ตอนที่ 16-26 ผลึกบันทึก
ตั้งแต่เขาสัญญากับซีซาร์ลินลี่ย์ก็เริ่มไตร่ตรองหาวิธีสืบดูสถานการณ์ของเซซิล อย่างไรก็ตาม แม้ความจริงที่ว่าตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสชุดแดงแล้วก็ตาม แต่เขาไม่มีอำนาจเข้าไปที่อยู่ประมุขตระกูลโดยพลการได้ หลังจากสั่งคนให้ไปพาตัวไดลินและทารอสมาที่นี่แล้วลินลี่ย์ก็เริ่มสืบดูเท่าที่ทำได้
“แม็กโนเลีย!”
ลินลี่ย์รีบก้าวเข้ามาทักทายนาง
แม็กโนเลียเป็นผู้อาวุโสชุดแดงของตระกูลแบ็คชอว์ นางเป็นผู้อาวุโสชุดแดงสตรีเพียงหนึ่งเดียวในบรรดาสามผู้อาวุโสซึ่งแบ็ควิลพาไปด้วยระหว่างการต่อสู้ครั้งก่อน แม็กโนเลียหันกลับมา ดวงตาสีม่วงของนางมีรอยยิ้ม “ลินลี่ย์ เจ้าต้องการอะไรหรือ?”
“ท่านแม็กโนเลีย มีบางอย่างที่ข้าอยากถามท่าน” ลินลี่ย์รีบกล่าว
“ว่ามาเลย” แม็กโนเลียสุภาพมาก
“เมื่อครั้งล่าสุดไซเคิลโกรธและต้องการฆ่าสหายของข้า น่าจะเป็นเพราะเพื่อภรรยาของเขา ท่านรู้สภาพปัจจุบันของภรรยาคุณชายไซเคิลหรือไม่?” ลินลี่ย์ถามตรงๆ
แม็กโนเลียย่นหน้าผากจากนั้นนางส่ายศีรษะ “ข้าไม่แน่ใจเรื่องนั้น ไซเคิลและภรรยาของเขาอยู่ในคฤหาสน์ประมุขตระกูลทั้งคู่โดยปกติข้าก็ยากจะเข้าไปที่นั่นเช่นกัน ข้าคิดว่าคนที่รู้เรื่องนี้ดีน่าจะเป็นพวกบ่าวไพร่และแม่บ้านในคฤหาสน์ของประมุขตระกูลมากกว่า ก็แค่ไม่กี่คน”
ลินลี่ย์ขมวดคิ้ว
คฤหาสห์ประมุขตระกูลเป็นพื้นที่เข้มงวดกวดขันที่สุดในตระกูลแบ็คชอว์ คนที่อยู่ในนั้นก็มีแบ็ควิลและลูกชายอีกสองคนของเขาพวกบ่าวไพร่ที่อยู่ในนั้นปกติจะไม่เคยออกมาข้างนอก
จะสืบดูคงเป็นเรื่องยากมาก
“ถ้าเจ้ามีโอกาส เจ้าควรไปถามไซเคิลหรือประมุขตระกูลโดยตรง”แม็กโนเลียแนะนำ
“ได้, ข้าเข้าใจแล้ว ขอโทษที่รบกวนท่าน”
ลินลี่ย์ออกไปทันที
ถามไซเคิลหรือแบ็ควิลหรือ? แน่นอนว่าลินลี่ย์รู้ว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุด! แต่ลินลี่ย์ก็รู้ว่าเมื่อถามแล้วไซเคิลหรือแบ็ควิลคงจะรู้ว่าเขาถามเพื่อประโยชน์กับซีซาร์ซึ่งตรงนี้ไซเคิลและคนอื่นจะคิดยังไง?
อย่างน้อยที่สุด พวกเขาคงจะรู้สึกอึดอัดใจมาก
เว้นเสียแต่ว่าลินลี่ย์ไม่ต้องการทำให้อีกฝ่ายหงุดหงิด
หลังเดินสำรวจรอบๆ แล้ว เขาถามคนที่มีตำแหน่งสูงหลายคนแต่เขาก็ยังไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันของเซซิลลินลี่ย์ผิดหวังดังนั้นเขาจึงกลับมาบ้านก่อน ขณะที่กลับมาถึงคฤหาสน์ของเขาเอง ลินลี่ย์เห็นซีซาร์ที่ประตู
“ลินลี่ย์, เป็นยังไงบ้าง?” ซีซาร์รีบถาม
“เซซิลอาศัยอยู่ในคฤหาสน์ของประมุขตระกูล แม้แต่ข้าก็ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไป ไม่ต้องรีบร้อน ไว้ข้าจะค่อยๆเลียบเคียงถาม” ลินลี่ย์ส่ายศีรษะด้วยความรู้สึกเสียใจ
แววผิดหวังปรากฏอยู่ในดวงตาของซีซาร์และจากนั้นเขาฝืนยิ้ม “ข้าไม่รีบไม่รีบร้อน!”
ลินลี่ย์ลอบถอนหายใจ
“จริงสิ, ทารอสกับไดลินมาถึงที่นี่แล้ว” ซีซาร์กล่าว “พวกเขามาแล้วหรือ?” ลินลี่ย์เดินข้าไปทันที แต่ซีซาร์รีบกล่าว “ลินลี่ย์! เจ้าไม่ควรไปตำหนิพวกเขา เจ้าก็รู้ว่าสถานการณ์ย่ำแย่เพียงไหน พวกเขาไม่ต้องการเสียสละตัวเองโดยเปล่าประโยชน์”
“ข้าเข้าใจ”
ในใจของเขา ลินลี่ย์ไม่ได้ตำหนิทารอสหรือไดลินมากนัก
เพียงแต่ลินลี่ย์สงสัยเกี่ยวกับทารอสและไดลินตามความเข้าใจของเขา เมื่อสถานการณ์อันตรายอย่างนี้เกิดขึ้น ทั้งสองคนจะเชิดหน้ายืดอกออกมาก่อน แต่ทั้งสองคนกลับถอยจริงๆ จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ทำให้ลินลี่ย์รู้สึกเหลือเชื่อ
แม้ว่าจะมีไม่มีอะไรผิดในเรื่องการตัดสินใจของพวกเขา แต่จากจุดยืนทางอารมณ์ นับว่ายากจะยอมรับ
เมื่อเดินผ่านไปตามระเบียง เขาเดินตรงไปถึงประตูลานบ้าน ลินลี่ย์เห็นไดลินและทารอสกำลังนั่งคอยอยู่
“พี่ใหญ่!” บีบียืนขึ้น จากนั้นบ่นพึมพำไม่พอใจอยู่มุมปาก“สองคนนี้มาแล้ว”
ลินลี่ย์ชำเลืองมองบีบี แม้ว่าเขาจะไม่พอใจแต่ไม่จำเป็นต้องปั้นหน้าแบบนั้น
ไดลินและทารอสลุกขึ้นยืนทั้งคู่ ทั้งสองค่อนข้างละอายใจ แต่ลินลี่ย์หัวเราะขณะเดินเข้าไปหา “ไดลิน, ทารอส, นั่งคุยกันเถอะ!” ลินลี่ย์เองนั่งลงก่อน
ไดลินและทารอสชำเลืองมองดูกันเอง
“ลินลี่ย์! เกี่ยวกับเรื่องในวันนี้เป็นความผิดของเรา” ไดลินพูดขึ้นก่อนเขาส่ายหน้าอย่างช่วยไม่ได้ “ข้าเสียใจ บางครั้งเราทั้งสองคิดว่าการต่อต้านก็หมายความว่าตาย ดังนั้น....” ทารอสพยักหน้าเช่นกัน
เมื่อคนรู้สึกสำนึกผิด พวกเขาละอายใจที่จะพูด นี่คือสภาพที่ไดลินและทารอสเป็นอยู่ในตอนนี้
“ข้าไม่ตำหนิพวกท่าน” ลินลี่ย์หัวเราะ “ที่สำคัญในที่สุดแล้ว ซีซาร์ยังปลอดภัย” ลินลี่ย์สามารถบอกได้ว่าไดลินและทารอสรู้สึกละอายใจทั้งคู่ เนื่องจากพวกเขาสามารถรู้สึกถึงความละอายได้ ก็ไม่มีความจำเป็นที่เขาจะต้องพูดอะไรอื่นอีก
ทารอสและไดลินรู้สึกโล่งใจทั้งคู่
“ลินลี่ย์!” ทารอสอดประหลาดใจไม่ได้ดังนั้นเขาจึงถามขึ้น “ข้าได้ยินว่าตัวเจ้าฆ่าทหารประจำเกาะไปหลายคน และเจ้ายังเอาชนะผู้อาวุโสชุดแดงได้อีกหรือ?”
