ตอนที่ 16-16 ใบหน้าที่คุ้นเคย
สนามต่อสู้ถูกแบ่งออกเป็นสามระดับ สนามต่อสู้ของเทพชั้นสูง สนามต่อสู้ของเทพแท้ สนามต่อสู้ของเทียมเทพ มีสนามต่อสู้ของเทพชั้นสูงเพียงแห่งเดียว เทพแท้สามแห่ง และเทียมเทพก็สามแห่งเช่นกัน
“พี่ใหญ่, เราจะชมดูที่ไหนก่อน?” บีบีรีบถาม
“การต่อสู้ของเทพชั้นสูงน่าจะตื่นเต้นมากที่สุด เราจะไปดูที่นั่นอยู่แล้ว” ลินลี่ย์หัวเราะ ส่วนคนอื่นๆค่อนข้างจะให้ความสนใจเวทีต่อสู้ของเทพชั้นสูง และทุกคนเดินตามกันไปในเส้นทางที่ไปยังสนามต่อสู้ของเทพชั้นสูง
ชั่วเวลาต่อมากลุ่มของลินลี่ย์ก็มาถึงสนามต่อสู้ที่กว้างใหญ่
สนามต่อสู้ของเทพชั้นสูงใจกลางสนามประลองเป็นสนามกลมมีพื้นที่ว่างเปล่าขยายออกไปเส้นผ่าศูนย์กลางห้ากิโลเมตร
“สนามต่อสู้ของเทพชั้นสูงใหญ่โตจริงๆ สนามต่อสู้ของเทพอีกสองระดับยังไม่ใหญ่ใกล้เคียงด้วยซ้ำ” เบสกล่าว กลุ่มของลินลี่ย์เดินตรงไปตามทางพอพบเจอที่ว่างจึงนั่งลง
นักสู้ระดับเทพสามารถเห็นได้จากระยะไกลมากดังนั้นทุกคนสามารถเห็นภาพการต่อสู้ของสองคนตรงกลางสนามต่อสู้ได้ชัดในระยะหลายกิโลเมตร
ตอนนี้ในอากาศมีร่างของสองคนลอยตัวอยู่ขณะจ้องมองกันและกัน คนหนึ่งเป็นคนกำยำล่ำสันมีเขาข้างเดียว อีกคนหนึ่งเป็นสตรีผมแดงมีเสน่ห์แต่น่ากลัว สิ่งที่ดึงดูดความสนใจลินลี่ย์ไม่ใช่คนทั้งสองที่กำลังเตรียมตัวต่อสู้ แต่เป็นที่ขอบเวทีในกลางพื้นที่ ข้างแท่นคนชมดูมีนักรบเกราะแดงเดินตามกันมาทีละคน!
ที่ขอบแท่นชมดูรูปวงกลมทุกระยะสองสามเมตรจะมีทหารของเกาะประจำพื้นที่อยู่
“มีทหารประจำเกาะที่นี่เกินกว่าพันคนจริงๆ!” ลินลี่ย์ตรวจสอบพวกเขาอย่างระมัดระวัง คนพวกนี้เป็นตัวแทนของเทพชั้นสูงพันคน นอกจากนี้ คนพวกนี้ยังสามารถยืนอยู่ได้ที่ริมเวที ต้องเข้าใจก่อนว่าพื้นที่อื่นก็มีการเดินลาดตะเวณอย่างนั้นเหมือนกัน มีทหารค่อนข้างมากเช่นกัน
จำนวนของทหารประจำเกาะที่สนามต่อสู้ในตอนนี้มากจนน่าประหลาดใจ
“ว้าว, มีทหารประจำเกาะค่อนข้างมากทีเดียว” บีบีถอนหายใจทึ่ง
แอ็ชหัวเราะ “นี่เป็นสนามต่อสู้เทพชั้นสูง พวกเขาอยู่ที่นี่เพื่อป้องกันคลื่นระเบิดจากการต่อสู้ไม่ให้ทำอันตรายคนดู ดังนั้นพวกเขาจึงจัดทหารประจำเกาะมาประจำไว้มากมาย จำนวนของทหารประจำเกาะที่สนามต่อสู้ของเทพแท้ยังน้อยกว่ามาก ขณะที่เวทีต่อสู้ของเทียมเทพไม่มีทหารประจำเกาะเลย”
“ความเสียหายจากแรงระเบิดจากการสู้ของเทียมเทพจะมากแค่ไหนกันเชียว?” เบสหัวเราะเช่นกัน
ขณะที่กลุ่มของลินลี่ย์กำลังคุยกันพวกเขามองดูการต่อสู้ที่กลางเวทีไปด้วย ร่างทั้งสองกลายเป็นภาพเลือนรางสู้กันด้วยความรวดเร็วดุจสายฟ้า ในกลางอากาศมีประกายแสงมากมาย ขณะที่กลุ่มของลินลี่ย์ยังคงดูอย่างระมัดระวัง
“ครืนนน...”
