ตอนที่ 117 การผจญภัยและความทุกข์ยาก (อ่านฟรี)
แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ สายเลือดแห่งมังกร
ตอนที่ 117 การผจญภัยและความทุกข์ยาก
วันหยุดอีสเตอร์มาถึงแล้ว โดยทั่วไปคุณจะได้รับวันหยุด 1 สัปดาห์ในช่วงเวลานี้ แต่นักเรียนส่วนใหญ่อยู่ที่โรงเรียนเพื่อเตรียมตัวสำหรับการสอบที่จะมาถึง
ถึงแม้แม็กนัส รักนาร์และเซเวอรัส จะไม่ได้ติวอะไรกันมากเพราะพวกเขาเรียนเก่งอยูแล้ว ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ไม่ได้กลับบ้านและตัดสินใจศึกษาเรื่องต่างๆ เพิ่มในโรงเรียน
ช่วงนี้อะไรก็ราบรื่นดี เหล่าเลือดบริสุทธิ์ได้ย่องเข้ามาหาเขา และผู้เสพความตายก็เงียบไปพักนึงแล้ว
แม็กนัสกำลังภาวนาให้ความสงบสุขนี้คงอยู่ตลอดไปในชีวิตของเขา บางทีการสังหารผู้เสพความตายไป 4 คนอาจเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่สำหรับพวกเขาแล้วก็ได้
แถมแม็กนัสได้พยายามตอกตะปูลงไปในโลงศพ ตอนนี้เขารู้แล้วว่าอย่างน้อยรูดอล์ฟ เลสแตรงจ์ก็เป็นหนึ่งในผู้เสพความตาย ร่วมกับมัลซิเบอร์และคนอื่นๆ อีกสองสามคน ตอนนี้เขากำลังสร้างใบนำจับรางวัลของพวกเขาอยู่
แม็กนัสรู้สึกว่าสิ่งนี้ช่างล้าหลังเหลือเกิน นี่คือในโลกยุคสมัยใหม่ แต่โลกของพ่อมดยังคงใช้ชีวิตจมปลักอยู่ในความคิดของบ้านป่าเมืองเถื่อนอยู่เลย ดังนั้นเขาจะปฏิบัติต่อมันเหมือนกับที่มันเป็น
“อา นายคิดว่าไงกับทักษะการวาดภาพของฉัน” แม็กนัสถามขณะที่เขาวาดใบนำจับใบสุดท้ายเสร็จ
รักนาร์และเซเวอรัสมองดูพวกเขาอย่างมีสมาธิ ใบหน้าของผู้โพสต์นั้นชัดเจนเหมือนกลางวัน
"นายก็รู้ว่านายมีฝีมือ 'ค่อนข้าง' ดีในเรื่องนี้" รักนาร์ชื่นชม
"ฮิฮิ แหงล่ะฉันฝึกวาดอักษรรูนอยู่ตลอด ไม่แปลกเลยที่เมอร์ลินจะสามารถวาดภาพเหมือนพูดได้สำหรับตัวเขาเองและอาเธอร์ได้ดี" แม็กนัสโอ้อวดอย่างภาคภูมิใจ
"ให้ตายเถอะ...นี่นายจะจ่ายค่าหัว 100,000 เกลเลียนจริงๆ หรอ?” รักนาร์อุทานทันทีเมื่อเขาเห็นใบนำจับของรูดอล์ฟ
“แน่นอน อีกอย่างใบนี้พิเศษหน่อย เพราะฉันต้องการจับเป็น ถ้ามีใครสามารถจับเป็นเขได้ พวกเขาก็สมควรได้รับเงินนั้น ถึงไงฉันก็มีเงินมากเกินไป ดังนั้นไม่มีปัญหาหรอก” แม็กนัสเปิดเผย
เซเวอรัสเห็นด้วยกับการกระทำของเขา "ก็จริง ถ้านายต้องการให้ผู้คนติดตามค่าหัวอย่างจริงจัง มันต้องสูงพอที่จะล่อคนที่มีพลังพอ”
"จะเอาเผยแพร่ที่ไหนล่ะ?" รักนาร์ถาม
"ไม่ต้องที่ไหนหรอก ซัมเมอร์ตัวน้อยของเราจะโยนพวกมันไปทั่วตรอกไดแอกอน รางวัลเงินจะมอบให้จากบัญชีที่ไม่ระบุตัวตน”
"ฮู้~~..." ซัมเมอร์เปล่งเสียงอย่างน่ารัก บอกว่าเธอทำได้ทุกสิ่ง
แม้ว่าตอนนี้ซัมเมอร์จะไม่ตัวน้อยแล้ว เพราะเธอทานอาหารที่เต็มไปด้วยเนื้อสัตว์และยาเพิ่มพลังหลายชนิดที่เซเวอรัสกับรักนาร์มักจะเลี้ยงเธออยู่บ่อยๆ
ตอนนี้เธอดูเหมือนนกอินทรีมากกว่าเสียอีก แต่ก็ยังน่ารักเหมือนเดิม ดังนั้นตอนนี้เธอจึงกลายเป็นก้อนปุยขนขนาดใหญ่
"ฮิฮิ เธอตื่นเต้นล่ะซิ้ โอเค ฉันจะได้สำเนาเพิ่ม เมื่อออกสู่สายตาสาธารณชน ทุกคนก็จะเริ่มพูดถึงมัน นี่มันโฆษณาฟรีๆ เลยนะ” แม็กนัสตัดสินใจและวุ่นกับเรื่องนี้ต่อไป
...
เกือบในเวลาเดียวกัน เด็กชายสี่คนจากกริฟฟินดอร์กำลังออกผจญภัยอย่างลับๆ เพื่อความสนุกสนาน พวกเขาตัดสินใจออกจากโรงเรียนจากทางลับและคอยสำรวจป่าต้องห้าม
“นายแน่ใจนะว่าจะทำแบบนี้? ฉันหมายถึง... เราอาจถูกไล่ออกเพราะทำเรื่องนี้ก็ได้นะ” รีมัสพยายามพูดให้พวกเขาเลิกสนใจ
"โถ่ไม่เอาน่า รีมัส ไม่มีใครรู้หรอก ข้างนอกมันมืดจะตาย แล้วนายไม่อยากเจอพวกเซ็นทอร์เหรอ? นายบอกฉันว่านายอยากคุยกับพวกเขาเกี่ยวกับการพยากรณ์ไม่ใช่แงะ” เจมส์วิธีให้รีมัสสนใจในการนี้อย่างชาญฉลาด ซิเรียสเข้าร่วมกับแผนนี้อยู่แล้ว ในขณะเดียวกัน ปีเตอร์ก็ติดตามพวกเขาอย่างเงียบๆ เขาไม่ค่อยพูดและมีนิสัยชอบหัวเราะแม้ว่าเขาจะถูกเยาะเย้ยก็ตาม
ในสายตาของคนส่วนใหญ่ ปีเตอร์ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มเพื่อนคนนี้จริงๆ เพราะส่วนใหญ่เขามักจะถูกรังแก เขาเป็นเหมือนเป้าหมายง่ายๆ ที่เจมส์และซิเรียสจะเล่นสนุกเพื่อหลีกเลี่ยงความเบื่อหน่าย
แต่แม็กนัสเป็นคนเดียวที่ไม่ปฏิบัติต่อปีเตอร์อย่างเลวร้าย และเขาก็ไม่ได้เอาเปรียบปีเตอร์เหมือนเด็กอวบอ้วนที่ขาดความมั่นใจในตัวเอง
ในไม่ช้า พวกเขาสามารถออกจากโรงเรียนได้โดยไม่มีใครสังเกตเห็น เวลานี้พวกเขาคุ้นเคยกับเรื่องพวกนี้มากแล้ว เพราะพวกเขาเคยเดินเล่นในโรงเรียนในช่วงเวลากลางคืนไปพร้อมกับซ่อนตัวจากภารโรงฟิลช์ไปด้วย
พวกเขามุ่งหน้าสู่ป่าอันมืดมิดอย่างแน่วแน่ด้วยสีหน้ามั่นใจและตื่นเต้น
พวกเขาตรงไปทางที่แฮกริดใช้ในการเดินสำรวจ นี่เป็นปัญหาของแฮกริด เขาเพิ่งตระหนักว่าเขาไม่ควรพูดอะไรหลังจากพูดอะไรไปแล้ว
พวกเขาเดินตามทางในป่าโดยมีไม้กายสิทธิ์ส่องแสงทางเดิน
ในไม่ช้า เสียงเริ่มดังมาจากพุ่มไม้ใกล้ๆ สิ่งต่อมาที่พวกเขารู้ก็คือ ลูกศรติดต่อกัน 4 ดอกพุ่งมาโดนไม้กายสิทธิ์ของพวกเขา ทำให้ไม้กายสิทธิ์ร่วงหล่นจากมือของพวกเขา
พวกเขาตะเกียกตะกายคว้าไม้กายสิทธิ์โดยรีบร้อนเพราะรู้ว่ามีอันตราย เจมส์ ซึ่งเป็นนักเล่นควิดดิชที่มีปฏิกิริยาตอบสนองที่รวดเร็ว คว้ามันไว้ได้ก่อน
"ลูมอส" เขาส่งเสียงดังเพื่อให้เห็นว่าพวกเขากำลังทำอะไรอยู่
ในที่สุดพวกเขาก็เห็นเงาของเซนทอร์สองสามตน จำนวนของพวกเขาไม่สามารถมองเห็นได้ชัดนัก พวกนั้นทั้งหมดกำลังชี้ธนูมาที่พวกเขา
"พ่อมดเหรอ? มาทำอะไรในดินแดนของเรา ฮอกวอตส์ยอมรับสิทธิ์ของเราในดินแดนแห่งนี้” เซนทอร์ตนหน้าสุดถามเสียงดัง
"เฮ้ นี่มันเป็นป่า... ไม่มีใครเป็นเจ้าของมันซะหน่อย" ซิเรียสเย้ยหยัน เขาไม่ฉลาดเกินไปที่จะรู้ว่าเมื่อไหร่ควรหุบปาก
"เจ้ากำลังบอกว่าเราไม่มีสิทธิ์ในดินแดนแห่งนี้ชนรุ่นก่อนเราอาศัยอยู่หรอ? ไม่ผิดเลยบรรพบุรุษของเรากล่าวไว้เป็นจริง...มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่น่าไว้วางใจ ตอนนี้เราจะเรียกค่าไถ่เจ้าด้วยฮอกวอตส์ ถ้าพวกเขาต้องการเจ้าคืน พวกเขาต้องจ่าย เรามีน้ำใจ จะไม่ฆ่าพวกเจ้าเพราะพวกเจ้ายังเป็นแค่ลูกม้าแคระ พี่น้อง จับมัน” เซนทอร์สั่งคนในเผ่าของเขา
เจมส์ไม่อาจต่อกรได้ เขาเป็นคนเดียวที่มีไม้กายสิทธิ์ เขาจึงยอมปลดอาวุธทันที จากนั้นทุกคนก็ถูกมัดด้วยเถาวัลย์ชนิดหนึ่ง
“ปล่อยฉัน...” ซิเรียสท้วง
“หุบปากซิเรียส อย่าทำให้พวกเขาโกรธ” เจมส์เตือนเพื่อนของเขา
รีมัสสงบมาก ส่วนปีเตอร์หมดสติไปแล้วเพราะความกลัว
พวกเขาถูกมัดด้วยเถาวัลย์ยาวเหมือนกระสอบข้าวและถูกลากมายังค่ายพักใหญ่ มีแสงสว่างเพียงพอและดูมีกิจกรรมมากมาย ราวกับว่ามีเทศกาลอะไรสักอย่างเกิดขึ้นที่นั่น
"ว้าว พวกเขากำลังกินอะโครแมนทูลาอยู่ใช่ไหม?" เจมส์พูดด้วยความประหลาดใจ ยังไม่เอะใจที่จะถูกลากไปจับ
"ไม่ใช่ว่าอะโครแมนทูลาเป็นศัตรูของพวกเขาหรอ? นี่มันป่าเถื่อนมาก" ซิเรียสกล่าวเสริม
*ตุบ*
หลังจากนั้นอีกไม่กี่ก้าวพวกเขาก็ถูกทิ้งไว้บนพื้นอย่างรุนแรง
“ท่านผู้นำจะเป็นผู้ตัดสินชะตากรรมของพวกเจ้า วันนี้พวกเจ้าโชคดีเพราะเขามีความสุขมากในตอนนี้ กับการกลับมาของพันธมิตร พวกเจ้า 'อาจ' มีชีวิตอยู่ต่อไปได้” เซนทอร์บอกพวกเขาและจากไป
ซิเรียส เจมส์พยายามดิ้นให้หลุดจากการจับกุม พวกเขาพยายามขยับไปมาซ้ายขวาก็แล้วแต่ทำไม่ได้
*เฮ้อ* "พวกนายสองคนนี่มันบื้อจริง หยุดดิ้นซักที มันจะคลายลงนิดหน่อยเอง" รีมัสรีบพูด
วิธีนี้ได้ผลพวกเขาได้รับอิสระ แต่ตอนนี้เหลือเพียงหนึ่งเดียว
“แล้วเราเอากับปีเตอร์ดี” เจมส์ถาม
ซิเรียสยักไหล่ “ปล่อยเขาไปเถอะ หมอนี่ขี้ขลาดจะตายเดี๋ยวพอเจออะไรน่าตื่นเต้นก็จะสลบเหมือดอยู่ดี...เราไปร่วมปาร์ตี้กันดีกว่า!”
"ว่าไงนะ? นี่นายลืมไปหรือเปล่าว่าเราเป็นตัวประกันอยู่เนี่ย" รีมัสถามเขา
"แน่นอนฉันรู้น่า แต่เราหนีไปไหนได้เล่า ที่นี่คือที่ที่พวกเขาอาศัยอยู่ เพราะงั้นบางทีเราอาจเอ็นจอยกะพวกเขาด้วยก็ได้” ซิเรียสใช้เหตุผลและเดินออกไปยังจุดที่เกิดเสียงดังอย่างกระดี๊กระด๊า
พวกเขาเดินสำรวจดูรอบๆ เซ็นทอร์มีจำนวนเยอะมากจนน่าตกใจ พวกเขายังหยิบอาหารจากที่นี่และที่นั่นและกินมันอย่างสนุกสนาน
“อื้มม ทำอาหารกันเก่งจัง” ซิเรียสชมด้วยปากที่เต็มไปด้วยอาหาร แต่ไม่มีใครรู้ว่ามันคือเนื้ออะไร
"แกอยู่นี่เอง เจ้ามนุษย์แคระ ท่านผู้นำพร้อมจะลงโทษพวกแกแล้วตอนนี้ ตามข้ามา"
เซ็นทอร์มาลากพวกเขาไปที่ใจกลางค่าย
ตอนนี้ ซิเรียส, รีมัส และ เจมส์ รู้สึกประหม่าเล็กน้อย ไม้กายสิทธิ์ของพวกเขาถูกยึดไปและกำลังรบของพวกเขาก็พอๆ กับพวกเด็กมักเกิ้ลธรรมดา
พวกเขาถูกนำตัวไปที่กองไฟที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งมีพวกเซนทอร์แก่ๆ กำลังพักผ่อนอยู่
คนที่แก่ที่สุดและใหญ่ที่สุดคือผู้นำ
"พ่อมด อะไรนำเจ้ามายังดินแดนของเรา?" ผู้นำเฒ่าถาม
"เอิ่ม...คือรีมัส เขาอยากเรียนรู้เกี่ยวกับพืชสมุนไพรและการพยากรณ์ศาสตร์จากพวกคุณฮะ" เจมส์ขายรีมัสอย่างไว
"โอ้จริงรึ? พวกเจ้าคิดว่าจะสามารถสั่งให้พวกเรามอบความรู้อันมีค่าของเราแก่พวกเจ้าอย่างนั้นหรือ? เจ้าคิดว่าเรายอมจำนนต่อพ่อมดอย่างเจ้าใช่หรือไม่?
นี่เจ้าคิดว่าพวกเราเป็นทาสรับใช้ของเจ้ารึ? เหมือนที่เจ้าทำกับพวกเอลฟ์ใช่ไหม?" เซนทอร์ชราคำรามขาดูโกรธมาก ณ จุดนี้
ซิเรียส รีมัส และเจมส์หน้าเปลี่ยนสี จนถึงตอนนี้ พวกเขาคิดว่าฮอกวอตส์และสิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่ในป่าต้องห้ามน่าจะเข้าใจตรงกันว่าพวกเขาจะไม่ทำร้ายซึ่งกันและกัน
แต่ตอนนี้พวกเขาสงสัยว่าพวกเขาอาจจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นานเสียแล้ว
“อา… เราทำเรื่องผิดพลาด… เราจะกลับไป” รีมัสพยายามเกลี้ยกล่อม
"เงียบ...ช่างหยิ่ง โง่เขลา และเบาปัญญา นั่นคือสิ่งที่พวกเจ้าเป็นพ่อมด คุณจะได้กลับไปแน่ แต่จะไม่มีหัวบนไหล่ไปด้วย!”
_____________________________
เซ็นทอร์