ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 148 ปรุงยาและสร้างสิ่งประดิษฐ์ทางจิตวิญญาณ
ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 148 ปรุงยาและสร้างสิ่งประดิษฐ์ทางจิตวิญญาณ
แปลโดย iPAT
เฉียนหรงจื่อรู้สึกว่าหลี่ฉิงซานเป็นคนแปลกมาก เขาดูไม่เหมือนเด็กวัยรุ่นเลย ยิ่งนางรู้จักเขามากเท่าใด นางก็ยิ่งพบว่ากระบวนการคิดของเขาแตกต่างจากคนทั่วไป นางไตร่ตรองก่อนจะอธิบายด้วยรอยยิ้ม “เกี่ยวกับวิธีการบ่มเพาะของจอมยุทธ์พลังปราณที่อนุญาตให้พวกเขาก้าวไปถึงขั้นสิบ มีห้าเคล็ดวิชาที่มีชื่อเสียงมากที่สุด”
“ห้าเคล็ดวิชาใด?” หลี่ฉิงซานสนใจข้อมูลนี้ เฉียนหรงจื่อมาจากกองกำลังเล็กๆแต่ตามข้อมูลในเอกสาร เฉียนหรงจื่อเคยเข้าร่วมนิกายใหญ่เพื่อฝึกฝน ดังนั้นนางจึงมีความรู้กว้างขวาง
เฉียนหรงจื่อกล่าว “เจ้ารู้หรือไม่ว่าทุกคนมีธาตุทั้งห้า”
“อวัยวะทั้งห้า หัวใจ ตับ ม้าม ปอด ไต?”
เฉียนหรงจื่ออธิบายอย่างอดทน “มันไม่ง่ายเหมือนอวัยวะทั้งห้า เรื่องของธาตุทั้งห้าลึกซึ้งกว่านั้น ข้าไม่สามารถอธิบายได้ในเวลาอันสั้น แต่ทุกคนสามารถเลือกที่จะฝึกฝนธาตุใดธาตุหนึ่ง ด้วยการมุ่งความพยายามไปที่สิ่งเดียว ความเร็วในการฝึกจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก มีวิธีการบ่มเพาะพลังปราณมากมายที่สอดคล้องกับธาตุต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปราณเหล็กไหล ปราณไม้ ปราณวารี ปราณอัคคี และปราณปฐพี”
นอกจากนิกายพิเศษเช่นนิกายเมฆาพิรุณ นิกายใหญ่ส่วนใหญ่จะให้ศิษย์ของพวกเขาเลือกฝึกฝนหนึ่งในห้าเคล็ดวิชานี้
เดิมทีหลี่ฉิงซานกำลังพิจารณาเลือกวิธีการบ่มเพาะหลังจากประสบความสำเร็จในการฝึกเคล็ดวิชาการบ่มเพาะพลังปราณเบื้องต้น แต่ตอนนี้เขาเริ่มเห็นทิศทางข้างหน้าที่คลุมเครือ เขาไม่หลงทางไปกับศาสตร์ศักดิ์สิทธิ์หรือทักษะลับเหล่านั้นอีกต่อไป แม้มันจะยังไม่ชัดเจนนักแต่เขาก็เชื่อว่าการเดินตามรอยผู้อยู่รอดเป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุด
หากวิธีการบ่มเพาะกลายเป็นที่นิยม มันก็หมายความว่าผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วยเคยใช้มันมาก่อน ผู้ใดจะรู้ว่ามันจะถูกปรับปรุงพัฒนามากี่ชั่วอายุคนและกลายเป็นวิธีการที่ยอดเยี่ยมเพียงใด นี่เป็นเรื่องจริงที่ทุกคนรู้ดี
หลี่ฉิงซานถาม “เป็นไปได้หรือไม่ที่เราจะฝึกเคล็ดวิชาใดๆที่เราต้องการ?”
เฉียนหรงจื่อตอบ “ไม่ ทุกคนมีธาตุที่แตกต่างกัน ทุกนิกายใหญ่ล้วนมีวิธีตรวจสอบสิ่งนี้ซึ่งทำให้พวกเขาสามารถเลือกวิธีการบ่มเพาะที่เหมาะสมกับตนเองมากที่สุด อย่างไรก็ตามข้าได้ยินมาว่าอัจฉริยะบางคนสามารถบ่มเพาะได้สองหรือสามธาตุ พลังปราณของพวกเขามีมากกว่าคนทั่วไปในระดับเดียวกัน มันจึงเป็นเรื่องง่ายสำหรับพวกเขาที่จะฝึกฝน”
“เจ้าแสนดีเช่นดีตั้งแต่เมื่อใด?” หลี่ฉิงซานรู้สึกประหลาดใจที่เฉียนหรงจื่อบอกเขาโดยไม่ต้องการสิ่งตอบแทน
เฉียนหรงจื่อยิ้ม “ข้าไม่เคยเป็นคนเลว!”
หลี่ฉิงซานพูดไม่ออก
เฉียนหรงจื่อกล่าวต่อ “หากเจ้าไม่เชื่อข้า ข้าสามารถสอนวิธีปรุงยาให้เจ้า”
หลี่ฉิงซานถาม “เจ้าไม่ต้องการสิ่งตอบแทนจริงๆงั้นหรือ?”
เฉียนหรงจื่อตอบ “ข้าไม่ต้องการสิ่งตอบแทน”
หลี่ฉิงซานกล่าว “นั่นฟังดูยอดเยี่ยมมาก!” อย่างไรก็ตามเขาดูไม่มีความสุขแม้แต่น้อย
เฉียนหรงจื่อเริ่มสอนเขาอย่างละเอียด “การปรุงยาต้องการพื้นฐานสามอย่าง อันดับแรกคือวัตถุดิบ ไม่ว่าจะเป็นสมุนไพรทั่วไปหรือสมุนไพรล้ำค่า อันดับที่สองคือยาทุกเม็ดมีสูตรที่ตั้งไว้ซึ่งมีข้อกำหนดที่เฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับวัตถุดิบและเวลา อันดับที่สามคือหม้อปรุงยาหรือข้าควรพูดว่า ไฟ การหลอมวัตถุดิบตามสูตรคือการปรุงยา...”
หลี่ฉิงซานตั้งใจฟัง และก่อนที่เขาจะรู้ตัว เวลาก็ผ่านไปสี่ชั่วโมงแล้ว ในช่วงเวลานี้เขาได้รับความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับทักษะการปรุงยา กล่าวได้ว่าทักษะการปรุงยาเป็นศาสตร์ที่กว้างและลึกมาก แม้เขาจะทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อสิ่งนี้ เขาก็อาจไปไม่ถึงจุดสูงสุดของมัน ตอนนี้เขาพึ่งเริ่มเรียนรู้และได้รับความเข้าใจเพียงเล็กน้อย มันยังไม่แม้แต่จะครอบคลุมพื้นฐานทั้งหมด
เฉียนหรงจื่อกล่าว “นี่คือทั้งหมดที่ข้ารู้เกี่ยวกับการปรุงยา หากเจ้าต้องการศึกษาเพิ่มเติม เจ้าต้องถามผู้เชี่ยวชาญ”
หลี่ฉิงซานพยักหน้า
เฉียนหรงจื่อชี้ไปที่หม้อปรุงยาที่อยู่ข้างๆ “เจ้าต้องการทดลองหรือไม่? ยังเหลือสมุนไพรอีกมาก”
หลี่ฉิงซานผงะเล็กน้อย เขาสงสัยว่านางเปลี่ยนไปแล้วจริงๆหรือไม่ อย่างไรก็ตามหลังจากได้ยินเกี่ยวกับการปรุงยามามาก เขาก็อยากลองดู ดังนั้นเขาจึงนั่งลงด้านหน้าหม้อขนาดใหญ่ เขาเริ่มควบคุมหม้อปรุงยาและหลอมเม็ดยาภายใต้คำแนะนำของเฉียนหรงจื่อ แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังใช้ไฟแรงเกินไปเล็กน้อยและทำให้เม็ดยารวบรวมพลังปราณถูกทำลายไปจำนวนหนึ่ง
เฉียนหรงจื่อไม่ตำหนิหรือแสดงความเห็นใจ นางยังสนับสนุนให้เขาพยายามต่อไป
หลี่ฉิงซานไม่ได้กล่าวสิ่งใดเช่นกัน เขาพยายามต่อไป หลังจากเสียวัตถุดิบไปอีกสองชุด ในที่สุดเขาก็ประสบความสำเร็จ เขาดึงมือทั้งสองข้างกลับมาและสูดหายใจลึกก่อนจะเผยรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้า
เฉียนหรงจื่อยกย่องเขาเป็นอย่างมาก
หลี่ฉิงซานเห็นขอบฟ้าสว่างขึ้นและตระหนักว่าหนึ่งคืนผ่านไปแล้ว เขายืนขึ้นและมอบเม็ดยารวบรวมพลังปราณหลายเม็ดให้เฉียนหรงจื่อเพื่อเป็นค่าธรรมเนียมสำหรับคำแนะนำ
เฉียนหรงจื่อมองหลี่ฉิงซานเดินจากไป เช่นเดียวกับที่หลี่ฉิงซานไม่ชื่นชมความเอื้ออาทรของนางก่อนหน้านี้ เฉียนหรงจื่อก็ไม่แสดงความสุขหลังจากได้รับเม็ดยารวบรวมพลังปราณจากหลี่ฉิงซานเช่นกัน
แท้จริงแล้วข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการบ่มเพาะธาตุทั้งห้าและการปรุงยาเป็นความรู้พื้นฐานที่ไม่ได้เป็นความลับในยุทธภพและเม็ดยาที่หลี่ฉิงซานมอบให้นางก็มากกว่าจำนวนเม็ดยาที่เขาทำลายไป ยิ่งไปกว่านั้นแม้นางจะสามารถหลอมเม็ดยาขึ้นมาด้วยตนเอง แต่นางก็ไม่สามารถรับประกันความสำเร็จในทุกความพยายามของนาง ดังนั้นนางจึงทำกำไรได้ค่อนข้างมากจากธุรกรรมนี้
คนทั่วไปอาจมีความสุขมากแต่นางรู้สึกถึงบางสิ่งที่ทำให้หัวใจของนางเย็นเยียบมากขึ้น เขาจะไม่มีวันติดหนี้ผู้อื่นและไม่มีผู้ใดที่สามารถติดหนี้เขาเช่นกัน เมื่อใดก็ตามที่นางพยายามวางแผนต่อต้านเขา เขาจะโยนนางไว้ในรายชื่อผู้ที่ต้องสังหารโดยไม่ลังเล เขาจะไม่อดทนกับมัน
นางลิ้มรสความล้มเหลวอีกครั้ง นี่ไม่ใช่ผู้ชายที่นางสามารถควบคุม เขาไม่มีจุดอ่อนบ้างเลยงั้นหรือ?
หลี่ฉิงซานไม่ได้คิดมากเท่านาง เขารู้สึกมีความสุขที่ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ กล่าวได้ว่าเส้นทางการบ่มเพาะทั้งกว้างและลึกมาก ยังมีความลึกลับอีกมากมายที่รอให้เขาสำรวจและการเรียนรู้จากผู้อื่นก็ไม่ใช่เรื่องเลยร้าย
…..
เปลวไฟลุกไหม้อยู่ในหลุมใต้พิภพ ปัจจุบันเพลิงสีขาวกลืนกินพื้นที่ครึ่งหนึ่งของมันแล้ว
โครงกระดูกของเสี่ยวอันดูราวกับหยกขาว เมื่อเทียบกับก่อนหน้า ตอนนี้กระดูกของเขาแข็งแกร่งขึ้นมาก
กระดูกในหลุมถูกหลอมละลายไปมากแล้วแต่ยังเหลือโครงกระดูกอีกหลายร้อยชุด
เสี่ยวอันยังหลอมกระดูกเหล่านั้นต่อไป
เพลิงโลหิตและเพลิงสีขาวเป็นทักษะขั้นพื้นฐานที่สุดของเคล็ดวิชากระดูกขาวและความงามอันเป็นนิรันดร์ ประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกมันไม่ใช่เพื่อทำร้ายผู้อื่นแต่เพื่อการบ่มเพาะของผู้ฝึกฝน เพลิงโลหิตมีไว้เพื่อดูดซับแก่นแท้พลังงานจากเลือดและเนื้อ ขณะที่เพลิงสีขาวสามารถหลอมกระดูกเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตนเอง
นอกจากนั้นมันยังมีประโยชน์อีกประการหนึ่ง นั่นคือการหลอมสร้างสิ่งประดิษฐ์ทางจิตวิญญาณ
ผู้ฝึกฝนเคล็ดวิชากระดูกขาวและความงามอันเป็นนิรันดร์แตกต่างจากผู้ฝึกตนคนอื่นๆ อาวุธของพวกเขาพิเศษมาก มันสามารถสร้างสิ่งประดิษฐ์ทางจิตวิญญาณบนเส้นทางแห่งกระดูกได้หลากหลายรูปแบบซึ่งถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์
ตัวอย่างเช่นธงโลหิต เสื้อคลุมเทพสามภพ ลูกประคำหัวกะโหลก และอื่นๆ
ในที่สุดเสี่ยวอันก็ตัดสินใจใช้โครงกระดูกหลายร้อยชุดนี้เพื่อสร้างสิ่งประดิษฐ์ทางจิตวิญญาณบนเส้นทางกระดูกชิ้นแรกของเขา ลูกประคำหัวกะโหลก!