ตอนที่แล้วตอนที่ 535 ติดอาวุธจนถึงฟัน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 537 อาญาจอมราชันย์

ตอนที่ 536 ยินดีต้อนรับศัตรู


ในอากาศมีกลุ่มจุดสีดำกลุ่มหนึ่งพุ่งหวีดหวิวแหวกผ่านอากาศ

“หน่วยซู การสู้รบครั้งนี้ถือเป็นศึกใหญ่ ถ้าเราชนะ เราจะได้ผลงานที่ยอดเยี่ยมมาก”คนที่พูดเป็นบุรุษวัยกลางคนผิวขาวซีด เขายิ้มอยู่ตลอดเวลา

“ถูกแล้ว กองทัพระดับทองจะมีอะไร  พวกไร้ประโยชน์  มายอมแพ้ในช่วงเวลาสำคัญพวกเขาต้องการให้เรามาชำระความยุ่งเหยิงนี้” เซียนบรอนซ์อีกคนหนึ่งบ่นอย่างไม่พอใน

ในใจกลางของหน่วยบุรุษผู้มีพลังโดดเด่นกำลังบินพร้อมกับแขนเสื้อยาวที่โบกสะบัด  เขาหัวเราะ “ความดีความชอบไม่ใช่เล็กน้อยแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าได้ฟังมาแล้วก่อนที่ข้าจะออกมา  ถ้าเราทำภารกิจครั้งนี้ได้สำเร็จจะมีคะแนนสนับสนุนถึง 100 คะแนนเชียวนะ”

ทุกคนร่าเริงดีใจทันที

ในวิหารเซียนคะแนนสนับสนุนและค่าพลังวิญญาณจะเท่ากัน  100 คะแนนก็สามารถเปลี่ยนเป็นสมบัติวิญญาณ วิชาจิตวิญญาณหรือของวิเศษอย่างอื่นที่มีค่าพลังวิญญาณถึง 100 จุด

ค่าพลังวิญญาณคือทุกสิ่งทุกอย่างของเซียน

มูลค่าคะแนนสะสม100 คะแนนเป็นรางวัลที่ยอดเยี่ยมมาก ภารกิจเช่นนั้นไม่ใช่ว่าวิหารเซียนจะรับทำกันง่ายๆ  แม้ว่าจะมีภารกิจเช่นนั้น  แต่มันอันตรายมาก

ภารกิจครั้งนี้เป็นภารกิจ100 คะแนนที่ง่ายที่สุดในประวัติศาสตร์

เซียนอิสระ43คนในสายตาของเซียนบรอนซ์ที่อยู่ในสังกัดของวิหารเซียนก็เป็นแค่กลุ่มของกระสุนมนุษย์เท่านั้น  แม้แต่ชูอี้ซึ่งมักจะสงสัยอย่างนั้น  กลุ่มเซียนอิสระที่ยากไร้ขมขื่นเหล่านั้นเทียบกับพวกเขาแล้วก็เหมือนกับขอทานกับกองทัพประจำ

พวกเซียนอิสระฝึกฝนกันแบบจนกรอบตามมีตามเกิด  พวกเขาไม่มีเงินซื้อการ์ดวิชาจิตวิญญาณ,  พวกเขาไม่มีเงินซื้อสมบัติวิญญาณพวกขาไม่มีเงินซื้อของหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณเซียนชั้นดี  พวกเขาจนกรอบกันมาก

พวกเซียนจากวิหารเซียนเมื่อพวกเขามีคุณสมบัติตามต้องการกลายเป็นเซียนชั้นบรอนซ์แล้ว วิหารเซียนจะมอบสมบัติวิญญาณซึ่งมีค่าพลังวิญญาณถึง 100 จุด  เอาแค่เพียงอย่างเดียวนี้ก็เพียงพอทำให้พวกวิญญาณอนาถาเหล่านั้นต้องอิจฉาจนตาเขียวได้แล้ว

