ตอนที่ 16-18 ประกาศิตมิลัวร์โลหิต
บุรุษหนุ่มผมแดงได้ยินเช่นนี้ก็อดหรี่ตาแคบมิได้ แววตาของเขาเย็นชาขึ้น
ชายชราผมขาวแค่นเสียงเสียงด้วยความโกรธเช่นกัน “เจ้าควรรู้ดีรู้ชั่วสำหรับตนเองเป็นที่สุด นี่ก็แค่เสื้อผ้าเท่านั้นไม่ใช่หรือ? ระวังให้ดีอย่าต้องมาเสียชีวิตเพราะเสื้อผ้าเลย!” แต่บีบีไม่ให้ความสนใจการคุกคามของชายชราผมขาว
“เจ้าขู่ข้าหรือ?” บีบีถลึงตาของที่เขาพูดด้วยความโกรธ
แต่ลินลี่ย์ตระหนักถึงบางอย่างมากขึ้น
ลินลี่ย์ตรวจสอบบุรุษหนุ่มผมแดงอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็เป็นชายชราผมขาว เขาตรึกตรอง “คนทั้งหมดที่มายังปราสาทเสรีชั้นสี่เพื่อจับจ่ายทรัพย์มากมาย ในแดนนรกคนเกือบทั้งหมดที่มีเงินจะมีพลังอำนาจมากมายเช่นกัน สำหรับชายชราผมขาวกล้าแสดงความเหิมเกริมในที่อย่างนี้ก็หมายความว่าเขาควรจะมีผู้ทรงพอำนาจหนุนอยู่เบื้องหลัง”
แม้ว่าลินลี่ย์จะไม่กลัวก็ตามแต่ในสถานที่แปลกถิ่นอย่างนี้เขาไม่ต้องการสร้างศัตรูเช่นกัน
“บีบี, เดเลีย ไปกันเถอะ” ลินลี่ย์ฉุดดึงบีบีที่กำลังโกรธขณะที่เขาเริ่มเดินออกไปนอกร้าน ลินลี่ย์ไม่ต้องการเสียเวลากับคนเหล่านี้ต่อไป
“ควั่บ!” สี่คนที่อยู่ด้านหลังบุรุษหนุ่มผมแดงขวางทางลินลี่ย์ทันทีทั้งสี่คนเป็นเทพชั้นสูงทุกคน!
“เจ้าต้องการจากไปหรือ?” บุรุษหนุ่มผมแดงหัวเราะเย็นชา สีหน้าของเขาหยิ่งผยองมาก “ไม่มีอะไรที่ข้าต้องการแล้วไม่ได้! วันนี้ข้ากำลังอารมณ์ดีและไม่ต้องการทะเลาะด้วยเจ้าส่งมอบชุดนั้นมาให้ข้าดีกว่า ไม่อย่างนั้น!”
ลินลี่ย์อดมีความรู้สึกโกรธขึ้นมาไม่ได้
“ตอนนี้ราคาสองเท่าผ่านไปแล้ว อย่างไรก็ตามเรายังจะจ่ายให้เจ้าในราคาเดียวกันจะได้ไม่ต้องมาพูดกันว่าตระกูลแบล็คชอว์ของเราเอาเปรียบผู้คน!” ชายชราผมขาวแค่นเสียงเยาะเย้ยเช่นกัน คำพูดเหล่านี้ทำให้เจ้าของร้านเสื้อผ้าถึงกับสีหน้าเปลี่ยน
ตระกูลแบล็คชอว์?
ลินลี่ย์แปลกใจ แต่โชคไม่ดีนี่เป็นครั้งแรกที่เขามาเยือนเกาะมิลัวร์และเขาไม่เคยได้ยินชื่อตระกูลแบล็คชอว์นี้มาก่อน
“พวกท่านให้เสื้อผ้าพวกเขาไปเป็นดีที่สุด” เจ้าของร้านเสื้อผ้าเตือน
“ลินลี่ย์!ตระกูลแบล็คชอว์นี้ดูเหมือนจะน่ากลัวมาก ให้เสื้อผ้าพวกเขาไปเถอะ” เดเลียใช้สำนึกเทพคุยกับลินลี่ย์เช่นกัน ลินลี่ย์ชำเลืองมองเดเลียที่อยู่ใกล้ๆ เขารู้ว่าในใจเดเลียไม่ต้องการเสียชุดนี้ไป
เพียงแต่เดเลียไม่ต้องการล่วงเกินผู้คนเพื่อลินลี่ย์
“ไม่เป็นไร” ลินลี่ย์หัวเราะอย่างใจเย็น
และจากนั้นลินลี่ย์หันไปมองคนพวกนั้นและขึ้นเสียงเย็นชา “อะไรกัน, พวกเจ้าต้องการเริ่มหาเรื่องทะเลาะในปราสาทเสรีนี่หรือ?”
คนพวกนั้นตะลึงทันที
นี่คือปราสาทเสรีกฎและระเบียบปฏิบัติที่นี่ห้ามต่อสู้กัน ใครมีส่วนร่วมในการต่อสู้จะต้องถูกทหารประจำเกาะสังหารอย่างไม่ปราณี
ขณะนี้เองทหารรักษาการณ์ในโถงใหญ่ชั้นที่สี่สังเกตเห็นเหตุการณ์เช่นกันและทหารกลุ่มเล็กสิบคนเดินเข้ามาทันที หัวหน้าหมู่เป็นบุรุษร่างใหญ่หัวโล้น “เกิดอะไรขึ้น? พวกเจ้าต้องการมีเรื่องที่นี่หรือ? จะหาที่ตายหรือ?”
“ใช่แล้ว พวกเขากำลังหาเรื่อง” บีบีพูดด้วยความโมโห “ทุกคน! เราซื้อเสื้อผ้าจากร้านนี้ แต่คนพวกนี้ต้องการบีบบังคับให้เราขายให้พวกเขาพอเราไม่ขาย พวกเขาก็เลยขวางทางพวกเรา”
ลินลี่ย์มองเรื่องที่เกิดขึ้นนี้อย่างใจเย็น
เนื่องจากปราสาทเสรีมีกฎของตัวปราสาทเอง อย่างนั้นกฎเหล่านี้จะไม่ยอมให้ใครทำลายได้ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นใครก็ตาม ไม่อย่างนั้นใครจะสนใจกฎนี้กันเล่า?
“หัวหน้า คนเหล่านี้ค่อนข้างถือดี” ทหารคนอื่นร้องเตือนทันที
“เจ้าต้องการบังคับคนอื่นให้ขายเสื้อผ้าพวกเขาให้เจ้าหรือ?” บุรุษร่างใหญ่หัวโล้นถลึงตากว้างราวกับตาวัวท่าทางเขาโกรธ “ช่างบังอาจจริงๆ! พวกเจ้ากล้าก่อเรื่องในปราสาทเสรี! ไม่สำคัญว่าเจ้าเป็นใคร แต่ไม่มีใครในที่นี้ ในปราสาทเสรีจะมีสิทธิ์ก่อเรื่องได้!”
บีบีเริ่มหัวเราะเบาๆ
บุรุษหนุ่มผมแดงผู้หยิ่งยโสขมวดคิ้วและชำเลืองมองหัวหน้าทหารด้วยสายตาเย็นชาเขาพลิกมือแสดงตราเครื่องหมายสีแดงที่มีลวดลายแปลกประหลาด ลวดลายบนตราเครื่องหมายนั้นคล้ายกับลวดลายบนเกราะของทหารประจำเกาะ
“ตรามิลัวร์โลหิต!” นักรบศีรษะโล้นตะกุกตะกักและหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที
“ใต้เท้า!” ทหารประจำเกาะทั้งสิบคนรวมทั้งหัวหน้าหมู่หัวโล้นคำนับขณะกล่าวด้วยความเคารพทันที
ลินลี่ย์เดเลียและบีบีตกใจเช่นกัน
“และความจริงนั่นคือตราเครื่องหมายมิลัวร์โลหิตระดับสูง!” เจ้าของร้านค้าตะลึงเช่นกัน โดยรวมแล้วมีตรามิลัวร์อยู่สองแบบซึ่งแสดงถึงอำนาจที่สูงล้ำในเกาะ ตรามิลัวร์เขียว ขณะที่อีกแบบหนึ่งเป็นตรามิลัวร์เลือด ตรามิลัวร์เลือดเป็นตัวแทนของอำนาจที่ยิ่งใหญ่
ในขณะเดียวกันยังพบเห็นได้ยาก
“ตรามิลัวร์เลือดหรือ?” ลินลี่ย์ไม่เข้าใจว่าสิ่งนี้เป็นสมบัติอะไรแต่ตัดสินจากสีหน้าท่าทางของทหารประจำเกาะทั้งสิบคน ลินลี่ย์เข้าใจคุณค่าของตราเครื่องหมายนี้
ทหารประจำเกาะคนอื่นบนชั้นสี่ยังคงเห็นเหตุการณ์พิเศษที่เกิดขึ้นที่นี่นักรบจำนวนมากรีบเข้ามารุมล้อมทันที แม้แต่ผู้จัดการที่ชั้นสี่ก็รีบเข้ามาหา ทหารประจำเกาะเป็นร้อยรุมล้อมเต็มพื้นที่ทันที
“คุณชายไซเคิล นี่มันเรื่องอะไรกัน? ท่านต้องการซื้อเสื้อผ้าให้ภรรยาของท่านหรือ?” ผู้จัดการทั่วไปเป็นบุรุษหล่อเหลาเมื่อเห็นคุณชายเขาเข้ามาทักทายอย่างเป็นกันเองทันที
บุรุษหนุ่มผมแดงท่าทางเย็นชาชื่อไซเคิลหัวเราะและพยักหน้าอย่างใจเย็น
“พี่ใหญ่! สถานการณ์ดูแย่จริง” บีบีคุยผ่านสำนึกเทพ
ลินลี่ย์จะไม่รู้เรื่องนี้ได้ยังไง?
“ลินลี่ย์, ก็แค่ให้เสื้อผ้าพวกเขาไป” เดเลียส่งสำนึกเทพกระตุ้นเตือนเขา ลินลี่ย์คิดอยู่ครู่หนึ่งเดเลียชอบชุดเสื้อผ้านี้อย่างมากแน่นอน และเขาควรจะรักษาเอาไว้เพื่อนาง แต่เห็นได้ชัดว่าฝ่ายตรงข้ามมาจากเบื้องหลังที่ทรงพลังอำนาจ
ลินลี่ย์ตัดสินใจว่าเขาอาจต้องกล้ำกลืนความโกรธในตอนนี้
“ขอโทษนะ เดเลีย!” ลินลี่ย์มองดูเดเลียที่หัวเราะพลางส่ายศีรษะ
เมื่อเห็นเช่นนี้ชายชราผมหงอกหัวเราะ ขณะที่บุรุษหนุ่มผมแดงแค่นเสียงเยาะเย้ยเช่นกัน
“เฮอะ, ตอนนี้สายไปแล้ว!” ชายชราผมหงอกแค่นเสียงพูดอย่างอารมณ์ไม่ดี “เราไม่ต้องการจ่ายให้เจ้าแม้แต่แดงเดียว เจ้าจะให้หรือไม่?” ชายชราผมหงอกโกรธอยู่เต็มอก ในฐานะที่เป็นสมาชิกของตระกูลแบล็คชอว์ จะให้เขากล้ำกลืนอารมณ์ตนเองได้อย่างไร?
“อย่างไรก็ตาม ถ้าเจ้ามอบให้เราในตอนนี้ เราจะยอมไว้ชีวิตเจ้าก็ได้” ชายชราผมหงอกพูดเหยียดหยาม
“แม่มันเอ๊ย...ฝันไปเถอะ” บีบีโกรธจนไม่รู้จะพูดยังไง
ลินลี่ย์เริ่มหัวเราะ เป็นหัวเราะที่เกิดจากความโกรธ!
เขาเองยินดีกล้ำกลืนความโกรธและยอมยุติสถานการณ์นี้ แต่คนพวกนี้ยังถือว่าเขาเป็นเป้าหมายอ่อนแอสามารถรังแกได้ง่าย
“นี่เกิดอะไรขึ้นกับปราสาทเสรีกันแน่? เมื่อมีการจับจ่ายซื้อของที่นี่เรายังถูกคุกคามกดดัน และบังคับให้เราต้องมอบสิ่งของโดยไม่ได้รับการชดเชย ปราสาทเสรีแห่งนี้ไม่มีอิสระเสรีแม้แต่น้อย! ดูเหมือนชื่อเสียงของเกาะมิลัวร์แห่งนี้คงเป็นของปลอม ทหารประจำเกาะเหล่านี้ไม่ต่างอะไรกับไม้ประดับ!” เสียงของลินลี่ย์กึกก้องไปทั้งชั้นสี่
ทันใดนั้นลูกค้าอื่นๆมองตรงมาทางพวกเขากันหมด
สีหน้าของทหารประจำเกาะทุกคนดูบิดเบี้ยวเหยเกทันที หน้าของคุณชายไซเคิลแห่งตระกูลแบล็คชอว์ยิ่งดูน่ากลัวเช่นกัน กฎของเกาะมิลัวร์ได้รับสืบทอดมาแต่ครั้งโบราณกาล ในปราสาทเสรี ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้ต่อสู้ ไม่สำคัญว่าพวกเขาเป็นใคร
ใครฝ่าฝืนกฎนี้จะต้องถูกสังหาร
ถ้ากฎถูกทำลาย ในอนาคตใครจะกล้ามาทำธุรกิจที่นี่?
“คุณชายไซเคิล เรื่องนี้รับมือไม่ง่าย” บุรุษหนุ่มผมทองที่เป็นผู้จัดการทั่วไปคุยผ่ายสำนึกเทพ คุณชายไซเคิลผู้หยิ่งยโสก็รู้ว่าอะไรสำคัญอะไรไม่สำคัญ เขาเหลือบมองกลุ่มของลินลี่ย์ และพูดอย่างใจเย็น “ไปกันเถอะ!” ขณะที่พูดเขานำคนจากไป
บุรุษหนุ่มผมทองผู้จัดการทั่วไปมองดูลินลี่ย์จากนั้นใช้สำนึกเทพพูดกับเขา “เด็กน้อย! ระวังตัวไว้ให้ดี! เจ้าล่วงเกินไซเคิลในเกาะมิลัวร์ก็หมายความว่าเจ้ายังปลอดภัยอยู่ในปราสาทเสรีเท่านั้น แต่ทันทีที่เจ้าออกจากปราสาท...”และเพียงแค่นั้นบุรุษผมทองก็จากไป
ทหารประจำเกาะเหล่านั้นค่อยจากไปจนหมดเช่นกัน
“คนพวกนั้นหาเรื่องเกินไปจริงๆ” บีบีไม่อาจระงับอารมณ์ได้
“ลินลี่ย์, ทั้งหมดเป็นความผิดของข้าเอง” เดเลียพูดเบาๆ
ลินลี่ย์บีบมือเดเลียแน่นและส่ายศีรษะ“ไม่ใช่ความผิดของเจ้า ในแดนนรกบางครั้งถ้าเราต้องทน เราก็จะทน แต่ถ้าบางคนหาเรื่องเกินไป อย่างนั้นเราอาจต้องสู้กับพวกเขาบ้าง” ลินลี่ย์หัวเราะเย็นชาภายใน อย่างแย่ก็ทุ่มกำลังสู้กัน!
เขาสามารถใช้หยดพลังมหาเทพและเข่นฆ่าขนานใหญ่ มีอะไรต้องกลัว?
“ไปกันเถอะ” ลินลี่ย์กล่าว
ลินลี่ย์รู้ดีว่าเกาะมิลัวร์นั้นตระกูลแบล็คชอว์ต้องมีกองกำลังที่ทรงพลังอำนาจแน่ อาจเป็นไปได้ว่าพวกเขาเป็นหนึ่งในห้าตระกูลที่ควบคุมปกครองเกาะมิลัวร์! ลินลี่ย์ตัดสินใจว่าหลังจากซื้อของในปราสาทเสรีจบเขาจะเดินทางออกจากเกาะมิลัวร์!
“เดิมทีข้าตั้งใจจะอยู่ดูการแข่งขันของโรมิโอนั้นต่ออีกเก้าวัน” ลินลี่ย์ส่ายศีรษะและถอนหายใจ
กลุ่มของลินลี่ย์จงใจถ่วงเวลาชั่วขณะบนชั้นสามของปราสาทเสรี แล้วค่อยมาถึงจุดนัดพบที่ตกลงไว้แต่เดิม ตอนนี้คนครึ่งหนึ่งมารวมตัวกันที่นี่อีกครั้ง กลุ่มของลินลี่ย์รอไม่ถึงชั่วโมงแอ็ชก็กลับมาสมทบ
“ขอโทษ, ขอโทษที มีของหลายอย่างที่ปราสาทเสรีนี้ซึ่งปกติจะไม่มีขายที่ปราสาททรายดำหรือปราสาทเรดบุด ดังนั้นข้าจึงต้องใช้เวลาเล็กน้อย” แอ็ชรีบกล่าว
กลุ่มของลินลี่ย์รู้กันทุกคนว่าแอ็ชเป็นพ่อค้า ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาต้องเวลานานมากไปบ้าง
“ทุกคน, พวกท่านล่วงหน้าไปก่อนก็ได้” ลินลี่ย์กล่าว
“หือ?” เบส, แอ็ชและอสูรคนอื่นมองดูลินลี่ย์ทันที
“ในปราสาทเสรีแห่งนี้เราล่วงเกินสมาชิกตระกูลแบล็คชอว์ ตอนนี้มีคนกำลังติดตามเรา เพื่อความปลอดภัยของพวกท่าน พวกท่านต้องออกไปก่อน อีกอย่าง..พวกท่านสามารถไปที่ร้านอหารที่เรากินในครั้งก่อนได้ และเราจะกลับไปสมทบที่นั่นทั้งหมด ถ้าเราไม่มาภายในหนึ่งวัน พวกท่านสามารถไปก่อนได้เลย” ลินลี่ย์พูดตรงๆ
เบสและพวกที่เหลือตกใจกันหมด ในที่สุดทุกคนเลือกจากไปอย่างชาญฉลาด
อย่างไรก็ตามเดเลีย บีบีและโอลิเวอร์รั้งอยู่กับลินลี่ย์
หลังจากรอคอยเป็นเวลานานให้คนอื่นจากไป กลุ่มของลินลี่ย์ก็มุ่งหน้าตรงไปที่ทางออกของปราสาทเสรี อย่างไรก็ตามที่ด้านหลังของกลุ่มลินลี่ย์ยังมีชายชราผมหงอกจ้องมองตามหลังกลุ่มของลินลี่ย์ “เจ้าล่วงเกินคุณชายของตระกูลแบล็คชอว์ของข้า แล้วยังต้องการมีชีวิตรอดจากไปอีกหรือ?”
ชายชราผมขาวก้าวตามออกไปทันที
“เราออกมาแล้ว ทุกคน, ระวังตัวด้วย” ลินลี่ย์ก้าวออกจากปราสาทเสรี แต่แล้วสีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที
ที่สองข้างทางถนนใหญ่มีคนมากกว่าสิบคนเข้ามาใกล้พวกเขาทันที พวกเขาแบ่งเป็นสองแถวล้อมกลุ่มของลินลี่ย์ทันทีขณะเดียวกันก็กันลูกค้าคนอื่นของปราสาทเสรีออกไปด้วย
“ฮ่าฮ่า, พวกเจ้ายังต้องการจะจากไปหรือ?” บุรุษผมขาวเดินออกมาจากด้านนอก
ทันทีที่เขาออกมาจากปราสาทชั้นที่สี่ เขาจัดการให้ทหารสองคนของคุณชายนำเทพชั้นสูงไปดักรอที่ทางเข้า ไม่ว่ายังไงก็ตามพวกเขาจะไม่ยอมให้กลุ่มของลินลี่ย์หนีไปเป็นเวลานานแล้วที่คุณชายไม่เคยต้องกล้ำกลืนความโกรธอย่างนี้
“พี่ใหญ่, พวกเขาซุ่มคนรอทำร้ายเราจริงๆ” บีบีกระซิบ
ลินลี่ย์ชำเลืองมองดูเทพชั้นสูงสองแถวทั้งสิบสองคน เทพชั้นสูงเหล่านี้อยู่ห่างจากลินลี่ย์สิบเมตร แต่สำหรับเทพชั้นสูงระยะห่างสิบเมตรนับว่าไม่มีอะไรเลย การต่อสู้สามารถเริ่มขึ้นได้ทุกเมื่อ
ขณะเดียวกันจำนวนคนมากมายบนถนนรีบล้อมดูทันที และพวกเขาทุกคนเริ่มพูดคุยถึงสถานการณ์
“เทพชั้นสูงมากมายนักรุมล้อมคนแค่ไม่กี่คนเองหรือ?”
“คนแก่หัวขาวนั่นเป็นพ่อบ้านของตระกูลแบล็คชอว์ ข้าจำเขาได้ คนพวกนั้นชะตาขาดแล้ว พวกเขาล่วงเกินตระกูลแบล็คชอว์”
เสียงพูดคุยดังขึ้น แต่ลินลี่ย์ยังมีสีหน้าสงบ
“เดินหน้าต่อไป” ลินลี่ย์พูดผ่านสำนึกเทพ
กลุ่มลินลี่ย์สี่คนเดินตรงไปข้างหน้าทันที โดยไม่มองเทพชั้นสูงทั้งสิบสองคนที่อยู่สองด้าน
“เจ้ายังต้องการจะจากไปอีกหรือ!” เสียงตะโกนดังลั่น ทันใดนั้นหนึ่งในเทพชั้นสูงบินเข้าหาลินลี่ย์ เห็นได้ชัดว่าเขารู้แล้วว่าลินลี่ย์เป็นแค่เทพแท้ ลำพังเขาคนเดียวก็เพียงพอจะจัดการเขาได้
“ไสหัวไปให้พ้น!” ลินลี่ย์ให้ความสำคัญเทพชั้นสูงระดับทั่วไปเพียงเล็กน้อย
พลังเทพธาตุดินของเขาแผ่ออกและในทันใดนั้นพลังนั้นผลักร่างของเทพชั้นสูงนั้นออกไป เทพชั้นสูงกำลังจะต่อยลินลี่ย์ด้วยอาวุธเทพที่เขาชักออกมา แต่ก่อนที่เขาจะทันได้แตะตัวลินลี่ย์ เขากระดอนกลับออกมาด้วยพลังแรงผลักที่น่าทึ่ง ขณะที่ลินลี่ย์เองยังคงเดินต่อไปข้างหน้า
“เป็นไปได้ยังไง?” เทพชั้นสูงจ้องมองตาค้าง
ชายชราผมหงอกสีหน้าเปลี่ยน เขาตะโกนลั่น “โจมตี!”
ทันใดนั้นเทพชั้นสูงทั้งสิบสองคนกระโจนเข้าหากลุ่มของลินลี่ย์พร้อมกัน แต่ขณะนั้นเองลินลี่ย์เป็นจุดศูนย์กลางแผ่รัศมีสีเหลืองออกไปเป็นวงรัศมีสิบเมตรทันทีและกักเทพชั้นสูงทั้งสิบสองคนที่เข้ามาไว้ในนั้น
สนามพลังคุกศิลาดำ!
เทพชั้นสูงทั้งสิบสองคนเนื่องจากพลังโน้มถ่วงที่มากอย่างน่าประหลาดถูกดูดลงพื้นโดยตรง
“เป็นแบบนั้นไปได้ยังไง?” ทั้งสิบสองคนไม่มีโอกาสตั้งตัวเมื่อมีลมเสียงประหลาดเข้ามาในสำนึกของพวกเขา นั่นเป็นเหมือนเสียงลมประหลาดที่ลินลี่ย์และคนอื่นเคยได้ยินในเทือกเขาอะเมทิสต์ วิญญาณของพวกเขาได้รับผลกระทบ และทั้งสิบสองคนนั้นตกอยู่ในอาการมึนชา
“ควั่บ!”
ประกายกระบี่สีม่วงวาบขึ้นตัดคอของคนทั้งสิบสองคนราวกับกิลโยตินยักษ์
“ปัง!” “ปัง!”
ศีรษะของทั้งสิบสองคนระเบิด และประกายเทพของพวกเขาร่วงหล่นอยู่บนพื้น
ทุกคนที่กำลังมองฉากภาพข้างหน้าประตูใหญ่ของปราสาทเสรีตกตะลึงกันหมด ถนนที่เต็มไปด้วยความครึกครื้นก่อนหน้านี้พลันเงียบสงัดทันทีคนที่รู้สึกประหลาดใจที่สุดก็คือชายชราผมขาวที่กำลังจ้องมองภาพข้างหน้าด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ
เทพชั้นสูงสิบสองคนถูกสังหารในกระบี่เดียว?
“เทพชั้นสูงธรรมดาเหล่านี้เข้ามาในสนามพลังคุกศิลาดำของข้า วิญญาณของพวกเขาจะถูกสะกดให้ตะลึงพวกเขามีแต่ยืนนิ่งกับที่รอให้ข้าประหารชีวิต” ลินลี่ย์ไม่ให้ความสำคัญกับคนเหล่านี้ เทพชั้นสูงนี้ตกอยู่ในอาการตะลึงเหมือนกับท่อนไม้ที่ไม่สามารถต่อสู้ตอบโต้ได้เลย
การฆ่าพวกเขาเป็นเรื่องที่ง่ายอยู่แล้ว!
“ลินลี่ย์” เดเลียมองดูลินลี่ย์ด้วยแววตาที่ตื่นเต้น สตรีทุกคนชอบนักเมื่อเห็นชายคนรักของพวกนางแข็งแกร่งทรงพลัง
“ไปกันเถอะ” ลินลี่ย์หัวเราะอย่างใจเย็น
กลุ่มของลินลี่ย์ทั้งสี่คนยังคงเดินหน้าต่อไป ขณะที่ในถนนใหญ่กลุ่มคนมุงดูก่อนหน้านี้เปิดทางให้กลุ่มของลินลี่ย์ได้จากไป ทุกคนที่เพิ่งได้เห็นดาบของลินลี่ย์ตอนนี้จ้องมองลินลี่ย์อย่างตะลึงระคนชื่นชม
ในแดนนรกผู้แข็งแกร่งย่อมได้รับการเทิดทูน!
“เขาฆ่าเทพชั้นสูงทั้งสิบสองคนในกระบี่เดียว ท่านผู้นี้ทรงพลังยิ่งนัก เดิมทีข้าคิดว่าเขาเป็นแค่อสูรระดับเทพแท้เสียอีก”
“เจ้าจะรู้อะไร? ท่านผู้นี้ซ่อนพลังที่แท้จริงเอาไว้ เท่าที่ข้าดู ท่านผู้นี้อย่างน้อยต้องเป็นอสูรหกดาว”
คนที่มองดูฉากภาพนี้พากันพูดคุยสนทนากันถึงเหตุการณ์นี้
“น่ากลัวมาก!”
ตอนนี้คุณชายไซเคิลบุรุษหนุ่มผมแดงผู้หยิ่งยโสพร้อมกับบุรุษผมทองปรากฏตัวที่ทางเข้าทั้งคู่ ความจริงนี่เป็นแผนการของไซเคิลแต่แรกเริ่ม เขาต้องแอบมองดูเหตุการณ์ทั้งหมดเป็นธรรมดา ขณะนี้เองเขาตกตะลึงมองดูลินลี่ย์เดินหายลับตาไป
“คุณชาย” ชายชราผมขาวรีบกล่าว
แต่ไซเคิลเพียงแต่ขมวดคิ้วขณะที่เขามองดูบุรุษหนุ่มผมทอง “คนผู้นี้ฆ่าเทพชั้นสูงสิบสองคนด้วยกระบี่เดียวอย่างง่ายดาย ข้าคิดว่าเขาเป็นแค่เทพแท้คนหนึ่ง อย่างนั้นเขาก็เป็นเทพชั้นสูงที่ซ่อนพลังที่แท้จริงไว้! เจ้าบอกได้ไหมว่าพลังที่แท้จริงของเขาขนาดไหน?”
ไซเคิลรู้ดีว่าบุรุษหนุ่มผมทองทรงพลังขนาดไหน ในฐานะผู้บัญชาการคุมกองกำลังพันนายบุรุษหนุ่มผมทองมีพลังระดับอสูรหกดาว
ถ้าแม้แต่บุรุษหนุ่มผมทองไม่สามารถบอกได้ว่าคนผู้นี้ทรงพลังขนาดไหน อย่างนั้นคนผู้นี้ก็น่ากลัวมากจริงๆ
“ข้า...มองเขาไม่ออก!” บุรุษหนุ่มผมทองจ้องมองลินลี่ย์มาตลอดในช่วงเวลานี้ “คนผู้นี้ซ่อนพลังเอาไว้แต่ข้ามองไม่ออกแม้แต่น้อย และจากกระบี่โจมตีที่เขาเพิ่งใช้...ความจริง..พลังกระบี่โจมตีไม่น่ากลัวขนาดนั้น สิ่งที่น่ากลัวก็คือเทพชั้นสูงทั้งสิบสองคนดูเหมือนจะกลายเป็นซึมเซาโง่เขลา ปล่อยให้กระบี่ฟาดฟันโดยไม่มีการต้านทาน!”
“ข้าคาดไม่ถึงเลยว่าหลังจากที่สนามต่อสู้แล้วดูเหมือนยังจะมีนักสู้ระดับอสูรเจ็ดดาวโรมิโอปรากฏตัวขึ้น แต่ยังมีนักสู้ระดับอสูรเจ็ดดาวอีกคนหนึ่งปรากฏตัวที่นี่อีกด้วย” บุรุษหนุ่มผมทองมีสีหน้าเคร่งเครียด