ตอนที่ 122 ดั๊กเติบใหญ่ (อ่านฟรี)
แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ สายเลือดแห่งมังกร
ตอนที่ 122 ดั๊กเติบใหญ่
“ครับ พ่อกับแม่ฟังความคิดผมก่อนนะ” แม็กนัสเริ่มอธิบายทุกอย่างทันทีที่พวกเขากลับถึงบ้าน
อดัมและเกรซนั่งลงในขณะที่แม็กนัสเดินไปมาข้างหน้าพวกเขา นี่เป็นเพียงวันแรกและแม็กนัสก็ทำให้พวกเขาตกอกตกใจแล้ว
"โอเค ตอนนี้ผมอายุ 12 ขวบ ถูกไหมครับ? แต่ผมจะต้องขึ้นครองบัลลังก์ทันทีที่ผมอายุ 18 ปี แต่มีปัญหาอยู่ว่า ต่อให้ราชินีจะสละราชสมบัติและตั้งผมเป็นกษัตริย์ ผู้คนในประเทศนี้ก็ค้านผม เพราะพวกเขาไม่รู้จักผมและไม่เคารพรักผม
ดังนั้นเราต้องเริ่มต้นตั้งแต่ตอนนี้ เราต้องทำให้โลกเห็นว่าผมเป็นกษัตริย์ที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้บนบัลลังก์ ผมมั่นใจว่าผมสามารถสร้างความประทับใจให้พวกเขาได้ เมอร์ลินเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านการสร้างโฆษณาชวนเชื่อ
สิ่งที่เป็นปัญหาคือประวัติครอบครัวของเรา เราจำเป็นต้องแก้ไขอย่างมาก และเพื่อให้ผมเป็นกษัตริย์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ผมต้องแสดงความสัมพันธ์ของผมกับราชินี สำหรับสิ่งนี้ พ่อจะกลายเป็นลูกชายคนโตของราชินี ซึ่งใช้ชีวิตห่างจากวิถีชีวิตของราชวงศ์ กับพวกพระญาติห่างๆ ของราชินี
"ต่อไปจะเป็นแม่จ๋า แม่จะมาจากตระกูลขุนนางที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับ กษัตริย์อาเธอร์ เพ็นดราก้อน สิ่งนี้จะอธิบายชื่อของผมให้โลกรู้" แม็กนัสอธิบายอย่างละเอียด
“แล้วพ่อแม่ของแม่ล่ะ พวกเขายังมีชีวิตอยู่นะจ๊ะ ลูกก็รู้ใช่ไหม?” เกรซพูดขึ้น
"ผมรู้ฮะแต่คุณตาไม่เหลือครอบครัวอื่นแล้วฮะ เราจะทำให้ท่านเป็นทายาทหลักของกษัตริย์อาเธอร์ จากนั้นจะสื่บต่อไปถึงแม่ ส่วนพ่อไม่มีใครอยู่แล้วนอกจากพวกเรา ดังนั้นมันจะง่ายกว่ามาก” แม็กนัสกล่าว
อดัมและเกรซมองหน้ากันราวกับกำลังคุยกันด้วยสายตา
“แล้วพระราชินีจะทรงยอมทำทั้งหมดนี้หรอลูก” อดัมถามด้วยความสงสัย
"เธอไม่มีทางเลือกฮะ นอกจากนี้ การที่ผมได้ขึ้นครองบัลลังก์ไม่ได้หมายความว่าเธอเป็นราชินีจอมปลอม ตามกฎแห่งสายเลือด ผมแค่มีสิทธิ์มากกว่าเธอ ผมจะคุยกับเธอเองไม่ต้องห่วง ผมได้ยินมาว่าเธอมักไปที่ปราสาทบัลมอรัลในสกอตแลนด์ทุกปีเพื่อใช้เวลาในช่วงซัมเมอร์ *เฮ้อ* พวกราชวงศ์จำเป็นต้องหางานทำจริงๆ นั่นแหละ” แม็กนัสวางแผน
“งั้นแม่จะไปด้วย” เกรซตัดสินใจ
แต่แม็กนัสปฏิเสธเธอทันที "ไม่นะฮะแม่ แม่ไม่ควรไป นอกจากนี้จะเป็นการพูดคุยกันระหว่างสองกษัตริย์ ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของผมหรอกฮะ ผมจะนำความปลอดภัยไปกับผมด้วย”
“อ๋า ที่ลูกเคยบอกพ่อเกี่ยวกับสำนักงานกฏหมายของลูกน่ะหรอ” อดัมอุทาน
"ตอนนี้พวกเขากำลังขยายอิทธิพลและเปิดสาขาในต่างประเทศเพิ่ม พ่อกับแม่สองคนควรเตรียมตัวสำหรับการเป็นบุคคลสาธารณะ ผมมั่นใจได้เลยว่าสื่อจะต้องสร้างปัญหาให้พ่อกับแม่แน่ๆ แต่จะแค่ตอนเริ่มต้นเท่านั้น หลังจากนั้น ผมจะทำให้พวกเขาปล่อยพ่อกับแม่ไว้ตามลำพัง” แม็กนัสยืนยัน
ทันใดนั้น เกรซก็เกิดความคิดขึ้นมาว่า "ลูกรัก มันจะช่วยลูกได้ไหม ถ้าแม่ของลูกกลายเป็นหมอชื่อดังที่คิดค้นบางสิ่งที่ช่วยชีวิตคนจำนวนมากน่ะ"
แม็กนัส อดัม และรักนาร์จ้องหน้าเธอ รู้ได้ทันทีว่าเธอกำลังค้นพบอะไรบางอย่าง
“แน่นอนฮะ แม่จ๋าพวกเขาอาจจะเริ่มเรียกแม่ว่าเทพธิดา แล้วแม่ค้นพบอะไรขึ้นมาได้หรอฮะ?” แม็กนัสถามอย่างตื่นเต้น
“ไม่ ไม่ แม่จะยังไม่บอกลูกตอนนี้ ให้เวลาแม่สักพักก่อนนะ เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น แม่อาจต้องการความช่วยเหลือจากเท็ดในเรื่องกฎหมายเกี่ยวกับพวกสิทธิบัตร” เกรซร้องขอ
แม็กนัสหัวเราะ "ได้แน่นอนฮะ พวกเขาจะช่วยแม่ได้ทุกเมื่อที่แม่ต้องการ อ่า... เดี๋ยวก่อน ฉันต้องไปหาอาเธอร์ถามอะไรเขาหน่อยฮะ"
เขารีบไปที่ห้องของเขาและนำภาพวาดของ อาเธอร์และเมอร์ลิน ที่พวกเขานั่งอย่างเกียจคร้านอยู่ในสวน
"อา สวัสดีเด็กๆ" อาเธอร์ทักทายทุกคน
แม็กนัสรีบถาม "อาเธอร์ฮะ ผมกำลังเตรียมพิธีราชาภิเษกที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพื่อสิ่งนั้น ผมต้องการให้พ่อแม่ของผมเป็นราชวงศ์ด้วย ผมคิดว่าจะให้แม่ใช้นามสกุลของคุณด้วย คือถ้าคุณไม่มีปัญหานะ”
อาเธอร์ระเบิดเสียงหัวเราะ "ฮ่าฮ่า... ไม่ต้องถามข้าหรอก แม็กนัส อา ข้าเองก็อยากมีลูกสาวมาตลอด ตอนนี้เธอสวยและฉลาดมาก เกรซ แกรนท์ เพนดราก้อน อื้มม มันจะเป็นนามที่ดี"
“เห็นไหม ตาเฒ่าอาเธอร์ เจ๋งดีใช่ไหมล่ะฮะ” แม็กนัสพูดหยอก แต่เขาสังเกตเห็นว่า เมอร์ลินเงียบไป
“ทำไมคุณถึงดูเศร้าล่ะฮะเมอร์ลิน?” เขาถาม
อาเธอร์หัวเราะเบาๆ “ฮ่าฮ่า เขาคงเสียใจที่ชื่อของเขาไม่ได้ถูกนำไปใช้น่ะ”
แม็กนัสส่ายหัวเมื่อเห็นการกระทำเช่นนี้ของชายชรา "ก็นะ ยังไงลูกๆ และครอบครัวในอนาคตของผมทุกคนก็จะมีชื่อของเมอร์ลินร่วมด้วยอยู่แล้วนี่ฮะ"
"เดี๋ยวนะ! ลูกๆ งั้นหรอ? นี่ลูกมีแฟนแล้วเหรอแม็ก?" อดัมรีบถาม
แม็กนัสอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สังเกตเห็นว่ารักนาร์กำลังอ้าปากค้างอย่างช้าๆ เขาวิ่งไปหาเขาด้วยความเร็วเต็มพิกัดและปิดปากของเขาทันที
“ไม่มีครับพ่อ! ผมยังเด็กเกินไปสำหรับเรื่องนั้นใช่ไหมล่ะฮะ?” เขาพูดพลางเริ่มกระซิบข้างหูของรักนาร์
"เจ้าโง่ ทำไมนายถึงยืนกรานที่จะทำลายชีวิตฉัน เอ็มม่าไม่ใช่แฟนของฉันซะหน่อย ฉันไม่ได้มองเธอแบบนั้น เธอเหมือนเด็ก” เขากระซิบ
รักนาร์ยิ้มเยาะ "ฉันแค่จะจาม"
“คงใช่แหละไปหลอกคนอื่นเถอะ ไม่ใช่ฉัน” แม็กนัสไม่ได้ซื้อคำพูดของเขาอยู่แล้ว
"อ้าวๆ...ไปอาบน้ำนอนได้แล้วจ่ะ...อ๊ะ...จะ 3 ทุ่มแล้ว เร็วเข้า" เกรซผลักพวกเขาอย่างรวดเร็ว พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนในการพูดคุย
แม็กนัส รักนาร์ ไปที่ห้องของใครของมัน ห้องนอนแต่ละห้องมีห้องน้ำในตัวดังนั้นมันจึงมีประโยชน์มาก แต่ก่อนที่จะไปอาบน้ำ แม็กนัสได้เขียนจดหมายถึง เท็ดและแอเดรียนโดยบอกพวกเขาเกี่ยวกับการเดินทางที่กำลังจะมาถึง
...
เกรซและอดัมทำอะไรกับเงิน 2 ล้านปอนด์ที่พวกเขาได้รับจากรัฐบาลเป็นค่าตอบแทนกันนะ?
แม็กนัสไม่รู้และเขารู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องถาม
ในความเป็นจริง เกรซได้จัดตั้งห้องปฏิบัติการวิจัยส่วนตัวขึ้นที่ครึ่งหนึ่งของชั้นใต้ดิน ในขณะที่อดัมได้ตั้งเวิร์คช็อปด้านวิศวกรรมของเขาในอีกครึ่งหนึ่งที่เหลือ พวกเขาใช้เงินส่วนใหญ่ไปกับสิ่งเหล่านี้ แต่ตอนนี้เงินก็เหลือน้อยแล้ว ทั้งสองคนไม่เห็นด้วยกับรับเงินลงทุนจากต่างประเทศในการวิจัยของพวกเขา เนื่องจากพวกเขาจะต้องแบ่งปันสิทธิบัตรของสิ่งประดิษฐ์ของพวกเขาด้วย
ขณะนี้เกรซกำลังทำการผ่าตัดใส่ขดลวดหัวใจ เป็นการออกแบบที่ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นมากจากที่มีอยู่แล้วในตลาด เธอวิจัยเกี่ยวกับมันมาระยะหนึ่งแล้ว แต่หลังจากมีเงินมากมาย เธอก็สามารถก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็ว
ตอนนี้ สิ่งที่เหลืออยู่คือการทดลองกับมนุษย์ และตราบใดที่พวกเขาประสบความสำเร็จ ขดลวดใหม่เหล่านี้สามารถผลิตได้เป็นจำนวนมาก แต่การยื่นจดสิทธิบัตรก่อนเป็นส่วนสำคัญที่สุด
ในทางกลับกัน อดัมกำลังทำงานกับเครื่องยนต์รถยนต์รุ่นใหม่ มันเป็นแนวคิดในขณะนั้นและไม่ได้อยู่ในขั้นตอนสุดท้ายเหมือนของเกรซ มันเป็นเครื่องยนต์ที่ประหยัดน้ำมันกว่าของเดิมมาก และยังสามารถทำงานด้วยไฟฟ้าได้อีกด้วย แต่ตอนนี้บนโลกยังไม่มีแบตเตอรี่ที่ดีพอที่สามารถพารถไปได้ไกลด้วยการชาร์จเพียงครั้งเดียว ดังนั้นเขาจึงถูกบังคับให้วิจัยแบตเตอรี่ไปพร้อมๆ กัน และนั่นก็เหมือนกับหลุมดูดเงินสำหรับการวิจัย
~เฮ้อ ถ้าเป็นแบบนี้ฉันเกรงว่าจะต้องขอเงินลงทุนจากแม็กนัสแล้วล่ะ~ เขาคิดกับตัวเอง
...
ในสถานที่พิเศษอีกแห่งในอาคาร รักนาร์กำลังค้นคว้าน้ำยาตัวใหม่อยู่เหมือนกัน ถ้าทำสำเร็จคงจะโด่งดังไปทั้งโลกเวทมนตร์และโลกมักเกิ้ลโดยเฉพาะในหมู่สาวๆ การดื่มยาใหม่นี้จะทำให้อาเจียนสิ่งเจือปนส่วนใหญ่ในเลือดออกมา สิ่งนี้จะช่วยผู้ที่มีสิวจำนวนมากบนร่างกายและใบหน้าให้หายไปดุจเวทมนตร์
แต่ถ้าการใช้ทางการแพทย์อื่นๆ ก็ไร้ขีดจำกัดเช่นกัน เนื่องจากสิ่งเจือปนในเลือดน้อยลงย่อมหมายถึงสุขภาพโดยรวมของร่างกายและอวัยวะทุกส่วนดีขึ้น
~ก๊ากก!... การทดสอบ 16,876 ล้มเหลวเหมือนเดิม แต่กำลังจะได้ผลลัพท์แล้ว~ เขาจดบันทึกด้วยความหงุดหงิดแล้วทำงานต่อไป
...
ไม่เหมือนคนอื่น แม็กนัสกำลังนอนหลับโดยไม่สนใจโลก แชดนอนคว่ำหน้าในขณะที่ซัมเมอร์กำลังนั่งอยู่บนกิ่งไม้ปลอมที่แมกนัสทำไว้บนกำแพง มีเพียงดั๊กเท่านั้นที่หายไปและแม็กนัสกำลังจะไปเจอมันวันรุ่งขึ้น
...
*หาว*
แม็กนัสตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น แทนที่จะรอ เขารีบเรียกหาอับราฮัม
“พาฉันไปที่คาเมล็อตหน่อยได้ไหม?” เขาถาม
"แน่นอนครับท่านครับ ไปกันเลย" อับราฮัมก็เทเลพอร์ตไปกับเขาทันที
เขามาถึงห้องกุญแจนำทางแล้วไปต่อที่ห้องบัลลังก์
"ก๊าซซซซซ"
แต่ก่อนที่แม็กนัสจะไปถึงที่นั่น เขาก็ได้ยินเสียงคำรามที่ดังและน่ากลัวมาก
"นั่นคือ...?"
เขามองไปด้านข้างที่หน้าต่างบานใหญ่ไร้กรอบ อีกด้านหนึ่งเป็นจุดสีดำที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ในไม่ช้า แม็กนัสก็ตระหนักได้ว่ามันคือตัวอะไร?
"ทำไมมันถึงโตขนาดนี้...เดี๋ยวนะ! ทำไมเขาไม่หยุดเลย?"
"ช้าหน่อย ดั๊ก!" เขาตะโกน
แต่ดั๊กตื่นเต้นเกินไป เห็นได้ชัดจากใบหน้ายักษ์ที่มีความสุขของเขา
10 เมตร
5 เมตร
1 เมตร
*ตู้มมมม*
ดั๊กกระโจนเข้ามาจากหน้าต่างและกระโดดใส่แม็กนัส สิ่งต่อมาที่เขารู้ก็คือลิ้นที่เหมือนกระดาษทรายของดั๊กกำลังเลียทั่วใบหน้าของเขา
แต่แม็กนัสก็อดที่จะโกรธเขาไม่ลง ดั๊กรู้สึกตื่นเต้นที่ได้พบเขา เขารีบลูบหัว "ฮ่าฮ่าฮ่า... กินอะไรเข้าไปน่ะ ไอ้หนู?"
“กร๊ากกก...” ดั๊กพะงาบๆ
_____________________________
ดั๊กเริ่มโต