ตอนที่แล้วตอนที่ 28 คนขี้ขลาด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 30 ความจริงถูกเปิดเผย

ตอนที่ 29 การประชุมและความผิดหวัง


เมื่อมองไปที่ใบหน้าที่ตกตะลึงของทุกคน บาโคริโอะก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหัวเมื่อเห็นว่าอุจิวะในตอนนี้มีความรู้สึกอย่างไร แม้ว่าพวกเขาจะพยายามเก็บซ่อนมันไว้ก็ตาม

“เป็นไปไม่ได้ นายกำลังจะบอกว่าเหตุการณ์เมื่อ 5 ปีก่อนนั้นเป็นฝีมือมนุษย์และผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการ์ณนั้นก็มันพยายามที่จะควบคุมยาชิโระงั้นเหรอ”? ฟุงาคุพูดทั้งตกใจและโกรธ เช่นเดียวกับความโกรธที่โดนผู้อาวุโสของหมู่บ้านปฎิเสธข้อเสนอของเขา

จากนั้นความโกรธของเขาก็เพิ่มมากขึ้นเมื่อเขารู้ว่ายาชิโระพยายามควบคุมเขาอีกที โดยไม่รู้ว่าตัวเขาเองก็เป็นเพียงหุ่นเชิดของเพื่อนเขา

“นี่คือความจริง ฉันเองก็ไม่รู้อะไรมากเกี่ยวกับชายสวมหน้ากากคนนี้ แต่ฉันรู้ว่าเราไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับัมนมากเกินไป” บาโคริโอะพูดก่อนที่จะพูดต่อ

"คุณฟุงาคุ ฉันรู้ว่าคุณโกรธ แต่ถึงเราจะควบคุมเก้าหางได้ ก็ยังไม่เพียงพอที่จะทำลายหมู่บ้าน และเราจะเสียสละคนจำนวนมากอย่างเปล่าประโยชน์เท่านั้น"

ฟุงาคุถอนหายใจและพูดว่า "ฉันรู้เรื่องนี้ดี แต่เราไม่มีทางเลือกอื่น"

"พวกเราย้ายออกไปอยู่นอกหมู่บ้านได้" บาโคริโอะพูด ทำให้ฟุงาคุส่ายหัวพร้อมกับคนอื่นๆ

"หากเราออกจากหมู่บ้าน เราจะกลายเป็นเป้าหมายของหมู่บ้านอื่นๆทั้งหมด เช่นเดียวกับที่ตระกูลอุซึมากิ แม้แต่โคโนฮะก็อาจมองเราเป็นเป้าหมายที่ควรกำจัดเหมือนกัน  เหมือนที่พวกเขาทำกับตระกูลอุซึมากิ แม้ศาลเจ้านี้เองก็เช่นกัน จริงๆพวกเราออกจากบ้านยังไม่ได้เลยด้วยซ้ำ"

บาโคริโอะคิดเล็กน้อยก่อนที่จะพูดว่า "ฉันมีแผน..."

------------------------------

ภายในหอคอยโฮคาเงะ หัวหน้าตระกูลต่างๆกำลังถูกเรียกประชุมโดยอุจิวะ ฟุงาคุ

พวกเขานั่งอยู่ที่โต๊ะยาวที่หัวโต๊ะมีโฮคาเงะรุ่นที่สามนั่งอยู่ และใกล้ๆกันนั้นมีผู้อาวุโสอย่าง ดันโซ . มิโตคาโดะ โฮมุระ . และ อุทาตาเนะ โคฮารุ  พร้อมด้วยหัวหน้าตระกูลอื่นๆที่เหลือ

ทุกคนกำลังมองไปที่เด็กที่ยืนอยู่ข้างหลังฟุงาคุด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตรบนใบหน้าของเขา พยักหน้าให้ผู้คนเป็นครั้งคราวเมื่อเขารู้ตัวว่าพวกเขามองมาที่เขา

แน่นอนว่าเด็กคนนั้นคือบาโคริโอะและขณะที่ทุกคนนั่งลง พวกเราก็ได้ยินดันโซพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาตามปกติและแววตาที่มืดมน "การประชุมครั้งนี้หมายความว่าอย่างไร ฟุงาคุ"?

ฟุงาคุมองเขาอย่างเย็นชาโดยไม่เสแสร้งอีกต่อไปเพราะเขาพร้อมที่จะฆ่าฟุงาคุที่นี่ตอนนี้จริงๆ แต่มือเล็กๆที่จับเสื้อของเขาทำให้เขาสงบลง

'มาแล้วสินะ' Fugaku คิดในขณะที่มองไปที่ดันโซ แน่นอนว่าเขาโกรธมากเมื่อบาโคริโอะบอกเขาว่าภายใต้ผ้าพันแผลทั้งหมดที่มือและตาของ ดันโซ คือ เนตรวงแหวน จากตระกูลของเขา แต่ตอนนี้เขามีแขนทั้งสองข้างที่ปกติ เพราะการสังหารหมู่อุจิวะยังไม่เกิดขึ้น แต่ดันโซอยากให้เรื่องนั้นเกิดขึ้นมาก

"นายกล่าวหาว่าตระกูลของฉันพยายามที่จะควบคุมนารูโตะโดยใช้บาโคริโอะที่อยู่ข้างหลังฉันใช่ไหม ฉันมาเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของพวกเราครั้งแล้วครั้งเล่าเท่าที่ฉันทำได้" ฟุงาคุพูดอย่างเย็นชาในขณะที่มองไปที่โฮคาเงะและสมาชิกทั้งสามที่อยู่ข้างๆ เขา

"ฮึ่ม" ดันโซตะคอกและพูดต่อ "เราไม่ต้องการหลักฐาน เราเห็นความเกลียดชังในดวงตาของนายที่มีต่อหมู่บ้านแล้ว"

หลายคนขมวดคิ้วไปที่ดันโซ เพราะเขาไม่ให้แม้แต่จะโอกาสกับฟุงาคุเลย แต่คราวนี้ฟุงาคุจะไม่ยอมแม้ว่าสงครามจะเริ่มขึ้น และพวกเขาก็พร้อมสำหรับความเสี่ยงนั้นไว้แล้ว "ฮิรุเซ็น นายจะต้องฟังสิ่งที่ตระกูลอุจิวะพูด ไม่งั้นนายก็จะเอาแต่ความเห็นคนอื่นเป็นข้อสรุปนั่นมันถูกต้องแล้วเหรอ?”

"แสดงความเคารพหน่อยฟุงาคุ!" ผู้หญิงคนเดียวจากหนึ่งใน3ผู้อาวุโสหมู่บ้านโคฮารุ ด่าฟุงาคุเพราะเรียกชื่อจริงของโฮคาเงะ

“หุบปากไปซะ” ฟุงาคุพูดขณะที่จิตสังหารของเขาพุ่งใส่เธอ ทำให้เธอตัวสั่นด้วยความกลัว

'นี่คือจิตสังหารของฟุงาคุ' ทุกคนคิด ในขณะที่หน่วยลับที่อยู่บริเวรนั้นเตรียมที่จะป้องกันหัวหน้าตระกูลต่างๆ

“พอแล้ว ดันโซ โคฮารุ นายก็ด้วย ฟุงาคุ ใจเย็นๆ ฉันเข้าใจในความผิดหวังของนาย ถ้าอุจิวะมีหลักฐานอย่างที่นายพูดจริงๆ เรายินดีรับฟัง”

ขณะที่ฟุงาคุถอนจิตสังหารของเขาและหน่วยลับก็ล่าถอยไป เหลือเพียงดันโซและดคฮารุที่จ้องมองมาที่เขา

“มันก็ง่ายๆ พานารูโตะมาที่นี่” ฟุงาคุพูด

"หืม คิดว่าเราจะยอมให้นายเข้าใกล้เก้าหางงั้นเหรอ" ดันโซกล่าว

“ฉันไม่ได้คุยกับนาย ฉันคุยกับฮิรุเซ็น หรือนายเป็นโฮคาเงะโดยที่ไม่ได้บอกคนในหมู่บ้านเหรอ?” ฟุงาคุโต้กลับ

ดันโซโกรธเพราะฟุงาคุจี้ใจดำของเขาจริงๆ เพราะเขาเป็นโฮคาเงะไม่ได้แต่ก็พยายามที่จะเป็นอยู่ "แก-" แต่ฮิรุเซ็นยกมือขึ้นและให้ดันโซหยุด นั่นทำให้ความโกรธของดันโซเพิ่มขึ้น

"นายจะสามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนายได้จริงหรือไม่ถ้าเราพานารูโตะมาที่นี่"?  ฮิรุเซ็นพูดอย่างจริงจัง

“ได้แน่นอน” ฟุงาคุตอบ ฮิรุเซ็นรีบสั่งให้คาคาชิพานารูโตะมา

ฟุงาคุกำลังรอฉากที่กำลังจะเกิดขึ้นซึ่งก็ยังรู้สึกสงสัยอยู่แต่เขาก็ยังตัดสินใจที่จะเชื่อใจในตัวของนารูโตะ...

นารูโตะถูกพาตัวเข้ามาอย่างรวดเร็วมาก และพวกเรารู้สึกว่าผู้คุ้มกันรอบตัวนั้นเพิ่มขึ้น พร้อมกับดันโซที่พูดเยาะเย้ยว่า "พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนายเดี๋ยวนี้"

ครั้งนี้ฟุงาคุไม่พูดแต่บาโคริโอะพูดขึ้นแทน "ไง นารูโตะเป็นยังไงบ้าง"

เมื่อนารูโตะสังเกตเห็นบาโคริโอะในห้อง เขารีบวิ่งเข้ามาหาบาโคริโอะ แต่สมาชิกหน่วยลับรั้งนารูโตะไว้ไม่ว่าจะดิ้นเท่าไรก็ไม่ปล่อย บาโคริโอะเลยพูดด้วยรอยยิ้มอย่างมั่นใจ "นารูโตะ ใจเย็นๆก่อน ไว้ค่อยคุยกัน"

“อื้ม” นารูโตะพยักหน้าเชื่อที่บาโคริโอะพูด แต่คนในห้องกลับคิดต่างออกไป แต่บาโคริโอะก็ไม่ได้สนใจอะไร

ในที่สุดเขาก็มองไปที่สามผู้อาวุโส ครั้งนี้มีเพียงใบหน้าของเขาที่เย็นชา ต่างกับรอยยิ้มที่เป็นมิตรครั้งก่อน และพูดว่า "ท่านโฮคาเงะ ท่านขอหลักฐานความบริสุทธิ์ของเราโดยที่คุณไม่ได้ให้การใดๆเกี่ยวกับเบื้องหลังข้อกล่าวหาของท่าน ท่านบอกว่าผมพยายามบงการนารูโตะ ถ้าท่านได้เข้าไปภายในผนึกของตัวนารูโตะ ท่านน่าจะเข้าใจอะไรได้มากกว่านี้"

"แก! แกไม่ได้รับอนุญาตให้บอกเรื่องนี้ต่อหน้านารูโตะ!!" ดันโซตะโกนแต่บาโริโอะไม่แม้แต่จะเหลือบมองดันโซเลยมองแต่ฮิรุเซ็นเท่านั้น

'สายตาที่เย็นชานั่น มันอะไรกัน' ฮิรุเซ็นคิดก่อนจะได้ยิน "เชิญพิสูจน์เลย แล้วท่านจะได้คำตอบเอง"

"ได้" ฮิรุเซ็นพูดขณะที่เขาเข้าใกล้นารูโตะและเพิ่มจักระลงในผนึก และเมื่อเขาทำอย่างนั้น เขาก็ตกใจกับเหตุการณ์ตรงหน้าและรู้สึกผิดอย่างมาก

เขาเห็นคู่รักที่คุ้นเคยมากมองมาที่เขาด้วยท่าทางผิดหวัง มองเห็นได้ชัดเจนแม้ในที่ที่มีแสงสลัวในพื้นที่ผนึกแห่งนี้ ผู้หญิงคนนั้นมีผมยาวสีแดงสดและดวงตาสีม่วง ในขณะที่ผู้ชายมีผมสีบลอนด์และดวงตาสีฟ้าน้ำทะเล

'เป็นไปได้ยังไง ทำไมพวกเขาถึงมาอยู่ที่นี่' ฮิรุเซ็นคิดด้วยความงุนงง แต่เสียงหนึ่งก็ทำให้เขาหลุดออกจากความคิดอย่างรวดเร็ว

มันเป็นเสียงเศร้าโศกของผู้สืบทอด ชายผู้เสียสละตัวเองและครอบครัวเพื่อหมู่บ้าน เป็นชายคนเดียวกับที่ฮิรุเซ็นทรยศต่อความไว้วางใจและไม่ทำตามความปรารถนาสุดท้ายที่พูดออกมาด้วยลมหายใจเฮือกสุดท้าย

"มินาโตะ..." ฮิรุเซ็นพูดด้วยความรู้สึกกลัวและรู้สึกผิด มินาโตะตอบกลับ "ไม่เจอกันนานนะฮิรุเซ็น ฉันไม่คิดเลยว่าเราจะได้เจอกันอีกครั้งในที่แบบนี้"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด