่ในระดับยอดเยี่ยมพิเศษ  ขณะที่ธาตุไฟเป็นเพียงระดับทั่วไปขณะที่ความสัมพันธ์ธาตุชนิดอื่นอยู่ในระดับต่ำมาก

เห็นได้ชัดว่าลินลี่ย์มีโอกาสกลายเป็นเทพชั้นสูงได้ในไม่ช้าโดยผ่านร่างแยกธาตุดิน พลังของร่างแยกธาตุดินของเขาทรงพลังมากอย่างเห็นได้ชัดและเป็นธรรมดานั่นเองที่ทำให้ร่างหลักฝึกฝนในกฎธรรมชาติธาตุดินความเร็วในการฝึกของเขาก็ยิ่งเร็วมากขึ้น

ทะเลสตาร์มิสท์กว้างไกลไม่เห็นฝั่งบางครั้งก็มีเกาะปรากฏให้เห็น

“ครืน....” อสูรโลหะมุ่งหน้าฝ่าคลื่นอย่างต่อเนื่อง

ลินลี่ย์กับเดเลียในตอนนี้ยืนเคียงคู่มองดูทางทิศตะวันออกเฉียงใต้  ใกล้ๆ พวกเขาก็คือโอลิเวอร์ บีบี โอเบรียนไดลิน ทารอส ซีซาร์และคนอื่นอีก พวกเขามีรอยยิ้มที่ใบหน้ากันทุกคน

จากระยะไกลพวกเขาเห็นแนวเส้นขอบเลือนรางที่ยาวมากเป็นแนวชายฝั่งที่ยาวมาก

“ทวีปบลัดริจ ในที่สุดเราก็มาถึงจนได้!”  ลินลี่ย์ตื่นเต้นเหลือจะกล่าว

หลังจากเดินทางออกจากเกาะมิลัวร์  ใช้เวลาเดินทางยี่สิบสามปีและตอนนี้พวกเขามาถึงทวีปบลัดริจได้ในที่สุด

“เรามาถึงทวีปบลัดริจแล้ว  แคว้นอินดิโกอยู่ไม่ไกลออกไปมากนัก”  ตาของบีบีฉายประกาย  “พี่ใหญ่!ข้าจำได้ว่าบนแผนที่ ดูเหมือนว่าแคว้นอินดิโกอยู่ห่างจากฝั่งทะเลไม่ไกลมากนักโอว... หลังจากใช้เวลาเกือบเจ็ดร้อยปี ในที่สุดเราก็มาเกือบถึงที่นั่นแล้ว”

ลินลี่ย์และเดเลียกุมมือกันและกันแน่นมองดูชายฝั่ง

“ลินลี่ย์!เมื่อเรามาถึงทวีปบลัดริจ เราจะตรงไปที่แคว้นอินดิโกทันทีหรือว่าไปรับภารกิจคุ้มกันภัยพร้อมกับเดินทางสู่แคว้นอินดิโก?”  โอลิเวอร์มองลินลี่ย์  ที่สำคัญนี่คือสิ่งที่ลินลี่ย์ทำมาในอดีต

“ไม่จำเป็น”

ลินลี่ย์ส่ายศีรษะ  “ในอดีต ข้ายังอ่อนแอและเกรงความยุ่งยาก  ตอนนี้เราจะมุ่งสู่แคว้นอินดิโกโดยตรง  ไม่จำเป็นต้องกลัวอะไรในระหว่างทาง”  ลินลี่ย์ในตอนนี้มั่นใจในตนเองและกลุ่มของเขาก็มีเทพชั้นสูงอยู่มาก

นอกจากนี้ทารอสยังเป็นยอดฝีมือระดับอสูรหกดาวด้วยเช่นกัน

อสูรโลหะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงทันทีที่ถึงชายฝั่งทวีปอสูรโลหะรูปร่างเรือพลันเปลี่ยนร่างเป็นเสือดำบินขึ้นไปในอากาศเหนือทวีปบลัดริจ

ทวีปบลัดริจมีความคล้ายคลึงกับทวีปเรดบุด

มีเผ่าพันธุ์ต่างๆแยกกระจายอยู่ทุกที่ และพวกโจรก็มีกระจายอยู่ทุกที่เช่นกัน  การต่อสู้ฆ่าฟันอาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ แต่แน่นอนว่าไม่มีโจรกลุ่มใดกล้าตอแยกลุ่มของลินลี่ย์

“ลินลี่ย์!  การฝึกฝนของเจ้าเป็นยังไงบ้าง?”  ทารอสหัวเราะ

ในระหว่างเดินทางทารอสและไดลินได้ทราบในที่สุดว่าลินลี่ย์ยังเป็นเพียงเทพแท้สำหรับเรื่องที่เทพแท้ปลดปล่อยพลังได้น่าทึ่งอย่างไรนั้นลินลี่ย์แค่ให้คำอธิบายอย่างทั่วไป

อย่างไรก็ตามทารอสและไดลินบอกได้ว่าทั้งหมดนี้ต้องเกี่ยวข้องกับเทือกเขาอะเมทิสต์

“ไม่เลวข้าฝึกมาถึงขั้นตอนเคล็ดพลังธาตุแล้ว” ลินลี่ย์มีรอยยิ้มที่ใบหน้า “น่าเสียดาย, ข้ายังไม่เข้าใจพื้นฐานเคล็ดพลังชีวิตธาตุดิน”นี่คือเรื่องที่ลินลี่ย์ผิดหวังที่สุดก็คือ เคล็ดพลังชีวิต

ตามหนังสือที่ได้ให้คำอธิบายทั่วไปเกี่ยวเคล็ดลึกลับว่าเคล็ดพลังชีวิตเป็นหนึ่งในเคล็ดลึกลับที่มีความเฉพาะตัวของกฎธรรมชาติธาตุดินและยากจะทำความเข้าใจรู้แจ้งได้

ในแต่ละเคล็ดนั้นจะต้องได้รับความเข้าใจพื้นฐาน ขณะที่การบรรลุผ่านคอขวดของเคล็ดความรู้เป็นสองขั้นตอนที่ยากที่สุด  ถ้าผู้ฝึกรู้ได้ช้า เขาอาจจะติดอยู่เป็นล้านปีและนั่นถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาทั่วไป

“ไม่ต้องเร่งบางทีเจ้าอาจจะรู้แจ้งได้ในไม่ช้า” ทารอสหัวเราะ

ลินลี่ย์หัวเราะและพยักหน้าด้วยเหมือนกัน  นั่นเป็นเรื่องจริง ตัวอย่างเช่นเขาได้รับความรู้แจ้งในเคล็ดพลังธาตุเขาจึงได้ความรู้ความเข้าใจพื้นฐาน

“ความเร็วในการฝึกของเจ้าน่าประทับใจมากแล้ว  เจ้าฝึกฝนมายังไม่ถึงพันปีแต่ก็ยังรู้แจ้งเคล็ดลึกลับธาตุดินถึงห้าในหกเคล็ดและที่สำคัญยิ่งกว่า...เจ้าหลอมรวมได้ถึงสามเคล็ดแล้ว”  ทารอสชื่นชมลินลี่ย์มาก

ทารอสเองหลอมรวมได้เพียงสองเคล็ด  และอาศัยพลังเทพตามธรรมชาติของเขาเองกับเคล็ดความรู้สองเคล็ดจนมีพลังเทียบได้กับอสูรหกดาว

“เฮ้, ทารอส เรื่องนั้นไม่ต้องพูดถึงเลย  พี่ใหญ่ข้ายอดเยี่ยมน่าทึ่งอยู่แล้ว”  บีบีเดินเข้ามาสมทบและพูดโอ้อวด “ดูท่านสิ,ท่านฝึกมานานจนข้าเองก็ไม่รู้ว่ากี่ปี แต่ท่านก็ยังหลอมรวมได้สองเคล็ด ฮื้ม..”

ทารอสอดหัวเราะไม่ได้  “บีบี!อย่าใจร้อนเกินไป, เจ้าฝึกในสายกฎธาตุมืดใช่ไหม? ข้าอยากถามเจ้าบรรดาเคล็ดลึกลับธาตุมืดทั้งหก เจ้าฝึกได้เท่าใดแล้ว และเจ้าหลอมรวมได้เท่าใดแล้ว?  เท่าที่ข้าจำได้ เจ้าฝึกฝนมากับลินลี่ย์น่าจะเป็นเวลานานพอกัน”

“ฮ่าฮ่า..” โอเบรียนและซีซาร์ที่อยู่ใกล้ๆหัวเราะทั้งคู่

ลินลี่ย์อดขำบีบีไม่ได้

ทุกคนรู้ว่าบีบีไม่ค่อยขยันฝึกฝนส่วนใหญ่เขาจะสงบจิตใจฝึกฝนได้ราวๆ ปีเดียว หลังจากนั้นเขาจะเริ่มกระสับกระส่ายด้วยอารมณ์อย่างนั้น ไม่ว่าจะมีพรสวรรค์เพียงไหน ถ้าเขาไม่ขยันฝึกฝน  เขาจะก้าวหน้าได้ยังไง?

“ทารอส, เจ้าก็รู้ว่าบีบีเป็นยังไงและเจ้ายังถามแบบนี้กับเขาอีกหรือ?” ไดลินกล่าว

บีบีโมโหจนจมูกสั่น  “ก็ได้ ข้ายังไม่สามารถหลอมรวมเคล็ดลึกลับได้แม้แต่เคล็ดเดียว!”

“บีบีพอเถอะ, อย่าหัวเสียไปเลย”  ลินลี่ย์หัวเราะขณะที่เขาตบไหล่บีบี  แต่บีบีเชิดหน้าอย่างถือดี  “แต่หกเคล็ดลึกลับธาตุมืด ข้าบีบีผู้นี้รู้แจ้งไปแล้วสี่เคล็ด!”

