ตอนที่ 125 คุณย่าลิซ (อ่านฟรี)
แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ สายเลือดแห่งมังกร
ตอนที่ 125 คุณย่าลิซ
*ฟืบ*
“พ่อฮะแม่ฮะ...” แม็กนัสกลับบ้าน
แต่แล้วเขาก็ผงะหน้า “อา พวกเขาต้องอยู่ที่สำนักงานแน่ๆ”
"เอ็บกับจอร์จ ไปหาพวกเขาอย่างลับๆ แล้วพาพวกเขามานี่" เขาสั่ง
"ครับเจ้านาย" ทั้งสองทำความเคารพและหายตัวไป
เพียง 2 วินาทีต่อมา อดัมและเกรซก็โผล่มาที่บ้าน ทั้งคู่อยู่ในอาการตกใจ อดัมมีแก้วน้ำอยู่ในมือขณะที่เกรซกำลังอ่านไฟล์อะไรซักอย่าง
ทั้งสองมองไปรอบๆ อย่างสับสนและตกใจเมื่อรู้ว่าพวกเขากลับมาที่บ้านแล้ว
“แม่ฮะพ่อฮะ ราชินีต้องการพบฮะ” เขาแจ้งพวกเขา
"ใช่... เดี๋ยวก่อน.. อะไรนะ เรามาที่นี่ทำไม" เกรซพึมพำและตระหนักถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
“ผมไปพบราชินีมาฮะ เธอตกลงข้อเสนอทุกอย่าง และเธอต้องการพบพ่อแม่สองคน งั้นเรารีบไปกันเถอะ” เขาสะกิดพวกเขาให้รีบ
"ไปที่ไหน? พระราชวังบักกิงแฮมหรอ?" อดัมถาม
"เปล่าฮะ เธอใช้เวลาช่วงฤดูร้อนในสกอตแลนด์ เอ็บกับจอร์จจะพาเราไปที่นั่น วันนี้มีงานสำคัญไหมฮะ?” แม็กนัสถาม ไม่อยากบังคับหนักข้อเกิน
เกรซยักไหล่ วันนี้เธอไม่มีการผ่าตัด อดัมก็ไม่มีงานสำคัญมากหรอกวันนี้
"งั้นไปกันเถอะฮะ" แม็กนัสจับมือพวกเขาและเอ๊บก็พาพวกเขาทั้งหมดหายตัวไป
...
ขณะที่แม็กนัสไปรับพ่อแม่ของเขา มาร์ธาและรักนาร์กำลังพูดคุยกับราชินีและฟ้าชายเล็กน้อย
“งั้นคุณก็เป็นราชินีมักเกิ้ลสินะ คุณดูอ่อนแอจัง เป็นราชินีได้ยังไง? คุณไม่ต้องสู้เหรอ?” รักนาร์ถาม
แต่มาร์ธาแก้ไขเขาว่า "ที่รัก กษัตริย์และราชินีไปที่สนามรบตั้งแต่เมื่อไรเล่า? พวกเขาส่งกองทัพไปต่างหาก"
ราชินีพูดเมื่อเห็นแมวน่ารักพูดผิด "อันที่จริง ฉันเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองกำลังติดอาวุธ แต่ฉันไม่มีอำนาจสั่งการพวกเขา คุณก็เห็นว่าตอนนี้เราเป็นเพียงราชวงศ์พิธีการ ไม่มีอำนาจบริหารประเทศ"
"อะไรนะ? แล้วคุณจะทำเงินได้ยังไง?" รักนาร์ถาม
"จากค่าเช่าและทรัพยากรจากอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ที่เราเป็นเจ้าของและภาษีจากผู้คน" เธอเปิดเผย
แต่รักนาร์ทำหน้าบึ้ง "เอ๋... พวกคุณไม่ทำอะไรเลยแล้วยังจะเอาเงินคนอื่นอีกเหรอ? แล้วจะมีราชาหรือราชินีไปเพื่ออะไร? เฮ้อ... แม็กคงมีงานให้ทำอีกเยอะเลย บอกผมหน่อยได้ไหมว่าทำไมยังต้องมีสถาบันกษัตริย์อยู่"
"เราเป็นมิ่งขวัญของประชาชน" เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ทรงปกป้องสถาบัน
“จริงดิ? งั้นไปบอกคนที่กำลังจะตายด้วยความหิวโหยด้วยนะดูซิว่าพวกเขาจะซาบซึ้งในการสนับสนุนทางศีลธรรมของพวกคุณมากแค่ไหน?” รักนาร์ตอกกลับ
การสนทนาเริ่มอึดอัดแล้ว มาร์ธาเห็นสิ่งนี้และเริ่มพูดเรื่องอื่น "ครอบครัวของคุณมาเป็นราชวงศ์ได้อย่างไร”
"ก็ไม่มีสายเลือดราชวงศ์เดิมนานแล้ว สมมติว่าถ้าครอบครัวทั้งหมดของฉันไม่มีตัวตน ญาติสนิทของเราจะขึ้นครองบัลลังก์แทน และญาติคนนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นราชวงศ์ก่อนหน้าด้วย เขาอาจจะเป็นขุนนางชั้นผู้น้อยก็ได้” ราชินีอธิบาย
"เพราะอย่างนั้นคุณจึงไม่ได้เลือกผู้สืบทอดของคุณหรอ? นั่นต้องเป็นสาเหตุที่ทำให้สถาบันกษัตริย์ตกต่ำลง” มาร์ธาแสดงความคิดเห็น เธอรู้เรื่องราชาและราชินีทุกประเภทเพราะอยู่มานานมากแล้ว นอกจากนี้ เธอเคยได้ยินเกี่ยวกับกษัตริย์องค์ก่อนๆ จากบรรพบุรุษของเธอ
*ฟืบ*
"ผมกลับมาแล้ว" แม็กนัสมาถึง เกรซและอดัมยังอยู่ในชุดเครื่องแบบ และเมื่อพวกเขาเห็นราชินี พวกเขากำลังจะทำความเคารพ
“ไม่จำเป็นหรอกฮะ เราจะเป็นครอบครัวเดียวกันในเร็วๆ นี้ ไม่เกี่ยวกับสายเลือด แต่ก็เหมือนแหละ” แม็กนัสบอกพวกเขา
พวกเขาทั้งหมดนั่งลง อดัมเริ่มพูดคุยกับราชินีเพราะว่าเขากำลังจะเป็น 'ลูกชาย' ของเธอต่อจากนี้ไป
"คุณจะต้องเปลี่ยนและสร้างแผนภูมิครอบครัวยังไงบ้างครับ" แม็กนัสถาม
ราชินีครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง "นี่จะเป็นงานใหญ่ ชาร์ลส์จะทำว่ารู้ทุกอย่างอยู่แล้ว ลูกๆ อีกสามคนของฉันก็จะเชื่อว่าอดัมคือลูกชายของฉันจริงๆ ปัญหาหลักจะอยู่ที่พระญาติสนิทและพวกคริสตจักร เพราะไม่ว่าเราจะพูดอะไรเกี่ยวกับการเกิดของอดัม พวกเขาก็จะรู้เรื่องนี้เสมอเพราะมันเป็นหน้าที่ของพวกเขา เพราะอย่างนั้นพวกเขาจะท้วงถ้าลูกชายคนใหม่ของฉันโผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ ส่วนบันทึกเอกสารอื่นๆ สามารถแก้ไขได้อย่างง่ายดาย "
"อืม... ผมจะจัดการกับคนพวกนี้ทั้งหมดเอง แค่บอกรายชื่อคนที่ต้องจัดการมาให้ผม ผมรับรองได้เลยว่าเมื่อถึงเวลาที่พ่อได้รับการยอมรับให้เป็นเจ้าชาย ทุกคนจะมาแสดงความยินดีและไม่กล้าปริปากบ่น" แม็กนัสยืนยันกับเธอ เขาวางแผนไว้แล้วว่าจะบอกคนของเขาที่ MEDA ให้หาคนเหล่านี้และฝังความทรงจำไว้ในหัวของพวกเขา ผู้ลบความจำที่ดีที่สุดเท่านั้นที่จะทำหน้าที่นี้
“แล้วเกรซล่ะ ครอบครัวของเธอน่าจะเป็นตระกูลขุนนาง” อดัมถาม
"ผมจะทำแบบเดียวกันสำหรับเรื่องนี้ ย่าลิซจะเปลี่ยนบันทึกบางอย่างและจัดสรรที่ดินบางส่วนให้กับครอบครัวของแม่ ในเอกสารพวกเขาจะเป็นตระกูลผู้ดีมาตลอดหลายร้อยปีที่ผ่านมา แต่พวกเขาไม่เคยพยายามที่จะปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชน” เขาแนะนำ
แต่จู่ๆ ควีนเอลิซาเบธก็รู้สึกขำขันในท้อง พระองค์ไม่เคยมีหลาน แล้วแม็กนัสมาเรียกพระองค์ว่าย่าลิซ นี่จึงเป็นครั้งแรกสำหรับพระองค์
~บางที การมีหลานชายที่กระตือรือร้นแบบนี้ก็ไม่เลวนะ ขุนนางทุกคนล้วนเป็นเครือญาติทางสายเลือดในบริเตน ไม่ว่าเลือดจะจางแค่ไหนก็ตาม และเขาเองก็เป็นเพนดราก้อนที่น่าภาคภูมิใจ ฉันควรจะภูมิใจสิ~ เธอคิด
ตั้งแต่เกิดเรื่องกับสามี เธอยังคงคิดถึงแม็กนัสและอนาคตของบัลลังก์ เธอมักจะคุยกับตัวเองในที่ทำงานเพื่อหาทางแก้ไข แต่สุดท้ายเธอก็รู้ว่าไม่มีทางออก สิ่งที่ทำได้คือยอมรับและเดินหน้าต่อไป
ตอนนี้ เธอมีตัวเลือกที่จะเรียกว่าสมเด็จย่าของกษัตริย์ และจากสิ่งที่เธอรู้ เขาน่าจะเป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ เช่นเดียวกับกษัตริย์อาเธอร์
ไม่นานมานี้ เธอเคยคิดว่ากษัตริย์อาเธอร์เป็นแค่ตำนานปรัมปรา แต่วิกฤตในปัจจุบันทำให้เธอรู้ว่าพระองค์ทรงมีจริงและเขาเป็นบุรุษที่ดี
ดังนั้น เธอจึงถามแม็กนัสเป็นคำถามสุดท้าย ซึ่งจะตัดสินชะตากรรมของเธอต่อจากนี้ไป "หลังจากเธอขึ้นเป็นกษัตริย์แล้ว จะเกิดอะไรขึ้นกับฉันและครอบครัวล่ะ?"
แม็กนัสตัดสินใจทุกอย่างแล้ว แล้วเขาจะไม่ปล่อยให้เงินภาษีของประชาชนสูญเปล่า “อืม... คุณจะได้รับปราสาทเป็นที่อยู่อาศัยถาวรและเงินช่วยเหลือรายเดือนสำหรับค่าใช้จ่าย คุณยังจะได้ยศอดีตพระพันปี ลูกๆ ของคุณจะยังคงถูกเรียกว่าเจ้าชายหรือเจ้าหญิง แต่ไม่มีสิทธิ์ในที่ดินและไม่มีเงินให้ พวกเขาจะต้องหาเลี้ยงชีพเหมือนคนอื่นๆ พวกเขาสามารถเข้าร่วมกองทัพได้ พวกเขาสามารถศึกษาเพื่อเป็นนักธุรกิจได้
"ผมจะสนับสนุนพวกเขาในความพยายามของพวกเขา แต่จะไม่มีเงินฟรี เช่นเดียวกับขุนนางทุกคนในประเทศ จะไม่มีใครได้เงินจากภาษี ภาษีจะใช้เพื่อรักษาสมบัติเดิมของราชวงศ์เช่นปราสาทเก่าและบริหารราชสำนักเท่านั้น ตัวผมเองก็จะไม่รับเงินหลายล้านปอนด์จากภาษีนั่น จะรับเงินเดือนเล็กน้อยแทน ผมจะไม่เอาเงินภาษีเข้ากระเป๋าส่วนตัวเด็ดขาด และทั้งหมดนี้จะประชาสัมพันธ์ให้ทราบต่อไป
แต่ไม่ต้องกังวล ก่อนที่ผมจะแก่ตัว ผมจะเริ่มต้นธุรกิจบางอย่างภายใต้นามแห่งราชวงศ์ เพื่อที่ว่าจะไม่มีกษัตริย์หรือราชินีองค์ใดที่ขาดแคลนทุนทรัพย์
แต่คุณยังคงสามารถอยู่ในพระราชวังบัคกิงแฮมได้ ถ้าคุณต้องการ แต่คุณจะไม่มีอำนาจใดๆ อีก”
ราชินีถอนหายใจด้วยความโล่งอก อย่างน้อยพระองค์ก็ไม่ถูกทอดทิ้ง พระองค์ยังชอบโอกาสที่จะได้ใช้ชีวิตในพระราชวังบักกิงแฮม เพราะตอนนั้นพระองค์จะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่แม็กนัสนำมาให้ เพราะท้ายที่สุดแล้วนี่เป็นครั้งแรกที่จะได้เห็นพ่อมดขึ้นนั่งบัลลังก์
แม็กนัสพูดต่อไป "ตอนนี้สิ่งที่เราจะทำตลอดทั้งปีนี้ แม่ของผมจะประกาศสิ่งประดิษฐ์ช่วยชีวิตชิ้นใหม่ของแม่ในปีนี้ ส่วนพ่อกำลังทำงานเกี่ยวกับเครื่องยนต์และแบตเตอรี่รถยนต์รูปแบบใหม่ เขาจะประกาศในภายหลังเช่นกัน เมื่อชื่อของพวกเขาอยู่ในหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ คุณเองก็จะทิ้งระเบิดลูกใหญ่ลงเช่นกัน ผู้คนจะเริ่มชื่นชมพ่อและแม่สำหรับสมองอันชาญฉลาดของพวกท่าน และในทันทีราชบัลลังก์ก็จะดึงดูดผู้สนับสนุนจำนวนมากขึ้น สร้างคำกล่าวใหม่ว่า ไม่ใช่เชื้อพระวงศ์ทุกคนที่จะไร้ประโยชน์"
*แค่กๆ*
"ใช่ ไม่ใช่ราชวงศ์ทั้งหมดไร้ประโยชน์" ควีนเอลิซาเบธตรัสซ้ำขณะทอดพระเนตรที่เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ พระราชโอรส
“ฉันขอทราบได้ไหมว่ากำลังสร้างอะไรอยู่” ราชินีถามลูกสะใภ้คนใหม่ของพระองค์ ซึ่งต้องยอมรับ เกรซสวยไม่เหมือนใคร
เกรซตัดสินใจบอกพระองค์ เนื่องจากเธอได้ยื่นจดสิทธิบัตรแล้ว และราชินีก็ไม่มีเหตุผลที่จะทำอะไรกับเธอในตอนนี้
"มันเป็นขดลวดที่ขยายได้ด้วยบอลลูนซึ่งก็คือการชะล้างยาด้วย มันจะช่วยเพิ่มการฟื้นตัวของผู้ป่วยอย่างมากค่ะ และข้อได้เปรียบหลักของขดลวดขยายแบบบอลลูนคือความแข็งในแนวรัศมีที่สูงขึ้นและการจัดวางที่แม่นยำยิ่งขึ้น... อา...
ฉันพูดมากไปใช่ไหม ฉัน... จะพูดสั้นๆ มันจะช่วยชีวิตคนเป็นจำนวนมากขึ้น โอกาสเสี่ยงน้อยลง” เธออธิบายอย่างเคอะเขิน
*แปะ แปะ แปะ*
แม็กนัสรับรู้เพียงส่วนสำคัญก็เริ่มปรบมือ ส่วนรักนาร์ก็ทำตาม อดัมก็ทำเช่นเดียวกัน
“แม่จ๋าเก่งที่สุด” แม็กนัสพูด เกรซอายจนหน้าเธอแดงแจ๋
แม้ว่าราชินีจะไม่เข้าใจอะไรเลย แต่ก็เข้าใจความหมายของคำว่า 'ช่วยชีวิตคนจำนวนมาก' จากนี้เธอจะได้รู้ว่าลูกสะใภ้คนใหม่ของเธอมีดีมากกว่าแค่หน้าตาที่สวยงาม
*เฮ้อ*
~ทำไมครอบครัวของฉันถึงมีพรสวรรค์แบบนี้ไม่ได้~ เธอพึมพำกับตัวเองในขณะที่มองไปที่ชาร์ลส์
[A/N: จูลิโอ พัลมาซ นักรังสีวิทยาการแทรกแซงหลอดเลือด เป็นที่รู้จักจากการประดิษฐ์ขดลวดขยายบอลลูน ซึ่งเขาได้รับสิทธิบัตรในปี 1985 สิทธิบัตรนี้อยู่ในรายการ 10 สิ่งประดิษฐ์ที่สำคัญที่สุดตลอดกาล]
_____________________________
ต่อจากตอนนี้ในเพจมี VIP3 นะครับ