ตอนที่ 525 สังหารเรียบ
ต้องบอกว่ากองพลใบไม้แดงแข็งแกร่งกว่าที่ถังเทียนคิดไว้มาก เดิมทีถังเทียนคิดว่าเพียงกระบวนท่าเดียวกองพลใบไม้แดงก็คงพังทลาย คาดไม่ถึงอยู่บ้างที่ฝ่ายตรงข้ามยังคงยืนหยัดอยู่ได้
สมแล้วที่พวกเขาเป็นกองทัพชั้นทอง!
ผู้บัญชาการทหารฝ่ายตรงข้ามโดดเด่นมาก เผชิญหน้ากับการโจมตีของเซียนเกินกว่าสี่สิบคน ไม่เพียงแต่พวกเขายังรักษาความสงบของตนเองไว้ได้ แต่พวกเขายังตอบสนองได้ถูกต้องซึ่งทำให้ตนเองโดดเด่นไปด้วย
แม้ว่าถังเทียนจะไม่น่าเชื่อถือมากนัก แต่เมื่อการสู้รบเกิดขึ้น เขาจะเปลี่ยนไปเป็นอีกคนหนึ่งโดยสิ้นเชิงมีสัญชาตญาณในการรบที่แหลมคม ยืดหยุ่น มั่นคงและน่ากลัว คนที่รู้จักเขาจะอุทานด้วยความชื่นชม แม้แต่คนบ้าการต่อสู้อย่างหลิงซิ่วก็ยังถอนหายใจ หลิงซิ่วมักจะใจร้อนใจเร็วและสูญเสียเหตุผลระหว่างต่อสู้ แต่ถังเทียนไม่ใช่
ระหว่างต่อสู้ระดับสติปัญญาของถังเทียนจะอยู่ในระดับสูงสุด
ระหว่างสู้รบความเคลื่อนไหวของถังเทียนจะเยือกเย็นที่สุด
แม้ว่าเขาจะเต็มไปด้วยความชื่นชมยินดีอยู่ในใจ แต่ถังเทียนก็ไม่แสดงท่าทีที่ผ่อนคลายออกมา เขาตะโกนลั่น “ยืดระยะสูงขึ้นไป!”
วูบบบ!
ร่างของเซียนทุกคนพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าราวกับจรวดพร้อมกัน
ความเร็วความสูงนี้คือข้อได้เปรียบของเซียน ข้อได้เปรียบที่รู้วิธีบิน ถังเทียนใช้ได้อย่างสมบูรณ์ เขาไม่รู้กลยุทธ์ที่ซับซ้อน แต่สัญชาตญาณการสู้รบที่โดดเด่นของเขาทำให้เขารู้วิธีใช้ประโยชน์จากความได้เปรียบของเขาเอง
คนทั้ง 43 คนลอยขึ้นไปในอากาศ ทุกคนมองดูถังเทียนแม้ว่าการต่อสู้จะเพิ่งเริ่มต้น แต่ประสิทธิภาพของถังเทียนได้รับความไว้วางใจจากทุกคนแล้ว
ถังเทียนมีความคิดไว้แล้ว เขากล่าว “ในครั้งนี้เราจะบุกลงไปเหมือนที่ทำครั้งก่อน อย่างไรก็ตามครั้งนี้อันดับแรกให้ปล่อยทะเลเมฆก่อน จากนั้นทุกคนระดมใช้วิชาจิตวิญญาณได้เลย ระเบิดพลังวิชาจิตวิญญาณออกมาให้เต็มที่ ทันทีที่ปล่อยไม้ตายเสร็จให้เหาะกลับขึ้นไปข้างบน”
คนอื่นๆ มองหน้ากันอย่างตกใจ มีสองสามคนที่ลังเล
ทุกคนรู้สึกว่าเจ้ากลุ่มดาวระมัดระวังมากเกินไป ด้วยจำนวนเซียนมากมายสู้กับกองทัพเดียวยังไม่ง่ายมากอีกหรือ? ถึงอย่างนั้น เซียนหลายคนเล่นงานกองพลเดียวก็ถือว่าเป็นการรังแกกันแล้วทุกคนไม่เห็นแก่หน้า แต่ยังใช้กลเม็ดเล็กน้อยอีก...