ทุกคนในห้องโดยสารเงียบกันหมดทันที

ลินลี่ย์ประหลาดใจกับสิ่งที่เขาได้ยิน  เขาอดมองดูบีบีไม่ได้  “บีบี เจ้าพูดอะไร?” ลินลี่ย์จำได้เป็นอย่างดีว่าบีบีใช้เวลาฝึกฝนไม่ค่อยมากนัก ปกติเขามักจะเที่ยวซุกซน และฝึกฝนบ้างเป็นบางครั้ง

“บีบี, พูดอีกครั้งได้ไหม  ข้าได้ยินผิดไปหรือเปล่า”  ทารอสกล่าวแม้แต่ไดลินและโอลิเวอร์ก็ยังมองมาทางบีบี

ไม่ว่าจะเป็นไดลินไม่ว่าจะเป็นโอลิเวอร์ พวกเขายังไม่เชี่ยวชาญถึงสี่เคล็ด

“ฟังให้ดี และฟังให้ชัดๆ”  บีบีเชิดหน้าอย่างยโสจากนั้นประกาศเสียงดังลั่น “ข้า..บีบีแม้จะยังไม่สามารถหลอมรวมเคล็ดลึกลับได้แม้แต่เคล็ดเดียวก็ตามแต่ข้าฝึกเคล็ดลับธาตุมืดสำเร็จสี่เคล็ดจากหกเคล็ดแล้ว  ตอนนี้ข้ากำลังฝึกเคล็ดลึกลับที่ห้า!”

ลินลี่ย์เองฝึกสำเร็จเคล็ดลึกลับธาตุดินเพียงสี่เคล็ดและตอนนี้กำลังฝึกเคล็ดที่ห้า

“บีบี, ไม่เป็นไรหรอกนะ ถ้าเจ้าจะฝึกได้ช้าแต่เจ้าไม่ควรจะสร้างเรื่องราวอย่างนั้นขึ้นมา” ซีซาร์กล่าว

“สร้างเรื่องขึ้นมา?”  บีบีถลึงตาด้วยความโมโห

บีบีพลิกมือและแก่นธาตุมืดม้วนตัวเป็นเกลียวกลายเป็นรูปงูพันอยู่รอบแขนบีบี  มันส่งเสียงขู่ฟ่อราวกับเป็นของจริง

“นี่คือเคล็ดแก่นธาตุมืด”บีบีพูดอย่างจริงจัง  “เห็นหรือเปล่า?”

“เจ้ารู้เคล็ดนั้นมาตลอดอยู่แล้ว”โอลิเวอร์หัวเราะ

ร่างของบีบีกระพริบวูบวาบและในทันใดนั้นร่างมายาของบีบีหลายสิบร่างปรากฏในห้องโดยสารทุกคนยังคงสงบใจเย็น  พวกเขาทุกคนรู้ว่าบีบีมีวิชาร่างเงาร่างมายา

“ฮึ่ม..”

บีบีแค่นเสียงเย็นชาทันที

เงาคล้ายหนวดปลาหมึกผุดออกมาจากร่างของบีบีในทันใดนั้นบีบีกลายสภาพเป็นเหมือนกับปลาหมึก พื้นที่รอบๆตัวเขาเต็มไปด้วยหนวดปลาหมึกยาวเย็นเฉียบรังสีดำที่เปล่งออกมานั้นนับว่าประหลาดอย่างยิ่ง

ลินลี่ย์ประหลาดใจและทุกคนตกตะลึง

กฎธรรมชาติธาตุมืด- เคล็ดพลังปีศาจ

“นั่นคือเคล็ดที่สาม  นี่คือเคล็ดที่สี่”  ร่างของบีบีกระพริบและหนวดปลาหมึกปีศาจหายไป บีบีเหยียดแขนขวาออกไป จากจุดนั้นมีวังวนสีดำปรากฏซึ่งดูเหมือนจะกลืนกินทุกอย่างรอบตัวได้  มันกลืนกินได้แม้กระทั่งแสงพื้นที่มืดมิดขยายใหญ่ขึ้น

กฎธาตุมืด- เคล็ดกลืนกิน

ทุกคนในห้องโดยสารพูดไม่ออก โอลิเวอร์เองจนบัดนี้เชี่ยวชาญเพียงสองเคล็ดความมืดและตอนนี้กำลังจะบรรลุเคล็ดที่สาม สำหรับไดลินเชี่ยวชาญเพียงสามเคล็ด และตอนนี้กำลังฝึกเคล็ดที่สี่

แต่บีบีฝึกได้รวดเร็วกว่าพวกเขาจริงๆ

“เป็นแบบนี้ไปได้ยังไง?”

“ฮึ่ม... พวกท่านไม่เชื่อข้า..บีบีจริงๆด้วย  ข้าขอบอกเลยนะ เป็นไปได้ว่าพรุ่งนี้ข้าอาจบรรลุเคล็ดที่ห้าก็เป็นได้”  บีบีถอดหมวกฟางและเชิดหน้าอย่างลำพอง

“บีบี!นี่มันอะไรกัน?”  ลินลี่ย์มึนงงไปหมด

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด