ตอนที่ 543 ความเห็นป่าเถื่อน
เตาหลอมเจมินี่คือสิ่งที่พิเศษอย่างแท้จริง
ในสิบสองตำหนักระนาบสุริยุปราคาการสืบสายในทุกกลุ่มดาวจะมีความพิเศษและดั้งเดิมมากและเตาหลอมเจมินี่ก็คือพรสวรรค์ในการปลุกพลังสายเลือดดาวคนคู่ที่แข็งแกร่งที่สุด เตาหลอมเจมินี่ถูกสร้างขึ้นจากเตาหลอมพลังงานและเตาหลอมพลังสายเลือดซึ่งเป็นตัวแทนวิธีการฝึกฝนที่แตกต่างกันสองรูปแบบนักสู้ผู้ใช้พลังสายเลือดของกลุ่มดาวคนคู่สามารถฝึกพลังสายเลือดและพลังงานทั้งสองรูปแบบ ซึ่งทั้งสองเป็นระบบของวิทยายุทธ
แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมดสำหรับเตาหลอมเจมินี่ เตาหลอมพลังงานเป็นเหมือนสระน้ำวนขนาดมหึมาความสามารถของมันเองในการดูดซับพลังงานรอบด้านรุนแรงและทรงอำนาจ และมันสามารถกลั่นฟอกพลังงานให้บริสุทธิ์และนี่มีส่วนช่วยเหลือต่อการฝึกปราณแท้อย่างสำคัญ
และเตาหลอมพลังสายเลือดก็แข็งแกร่งพอกันแม้ว่าการพัฒนาพลังสายเลือด สามารถเปลี่ยนร่างกายของนักสู้ได้และทำให้ร่างของนักสู้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง
มีเฉพาะพลังสายเลือดดาวคนคู่ที่ตื่นขึ้นแล้วเท่านั้นสามารถสร้างเตาหลอมเจมินี่ พลังที่ดุดันของมันก็พอจะอนุมานได้
แต่ตรงนี้คือจุดที่ทำให้ถังเทียนชะงัก เพราะร่างกายของเขาคือร่างมีพลังกายเป็นศูนย์
ร่างพลังกายเป็นศูนย์มีพลังขับไล่พลังงานแปลกปลอมอย่างแข็งแกร่ง ทำให้เตาหลอมพลังงานตกอยู่ในสภาพถูกข่มอย่างรุนแรง ความสามารถดูดซับพลังของเตาหลอมพลังงานก็แข็งแกร่งมาก พลังงานที่ถูกดูดซับไม่สามารถโคจรไปทั่วร่างถังเทียนได้ทำให้เตาหลอมพลังงานสะสมพลังงานตลอดเวลา
พลังงานที่เข้มข้นอยู่ในเตาหลอมพลังงานถูกฟอกอย่างต่อเนื่องทำให้มีการสะสม
เสี่ยวเอ้อถูกแช่อยู่ในพลังงานที่หนืดหนาแน่นและสำหรับเขาเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ดีที่สุดในการรักษาตัว
แต่สำหรับถังเทียนซึ่งไม่สามารถระบายพลังงานได้ มันซ่อนอันตรายเอาไว้ ถังเทียนตกใจกลัวรู้สึกว่าเหมือนมีระเบิดอยู่ในร่างกายและเขาอาจระเบิดเป็นชิ้นเมื่อใดก็ได้
ขณะที่เตาหลอมพลังสายเลือด ถังเทียนยังคงพยายามทำความเข้าใจต่อเนื่อง
ความแข็งแกร่งของเซียนพลังสายเลือดรอบตัวถังเทียนยังธรรมดามาก และพวกเขาไม่เข้าใจเตาหลอมพลังสายเลือดของเขา ยังดีที่ผู้อาวุโสกุ่ยอู๋ยังทิ้งความเข้าใจและประสบการณ์มากมายเอาไว้ ถังเทียนเคี่ยวเข็ญตัวเองให้พลิกอ่านบันทึกที่ทำให้เขาต้องปวดหัวและในที่สุดก็ได้ความเข้าใจที่ลึกซึ้งมาบางอย่าง
