ตอนที่ 16-10 แกนมอร์ติน
ในเวลาที่กลุ่มของลินลี่ย์เข้าไปในอสูรโลหะและมุ่งหน้าแล่นตามทะเลสตาร์มิสท์ ไดมอนหัวหน้าสองของเกาะไนฟ์เบลดเดินทางด้วยตัวเองดำลึกลงไปที่ก้นทะเลสตาร์มิสท์และมาถึงหุบเขาที่ไร้ชื่อแห่งหนึ่ง
“ฮึ่ม.. ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าพี่ใหญ่ข้าตายขณะที่ข้าเองก็ไม่รู้ว่าใต้เท้าแม่ทัพอยู่ที่ใดกันแน่ เจ้าจะยอมแบ่งส่วนแบ่งนี้ได้ยังไง!”
ขณะจ้องเข้าไปในหุบเขา ไดมอนรู้สึกเกลียดในใจ
และจากนั้นไดมอนเปลี่ยนเป็นเงาผ่านเข้าไปในหุบเขาไร้ชื่อได้อย่างง่ายดาย ภายในหุบเขามีต้นไม้และสิ่งมีชีวิตประหลาดอยู่ด้านล่างซึ่งมีสีสดใส บางครั้งก็มีอสูรเวททะเลสองสามตัวโผล่ออกมาที่ก้นสมุทร แต่ไดมอนไม่ได้สนใจพวกมันแม้แต่น้อย
ครู่ต่อมา..
ไดมอนมาถึงประตูสิ่งก่อสร้างใต้ทะเลตั้งอยู่ลึกเข้าไปภายในหุบเขา มียามสองคนเฝ้าสองข้างประตู
“หยุด!” หนึ่งในยามเฝ้าประตูตะคอกใส่ทันที
ไดมอนหัวเราะอย่างใจเย็น “อะไรกัน พวกเจ้าจำข้าไม่ได้หรือ?” ขณะพูดไดมอนเคลื่อนเข้าไปใกล้ ตอนนี้ยามที่เฝ้าประตูจึงหัวเราะออก หนึ่งในนั้นพูด “เป็นหัวหน้าสองแห่งเกาะไนฟ์เบลดนี่เอง” แม้ว่าพวกเขาจะพูดด้วยอาการอย่างนั้นก็ตามแต่เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่ให้ความสำคัญไดมอนมากนัก
แม้ว่าพลังของพวกเขาจะไม่ยิ่งใหญ่แต่เจ้านายของพวกเขามีพลังเหลือเฟือ
“ช่วยไปรายงานเจ้านายของพวกเจ้า ข้าต้องการพบเขา นี่เป็นเรื่องสำคัญ!” ไดมอนพูดจริงจัง
ทหารเฝ้าประตูทั้งสองคนมองหน้ากันเอง
“ดูเหมือนว่าจะมีเรื่องสำคัญจริงๆเจ้าสามารถเข้าไปรายงานได้”
ทหารยามอีกคนกล่าว “เจ้ารออยู่ที่นี่ก่อน ข้าจะเข้าไปรายงานเรื่องนี้กับนายท่านของเรา” ขณะที่เขาพูด เขาเข้าไปในอาคาร หลังจากผ่านไปนาน ทหารยามผู้นั้นเดินออกมา “ท่านไดมอน, นายของข้าขอเชิญท่าน โปรดตามข้ามา!”
ไดมอนเดินกร่างเข้าไป “ก็แค่เป็นเพราะท่านแข็งแกร่งกว่าข้านะ!”
สิ่งก่อสร้างที่นี่มีขนาดใหญ่โต และตกแต่งหรูหราอย่างดี ขณะต่อมาไดมอนมาถึงภายในหอโถงใหญ่ ทั่วทั้งหอโถงใหญ่รายล้อมไปด้วยประติมากรรมและภาพจิตรกรรมทุกอย่างซึ่งดูเหมือนจะบอกเรื่องราวเก่าแก่ได้ ในใจไดมอนเองก็รู้ “ฮึ่ม.. เหล่านี้คือเรื่องราวโอ้อวดตัวเองทั้งสิ้นแกนมอร์ติน แล้วยังไงถ้าเขาผ่านสงครามขุมนรกมาได้ ถึงได้หยิ่งขนาดนั้น!”
แม้ว่าเขาจะพูดเรื่องนี้ในใจ แต่เป็นเพราะไดมอนอิจฉา
“ไดมอน!พี่ใหญ่ของเจ้าอยู่ไหน?” เสียงเยือกเย็นดังขึ้นข้างหน้าเขา
บนบัลลังก์ข้างหน้าหอโถงใหญ่นั่งไว้ด้วยบุรุษผมเขียวหน้าผากปกคลุมด้วยเกล็ดปลา เขาอยู่ในชุดเขียวลายทอง ตาของบุรุษผมเขียวเป็นประกายสีเขียวริมฝีปากของเขาสีม่วง ตัวของเขาเองเปล่งกลิ่นอายชั่วร้าย
“เขาตายแล้ว!” ไดมอนพูดด้วยความเสียใจ
“แอ็กเก็ตตายแล้ว?”บุรุษผมเขียวตกใจลุกขึ้นยืนทันที จากนั้นรีบถาม “นั่นเป็นไปได้ยังไง? พี่ใหญ่ของเจ้าเป็นอสูรหกดาวที่ฝึกมาทางกฎธาตุน้ำ พลังป้องกันของเขาสูงที่สุดในกลุ่มของเรา ใครจะสามารถทำลายพลังป้องกันของเขาได้?”
“เป็นคนผมดำชื่อว่าโรมิโอ บอร์นเซน!” แค่เพียงพูดชื่อนี้ก็ทำให้ไดมอนรู้สึกกลัว
วันนั้นร่างของบุรุษผมดำเปลี่ยนไปเป็นสายฟ้าในท้องฟ้าทำให้มองดูคล้ายกับพายุหมอกทะเล และจากนั้นใช้ดาบฟันเพียงครั้งเดียวเขาฆ่าพี่ใหญ่ของไดมอนได้
“โรมิโอ บอร์นเซน?” บุรุษผมเขียวที่นั่งบนบัลลังก์ขมวดคิ้ว “เป็นไปได้ยังไง ข้าไม่เคยได้ยินชื่อผู้นี้? เขาฝึกมาทางสายธาตุใด?”
“เขาฝึกในกฎสายฟ้า” ไดมอนกล่าว “คนผู้นี้มายังเกาะไนฟ์เบลดของเรา จากนั้นกลายร่างเป็นสายฟ้านับไม่ถ้วนและสร้างพลังที่คล้ายกับพายุหมอกทะเลเกิดพลังวังวนสายฟ้าขนาดใหญ่เหนือเกาะไนฟ์เบลดของเรา มันน่ากลัวเหลือเกิน!”
“มียอดฝีมือแบบนั้นจริงๆ”
บุรุษผมเขียวขมวดคิ้ว “ดูเหมือนข้าต้องรายงานเรื่องนี้ให้กับท่านแม่ทัพเสียแล้ว!”
และจากนั้นบุรุษผมเขียวมองดูไดมอนอีกครั้ง “ไดมอน! เป็นไปได้หรือที่เจ้ามาบอกข้าแค่เรื่องนี้?” บุรุษผมเขียวตัดสินเรื่องราวในใจได้ทันที เขาไม่สามารถเป็นศัตรูกับโรมิโอบอร์นเซนผู้นี้ได้ คนที่มีความสามารถฆ่าแอ็กเก็ตในท่าเดียวได้น่ากลัวเกินไป
“ท่านแกนมอร์ติน!” หน้าของไดมอนมีรอยยิ้มปรากฏ “ข้าเอาข่าวดีมาแจ้งท่าน”
“พูดไป” แกนมอร์ตินกล่าว
“แม้ว่าข้าไม่เคยพบกับท่านแม่ทัพ แต่ข้าได้ยินจากพี่ใหญ่ข้าพูดว่าท่านแม่ทัพกำลังรวบรวมอสูรศักดิ์สิทธิ์ที่มีทักษะธรรมชาติที่ทรงพลังหรือคนที่มีวิญญาณกลายพันธุ์” ไดมอนยิ้มขณะกล่าว
“ถูกแล้ว มีเรื่องเช่นนั้น” แกนมอร์ตินพูดอย่างสงบ
“ครั้งนี้แม้ว่าเกาะไนฟ์เบลดจะถูกโจมตี ขณะที่ข้าหนีอยู่ในทะเลสตาร์มิสท์ ข้าได้พบกับคนที่มีพรสวรรค์วิญญาณกลายพันธุ์ได้จริงๆ!” ไดมอนรีบกล่าว “เขาคืออัจฉริยะวิญญาณกลายพันธุ์แน่นอน เข้าเห็นเขาผสานพลังเทพสายธาตุมืดและพลังเทพสายแสงสว่าง!”
“อะไรนะ!”
แกนมอร์ตินตกใจลุกขึ้นยืน
วิญญาณกลายพันธุ์หาได้ยากจริงๆ นอกจากนี้อัจฉริยะอย่างนั้นจะเป็นคนน่ากลัวในอนาคต!
ตัวอย่างเช่นยอดฝีมือคนหนึ่งที่มีวิญญาณกลายพันธุ์เมื่อถึงระดับเทพชั้นสูงแค่ความจริงที่ว่าเขาหลอมรวมพลังเทพที่แตกต่างกันสองอย่างได้ก็ทำให้พลังโจมตีของเขาเพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่า! เมื่อคนผู้หนึ่งใช้พลังเทพที่หลอมรวมกันนั้นได้แม้ว่าจะใช้เคล็ดลึกลับเพียงอย่างเดียว แต่พลังจะเป็นสิบเท่าของเทพธรรมดา!
และนอกจากนี้..เฉพาะเพียงพวกวิญญาณกลายพันธุ์สามารถหลอมรวมเคล็ดลึกลับสองเคล็ดที่ต่างสายธาตุกันได้
ตัวอย่างเช่นแลร์มองต์ผู้ที่ต่อมาผสานเคล็ดความรู้ลึกลับธาตุไฟและวิถีมรณะเข้าด้วยกันได้
เมื่อเคล็ดลึกลับซึ่งต่างสายธาตุกันหลอมรวมกันได้ พลังจะเพิ่มทวีคูณยิ่งกว่าเมื่อตอนหลอมรวมเคล็ดลึกลับในสายธาตุเดียวกัน
ตัวอย่างเช่นถ้าเคล็ดชีพจรโลกของลินลี่ย์สามารถหลอมรวมได้กับเคล็ดพลังมิติโจมตีของสายธาตุลม อย่างนั้นพลังก็จะเทียบได้กับการหลอมรวมสามเคล็ดในธาตุเดียวกัน!
ถ้าเขาหลอมรวมพลังเทพได้เมื่อใช้โจมตีพลังจะเพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่าอีกครั้ง
วิญญาณกลายพันธุ์ต้องหลอมรวมเคล็ดลึกลับต่างสายธาตุเข้าด้วยกัน พลังของเขาที่เพิ่มขึ้นจะเทียบได้กับพลังของอสูรเจ็ดดาว
อย่างไรก็ตามเทพชั้นสูงธรรมดาจะต้องหลอมรวมสี่เคล็ดลึกลับจึงจะถึงระดับอสูรเจ็ดดาวได้!
“เขาอยู่ที่ไหน?” แกนมอร์ตินรีบถาม
ไดมอนพูดอย่างจนใจ “ข้าไม่มีความสามารถนำเขามาที่นี่”
หน้าของแกนมอร์ตินเปลี่ยนไปทันที และเขาแค่นเสียง “แม้แต่เจ้าที่เป็นอสูรห้าดาวยังไม่สามารถนำเขามาได้อีกหรือดูเหมือนว่าเจ้าคนวิญญาณกลายพันธุ์ผู้นี้จะถึงระดับเทพชั้นสูงไปแล้ว ข้าคาดว่าเขาคงหลอมรวมเคล็ดลึกลับได้เช่นกัน...อะไร... เจ้าต้องการให้ข้าไปตายหรือ?”