“นั่นแค่โชคช่วย” ลินลี่ย์กล่าว
ทารอสและไดลินมองหน้ากันเอง พวกเขาอยู่ที่เกาะมิลัวร์และรู้ว่าผู้อาวุโสชุดแดงแข็งแกร่งทรงพลังเพียงใด ผู้อาวุโสชุดแดงแต่ละคนมีพลังระดับอสูรเจ็ดดาว! แต่เทพแท้ที่อยู่ต่อหน้าพวกเขานี้ เอาชนะอสูรเจ็ดดาวได้!
ย้อนไปเมื่อพวกเขาอยู่ในทวีปยูลานลินลี่ย์ยังเป็นแค่เทียมเทพ
“ลินลี่ย์ เจ้าเป็นเทพแท้หรือเทพชั้นสูงกันแน่?” ไดลินถามอีกครั้ง
ไม่ใช่ความผิดของไดลินที่ถามเรื่องนี้ ลักษณะของลินลี่ย์นับว่าประหลาดมาก
“ยังไม่ต้องคุยเรื่องนี้ พวกท่านแค่ถือว่าข้าเป็นอสูรหกดาวก็พอ” ลินลี่ย์ส่ายศีรษะ “ทารอส, ไดลินข้าอยากจะถามบางอย่างกับพวกท่าน ข้าได้ยินว่าผู้ชนะการต่อสู้ร้อยศึกในสนามต่อสู้ สามารถเข้าพื้นที่ลับในเกาะด้านตะวันตก ท่านรู้หรือเปล่าว่าภายในพื้นที่ลับเป็นยังไง?”
ผู้อาวุโสชุดแดงมีคุณสมบัติเข้าพื้นที่ลับของเกาะมิลัวร์ได้เช่นกัน
พื้นที่ลับของเกาะมิลัวร์มีอะไรอยู่กันแน่? ลินลี่ย์สงสัยเช่นกัน
“พื้นที่ลับน่ะหรือ?” ไดลินและทารอสประหลาดใจและสงสัยทั้งคู่
“ถามทารอสเถอะ ข้าไม่แน่ใจ” ไดลินส่ายศีรษะ
“ท่านก็ชนะการต่อสู้ร้อยศึกในสนามเทพแท้ไม่ใช่หรือ?” ลินลี่ย์ไม่เข้าใจ ไดลินอธิบาย “หลังจากเข้าไปในพื้นที่ลับ เจ้ายังคงต้องถูกทดสอบในพื้นที่ลับ เพียงแต่ถ้าเจ้าได้รับพิจารณาว่ามีคุณสมบัติ เจ้าจะได้รับอนุญาตให้เข้าไปดู ข้าถูกปฏิเสธอยู่ด้านนอกประตู”
ลินลี่ย์ตกใจ
มีการตรวจสอบว่าจะมีคุณสมบัติคนด้วยหรือนี่?
ลินลี่ย์หันไปมองทารอสซึ่งถอนหายใจอย่างมีอารมณ์และกล่าว “สิ่งที่ข้าสามารถพบเห็นในพื้นที่ลับเป็นชุดแก้วผลึกบันทึก!”
“แก้วผลึกบันทึก?” ลินลี่ย์สงสัย
ลินลี่ย์คุ้นเคยกับแก้วผลึกบันทึกมาก พวกมันถูกสร้างมาจากวิชาผลึกลอยลมอย่างง่ายๆ เป็นเวทธาตุน้ำอย่างง่ายๆ ปีนั้นก่อนที่ลินลี่ย์จะเลิกคบกับอลิซ ลินลี่ย์ซื้อแก้วผลึกบันทึกเสียงไว้สองลูกซึ่งเสริมไว้ด้วยเวทผลึกบันทึก เขาใช้ผลึกความทรงจำและบันทึกเสียงแล้วมอบให้อลิซ
หลังจากที่พวกเขาเลิกคบหากันแล้วลินลี่ย์ก็ทำลายผลึกบันทึกเสียงนั้น
“ผลึกบันทึก?” ลินลี่ย์ไม่เข้าใจ
ผลึกบันทึกเหล่านี้สามารถบันทึกความทรงจำไว้มากมาย แต่ทำไมตระกูลแบ็คชอว์ถึงทำราวกับว่าเป็นขุมสมบัติเล่า? ผลึกเหล่านี้บันทึกอะไรอยู่กันแน่?
“ถูกแล้ว ผลึกบันทึก” ทารอสพูดพร้อมกับระบายลมหายใจ “บันทึกการต่อสู้ของยอดฝีมือแต่ละคน ผลึกบันทึกทุกลูกจะบันทึกการต่อสู้ประลองฝีมือที่น่าทึ่งเอาไว้ และยอดฝีมือนั้นอย่างน้อยก็มีระดับอสูรเจ็ดดาวขึ้นไป”
ลินลี่ย์ตาเป็นประกาย
สำหรับหลายๆ คน การได้ดูการต่อสู้ระหว่างยอดฝีมือที่แท้จริงนับว่าให้ประโยชน์ยิ่งใหญ่ช่วยให้พวกเขาบรรลุผ่านคอขวดและได้รับความรู้แจ้งใหม่ๆ กล่าวโดยทั่วไปการได้เห็นอสูรเจ็ดดาวต่อสู้กันถือว่าเป็นเรื่องเห็นได้ยากยิ่ง
“ที่นั่นมีบันทึกการต่อสู้ประลองฝีมืออยู่มากน้อยเท่าใด?” ลินลี่ย์ถามอย่างกระตือรือร้น
“มากมายนัก อย่างน้อยก็เป็นพัน” ทารอสถอนหายใจชื่นชม “มียอดฝีมือมากมายในบันทึกนั้นนอกจากนี้ยังมีคำอธิบายและคำแนะนำระบุถึงสุดยอดฝีมือแต่ละคนด้วย รวมทั้งอสูรหกปีกอสูรเลือดม่วง อสูรหิมะและอสูรจันทร์เงิน.... มากจนน่าทึ่ง”
ลินลี่ย์ตาเป็นประกายขณะที่เขาได้ฟัง
การประลองต่อสู้ของอสูรเจ็ดดาว?
“อย่างไรก็ตาม พลังของข้ายังไม่เพียงพอ ข้าเพียงแต่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปชมดูในห้องลับที่สอง ส่วนใหญ่จะเป็นการต่อสู้ของอสูรเจ็ดดาวไม่ใช่แค่แดนนรกที่เดียวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงยอดฝีมือผู้อยู่ในพิภพชั้นสูงอื่นแดนศักดิ์สิทธิ์ก็มีเหมือนกัน”
“ข้าได้ยินมาว่าผลึกบันทึกอยู่ในห้องแรกก็ตื่นเต้นจริงๆ” ตาของทารอสฉายประกาย “มีบันทึกของยอดฝีมือระดับเทพอสูร และคาดว่าจะมีบันทึกของการต่อสู้ในพิภพอีกมากมาย..และมี...แม้แต่บันทึกการแสดงพลังของมหาเทพอีกด้วย!”
ลินลี่ย์สูดหายใจหนาวเหน็บ
บันทึกการแสดงพลังอำนาจของมหาเทพ?
“อย่างไรก็ตาม นั่นคือทั้งหมดที่อยู่ในห้องแรก” ทารอสส่ายศีรษะ “กล่าวโดยทั่วไป มีแต่ผู้อาวุโสชุดแดงหรืออสูรเจ็ดดาวจึงจะได้รับอนุญาตให้เข้าไปดู นอกจากนี้ยังต้องเป็นตามคำเชิญของตระกูลแบ็คชอว์”
ลินลี่ย์จำได้ชัดเจนว่าแบ็ควิลพูดไว้ว่าในฐานะผู้อาวุโสชุดแดงลินลี่ย์มีคุณสมบัติเข้าไปยังพื้นที่ลับของเกาะด้านตะวันตกได้
“บันทึกการต่อสู้ของยอดฝีมือมากมายล้วนเป็นสมบัติล้ำค่า! การสู้รบระดับเทพอสูร,การสู้รบภายในพิภพ..และแม้แต่พลังโจมตีของมหาเทพ?” หัวใจของลินลี่ย์กำลังเร่าร้อนพลังระดับสูงอย่างมหาเทพจะเป็นยังไงเมื่อพวกเขาโจมตี?
