ตอนที่ 16-27 เขตลับ
“ออกจากเกาะมิลัวร์?” ลินลี่ย์ประหลาดใจทันทีที่ได้ยินอย่างนี้
เพิ่งจะผ่านไปเพียงไม่กี่วันตั้งแต่การต่อสู้ครั้งใหญ่ และเซซิลเพิ่งจะแต่งงานกับไซเคิลยังไม่นาน จู่ๆนางจะออกไปจากเกาะมิลัวร์ได้ยังไง? ต่อให้นางออกไปจริงๆ คนอื่นก็น่าจะได้เห็น แต่ในช่วงเวลาไม่กี่วันนี้ เขาถามคนมาหลายคนแล้วไม่มีใครรู้อะไรเกี่ยวกับเซซิล พวกเขาไม่พบเห็นนางด้วยเช่นกัน
“เขาโกหก!” ลินลี่ย์ตัดสินได้ทันที
ทำไมเขาจึงต้องโกหก?ทันใดนั้นลินลี่ย์มีลางสังหรณ์อัปมงคลเกิดขึ้นในใจ
“ทุกท่าน ตามข้ามา เราจะออกไปกันแล้ว” ตอนนี้สีหน้าของไซเคิลดูน่ากลัวมาก หลังจากที่เขาพูดเสร็จ เขานำกลุ่มผู้คนเดินลึกไปที่ยอดเขาดาบสุริยันต์ แม้ว่าลินลี่ย์จะรู้สึกสงสัยในใจ แต่เขาก็ยังตามไปด้วย
ยอดเขาดาบสุริยันต์ กลุ่มของลินลี่ย์เก้าคนลอยตัวเข้าไปในนั้น
ครู่ต่อมากลุ่มของลินลี่ย์ก็มาถึงโพรงถ้ำลึกไม่มีร่องรอยแสงแดดส่องถึง ไซเคิลเป็นคนแรกที่เข้าไปในโพรงถ้ำลึก ขณะที่กลุ่มของลินลี่ย์แปดคนลังเลเล็กน้อยจากนั้นเข้าไปด้วยเช่นกัน
“คุณชายไซเคิล” เทพชั้นสูงคนหนึ่งพูดผ่านสำนึกเทพ “พื้นที่ลับนี้อยู่ที่ใดกันแน่? โพรงถ้ำนี้ดูเหมือนจะลึกเข้าไปไม่มีที่สุด”
“ตามข้ามาเถอะน่า” ไซเคิลบอกอย่างใจเย็น
ลินลี่ย์และโรมิโอตามเข้าไปอย่างเยือกเย็น มีอะไรต้องกลัว? ไซเคิลนี้ก็อยู่ข้างหน้าพวกเขา และในพวกเขาก็สามารถฆ่าไซเคิลได้อย่างง่ายดาย พวกเขาไม่จำเป็นต้องกลัวไซเคิลใช้ลูกเล่นกลลวงแต่อย่างใด นอกจากนี้ลินลี่ย์ได้รู้มาจากทารอสแล้วว่าพื้นที่ลับเก็บผลึกบันทึกเอาไว้
“ลินลี่ย์” เสียงหนึ่งดังขึ้นในใจของลินลี่ย์
ลินลี่ย์หันไปมองโรมิโอที่อยู่ใกล้ๆ ตอนนี้คนที่ส่งข้อความทางใจก็คือโรมิโอ ริมฝีปากของโรมิโอยิ้ม และเขายังคงพูดผ่านสำนึกเทพต่อ “เมื่อข้าเห็นเจ้าสู้ ข้ามั่นใจเลยว่าตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์นับว่ามีชื่อจริงๆขอถามได้ไหมอีกสามตระกูลสาขาของตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์แข็งแกร่งมากเท่าไหน?”
