ตอนที่ 16-29 มิอาจจากไปได้!
“กับดัก!”
ลินลี่ย์รู้สึกหัวใจเย็นเฉียบ
“โกหกคำโต!” ลินลี่ย์เริ่มสั่น
เทียมเทพเทพแท้ เทพชั้นสูง กล่าวโดยทั่วไปทุกคนที่สามารถเอาชนะร้อยศึกได้ล้วนมีศักยภาพสูงและมีความสามารถพิเศษบางอย่าง! นอกจากนี้หลังจากมาถึงปราสาทเฮนด์ซีย์แล้วพวกเขาต้องถูกทดสอบเพียงแต่หลังจากที่ศักยภาพของพวกเขาผ่านคุณสมบัติได้ พวกเขาจะได้รับอนุญาตให้อยู่ ขณะที่คนอื่นจะถูกขับออกไป
“พวกที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ต่อล้วนมีศักยภาพพิเศษ”
“เดี๋ยวก่อน! ถ้าเป็นอย่างนั้นเราจะอธิบายเรื่องของไดลินยังไง?” ลินลี่ย์อิงเหตุการณ์ต่างๆและความจริงที่ว่าไดลินและทารอสเลือกอยู่ฝ่ายตระกูลแบ็คชอว์ก็เป็นที่แน่นอนว่าไดลินก็ถูกควบคุมด้วยเช่นกัน
ลินลี่ย์นึกถึงความเป็นไปได้ทันที...
“ไม่ใช่แค่คนที่ผ่านการทดสอบเท่านั้นที่ถูกควบคุมวิญญาณ ต่อให้พวกเขาไม่ผ่านก็มีแนวโน้มว่าจะถูกควบคุมด้วย เพียงแต่บริวารคนอื่นจะเป็นผู้ทำแทน” ลินลี่ย์เข้าใจเรื่องนี้ ที่สำคัญคือผู้ชนะร้อยศึกจะเป็นผู้อ่อนแอได้ยังไง
ทหารยิ่งมากก็ยิ่งดีเพราะเป็นหนึ่งในกองทัพ
เมื่อไตร่ตรองจากมุมมองนี้ของเจ้าปราสาทเฮนด์ซีย์แล้วเขาเข้าใจทันที “ที่มีการทดสอบมีแนวโน้มว่าจะแบ่งคนตามกำลังอำนาจ หลังจากพิจารณาว่าฝ่ายตรงข้ามมีพลังเพียงไหนพวกเขาจะรู้ระดับของยอดฝีมือที่จำเป็นต้องควบคุมผู้นั้น” ยิ่งมีพลังมากพวกเขาก็ยากจะควบคุม
สำหรับอสูรเจ็ดดาวอย่างโรมิโอ คงยากจะควบคุมเขาได้เช่นกัน
“โรมิโอกับข้าไม่จำเป็นต้องทดสอบเลยแม้แต่น้อย นี่หมายความว่า...เป็นไปได้ว่าเจ้าปราสาทผู้นี้ที่เรียกกันว่าท่านแม่ทัพคงจะจัดการกับเราเป็นการส่วนตัว” เมื่อคิดถึงเรื่องนี้แล้วลินลี่ย์อดนึกตกใจกลัวไม่ได้ แม้แต่เกาะมิลัวร์ก็ยังมีผู้อาวุโสชุดแดงสองสามคน
ภายในปราสาทเฮนด์ซีย์ มีอสูรหกดาวและเจ็ดดาวมากมาย
“แม้ว่าอสูรเจ็ดดาวก็ยังถูกควบคุมได้ง่าย อย่างนั้นพลังของผู้บัญชาการนี้ล่ะ...?” ลินลี่ย์ขมวดคิ้วสำหรับท่านแม่ทัพที่สามารถควบคุมอสูรเจ็ดดาวก็มีความหมายอย่างเดียวคือ...คนผู้นี้ทรงพลังในด้านวิญญาณ
แต่สิ่งที่ลินลี่ย์กลัวที่สุด...
ก็คือยอดฝีมือนี้เชี่ยวชาญทักษะโจมตีวิญญาณ!
“เมื่อข้าเผชิญหน้ากับเจ้าปราสาท ข้าจะไม่สามารถต่อต้านได้แม้แต่น้อย เป็นไปได้ไหมว่าข้าจะต้องใช้พลังมหาเทพของข้า?” ลินลี่ย์คิดย้อนไปถึงวิธีที่แบ็ควิลประมุขตระกูลใช้หยดพลังมหาเทพวิถีทำลายล้างของตระกูลเขาเอง “เจ้าปราสาทผู้นี้เห็นได้ชัดว่าเป็นอำนาจที่แท้จริงที่หนุนหลังตระกูลแบ็คชอว์ แม้แต่แบ็ควิลก็มีพลังมหาเทพ...และเจ้าปราสาทจะไม่มีได้ยังไง?”
“คนที่สามารถปล่อยให้เกาะมิลัวร์ยืนหยัดด้วยความพอใจและเป็นอิสระในแดนนรก...พลังอำนาจที่เจ้าปราสาทนี้มีอยู่ในระดับที่ข้าไม่สามารถรับมือได้”
ลินลี่ย์ได้บทสรุปทันที....
“หนี!”
เขาต้องหนี!
ลินลี่ย์หันไปมองทางหน้าต่าง แกนมอร์ตินตอนนี้พักอยู่ในห้องของเขา แกนมอร์ตินในตอนนี้มีแต่เพียงร่างแยกธาตุน้ำเป็นเรื่องง่ายที่ลินลี่ย์จะฆ่าแกนมอร์ติน
“ไม่สามารถฆ่าเขาได้! ถ้าข้าฆ่าเขา ก็จะดึงดูดความสนใจและพวกเขาจะต้องจับตามองข้าอย่างใกล้ชิดแน่นอน ถ้าข้าต้องการจะจากไป จะเป็นเรื่องที่ยากมาก” ลินลี่ย์หลังจากเข้าใจเช่นนี้ ไม่อาจรั้งอยู่เพื่อรอความตายได้
เขาต้องรีบหนี!
“แค่คิดว่าตัวเองโชคดีก็พอ” ลินลี่ย์ชำเลืองมองหน้าต่างจากนั้นใช้เคล็ดเดินดินเข้าไปในพื้นทันที
หลังจากได้บทสรุปเช่นนี้ ลินลี่ย์ลอบตกใจเกี่ยวกับสิ่งที่เขารู้... การวิเคราะห์ของเขาถูกต้องเกือบ 99% ไม่ว่าสถานที่นี้จะมีบันทึกยอดฝีมือหรือไม่ เขามิอาจรั้งอยู่ได้!
คนที่ถูกควบคุมวิญญาณ มีชะตาแย่ยิ่งกว่าตาย!
บนกำแพงเมืองมีป้อมสูงสี่สิบเมตรมีทหารเกราะดำจำนวนมากยืนรักษาการณ์บางครั้งก็มีนักรบชุดแดงปนอยู่บ้างสถานที่นี้มีการป้องกันยิ่งกว่าสถานที่อื่นที่ลินลี่ย์เคยพบเห็น
ทหารเกราะดำทุกคนต่างพากันเงียบ ไม่มีใครกล้าส่งเสียง
อย่างไรก็ตามทหารชุดคลุมแดงจะพูดบ้างเป็นบางครั้งเหมือนกับว่ารู้สึกผ่อนคลายมาก
“ผู้ชนะสนามประลองแต่ละครั้งจะถูกส่งมาที่นี่เราจึงต้องมาประจำการและลาดตระเวน” นักรบชุดแดงเดินเคียงไหล่สนทนาและหัวเราะอย่างผ่อนคลาย
“ความจริง เราทั้งหมดก็สามารถจับใครก็ได้ที่ถูกพบว่ากำลังหนี งานที่แท้จริงคือกำกับดูแลไม่ใช่เรื่องที่เราต้องกังวลเลย เจ้าสิ่งนั้นอยู่ตรงนั้นไง” หนึ่งในนักรบชุดแดงชี้ไปที่ใจกลางเมือง
“เจ้ากำลังพูดถึงหัวใจธาตุน้ำหรือ?”
“ปกติ หัวใจธาตุน้ำจะควบคุมน้ำโดยรอบพื้นที่นี้อย่างกว้างขวาง ถ้ามีใครกล้าออกไปจากอาณาบริเวณของเรา หัวใจธาตุน้ำก็จะตรวจสอบได้ง่ายจากนั้นเราก็แค่ลงมือ” พวกนักรบตรวจการณ์อย่างผ่อนคลาย
เป็นไปไม่ได้ที่ใครจะแอบหนีไป!
บุกฝ่าหนีไปหรือ? นั่นขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาแข็งแกร่งพอ ถ้าพวกเขาแข็งแกร่งพอ ทหารลาดตระเวน ก็คงต้องตาย
แต่ทันใดนั้น...
กำแพงเมืองขนาดใหญ่เรืองแสงสีรุ้งและแสงหลากสีกระพริบสองครั้ง นักรบที่ประจำการณ์เริ่มตื่นตัวกันหมดทันที
“มีคนกำลังหนี!”
นักรบชุดดำหลายสิบคนและนักรบชุดคลุมแดงบินตรงมายังตำแหน่งที่ถูกรบกวน เห็นได้ชัดว่าพวกเขาสามารถบอกได้ว่าคนที่บุกฝ่าออกไปก็คือ
ผู้อาวุโสชุดแดงลินลี่ย์!
“แย่จริงกำแพงเมืองรายรอบหลายสิบกิโลเมตรถูกปกป้องโดยวงเวทขนาดใหญ่หรือนี่? และดูเหมือนจะมีพลังธาตุทั้งหมดด้วย?” ลินลี่ย์จ้องมองกำแพงเมืองที่กระพริบแสงเป็นรูปอักษรรูนหลากสีสัน เขาถึงกับเลียริมฝีปาก
เขาไม่สามารถหนีได้
ตอนนี้ ทหารเกราะดำจำนวนมากกำลังจ้องมองมาทางด้านนี้ยอดฝีมือชุดแดงลอยลงมาจากอากาศด้วยเช่นกัน
“ผู้อาวุโสชุดแดง?” นักรบชุดแดงเหล่านี้ตกใจ และจากนั้นหนึ่งในนั้นพูดด้วยเสียงกึกก้อง “เจ้ากล้าหลบหนีหรือ? ฮึ!”
ลินลี่ย์ชำเลืองมองดูนักรบชุดแดง ก่อนนี้ระหว่างทดสอบลินลี่ย์เห็นพลังโจมตีของนักรบชุดแดง พวกเขามีพลังระดับอสูรหกดาว “กลุ่มอสูรหกดาว?” ลินลี่ย์ฝืนหัวเราะให้ตนเอง
ไม่มีทางที่เขาจะบุกฝ่าหลบหนีได้อีกต่อไป
“ข้าลินลี่ย์เป็นผู้อาวุโสชุดแดงแห่งตระกูลแบ็คชอว์! ข้ามีเรื่องสำคัญที่ข้าต้องกลับไปจัดการเดี๋ยวนี้และไม่ต้องการรบกวนพวกท่าน ทีนี้โปรดหลีกทางให้ข้ากลับไปที่เกาะมิลัวร์ด้วย” เสียงของลินลี่ย์ดังขึ้น
หัวหน้านักรบชุดแดงพูดอย่างใจเย็น “โอว, ผู้อาวุโสลินลี่ย์?กฎของปราสาทเฮนด์ซีย์ของเรา เว้นแต่ได้รับการอนุญาตจากเราคนภายนอกไม่ได้รับอนุญาตให้จากไป”
“ข้ามีเรื่องสำคัญบางอย่างจำเป็นต้องทำ” ลินลี่ย์พูดอย่างไม่พอใจ
“ได้โปรด, ผู้อาวุโสลินลี่ย์ โปรดรอสักเดี๋ยว” หนึ่งในนักรบชุดแดงกล่าว “ถ้าท่านต้องการบุกฝ่าออกไปอย่างนั้นอย่าได้ตำหนิเรา” ความจริงนักรบชุดแดงนี้ เมื่อเห็นว่าเป็นผู้อาวุโสชุดแดงของตระกูลแบ็คชอว์ก็ไม่ต้องการโจมตีเช่นกัน
ทั้งนี้เป็นเพราะผู้อาวุโสชุดแดงล้วนแต่เป็นอสูรเจ็ดดาวทั้งหมด
เมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้นกลุ่มของพวกเขาอาจได้รับชัยชนะจากจำนวนคนที่มากกว่า แต่จะเป็นชัยชนะที่แลกมาด้วยความสูญเสีย
ลินลี่ย์โกรธ “ไม่ต้องมาทำเป็นเคร่งครัด ไม่ต้องมาทำพูดดี ถ้าข้าพยายามบุกฝ่าออกไป เป็นไปได้ว่ายอดฝีมือทั้งจากปราสาทก็คือโผล่หัวออกมาแน่”
“ลินลี่ย์, ทำไมเจ้าถึงรีบร้อนออกไปอย่างนั้น?” เสียงคุ้นหูดังขึ้น ลินลี่ย์หันไปเห็นชายชราผมขาวเกราะแดงกำลังบินออกมา นั่นคือยอดฝีมือที่ชื่อว่ายูไรห์นั่นเอง
ยูไรห์หัวเราะพลางมองดูลินลี่ย์ “ลินลี่ย์! เจ้ายังไม่ได้เข้าไปดูที่ห้องลับที่หนึ่งก่อนเลย”
“ท่านยูไรห์” ลินลี่ย์รีบกล่าว “ไม่มีอะไรที่ข้าทำได้เมื่อครู่นี้ข้าได้รับข่าวผ่านพลังวิญญาณจากบริวารของข้า ข้ามีเรื่องสำคัญที่ต้องทำจริงๆและข้าจะต้องจากไป สำหรับการดูที่ห้องลับที่หนึ่งข้าจะกลับมาทันพรุ่งนี้ได้ยังไง?”