เขาเป็นผู้อาวุโสชุดแดงมาสองวันแล้ว ระหว่างสองวันนี้ลินลี่ย์ไม่พบข้อมูลอะไรเกี่ยวกับเซซิลเลย
“พี่ใหญ่, พื้นที่ลับมีบันทึกที่น่าตื่นเต้นมากมายข้าจะได้เข้าไปดูกับเขาบ้างได้ไหม?” ตั้งแต่พวกเขาได้รู้ข้อมูลเกี่ยวกับพื้นที่ลับสองวันที่แล้ว บีบีต้องการจะเข้าไปดู
“ข้าไม่มีอำนาจแบบนั้น นั่นคือสมบัติของตระกูลแบ็คชอว์” จากนั้นลินลี่ย์ขมวดคิ้ว “เพียงแต่ข้าไม่ค่อยจะเข้าใจ ผลึกบันทึกการต่อสู้ของสุดยอดฝีมือของแต่ละคนถือได้ว่าเป็นสมบัติล้ำค่าแน่”
“แต่ทำไมตระกูลแบ็คชอว์ถึงยินดีเปิดให้คนทั่วไปและให้ผู้อาวุโสชุดแดงและผู้ชนะร้อยศึกเข้าไปชมดูด้วยเล่า?” ลินลี่ย์งง
กล่าวโดยทั่วไป บันทึกเหล่านี้ควรจะเก็บไว้เป็นความลับ
บีบีลูบจมูก จากนั้นบ่นรำพึง“บางทีคงเป็นเพราะตระกูลแบ็คชอว์มั่นใจในความแข็งแกร่งของพวกเขา และเพื่อแสดงความใจกว้างเพื่อดึงดูดยอดฝีมือให้มาต่อสู้ในสนามต่อสู้ก็ได้ นั่นเป็นเครื่องล่ออย่างหนึ่ง” ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย
ทันในนั้นมีเสียงฝีเท้าดังขึ้นจากด้านหลังของพวกเขาเป็นนักรบเกราะดำคนหนึ่ง
“ผู้อาวุโส” นักรบเกราะดำคำนับด้วยความเคารพ “มีคำสั่งจากประมุขตระกูลในวันพรุ่งนี้เช้าขอให้ไปรวมตัวที่ยอดเขาดาบสุริยันต์ในเกาะฟากตะวันตก ในเวลานั้นท่านจะได้สมทบกับผู้ชนะร้อยศึกของสนามต่อสู้และเดินทางเข้าพื้นที่ลับด้วยกัน!”
ลินลี่ย์เลิกคิ้ว
“ฮ่าฮ่า, มาได้จังหวะขณะที่เราคุยกันพอดี”บีบีหัวเราะลั่น “เฮ้, ข้าไปด้วยได้ไหม?”
นักรบเกราะดำอดสะดุ้งไม่ได้จากนั้นเขาถอยออกไปอย่างสุภาพทันที
“ไม่ค่อยจริงใจเลย”
บีบีแค่นเสียง เขารู้สึกอึดอัดใจ แต่ลินลี่ย์ไม่สามารถพาเขาไปดูได้ “พอเถอะ ไม่ต้องใจร้อน เจ้าจะมีโอกาสได้ดูอีก”
“เจ้ากำลังพูดอะไรกัน? ทำไมถึงดีใจนัก?” เดเลียเดินออกมาจากห้องของนาง
“ฮ่า..” บีบีกระโดดด้วยความตื่นเต้นทันที “ข้านี่ช่างโง่จริงๆ! ผู้ชนะร้อยศึกก็มีคุณสมบัติเข้าไปชมได้ แม้ว่าข้าจะเป็นแค่เทพแท้ แต่ข้าสามารถเอาชนะร้อยศึกได้” บีบีตื่นเต้นจนควบคุมตัวไม่ได้ “ครั้งสุดท้าย ข้าเอาชนะได้สิบศึกแล้วข้าจะสู้ต่อไป
ยอดเขาดาบสุริยันต์ เกาะมิลัวร์
ยอดเขาดาบสุริยันต์เป็นยอดเขาธรรมดา สูงเพียงพันเมตรตอนนี้มีคนแปดคนชุมนุมกันอยู่ที่ยอดเขา ลินลี่ย์มาถึงเป็นคนสุดท้าย ขณะที่ลินลี่ย์มาถึง เขามองเห็นคนอื่นอีกเจ็ดคน
“เทพชั้นสูงสามคน เทพแท้สอง เทียมเทพอีกสอง” ลินลี่ย์บอกได้ทันที พวกที่ได้รับอนุญาตให้เข้าพื้นที่ลับล้วนแต่เป็นผู้ชนะร้อยศึกทั้งหมดดังนั้นแม้แต่เทียมเทพที่ชนะได้ ก็ยังได้รับอนุญาตให้เข้ามา