แกนมอร์ตินรู้ขีดจำกัดของตัวเองดี เนื่องจากเขาเป็นอสูรระดับหกดาว
แม้ว่าเขาจะเชี่ยวชาญในพลังโจมตี แต่กับนักสู้วิญญาณกลายพันธุ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิญญาณกลายพันธุ์ที่มีระดับพลังสูงกว่าเขา เขาไม่มั่นใจ
พวกวิญญาณกลายพันธุ์มีพลังมากมายมหาศาล
พลังเทพสองสายธาตุที่แตกต่างเมื่อหลอมรวมกันจะทำให้พลังแม้จะเป็นเคล็ดลึกลับธรรมดาเพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่า! ถ้าพวกเขาสามารถหลอมรวมเคล็ดลึกลับต่างกันได้สามเคล็ดพลังจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยเท่า! ถ้าพวกเขาสามารถหลอมรวมได้สี่เคล็ด...พลังก็ยังจะทับทวีขึ้นไปอีก
อย่างไรก็ตาม ยิ่งนักสู้ฝึกในพลังเทพมากรูปแบบมีโอกาสต่ำที่เขาจะกลายเป็นวิญญาณกลายพันธุ์ ตัวอย่างเช่น คนผู้หนึ่งใช้พลังเทพได้สามสายธาตุ แม้ว่าเขาต้องการให้เกิดวิญญาณกลายพันธุ์ แต่มีความเสี่ยงที่จะตายในระหว่างดำเนินการเกือบ100% ในประวัติศาสตร์ทั้งหมดของแดนนรกมีคนที่เป็นพวกวิญญาณกลายพันธุ์อยู่น้อยมาก
แทบจะทั้งหมดประสบความสำเร็จในการหลอมรวมพลังเทพสองสายธาตุกลายเป็นวิญญาณกลายพันธุ์ ตัวอย่างเช่นเมื่อวิญญาณของโอลิเวอร์กลายพันธุ์ เขาอยู่ในสภาวะเป็นตายเท่ากันนานหลายเดือน
ในช่วงประวัติศาสตร์นับไม่ถ้วนของแดนนรก มีเพียงคนเดียวที่หลอมรวมพลังเทพสามสายธาตุได้
สำหรับคนที่มีพลังเทพสี่สายธาตุต่างกันก็ยังพยายามหลอมรวมอยู่แม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานนับปีไม่ถ้วนก็ยังไม่มีแม้แต่คนเดียวที่ปรากฏขึ้นในพิภพจักรวาลทั้งสิ้น
พูดโดยทั่วไปก็คือเมื่อมีคนพูดถึงพวกวิญญาณกลายพันธุ์ ปกติพวกเขาจะพูดถึงคนที่หลอมรวมพลังเทพสองสายธาตุที่ต่างกัน
ตัวอย่างเช่นลินลี่ย์มีพลังเทพธาตุดินและลม แม้ว่าเขาจะดำเนินการหลอมรวมวิญญาณกลายพันธุ์ เขามีโอกาสตายเกือบ 100% ที่สำคัญตลอดหลายปีนับไม่ถ้วนในแดนนรกอัจฉริยะแบบนี้ปรากฏเพียงครั้งเดียว
“ไดมอน,ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่จะมีคนควบคุมพวกวิญญาณกลายพันธุ์ที่ทรงพลัง” แกนมอร์ตินหัวเราะเย็นชา
“ไม่เลย นักสู้วิญญาณกลายพันธุ์นั้นเป็นแค่เทพแท้” ไดมอนรีบกล่าว
“เป็นแค่เทพแท้?” แกนมอร์ตินดีใจ
เป้าหมายอ่อนแอกว่า ก็ย่อมควบคุมได้ง่าย
“หือ?” แกนมอร์ตินขมวดคิ้วทันที “แค่เทพแท้ แล้วทำไมเจ้านำเขามาไม่ได้?”
ไดมอนอธิบาย “ท่านแกนมอร์ติน นักสู้วิญญาณกลายพันธุ์ผู้นั้นเป็นเพียงเทพแท้ แต่...ตอนนี้เขาอยู่ในกลุ่มเดียวกับยอดฝีมือสองคน”
“ยอดฝีมือ พลังของพวกเขาเป็นยังไง?” แกนมอร์ตินถรีบถาม
“หนึ่งในนั้นฝึกมาทางสายธาตุมืด ตามที่ข้าคำนวณ เขาน่าจะมีพลังอสูรห้าดาว บางทีอาจใกล้เป็นอสูรหกดาว! เท่าที่ข้าดูเขาเชี่ยวชาญด้านความเร็วและรัศมีพลางตัว” ไดมอนพูดเย้ยหยัน
แกนมอร์ตินหัวเราะอย่างใจเย็น เขาไม่ใส่ใจพวกอสูรหกดาวธรรมดา
“และคนอื่นเล่า?” แกนมอร์ตินถามรุกเร้า
ไดมอนมีท่าทางค่อนข้างอึดอัดใจ “ความจริงข้าไม่พบเห็นอีกฝ่ายหนึ่ง อย่างไรก็ตาม เขาคงจะซ่อนตัวอยู่ในกลุ่มพวกเขาในแง่พลัง... ข้าไม่สามารถบ่งบอกได้”
“เอ๋?” แกนมอร์ตินขมวดคิ้ว “อธิบายรายละเอียดไป สถานการณ์เป็นยังไงกันแน่”
ไดมอนอธิบายรายละเอียดทันที หลังจากได้ยินคำอธิบายของไดมอน แกนมอร์ตินพยักหน้าเล็กน้อย “พลังโจมตีของเทพแท้หลายร้อยแค่ทำให้คุกศิลาดำสั่นสะเทือนเท่านั้นหรือ ดูเหมือนว่าพลังป้องกันของมันจะไม่เท่าใด และยังครอบคลุมในพื้นที่เล็กน้อย...ตามการคำนวณของข้า เป็นไปได้ว่าคนผู้นี้เป็นอสูรหกดาว!”
แกนมอร์ตินคำนวณออกมาได้อย่างนี้
ฝ่ายตรงข้ามคงไม่คุกคามได้เท่าใดนัก
“ข้าสามารถทำลายปราสาทศิลาดำได้ในกระบี่เดียว” แกนมอร์ตินหัวเราะอย่างใจเย็น
ไดมอนแนะนำ “ใต้เท้า, ไปแจ้งกับท่านแม่ทัพก่อนจะไม่ดีกว่าหรือ...ทำอย่างนั้นจะได้ไม่มีโอกาสล้มเหลว”
“แค่อสูรหกดาวคนเดียวน่ะหรือ? เป็นไปได้ยังไงที่ท่านแม่ทัพจะลงมาพัวพันเรื่องอย่างนี้ด้วยตัวเอง?” แกนมอร์ตินหัวเราะอย่างเยือกเย็น “เรื่องแบบนี้ ข้าคนเดียวก็รับมือได้ง่ายอยู่แล้ว” แกนมอร์ตินมีความมั่นใจมาก เขาฝึกมาในกฎธาตุลม และเขาเชี่ยวชาญอยู่สองเรื่องคือ โจมตีและหนี!”
แม้แต่อสูรเจ็ดดาว เขาก็ยังมั่นใจว่ามีความสามารถหนีได้
สำหรับการต่อสู้อย่างนี้ เตรียมพร้อมรับมือกับความพ่ายแพ้ดีกว่าเตรียมการเพื่อชัยชนะ เพราะตอนนั้นจะไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง
“เจ้ารู้ไหมว่ากลุ่มคนพวกนี้อยู่ที่ใด?” แกนมอร์ตินมองดูเขา
ไดมอนยิ้ม “ใต้เท้าไม่ต้องเป็นห่วง ข้าเตรียมการไว้นานแล้ว นอกจากนี้ยังไม่ถึงครึ่งเดือน ต่อให้มีบางอย่างเกิดขึ้นก็ยังจะตามหาพวกเขาได้ง่ายดาย ที่สำคัญนี่คือถิ่นของเรา”
“ดีมาก” แกนมอร์ตินพยักหน้าพอใจ “ไม่ต้องห่วง เมื่อข้าได้นักสู้วิญญาณกลายพันธุ์ผู้นั้นมาและนำตัวไปให้ท่านแม่ทัพ ข้าจะรายงานความดีความชอบของเจ้าต่อท่านแม่ทัพแน่นอน”
“ขอบคุณใต้เท้า” ไดมอนรีบกล่าว
แต่ในใจของเขา ไดมอนยังคงโกรธ ถ้าเขารู้วิธีพบตัวแม่ทัพเขาจะรายงานเรื่องทั้งหมดนี้กับแกนมอร์ตินหรือ? ถ้าเขามีพลังพอจับโอลิเวอร์ เขาคงไม่จำเป็นต้องให้แกนมอร์ตินมาร่วมแบ่งปันความดีความชอบแน่
คลื่นทะเลม้วนตัวเป็นระลอกลินลี่ย์และบีบีนั่งอยู่ด้วยกันที่ท้ายเรือ
“พี่ใหญ่! ทำไมท่านมักเอาแต่จ้องมองทะเลเล่า?” บีบีถามด้วยความสงสัย
ลินลี่ย์หัวเราะเบาๆ เขากางสนามพลังเทพเพื่อป้องกันเสียงเล็ดลอดจากนั้นอธิบาย “บีบี, เร็วๆนี้ข้ารู้สึกเหมือนกับว่ามีปัญหาบางอย่างกับคุกศิลาดำของข้า ข้ารู้ว่าคำตอบอยู่ที่ทะเลกว้างไกล...น้ำทะเลมีความเคลื่อนไหวแฝงไว้ด้วยความเปลี่ยนแปลงสุดจะหยั่งคาด คุกศิลาดำของข้าแข็งเกินไป แม้ว่าจะสามารถบิดเบี้ยวและก่อรูปใหม่ แต่นั่นเป็นการขยายพลังเทพ นอกจากนี้ยังไม่ส่งผลต่อพลังงานภายนอกได้”
บีบีได้แต่ฟัง เขาได้แต่จ้องมองลินลี่ย์อย่างช่วยไม่ได้
“ทำไมเจ้าเอาแต่จ้องข้าเล่า?” ลินลี่ย์หัวเราะขณะที่เขามองบีบี
“พี่ใหญ่, ท่านบอกว่าท่านหลอมรวมเคล็ดลึกลับสามเคล็ดอยู่ไม่ใช่หรือ?” บีบีรีบกล่าว
ช่วงสองสามวันที่ผ่านมาเมื่อลินลี่ย์เอาแต่จ้องทะเล เขายิ้มเหมือนรู้แจ้งทันทีและหลอมรวมเคล็ดแก่นธาตุดินชีพจรโลกและสนามพลังโน้มถ่วงได้อย่างสมบูรณ์แบบ พลังคุกศิลาดำของเขาเพิ่มมากขึ้นทันที ตอนนี้ต่อให้เจอกับอสูรหกดาวลินลี่ย์ก็มั่นใจว่าเอาชนะได้
“แล้วจะเกิดอะไรถ้าข้ามี?”
ลินลี่ย์ถอนหายใจ “คุกศิลาดำยังไม่สมบูรณ์เท่าที่ควร ความจริงถ้าข้าสามารถหลอมรวมเคล็ดพลังชีวิตของกฎธาตุดินเข้ากับอีกสามเคล็ดอื่นก็จะทำให้คุกศิลาดำของข้ามีพลังที่สมดุลอย่างสมบูรณ์แบบ แต่เมื่อถึงเวลานั้นคุกศิลาดำก็จะฟื้นและก่อตัวขึ้นใหม่ได้ไม่รู้จบ แม้แต่อสูรเจ็ดดาวก็ยากจะทำลายได้”
“เพียงแต่หลอมรวมเคล็ดลึกลับสี่อย่างก็ยากมากอยู่แล้ว นอกจากนี้เคล็ดพลังชีวิตน่าจะเป็นเคล็ดลึกลับที่มีรูปแบบเฉพาะไม่เหมือนใครในกฎธาตุดิน”
ดินที่กว้างใหญ่ไม่สิ้นสุด ให้กำเนิดสรรพชีวิตมากมายดังนั้นธาตุดินจึงมีคุณสมบัติพลังชีวิต
ลินลี่ย์รู้รายละเอียดพิเศษเกี่ยวกับสัจธรรมพลังชีวิตเพียงไม่กี่อย่าง เพียงแต่...ลินลี่ย์แค่ทำความเข้าใจในพื้นฐานเบื้องต้นเท่านั้น
“พี่ใหญ่, อย่าโลภเกินไป” บีบีป้องปากพูด “ท่านหลอมรวมได้ถึงสามเคล็ดแล้ว”
ลินลี่ย์หัวเราะ ความจริงนี่ไม่มีอะไรที่เกี่ยวกับความโลภ ลินลี่ย์เพียงแต่ไขว่คว้าหาความสมบูรณ์ในการพัฒนาตนเอง
“หือ?” ตอนนี้ลินลี่ย์รู้สึกตกใจทันที “มาจากข้างล่าง!”
“ปัง!” อสูรโลหะซึ่งกำลังแล่นด้วยความเร็วสูงระเบิดอีกครั้งหนึ่ง และทำให้ทุกคนตอนนี้ลอยอยู่ในอากาศสีหน้าของพวกเขามึนงง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเบสบุรุษเคราดก เขาคำรามด้วยความโกรธ “แม่มันเอ๊ย! นี่มันอสูรโลหะของข้านะเฮ้ย!”
ลินลี่ย์จ้องมองผิวทะเลอย่างระมัดระวัง
“ซูมมม..!” “ซูมมม..!”
มีสองร่างทลายผิวทะเลออกมาลอยตัวอยู่ในกลางอากาศ หนึ่งในนั้นเป็นบุรุษผมเขียวมีท่าทางน่ากลัวสวมชุดยาวสีเขียวขลิบทองและมีเกล็ดปลาคลุมเต็มหน้าผาก คนที่อยู่ข้างเขาเป็นคนที่กลุ่มลินลี่ย์คุ้นหน้า เขาคือหัวหน้าที่สองแห่งเกาะไนฟ์เบลด..ไดมอน