“โอว?” ยูไรห์ขมวดคิ้ว
“มีเหตุผล” ยูไรห์หัวเราะ “ลินลี่ย์,เนื่องจากว่าเจ้ามีงานสำคัญจะต้องไปจัดการ...”
ลินลี่ย์ใจเต้นแรง
“อย่างนั้นข้าจะไม่บังคับให้เจ้าอยู่ อย่างไรก็ตามข้าได้รายงานการมาถึงของเจ้าให้ท่านเจ้าปราสาทรับทราบแล้วข้าไม่มีอำนาจปล่อยให้เจ้าจากไป เอาอย่างนี้เป็นไง เจ้ารออยู่นี่สักระยะหนึ่งข้าจะไปรายงานท่านเจ้าปราสาท ข้าเชื่อว่าเขาจะไม่สร้างความลำบากใจให้เจ้า” ยูไรห์หัวเราะ
“ขอโทษที่ต้องรบกวนท่านยูไรห์” ลินลี่ย์กล่าว
ยูไรห์หัวเราะอย่างใจเย็น จากนั้นบินจากไป
ลินลี่ย์มีสีหน้าสลด “ขอเจ้าปราสาทก่อนหรือ? นี่แหละคือเรื่องยุ่งยาก!” ลินลี่ย์ชำเลืองมองดูรอบๆ มียอดฝีมือชุดแดงจ้องมองดูเขาและบนกำแพงก็มีนักรบเกราะดำมองดูอยู่เช่นกัน
“ปราสาทเฮนด์ซีย์มียอดฝีมืออยู่เท่าใดกันแน่?” ลินลี่ย์จนใจ
เดิมทีในเมืองรอยัลวิง แม้แต่อสูรหกดาวก็ยังหาได้ยากเย็นขณะที่อสูรเจ็ดดาว มิใช่จะพบเห็นได้ทั่วไปเนื่องจากปกติพวกเขาจะซ่อนตัวอยู่ทั่วแดนนรก แต่ปราสาทเฮนด์ซีย์นี้เต็มไปด้วยอสูรหกดาวและมีแม้แต่อสูรเจ็ดดาวและดูเหมือนว่าเจ้าปราสาทก็ทรงพลังเช่นกัน
ครู่ต่อมา
“เอ๊ะ?” สีหน้าของลินลี่ย์เปลี่ยน
จากที่ไกล ยูไรห์นำกลุ่มยอดฝีมือชุดแดงสองสามคนบินเข้ามาหาและมียอดฝีมือในชุดดำอย่างโรมิโออยู่ในกลุ่มนั้นด้วย!
“เกราะแดง,ชุดคลุมแดง? อีกสองคนดูเหมือนจะมีสถานะเท่ากับยูไรห์ มีแนวโน้มว่าพวกเขามาที่นี่เพื่อป้องกันไม่ให้หนี แต่...ทำไมพวกเขาจึงพาโรมิโอมาด้วย?” ลินลี่ย์สงสัย แต่โรมิโอที่ยากจะมีรอยยิ้ม กลับมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้า
“ท่านยูไรห์ ท่านมีข่าวแล้วหรือ?” ลินลี่ย์พูดอย่างชัดเจน
ยูไรห์และคนอื่นลงมายืนอยู่ข้างโรมิโอและยูไรห์หัวเราะขึ้น “ข่าวดี ข่าวดีท่านเจ้าปราสาทพิจารณาให้ลินลี่ย์เจ้าอย่างแท้จริง”
ลินลี่ย์ตกใจ เป็นไปได้หรือว่าเขาจะคาดเดาผิด? เจ้าปราสาทจะกรุณาปล่อยให้เขาไป
“เมื่อเขารู้ว่าลินลี่ย์เจ้ามีเรื่องสำคัญต้องไปจัดการ เขาเห็นด้วยที่จะให้เจ้ากับโรมิโอได้เข้าไปชมดูห้องลับแรกเร็วขึ้น” ยูไรห์หัวเราะ
ลินลี่ย์อดแสดงออกทางสีหน้าไม่ได้
“ลินลี่ย์ เนื่องจากเจ้าอุตส่าห์รอข้าอยู่ที่นี่ เจ้าก็คงมีเวลาพอไปชมดูห้องลับแรกและตรวจดูด้วยสำนึกเทพของเจ้าก็ได้ใช่ไหม?” ยูไรห์หัวเราะ ยอดฝีมือเกราะแดงอีกสองคนก็หัวเราะเช่นกันขณะมองดูลินลี่ย์
แต่ลินลี่ย์รู้สึกหวาดกลัวถึงกระดูกจากการจ้องมองของพวกเขา
“เอาล่ะ งั้นเราจะไปดูห้องลับแรกกัน” นี่เป็นสิ่งที่ลินลี่ย์สามารถพูดได้
ยูไรห์หัวเราะทันที ทั้งสามคนนำลินลี่ย์และโรมิโอไปที่ใจกลางปราสาทเฮนด์ซีย์ มีทางสี่แยกตัดขวางมากมายและทหารตรวจการณ์มีให้พบเห็นได้ทุกที่ คนภายนอกยากจะก้าวเข้ามาในที่นี่สักก้าว แต่เนื่องจากลินลี่ย์ติดตามยูไรห์เขาจึงไม่ถูกห้ามหรือขัดขวางเลย
“โรมิโอ เจ้าต้องขอบคุณลินลี่ย์นะ ถ้าไม่ใช่เพราะเขา เจ้าอาจต้องรอจนถึงพรุ่งนี้ก่อนที่เจ้าจะได้เข้าห้องลับ” ยูไรห์หัวเราะ
โรมิโอยากจะมีรอยยิ้มปรากฏอยู่บนใบหน้า เห็นได้ชัดว่าเขาอยู่ในอารมณ์ที่ยอดเยี่ยมเนื่องจากมีโอกาสจะได้เห็นบันทึกการต่อสู้ของสุดยอดฝีมือ
“ลินลี่ย์ นี่เป็นเรื่องยากนะที่ท่านเจ้าปราสาทจะอนุญาตให้เจ้าได้เข้าห้องความลับเร็วขึ้น”ยูไรห์กล่าวกับลินลี่ย์
“ถูกแล้ว ความจริงข้าต้องขอบคุณท่านเจ้าปราสาท” ลินลี่ย์ปากพูดแต่ในใจกลับพร่ำสบถไม่หยุดหย่อน เจ้าปราสาทนั้นเห็นได้ชัดว่าไม่มีความตั้งใจดี
ขณะที่เดินไปตามทาง ลินลี่ย์ให้ความสนใจรอบตัวเขา
แต่ยิ่งพวกเขาเดินลึกเข้าไปในใจกลางพื้นที่ก็ยิ่งมีทหารประจำการมาก และนอกจากนี้เขายังมียอดฝีมือสามคนรายล้อม
คิดหนีหรือ?
ยาก!
“ครืนนนน!” ประตูใหญ่เต็มไปด้วยรอยสลักอักษรรูนเปิดออกเผยให้เห็นทางเดินภายในและสองข้างทางเดินมีรูปแกะสลัก ลินลี่ย์และคนอื่นเริ่มเดินเข้าไปที่ท้ายทางเดิน
ลินลี่ย์ไม่มีเวลาจะเพลิดเพลินกับประติมากรรม
ขณะที่พวกเขาไปถึงที่ห้องบัลลังก์ท้ายทางเดินยูไรห์เดินไปที่ด้านหนึ่งของห้องบัลลังก์และเปิดทางเดินกว้างลึกลับทางเดินนั้นสร้างจากศิลาสีเลือดและเปล่งกลิ่นอายแห่งความตายที่สั่นสะท้านใจ
“ช่างลึกลับจริงๆ” ลินลี่ย์ขมวดคิ้ว
โรมิโอก็ขมวดคิ้วเช่นกันสตรีผมขาวที่อยู่ข้างยูไรห์หัวเราะและกล่าว “นี่คือที่เก็บผลึกบันทึกการต่อสู้ไว้ ปกติจะค่อนข้างลึกลับ พวกเจ้าสองคนตามข้ามา” ขณะที่นางกล่าว นางเดินนำเข้าไปก่อน
ลินลี่ย์และโรมิโอเดินตามพวกเขาเข้าไป ขณะที่ยูไรห์และคนอื่นๆ เดินตามหลัง
ในที่สุดของอุโมงค์ พวกเขาไปถึงประตูที่มีลวดลายสีดำขอบสีแดง
“เรียนนายท่าน!, โรมิโอกับลินลี่ย์มาถึงที่นี่แล้ว”ยูไรห์เรียนด้วยความเคารพ ขณะที่คนอื่นก็คำนับด้วยความเคารพเช่นกัน
โรมิโอเลิกคิ้ว “มีคนอื่นอยู่ข้างในหรือ?”
“สถานที่สำคัญอย่างนี้ย่อมได้รับการดูแลอย่างดีเป็นธรรมดา” ยูไรห์หัวเราะขณะอธิบาย ลินลี่ย์หรี่ตาขณะรำพึงกับตัวเอง“ดูเหมือนคนที่ถูกเรียกว่า ‘นายท่าน’ นี้จะเป็นเจ้าปราสาท”
“ดีแล้วให้โรมิโอเข้ามาดูเป็นคนแรก” เสียงสุภาพดังมาจากภายในประตู ทันใดนั้นประตูใหญ่เปิดออกเล็กน้อยเผยให้เห็นรอยแง้มพอให้คนเดียวผ่านเข้าไปได้
“โรมิโอ เชิญเข้าไปได้” ยูไรห์และอีกสองคนมองดูโรมิโอ
โรมิโอเป็นยอดฝีมือที่กล้าหาญอยู่แล้ว เขาเตรียมเข้าไปทันที แต่ลินลี่ย์กระแอมเบาๆ จากนั้นรีบส่งสำนึกเทพ“โรมิโอ, ระวังไว้ คนที่อยู่ภายในห้องมีแนวโน้มจะกระทำการไม่ดีต่อท่าน ระวังการโจมตีวิญญาณของเขา”
โรมิโอชำเลืองมองลินลี่ย์ด้วยความประหลาดใจแต่จากนั้นก็หัวเราะและเข้าไปอยู่ดี
“ไม่ว่าจะเป็นจริงหรือไม่ ข้าขอบคุณเจ้า! ถ้าคนภายในโจมตีจริงๆข้าก็มีความสุขจริงๆ” เสียงโรมิโอดังขึ้นในใจของลินลี่ย์ขณะที่เขาเข้าไปในประตู
“ปัง!” เสียงประตูปิดดังขึ้นทันที
เล่ม 16 ทะเลสตาร์มิสท์ - ตอนที่ 29 มิอาจจากไปได้!
“กับดัก!”
ลินลี่ย์รู้สึกหัวใจเย็นเฉียบ
“โกหกคำโต!” ลินลี่ย์เริ่มสั่น
เทียมเทพเทพแท้ เทพชั้นสูง กล่าวโดยทั่วไปทุกคนที่สามารถเอาชนะร้อยศึกได้ล้วนมีศักยภาพสูงและมีความสามารถพิเศษบางอย่าง! นอกจากนี้หลังจากมาถึงปราสาทเฮนด์ซีย์แล้วพวกเขาต้องถูกทดสอบเพียงแต่หลังจากที่ศักยภาพของพวกเขาผ่านคุณสมบัติได้ พวกเขาจะได้รับอนุญาตให้อยู่ ขณะที่คนอื่นจะถูกขับออกไป
“พวกที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ต่อล้วนมีศักยภาพพิเศษ”
“เดี๋ยวก่อน! ถ้าเป็นอย่างนั้นเราจะอธิบายเรื่องของไดลินยังไง?” ลินลี่ย์อิงเหตุการณ์ต่างๆและความจริงที่ว่าไดลินและทารอสเลือกอยู่ฝ่ายตระกูลแบ็คชอว์ก็เป็นที่แน่นอนว่าไดลินก็ถูกควบคุมด้วยเช่นกัน
ลินลี่ย์นึกถึงความเป็นไปได้ทันที...
“ไม่ใช่แค่คนที่ผ่านการทดสอบเท่านั้นที่ถูกควบคุมวิญญาณ ต่อให้พวกเขาไม่ผ่านก็มีแนวโน้มว่าจะถูกควบคุมด้วย เพียงแต่บริวารคนอื่นจะเป็นผู้ทำแทน” ลินลี่ย์เข้าใจเรื่องนี้ ที่สำคัญคือผู้ชนะร้อยศึกจะเป็นผู้อ่อนแอได้ยังไง
ทหารยิ่งมากก็ยิ่งดีเพราะเป็นหนึ่งในกองทัพ
เมื่อไตร่ตรองจากมุมมองนี้ของเจ้าปราสาทเฮนด์ซีย์แล้วเขาเข้าใจทันที “ที่มีการทดสอบมีแนวโน้มว่าจะแบ่งคนตามกำลังอำนาจ หลังจากพิจารณาว่าฝ่ายตรงข้ามมีพลังเพียงไหนพวกเขาจะรู้ระดับของยอดฝีมือที่จำเป็นต้องควบคุมผู้นั้น” ยิ่งมีพลังมากพวกเขาก็ยากจะควบคุม
สำหรับอสูรเจ็ดดาวอย่างโรมิโอ คงยากจะควบคุมเขาได้เช่นกัน
“โรมิโอกับข้าไม่จำเป็นต้องทดสอบเลยแม้แต่น้อย นี่หมายความว่า...เป็นไปได้ว่าเจ้าปราสาทผู้นี้ที่เรียกกันว่าท่านแม่ทัพคงจะจัดการกับเราเป็นการส่วนตัว” เมื่อคิดถึงเรื่องนี้แล้วลินลี่ย์อดนึกตกใจกลัวไม่ได้ แม้แต่เกาะมิลัวร์ก็ยังมีผู้อาวุโสชุดแดงสองสามคน
ภายในปราสาทเฮนด์ซีย์ มีอสูรหกดาวและเจ็ดดาวมากมาย
“แม้ว่าอสูรเจ็ดดาวก็ยังถูกควบคุมได้ง่าย อย่างนั้นพลังของผู้บัญชาการนี้ล่ะ...?” ลินลี่ย์ขมวดคิ้วสำหรับท่านแม่ทัพที่สามารถควบคุมอสูรเจ็ดดาวก็มีความหมายอย่างเดียวคือ...คนผู้นี้ทรงพลังในด้านวิญญาณ
แต่สิ่งที่ลินลี่ย์กลัวที่สุด...
ก็คือยอดฝีมือนี้เชี่ยวชาญทักษะโจมตีวิญญาณ!
“เมื่อข้าเผชิญหน้ากับเจ้าปราสาท ข้าจะไม่สามารถต่อต้านได้แม้แต่น้อย เป็นไปได้ไหมว่าข้าจะต้องใช้พลังมหาเทพของข้า?” ลินลี่ย์คิดย้อนไปถึงวิธีที่แบ็ควิลประมุขตระกูลใช้หยดพลังมหาเทพวิถีทำลายล้างของตระกูลเขาเอง “เจ้าปราสาทผู้นี้เห็นได้ชัดว่าเป็นอำนาจที่แท้จริงที่หนุนหลังตระกูลแบ็คชอว์ แม้แต่แบ็ควิลก็มีพลังมหาเทพ...และเจ้าปราสาทจะไม่มีได้ยังไง?”
“คนที่สามารถปล่อยให้เกาะมิลัวร์ยืนหยัดด้วยความพอใจและเป็นอิสระในแดนนรก...พลังอำนาจที่เจ้าปราสาทนี้มีอยู่ในระดับที่ข้าไม่สามารถรับมือได้”
ลินลี่ย์ได้บทสรุปทันที....
“หนี!”
เขาต้องหนี!
ลินลี่ย์หันไปมองทางหน้าต่าง แกนมอร์ตินตอนนี้พักอยู่ในห้องของเขา แกนมอร์ตินในตอนนี้มีแต่เพียงร่างแยกธาตุน้ำเป็นเรื่องง่ายที่ลินลี่ย์จะฆ่าแกนมอร์ติน
“ไม่สามารถฆ่าเขาได้! ถ้าข้าฆ่าเขา ก็จะดึงดูดความสนใจและพวกเขาจะต้องจับตามองข้าอย่างใกล้ชิดแน่นอน ถ้าข้าต้องการจะจากไป จะเป็นเรื่องที่ยากมาก” ลินลี่ย์หลังจากเข้าใจเช่นนี้ ไม่อาจรั้งอยู่เพื่อรอความตายได้
เขาต้องรีบหนี!
“แค่คิดว่าตัวเองโชคดีก็พอ” ลินลี่ย์ชำเลืองมองหน้าต่างจากนั้นใช้เคล็ดเดินดินเข้าไปในพื้นทันที
หลังจากได้บทสรุปเช่นนี้ ลินลี่ย์ลอบตกใจเกี่ยวกับสิ่งที่เขารู้... การวิเคราะห์ของเขาถูกต้องเกือบ 99% ไม่ว่าสถานที่นี้จะมีบันทึกยอดฝีมือหรือไม่ เขามิอาจรั้งอยู่ได้!
คนที่ถูกควบคุมวิญญาณ มีชะตาแย่ยิ่งกว่าตาย!
บนกำแพงเมืองมีป้อมสูงสี่สิบเมตรมีทหารเกราะดำจำนวนมากยืนรักษาการณ์บางครั้งก็มีนักรบชุดแดงปนอยู่บ้างสถานที่นี้มีการป้องกันยิ่งกว่าสถานที่อื่นที่ลินลี่ย์เคยพบเห็น
ทหารเกราะดำทุกคนต่างพากันเงียบ ไม่มีใครกล้าส่งเสียง
อย่างไรก็ตามทหารชุดคลุมแดงจะพูดบ้างเป็นบางครั้งเหมือนกับว่ารู้สึกผ่อนคลายมาก
“ผู้ชนะสนามประลองแต่ละครั้งจะถูกส่งมาที่นี่เราจึงต้องมาประจำการและลาดตระเวน” นักรบชุดแดงเดินเคียงไหล่สนทนาและหัวเราะอย่างผ่อนคลาย
“ความจริง เราทั้งหมดก็สามารถจับใครก็ได้ที่ถูกพบว่ากำลังหนี งานที่แท้จริงคือกำกับดูแลไม่ใช่เรื่องที่เราต้องกังวลเลย เจ้าสิ่งนั้นอยู่ตรงนั้นไง” หนึ่งในนักรบชุดแดงชี้ไปที่ใจกลางเมือง
“เจ้ากำลังพูดถึงหัวใจธาตุน้ำหรือ?”
“ปกติ หัวใจธาตุน้ำจะควบคุมน้ำโดยรอบพื้นที่นี้อย่างกว้างขวาง ถ้ามีใครกล้าออกไปจากอาณาบริเวณของเรา หัวใจธาตุน้ำก็จะตรวจสอบได้ง่ายจากนั้นเราก็แค่ลงมือ” พวกนักรบตรวจการณ์อย่างผ่อนคลาย
เป็นไปไม่ได้ที่ใครจะแอบหนีไป!
บุกฝ่าหนีไปหรือ? นั่นขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาแข็งแกร่งพอ ถ้าพวกเขาแข็งแกร่งพอ ทหารลาดตระเวน ก็คงต้องตาย
แต่ทันใดนั้น...
กำแพงเมืองขนาดใหญ่เรืองแสงสีรุ้งและแสงหลากสีกระพริบสองครั้ง นักรบที่ประจำการณ์เริ่มตื่นตัวกันหมดทันที
“มีคนกำลังหนี!”
นักรบชุดดำหลายสิบคนและนักรบชุดคลุมแดงบินตรงมายังตำแหน่งที่ถูกรบกวน เห็นได้ชัดว่าพวกเขาสามารถบอกได้ว่าคนที่บุกฝ่าออกไปก็คือ
ผู้อาวุโสชุดแดงลินลี่ย์!
“แย่จริงกำแพงเมืองรายรอบหลายสิบกิโลเมตรถูกปกป้องโดยวงเวทขนาดใหญ่หรือนี่? และดูเหมือนจะมีพลังธาตุทั้งหมดด้วย?” ลินลี่ย์จ้องมองกำแพงเมืองที่กระพริบแสงเป็นรูปอักษรรูนหลากสีสัน เขาถึงกับเลียริมฝีปาก
เขาไม่สามารถหนีได้
ตอนนี้ ทหารเกราะดำจำนวนมากกำลังจ้องมองมาทางด้านนี้ยอดฝีมือชุดแดงลอยลงมาจากอากาศด้วยเช่นกัน
“ผู้อาวุโสชุดแดง?” นักรบชุดแดงเหล่านี้ตกใจ และจากนั้นหนึ่งในนั้นพูดด้วยเสียงกึกก้อง “เจ้ากล้าหลบหนีหรือ? ฮึ!”
ลินลี่ย์ชำเลืองมองดูนักรบชุดแดง ก่อนนี้ระหว่างทดสอบลินลี่ย์เห็นพลังโจมตีของนักรบชุดแดง พวกเขามีพลังระดับอสูรหกดาว “กลุ่มอสูรหกดาว?” ลินลี่ย์ฝืนหัวเราะให้ตนเอง
ไม่มีทางที่เขาจะบุกฝ่าหลบหนีได้อีกต่อไป
“ข้าลินลี่ย์เป็นผู้อาวุโสชุดแดงแห่งตระกูลแบ็คชอว์! ข้ามีเรื่องสำคัญที่ข้าต้องกลับไปจัดการเดี๋ยวนี้และไม่ต้องการรบกวนพวกท่าน ทีนี้โปรดหลีกทางให้ข้ากลับไปที่เกาะมิลัวร์ด้วย” เสียงของลินลี่ย์ดังขึ้น
หัวหน้านักรบชุดแดงพูดอย่างใจเย็น “โอว, ผู้อาวุโสลินลี่ย์?กฎของปราสาทเฮนด์ซีย์ของเรา เว้นแต่ได้รับการอนุญาตจากเราคนภายนอกไม่ได้รับอนุญาตให้จากไป”
“ข้ามีเรื่องสำคัญบางอย่างจำเป็นต้องทำ” ลินลี่ย์พูดอย่างไม่พอใจ
“ได้โปรด, ผู้อาวุโสลินลี่ย์ โปรดรอสักเดี๋ยว” หนึ่งในนักรบชุดแดงกล่าว “ถ้าท่านต้องการบุกฝ่าออกไปอย่างนั้นอย่าได้ตำหนิเรา” ความจริงนักรบชุดแดงนี้ เมื่อเห็นว่าเป็นผู้อาวุโสชุดแดงของตระกูลแบ็คชอว์ก็ไม่ต้องการโจมตีเช่นกัน
ทั้งนี้เป็นเพราะผู้อาวุโสชุดแดงล้วนแต่เป็นอสูรเจ็ดดาวทั้งหมด
เมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้นกลุ่มของพวกเขาอาจได้รับชัยชนะจากจำนวนคนที่มากกว่า แต่จะเป็นชัยชนะที่แลกมาด้วยความสูญเสีย
ลินลี่ย์โกรธ “ไม่ต้องมาทำเป็นเคร่งครัด ไม่ต้องมาทำพูดดี ถ้าข้าพยายามบุกฝ่าออกไป เป็นไปได้ว่ายอดฝีมือทั้งจากปราสาทก็คือโผล่หัวออกมาแน่”
“ลินลี่ย์, ทำไมเจ้าถึงรีบร้อนออกไปอย่างนั้น?” เสียงคุ้นหูดังขึ้น ลินลี่ย์หันไปเห็นชายชราผมขาวเกราะแดงกำลังบินออกมา นั่นคือยอดฝีมือที่ชื่อว่ายูไรห์นั่นเอง
ยูไรห์หัวเราะพลางมองดูลินลี่ย์ “ลินลี่ย์! เจ้ายังไม่ได้เข้าไปดูที่ห้องลับที่หนึ่งก่อนเลย”
“ท่านยูไรห์” ลินลี่ย์รีบกล่าว “ไม่มีอะไรที่ข้าทำได้เมื่อครู่นี้ข้าได้รับข่าวผ่านพลังวิญญาณจากบริวารของข้า ข้ามีเรื่องสำคัญที่ต้องทำจริงๆและข้าจะต้องจากไป สำหรับการดูที่ห้องลับที่หนึ่งข้าจะกลับมาทันพรุ่งนี้ได้ยังไง?”
“โอว?” ยูไรห์ขมวดคิ้ว
“มีเหตุผล” ยูไรห์หัวเราะ “ลินลี่ย์,เนื่องจากว่าเจ้ามีงานสำคัญจะต้องไปจัดการ...”
ลินลี่ย์ใจเต้นแรง
“อย่างนั้นข้าจะไม่บังคับให้เจ้าอยู่ อย่างไรก็ตามข้าได้รายงานการมาถึงของเจ้าให้ท่านเจ้าปราสาทรับทราบแล้วข้าไม่มีอำนาจปล่อยให้เจ้าจากไป เอาอย่างนี้เป็นไง เจ้ารออยู่นี่สักระยะหนึ่งข้าจะไปรายงานท่านเจ้าปราสาท ข้าเชื่อว่าเขาจะไม่สร้างความลำบากใจให้เจ้า” ยูไรห์หัวเราะ
“ขอโทษที่ต้องรบกวนท่านยูไรห์” ลินลี่ย์กล่าว
ยูไรห์หัวเราะอย่างใจเย็น จากนั้นบินจากไป
ลินลี่ย์มีสีหน้าสลด “ขอเจ้าปราสาทก่อนหรือ? นี่แหละคือเรื่องยุ่งยาก!” ลินลี่ย์ชำเลืองมองดูรอบๆ มียอดฝีมือชุดแดงจ้องมองดูเขาและบนกำแพงก็มีนักรบเกราะดำมองดูอยู่เช่นกัน
“ปราสาทเฮนด์ซีย์มียอดฝีมืออยู่เท่าใดกันแน่?” ลินลี่ย์จนใจ
เดิมทีในเมืองรอยัลวิง แม้แต่อสูรหกดาวก็ยังหาได้ยากเย็นขณะที่อสูรเจ็ดดาว มิใช่จะพบเห็นได้ทั่วไปเนื่องจากปกติพวกเขาจะซ่อนตัวอยู่ทั่วแดนนรก แต่ปราสาทเฮนด์ซีย์นี้เต็มไปด้วยอสูรหกดาวและมีแม้แต่อสูรเจ็ดดาวและดูเหมือนว่าเจ้าปราสาทก็ทรงพลังเช่นกัน
ครู่ต่อมา
“เอ๊ะ?” สีหน้าของลินลี่ย์เปลี่ยน
จากที่ไกล ยูไรห์นำกลุ่มยอดฝีมือชุดแดงสองสามคนบินเข้ามาหาและมียอดฝีมือในชุดดำอย่างโรมิโออยู่ในกลุ่มนั้นด้วย!
“เกราะแดง,ชุดคลุมแดง? อีกสองคนดูเหมือนจะมีสถานะเท่ากับยูไรห์ มีแนวโน้มว่าพวกเขามาที่นี่เพื่อป้องกันไม่ให้หนี แต่...ทำไมพวกเขาจึงพาโรมิโอมาด้วย?” ลินลี่ย์สงสัย แต่โรมิโอที่ยากจะมีรอยยิ้ม กลับมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้า
“ท่านยูไรห์ ท่านมีข่าวแล้วหรือ?” ลินลี่ย์พูดอย่างชัดเจน
ยูไรห์และคนอื่นลงมายืนอยู่ข้างโรมิโอและยูไรห์หัวเราะขึ้น “ข่าวดี ข่าวดีท่านเจ้าปราสาทพิจารณาให้ลินลี่ย์เจ้าอย่างแท้จริง”
ลินลี่ย์ตกใจ เป็นไปได้หรือว่าเขาจะคาดเดาผิด? เจ้าปราสาทจะกรุณาปล่อยให้เขาไป
“เมื่อเขารู้ว่าลินลี่ย์เจ้ามีเรื่องสำคัญต้องไปจัดการ เขาเห็นด้วยที่จะให้เจ้ากับโรมิโอได้เข้าไปชมดูห้องลับแรกเร็วขึ้น” ยูไรห์หัวเราะ
ลินลี่ย์อดแสดงออกทางสีหน้าไม่ได้
“ลินลี่ย์ เนื่องจากเจ้าอุตส่าห์รอข้าอยู่ที่นี่ เจ้าก็คงมีเวลาพอไปชมดูห้องลับแรกและตรวจดูด้วยสำนึกเทพของเจ้าก็ได้ใช่ไหม?” ยูไรห์หัวเราะ ยอดฝีมือเกราะแดงอีกสองคนก็หัวเราะเช่นกันขณะมองดูลินลี่ย์
แต่ลินลี่ย์รู้สึกหวาดกลัวถึงกระดูกจากการจ้องมองของพวกเขา
“เอาล่ะ งั้นเราจะไปดูห้องลับแรกกัน” นี่เป็นสิ่งที่ลินลี่ย์สามารถพูดได้
ยูไรห์หัวเราะทันที ทั้งสามคนนำลินลี่ย์และโรมิโอไปที่ใจกลางปราสาทเฮนด์ซีย์ มีทางสี่แยกตัดขวางมากมายและทหารตรวจการณ์มีให้พบเห็นได้ทุกที่ คนภายนอกยากจะก้าวเข้ามาในที่นี่สักก้าว แต่เนื่องจากลินลี่ย์ติดตามยูไรห์เขาจึงไม่ถูกห้ามหรือขัดขวางเลย
“โรมิโอ เจ้าต้องขอบคุณลินลี่ย์นะ ถ้าไม่ใช่เพราะเขา เจ้าอาจต้องรอจนถึงพรุ่งนี้ก่อนที่เจ้าจะได้เข้าห้องลับ” ยูไรห์หัวเราะ
โรมิโอยากจะมีรอยยิ้มปรากฏอยู่บนใบหน้า เห็นได้ชัดว่าเขาอยู่ในอารมณ์ที่ยอดเยี่ยมเนื่องจากมีโอกาสจะได้เห็นบันทึกการต่อสู้ของสุดยอดฝีมือ
“ลินลี่ย์ นี่เป็นเรื่องยากนะที่ท่านเจ้าปราสาทจะอนุญาตให้เจ้าได้เข้าห้องความลับเร็วขึ้น”ยูไรห์กล่าวกับลินลี่ย์
“ถูกแล้ว ความจริงข้าต้องขอบคุณท่านเจ้าปราสาท” ลินลี่ย์ปากพูดแต่ในใจกลับพร่ำสบถไม่หยุดหย่อน เจ้าปราสาทนั้นเห็นได้ชัดว่าไม่มีความตั้งใจดี
ขณะที่เดินไปตามทาง ลินลี่ย์ให้ความสนใจรอบตัวเขา
แต่ยิ่งพวกเขาเดินลึกเข้าไปในใจกลางพื้นที่ก็ยิ่งมีทหารประจำการมาก และนอกจากนี้เขายังมียอดฝีมือสามคนรายล้อม
คิดหนีหรือ?
ยาก!
“ครืนนนน!” ประตูใหญ่เต็มไปด้วยรอยสลักอักษรรูนเปิดออกเผยให้เห็นทางเดินภายในและสองข้างทางเดินมีรูปแกะสลัก ลินลี่ย์และคนอื่นเริ่มเดินเข้าไปที่ท้ายทางเดิน
ลินลี่ย์ไม่มีเวลาจะเพลิดเพลินกับประติมากรรม
ขณะที่พวกเขาไปถึงที่ห้องบัลลังก์ท้ายทางเดินยูไรห์เดินไปที่ด้านหนึ่งของห้องบัลลังก์และเปิดทางเดินกว้างลึกลับทางเดินนั้นสร้างจากศิลาสีเลือดและเปล่งกลิ่นอายแห่งความตายที่สั่นสะท้านใจ
“ช่างลึกลับจริงๆ” ลินลี่ย์ขมวดคิ้ว
โรมิโอก็ขมวดคิ้วเช่นกันสตรีผมขาวที่อยู่ข้างยูไรห์หัวเราะและกล่าว “นี่คือที่เก็บผลึกบันทึกการต่อสู้ไว้ ปกติจะค่อนข้างลึกลับ พวกเจ้าสองคนตามข้ามา” ขณะที่นางกล่าว นางเดินนำเข้าไปก่อน
ลินลี่ย์และโรมิโอเดินตามพวกเขาเข้าไป ขณะที่ยูไรห์และคนอื่นๆ เดินตามหลัง
ในที่สุดของอุโมงค์ พวกเขาไปถึงประตูที่มีลวดลายสีดำขอบสีแดง
“เรียนนายท่าน!, โรมิโอกับลินลี่ย์มาถึงที่นี่แล้ว”ยูไรห์เรียนด้วยความเคารพ ขณะที่คนอื่นก็คำนับด้วยความเคารพเช่นกัน
โรมิโอเลิกคิ้ว “มีคนอื่นอยู่ข้างในหรือ?”
“สถานที่สำคัญอย่างนี้ย่อมได้รับการดูแลอย่างดีเป็นธรรมดา” ยูไรห์หัวเราะขณะอธิบาย ลินลี่ย์หรี่ตาขณะรำพึงกับตัวเอง“ดูเหมือนคนที่ถูกเรียกว่า ‘นายท่าน’ นี้จะเป็นเจ้าปราสาท”
“ดีแล้วให้โรมิโอเข้ามาดูเป็นคนแรก” เสียงสุภาพดังมาจากภายในประตู ทันใดนั้นประตูใหญ่เปิดออกเล็กน้อยเผยให้เห็นรอยแง้มพอให้คนเดียวผ่านเข้าไปได้
“โรมิโอ เชิญเข้าไปได้” ยูไรห์และอีกสองคนมองดูโรมิโอ
โรมิโอเป็นยอดฝีมือที่กล้าหาญอยู่แล้ว เขาเตรียมเข้าไปทันที แต่ลินลี่ย์กระแอมเบาๆ จากนั้นรีบส่งสำนึกเทพ“โรมิโอ, ระวังไว้ คนที่อยู่ภายในห้องมีแนวโน้มจะกระทำการไม่ดีต่อท่าน ระวังการโจมตีวิญญาณของเขา”
โรมิโอชำเลืองมองลินลี่ย์ด้วยความประหลาดใจแต่จากนั้นก็หัวเราะและเข้าไปอยู่ดี
“ไม่ว่าจะเป็นจริงหรือไม่ ข้าขอบคุณเจ้า! ถ้าคนภายในโจมตีจริงๆข้าก็มีความสุขจริงๆ” เสียงโรมิโอดังขึ้นในใจของลินลี่ย์ขณะที่เขาเข้าไปในประตู
“ปัง!” เสียงประตูปิดดังขึ้นทันที