ตอนที่แล้วMDB ตอนที่ 247 แผนการของจักรพรรดิ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปMDB ตอนที่ 249 เคราะห์ร้ายแปดชั่วโคตร

MDB ตอนที่ 248 ผู้เฒ่าลัทธิเต๋า


หลังจากกระโดดข้ามกำแพง วานรยักษ์ขาวก็สังเกตเห็นผู้เฒ่าลัทธิเต๋าเช่นกันและตรวจสอบเขา ในขณะเดียวกัน ผู้เฒ่าลัทธิเต๋าก็มองเจ้าลิงขาวกลับด้วยความตกตะลึง

“อาจารย์ นี่คือน้องลิงที่ข้าพูดถึงเมื่อหลายวันก่อน เขาเหมือนกับข้า และออร่าของเขาก็เกินหน้าข้าไปมาก แต่เขายังไม่ได้เรียนรู้การปรับแต่งกระดูกและยังไม่ได้เรียนรู้ภาษามนุษย์ คงไม่มีใครสอนเขาแน่ ๆเลย มันคงจะน่าเสียดายที่ปล่อยให้พรสวรรค์ของเขาสูญเปล่า”

ปีศาจวานรดูทะเล้นราวกับว่าเขาทำสิ่งที่น่าอัศจรรย์ได้

แม้ว่าวานรยักษ์ขาวจะกระโดดข้ามไป แต่มันก็ไม่ได้เข้าใกล้ มันยืนอยู่ใกล้กำแพงเพื่อหากมีอะไรเกิดขึ้น มันสามารถกระโดดกลับออกไปอีกด้านทันที

ถึงแม้ว่ามันจะไม่สามารถพูดได้ แต่ความฉลาดของมันก็ไม่ควรที่จะมองข้าม คนทั่วไปอาจคิดว่า มันเป็นเพียงลิงจ๋อผู้ไม่รู้ประสีประสา

แต่ไม่ใช่กับผู้เฒ่าลัทธิเต๋าผู้เจนจัดในด้านประสบการณ์ เขาสามารถมองออกได้ในเวลาไม่นาน

ปีศาจวานรยังคงพูดพล่ามต่อไป เมื่อพบว่าเขาน่ารำคาญ ผู้เฒ่าลัทธิเต๋าก็ตวาดทันทีว่า “เจ้าลิงแสบ! หยุดพูดพล่ามไร้สาระได้แล้ว!”

ปีศาจวานรหยุดพูดและทำหน้าจ๋อยทันที

ผู้เฒ่าลัทธิเต๋าได้มองดูวานรยักษ์ขาวอีกครั้ง เขากล่าวอย่างประหลาดใจว่า

“ออร่าของอสุรกายถูกยับยั้งเอาไว้ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังมีความบริสุทธิ์สูง ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยพลัง มันช่างน่าทึ่งเสียจริง ข้าขอทราบได้ไหมว่าอาจารย์ของเจ้าอยู่ที่ไหน?”

ผู้เฒ่าลัทธิเต๋ากล่าวพลางมองไปรอบ ๆ อย่างหวาดวิตก ราวกับว่าเขาต้องระวังตัว

เมื่อเห็นผู้เฒ่าลัทธิเต๋ามีท่าทีที่สุภาพเช่นนี้ วานรยักษ์ขาวก็เข้าไปจับมือประสานกันพร้อมทำความเคารพ แม้ว่ามันจะไม่ได้แต่งตัวและ ถูกปกคลุมด้วยขนสีขาว แต่มันก็ดูเหมือนมนุษย์มาก

เมื่อถึงตอนนี้ ผู้เฒ่าลัทธิเต๋าก็ยิ่งมั่นใจมากขึ้นว่าปีศาจวานรตนนี้ ต้องได้รับการสั่งสอนจากใครบางคน

และการฝึกฝนของอีกฝ่ายก็คงอยู่ในระดับเดียวกับเขา

ผู้เฒ่าลัทธิเต๋าจึงหันไปหาปีศาจวานรทันทีด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม “เจ้าลิงแสบ เจ้าลักพาตัวศิษย์ของคนอื่นมาได้อย่างไร? ไว้ข้าจะจัดการเรื่องนี้กับเจ้าในภายหลัง!”

ปิศาจวานรที่ดูเศร้าโศกกล่าวว่า “อาจารย์ ข้าไม่ได้ทำอะไรผิด น้องลิงยังพูดไม่ได้แต่เก่งมาก อีกทั้งเขาอยู่เพียงลำพัง ข้าไม่เห็นอาจารย์ของเขา และคิดว่ามันน่าเสียดาย…”

ผู้เฒ่าลัทธิเต๋าขมวดคิ้วและตะโกน “เจ้ากล้าดียังไงถึงมาแก้ตัว!”

เมื่อรู้สึกว่าผู้เฒ่าลัทธิเต๋าอาจกำลังโกรธจริง ๆ ปีศาจวานรก็ไม่พูดอีก ผู้เฒ่าลัทธิเต๋าไอแห้ง ๆ และมองไปรอบ ๆ ก่อนที่จะพูดว่า

"ข้า หวู่เฉียนจากนิกายเมฆาของภูเขาเทียนเหอ หากท่านไม่ว่าอะไร ข้าขอพบท่านได้หรือไม่?”

เสียงของเขาไม่ดังแต่ก้องกังวาลไปทั่ว ชายผู้นี้มีความสามารถสูงอย่างเห็นได้ชัด

อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้กลับทำให้ปีศาจวานรและวานรยักษ์ขาวสับสน

สัตว์ปีศาจทั้งสองถูกตรึงไว้ที่เดิม พวกเขาตกตะลึงและจ้องมองผู้เฒ่าลัทธิเต๋าด้วยความสับสน วานรยักษ์ขาวพูดไม่ออก ในขณะที่ปีศาจวานรไม่รู้จะพูดอะไร

อย่างไรก็ตาม พวกเขามีสติปัญญาเหมือนมนุษย์ อสุรกายทั้งสองเข้าใจว่า ผู้เฒ่าลัทธิเต๋าต้องคิดว่ามีคนติดตามพวกเขา

แต่มันไม่มี

ผ่านไปครู่หนึ่งก็ไม่มีเสียงตอบรับใด ๆ

ผู้เฒ่าลัทธิเต๋ารู้สึกประหลาดใจและพูดซ้ำ ๆ แต่ก็ยังไม่มีคำตอบ ปีศาจวานรทนดูต่อไปไม่ไหวแล้วพูดว่า

“อาจารย์ ไม่มีใครตามพวกเรามา มีแค่ข้ากับน้องลิงเท่านั้น แล้วท่านกำลังคุยอยู่กับใคร?”

“แปลกมาก!” ผู้เฒ่าลัทธิเต๋าไม่สนใจปีศาจวานร และยกนิ้วขึ้นเพื่อนับ ดูเคร่งขรึมมากขึ้น

“ไม่เป็นไร ลืมมันไปซะ”

เนื่องจากเป็นดังที่ปีศาจวานรพูด เขาก็หยุดความพยายามในการพูดกับอากาศ ผู้เฒ่าลัทธิเต๋าได้หันมาและยกมือคำนับวานรยักษ์ขาวแล้วพูดว่า

“ในเมื่ออาจารย์ของเจ้าไม่อยู่ที่นี่ เจ้าสามารถทำตัวตามสบายดังที่เจ้าต้องการได้”

ผู้เฒ่าลัทธิเต๋าไม่ต้องการยั่วยุอีกฝ่ายอย่างชัดเจน แม้จะพูดอย่างนั้น แต่สายตาของเขายังคงติดตามเจ้าลิงขาวต่อไป

วานรยักษ์ขาวเข้าใจเจตนาของผู้เฒ่าลัทธิเต๋า แต่เนื่องจากมันไม่สามารถพูดได้ มันจึงรู้สึกวิตกกังวล มันสามารถบอกได้ว่าผู้เฒ่าลัทธิเต๋ามีความสามารถอย่างไร อาจารย์หลินหายตัวไปและมังกรเฒ่าที่ต่อสู้กับพวกเขาในวันนั้นก็ทรงพลังเกินไป วานรยักษ์ขาวคิดว่าถ้าชายชราคนนี้มาช่วยพวกเขาได้ มันก็คงจะดีไม่น้อย

