ข้าอยู่บ้านร้อยปีก็เข้าสู่วิถีไร้เทียมทาน ตอนที่ 55 ควบคุมหอจันทร์ทมิฬในแผ่นดินหนานโจว
ข้าอยู่บ้านร้อยปีก็เข้าสู่วิถีไร้เทียมทาน ตอนที่ 55 ควบคุมหอจันทร์ทมิฬในแผ่นดินหนานโจว
“โฮสต์ได้เก็บตัวอยู่บ้านแต่มีบุตรแห่งโชคชะตามาขอลี้ภัย โฮสต์ได้รับรางวัลคือ สาวใช้ พลังลี้ลับไท่หยินและเขตแดนลับแห่งวาสนา”
เสียงของระบบดังขึ้นในใจ
ฉู่เซวียนไม่แปลกใจ
พลังลี้ลับไท่หยินเป็นวิชาคู่กับกายาลี้ลับไท่หยินของซูเซียนเอ๋อร์อย่างเห็นได้ชัด
หลังจากได้รับรางวัล ฉู่เซวียนพบว่าพลังลี้ลับไท่หยินเป็นวิชาที่เหมาะสมกับกายาลี้ลับไท่หยินอย่างที่สุด มันสามารถปลดปล่อยศักยภาพของกายาลี้ลับไท่หยินได้ถึงขีดสุด
ฉู่เซวียนเหลือบมองซูเซียนเอ๋อร์ หญิงสาวผู้นี้ดูค่อนข้างขี้อาย ดวงตาของนางชอบกลอกกลิ้งไปรอบ ๆ ราวกับพยายามจะหาทางหนี
“มานี่สิ”
“เจ้าคะ”
ซูเซียนเอ๋อร์หน้าซีดลงแล้วเดินไป
“ในเมื่อเจ้าเป็นสาวใช้ของข้า วันนี้ข้าจะสอนวิชายุทธ์ที่เหมาะสมแก่เจ้า”
ฉู่เซวียนยกนิ้วขึ้นและกดลงบนหน้าผากที่เรียบเนียนของนาง
ซูเซียนเอ๋อร์ตกตะลึง นางอยากที่จะหลบแต่ก็ทำไม่ได้
จุดแสงผุดขึ้นมาในจิตใจของนาง แล้วข้อมูลของวิชายุทธ์ก็ค่อย ๆ ปรากฏขึ้น
......
ซูเซียนเอ๋อร์หลับตาทำความเข้าใจวิชายุทธ์ในจิตใจอย่างลืมตัว
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยาม นางก็ลืมตาขึ้น
กลิ่นอายรอบตัวของซูเซียนเอ๋อร์ผันผวนอยู่ครู่หนึ่ง นางได้ทะลวงไปยังขอบเขตว่างเปล่าขั้นที่สาม
“ขอบคุณนายน้อยเจ้าคะ!”
ซูเซียนเอ๋อร์คำนับอย่างจริงใจ
นางรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก ไม่ต่อต้านหรือไม่เต็มใจที่จะเป็นสาวใช้ของฉู่เซวียนเลยแม้แต่น้อย
ตอนนี้ซูเซียนเอ๋อร์มีเพียงความรู้สึกเป็นเกียรติเท่านั้น
นี่เป็นวิชายุทธ์ที่อยู่เหนือเคล็ดวิชาระดับศักดิ์สิทธิ์ในตำนาน
วิชายุทธ์ที่แม้แต่ผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตสวรรค์ก็มิอาจเข้าถึง
“ดีมาก”
ฉู่เซวียนโยนขวดยา โอสถในขวดคือโอสถวิญญาณซึ่งหมาะสำหรับผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตว่างเปล่า
“จงหมั่นฝึกฝน ข้ารับเจ้ามาเป็นสาวใช้เพื่อให้เจ้าสามารถช่วยงาน”
ฉู่เซวียนโยนยันต์ส่งการแม่ลูกให้นางแล้วกล่าวว่า “ช่วยข้าเรียบเรียงข้อมูลที่เมื่อถูกส่งมา”
ซูเซียนเอ๋อร์รับยันต์ด้วยสีหน้าตกตะลึง เขารับนางมาเป็นสาวใช้เพียงเพื่อให้นางช่วยทำงาน?