สาวงามผมแดงผู้ร้ายกาจควงไม้เท้าสีแดงหวดใส่บุรุษที่มีเขารวดเร็วราวกับสายฟ้า “อ๊า...” เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นและบุรุษเขาเดียวถูกกระแทกกระเด็น จากนั้นร่างของเขาสั่นและระเบิดดังบึ้ม
“คลารินดา ชนะรอบที่สอง!” เสียงหนึ่งดังขึ้น
สตรีงามผมแดงบินลงมาตรงเข้าไปที่ทางเดินด้านล่างเวที
“อ่อนแอเกินไป!” เมื่อเห็นการต่อสู้นี้แล้ว ลินลี่ย์ได้แต่ส่ายศีรษะ “แค่ใช้เคล็ดความรู้ลึกลับระเบิดซึ่งเป็นกฎธาตุไฟเพียงเล็กน้อยนางก็สามารถเอาชนะได้สองรอบแล้ว คุณภาพของนักสู้ในสนามต่อสู้ต่ำจริงๆ” ลินลี่ย์เห็นยอดฝีมือที่ทรงพลังมามาก
ไม่ว่าจะเป็นบลูไฟร์เบรุต แลร์มองต์ รอยัลวิง เอลควิน ฟูโซ่...
แม้แกนมอร์ตินที่เขาเอาชนะได้ก็ยังเหนือกว่าคนพวกนี้มากมายนัก
เบสที่นั่งอยู่ใกล้กับลินลี่ย์พูดเบาๆ“ลินลี่ย์, เทพชั้นสูงทุกคนที่ต้องการเข้าร่วมสู้ในสนามต่อสู้แน่นอนว่าจะต้องมีคุณภาพแตกต่างกันไป อย่างไรก็ตามยอดฝีมือที่แท้จริงก็ปรากฏให้เห็นอยู่บ้างซึ่งเป็นเหตุให้การต่อสู้ธรรมดาเจ้าจึงถูกมองว่าไม่น่าสนใจ”
“ปรากฏเป็นครั้งคราว?” ลินลี่ย์ส่ายศีรษะและถอนหายใจ
เหตุผลที่เขามาดูยอดฝีมือสู้กัน ตามแผนของพวกเขา พวกเขาจะอยู่ที่เกาะมิลัวร์เพียงวันเดียวหรือสองวัน หลังจากซื้อของที่ปราสาทเสรีแล้ว พวกเขาจะจากไป เขาไม่มีเวลารออยู่ที่นี่เพื่อให้ยอดฝีมือปรากฏตัว
“โชคไม่ดี” ลินลี่ย์ถอนหายใจ
“ยอดฝีมือที่สนามต่อสู้นี้ค่อนข้างธรรมดาจริงๆ”เบสพูดเบาๆ “สนามต่อสู้ของเทพชั้นสูงมีกฎอยู่ ถ้านักสู้สามารถชนะได้สิบคนรวด อย่างนั้นจะได้ส่วนลดราคาของทั้งหมดที่ปราสาทเสรี10% ถ้าได้ชัยชนะถึงห้าสิบครั้งทุกอย่างในปราสาทเสรีจะลดราคาให้ 20%แต่ถ้าท่านชนะได้ร้อยรอบ ของทั้งหมดในปราสาทเสรีจะลดราคาให้ครึ่งหนึ่งและนอกจากนี้จะได้รับรางวัลถึงหมื่นล้านศิลาดำ! ขณะเดียวกันเขาจะมีคุณสมบัติได้เข้าพื้นที่ลับของเกาะตะวันตกเพื่อเข้าไปดูเป็นพิเศษ!”
ลดราคาครึ่งหนึ่งและได้รางวัลหมื่นล้านศิลาดำ? ลินลี่ย์ไม่สนใจเรื่องนี้เท่าใดนั้น แต่...
“ไปดูพื้นที่ลับเกาะตะวันตกเป็นพิเศษน่ะหรือ? หมายความว่ายังไง?” ลินลี่ย์ค่อนข้างงง
ส่วนของเกาะตะวันออกเป็นพื้นที่สาธารณะสำหรับทุกคน แต่ส่วนตะวันตกของเกาะเป็นที่ต้องห้ามสำหรับคนภายนอก อย่างไรก็ตามลินลี่ย์ไม่เคยได้ยินถึงพื้นที่ลับในเกาะด้านตะวันตกมาก่อน
“เกาะมิลัวร์ถูกควบคุมและดำเนินงานโดยห้าตระกูลใหญ่ ศิษย์ของห้าตะกูลเหล่านี้ก็เป็นทหารประจำเกาะด้วยเช่นกัน ทุกชีวิตบนเกาะด้านตะวันออก อย่างไรก็ตามทางด้านตะวันตกของเกาะมีพื้นที่ลับสำคัญซ่อนอยู่ บางคนก็เข้าร่วมตามคำเชิญจากห้าตระกูลใหญ่หรือคนที่ชนะการต่อสู้ร้อยรอบก็จะมีคุณสมบัติเข้าไปเยี่ยมเยือนได้” เบสถอนหายใจ
ลินลี่ย์อดสงสัยไม่ได้
ห้าตระกูลใหญ่ร่วมกันดูแลเกาะมิลัวร์ จากนั้นพื้นที่ลับทางด้านตะวันตกของเกาะมีความลับอะไร?
“เบส, เจ้าไม่เคยไปดูเลยหรือ?” ลินลี่ย์มองดูเขา
“ข้าก็อยากไปดูเหมือนกัน” เบสสั่นศีรษะและหัวเราะ “เพียงแต่, ข้าให้ความสำคัญกับชีวิตค่อนข้างสูงเอาชนะแค่สิบรอบสำหรับข้าไม่ใช่เรื่องยากเกินไป แต่ร้อยรอบเล่า? ที่สำคัญนักสู้ทุกคนไม่ได้อ่อนแอ ถ้าหากมียอดฝือที่แท้จริงปรากฏขึ้นมา ข้ามิจบสิ้นหรอกหรือ?”
“เป็นไปได้ไหมที่ไม่มีคนโชคดีมากพอจะเจอกับคนฝีมืออ่อนระหว่างการต่อสู้ร้อยรอบ?” ลินลี่ย์ถาม
“เป็นไปไม่ได้” เบสส่ายศีรษะ “ต่อให้ท่านโชคดีและพบเจอแต่เทพชั้นสูงฝีมืออ่อนในช่วงต่อสู้99 รอบก่อนนั้นโดยท่านเอาชนะได้ก็ตาม แต่ในรอบที่ร้อย ห้าตระกูลจะจัดส่งยอดฝีมือของตนเองออกมาท้าทาย! ทุกคนที่เอาชนะในการต่อสู้ร้อยศึกจะต้องเป็นยอดฝีมือที่แท้จริง และอย่างน้อยก็ต้องมีพลังระดับเดียวกับข้า”
ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย
ค่อยสมเหตุผล ห้าตระกูลจะไม่โยนเงินหมื่นล้านศิลาดำให้คนที่โชคดีแต่อ่อนแอแน่
“รางวัลอย่างเดียวก็มากถึงหมื่นศิลาดำ ห้าตระกูลความจริงก็ร่ำรวยและฟุ่มเฟือยมาก” ลินลี่ย์บอกตัวเอง
“ลินลี่ย์, ถ้าเจ้าลองด้วยตัวเองชัยชนะร้อยศึกคงตกเป็นของเจ้าอย่างง่ายดาย” เบสพูดหลอกล่อ “บอกตรงๆเลยว่าคนระดับอสูรหกดาวสามารถเอาชนะร้อยศึกได้ อสูรห้าดาวผู้โชคดีก็ยังมีสะดุด ที่สำคัญ กล่าวโดยทั่วไปแล้ว เจ้าอาจไม่พบกับอสูรเจ็ดดาวเข้าร่วมในการต่อสู้แม้แต่ครั้งเดียวในรอบหมื่นปี”
ลินลี่ย์หัวเราะ นั่นเป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้ว
อสูรเจ็ดดาวจะให้ความสนใจเงินหมื่นล้านได้ยังไง? แต่แน่นอน ขณะที่เวลาผ่านไปเกินหมื่นปีบางทีอสูรเจ็ดดาวอาจปรากฏตัวเข้าร่วมประลองก็ได้
“พี่ใหญ่ รีบดู!” บีบีพูดขัดกลางครัน
“เอ๊ะ?” ลินลี่ย์มองดูบีบีอย่างสงสัย ไม่ใช่แค่บีบี แม้แต่เดเลียและคนอื่นก็อุทานออกมาด้วย “ลินลี่ย์! รีบดู คนที่ปรากฏอยู่ในกลางอากาศ นั่นเป็นคนที่เราพบเจอตอนนั้น!”
หลังจากเห็นการต่อสู้ครั้งแรก ลินลี่ย์ไม่ให้ความสนใจสนามต่อสู้อีกต่อไป
แต่ในขณะนั้นลินลี่ย์หันไปมองทันที และตกใจกับสิ่งที่เขาเห็น
ในพื้นที่กว้างว่างเปล่ามีร่างที่คุ้นเคยร่างหนึ่ง!
“หืม?” ลินลี่ย์มีสีหน้าทึ่งทันที “ใครจะคาดกันเล่าว่าเหตุการณ์ที่หมื่นปีจะปรากฏครั้งหนึ่งตอนนี้ปรากฏอยู่ต่อหน้าเขาแล้วยอดฝีมือที่ทรงพลังขนาดนั้นเข้าร่วมต่อสู้ด้วยจริงๆ”
เวทีต่อสู้ที่ว่างเปล่ามีบุรุษเย็นชาอยู่ในชุดยาวดำและสะพายดาบศึกบนหลังยืนอยู่กับที่ ผมยาวดำของเขาพลิ้วสะบัดตามสายลม เขายืนนิ่งเหมือนธารน้ำแข็งที่มีมานานนับปีไม่ถ้วนเย็นชา เข้าถึงไม่ได้
ในดวงตาของเขามีประกายไฟฟ้าเต้นระริก
“เขานั่นเอง” เบสกระแอมก่อนพูดด้วยความทึ่ง “ถ้าเขาเข้าร่วมสู้ เท่ากับว่าเขารับประกันชัยชนะร้อยศึกไว้แน่นอนแล้วไม่ใช่หรือ?”
บีบีที่อยู่ใกล้ๆสงสัย “เอ่? ข้าจำได้ว่าเขาเดินทางได้เร็วกว่าเรา ตามเหตุผลแล้วเขาควรจะมาถึงเกาะมิลัวร์ก่อนเรานานแล้วไม่ใช่หรือเขาไม่ควรจะอยู่ที่นี่พร้อมกับเราในเวลาเดียวกัน”
บุรุษผมดำที่เดินทางด้วยตนเองมีความรวดเร็วแน่นอน
แต่ลินลี่ย์นึกย้อนทบทวนคำสนทนาของคนอื่นในร้านอาหารก่อนนี้
จากเมืองบลูเมเปิลถึงเกาะมิลัวร์โจรกลุ่มใหญ่ถูกทำลายเรียบ
“บางทีเป็นเพราะเขาทำลายกลุ่มกองทัพโจรมากมายตลอดเส้นทาง หรือบางทีเขากำลังฝึกในระหว่างทางก็ได้” ลินลี่ย์พูดกับตนเอง
ลินลี่ย์เริ่มมองดูเวทีต่อสู้อย่างระมัดระวัง ที่สำคัญคนที่กำลังจะสู้เป็นบุรุษผมดำที่ทรงพลัง
“เจ้าอ่อนแอเกินไป ไสหัวไปซะ!” เสียงเยือกเย็นดังก้องในอากาศเหนือสนามนักสู้ คนพูดคือบุรุษผมดำ คู่ต่อสู้ของเขาอยู่ในชุดขาวยาว บุรุษหนุ่มรูปงามผมสีม่วงควงคทาที่เปล่งประกายแสงสีขาว
พื้นที่ชมดูโกลาหลทันที เป็นเวลาหลายปีมาแล้วที่พวกเขาไม่ได้เห็นคนหยิ่งยโสที่สั่งให้คู่ต่อสู้ข้างหน้าหนีไปก่อนที่การต่อสู้จะเริ่มขึ้น
บุรุษหนุ่มผมม่วงได้ยินคำพูดนี้อดโกรธไม่ได้ “เจ้ารู้แต่เพียงต่อสู้เท่านั้นหรือ!”
บุรุษผมดำอดจ้องมองเขาไม่ได้
“เปรี๊ยะ!”
ทันใดนั้นสายฟ้าสองสายยิงออกมาจากดวงตาของบุรุษผมดำ เร็วจนบุรุษหนุ่มผมม่วงไม่สามารถหลบได้แม้แต่น้อย พลังโจมตีพุ่งใส่ร่างของบุรุษผมม่วง เขาสั่นเล็กน้อยจากนั้นทรุดตัวลงไม่ลุกขึ้นมาอีกเลย
ผู้ชมนับแสนตะลึงกันไปหมดในขณะนั้น
พื้นที่ผู้ชมนิ่งเงียบ
“เมื่ออ่อนแอก็ไม่ควรออกมา ถ้าเจ้ายังขืนทำ ก็เท่ากับแส่หาเรื่องตาย คู่แข่งคนต่อไปจะแข็งแกร่งมากขึ้นข้ามาที่นี่เพื่อต่อสู้!” บุรุษผมดำพูดอย่างเยือกเย็น
สู้รบอย่างต่อเนื่อง!
นี่เป็นการแสดงออกถึงความหยิ่งยโส เพราะถ้ามีคนเข้าร่วมต่อสู้อย่างต่อเนื่องเขาจะไม่มีโอกาสเลือกคู่ต่อสู้ ไม่ว่าคู่ต่อสู้คนต่อไปจะเป็นใครก็ตาม เขาจะต้องสู้! แม้ว่าคู่ต่อสู้คนต่อไปจะเป็นเทพอสูรก็ตาม เขาก็ยังจะต้องสู้
แต่ว่าแน่นอนไม่มีทางที่เทพอสูรจะเข้าร่วมต่อสู้
ดังนั้นตราบใดที่การต่อสู้ยังไม่ร้อนแรงสุดขีด กล่าวโดยทั่วไปก็คือมีแต่ยอดฝีมือแท้จริงจึงกล้าสู้อย่างต่อเนื่อง
“โรมิโอ, ชนะหนึ่ง!” เสียงดังขึ้นจากภายในเวที “ทุกท่าน! บัดนี้ท่านโรมิโอเลือกในการสู้ต่อเนื่องกัน เทพชั้นสูงคนใด ไม่ว่าเป็นใครจะได้รับอนุญาตให้เข้าต่อสู้ ใครสนใจก็ให้ลงมาสมัครได้ที่ข้างล่าง บัดนี้ได้เวลาต่อสู้รอบที่สอง!”
ลินลี่ย์จ้องมองตาไม่กระพริบ
เขาจ้องมองตรงๆจากรอบแรกจนถึงรอบที่สิบ!
สำหรับการต่อสู้รอบที่สิบเอ็ด...ไม่ใช่ว่าลินลี่ย์ไม่ต้องการดูต่อ แต่เป็นเพราะไม่มีโอกาสได้ดูต่อไป
ทั้งนี้เป็นเพราะทุกคนที่ต้องการสู้ในเวทีนี้สามารถสู้ได้วันละสิบรอบเท่านั้น ต่อให้นักสู้ต้องการสู้ในร้อยศึกแต่ก็ต้องขยายออกไปเกินกว่าสิบวัน โรมิโอสู้ต่อเนื่องสิบศึกได้รับชนะง่ายดายในการสู้แต่ละครั้ง พลังของเขายิ่งใหญ่จนผู้ชมทุกคนพบว่ายากจะผ่อนลมหายใจได้ขณะที่พวกมองดู
“ทรงพลังมาก” หัวใจของลินลี่ย์สั่นสะท้าน “คนผู้นี้เชี่ยวชาญทั้งในการโจมตีพลังธาตุหยาบและโจมตีวิญญาณ นอกจากนี้ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ เขาไม่เคยชักดาบออกมาด้วยซ้ำ”
“โรมิโอ” ลินลี่ย์จดจำชื่อนี้ไว้
พวกเขาไปดูการต่อสู้ที่เวทีต่อสู้ของเทพแท้และเวทีเทียมเทพสองสามศึกบีบียังเข้าร่วมในเวทีเทพแท้และต่อสู้รวดเดียวสิบรอบ เนื่องจากพลังของบีบีเขาแค่ใช้พลังออกไปเล็กน้อย ก็เอาชนะการต่อสู้สิบรอบรวดเดียวได้อย่างง่ายดาย!
หลังจากออกมาจากสนามต่อสู้กลุ่มของลินลี่ย์มุ่งหน้าไปยังปราสาทเสรี
“บีบี! เจ้าเบื่อนักหรือ? ถึงได้ลงไปแข่งกับพวกเขา” ลินลี่ย์หัวเราะ
“ชนะตั้งสิบรอบ พี่ใหญ่ก็รู้ อย่างน้อยข้าก็ได้เหรียญพิเศษนี้มา ข้าจะได้ส่วนลด 10%ขณะซื้อสินค้า” บีบีพูดอย่างดีใจ
ลินลี่ย์พูดไม่ออก จับจ่ายซื้อสินค้าจะต้องใช้เงินมากมายเพียงไหน? 10% เท่ากับไม่มีอะไร เนื่องจากสมบัติที่ลินลี่ย์และบีบีมีอยู่ในตอนนี้ ส่วนลด 10% ไม่มีความหมายอะไร
“ปราสาทเสรีเป็นอาคารที่สวยงามจริงๆ” ลินลี่ย์มองดูระยะไกล กำแพงสีเขียวแก่และปราสาทเก่าแก่ยอดสีแดง ทางเข้าปราสาทดูเหมือนจะมีผู้หลั่งไหลเข้าไปมิได้ขาด
“นี่นี่มีสินค้าขายอยู่มากมายบางส่วนเป็นของทะเลสตาร์มิสท์ บางส่วนมาจากทวีปต่างๆ มีของหลายอย่างที่ปราสาทดำและปราสาทเรดบุดไม่มีขาย” แอ็ชถอนหายใจทึ่ง
กลุ่มของลินลี่ย์เดินผ่านประตูใหญ่เข้าไปทันที
ด้านข้างประตูทางเข้าปราสาทเสรี มีบุรุษผมดำคนหนึ่งอยู่ในชุดยาวหลวมนอนอยู่บนสนามหญ้าอย่างเกียจคร้านในมือถือเหล้าอยู่ขวดหนึ่ง ถ้าลินลี่ย์เห็นเขา ก็คงจำเขาได้ทันทีนี่เป็นสหายเก่าผู้มาจากทวีปยูลานเหมือนพวกเขา ซีซาร์!
ตอนนี้ซีซาร์ดูเหมือนคนไร้จิตวิญญาณ
“ครั้งสุดท้ายหรือ? ฮ่าฮ่า ครั้งสุดท้าย?” ซีซาร์เงยหน้าหัวเราะลั่น หลั่งน้ำตา
คนมากมายบนถนนมองดูเขา แต่ไม่มีใครเข้าไปยุ่งรบกวนเขาแม้แต่คนเดียว
“เอ๊ะ?” ลินลี่ย์อยู่ที่ประตูทางเข้าหันไปมองไกลๆ ทันทีเขาจ้องมองอย่างระมัดระวัง แต่รอบๆเขามีแต่คลื่นฝูงชน “หรือว่าข้าได้ยินผิด?” ลินลี่ย์ตอนนี้คิดว่าเขาได้ยินเสียงของซีซาร์
แต่มีคนมากมายที่มีเสียงคลับคล้ายกัน และแม้ว่าลินลี่ย์จะมองดูอย่างระมัดระวัง แต่เขาไม่เห็นซีซาร์
“คงหูแว่วไปเอง” ลินลี่ย์ส่ายศีรษะและถอนหายใจ
“พี่ใหญ่ ไปกันต่อเถอะ มองหาอะไรอยู่เหรอ?” บีบีกล่าว และเดเลียมองดูลินลี่ย์เช่นกัน
“เข้าไปเถอะ” ลินลี่ย์หัวเราะ เขาเข้าไปในปราสาทเสรีพร้อมกับเดเลีย
แต่สิ่งที่ลินลี่ย์ไม่รู้ก็คือซีซาร์กำลังนอนอยู่บนพื้นหญ้าข้างถนน ถ้าซีซาร์ยืนขึ้น บางทีลินลี่ย์อาจมองเห็นเขา แต่เขากำลังนอน ลินลี่ย์จะเห็นเขาได้ยังไง?