เตาหลอมสายเลือดก็คือสนามพลังวิญญาณที่เซียนพลังสายเลือดทุกคนมี พวกเขาสามารถทำให้พลังสายเลือดมีวิวัฒนาการต่อเนื่องและสำหรับเซียนพลังสายเลือด นั่นคือจุดกำเนิดที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเขา
โลกถูกคัดเลือกโดยธรรมชาติผู้อยู่รอดคือผู้เหมาะสมที่สุด เป็นกฎธรรมชาติที่สูงสุด
และเตาหลอมสายเลือดก็คือเป็นสิ่งที่ใช้ความพยายามสนับสนุนกฎธรรมชาติมากที่สุด ก็เหมือนกับสังเวียนของพวกนักมวยปล้ำ และมีพลังสายเลือดต่างๆรวมอยู่ทั้งหมด พลังสายเลือดใดๆมีองค์ประกอบที่ซับซ้อนขึ้นอยู่กับปัจจัยเป็นร้อยเป็นพัน ปัจจัยเหล่านี้จะมีการแข่งขันกันเองและผู้ชนะจะปรากฏออกมา
เลือดในตัวของเซียนพลังสายเลือดยังคงไหลเวียนผ่านเตาหลอมสายเลือดและเมื่อเสร็จสิ้นการวิวัฒนาการก็จะโคจรเป็นกระแสที่มั่นคงโคจรไปทั่วทุกส่วนของร่างกายเสริมพลังความแข็งแรงของร่างกายทุกส่วน
นั่นก็คือปราณแท้ของเตาหลอมสายเลือด
เซียนพลังสายเลือดทั้งหมดนี้จะผ่านการเปลี่ยนแปลงร่างกายครั้งใหญ่ของพวกเขาบางคนมีปีกงอกทำให้มีความเร็วคล่องแคล่วขึ้นบางคนมีขนาดร่างกายที่ใหญ่ทำให้พวกเขามีพลังป้องกันที่มั่นคงบางคนก็พัฒนาการที่ดวงตา บางคนก็แปลงพลังให้เป็นสิ่งที่น่ากลัวได้
เพราะเหตุนั้นวิถีของชีวิตพวกเขาจะเปลี่ยนแปลงไปและมากสีสันตลอดกาล
และชีวิตเองก็เป็นกฎที่สุดยอดและลึกซึ้งของโลกอย่างหนึ่ง
พลังสายเลือดอาจคงอยู่ได้หลายปีและมีประสบการณ์ไปตามเวลาผ่านการพิสูจน์ความสอดคล้องกับกฎธรรมชาติ เซียนผู้ทรงมีพลังเติบโตกล้าแข็งไปตามเวลากลมกลืนไปกับท้องฟ้าท่องเที่ยวผ่านจันทราข้ามน้ำ ข้ามทะเลผ่านไปยังมิติว่างได้อย่างอิสระ
และว่าด้วยอายุขัยเซียนพลังสายเลือดมีข้อได้เปรียบที่แข็งแกร่งกว่า เพราะกฎของพวกเขาก็คือชีวิต คือวิวัฒนาการ
ก่อนนั้นถังเทียนไม่มีความรู้สึกใดต่อเซียนพลังสายเลือด แต่ยิ่งเขาอ่านมาก ก็ยิ่งรู้สึกน่ากลัวมาก เซียนพลังสายเลือดแข็งแกร่งมากกว่าที่เขาคิดไว้ถ้าไม่ใช่เพราะบันทึกความคิดเห็นของผู้อาวุโสกุ่ยอู๋ ถังเทียนรู้สึกว่าเขาคงไม่มีทางเข้าใจเรื่องทั้งหมดนี้ได้ในชีวิตของเขา
แต่ตอนนี้เขาเข้าใจหลายเรื่องแล้ว ถังเทียนมีแนวความคิดอย่างหนึ่ง
เซียนพลังสายเลือดยังคงเหมือนกัน พวกเขาต้องการพลังงาน นั่นเป็นเพราะภายใต้การกระตุ้นของพลังงานพลังสายเลือดสามารถพัฒนาได้ง่ายขึ้นการสร้างความเปลี่ยนแปลงขึ้นใหม่ก็หมายความว่าจะมีการแข่งขันรุนแรงมากขึ้นและสามารถพัฒนาไปเป็นพลังสายเลือดที่ดีได้ง่ายขึ้นมาก
ร่างของถังเทียนมีความพิเศษมากร่างพลังกายเป็นศูนย์ การพัฒนาพลังสายเลือดของเขาจะอ่อนลงไปหรือเปล่า?
ถังเทียนคิดเรื่องวิธีการที่ผู้อาวุโสกุ่ยอู๋ได้ทิ้งเอาไว้ ฝึกฝนร่างพลังกายเป็นศูนย์ซึ่งเป็นการใช้พลังงานต่อเนื่องไปกระตุ้นร่างพลังกายเป็นศูนย์และให้พลังขับสิ่งแปลกปลอมของมันทรงพลังมากขึ้น หลังจากผลัดกันฝึกกับเสี่ยวเอ้อเป็นเวลาไม่กี่วันพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าความคิดเห็นของผู้อาวุโสกุ่ยอู๋นั้นถูกต้อง
ตอนนี้ถังเทียนเข้าใจชัดเรื่องเตาหลอมสายเลือดขึ้นมาก เขาไม่จำเป็นต้องมีพลังสายเลือดเพื่อสร้างผลงานใหม่ๆ แค่จำเป็นต้องได้องค์ประกอบของพลังขับไล่ของร่างมีพลังกายเป็นศูนย์เท่านั้น
พลังสายเลือดวิวัฒนาการอยู่ในเตาหลอมสายเลือดจากนั้นนำเข้าไปไว้ในจุดที่มีพลังงานและกระตุ้นการเติบโต เช่นเดียวกับวิธีที่เขาถูกเสี่ยวเอ้อทุบตี เพื่อให้พลังสายเลือดถูกพลังงานบดทุบอย่างไม่มีที่สุด โดยวิธีนั้นก็น่าจะทำให้ร่างพลังกายเป็นศูนย์มีวิวัฒนาการเพิ่มขึ้น
และสำหรับพลังงานแล้ว อะไรจะดีไปกว่าภายในเตาหลอมพลังงาน?
พลังงานที่อยู่ภายในเตาหลอมพลังงานมีอยู่อย่างเหลือเฟือมากและเสี่ยวเอ้อไม่สามารถจะดูดซับได้ทั้งหมด ขณะเดียวกันมันจะช่วยพลังสายเลือดกำจัดพลังงานบางส่วนออกไป ด้วยวิธีนี้จะไม่ต้องกังวลเรื่องว่าเตาหลอมพลังงานจะระเบิด
กระสุนนัดเดียวฆ่านกได้สองตัว
ถังเทียนตกใจมากกับวิธีการอันชาญฉลาดที่เขาคิดได้ หน้าของเขามีแววปีติยินดี หนุ่มชาวฟ้าก็แข็งแกร่งมามายอยู่แล้ว เมื่อเชียนฮุ่ยรู้เรื่องนี้ นางจะต้องชื่นชมข้าแน่
สำหรับสิ่งที่เขาคิด นั่นเป็นบุคลิกส่วนตัวของถังเทียน
ถังเทียนไม่รู้ว่าในประวัติศาสตร์ของกลุ่มดาวคนคู่ เตาหลอมเจมินี่ไม่เคยทำการใช้งานมาก่อน สามารถใช้พลังงานได้สองรูปแบบคือจุดที่แข็งที่สุดในกลุ่มดาวคนคู่และไม่มีใครเคยคิดถึงการกำหนดความเชื่อมระหว่างเตาหลอมพลังงานและเตาหลอมสายเลือด
ถังเทียนไม่รู้รู้ว่าได้ทำบางอย่างที่ไม่มีใครเคยคิดมาก่อนเรื่องนี้ปิงชินเสียแล้ววิทยายุทธที่ทรงพลังทั้งหมดเมื่ออยู่ในมือของถังห้าวมักจะมีความแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิงสามารถบดขยี้ร่างพลังกายเป็นศูนย์ที่แปลกประหลาดได้ ปิงก็เลิกประหลาดใจในสิ่งที่ถังห้าวสร้างขึ้นมาอีกต่อไป
ความจริงคำว่าห้าวอาจว่าตรงเกินไปบ้าง แต่การกระทำของเด็กหนุ่มมักเป็นเรื่องคาดเดาไม่ได้ หยั่งไม่ถึง ดังนั้นเขาไม่มีความตั้งใจจะห้ามเขาและได้แต่ประคับประคองเดินร่วมไปกับเขา
ถังเทียนปลุกเสี่ยวเอ้อ
ความจริงเสี่ยวเอ้อหายดีแล้วแต่เพราะพลังงานภายในเตาหลอมพลังงานมีหนาแน่นมากการแช่ตัวเองอยู่ในนั้นทำให้เขาสะดวกสบายมาก เขาชำระขัดเกลาตัวเองได้เป็นอย่างดี และสัมผัสแรกกับพลังงานด้วยตัวเอง ทำให้การหลับอยู่ในเตาหลอมพลังงานเป็นเรื่องน่ารื่นรมย์
เตาหลอมพลังงานสามารถช่วยเสี่ยวเอ้อได้ทำให้ค่าพลังวิญญาณของเขาเพิ่มสูงและขยายไปอย่างรวดเร็ว
สนามพลังวิญญาณเซียนจำเป็นต้องได้รับการฝึกฝน เป็นเรื่องที่รู้กันทั่วไปว่าจิตวิญญาณยุทธก็คือสำนึกของพัฒนาการพลังงาน ไม่ว่าทั้งสนามพลังวิญญาณหรือจิตวิญญาณยุทธจำเป็นต้องพัฒนาเพื่อให้สนามพลังวิญญาณแข็งแกร่งขึ้นและจำเป็นต้องมีการฝึกจิตสำนึก
นั่นจะนำให้เรากลับไปสู่ต้นกำเนิดของชีวิต
จิตสำนึกคือความคงอยู่ที่ลึกลับและเข้าใจยากที่สุดในกฎของชีวิตมีแต่เมื่อเข้าถึงความเป็นเซียนพวกเขาจึงจะได้สำนึกว่าการฝึกฝนและวิธีการขัดเกลาต่างๆ จะนำกลับไปสู่ปลายทางเดียวกันและนั่นเพื่อสำรวจแก้ข้อสงสัยปริศนาชีวิตเอง
เซียนหลายคนเพื่อให้ได้พบเซียนพลังสายเลือดต่างๆจะยกย่องเซียนที่ฝึกฝนทางจิตสำนึกว่าเป็นเซียนจิตวิญญาณ
เซียนจิตวิญญาณมีความเข้าใจลึกซึ้งฝึกฝนศึกษาทางด้านจิตสำนึกภายใน ตั้งแต่แรกผู้คนอาจสับสนว่าวิญญาณก่อตัวขึ้นอย่างไร และคำถามนี้สร้างความสงสัยให้เผ่าพันธุ์มนุษย์มานานหลายปีแล้ว และในที่สุดมันก็คือสมบัติดวงดาวที่ยอมให้ขยายปริศนานี้
สมบัติดวงดาวที่แข็งแกร่งกว่าจะมีจิตวิญญาณยุทธเป็นของตนเองและการเริ่มต้นวิวัฒนการสมบัติดวงดาวจะกินเวลาหลายปี
เมื่อกลุ่มดาวก่อกำเนิดพลังดวงดาวจะค่อยๆ มีเสถียรภาพ ภายในกลุ่มดาวจะมีสมบัติตามธรรมชาติไม่กี่อย่างและสมบัตินั้นจะคุ้นกับพลังงานมากซึ่งก็คือสมบัติดวงดาวและเนื่องจากสมบัติเหล่านั้นดูดซับพลังดวงดาวหลังจากผ่านไปหลายหมื่นปี พลังงานที่สะสมอยู่ภายในตัวสมบัติจะทำให้สมบัติเหล่านี้ให้กำเนิดจิตวิญญาณยุทธ
วิญญาณมาจากพลังงาน ยิ่งพลังงานมากยิ่งให้กำเนิดวิญญาณได้ง่ายขณะที่พวกเซียนยังคงศึกษาต่อไป พวกเขาตระหนักได้ว่าเมื่อพลังเข้มข้นจนถึงระดับที่แน่นอนจากนั้นก็จะก่อเกิดเป็นร่างสำนึกเล็กๆซึ่งเป็นที่มาของวิญญาณ
ดังนั้นพลังงานมากมายภายในเตาหลอมพลังงานจึงเหมาะสมมากกับการสร้างต้นกำเนิดวิญญาณและนั่นคือเหตุผลที่เสี่ยวเอ้อรู้สึกมีความสะดวกสบาย
แต่เมื่อถังเทียนนำพลังสายเลือดของเขาเข้าไปในในเตาหลอมพลังงาน เสี่ยวเอ้อก็ผวาตื่นทันทีและบินออกมาอย่างโมโห พลังสายเลือดของถังเทียนมีผลที่ไม่ธรรมดาเนื่องจากความเข้มข้นของพลังงานภายในเตาหลอมพลังงานลดลงอย่างฮวบฮาบ
เสี่ยวเอ้อที่สะดุ้งตื่นและลอยออกมาถลึงตามองถังเทียนอย่างไม่พอใจ
“เอ่, เสี่ยวเอ้อ เจ้าดีขึ้นแล้วนี่!” ถังเทียนมีความสุข
“ทำไมเจ้าถึงปล่อยพลังสายเลือดเข้าไปในเตาหลอมพลังงาน?” เสี่ยวเอ้อถามด้วยท่าทางเย็นชา
“โอว นี่เป็นเพราะ...” ถังเทียนเริ่มพล่ามถึงแนวคิดฝึกฝนของเขา
เสี่ยวเอ้อสะดุ้ง เจ้าเด็กโง่นี่ใช้สมองกับเขาเป็นด้วยหรือนี่!
เขาต้องยอมรับว่าทฤษฎีของถังเทียนและการฝึกตามที่คิดไม่มีปัญหาอะไร แต่เมื่อเป็นเช่นนั้นความเข้มข้นภายในเตาหลอมพลังงานจะลดลงมาก และสำหรับเสี่ยวเอ้อเป็นสิ่งที่น่ากลัวอย่างแน่นอน
ดูเหมือนเจ้าผู้นี้เมื่อเร็วๆนี้โดนเล่นงานอย่างหนัก หรือว่าเขายิ่งถูกทุบตียิ่งเกิดปัญญารู้แจ้ง?
เสี่ยวเอ้อคิดอยู่เงียบๆ แต่เขายังคงอธิบายให้ถังเทียนว่าวิธีนั้นเป็นผลดีต่อพลังสายเลือดก็จริง แต่มันก็ยังทำร้ายเขาด้วย
เสี่ยวเอ้อต้องการแนะนำถังเทียนไม่ให้ทำตามความคิดเขา ไม่ว่าข้อเสนอนั้นจะเป็นประโยชน์หรือไม่ก็ตาม แต่ศักยภาพของร่างพลังกายเป็นศูนย์จะเทียบกับเขาได้ยังไง?
“นั่นก็จริง” ถังเทียนเอียงคอคิด จู่ๆเขาก็อุทานขึ้น “เอ๊ะ นั่นง่ายมาก ข้าก็แค่ใช้พลังสายเลือดในปริมาณที่น้อยลงนั่นน่าจะช่วยแก้ปัญหาได้ไม่ใช่หรือ? พลังสายเลือดสามารถเป็นพลังขับไล่ได้ ถ้าข้าควบคุมปริมาณของพลังสายเลือดและปล่อยให้ขับพลังงานออกมาแต่ไม่ปล่อยให้พลังหมดจากนั้นข้าสามารถบังคับพลังงานให้เข้ากันและพลังงานที่เข้มข้นก็จะเพิ่มขึ้นด้วย!”
เสี่ยวเอ้อเกือบจะคัดค้านโดยอัตโนมัติแล้ว แต่เมื่อเตรียมจะพูดออกมา เขากลับตกตะลึง
ความคิดของเจ้าเด็กโง่นี่เป็นไปได้จริงๆ!
เสี่ยวเอ้อมองดูเจ้าเด็กโง่นี่เหมือนกับเห็นตัวประหลาด หรือว่ามีใครอื่นมาสิงร่างของเขาหว่า?
ทำไมจู่ๆมันถึงได้ฉลาดนักเล่า?
หลังจากมองดูอยู่ครึ่งค่อนวันเสี่ยวเอ้อไม่สามารถคิดออกว่าอะไรทำให้เจ้าเด็กโง่เปลี่ยนไปกระทันหัน
“มาลองกันเถอะ!” ถังเทียนตื่นเต้นมากจากแนวความคิดของตนเอง ถ้าสามารถรู้ได้จริง โอว โอว โอวอย่างนั้นอนาคตจะมีความหมายไม่ใช่หรือ หนุ่มชาวฟ้านี้จะกลายเป็นปรมาจารย์ชาวฟ้าแล้ว
ฉายานี้เท่อย่าบอกใครเลย!
ถังเทียนไม่อาจรอทดสอบได้ไหว
แม้ว่าเตาหลอมพลังงานและเตาหลอมสายเลือดจะอยู่ติดกันแต่จะทำลายกำลังระหว่างทั้งสองเป็นเรื่องที่ให้ถังเทียนปวดหัว เตาหลอมพลังงานมีชั้นของพลังงานเหมือนกับผนังกำแพง ขณะที่เตาหลอมสายเลือดมีมีชั้นเยื่อหุ้มเลือด ทั้งสองติดอยู่ข้างกัน
เสี่ยวเอ้อยังคงคิดอยู่ พวกเขาจะสามารถนำพลังสายเลือดเข้าไปในเตาหลอมพลังงานได้ยังไง?
ไม่ว่าจะเป็นเตาหลอมสายเลือดหรือเยื่อหุ้มสายเลือดหรือเตาหลอมพลังงานหรือผนังกั้นพลังงาน ทั้งหมดมั่นคงไม่คลอนแคลน
เจ้าเด็กนี่จะทำอะไรกันแน่...
เสี่ยวเอ้อสงสัย แต่วินาทีต่อมา สีหน้าบนใบหน้าของเขาก็แข็งค้าง