เขาไม่ได้เตรียมจะปู้ยี่ปู้ยำนางหรือ?
‘แต่เขาหล่อและแข็งแกร่งมาก ข้าจะขัดขืนพอเป็นพิธีพอ’
“ข้าจะสอนวิชาปกปิดให้เจ้า ถึงเจ้าจะทะลวงไปยังขอบเขตสูงสุดก็จะไม่มีใครมองออกอยู่ดี”
ฉู่เซวียนสอนวิชาปกปิดให้แก่ซูเซียนเอ๋อร์ มันสูงกว่าวิชาปกปิดที่ซูเซียนเอ๋อร์ใช้อยู่หลายระดับ
ฉู่เซวียนไม่ได้ขาดวิชายุทธ์หรือพลังลี้ลับ เขามีทุกอย่าง ซึ่งต้องขอบคุณระบบ
ฉู่เซวียนพอใจกับซูเซียนเอ๋อร์มาก นางดูงดงาม มีพรสวรรค์โดดเด่น และเหมาะมากที่จะจัดการธุระและช่วยงานต่างๆ
ในอนาคต เขาจะให้นางรับหน้าที่จัดการหอจันทร์ทมิฬ
เพียงแต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของนางยังอ่อนแออยู่
แต่ไม่สำคัญมากนัก ด้วยพรสวรรค์ของนาง ประกอบกับความจริงที่ว่าฝึกพลังลี้ลับไท่หยินและไม่ขาดแคลนทรัพยากรฝึกยุทธ์ นางย่อมพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว
การควบคุมจ้าวหอระดับทองทั้งสามของหอจันทร์ทมิฬในแผ่นดินหนานโจวดีกว่า แล้วค่อยเลือกคนที่มีความสามารถที่สุดในสามคน และฝึกฝนคนนั้นให้เป็นจ้าวหอหนึ่งดาว
ลงมือไปทีละขั้น ควบคุมหอจันทร์ทมิฬทีละน้อย
“นี่คือข้อมูลจากหอจันทร์ทมิฬ?”
ซูเซียนเอ๋อร์มองไปยังข้อความในยันต์ส่งสารแล้วอุทานออกมาด้วยความตกใจ
“นายน้อยเจ้าคะ นายน้อยเป็นสมาชิกระดับสูงของหอจันทร์ทมิฬงั้นหรือ”
ฉู่เซวียนเลิกคิ้ว จากสิ่งที่เขาได้ยินหอจันทร์ทมิฬก็มีอยู่ในจงโจวเช่นกันและดูเหมือนว่าจะไม่อ่อนแอด้วย
“ตอนนี้ยังไม่ใช่ ข้าเพิ่งยื่นมือเข้าไปในหอจันทร์ทมิฬ”
ซูเซียนเอ๋อร์งงงวย เขาหมายความว่าอย่างไรที่เพิ่งยื่นมือเข้าไปในหอจันทร์ทมิฬ?
“นายน้อยเจ้าคะ ตระกูลซูต้องสั่งให้หอจันทร์ทมิฬตรวจสอบที่อยู่ของข้าแล้ว พวกเขาคงจะไม่พบตัวข้าใช่ไหมเจ้าคะ”
หอจันทร์ทมิฬมีชื่อเสียงในด้านความสามารถในการรวบรวมข่าว พวกเขาสามารถสืบค้นความลับสุดยอดของขุมอำนาจได้
ในจงโจวหอจันทร์ทมิฬก็ยังเป็นขุมอำนาจที่ทรงพลังอย่างยิ่ง
เนื่องจากความแข็งแกร่งของหอจันทร์ทมิฬ แม้ว่าความลับของขุมอำนาจจะถูกเปิดเผยแต่ก็ไม่ได้ตอบโต้
“ไม่ต้องห่วง ในแผ่นดินหนานโจว หอจันทร์ทมิฬย่อมไม่กล้าเปิดเผยข้อมูลของเจ้า นอกจากนี้ข้ายังช่วยเจ้าปกปิดที่อยู่อีกด้วย”
ซูเซียนเอ๋อร์เป็นตัวแทนของเขา นางรับผิดชอบด้านข้อมูลของเขา เช่นนี้หอจันทร์ทมิฬจะกล้าเปิดเผยข้อมูลของนางได้อย่างไร?
