ตอนที่ 32 พลังของตระกูลอุจิวะ
เมื่อเห็นสถานการณ์ที่สิ้นหวังของดันโซ เพื่อนของเขา ฮิรุเซ็นเริ่มใจอ่อนและพูดว่า "ดันโซ ยอมแพ้และไปรับโทษแต่โดยดีเถอะ"
"และการรับโทษที่ท่านพูดถึงนี้คืออะไร"? บาโคริโอะพูด
ฮิรุเซ็นดูเป็นทุกข์และพูดว่า "ดันโซเป็นหนึ่งในคนที่เก่งที่สุดของหมู่บ้าน เราจะกังขังเขาและใช้เขาเมื่อจำเป็น"
จากสนามรบกลายเป็นความเงียบ ที่ทุกคนมองฮิรุเซ็นด้วยใบหน้ามึนงง รวมทั้งดันโซ 'ช่างเป็นโฮคาเงะที่ไร้ประโยชน์เสียจริง' พวกเขาคิดขณะที่รู้สึกผิดหวัง แม้แต่คนที่อยู่ใกล้หอโฮคาเงะและคนข้างถนนก็คงรู้สึกเช่นเดียวกัน
"คุณฮิอาชิ คุณฟุงาคุผมแนะนำให้ทั้งอุจิวะและฮิวงะออกจากหมู่บ้าน ถ้ายังถูกปกครองโดยคนไร้ความสามารถคนนี้ คุณคิดเหมือนกันไหม"? บาโคริโอะพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
มีการตอบกลับอย่างรวดเร็วสำหรับคำถามของบาโคริโอะ แต่ไม่ใช่จากฮิอาชิและฟุงาคุแต่มาจาก ฮิรุเซ็น "เจ้าหนู นายกำลังพูดอะไร นายกำลังพยายามทำให้หมู่บ้านล่มสลายงั้นเหรอ"?
“เปล่า ผมกำลังให้ท่านจัดการกับดันโซ หุบปากแล้วจัดการมันต่อหน้าเรา หรือท่านพยายามซื้อเวลาให้เขาคิดแผนกันแน่”? บาโคริโอะทำหน้าสงสัยและก็จริง
"เอายังไง"? ฮิรุเซ็นรู้สึกหงุดหงิดที่มีเด็กคนหนึ่งบอกให้เขาหุบปาก แต่เขารู้ว่ามันเป็นความผิดของเขา ที่ทำตัวเห็นแก่ตัวปล่อยให้เพื่อนของเขาทำอะไรโดยไม่สนใจความรู้สึกของคนอื่น... ช่างเป็นโฮคาเงะที่ยอดเยี่ยมอะไรแบบนี้ ...
"พอแล้ว บาโคริโอะ เราต้องโฟกัสไปที่การจัดการกับดันโซในตอนนี้" ฟุงาคุพูดด้วยสีหน้าผิดหวัง ขณะที่มองไปที่ฮิรุเซ็น ฮิอาชิมีใบหน้าแบบเดียวกัน และทำให้ฮิรุเซ็นนึกถึงใบหน้าของมินาโตะและคุชินะที่เขาเพิ่งเห็น ทำให้เขารู้สึกผิดอีกครั้งและโฟกัสไปที่การจัดการกับดันโซ
"เราจะพูดถึงสิ่งที่เด็กคนนั้นพูดในภายหลัง เตรียมตัวได้แล้ว" ฮิรุเซ็นพูด ดังนั้นพวกเขาจึงเริ่มโจมตีดันโซแบบเดียวกับครั้งก่อน แต่คราวนี้มีบางอย่างแตกต่างออกไป ดันโซได้คิดแผนบางอย่างระหว่างที่ทั้ง4คนนั้นกำลังพูดคุยกัน
โดยปกติแล้วในขณะที่ฮิอาชิโจมตีดันโซด้วยมวยอ่อน ดันโซจะถอยหนี บางครั้งก็ตอบโต้ด้วยการต่อสู้ระยะประขิดของเขาเอง หรือไม่ก็โจมตีกลับด้วยดาวกระจายลมและกระสุนอากาศ
ครั้งนี้เมื่อฮิอาชิโจมตีและคิดว่าดันโซจะหลบเหมือนปกติ เขาเห็นว่าหมัดของเขาสัมผัสเข้ากับไหล่ขวาของดันโซ แต่ในขณะเดียวกันดันโซก็โจมตีเขากลับด้วยมือซ้ายและทำให้เขากระเด็นออกไป
ขณะที่ฮิอาชิกระเด็นออกมา ฟุงาคุก็ใช้โอกาสนี้โจมตีที่แขนขวาของดันโซที่ขยับไม่ได้เนื่องจากผลของมวยอ่อน ในขณะที่ฮิรุเซ็นเบนความสนใจด้วยกับกระบองของเขาด้วยการโจมตีจากด้านซ้าย
ดันโซเอนหลังและหลบหลีกตะบองนั้น แต่เขาเห็นดวงตาสีแดงเป็นประกายสองดวงจากการมองเห็นข้างขวาของเขา ดังนั้นเขาจึงพยายามกระโดดหนี แต่แสงสีดำก็ผ่านไป และแขนขวาของเขาก็เริ่มลอยขึ้นไปในอากาศพร้อมกับหมุนอย่างช้าๆ...
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นตั้งแต่การโจมตีของ ฮิอาชิไปจนถึงการเบี่ยงเบนความสนใจของฮิรุเซ็นไปจนถึงฟุงาคุที่ใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้ การต่อสู้แบบเป็นทีมของพวกเขาเกือบจะสมบูรณ์แบบแล้ว
'นี่คือประสบการณ์ แม้ว่าพวกเขาจะไม่เคยต่อสู้ด้วยกันมาก่อน พวกเขาก็เรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วว่าจะทำอย่างไรให้ออกมาดีที่สุด' บาโคริโอะคิดในขณะที่มองดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ดันโซตามมาอย่างรวดเร็วด้วยการหายใจเข้าลึกๆ และส่งคลื่นอากาศที่แหลมคมซึ่งดูเหมือนจะมุ่งเป้าไปที่ฟุงาคุ แต่ดันโซเปลี่ยนทิศทางการโจมตีอย่างรวดเร็วโดยมีเป้าหมายเป็นฮิอาชิที่ยืนอยู่แทน และบาโคริโอะก็เข้าใจทันทีว่ามีบางที่แปลกไป
ฮิอาชิทั้งประหลาดใจและหวาดกลัวเพราะเขาพบว่าเขาไม่สามารถขยับร่างกายได้เนื่องจากผนึกสีดำเริ่มปรากฏขึ้นรอบตัวเขาและขยายขึ้นมาบนใบหน้า ทั้งฟุงาคุและฮิรุเซ็นก็อยู่ห่างจากเขา
'ผนึกนี่มันอะไรกัน' ฮิอาชิคิดในขณะที่เขารู้สึกกลัวมากขึ้นเมื่อมองดูคลื่นลมที่แหลมคมมากที่กำลังเข้าใกล้เขามากขึ้นเรื่อยๆ และรู้ว่าเขาไม่สามารถหนีมันได้ทันเวลา
'ฉันคงมาได้แค่นี้สินะ' ฮิอาชิคิดเป็นครั้งสุดท้าย... ทันใดนั้นบาโคริโอะที่มีปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็วรีบหยิบโล่ขนาดใหญ่ที่คลุมทั้งตัวของเขาออกอย่างรวดเร็วและกระโดดเอาโล่นั้นไปบังตัวให้ฮิาชิ! ทำให้ฮิอาชิเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
วี๊ดดดดดดดดดดดดดด
เสียงแปลกๆของบางสิ่งที่พยายามตัดโลหะเมื่อคลื่นลมที่รุนแรงปะทะกับโล่ขนาดใหญ่ของบาโคริโอะ ทำให้เกิดประกายไฟกระจายไปทั่วบริเวณ และด้วยแรงปะทะที่รุนแรง บาโคริโอะก็กระเด็นออกไปเหมือนกัน
น่าเสียดายที่โล่นั้นถือได้ไม่นานมันก็ขาดครึ่ง แต่มันก็ทำให้คลื่นลมนั้นอ่อนลง ถัดจากนั้น บาโคริโฮะจึงหยิบดาบสั้นสองคมออกมาและถือด้วยมือทั้งสองข้างจากด้ามและปลายในแนวนอนหน้าเขา สกัดกั้นคลื่นอากาศนั้นอีกครั้ง
ครั้งนี้เขาทำให้มันกระเด็นออกไปได้ และหลังจากที่คลื่นลมที่ถูกเปลี่ยนทิศทางไปผ่านบ้านหลายหลังจน บ้านแต่ละหลังถูกผ่าครึ่งมันก็สลายหายไป ในตอนนี้สภาพของบาโคริโอะดูแย่มาก
เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง เนื้อตัวมีแต่บาดแผล ขาที่บาดเจ็บ และนิ้วหัก นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อร่างกายระดับจูนินสกัดกั้นการโจมตีระดับคาเงะ และเขาโชคดีที่มีดาบของเขายังไม่หัก
'ขอบคุณพระเจ้าที่ฉันได้โล่นั้นมาระหว่างฝึกซ้อมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่นี่มันแย่จริงๆ' บาโคริโอะคิดในขณะที่มองไปที่ฮิอาชิ
ฮิอาชิมองบาโคริโอะด้วยความขอบคุณก่อนจะมุ่งความสนใจทั้งหมดไปที่จักระของเขาและส่งมันออกจากร่างกายอย่างรวดเร็วจากช่องไหลเวียนจักระทั้ง 361 ช่องของเขา ซึ่งเป็นความสามารถเฉพาะของตระกูลฮิวงะ ในที่สุดเขาก็กำจัดผนึกคำสาปและเคลื่อนไหวร่างกายได้อีกครั้ง แล้วรีบพูดว่า "นายโอเคไหม บาโคริโอะคุง"?
"ไม่เป็นไร ไม่ต้องห่วงผม รีบไปช่วยพวกเขาก่อน คราวหน้าต้องระวังดันโซให้มากกว่านี้" บาโคริโอะพูดด้วยสีหน้าสงบเพื่อให้ฮิอาชิเชื่อว่าเขาสบายดี
“ตกลง ฉันจะรีบกลับมา!” ฮิอาชิพูดก่อนที่จะพุ่งไปหาดันโซอย่างรวดเร็ว แต่สิ่งที่เขาเห็นนั้นผิดไปจากที่เขาคาดไว้ ฟุงาคุที่ปกติจะสงบนั้นโกรธมากและเนตรธรรมดาของเขาก็เปลี่ยนเป็นเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา และเขาก็หวดดันโซไปทางซ้ายและขวาอย่างง่ายดายด้วยการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วมาก
'มีบางอย่างที่เปลี่ยนไป' ฮิอาชิคิดขณะที่เขาเห็นว่าความเร็วของฟุงาคุไม่ใช่เพราะการเคลื่อนไหวจากร่างกายของเขา เขาเห็นฟุงาคุก้าวตามปกติและแต่จะมาปรกฎหน้าดันโซในทันที
'ไม่ เขาไม่ได้เคลื่อนที่ด้วยความเร็ว แต่เขากำลังลดพื้นที่รอบข้างลง!!' ฮิอาชิตกใจก่อนจะมองไปที่เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผาของฟุงาคุว่า 'ตาของเขาเปลี่ยนไปหรือเปล่า'? ขณะที่เขากำลังคิดฟุงาก็จัดการดันโซโดยที่หัวและร่างกายนั้นถูกแยกออกจากกัน
ถึงตอนนี้ ผู้คนที่อยู่ในหอคอยโฮคาเงะเริ่มตามมาถึงแล้ว และพวกเขาดูพูดไม่ออกกับการต่อสู้นี้ 'นี่คือพลังของอุจิวะ...' พวกเขาคิดในขณะที่บาโคริโอะกลับมาที่การต่อสู้ครั้งนี้ด้วย ต้องขอบคุณร่างแยกของเขาที่แบกเขาขึ้นหลัง เมื่อบาโคริโอเห็นแบบนั้นจึงรีบตะโกนว่า "ใจเย็นๆก่อน คุณฟุงาคุ!"
เพราะถ้าเขายังเป็นแบบนี้ต่อไป เขาจะสามารถจัดการกับดันโซได้อย่างง่ายดาย แต่เขาต้องแลกมาด้วยการสูญเสียการมองเห็นของเขา และเขาก็สงบลงจริงๆ เมื่อเขาเห็นบาโคริโอะยังมีชีวิตอยู่และปิดการใช้งานเนตรกระจกเงาหมื่นบุปผาของเขา ในขณะที่การต่อสู้กับดันโซถึงจุดตัดสินอย่างรวดเร็ว ด้วยความช่วยเหลือของโจนินที่เหลือ...