แน่นอนว่านี่เป็นเพียงความคิดวิจารณ์ที่ไม่ได้พูดออกมาไม่มีใครกล้าพูด
“ความคิดของท่านเจ้ากลุ่มดาวประณีตจริงๆ!” มอนตาหยั่งเชิง
คนอื่นๆ ตั้งข้อรังเกียจในใจ ในอดีตพวกเขาได้ยินว่ามอนตาเป็นคนนิสัยดี พวกเขาไม่คิดเลยว่าเขาจะเป็นจอมประจบที่ไม่มีหลักการของตัวเอง
มอนตาสังเกตเห็นท่าทีไม่เห็นด้วยในสายตาคนอื่น เขาหัวเราะเยือกเย็นในใจ, เจ้าโง่! รอจนกว่าฝึกสมบัติจิตวิญญาณเสียก่อนเถอะแล้วค่อยดูว่าปัญหาทั้งหมดเจ้าจะคลี่คลายยังไง!
แม้แต่เซียนที่มีความสามารถดูเหมือนจะซึมๆลงไป เจ้ากลุ่มดาวของพวกเขาดูเหมือนคนที่พูดแต่ผลกำไร เขาไม่สนใจเรื่องภาพพจน์ชื่อเสียงไม่พูดเรื่องความฟุ่มเฟือย เขาเป็นคนจริงจัง
ถังเทียนไม่คิดเลยว่าคนอื่นๆจะมีความเห็นมากมายนัก แน่นอนต่อให้เขารู้เขาก็ไม่สนใจ
ขอเพียงเชื่อและทำตาม ถ้าพวกเขาไม่เชื่อ อย่างนั้นเขาจะทุบตีจนกว่าพวกเขาจะเชื่อฟัง ความคิดของถังเทียนนับว่าง่ายมาก เขาไม่สนใจว่าคนอื่นจะมีความคิดอะไรอยู่ในใจของพวกเขา อย่างไรก็ตามคนกลุ่มนี้ได้ลงชื่อในสัญญาขายตัวเองไปแล้ว
“พวกท่านเตรียมพร้อมหรือยัง?” ถังเทียนตะโกนและรออยู่ชั่วเวลาสั้น เขาตวาด “บุก บุก บุก!”
43 เงาร่างพุ่งเข้าใส่ด้วยความเร็วสูงเป็นรูปขบวนทันที
เสียงหวีดแหลมดังฉีกท้องฟ้าทันที
แม้ว่ากองกำลังใช้พลังงานไปถึงหนึ่งในสามแล้วก็ตาม แต่พวกเขาก็ยังไม่พ่ายแพ้ นี่ยังคงทำให้กองกำลังใบไม้แดงถอนหายใจโล่งอก ความมั่นใจของพวกเขาเพิ่มขึ้น
กลับกลายเป็นว่าพวกเซียนไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด! พวกทหารหลายคนเริ่มคิดและนักสู้ระดับทองสองสามคนผู้มีความแข็งแกร่งกระตือรือร้นที่จะลอง
ใบหน้าของโจนส์เขียวคล้ำ ใจของเขาไม่เคยมีความสุขเลยแม้แต่น้อย ในทางตรงกันข้ามเขามีลางสังหรณ์ที่รุนแรงอยู่ในใจ ความแข็งแกร่งของพวกเซียนไม่พอทำให้เขากลัว อย่างไรก็ตาม ถ้าพวกเซียนรู้วิธีทำให้พวกเขาได้เปรียบ ยิ่งไกลยิ่งดี
ในฐานะผู้นำทหารเขาจะไม่ได้ค้นคว้ากลยุทธ์ระดับสูงของกองทัพมาได้ยังไงกัน? จากสิ่งที่เห็น ความเข้าใจของการใช้พวกเซียนของสวรรค์วิถีทั้งหมดยังคงอยู่ในระดับต่ำ
อีกด้านหนึ่งพวกเขาอยู่อย่างสงบสุขมานานเกินไป อีกประการหนึ่งสถานะของพวกเซียนสูงส่งเกินไป ผู้นำทหารทั่วไปไม่สามารถระดมเซียนได้ แม้ว่าพวกเซียนเหล่านั้นที่จับกลุ่มกันมาก็มีดีพอจะเป็นผู้คุ้มกันระดับสูงเท่านั้น สถานะทางทหารของพวกเขาพิเศษ ผู้นำทหารยากจะให้คำแนะนำพวกเขาได้
การต่อสู้กับพวกเซียนในตอนนี้ว่าโดยเนื้อแท้ไม่ต่างจากพวกกลุ่มนักเลงตีกัน ทุกคนพบว่าคู่ต่อสู้ของพวกเขาเองก็สู้ตายเช่นกัน
จนถึงตอนนี้ 43เซียนบุกเข้ามาในรูปขบวนทัพ โจมตีพร้อมกัน จากนั้นก็รีบถอยกลับเป็นกลยุทธ์ที่แปลกประหลาดทำให้โจนส์รู้สึกอันตราย
เพราะเขารู้สึกได้ โดยพื้นฐานไม่สามารถเอาชนะได้ด้วยกลยุทธ์เช่นนั้น
ศัตรูบุกเข้ามาในรูปขบวนอีกครั้ง โจนส์ปลุกปลอบใจรอดูด้วยความสนใจอีกครั้ง คู่ต่อสู้ได้รับบทเรียนก่อนนี้ ตอนนี้พวกเขาบุกเข้าโจมตีกระบวนทัพจากตำแหน่งต่างๆ โจนส์ได้แต่ฝืนหัวเราะในใจ นอกจากป้องกันแล้ว โดยพื้นฐานเขาไม่มีโอกาสตอบโต้
ครั้งนี้เขาไม่เลือกใช้พลังใบไม้แดง, ใบไม้แดงคือรูปแบบที่รอการโจมตี อย่างไรก็ตามเมื่อสู้กับเซียนพลังโจมตีของใบไม้แดงใช้ไม่ได้ผล วิธีนั้นความจริงเปลืองพลังของทหารมากมาย
“โล่โดม!”
โจนส์ตะโกนลั่น กองพลใบไม้แดงเปล่งแสงสว่างเจิดจ้าทันทีม่านแสงโค้งปรากฏอยู่เหนือกองพลใบไม้แมง รัศมีแสงเหมือนโดมแก้ว ปรากฏอยู่เหนือหัวของกองกำลังใบไม้แดง
โล่โดมใช้สำหรับป้องกันการโจมตีทางอากาศโดยเฉพาะไม่มีความสามารถในการโจมตีตอบโต้แต่อย่างใด แต่ความหนาแน่นของพลังไม่ได้อ่อนกว่าใบไม้แดง สิ่งที่สำคัญคือสิ้นเปลืองปราณแท้น้อยกว่ามากมาย
ทันใดนั้นหมอกขาวลอยลงมาต่อหน้าต่อตาของโจนส์ เขาระมัดระวังตัวทันที
“ระวัง!”
คำพูดยังไม่ทันจบ หมอกขาวเหล่านี้ก็มาถึงอย่างรวดเร็ว ในพริบตาเดียวตาของเขาก็พร่าไปหมด รอบๆ พื้นที่เต็มไปด้วยหมอกขาวหนาแน่นและไม่กระจายตัว
แย่แล้ว!
ทะเลหมอก!
เมื่อการเชื่อมโยงของบุคคลขาดตอนและโดดเดี่ยว ส่วนใหญ่จะตื่นตระหนกโดยไม่รู้ตัว นี่คือสัญชาตญาณอย่างหนึ่งมีแต่ต้องฝึกฝนอบรมอย่างเข้มงวดส่วนตัวจึงจะเอาชนะได้ กองพลใบไม้แดงก่อตั้งมาไม่นานเห็นได้ชัดว่ายังไม่ผ่านบททดสอบนี้
เสียงหวีดแหลมใกล้เข้ามาไม่มีทีท่าหยุด ทำให้ทุกคนรู้สึกว่ายมทูตกำลังบุกเข้ามาหาพวกเขา
กองพลใบไม้แดงตกอยู่ในความปั่นป่วนทันที ความปั่นป่วนทำให้ ความสับสนวุ่นวายทำให้โล่โดมมีความผันผวนไม่แน่นอน
“หนักแน่นเข้าไว้!”
โจนส์ตะโกนก่อนที่เขาจะได้เสียงระเบิดรุนแรงบนโล่โดม
ปัง ปัง ปัง!
แนวป้องกันระเบิดการระเบิดต่อเนื่องเป็นชุดทำให้โล่โดมที่ผันผวนรุนแรงระเบิดกระจายแตกออกเป็นเสี่ยง โจนส์ถูกแรงปะทะรุนแรงกระแทกใส่ เขากระอักโลหิตทันที
วิชาจิตวิญญาณระเบิดตามเข้ามาในท่ามกลางทัพ
ปัง ปัง ปัง!
กองพลใบไม้แดงแตกสลายอย่างสิ้นเชิง ทหารเหล่านั้นล้มลงด้วยความกลัวและเตลิดออกไปด้านนอกอย่างบ้าคลั่งและนักสู้ระดับทองพวกนั้นสูญเสียความคิดด้วยความกลัวในขณะนั้นพวกเขาพยายามหนีอย่างสุดกำลัง นอกจากนี้ในทะเลเมฆยากที่จะจำแนกศัตรูหรือสหายได้ ความกลัวทำให้ทุกคนสูญเสียเหตุผลบางคนก็ต่อยออกไปเพราะพวกเขาถูกขัดขวาง ทำให้การสู้รบครั้งนี้วุ่นวายสับสนทันที
ภายในทะเลเมฆกลายเป็นแดนมิคสัญญีในทันที
โจนส์หลับตาอย่างสิ้นหวัง เขารู้ว่ามันจบแล้วเขาไม่คิดว่าทะเลเมฆจะทำให้พวกเขาพังทลายโดยสิ้นเชิง โลหิตยังคงไหลออกจากปากของเขาย้อมชุดจนแดง เขาได้รับผลกระทบจากพลังวิญญาณหนักหน่วงที่สุด หัวหน้าทหารก็เหมือนกับแกนหลักของหวีและเป็นจุดที่ครอบคลุมไปด้วยปราณแท้ ในทำนองเดียวกัน เมื่อการโจมตีมาถึงพลังงานจะถูกส่งมาที่เขาก่อน ถ้าขบวนพยุหะยังคงอยู่สมบูรณ์ เจตจำนงสามัคคีจะเป็นฐานที่มั่น แรงกระทบเหล่านี้จะหายไปทีละชั้นทีละชั้น กองทหารทั้งหมดจะดูดซับความรุนแรงของพลังโจมตีไว้ ดังนั้นทุกคนจะไม่ได้รับบาดเจ็บ
อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้กองทัพยุ่งเหยิง แรงปะทะไม่สามารถสลายไปได้ดังนั้นเขาจึงเป็นคนแรกที่ได้รับบาดเจ็บหนัก
น่าเสียดายจริงๆ....ข้าไม่สามารถล้างแค้นให้ท่านได้....
ถ้าข้าเพียงแต่ฝึกทหารให้เข้มงวดกว่านี้...
เขารู้ว่าความคิดของเขาไร้สาระเกินไปแม้ว่าเขาจะเป็นผู้บัญชาการทัพ แต่เขาไม่เคยควบคุมกองทัพนี้ได้อย่างแท้จริง แม้ว่าสาขาทองจะทำให้คุณภาพทหารนี้โดดเด่นขึ้นมาก แต่กองทัพไม่ไว้ใจผู้บัญชาทัพเต็มที่
การสั่งการกองทัพเช่นนี้ น่าสมเพชจริงๆ....
สายตาของเขายิ่งสับสน เขาหลับตาลงอย่างอ่อนแรง เขาไม่ต้องการดูการสังหารหมู่อีกต่อไป
การตัดสินก่อนที่โจนส์จะตายนั้นถูกต้อง สถานการณ์เปลี่ยนไปเป็นการพิฆาตหมู่อย่างรวดเร็ว
เซียนทุกคนเกิดมาจากการเข้าสู่เส้นทางสายเลือดและผ่านการรบและสังหารมานับไม่ถ้วน ไม่มีใครเห็นอกเห็นใจหรือยอมผ่อนปรน ถึงกระนั้นพวกเขาก็เข้าใจชัดดีว่านั่นคือการสู้รบ การสู้รบครั้งนี้ไม่มีพื้นที่ให้สำหรับความเมตตาปราณี
เซียน 43คนดักอยู่ที่มุมทะเลเมฆทั้งสี่ด้าน นักสู้ทุกคนที่วิ่งออกมาจากทะเลเมฆจะถูกดักสังหาร
หลังจากเวลาผ่านไปเสียงและลมหายใจจากทะเลเมฆค่อยหยุดลงก็ไม่มีใครวิ่งออกมาอีกเลย
ทะเลเมฆยามนี้ถูกย้อมไปด้วยสีเลือดทำให้ทั้งดูน่ากลัวและหลงใหลอย่างแปลกประหลาด
พวกเซียนสลายทะเลเมฆอย่างรวดเร็ว ไม่มีผู้ใดยืนอยู่ข้างใน บนพื้นที่มีแต่ศพทุกคนในกองกำลังรู้สึกเหมือนกว่าเลือดไหลเป็นลำธาร อากาศเต็มไปด้วยคาวเลือด
มอนตาและพวกที่เหลือไม่มีใครยินดีกับชัยชนะมากนักพวกเขาได้แต่เงียบและสลดใจ
นี่คือสงคราม
มันต่างจากการสู้รบอื่นที่พวกเขาเคยประสบพบเจอมาก่อน เมื่อสงครามเริ่มอยู่ต่อหน้าทุกคน แม้แต่เซียนที่เคยเห็นความเป็นความตายมามากก็ตะลึงกับความขมขื่นของสงคราม
“เก็บกวาดสนามรบเถอะ!”
เสียงของถังเทียนทำลายความเงียบมีเพียงเขาที่มีสีหน้าเป็นปกติ เขาเป็นผู้มีอายุน้อยที่สุดในกลุ่มคนพวกนี้ แต่หลังจากคิดดูแล้ว เขากลับมีประสบการณ์สงครามมากที่สุดในกลุ่มคนที่เหลือ
เขารีบเก็บกวาดสนามรบด้วยสีหน้าปกติ
ทุกคนมองดูถังเทียนด้วยความรู้สึกที่แตกต่างกัน
ส่วนใหญ่ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่เต็มใจร่วมกับถังเทียน แม้แต่พวกเขาก็รู้สึกว่ากลุ่มดาวหมีใหญ่ยังแข็งแกร่งไม่พอ ถ้าไม่ใช่เพราะความอัปยศและถูกฝูอิงคุกคาม พวกเขาจะไม่มีทางเลือกยอมจำนนต่อกลุ่มดาวหมีใหญ่แน่นอน
นั่นเป็นเพราะสถานการณ์บังคับ ในใจของพวกเขาส่วนใหญ่เป็นแบบนั้น ซึ่งเป็นเหตุผลให้พวกเขาไม่เชื่อถือถังเทียนมากนัก พลังของถังเทียนในระหว่างพวกเขาก็ไม่ใช่ว่าจะแข็งแกร่งที่สุด
หลายๆคนยังรู้สึกว่าถังเทียนเป็นแค่เด็กที่โชคดีมากเท่านั้น แม้ว่าเขาจะมีอายุน้อยเป็นผู้เยาว์ที่ตรงไปตรงมาอย่างไม่น่าเชื่อ เขาอาศัยกำลังของตนเองก็พิชิตกลุ่มดาวหมีใหญ่ได้
จนกระทั่งบัดนี้
เมื่อทุกคนประหลาดใจกับความโหดร้ายของสงคราม ถังเทียนกับยังสงบอยู่ได้ เขาสงบอยู่ได้เหมือนกับว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่พบเจอเป็นประจำสำหรับเขา จากนั้นพวกเขาจึงได้ตระหนัก เด็กหนุ่มคนนี้ไม่ธรรมดาเหมือนอย่างที่พวกเขาเห็น
เมื่อนึกย้อนไปถึงกระบวนการสู้รบ คำสั่งของถังเทียนไม่ซับซ้อนหรือใช้กลยุทธ์ระดับสูง แม้ว่าผลสุดท้าย ก็แทบจะไม่ได้รับการสรรเสริญมากอย่างที่ควรจะเป็น
อย่างไรก็ตาม คนฉลาดตระหนักกันได้ พวกเขาไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด แม้แต่ตลอดกระบวนการสู้รบ พวกเขาไม่ได้เผชิญอันตรายร้ายแรงแม้แต่น้อย
พวกเขาถึงได้ตระหนักทันที
เด็กหนุ่มคนนี้ไม่ธรรมดาเสียแล้ว!