ตอนนี้เขามีสาวใช้แล้ว เขาสามารถผ่อนคลายได้เสียที ต่อไปฉู่เซวียนยังได้วางแผนที่จะควบคุมจ้าวหอระดับทองที่เหลืออีกสองคน
ฉู่เซวียนอยากเป็นคนธรรมดาเช่นเดิม ซูเซียนเอ๋อร์จึงต้องแต่งในชุดข้ารับใช้ชายต่อไป แต่นางก็ดูงดงามและน่ารักไปอีกแบบ
ซูเซียนเอ๋อร์ค่อนข้างหงุดหงิดที่ฉู่เซวียนปฏิบัติกับนางเหมือนสาวใช้ทั่วไป
เปาหงเหยียนได้เดินออกไปพร้อมกับพลังจักรพรรดิและตราประทับเมล็ดวิญญาณสองชิ้น
ซูเซียนเอ๋อร์รู้สึกสับสน นางไม่รู้ว่าสาวงามเมื่อครู่คือใคร
“นายน้อยนางเป็นใครหรือเจ้าคะ”
หลังจากที่เปาหงเหยียนออกไป ซูเซียนเอ๋อร์ก็ถามด้วยความสงสัย
“นางเป็นหนึ่งในจ้าวหอระดับทองของหอจันทร์ทมิฬในแผ่นดินหนานโจว”
“จ้าวหอระดับทองของหอจันทร์ทมิฬ?”
ซูเซียนเอ๋อร์ตกใจและเอ่ยว่า “นางจะรู้ตัวตนที่แท้จริงของข้าหรือไม่เจ้าคะ”
“นางเป็นหนึ่งในคนของพวกเรา เจ้าไม่ต้องกังวล”
ฉู่เซวียนโยนยันต์ส่งหารให้นางและเอ่ยว่า “จากนี้ไปเจ้าจะต้องรับผิดชอบในการติดต่อนาง ส่งข้อมูลและจัดเรียงข้อมูลที่ข้าอยากรู้”
ในไม่ช้าจ้าวหอระดับทองที่เหลืออีกสองคนของหอจันทร์ทมิฬก็ถูกฉู่เซวียนควบคุม ตอนนี้พลังกว่าครึ่งของหอจันทร์ทมิฬในแผ่นดินหนานโจวอยู่ภายใต้การควบคุมของฉู่เซวียน
หลังจากควบคุมจ้าวหอแล้ว ฉู่เซวียนก็ลงมือควบคุมผู้ดูแลฝ่ายพลาธิการต่อ เช่นเดียวกับผู้ดูแลฝ่ายคุ้มภัยขอบเขตจริงแท้ขั้นที่เก้าสามคน
บนผิวเผินพลังของหอจันทร์ทมิฬในแผ่นดินหนานโจวยังดูเหมือนอยู่ในมือของจ้าวหอหนึ่งดาว แต่ในความเป็นจริงผู้ควบคุมที่แท้จริงคือฉู่เซวียน
ซูเซียนเอ๋อร์รู้สึกตกใจ ฉู่เซวียนได้เข้าควบคุมหอจันทร์ทมิฬในหนานโจโดยไม่มีใครรู้ตัว
วิธีการของเขาประหลาดเกินไป
นางสงสัยมิได้ว่าฉู่เซวียนอยากจะเข้าควบคุมทั้งหอจันทร์ทมิฬหรือไม่
ผู้ก่อตั้งหอจันทร์ทมิฬนั้นเป็นตัวตนลึกลับมาโดยตลอด ระดับความแข็งแกร่งของเขาเองก็เป็นปริศนาอย่างสมบูรณ์เช่นกัน ขุมอำนาจจำนวนมากไม่เต็มใจตัดขาดกับกับหอจันทร์ทมิฬเพราะเหตุนี้
จะเห็นได้ว่าหอจันทร์ทมิฬนั้นทรงพลังเพียงใด
ในฐานะข้ารับใช้ของฉู่เซวียน ซูเซียนเอ๋อร์ก็ได้เข้าควบคุมหอจันทร์ทมิฬในแผ่นดินหนานโจวโดยทางอ้อม ในที่สุดนางก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ข่าวคราวของนางที่แผ่นดินหนานโจวจะไม่หลุดลอดออกไปอีก
ในเวลาเดียวกันผ่านหอจันทร์ทมิฬ ซูเซียนเอ๋อร์สามารถรับรู้ได้ทันทีว่าตระกูลซูค้นพบร่องรอยของนางหรือเริ่มลงมือไล่ตามหรือไม่
“วันนี้ผู้ฝึกยุทธ์มารขอบเขตจริงแท้ขั้นที่หนึ่งที่ใกล้จะสิ้นอายุขัยได้บุกเข้าไปในพระราชวังมาร เขาทำให้จักรพรรดิมารโกรธมากจนออกมาสังหารด้วยตนเอง”
ซูเซียนเอ๋อร์ได้นั่งข้างฉู่เซวียนแล้วอ่านข้อมูลของหอจันทร์ทมิฬเกี่ยวกับโลกฝึกยุทธ์ของแผ่นดินหนานโจว
นี่คือหนึ่งในงานประจำวันของซูเซียนเอ๋อร์ นางจำเป็นต้องคัดกรองข้อมูลที่สำคัญที่สุดจากหอจันทร์ทมิฬแล้วอ่านให้ฉู่เซวียนฟัง
เพื่อให้เข้าใจสถานการณ์ในแผ่นดินหนานโจว หอจันทร์ทมิฬจะรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในสถานที่ต่างๆ ทุกวัน
การบุกพระราชวังมารเป็นกระแสใหม่ในหมู่ผู้ฝึกยุทธ์มาร ดังนั้นข่าวเช่นนี้จึงมีมาไม่ขาด
คนที่บุกเข้าไปในพระราชวังมารนั้นเริ่มแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้แม้แต่ผู้ฝึกยุทธ์มารในขอบเขตจริงแท้ก็เริ่มปรากฏตัวแล้ว
จักรพรรดิมารองค์ปัจจุบันโกรธจนไม่รู้จะโกรธอย่างไร
เขาเป็นจักรพรรดิมารคนแรกที่ถูกตบหน้าเช่นนี้ เขาจะแบกรับความภาคภูมิและศักดิ์ศรีของจักรพรรดิมารที่มิอาจล่วงล้ำได้อีกต่อไป
ฉู่เซวียนถอนหายใจ ดูเหมือนในหมู่ผู้ฝึกยุทธ์มารจะมีคนจำนวนมากที่มีปัญหาทางสมอง
เริ่มขึ้นมาทีละคน ๆ หลังจากนั้นก็เป็นความภาคภูมิใจที่ได้บุกพระราชวังมาร แม้ว่าการกระทำเช่นนี้จะเป็นการฆ่าตัวตายก็ตาม
ไม่เป็นไรหากเป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่ใกล้สิ้นอายุขัย ต้องไม่ลืมว่าบางคนก็ต้องการสร้างชื่อให้ตนเองก่อนตาย
ทว่าผู้ฝึกยุทธ์มารที่ยังเยาว์วัยและเต็มไปด้วยศักยภาพก็ได้บุกเข้าไปในพระราชวังมารเช่นกัน กล่าวได้เพียงว่าวิชามารทำลายสมองของพวกเขาอย่างแท้จริง