“เขานั่นเอง” ลินลี่ย์สังเกตเห็นคนผู้นั้นทันที
บุรุษร่างสูงโปร่งชุดยาวดำและไว้ผมยาวสีดำสะพายดาบศึกไว้ด้านหลัง เขาคือโรมิโอ บอร์นเซน
ตอนนี้โรมิโอ บอร์นเซนก็มองเห็นลินลี่ย์เช่นกัน และเขาจ้องมองตอบนัยน์ตาเป็นประกาย “เจ้าคือลินลี่ย์ใช่ไหม?” โรมิโอยอมรับคำเชิญของตระกูลแบ็คชอว์และจากนั้นเขาถามถึงข้อมูลเกี่ยวกับการต่อสู้ครั้งนั้น เขายังได้รู้จักชื่อของลินลี่ย์อีกด้วย
ลินลี่ย์รู้สึกประหลาดใจ โรมิโอจำเขาได้จริงๆ หรือ
“ข้าเห็นการต่อสู้ระหว่างเจ้ากับผู้อาวุโสชุดแดงในวันก่อนนั้น” หน้าของโรมิโอกระด้างดูเหมือนกับว่าสลักด้วยมีดยังปรากฏรอยยิ้ม สายตาของเขาคล้ายกับคนมองดูสมบัติล้ำค่า เขาพูดขึ้นอย่างหนักแน่น “พลังของเจ้ายอดเยี่ยมจริงๆ! เมื่อเราออกไปจากพื้นที่ลับข้าหวังว่าเราคงจะได้ประลองกันบ้าง”
ลินลี่ย์ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
โรมิโอผู้นี้นับว่าคลั่งไคล้การต่อสู้ไม่น้อย เมื่อใดก็ตามที่เขาพบกับยอดฝีมือ เขาต้องการจะสู้ด้วย
“ทุกท่านล้วนมากันพร้อมแล้วใช่ไหม?”ร่างที่คุ้นตาเดินเข้ามาหา บุรุษร่างสูงผมแดงสั้น เขาคือคุณชายไซเคิล
ไซเคิลมองดูคนทั้งแปด สายตาของเขาหยุดอยู่ลินลี่ย์ทันที จากนั้นพูดเสียงดัง “ดีแล้ว, ข้าจะนำทางพวกท่านไปยังพื้นที่ลับโปรดตามข้ามา และจำไว้ด้วยว่าในระหว่างทาง อย่าสร้างปัญหา ถ้าท่านถูกนักรบที่เฝ้าพื้นที่ลับฆ่าตายก็อย่าได้โทษตำหนิผู้อื่น”
“ไซเคิล” ลินลี่ย์ถามทันที
ไซเคิลขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาไม่มีความรู้สึกที่ดีต่อลินลี่ย์แม้แต่น้อย แต่เขาก็ยังเอ่ยปากพูด “ผู้อาวุโสลินลี่ย์, มีอะไรหรือ?”
“ข้าขอถาม เซซิลเป็นยังไงบ้าง?” ลินลี่ย์ถามโดยตรง คำถามนี้ทำให้ไซเคิลอับอายมาก แต่ลินลี่ย์ไม่มีทางเลือกอื่น ที่สำคัญเขาไม่สามารถเข้าไปยังคฤหาสน์ประมุขตระกูลได้
เพื่อประโยชน์ของซีซาร์ เขาต้องถามโดยไม่เห็นแก่หน้าของเขา
“ท่านถามข้าเกี่ยวกับเรื่องนี้น่ะหรือ?” หน้าของไซเคิลเย็นชาและไม่พอใจ เขาเดาได้ว่าลินลี่ย์คงถามให้ซีซาร์แน่นอน อีกครั้งที่คำพูดก่อนตายของเซซิลดังขึ้นในใจของไซเคิล
“เมื่อข้านอนกับเจ้า ข้าต้องแกล้งนึกว่าเจ้าเป็นซีซาร์!”
ความโกรธของไซเคิลเริ่มปะทุและเขาอดแค่นเสียงเย็นชาไม่ได้ อย่างไรก็ตาม เพราะรู้จักพลังของลินลี่ย์ เขารู้ว่าการโจมตีทำร้ายเท่ากับหาเรื่องอับอายใส่ตัว
“นาง...ออกไปจากเกาะมิลัวร์แล้ว” ไซเคิลพูดเย็นชา