Chapter 84 : ฆ่า - เก็บเกี่ยว – ยามราตรี
ชายหนุ่มชุดดำดูประหลาดใจเล็กน้อยที่เห็นว่าจู่ๆโจวเฉินก็โผล่พรวดเข้ามาแต่ชายวัยกลางคนใบหน้าขาวซีดที่อยู่เบื้องหน้าเขาและโครงกระดูกติดอาวุธสองตัวกลับไม่มีท่าทีลังเลเลยซักนิดและเข้าโจมตีเขาในทันที
โครงกระดูกติดอาวุธสองตัวพุ่งเข้ามาโจมตีโจวเฉินด้วยดาบและค้อนในมือของพวกมัน ส่วนชายวัยกลางคนใบหน้าซีดขาวถอยหลังออกไปสองก้าวและเริ่มบริกรมคาถา
โจวเฉินที่ต้องเผชิญกับการโจมตีจากโครงกระดูกติดอาวุธสองตัวกลับไม่ล่าถอยเลยแม้แต่ก้าวเดียว เขายื่นหอกออกไปกวาดอาวุธของพวกมันออกไปด้านข้างจากนั้นเขาก็แทงหอกออกไปสองครั้งติด กระดูกส่วนลำคอของโครงกระดูกทั้งสองตัวถูกแทงจนแตกสลายเป็นเหตุให้หัวของพวกมันล่วงลงสู่พื้นดิน
โจวเฉินพุ่งตัวเข้าไปกดร่างไร้หัวของพวกมันลงกับพื้นและแทงหอกออกไปอีกครั้ง เป้าหมายครั้งนี้ของเขาคือชายวัยกลางคนใบหน้าขาวซีดที่กำลังบริกรมคาถา
ชายวัยกลางคนใบหน้าขาวซีดกลับไม่ได้หยุดการร่ายคาถาเพราะจู่ๆเบื้องหน้าระหว่างเขาและหอกของโจวเฉินก็พลันปรากฏกำแพงกระดูกสีขาวหนาทึบคืบคลานออกมาขวางเอาไว้
โจวเฉินใช้พลังทั้งหมดแทงเข้าใส่กำแพงกระดูกอย่างต่อเนื่องและใช้เวลาไม่นานมันก็เริ่มปรากฏรอยแตกให้เห็น จากนั้นเขาก็ยกเท้าฟาดเข้าใส่มันอย่างแรงจนกำแพงกระดูกแตกกระจายประหนึ่งกระเบื้องเคลือบ
หลังจากทำลายกำแพงกระดูกลงได้เขาก็สัมผัสได้ว่าโครงกระดูกไร้หัวทั้งสองตัวกำลังลุกขึ้นมาอีกครั้ง
ยังไงก็ตามโจวเฉินหาได้สนใจพวกมันไม่และหันไปแทงหอกใส่ชายวัยกลางคนใบหน้าขาวซีดที่ยืนร่ายคาถาอยู่เช่นเดิมแทน
หนนี้ชายวัยกลางคนเลือกที่จะหยุดร่ายคาถาและยกมือขึ้นมาป้องกันหอก
พริบตานั้นเองโจวเฉินพลันสัมผัสได้ถึงแรงต้านมหาศาลที่ส่งผ่านมาจากปลายหอก เขาจึงได้รู้ว่าชายที่ดูเหมือนจะอมโรคผู้นี้แท้จริงแล้วทรงพลังเพียงใด โจวเฉินเพิ่มพลังขึ้นไปอีกทำให้หอกของเขาสามารถเจาะทะลุฝ่ามือของชายวัยกลางคนจนแทงเข้าใส่ลำคอของอีกฝ่ายได้สำเร็จ
หากแต่ปลายหอกกลับเจาะลำคอของอีกฝ่ายไม่ทะลุ ปลายหอกที่แทงเข้าใส่ลำคอของอีกฝ่ายพลันเกิดแรงต้านมหาศาลประหนึ่งว่าลำคอของเขาทำมาจากก้อนหิน
“เจ้าหมอนี่เป็นปัญหาจริงๆแฮะ”
ความคิดนี้แว่บขึ้นมาในหัวของโจวเฉิน จากนั้นขวานด้ามหนึ่งก็ปรากฏขึ้นมาในมือซ้ายของเขา พร้อมกันนั้นเองเขาก็เหวี่ยงมันไปด้านหลังเพื่อปัดดาบที่กำลังโจมตีเข้ามาของโครงกระดูกไร้หัวทั้งสองตัวทิ้งไป
จากนั้นเขาก็ใช้แรงทั้งหมดกดหอกเข้าใส่ลำคอของชายวัยกลางคนใบหน้าขาวซีดและกระชับหอกพุ่งเข้าหาชายหนุ่มชุดคลุมสีดำทั้งอย่างนั้น
ในเวลานี้เองชายหนุ่มชุดคลุมสีดำดูเหมือนว่าจะร่ายคาถาเสร็จแล้ว หอกกระดูกจำนวนมากปรากฏออกมาจากความว่างเปล่าและพุ่งตรงเข้าใส่โจวเฉิน โจวเฉินใช้ร่างของชายวัยกลางคนที่ติดอยู่ที่ปลายหอกประหนึ่งโล่ป้องกันการโจมตีจากหอกกระดูกเหล่านี้ จากนั้นเขาก็เหวี่ยงร่างของอีกฝ่ายไปใส่โครงกระดูกไร้หัวทั้งสองตัวที่อยู่ด้านหลัง
ตอนนี้ไม่มีอุปสรรคขวางกั้นระหว่างโจวเฉินและชายหนุ่มชุดคลุมสีดำอีกต่อไป เขาพุ่งตัวออกไปราวกับสายฟ้าและทะลวงลำคอของอีกฝ่ายจนทะลุ
หลังจากชายหนุมชุดคลุมดำสิ้นชีพ โจวเฉินก็หมุนตัวกลับมาเพื่อเตรียมจัดการกับพวกที่เหลือ หากแต่เขากลับพบว่าโครงกระดูกทั้งสองตัวและชายวัยกลางคนกลับยืนนิ่งไร้สติประหนึ่งไร้ชีวิตไปเสียแล้ว
“ทั้งสามตัวนี้คือสิ่งมีชีวิตอัญเชิญของเจ้าหมอนี่งั้นหรอ?”
โจวเฉินคาดเดา
โจวเฉินใช้หอกในมือจิ้มๆพวกมันดูและยืนยันได้แล้วว่าศัตรูที่เหลือในสุสานแห่งนี้ไม่มีลมหายใจอยู่อีกแล้ว จากนั้นเขาก็เริ่มตรวจสอบสิ่งต่างๆภายในโดยหวังว่าจะได้อะไรติดไม้ติดมือกลับไปบ้าง
เขาเริ่มตรวจสอบร่างกายของชายหนุ่มชุดคลุมดำเป็นที่แรกและพบเข้ากับคทาสั้นที่ทำจากโครงกระดูกอยู่ในมือของอีกฝ่าย ใกล้ๆเท้าของเขาเองก็มีคัมภีร์เปื่อยยุ่ยเล่มหนึ่งตกอยู่รวมไปถึงน้ำยาอะไรบางอย่างอีกขวดหนึ่งในกระเป๋า
คทากระดูก คัมภีร์และโพชั่นถูกเขาทำการตรวจสอบ หนึ่งนั้นคือคทาแห่งความชั่วร้ายซึ่งมีความสามารถในการเพิ่มผลจากเวทย์มนตร์ประเภทเนโครแมนซี่(เวทย์มนตร์ทรงผี) อีหนึ่งก็คือคัมภีร์ต้องคำสาปที่ได้รับความเสียหายและสุดท้ายก็คือโพชั่นมานาซึ่งใช้สำหรับฟื้นฟูพลังเวทย์
หลังจากโยนคทากระดูกและโพชั่นเข้าไปในช่องเก็บของแล้วโจวเฉินก็หันมาตรวจสอบร่างของชายวัยกลางคนบ้าง หลังจากไม่พบอะไรเขาก็เบนสายตาไปมองที่อื่นๆในสุสานแทน
พื้นที่ภายในสุสานแห่งนี้ไม่ใช่เล็กเลย นอกจากโรงศพหินที่ว่างเปล่าไม่กี่โรงแล้วก็ยังมีเตียง โต๊ะและตู้เก็บของ
หลังจากตรวจสอบตู้เก็บของด้านในสุดแล้วโวเฉินก็พบเพียงขนมปังแห้ง มันฝรั่ง วัสดุไม่ทราบชนิด เสื้อผ้าและหนังสือภายในลิ้นชักเพียงเท่านั้น
หนังสือเล่มนี้เองก็ถูกระบบอ้างอิงโดยใช้ชื่อว่า ‘บันทึกของเนโครแมนเซอร์’ เช่นเดียวกัน
“เจ้าหมอนี่เป็นเนโครแมนเซอร์จริงๆด้วย...”
โจวเฉินคาดเดาตัวตนของเจ้าหมอนี่เอาไว้ก่อนแล้วดังนั้นจึงไม่ได้แปลกใจเท่าไหร่นัก จากนั้นเขาก็ลองเปิดบันทึกที่ได้มาแบบผ่านๆดู
ไม่นานนักเขาก็พบว่าหนังสือเล่มนี้อ้างอิงถึงความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับเนโครแมนเซอร์ ถ้าทำตามวิธีการที่อธิบายเอาไว้ในหนังสือเล่มนี้คนผู้นั้นก็จะก้าวเข้าสู่เส้นทางของเนโครแมนเซอร์และสามารถเชี่ยวชาญในเวทย์มนตร์พื้นฐานของเนโครแมนเซอร์รวมไปถึงเรียนรู้วิธีสร้างคัมภีร์คำสาปและหุ่นเชิดอันเดดได้ไม่ยาก
“ถ้ากลายเป็นเนโครแมนเซอร์ค่าสถานะจิตวิญญาณจะเพิ่มขึ้นแต่ลดค่าสถานะทางกายภาพแทน ทำให้ร่างกายจะค่อยๆพัฒนาไปในเส้นทางของอันเดดในที่สุด ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมฉันถึงได้รู้สึกว่าเลือดของสองคนนี้มันไหลเวียนแปลกๆ”
หลังจากอ่านบันทึกแบบคร่าวๆแล้วความสงสัยของโจวเฉินก็คลี่คลาย เขาลองคาดเดาตัวตนของชายวัยกลางคนดูและเดาว่าอีกฝ่ายน่าจะเป็นซอมบี้ที่ชายหนุ่มชุดคลุมดำสร้างขึ้นมา
“เวทย์มนตร์สายเนโครแมนซี่นี่ชั่วร้ายจริงๆ ถึงกับสามารถเปลี่ยนให้คนเป็นๆกลายเป็นหุ่นเชิดที่จะบอกว่าตายก็ไม่ใช่มีชีวิตอยู่ก็ไม่เชิงแบบนี้”
หลังจากทอดถอนใจโจวเฉินก็โยนหนังสือเล่มนี้เอาไว้ในช่องเก็บของ
จากนั้นเขาก็ตรวจสอบสุสานอยู่อีกซักพักและก็ไม่ได้พบอะไรเพิ่มเติมอีก ในเวลาเดียวกันนั้นเองหญิงสาวร่างสูงก็เดินเข้ามาพอดี
สีหน้าของเจ้าหล่อนดูซีดเล็กน้อยและดูเหมือนว่าจะยังฟื้นฟูจากการถูกลอบโจมตีเมื่อครู่ได้ไม่สมบูรณ์นัก
“เจ้าหมอนี่หรอที่โจมตีพวกเราเมื่อกี้?”
หญิงสาวมองไปที่ศพของชายหนุ่มชุดคลุมดำและเอ่ยถามโจวเฉิน
“ใช่...เจ้าหมอนี่เป็นเนโครแมนเซอร์และน่าจะอยากจะใช้พวกเราเป็นวัสดุดิบสร้างอันเดด…แต่ช่างมันเถอะ ตอนนี้พวกเรามาช่วยกันทำความสะอาดที่นี่เพื่อพักผ่อนในคืนนี้กันดีกว่า”
โจวเฉินตอบกลับเจ้าหล่อนและเริ่มลากศพออกไปด้านนอกสุสานโดยหมายจะลากไปทิ้งที่ไหนก็ได้ที่ไกลๆจากตรงนี้
“จะไม่ไปดูตรงทิศที่เจ้าหมอนี่บอกหน่อยหรอ?”
หญิงสาวร่างสูงดูจะลังเลเล็กน้อยเมื่อรู้ว่าต้องนอนในสุสานแห่งนี้ในค่ำคืนนี้
“เรายังไม่รู้เลยว่าเจ้าหมอนี่โกหกรึเปล่าแถมยังใกล้มืดแล้วด้วย สถานที่แห่งนี้น่าจะพอใช้หลบลมและฝนได้ นอกจากนี้ยังมีอาหารอีกด้วยเพราะงั้นตอนนี้ก็อยู่ที่นี่ก่อนเถอะ”
เมื่อได้ยินหญิงสาวหยุดคิดมากและเริ่มช่วยเก็บกวาดสถานที่แห่งนี้
ครึ่งชั่วโมงให้หลังสุสานแห่งนี้ก็กลับมาสะอาดและพออยู่อาศัยได้ จากนั้นคนทั้งสองก็เริ่มก่อกองไฟ
โจวเฉินและหญิงสาวร่างสูงทานอาหารที่ชายหนุ่มชุดคลุมดำเหลือทิ้งเอาไว้และมาผิงไฟอยู่รอบกองไฟขณะเดียวกันก็เริ่มพูดคุยหารือถึงแผนการในค่ำคืนนี้
“หนึ่งในพวกเราจะต้องนอนจนถึงเที่ยงคืนและให้อีกคนคอยเฝ้าระวัง จากนั้นค่อยมาเปลี่ยนกะกันตอนเที่ยงคืน”
“ตามนั้น ถ้าเป็นไปได้ฉันขอหลับคนแรกแล้วกันเพราะจนถึงตอนนี้ก็ยังมึนๆหัวอยู่เลยเลยอยากจะรีบพักผ่อนให้เร็วที่สุด”
หญิงสาวเห็นด้วยกับข้อเสนอของโจวเฉินและเอ่ยปากขอหลับก่อนแล้วจะตื่นมาเฝ้าระวังให้ในครึ่งหลัง
“ได้สิ”
โจวเฉินตอบตกลงในทันที ตอนนี้เขายังอยู่ในสภาพที่ดีดังนั้นต่อให้ต้องอยู่อีกครึ่งคืนก็ไม่ใช่ปัญหา...ยังไงก็ตามเพื่อให้ฟื้นฟูกลับไปอยู่ในสภาพที่ดีที่สุดเขาจึงวางแผนว่าจะพักผ่อนในคืนนี้