ดังนั้นมันจึงก้าวไปข้างหน้า แล้วส่งเสียงเพื่อพยายามพูด

ผู้เฒ่าลัทธิเต๋าสามารถบอกได้ว่าอีกฝ่ายต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง เขาสนใจในตัววานรยักษ์ขาวอยู่แล้ว และเนื่องจากฝ่ายหลังมาหาเขาเอง ผู้เฒ่าลัทธิเต๋าจึงไม่สามารถระงับความอยากรู้อยากเห็นของเขาได้อีกต่อไป อีกทั้งเจ้านายของมันก็ไม่อยู่ด้วย ดังนั้นนี่เป็นเวลาที่ดีที่จะศึกษาเจ้าลิงขาว

ผู้เฒ่าลัทธิเต๋ากล่าวว่า “ใจเย็นก่อน!”

เมื่อพูดอย่างนั้น เขาตรวจดูเจ้าลิงขาวขึ้นและลง กระทั่งยื่นมือออกไปเพื่อสัมผัสแขนที่แข็งแรงของมัน ผู้เฒ่าลัทธิเต๋าก็ตกตะลึงทันที

‘นี่มัน… การแปลงร่าง น่าอัศจรรย์มาก! อสุรกายตนนี้เติบโตเต็มที่แล้ว แต่ออร่าของมันยังไม่บริสุทธิ์พอ มันน่าจะเพิ่งกลายเป็นอสุรกายเมื่อไม่นานมานี้ อาจจะไม่ถึงเดือนก่อนด้วยซ้ำ มันน่าเหลือเชื่อมากที่สามารถฝึกฝนลิงป่าถึงระดับนี้ภายในเวลาไม่ถึงเดือน ช่างน่าเหลือเชื่อจริง ๆ’

ผู้เฒ่าลัทธิเต๋าดูอิจฉาแต่ก็หวาดกลัวในเวลาเดียวกัน

นอกจากนี้เขายังค่อนข้างมีความเชี่ยวชาญในการประเมิน ดังนั้นเขาจึงสามารถบอกได้ว่ารูปลักษณ์ของวานรยักษ์ขาวเบื้องหน้าไม่ใช่รูปลักษณ์เดิมของมัน ขนาดที่แท้จริงของมันไม่ควรเป็นอย่างที่ตาเห็นในตอนนี้

นอกจากนี้ เขายังสามารถบอกได้ว่าเจ้าลิงขาวได้รับการฝึกฝนทักษะบ่มเพาะระดับสูง

วิธีการบ่มเพาะหาได้ยากในยุคนี้ วิธีการฝึกฝนที่สามารถฝึกฝนได้นั้นหายาก ตัวอย่างเช่น ปีศาจวานรของเขาอยู่ในระดับสอง แต่ได้เริ่มการฝึกฝนภายใต้เขามานานกว่าทศวรรษเพื่อฝึกฝนทักษะปีศาจขั้นพื้นฐานเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม การปรับแต่งกล่องเสียงเป็นความสามารถพิเศษของผู้เฒ่าลัทธิเต๋า นั่นคือเหตุผลที่ปีศาจวานรสามารถพูดได้

สำหรับวิชาแปลงร่าง ปีศาจวานรได้รับการบ่มเพาะมาเป็นเวลาหลายปีแต่ทำได้เพียงเท่านี้ เขาไม่สามารถซ่อนหางของเขาได้ไม่ว่าจะพยายามมากเพียงใด ดังนั้นการซ่อนมันไว้ใต้เสื้อคลุมของเขาจึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เขาสามารถทำได้ ถึงกระนั้นเขาก็กลัวที่จะถูกเปิดเผย

ยิ่งผู้เฒ่าลัทธิเต๋าสังเกตมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งตกใจมากเท่านั้น

รูปร่างที่แท้จริงของวานรยักษ์ขาวตัวนี้ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาเห็นในตอนนี้อย่างแน่นอน แม้แต่เขาเองก็ไม่รู้ว่ามีทักษะแปลงร่างที่สมบูรณ์และคงอยู่ในนานขนาดนี้

นอกจากนี้ วานรยักษ์ขาวควรพบในทวีปกลาสซี่เท่านั้น และขึ้นชื่อเรื่องขนาดที่ใหญ่โตและยากต่อการทำให้เชื่อง

ที่สำคัญกว่านั้น วานรยักษ์ขาวส่วนใหญ่ไม่ให้มีสติปัญญาล้ำเลิศ ดังนั้นการบ่มเพาะให้กลายเป็นสัตว์ปีศาจจึงเป็นเรื่องที่ยากมาก

ถึงกระนั้น วานรยักษ์ขาวตัวนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นอสุรกายและสติปัญญาของมันดูเหมือนจะไม่ขาดตกบกพร่องเลย

เมื่อผู้เฒ่าลัทธิเต๋าได้รู้เช่นนี้ เขาก็สั่นไหวไปทั้งตัว

สำหรับเขาแล้ว การบ่มเพาะพันธสัญญาโลหิตนั้นไม่มีค่าอะไรเลย มันเป็นเพียงวิธีการที่ใช้ในการยืมความแข็งแกร่งจากสัตว์เลี้ยงเพื่อเสริมสร้างความสามารถทางกายภาพของตัวเอง ผู้เฒ่าลัทธิเต๋าไม่คิดว่ามันสำคัญ

ทางนิกายเมฆาจากเทียนเหอที่เขาจากมานั้น พวกเขาได้สอนวิธีการฝึกฝนให้กับสัตว์วิเศษ และทักษะการอัดเม็ดยาภายใน

อย่างไรก็ตาม มีเพียงสองหรือสามประเภทเท่านั้นที่เหลืออยู่ในนิกายเมฆา ผู้ฝึกตนเช่นเขามีอยู่จริงเพียงในนามเท่านั้น

ผู้เฒ่าลัทธิเต๋าไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้ เขาใช้เวลาหลายทศวรรษในการดิ้นรนและทุ่มเวลาที่มี แม้กระทั่งเดินทางไปทั่วดินแดนเพื่อค้นหายอดฝีมือ อย่างไรก็ตาม ผู้ฝึกตนที่เป็นอมตะที่แท้จริงแทบจะหาไม่ได้อีกแล้ว

ตอนนี้ เมื่อเขาเห็นวานรยักษ์ขาวตัวนี้ ผู้เฒ่าลัทธิเต๋าสามารถบอกได้ว่าการบ่มเพาะของมันนั้นเป็นการบ่มเบาะแบบดั้งเดิม อาจารย์ของเจ้าลิงขาวต้องเป็นคนที่ไม่ธรรมดา และในเมื่อเป็นเช่นนั้น เขาไม่ควรปล่อยโอกาสทำความรู้จักนี้หลุดลอยไป

ผู้เฒ่าลัทธิเต๋ารู้สึกว่านี่เป็นโอกาส

นิกายเมฆาของพวกเขามีอยู่นับพันปีแล้ว แม้ว่าจะใกล้จะปิดตัวลง แต่ก็ยังมีบางสิ่งที่จะนำเสนอ และในจำนวนนั้นรวมถึงเครื่องรางของลัทธิเต๋า

เมื่อจารึกอาคมลงบนเครื่องรางสีเหลือง พวกมันจะกลายเป็นสมบัติล้ำค่า

เมื่อเวลาผ่านไปหลายร้อยปี เครื่องรางส่วนใหญ่ได้ถูกนำไปใช้ ถึงกระนั้น ก็ยังมีบางส่วนที่หลงเหลืออยู่ และหนึ่งในนั้นรวมถึงเครื่องรางที่สามารถใช้กับอสุรกาย โดยทำการปรับแต่งกล่องเสียงเพื่อทำให้สัตว์ปีศาจเรียนรู้ภาษามนุษย์ได้

ตามตำนานโบราณ เครื่องรางดังกล่าวไม่ถือว่ามีค่า แต่ตอนนี้ ผู้เฒ่าลัทธิเต๋ามีเหลืออยู่ในครอบครองเพียงสองอัน

เมื่อมองไปที่เจ้าลิงขาว ผู้เฒ่าลัทธิเต๋าครุ่นคิด ถ้าเขาช่วยเจ้าลิงขาวตัวนี้ มันคงสร้างความประทับใจที่ดีให้กับอาจารย์ของมันอย่างแน่นอน หากเขามีเรื่องไหว้วานในอนาคต อีกฝ่ายอาจตอบรับคำขอของเขาอย่างยินดี

เมื่อคิดได้เช่นนี้ เขาจึงตัดสินใจลงมือทันที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด