บทที่ 27 โลงศพสำริด
คนที่เหลือต่างมองหน้ากัน
แต่เมื่อพวกเขาเห็นลู่อวิ๋นเด็ดขาดอย่างมาก พวกเขาได้แต่กัดกระสุนและติดตามไปเท่านั้น
"เจ้ายังจะสนับสนุนลู่อวิ๋นผู้นี้อยู่อีกงั้นหรือ"
ชิงหานกำลังมองไปทางชิงหงเฉิน พูดพร้อมยิ้มหยัน
ชิงหงเฉินตาขุ่นมัว "เป็นพรสวรรค์ที่ข้าสามารถใช้ได้!"
"อืม ข้าเกรงว่าเจ้าจะควบคุมเขาไม่ได้"
ชิงหานแค่นเสียงเย็นชา หลับตาลง ติดตามอยู่ด้านหลังของลู่อวิ๋น
หวู หวู หวู—-
ทันทีที่มีคนก้าวเข้าไปในค่ายกล เขาก็รู้สึกว่ามีลมพัดอยู่ในหู
ดูเหมือนจะมีอะไรบางอย่าง กระซิบเบาๆ ในหูของพวกเขา
ทุกคนตัวสั่นสะท้านอย่างไม่อาจควบคุม ในตอนนี้พวกเขาเพิ่งเข้าใจ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับผู้ว่าการก่อนที่เขาจะเสียชีวิต
"อาจารย์——"
เมื่อถึงตอนนี้ ทันใดนั้นก็มีคนตะโกน
หลังจากนั้นในทันใด ก็เป็นเสียงของศีรษะตกลงไปที่พื้น
"ตายแล้วหรือ ชิงหงเฉินตายแล้วใช่ไหม"
ชิงหานสั่นสะท้านไปถึงจิตวิญญาณ อยากลืมตาดู แต่คำพูดของลู่อวิ๋นก่อนหน้านี้ก้องอยู่ในหูของเขาอีกครั้ง
ชิงหานฝืนความอยากรู้อยากเห็นในใจของเขา หลับตา ก้าวเดินต่อไป
"อย่า อย่าฆ่าข้า!"
หลังจากนั้นในทันใด ก็มีคนตะโกนขึ้นอีกครั้ง
แล้วก็เป็นเสียงของศีรษะตกลงไปที่พื้น
"หลีโหย่วไฉตายแล้วงั้นหรือ"
ร่างของโม่อีสั่นสะท้านเล็กน้อย แต่สีหน้าของนางยังคงเฉยเมย ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด
…
ในที่สุด ในสถานที่ซึ่งกำหนดไว้ ทุกคนก็ลืมตาขึ้น
"ลู่อวิ๋น เจ้ายังไม่ตายงั้นหรือ"
เจ้าเมืองเทียนเหอกล่าวอย่างไม่อยากเชื่อ เขาเห็นลู่อวิ๋นยืนอยู่ตรงหน้าอย่างปลอดภัยโดยไม่มีปัญหา
"ชิงหาน เจ้ายังมีชีวิตอยู่!"
ชิงหงเฉินก็ยังมองไปที่ชิงหานด้วยความประหลาดใจ
"ข้าก็คิดว่าเจ้าตายไปแล้วเหมือนกัน"
ชิงหานตอบกลับอย่างเย็นชา
โม่อีไม่กล่าวอะไร เมื่อนางเห็นว่าหลีโหย่วไฉยังมีชีวิตอยู่ ก็ดูเหมือนว่าจะเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น
"ผู้ว่าการหยุนโหหายไป"
ทันใดนั้นก็มีคนพูด
"เช่นนั้นผู้ว่าการหยุนโห ก็ตายไปแล้วจริงๆ"
ชิงหงเฉินพูดเสียงแผ่วเบา “น่าจะเป็นเช่นนั้น เขาคงจะลืมตาขึ้นเมื่อได้ยินเสียงใครบางคนตาย แล้วตัวเองก็ตาย”
ลู่อวิ๋นเม้มริมฝีปากไม่พูดอะไร
ก่อนหน้านี้สิ่งที่ทรงอานุภาพมากในค่ายกลทั้งหมดถูกเก่อหลงพาไป ที่เหลือเป็นเพียงกุ้งตัวเล็กๆ
สุดท้ายก็ยังมีคนตายในมือกุ้งน้อยเหล่านั้น
เจิ้นสือซานหันหลังกลับ เขามองไปยังเส้นทางก่อนหน้านี้อย่างครุ่นคิด
"ที่แห่งนี้เป็นตาค่ายกลอย่างแน่นอน จากที่นี่ เราสามารถหลีกเลี่ยงค่ายกล เข้าสู่สถานที่ซึ่งค่ายกลปกป้องอยู่”
เจิ้นสือซานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะชี้ไปที่หญ้าสีม่วงขนาดเล็กที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล อ้าปากพูด
ลู่อวิ๋นพยักหน้า
หญ้าสีม่วงนั้นเป็นจุดเชื่อมต่อของรูปแบบของที่แห่งนี้ ทำให้รูปแบบของมังกรล้อมพยัคฆ์เกิดข้อบกพร่อง
"ขุดลงไปจากตรงนี้ เราสามารถเข้าไปในหลุมฝังศพขนาดยักษ์นี้ได้”
ลมหายใจของลู่อวิ๋นอดไม่ได้ที่จะขาดห้วงอยู่บ้าง
หลุมฝังศพขนาดยักษ์!
ที่แห่งนี้เป็นที่ฝังร่างของผู้สูงส่งเหนือจินตนาการ… ความคับข้องใจของเขาเปลี่ยนหลุมฝังศพขนาดเล็กให้กลายเป็นภูเขาขนาดยักษ์
สามารถได้ขุดหลุมฝังศพขนาดยักษ์ของตัวตนดังกล่าวได้ แม้ว่าเพียงแค่คิดถึงเรื่องนี้ ก็ทำให้เลือดของลู่อวิ๋นเดือดพล่าน
"ขุดมันลงไปงั้นหรือ"
เจ้าเมืองเทียนเหอเยาะเย้ยและพูดว่า"ช่างเป็นขยะผู้ฝึกยุทธ์เซียนครึ่งๆ กลางๆ ผู้ฝึกยุทธ์เซียนเช่นเรามีเคล็ดวิชาจรลีห้าธาตุเป็นของตนเอง สามารถเดินทางลงดินได้โดยตรงเคล็ด… ยังต้องขุดอีกงั้นหรือ"
ลู่อวิ๋นยักไหล่ ทำท่าทางเชิญทำ
"เจ้าไม่สามารถใช้เคล็ดวิชาจรลีห้าธาตุได้"
เจิ้นสือซานส่ายหน้า "ในสุสานเซียนโบราณ มีค่ายกลแปลกๆ พวกมันสามารถยับยั้งสำนึกเซียน และแม้กระทั่งความเป็นเซียนได้ การขุดจากที่นี่ เป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุดจริงๆ ”
ใบหน้าของเจ้าเมืองเทียนเหอซีดเผือด เขาไม่กล้าหักล้างคำพูดของเจิ้นสือซาน
"ขุดลงไปหนึ่งร้อยสามสิบห้าจั้งเจ็ดฉื่อสามชุ่น แล้วก็หยุด”
ลู่อวิ๋นคำราม "ไม่มากกว่านี้ ไม่น้อยกว่านี้!"
“ขุด!”
ชิงหงเฉินสั่ง
แน่นอนว่าหลีโหย่วไฉไม่ทำเอง นั่งอยู่ในที่โล่งด้านหนึ่ง ไม่รู้ว่าปรากฏชิ้นส่วนของบาร์บีคิวมาจากที่ไหน เขากัดกินอย่างช้าๆ
คนของชิงหาน ผู้ว่าการที่เหลืออีกสี่คน เป็นเรื่องปกติที่จะต้องกลายเป็นกุลี
ในทันใดนั้น แสงกระบี่ก็วาดผ่านความว่างเปล่าโดยรอบ ขุดดินบริเวณโดยรอบ
หลุมโจรขนาดเล็กนำไปสู่ใต้ดิน
"หนึ่งร้อยสามสิบห้าจั้งเจ็ดฉื่อสามชุ่น ขุดเรียบร้อยแล้ว!"
หลังจากผ่านไปยี่สิบกว่าลมหายใจ เสียงของเจ้าเมืองเทียนเหอก็ดังมาจากใต้ดิน "แต่ที่นี่ไม่มีอะไรเลย"
"นั่นเป็นเพราะเจ้ามันโง่"
ลู่อวิ๋นหัวเราะเยาะ เขาหันไปหาโม่อีและพูดว่า"เจ้าอยู่ตรงนี้ หากมีบางสิ่งเกิดขึ้นข้างใต้นั่น อย่าลืมไปรับพวกเรา"
"อื้อ "
โม่อีพยักหน้า
"นางจะไม่ลงไปงั้นหรือ"
ใบหน้าของชิงหงเฉินมืดลง
"ถ้านางลงไป พวกเราทุกคนต้องตาย"
ลู่อวิ๋นส่ายหน้าเล็กน้อย "ข้างล่างนี้มีอันตราย ต้องคนคอยรับเราข้างนอก"
"ข้า ข้าจะอยู่คอยรับเจ้า!"
หลีโหย่วไฉอาสา
"ไม่ โม่อีคนเดียวก็เพียงพอแล้ว"
ระหว่างที่พูด ลู่อวิ๋นก็เข้าไปในหลุมโจร
"หลังจากลงไปข้างล่างแล้ว ข้าจะฆ่าเจ้า… !"
ใบหน้าของลู่อวิ๋น มีรอยยิ้มที่น่าสยดสยอง
"ลงไปกันเถอะ"
ชิงหานถอนหายใจ ร่างของเขาขยับ เข้าไปในหลุมโจร
"เจ้า เจ้าดูที่แห่งนี้ให้ดี… อย่าให้ใครทำลาย"
ก่อนที่หลีโหย่วไฉจะลงไป เขามอบความไว้วางใจให้กับโม่อี
โม่อีขี้เกียจเกินกว่าจะให้ความสนใจเขา
"สวรรค์!!!"
ทันใดนั้น ที่ก้นหลุมโจร ก็มีเสียงตะโกนออกมาด้วยความประหลาดใจ "สิ่งประดิษฐ์เซียนมากมาย อาวุธอาคมมากมาย… นั่นอะไร! โอสถเซียน"
"ช่างเป็นเด็กกันจริงๆ!!"
ดวงตาของหลีโหย่วไฉเปลี่ยนเป็นสีทองทันที ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นสามเท่าและลงไปถึงในทันใด
"มันเป็นค่ายกลเคลื่อนย้ายจริงๆ"
ลู่อวิ๋นในปัจจุบันนี้ หลังจากได้รับประสบการณ์ของยู่หยิงแล้ว ก็ไม่ได้เป็นแบบเดิมอีกต่อไป แน่นอนว่าเขารู้ว่ามีบางอย่างในโลกเซียนที่เรียกว่าค่ายกลเคลื่อนย้าย
"หลุมฝังศพขนาดยักษ์นี้… แม้ว่ามันจะแข็งแกร่งกว่าสุสานเซียนโบราณของยู่หยิงมากก็ตาม แต่กระแสพลังของหลุมฝังศพถูกระบายออกออกไปแล้ว เห็นได้อย่างชัดเจนว่าโลงศพของบุคคลที่ถูกฝังในหลุมฝังศพถูกย้าย และที่แห่งนี้ก็ถูกจัดวางใหม่จากผู้อื่น”
ลู่อวิ๋นได้ตัดสินไว้ในใจนานแล้ว
แม้ว่าสุสานเซียนโบราณของยู่หยิงจะถูกเปิด หลายคนจากสำนักเซียนต้าหลัวก็ได้พยายามที่จะเปิดโลงศพของนาง… แต่โลงศพของยู่หยิงยังไม่ถูกเปิด ดังนั้นกระแสพลังวิญญาณสุสานของสุสานทั้งหมดจึงยังไม่สลายตัวไป
แต่ตอนนี้ กระแสพลังของหลุมฝังศพขนาดยักษ์นี้หมดสิ้นไปแล้ว เห็นได้อย่างชัดเจนว่าในห้าพันปีที่ผ่านมา… หรือก่อนหน้านั่น มีคนเปิดโลงศพของผู้ถูกฝังไปแล้ว
แต่ตอนนี้ วัตถุประสงค์หลักของลู่อวิ๋นคือ 'โลกแห่งค่ายกล' จากปากของโม่อี ค่ายกลที่เหนือกว่าภูเขาหมื่นค่ายกลยังคงอยู่ ถ้าเช่นนั้นย่อมหมายความว่าโลกแห่งค่ายกลนี้ยังไม่ได้ถูกนำออกไป
ลู่อวิ๋นไม่สนใจว่าโลงศพในหลุมฝังศพจะเปิดหรือไม่
…
ทุกคนในก้นหลุมโจรหายไป
"นี่คือวนเวียนเจ็ดรอบ… วนเวียนเจ็ดรอบร่วมกันก่อให้เกิดรูปแบบค่ายกลเคลื่อนย้าย"
รูปแบบของวนเวียนเจ็ดรอบนี้สวยงาม ถูกฝังอยู่ในพื้นดิน ถ้าไม่ใช่เพราะลู่อวิ๋นคอยสังเกตภูมิประเทศข้างนอก เป็นไปไม่ได้ที่จะรับรู้ถึงการมีอยู่ของวนเวียนเจ็ดรอบนี้
ก่อนหน้านี้ ตอนที่ลู่อวิ๋นกำหนดความลึกของหลุมโจรนี้ ซึ่งก็คือที่ตั้งของวนเวียนเจ็ดรอบ ลู่อวิ๋นก็แอบสังเกตการเรียงตัวของวนเวียนเจ็ดชั้น จากนั้นจึงค่อยก้าวเข้าสู่ค่ายกลเคลื่อนย้าย
ต่อจากนั้น ต่อหน้าของเขาคือค่ายกลที่หมุนไปรอบๆ
ราชวังที่อลังการ ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา
ในราชวัง อาวุธวิเศษ สิ่งประดิษฐ์เซียน ต่างๆ รวมไปถึงสมบัติวิถีเซียนที่ไม่คาดคิดในความทรงจำของยู่หยิง ต่างปรากฏให้เห็นอย่างละลานตา
และตรงกลางห้องโถงหลักนี้ โลงศพสำริดขนาดใหญ่จัดตั้งอยู่
"โลงศพสำริด!"
ลู่อวิ๋นรู้สึกว่าขนหัวของเขาระเบิดออกทั้งหมดในทันที
สองสิ่งที่โจรขโมยสุสานไม่อยากพบมากที่สุด… คือโลงศพยิ่นซื่อ(1) และ โลงศพสำริด!
—--------------------------------------------------------------------
(1) 窨子棺 โลงศพยิ่นซื่อ เป็นโลงศพที่อันตรายที่สุด มีไว้เพื่อขัดขวางเจ้าของโลงที่กลายเป็นศพไปแล้ว ดังนั้นเมื่อเปิดมันจะต้องมีศพอยู่ เล่าว่า ในร่มเงาของหุบเขาในภูเขาลึกและป่าเก่าแก่ที่ดวงอาทิตย์ไม่เคยส่องแสง มีต้นไม้ที่ไม่เคยเห็นแสงแดดเลยตั้งแต่โตมา ต้นไม้ธรรมดาจะเกิดวงปีทุกปี แต่ต้นไม้ชนิดนี้ที่ไม่เห็นแสงแดดจะมีวงปีเพิ่มขึ้นหลังจากผ่านไปหลายสิบหรือหลายร้อยปีเท่านั้น มีชื่อเรียกว่าไม้ยิ่นซื่อ โลงศพที่ทำจากไม้ยิ่นซื่อ ก็คือโลงศพยิ่นซื่อ
PS: บทต่อไป อย่าอ่านดึกเกินไปนะครับ เดี๋ยวจะหลอน