“ทำไมมีคำถามมากมายนัก?” ลินลี่ย์ตอบ
ความจริงลินลี่ย์เองรู้เรื่องราวตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์น้อยมาก
“ใช่แล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องถามเลย ข้าจะรู้เมื่อข้าได้สู้กับพวกเขาจริงๆ หลังจากเราออกไปจากพื้นที่ลับนี้ เรามาลองซ้อมมือกันสักเล็กน้อยก็ดี หลังจากนั้นข้าจะไปแคว้นอินดิโกทวีปบลัดริจเพื่อหายอดฝีมือของอีกสามตระกูลสาขาสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าเพื่อประลองกับพวกเขา” แม้ว่าหน้าของโรมิโอจะยังสงบ แต่ดวงตาของเขาเป็นประกาย
โรมิโอกระตือรือร้นต้องการสู้กับยอดฝีมืออื่น
ลินลี่ย์อดรู้สึกปวดหัวไม่ได้
ตราบเท่าที่เขาออกจากห้องลับ เขาคงต้องประลองกับคนบ้านี่หรือ? ไม่ใช่ว่าลินลี่ย์ไม่อยากประลอง แต่เป็นเพราะลินลี่ย์รู้จักจุดแข็งและจุดอ่อนตัวเองดี ไม่ใช่เรื่องแย่นักหรอกถ้าเขาไปพบกับยอดฝีมือผู้ถนัดโจมตีทางวัตถุธาตุ แต่ถ้าเขาเผชิญกับยอดฝีมือในทางโจมตีพลังวิญญาณ ก็จะเป็นเรื่องน่ากลัว
ลินลี่ย์สบถอยู่ในใจ “คนผู้นี้ ฮึ.. เขาบ้ายิ่งกว่าแลร์มองต์เสียอีกทันทีที่เขาพบเจอยอดฝีมือ เขาจะต้องท้าทายต่อสู้”
ขณะที่คุยกับโรมิโอผ่านสำนึกเทพแต่ลินลี่ย์ก็ยังเดินทางไปได้เร็ว พวกเขาไปได้หลายกิโลเมตร อย่างไรก็ตามสิ่งที่แปลกก็คือแม้ว่าพวกเขาจะลงลึกเข้าไปในถ้ำหลายกิโลเมตรก็ตาม ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะถึงที่สุด
“ด้วยความลึกขนาดนี้เราเราควรจะอยู่ภายในเกาะมิลัวร์” ลินลี่ย์คาดเดา
ทันใดนั้นลินลี่ย์พบว่าทางเดินด้านล่างเต็มไปด้วยน้ำ
“ข้างล่างนี่มีแต่น้ำ เรายังต้องลงไปอีกหรือ?” ใครบางคนอดถามขึ้นไม่ได้
“แค่ตามข้ามาและเลิกคุยกันได้แล้ว” ตอนนี้ไซเคิลรู้สึกไม่พอใจ คำพูดลินลี่ย์ที่ยอดเขาดาบสุริยันต์ทำให้อารมณ์เขาไม่ดี คำพูดที่เซซิลพูดก่อนตายทำให้เขารู้สึกเหมือนโดนดูถูกยิ่งกว่าเมื่อเขาพบว่าเซซิลมีลูกคนอื่นอยู่ในท้อง!
“ติ๋ง, ติ๋ง....”
กลุ่มของลินลี่ย์ติดตามไซเคิลเข้าไปในน้ำและทั้งแปดคนได้สร้างพลังป้องกันคลุมร่างกันไม่ให้เปียกน้ำ
“ตอนนั้น ข้าควรจะถามรายละเอียดทารอสว่าที่ลับนี้เป็นยังไงกันแน่” ลินลี่ย์รู้สึกสงสัย ทางเดินในน้ำนี้มีผนังถ้ำปกคลุมไปด้วยพืชเขียว เห็นได้ชัดว่าเส้นทางนี้เต็มไปด้วยน้ำและคงอยู่มานานแล้ว
ทันใดนั้น...
พื้นถ้ำด้านล่างกลายเป็นเรียบลื่นและในที่ท้ายถ้ำเรียบมีแสงสลัวพอมองเห็นได้
“ในที่สุดเราก็มาถึงปลายทาง” ลินลี่ย์อดดีใจไม่ได้ อย่างไรก็ตามทันทีที่พวกเขาออกมาจากอุโมงค์ เขาเห็นโลกวารีกว้างใหญ่ ไร้ที่สิ้นสุด
“เอ๋? พื้นที่ลับอยู่ในใจกลางทะเลหรือนี่?” ลินลี่ย์อดพูดด้วยความประหลาดใจไม่ได้
ไซเคิลแค่นเสียง “เจ้าสงสัยด้วยหรือ?”
ลินลี่ย์พบว่าตั้งแต่เขาถามคำถามนั้นไซเคิลมีสีหน้าปั้นยากมาโดยตลอด และอารมณ์ของเขาขุ่นมัวเช่นกัน ลินลี่ย์ไม่สนใจจะตอบโต้ การโต้เถียงกับไซเคิลเป็นเรื่องที่ไม่คุ้มค่า
หลังจากมาจนถึงก้นสมุทรในช่วงเวลาหนึ่ง ลินลี่ย์ตะลึง
ในที่ห่างออกไปปราสาทดำขนาดมหึมากินอาณาบริเวณหลายสิบกิโลเมตรตั้งตระหง่านอยู่ที่ก้นทะเลเหมือนกับสัตว์ประหลาดยักษ์กำลังหมอบรอ สิ่งที่น่าทึ่งก็คือมีเงาร่างมากมายนับไม่ถ้วนรวมกันอยู่ที่นี่กำลังเดินตรวจการณ์รอบปราสาทจำนวนคนนั้นมากมายอย่างน่าทึ่ง
“นี่คือพื้นที่ลับของเกาะด้านตะวันตกของเรา” ไซเคิลพูดด้วยความภูมิใจ “พื้นที่ลับของตระกูลแบ็คชอว์ของข้า! พวกเจ้าโชคดีมากแล้วที่มีโอกาสลงมาที่นี่”
ขณะที่เขาพูดจากระยะห่างหน่วยทหารเกราะดำก็บินเข้ามาหา เมื่อเห็นหน่วยทหารนี้แล้วลินลี่ย์และคนอื่นลอบตกใจ ทหารทั้งสิบคนนี้เปล่งรังสีที่น่ากลัวโดยปกติและของพวกเขาทุกคนไร้ความรู้สึกและเย็นชา
“พวกเขาแต่ละคนเป็นยอดฝีมือ” ลินลี่ย์ตกใจเหลือจะกล่าว
เทียบกับนักรบของเกาะมิลัวร์แล้ว นักรบเกราะดำและที่อยู่ในชุดดำราศีพลังห่างไกลกันมาก แม้แต่โรมิโอก็ยังหรี่ตามองดูปราสาทดำด้วยความระมัดระวัง
“เพียงตระกูลเดียวแต่มีกองกำลังมากมายนัก!” ลินลี่ย์รู้สึกตะลึง
เขาสามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า คนจำนวนหลายพันคนนั้นแต่ละคนเป็นเทพชั้นสูง และเป็นเทพชั้นสูงฝีมือดีกันทั้งนั้น พวกเขาไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับทหารประจำเกาะซึ่งก่อตั้งขึ้นจากเทพชั้นสูงที่ต้องการเข้าร่วมกองกำลัง
“คุณชายไซเคิล” ทหารหัวหน้ากลุ่มคำนับ
“พวกเขามากันทุกคนแล้ว ไปกันเถอะ” ไซเคิลพูดอย่างใจเย็น ทหารเกาะดำทั้งสิบคนนำทางกลุ่มลินลี่ย์ไปยังปราสาทดำทันที ประตูปราสาทดำเปิดออก
ปราสาทดำนี้คงอยู่มานานจนมิอาจรู้เวลาได้ ลึกลงไปในทะเล
สิ่งที่แปลกประหลาดก็คือ...
ปราสาทดำดูเหมือนจะมีพลังงานแปลกประหลาดอย่างหนึ่งสามารถกันน้ำทะเลไว้ห่างไกลทำให้น้ำทะเลทั้งหมดไม่เข้ามาในระยะหนึ่งกิโลเมตรจากปราสาทดำ เหมือนกับว่ามีม่านพลังใสคอยป้องกันปราสาทไว้กันน้ำทะเลไว้จนอยู่ห่าง
ดังนั้นกลุ่มของลินลี่ย์จึงเข้าไปในพื้นที่ปราศจากน้ำทะเลทันที
“เอ๊ะ?” ทุกคนประหลาดใจ ขณะที่ตาของโรมิโอเป็นประกายตื่นเต้นเช่นกัน
ลินลี่ย์หันไปมองอย่างระมัดระวัง แต่เขาไม่สามารถพบความพิเศษเกี่ยวกับม่านพลังแต่อย่างใด “โลกนี้มีเรื่องแปลกประหลาดมากมายจริงๆ” ขณะที่เขาเข้าไปในปราสาทดำและเห็นทหารในปราสาทดำหลายคน ลินลี่ย์ตะลึง
“นี่...คือพลังอำนาจที่แท้จริงทั้งหมดของตระกูลแบ็คชอว์” ลินลี่ย์บอกกับตนเอง
ภายในปราสาทดำ ในลานว่างกลุ่มของลินลี่ย์ทั้งแปดคนกำลังรออยู่ที่นี่
“รออยู่ที่นี่ก่อน เดี๋ยวจะมีคนมารับ”ไซเคิลพูดอย่างเฉยเมย “พวกท่านจะต้องทดสอบเพื่อดูว่าจะมีโอกาสเข้าพื้นที่ลับได้หรือไม่” หลังจากพูดแล้ว ไซเคิลหมุนตัวเดินออกมา
งานของเขาเสร็จสมบูรณ์แล้ว
“ทดสอบหรือ?” บางคนรู้สึกประหลาดใจ
“ตราบที่เราสามารเอาชนะร้อยศึกได้เราก็สามารถเข้าไปดูในพื้นที่ลับได้ไม่ใช่หรือ? ทำไมยังต้องทดสอบอีก?”
เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้โรมิโอและลินลี่ย์ยังคงเงียบอยู่ทั้งสองคน ลินลี่ย์รู้มาตลอดว่าจะมีการทดสอบ และเขาจ้องมองดูพื้นที่รอบตัวเขา อาคารโดยรอบลานว่างนี้ยังมีทหารเกราะดำลาดตระเวนและทั้งปราสาทเป็นเหมือนป้อมปราการทหารที่อยู่ในการคุ้มกันแน่นหนาของทหาร
ขณะต่อมาประตูสีน้ำเงินเข้มของลานจัตุรัสด้านหน้าพวกเขาถูกเปิดออก
“แอ๊ดดดดด” ประตูสีน้ำเงินเข้มที่เปิดออกเกิดเสียงเสียดสี
มีคนหกคนเดินออกมาจากภายในประตู ผู้นำเป็นบุรุษผมขาวไว้เคราสีขาว อยู่ในชุดเกราะสีแดง อีกห้าคนด้านหลังเขาเป็นนักรบเกราะดำทั้งหมดเพียงแต่พวกเขาสวมชุดแดงเช่นกัน
“ยินดีต้อนรับ!” ชายชราผมขาวเดินเข้ามาพร้อมกับหัวเราะเสียงกังวาน “ยินดีต้อนรับเข้าสู่ปราสาทเฮนด์ซีย์! ข้าขอแนะนำตัวก่อน ข้ายูไรห์”
ปราสาทเฮนด์ซีย์?
แววสงสัยปรากฏขึ้นในใจของลินลี่ย์
“แม้ว่าผู้ชนะร้อยศึกทุกคนในสนามต่อสู้จะสามารถเข้ามาในพื้นที่ลับได้” ยูไรห์หัวเราะ “แต่ผลึกบันทึกภายในพื้นที่ลับนี้ไม่ใช่จะได้ดูกันทุกคน ถ้าพวกท่านต้องการดู ก็ต้องผ่านการทดสอบ”
“ผลึกบันทึก? คืออะไร?” โรมิโอกล่าว
“การต่อสู้ของอสูรเจ็ดดาว การต่อสู้ของเทพอสูร สงครามภายในดินแดน แม้แต่ผลึกบันทึกของการแสดงพลังของมหาเทพก็มีด้วยเช่นกัน!” ยูไรห์ยิ้ม “นี่ถูกเก็บสะสมไว้โดยตระกูลแบ็คชอว์มานานปีนับไม่ถ้วนแล้ว!”
ทันทีที่พูดคำนี้ออกมา ตาของทุกคนเป็นประกาย แม้แต่ตาของโรมิโอก็ฉายประกายด้วยเช่นกัน ลินลี่ย์ลอบถอนหายใจ ผลึกบันทึกของยอดฝีมือที่ทำการต่อสู้เป็นโอกาสที่ดึงดูดใจมาก
“ตอนนี้ พวกเจ้าทุกคนเข้ามาก่อนทีละคนเพื่อประลองกับคนของเรา จากพลังที่แสดงออกของพวกเจ้าข้าจะตัดสินว่าพวกเจ้ามีคุณสมบัติเข้าไปดูได้หรือไม่” ยูไรห์ชำเลืองมองคนข้างเขาและนักรบเกราะดำชุดแดงศีรษะโล้นคนหนึ่งก้าวออกมาทันที
ยูไรห์เหยียดมือออกและชี้ไปที่เทพชั้นสู้ผู้ชนะร้อยศึก “เจ้าก่อน”
“ได้เลย” เทพชั้นสูงผู้ชนะเวทีร้อยศึกหัวเราะหึหึ จากนั้นก้าวออกมาข้างหน้า “ถ้าข้าพลั้งมือฆ่าเขา อย่าตำหนิข้าก็แล้วกัน” เทพชั้นสูงผู้นี้แต่งตัวอยู่ในชุดน้ำเงินเขามีคิ้วหนา
“ถ้าเจ้าสามารถฆ่าเขาได้ ก็ทำตามสบายได้เลย” ยูไรห์หัวเราะอย่างใจเย็น
ทันใดนั้นเทพชั้นสูงผู้นี้และบุรุษหัวโล้นเดินเข้ามากลางจัตุรัสทั้งสองคนหันหน้าเข้าหากัน
“เริ่มสู้กันได้” ยูไรห์ออกคำสั่ง
“บึ้ม!” เทพชั้นสูงชุดน้ำเงินกลายสภาพเป็นไฟที่ไม่มีเปลวสีน้ำเงินทันทีมีเสียงแตกปะทุด้วยความร้อนในอากาศ จากนั้นไฟที่ไร้เปลวกลายเป็นรูปหัวธนูพุ่งขึ้นไปในกลางอากาศเหนือจัตุรัสปลดปล่อยพลังที่สั่นสะท้านใจทันที
“ควั่บ!”
ธนูเพลิงพุ่งออกมาเหมือนดาวตกทันที
“ฮึ่ม!” บุรุษศีรษะโล้นแค่นเสียงเบาๆ ตลอดทั้งร่างของเขาคลุมไปด้วยเกราะธาตุดินทันทีหมัดขนาดมหึมาของเขาคลุมไปด้วยระลอกแสงและเขาปล่อยหมัดใส่ธนูเพลิงนั้นโดยตรง
“ปัง!” เสียงสั่นสะเทือนทุ้มดังขึ้นแม้แต่สนามต่อสู้ก็ยังสั่นสะเทือน
ระลอกพลังแสงบนหมัดของบุรุษศีรษะโล้นแตกกระจาย และแม้แต่หมัดของเขาก็ฉีกขาด ชั้นเกราะธาตุดินสีเหลืองบนร่างของแตกร้าว เขาถอยไปหลายก้าวอย่างช่วยไม่ได้ ปรากฏรอยแตกร้าวบนพื้นเช่นกัน
ธนูเพลิงแดงสลายไปเช่นกัน หน้าของเทพชั้นสูงชุดน้ำเงินซีดขาว แต่เขายังคงยืนนิ่งกับที่
“ไม่เลว” บุรุษผมขาวยูไรห์พยักหน้า “เจ้ามีคุณสมบัติเข้าห้องลับชั้นสองได้”
“ห้องลับชั้นสอง?” เทพชั้นสูงชุดน้ำเงินสงสัย
“ถูกแล้ว พื้นที่ลับถูกแบ่งออกเป็นสองห้อง ห้องลับชั้นหนึ่ง กับห้องลับชั้นสอง ห้องลับชั้นหนึ่งมีผลึกบันทึกมากกว่า และยอดฝีมือที่บันทึกไว้ก็มีพลังมาก”ยูไรห์พูดอย่างใจเย็น
“อย่างนั้นต้องทำยังไงข้าจึงจะมีคุณสมบัติเข้าห้องลับชั้นหนึ่ง?” เทพชั้นสูงชุดน้ำเงินไม่ค่อยยินยอมรับกับผลเช่นนี้
“ฆ่าเขาในหมัดเดียว” ยูไรห์ชี้ไปที่บุรุษศีรษะโล้น
เทพชั้นสูงชุดน้ำเงินยอมแพ้ทันที
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ลินลี่ย์ตะลึง “เป็นไปได้หรือว่าเจ้าของปราสาทแห่งนี้ปฏิบัติต่อชีวิตอย่างไร้ค่า? เขาจะยอมเสียสละคนของเขาเองหรือ?”
“เจ้าเป็นคนต่อไป” ยูไรห์ชี้มาที่เทพแท้คนหนึ่ง
“พอแค่นี้” เสียงเยือกเย็นดังขึ้น โรมิโอก้าวออกมาข้างหน้ามองดูยูไรห์อย่างเยือกเย็น “ให้ข้าก่อนเถอะ ท่านบอกว่าถ้าข้าฆ่าเขาได้ในการโจมตีครั้งเดียว ข้าจะได้เข้าห้องชั้นหนึ่งใช่ไหม?”
ยูไรห์ชำเลืองมองโรมิโอด้วยความประหลาดใจ “เจ้าคือโรมิโอ ใช่ไหม?”
โรมิโอพยักหน้าอย่างใจเย็น
“เจ้าไม่จำเป็นต้องทดสอบ” ยูไรห์ส่ายศีรษะและหัวเราะ “ในบรรดาพวกเจ้าแปดคน เจ้ากับลินลี่ย์ผู้อาวุโสชุดแดงไม่จำเป็นต้องทดสอบ พวกเจ้าสามารถเข้าไปดูที่ห้องชั้นหนึ่งได้โดยตรง”
ลินลี่ย์หัวเราะอย่างช่วยไม่ได้
“อย่างไรก็ตามการเปิดห้องลับเข้าไปเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เราต้องขออนุญาตเจ้าปราสาทเสียก่อน และจากนั้นหาโอกาสที่เหมาะ ในตอนนี้พวกเจ้าไปพักกันก่อนได้ ในไม่ช้าเราค่อยเรียกพวกเจ้า” ขณะที่เขากล่าวยูไรห์จัดคนนำทางลินลี่ย์และโรมิโอเดินแยกออกไป
ขณะที่ลินลี่ย์ถูกนักรบเกราะดำนำทางไปนั้นเขาค่อยเข้าใจได้ทันที
“ไม่ใช่ว่าเจ้าของปราสาทจะไม่สนใจชีวิตคนของเขา แต่เป็นเพราะว่าเมื่อยอดฝีมือที่แท้จริงเข้ามาไม่มีความจำเป็นต้องทดสอบ” ลินลี่ย์คาดหวังอย่างกระตือรือร้นว่าจะได้เห็นภาพบันทึกให้เร็วเท่าที่เป็นไปได้
ปราสาทดำมีขนาดใหญ่โต้กว้างขวาง ผนังหนาแข็งแรงมีทางเดินซับซ้อนมาก
“ขุนพลม็อบ ข้าอยู่ที่นี่มาเกือบเดือนแล้วทำไมท่านแม่ทัพถึงไม่ยอมพบข้า?”
“อย่าใจร้อนอย่างนั้น ถ้าท่านแม่ทัพต้องการพบเจ้า เขาก็จะมาพบ มิฉะนั้นก็ต้องรออยู่ตรงนี้
เมื่อได้ยินเสียงนี้จากทางเดินข้างหน้าลินลี่ย์อดขมวดคิ้วไม่ได้ “นี่เป็นเสียงที่คุ้นหูมาก”
ข้างหน้าลินลี่ย์เป็นทางสี่แยก มีคนสองคนเดินออกมาจากทางเดินด้านหนึ่ง เขาอยู่กับอีกคนหนึ่งคนที่สวมชุดเกราะและอีกคนสวมชุดเกราะแดงซึ่งเป็นคนแรกที่เอ่ยขึ้นและจากนั้นทั้งสองเดินเข้าไปยังอีกทางหนึ่ง
“แกนมอร์ติน?” หน้าของลินลี่ย์มีแววเหลือเชื่อ “ทำไมเขาอยู่ที่นี่?”
คนผู้นี้เป็นคนเดียวกับคนที่ขัดขวางและโจมตีกลุ่มของลินลี่ย์ในทะเลสตาร์มิสท์คนที่ต้องการจับตัวโอลิเวอร์ไปให้ผู้บัญชาการของเขา เขาคือแกนมอร์ติน!