นอกจากนี้ทางวิหารเซียนยังให้การ์ดวิชาจิตวิญญาณโดยไม่คิดมูลค่า  วิชาเหล่านั้นมีให้เลือกได้อย่างเหลือเฟือ

ทุกๆเดือนจะมีเซียนเงินที่เชี่ยวชาญมาคอยให้คำแนะนำสั่งสอนเรื่องกฎวิญญาณเป็นพิเศษ  และแค่เพียงจ่ายคะแนนสนับสนุน  ทุกคนก็จะได้รับตั๋วเพื่อเข้าไปนั่งฟังบรรยายได้ และตราบใดที่พวกเขาขยันขันแข็งมากขึ้นบ้างและรับภารกิจเพื่อสะสมคะแนนของพวกเขา พวกเขาสามารถใช้คะแนนซื้ออะไรก็ได้ในวิหารเซียน  ถ้าคะแนนของท่านเพียงพอ  พวกเขาสามารถให้เช่าห้องพลังดวงดาวและแนะนำสนับสนุนให้สร้างวิชาจิตวิญญาณ

เซียนของวิหารเซียนทุกคนเติบโตจากกิจกรรมเช่นนี้มาตลอด  เทียบกับเซียนอิสระ ความแตกต่างไม่ใช่น้อยๆ

สถิติที่สูงที่สุดในบรรดาเซียนบรอนซ์จากวิหารเซียนก็คือเซียนระดับบรอนซ์ผู้ร่วมสู้รบสามารถฆ่าเซียนบรอนซ์อิสระได้ถึง 16 คน ตัวอย่างเฉพาะนี้ไม่ใช่ปรากฏการณ์ตามธรรมชาติโดยปกติ  แต่เซียนบรอนซ์จากวิหารเซียนคนหนึ่งสามารถสู้กับเซียนอิสระได้ 3-5 คน นั่นเป็นเรื่องธรรมดา

นอกจากนี้คนที่นำกลุ่มก็คือซูอี้

ค่าพลังวิญญาณของซูอี้ถึงระดับ446 แล้ว ความสามารถในการต่อสู้เหนือล้ำใครๆ ทั้งหมด เขาเคยสยบเซียนที่มีค่าพลังวิญญาณสูงกว่าเขามาแล้ว  นอกจากนี้เขายังมีอารมณ์ที่ดี ทักษะมนุษยสัมพันธ์ของเขาในหมู่เซียนบรอนซ์ก็ดีด้วยเช่นกัน  โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิหารเซียนให้ความสนใจกับภารกิจครั้งนี้มาก  ดังนั้นพวกเขาจึงใช้งานซูอี้

“เรารีบทำงานให้จบ เสร็จแล้วจะได้รีบกลับกัน! สัปดาห์หน้าเป็นการแสดงปาฐกถาของอาจารย์ฉินลี่  ถ้าพลาดไปคงน่าเสียดายแย่”  เซียนคนหนึ่งกล่าว

“ข้าไม่แน่ใจว่าเมื่อใดอาจารย์ฉินลี่จะสามารถกลายเป็นเซียนชั้นทองได้  อาจารย์ฉินลี่ได้รับการยกย่องเป็นอย่างสูงว่าอาจเข้าสู่ระดับเซียนชั้นทองได้”

“เหลวไหล!  อาจารย์หลานตงอีมีความเป็นไปได้มากที่สุด,   อาจารย์ตงอีเข้าใจเรื่องกฎวิญญาณต่างๆเหนือระดับเซียนเงินไปแล้ว”

“งั้นจากที่เจ้าพูดอาจารย์ตงอีน่าจะกลายเป็นเซียนระดับทองไปแล้ว!”

……

ผู้คนยังเข้าร่วมอภิปราย  เห็นได้ชัดว่าพวกเขาให้ความสนใจในปัญหานี้

ซูอี้ส่ายศีรษะและหัวเราะ  แต่ไม่ได้ห้ามอะไร เขาใส่ใจคิดเรื่องราวภารกิจอย่างระมัดระวัง  เขาทำเช่นนั้นเพราะเป็นนิสัย ไม่ว่าเขาต้องเผชิญหน้ากับการต่อสู้แบบไหนก็ตาม  เขาไม่เคยประมาทศัตรู  สำหรับศัตรูที่สามารถปลุกวิหารเซียนได้  แสดงว่าพวกเขามีพลังความเข้มแข็งแน่นอน

อย่างไรก็ตามพลังของกองทัพระดับทองก็น่ากลัวอย่างแท้จริง

ดูเหมือนว่ากองทัพไม่เหมาะกับสมาพันธ์ชาวยุทธ  สมาพันธ์ชาวยุทธไม่มีระบบคัดกรองผู้นำทหารและผลเช่นนั้นไม่ได้ทำให้ชูอี้แปลกใจ อย่างไรก็ตามประสบความล้มเหลวเร็วน่าจะเป็นเรื่องที่ดีกว่าก่อนที่พวกเขาจะมีอาการหลงตัวเอง

สำหรับกลุ่มนักสู้  วิหารเซียนก็เพียงพอแล้ว

ซูอี้เชื่อมั่นในเรื่องนั้นอย่างมิต้องสงสัย

เขาเชื่อมั่นว่าภารกิจจะสำเร็จอย่างงดงาม เขาต้องการทำให้ทั่วทั้งสวรรค์วิถีต้องเทิดทูนบูชาและสั่นไหวเมื่ออยู่ต่อหน้าวิหารเซียน สำหรับกลุ่มเซียนอิสระที่บังอาจเป็นศัตรูกับวิหารเซียนและเพิ่มอิทธิพลอย่างรวดเร็วล่าสุดบังอาจท้าทายอำนาจของวิหารเซียน นั่นช่างเป็นเรื่องน่าตลกจริงๆ  มีแต่เอาเลือดออกเท่านั้นจึงจะทำให้พวกเขาสำนึกว่าพวกเขาได้กระทำผิดพลาดอย่างโง่เขลา

ทันใดนั้นป้ายเกียรติยศชาวยุทธของเขาสั่น..

“หยุดก่อน!”

ซูอี้ตะโกน,เขาหยุดยั้งร่างและเพียงแค่คิดจอภาพแสงก็ฉายอยู่ต่อหน้าเขาและปรากฏใบหน้าของชายชราหน้าตาเคร่งขรึมอยู่บนจอแสง

“ผู้เฒ่าเหอ!”

ทุกคนใจหายวูบ  แต่ละคนรีบแสดงความเคารพ

หน้าของผู้เฒ่าเหอดูไม่สดชื่น  เขาหน้าหมอง “กองพลดาบแสงทรยศเรา  ผู้บัญชาการเย่โส่วซิน,รองผู้บัญชาการเมอร์เรย์กระตุ้นการทำงานของแสงลงทัณฑ์แล้ว”

สีหน้าของซูอี้และคนที่เหลือเปลี่ยนไปการทรยศต่อสมาพันธ์ชาวยุทธเกิดขึ้นได้ยากและการแปรพักตร์ทั้งกองพลไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

“ภารกิจของพวกเจ้าเปลี่ยนแปลงแล้ว  นอกจากภารกิจครั้งก่อน พวกเจ้าจำเป็นต้องกวาดล้างกองพลดาบแสงทั้งหมดไม่ให้เหลือแม้แต่คนเดียว! สำหรับเย่โส่วซินและเมอร์เรย์ให้นำพวกเขากลับมาสมาพันธ์  พวกเขาจะต้องถูกคุมขังที่หอใหญ่ประจานต่อสาธารณชนเพราะความผิดของพวกเขา   เราจะปล่อยให้เขาร้องโหยหวนทรมานตลอดทั้งวันเป็นการเตือนนักสู้ผู้ที่จะกระทำผิดทุกวัน”

หน้าของผู้เฒ่าเหอเต็มไปด้วยรังสีฆ่าฟัน

หัวใจของทุกคนสั่นไหว  พวกเขาตะโกนพร้อมกัน “ขอรับ!”

“เพิ่มคะแนนอีก 50 สำหรับภารกิจที่เพิ่มเติม”

ผู้อาวุเหอย้ำประโยคสุดท้ายอย่างเย็นชา  จากนั้นตัดการติดต่อ

คะแนนสะสมที่เพิ่มขึ้นมาต่างหากไม่ได้ทำให้พวกเขารู้สึกมีความสุข ขณะที่สีหน้าของทุกคนดูไม่ดี  พวกเขารู้ว่าการทรยศนั้นเป็นเรื่องจริงจังมาก

“ฮึ่ม...เป็นไปตามคาดกองทัพไม่อาจพึ่งพาได้” เซียนคนหนึ่งกล่าวอย่างเย็นชา

“เลิกพูดเหลวไหลเถอะ  เราจะเร่งความเร็วกัน!” หน้าของซูอี้สลดลงไม่มีรอยยิ้ม ตลอดทั้งร่างของเขาปลดปล่อยรังสีฆ่าฟันที่น่ากลัว

ทรยศ!

คำพูดที่น่าอายอย่างนั้นมาเกี่ยวข้องกับสมาพันธ์ชาวยุทธได้ไงและยังมาจากกองทัพที่เป็นความหวังระดับสูง นี่ส่งผลกระทบต่อสมาพันธ์ชาวยุทธเป็นอย่างมาก

พวกเจ้าจะไม่มีใครหลบหนีไปได้แม้แต่คนเดียว!

ตาของซูอี้ฉายประกายน่ากลัว

เซียนคนอื่นไม่มีใครสนใจกระตือรือร้นพูดคุยเรื่องอื่น  ทุกคนหน้าเคร่งขรึมขณะที่บินไปอย่างรวดเร็ว

หลังจากบินต่อเนื่องเป็นเวลาครึ่งวัน  สมาชิกคนหนึ่งตะโกนขึ้นทันที“พวกเขาอยู่ข้างหน้า!”

จิตวิญญาณของทุกคนสั่นไหว  ซูอี้หยีตา เขาตะโกน “ประจัญบาน!”

ทุกคนเพิ่มความเร็วพวกเขาพุ่งแหวกอากาศเหมือนกับกระบี่แหลมคม

ถังเทียนและพวกที่เหลือรอคอยพวกเขาอยู่แล้ว  หน้าของเสี่ยวเอ้อเขียวคล้ำ  ขณะที่เขาลอยตัวอยู่ด้านหลังถังเทียน  เขาเพ่งมองไปที่บันทึกเล่มเก่า และไม่เคยคาดเลยว่าเจ้าเด็กโง่จะให้ของดีๆหลายอย่างกับพวกกระสุนมนุษย์!

สมบัติวิญญาณทั้งหมดที่พูดถึงนั้นเป็นตำนานและทำให้เสี่ยวเอ้อถึงกับหน้าแดงหัวใจเต้นแรงด้วยความเจ็บปวด

หอกใบไม้ร่วง,กงจักรฟ้า, แว่นดำกลุ่มดาวหงส์ ลูกดอกดวงดาวกลุ่มดาวสามเหลี่ยม...

ทุกชิ้นที่เอาออกมาล้วนแต่เป็นของในตำนานทั้งนั้น

ระดับกุ่ยอู๋จะเก็บสมบัติธรรมดาไว้ยังไง?  สมบัติรูปแบบนี้กลับเอาไปให้พวกกระสุนมนุษย์ใช้ตั้งมากมายซึ่งไม่ใช่แค่ค่าพลังวิญญาณ200 จุดเท่านั้น  นอกจากนี้แต่ละคนยังหอบไปมากกว่าหนึ่งชิ้น สมบัติสีสันแพรวพราวทำให้เสี่ยวเอ้อมองดูพวกเขาด้วยความโกรธอย่างมิอาจบรรยายได้เหมือนกับว่ามีสัตว์ร้ายร้องโหยหวนอยู่ในใจเขา

เสียของล้ำค่าไปโดยเปล่าประโยชน์!

บัดซบเอ๊ย! เจ้ามันสมควรตายจริงๆ!

เสี่ยวเอ้อกำหมัดอย่างหนักจนซีดขาว หัวใจของเขาเต็มไปด้วยรังสีฆ่าฟันหนาแน่นจนยากข่มใจลงได้  สภาพของเสี่ยวเอ้อในปัจจุบันนี้เหมือนกับถังดินระเบิดที่ตากแห้งจนถึงขีดจำกัดขอเพียงมีประกายไฟเล็กน้อยที่สุดก็ทำให้ระเบิดได้

ถังเทียนไม่รู้สึกถึงอาการแปลกประหลาดของเสี่ยวเอ้อ เขาเพ่งสมาธิอยู่กับเซียนที่กำลังบุกเข้าหาพวกเขา  เขาให้ความสนใจเซียนพวกนี้เต็มที่  เขารู้ว่าถ้ามีข้อผิดพลาดเพียงเล็กน้อยกับศึกที่จะมาถึงก็หมายความว่าพวกเขาถูกกำจัดสิ้น!

แสงในดวงตาของเขาเป็นประกายเจิดจ้า  เขาสูดหายใจลึกและตวาดลั่น  “ฆ่า!!”

ทุกคนที่เตรียมพร้อมอยู่นานแล้วลุกขึ้นยืนทันที

เมื่อเห็นปฏิกิริยาของศัตรูซูอี้ตระหนักได้ว่าฝ่ายตรงข้ามก็เตรียมตัวรับมือพวกเขา

นัยน์ตาของซูอี้เป็นประกายสีทอง  แล้วยังไงเล่าต่อให้พวกมันตื่นตัวเตรียมพร้อม?  ด้วยพลังที่แตกต่างกันอย่างนี้  สิ่งที่เรียกว่าความมุ่งมั่นก็แค่ประดิษฐ์ถ้อยคำเอาไว้เรียกเท่ๆ เท่านั้น

วูบบบบ

ฝนเพลิงถูกยิงออกมาแต่ละเปลวเพลิงมีขนาดเท่ากำปั้นและมีสีโปร่งใส

“ปล่อยข้าเอง” สมาชิกคนหนึ่งตะโกนอย่างตื่นเต้น เขารีบพุ่งมาอยู่ข้างหน้ากลุ่มทันที

เขากางแขนทั้งสองและตะโกน  “ร่มบัวแดง!”

เปลวเพลิงแดงนับไม่ถ้วนปลดปล่อยออกมาจากร่างของเขาหมุนเป็นเกลียวด้วยความเร็วสูงอยู่ต่อหน้าของเขาแล้วแปรสภาพเป็นร่มเพลิงคลุมพื้นที่ข้างหน้า30 เมตร

ร่มมหึมาปกป้องทุกคนไว้วิชาจิตวิญญาณนี้เขาฝึกโดยใช้ค่าพลังวิญญาณเกินกว่า 120 จุด  เป็นวิชาที่ทรงพลัง!  เขาวิ่งเข้ารับพลังโจมตีของศัตรูทันที

ด้วยพลังสนับสนุนของร่มบัวแดง  ความเร็วของพวกเขาไม่ลดลงแต่อย่างใดกลับทำให้เกิดภาพเงาลวงตาตามหลัง และส่งเสียงหวีดหวิวหาถังเทียน

วืดวืด วืด!!

ฝนเพลิงกระทบร่มบัวแดงทำให้เขาแค่นเสียง

แต่สิ่งเกิดขึ้นที่ตามมาทำให้ยิ้มเขาชะงักค้าง

ในพริบตาฝนเพลิงก็ทะลุผ่านร่มบัวแดงเหมือนกับว่าทะลุผ่านกระดาษและตัวเขาที่กำลังใช้ร่มบัวแดงบุกโจมตีไม่คาดว่าผลจะเป็นเช่นนี้  ก่อนที่เขาจะทันตั้งตัวลูกเพลิงสองลูกก็พุ่งใส่ข้างหน้าเขาแล้ว

สีหน้าของเปลี่ยนและรีบกระตุ้นการทำงานของเกราะแสงสมบัติสำหรับช่วยชีวิต

ม่านแสงแพรวพราวทำให้เขาได้รับการปกป้องอย่างแน่นหนา

เกือบไป

จิตใจของเขามั่นคงขึ้น  เกราะแสงคือสมบัติวิญญาณซึ่งมีค่าพลังวิญญาณถึง160 และเป็นสมบัติสำหรับใช้ช่วยชีวิต นอกจากนี้เกราะแสงยังมีความสามารถพิเศษอย่างอื่น เมื่อวิชาจิตวิญญาณของฝ่ายตรงข้ามใกล้เข้ามา มันจะเป็นเหมือนแม่เหล็กสร้างแรงผลักพลังโจมตีทั้งหมดออกไป

เขาเตรียมการสำหรับการถูกจัดการไว้ก่อนแล้ว

วิ้ววว  วิ้ววววว!

เปลวเพลิงหิ่งห้อยสองจุดกระทบเข้ากับเกราะแสง แต่สิ่งที่คาดไม่ถึงก็คือเกราะแสงไม่สะท้อนมันออกไปเปลวเพลิงโปร่งใสทั้งสองเกาะเข้ากับม่านแสงและเผาไหม้ต่อเนื่องทันที

เกราะแสงไหม้เป็นรูโหว่สองรูซึ่งขยายใหญ่ด้วยความเร็วที่น่ากลัว

อกของเขารู้สึกถึงคลื่นเจ็บปวด  สีหน้าของเขาแข็งค้าง เขาก้มหน้าดูที่อกของเขาลูกดอกสามเหลี่ยมกระทบเข้าที่อกของเขาและพลังงานแหลมคมทะลวงเข้าไปในร่างของเขา

นี่คือ...

ลูกดอกกลุ่มดาวสามเหลี่ยมลอยเป็นแนวโค้งสวยงามแตกต่าง แนวโค้งเหล่านี้ยิงมาในมุมที่แตกต่างกันมีทั้งโค้งใน และตัดไขว้ ทุกแนวโค้งดูเหมือนจะตั้งใจทำเป็นอย่างดีและแนวโค้งข้างหน้าซึ่งเป็นจุดแหลมคมที่สุดซึ่งมีรูปดวงดาวสามารถเห็นได้อย่างเลือนลาง

ในใจของเขา  เขาคิดถึงสมบัติในตำนาน

ลูกดอกดารากลุ่มดาวสามเหลี่ยม...มีความคมเท่ากับที่ปรากฏในตำนาน

นี่คือความคิดสุดท้าย  ขณะที่เขาจมดิ่งสู่ความมืดไม่มีที่สิ้นสุด

มันแหลมคมเหมือนที่กล่าวไว้ในตำนานจริงๆ!

เมื่อเสี่ยวเอ้อเห็นพลังของลูกดอกดาวสามเหลี่ยมแล้วนัยน์ตาของเขากระตุกทันที เหมือนกับว่าหัวใจถูกเชือดเฉือนจนหลั่งเลือด

นั่นมันของข้า!  ของข้า!  ของข้า!

เขาคำรามในหัวใจเงียบงัน

ใบหน้าที่หล่อเหลางดงามของเสี่ยวเอ้อเต็มไปด้วยรังสีฆ่าฟันรุนแรง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด