ตอนที่ 523 - หัวเราะคนสุดท้ายคือผู้ชนะ
เมื่อเห็นราชาเฮยอวี้แสดงธาตุแท้ของสันดานของมาในที่สุด เย่ว์หยางรู้สึกเหมือนกับว่าหินหนักที่แบกรับไว้ถูกปลดลงจากบ่า
แม้ว่าการก่อการหักหลังของราชาเฮยอวี้จะผลักดันการต่อสู้ให้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก แต่เย่ว์หยางรู้สึกว่าเป็นเรื่องดีกว่าที่ผลักดันให้ราชาเฮยอวี้เคลื่อนไหวเร็วขึ้น อย่างตอนนี้เขาไม่ต้องใช้ชีวิตอย่างหมิ่นเหม่พยายามป้องกันแผนการของราชาเฮยอวี้อีกต่อไป
หวงฉวน, เฝินเทียนและหวิ่นซิงตกใจกับการกระทำของราชาเฮยอวี้ ทำไมราชาเฮยอวี้ถึงได้ทำเช่นนี้? เขาเองก็เป็นผู้ร่วมเข้าแข่งขันในสังเวียนมรณะ เขาจะได้ประโยชน์จากตรงนี้ได้อย่างไร?
“ราชาเฮยอวี้, เจ้าบ้าไปแล้วหรือ?” มนุษย์เพลิงเฝินเทียนโกรธ เขาไม่เคยคิดเลยว่าราชาเฮยอวี้จะโหดอำมหิตมากขนาดนั้น
“เลวมาก” มนุษย์สมิงสามตาและมนุษย์แสงจ้องมองราชาเฮยอวี้ด้วยความโกรธ
“บางทีคุณชายสามตระกูลเย่ว์อาจจะเข้าใจชัดว่าข้าเฮยอวี้เป็นคนเช่นไร….. ข้าเกิดมาเพื่อทรยศอยู่แล้ว ไม่ต้องพูดถึงเมื่อหกพันปีที่แล้ว ที่แม้แต่จักรพรรดอวี้ผู้ไร้เทียมทานก็ยังพลาดท่าให้กับแผนการของข้า พวกเจ้าทุกคนยังจะบังคับข้าได้อีกหรือ? เลิกทำอะไรที่เกินความสามารถของเจ้าได้แล้ว” ราชาเฮยอวี้หัวเราะด้วยความน่ารังเกียจ “ข้าเห็นอัจฉริยะหนุ่มมาหลายคนแล้ว ไม่ว่าพวกมันจะมีพรสวรรค์เพียงไหน แข็งแกร่งเพียงใดก็ตาม ก็ไม่มีใครต่อกรข้าได้เลย นี่เป็นเพราะข้ามีทักษะแฝงเร้น ‘หักหลัง’ ที่ไม่มีใครเหมือนและเทียบได้ในโลก พวกเจ้าแข็งแกร่งก็จริง แต่ก็จะตายอย่างน่าอนาถ”
“อย่าลืมว่าเจ้าเองก็เป็นผู้แข่งขันคนหนึ่ง ทันทีที่เราพลาดท่า เจ้าจะถูกกำจัดด้วยกฎรหัสโบราณเช่นกัน” เวิ่งจินตัวสั่นด้วยความโกรธ
“อย่างนั้นเหรอ?” ราชาเฮยอวี้ตอบโต้อย่างเยือกเย็น
เขาประกบมือเข้าด้วยกัน
ทาสแคระสองคนปรากฏตัวอยู่ข้างๆ เขา
ทันทีที่ทาสแคระทั้งสองคนปรากฏ พวกเขาคุกเข่าแทบเท้าราชาเฮยอวี้ด้วยความเคารพ ภายใต้สายตาจับจ้องของทุกคน ทาสแคระทั้งสองชักมีดออกและเชือดคอโดยไม่ลังเลใจแม้แต่วินาทีเดียว
พวกเขาไม่ได้ตายในทันที
ก่อนที่พวกเขาตาย พวกเขาดิ้นรนด้วยความเจ็บปวดจ้องมองราชาเฮยอวี้
ราชาเฮยอวี้ไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไร เขายกขาและย่ำลงบนทาสแคระผู้ภักดีจนกระทั่งร่างของพวกเขากลายเป็นเนื้อเลอะเลือน
เขาย่ำครั้งแล้วครั้งเล่า
เลือดกระเซ็นไปถูกทุกคน!
“ความจงรักภักดีของทาสคือสิ่งที่ข้าเฮยอวี้ไม่ต้องการ” เมื่อราชาเฮยอวี้พูดจบ แสงดำบนเกราะทมิฬศักดิ์สิทธิ์ของเขาเปล่งแสงหลากหลาย เมื่อเขาประกบมืออีกครั้ง ปรากฏเป็นหญิงสาวผู้งดงามอุ้มทารกเกิดใหม่ มารดาผู้งดงามและเยาว์วัยตัวสั่น นางกำลังอ้อนวอนราชาเฮยอวี้ทั้งน้ำตานองหน้า “ฝ่าบาท สิ่งที่พระองค์ต้องการก็แค่เพียงเลือดของเลือดเนื้อเชื้อไข ให้ข้าผู้เป็นสนมของพระองค์สละแทนองค์ชายผู้เยาว์วัยด้วยเถอะ ข้าขอร้อง”
“น้ำตาของคนรัก…” ราชาเฮยอวี้ยื่นมือออกมาปาดน้ำตาหญิงงามอย่างนุ่มนวล และด้วยการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว เขาหักคอหญิงงามทันทีก่อนจะยกเด็กแรกเกิดชูขึ้นในอากาศและทุ่มลงพื้น ทารกแรกเกิดถูกกระแทกกับพื้นกลายเป็นเลือดเนื้อเลอะเลือน “และน้ำตา ความเกี่ยวข้องทางสายเลือด ข้าเฮยอวี้ก็ไม่ต้องการแต่อย่างใด!”
ทุกคนตกตะลึง
รวมทั้งเย่ว์หยาง ไม่มีผู้ใดคิดว่าราชาเฮยอวี้จะทำเรื่องเช่นนี้ได้
เจ้าผู้นี้ยังเป็นคนอยู่อีกหรือ?
เขาต่ำช้ายิ่งกว่าเดรัจฉาน!
หวงฉวนผู้ที่ปกติจะหลับตาแน่นอยู่ตลอดเวลาตอนนี้เบิกตาจ้องมอง ตาสีทองของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
หลังจากสังหารทาสของเขา, พระสนมและบุตรชาย ราชาเฮยอวี้ก็ปล่อยแสงสีดำเข้มข้น จนดูเหมือนเป็นรูปธรรม เขาดูชั่วร้ายมาก พลังงานที่น่ากลัวพร้อมกับสนามพลังมืดปกคลุมไปทั้งสังเวียนต่อสู้
เมื่อราชาเฮยอวี้ยกมือเป็นครั้งที่สาม ทุกคนก็เริ่มกลัวเจ้าคนผิดปกติผู้นี้เสียแล้ว พวกเขาทุกคนถอยห่างออกไปหลายเมตรอย่างช่วยไม่ได้
ฟันของเวิ่งจินกระทบกึกๆ ด้วยความกลัว
เขารู้ว่าเขาไม่ใช่คนดี แต่ไม่ว่ายังไง เขาไม่ถึงกับเป็นคนไร้หัวใจอย่างราชาเฮยอวี้
“การปกป้องของอสูรพิทักษ์และสหายร่วมกลุ่ม… เรื่องที่น่าเบื่ออย่างนี้ ข้า เฮยอวี้ไม่ต้องการมันเลย” ราชาเฮยอวี้ชักกระบี่ทมิฬศักดิ์สิทธิ์ออกมาและเชือดคอตนเอง ในทันใดนั้นเลือดสีดำไหลออกมาจากลำคอของเขา อย่างไรก็ตามชีวิตของราชาเฮยอวี้ไม่ได้รับการกระทบกระเทือนแต่อย่างใด กลับเป็นพยัคฆ์ฟ้ากินปีศาจซึ่งกำลังรักษาตัวอยู่ทางทิศตะวันออกของสังเวียนที่ร้องโหยหวนขึ้นมา
จู่ๆ มันก็คำรามเหมือนฟ้าร้องและระเบิดขึ้น
บึ้ม!
ระเบิดที่ดังสนั่นสังหารนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับเก้าที่กำลังรักษาตัวกลายเป็นเลือดเนื้อกระจุยกระจายก่อนที่พวกเขาจะเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นที่ใจกลางลานแก้ว
ตอนนี้ทุกคนเข้าใจเหตุผลที่ราชาเฮยอวี้ยอมเสียสละจนตัวเองบาดเจ็บหนักโดยไม่คิดแม้แต่วินาทีเดียว
ที่แท้เป็นการหาข้ออ้างให้พยัคฆ์ฟ้ากินปีศาจทำลายตนเอง
ยิ่งแสงสีดำปล่อยออกมาจากร่างของราชาเฮยอวี้มากขึ้นรอบๆ ตัวเขายิ่งมืดมิดเหมือนหมึก จากนั้นแสงสีดำเริ่มก่อตัวเป็นร่างจำลองของราชาเฮยอวี้ เมื่อร่างจำลองถูกสร้างมาเต็มที่ ราชาเฮยอวี้ก็พ่นเลือดลงบนใบหน้าของมันและพึมพำไปด้วย สายฟ้าสีทองเข้มผ่าลงมาจากโดมสูงและทำลายรูปจำลองสลายไปในอากาศอย่างรวดเร็ว
สิ่งที่แปลกประหลาดก็คือสายฟ้านี้มีพลังกฎรหัสโบราณแค่เพียงกำจัดร่างจำลองเท่านั้น แต่ร่างของราชาเฮยอวี้เดิมไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด
ราชาเฮยอวี้ยังคงเดิมไม่ได้รับอันตราย
มีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในใจของเย่ว์หยาง – เพื่อนร่วมกลุ่มของเจ้าจะทรยศต่อกลุ่มของเจ้า เมื่อผู้เข้าแข่งขันสังเวียนมรณะ ตายเกินกว่าห้าสิบคน ก็จะเพิ่มแม่ทัพเพชรฆาตโบราณอีกสี่ และจ้าวอสูรเพชรฆาตโบราณอีกหนึ่งตนจะถูกเพิ่มลงไปในสังเวียนเพื่อเป็นการลงโทษ
ภายใต้การสังเกตด้วยจักษุญาณทิพย์ของเย่ว์หยาง เขาตระหนักได้ว่าลักษณะของราชาเฮยอวี้เหมือนกับเพชรฆาตโบราณไปแล้ว
บางทีอาจมีความแตกต่างอยู่เล็กน้อย
แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าราชาเฮยอวี้ไม่ได้อยู่ฝ่ายเดียวกับทวีปมังกรทะยานอีกต่อไปแล้ว เขาตัดสินใจใช้ทักษะแฝงเร้น ‘ทรยศ’ และเลือดสีดำที่แปลกประหลาด เขาไม่เพียงรอดพ้นจากการลงโทษของกฎโบราณเท่านั้น แต่ยังเปลี่ยนไปเป็นพันธมิตรกับเพชรฆาตโบราณได้ ถ้าเขาใช้วิธีการของเขา เขาจะกลายเป็นผู้ชนะคนสุดท้ายของการแข่งขันมรณะนี้และมีแนวโน้มว่าจะได้รับอาวุธระดับเทพ
“โอว คุณพระช่วย!” ในที่สุดราชันย์ปีศาจใต้ก็เข้าใจถึงสาเหตุที่จักรพรรดิอวี้ตายภายใต้แผนการของราชาเฮยอวี้ เป็นเพราะทักษะแฝงเร้น ‘ทรยศ’ นี่เอง อันตรายมากจริงๆ
“หวงฉวน, เราจะทำยังไง…” เฝินเทียนกังวลหนักถึงกับฝากความหวังให้หวงฉวนตัดสินใจ
ลำแสงอีกสิบสี่สายยิงลงมาจากท้องฟ้า
ในบรรดาลำแสงนี้ มีอยู่ห้าสายที่มีขนาดใหญ่มหึมาเป็นพิเศษ พวกมันคือแม่ทัพเพชรฆาตโบราณและจ้าวอสูรเพชรฆาตโบราณ
แม้ในตอนนี้ เย่ว์หยางยังไม่รู้ว่ามีคนอยู่ในคัมภีร์ของราชาเฮยอวี้อยู่เท่าไหร่ เขาคาดว่าคนทุกคนที่ราชาเฮยอวี้นำเข้ามาในคัมภีร์อัญเชิญของเขาก็นับเป็นผู้เข้าร่วมแข่งขันด้วย ทั้งนี้เพราะทาสผู้ภักดี, พระสนมและโอรสรวมทั้งบริวารโลหิตดำที่ราชาเฮยอวี้ฆ่า ทุกคนนับเป็นผู้เข้าร่วมในสังเวียนมรณะนี้ด้วย ถ้ายังคงมีคนอยู่ในคัมภีร์อัญเชิญของราชาเฮยอวี้ถูกเขาฆ่าอีก จำนวนเพชรฆาตโบราณก็จะทวีจำนวนเพิ่มขึ้นเพราะมีคนถูกประหาร ความจริง พวกเขายังมีพลังมากกว่าเพชรฆาตโบราณ ซึ่งเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดฟ้าระดับหนึ่ง ขณะที่จ่าฝูงเพชรฆาตโบราณมีพลังเทียบเท่ากับนักสู้ปราณก่อกำเนิดฟ้าระดับสอง ถ้าเป็นอย่างนั้น แม่ทัพอสูรเพชรฆาตโบราณและจ้าวอสูรเพชรฆาตโบราณเล่า จะอยู่ในระดับใดกันแน่?
เพชรฆาตโบราณทั้งหมดหมอบคารวะต้อนรับการมาถึงของจ้าวอสูรเพชรฆาตโบราณ
แม้แต่สี่แม่ทัพเพชรฆาตโบราณก็ยังหมอบคำนับด้วย
ในสี่แม่ทัพเพชรฆาตโบราณ ตนหนึ่งมีสีเขียวเข้มมีลวดลายแปลกประหลาดนับไม่ถ้วน ขณะที่อีกตนหนึ่งมีผิวสีฟ้าเรืองแสงและมีกรงเล็บยาวมาก ขณะที่อีกสองตนมีตาสีแดงดุจเลือด อีกตนหนึ่งมีร่างเหมือนรูปแกะสลักเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อชัดเจน
ความสามารถของพวกมันเทียบเท่านักสู้ปราณก่อกำเนิดฟ้าระดับสาม
พวกมันไม่ได้ด้อยกว่าแม้แต่น้อย เมื่อเทียบกับหวงฉวนผู้แข็งแกร่งที่สุด
สำหรับจ้าวอสูรเพชรฆาตโบราณจะมีขนาดใหญ่มากกว่าเพชรฆาตโบราณธรรดาถึงสองเท่า มีผมและผิวสีทอง ระดับพลังของมันน่าหวาดหวั่นเทียบเท่ากับนักสู้ปราณก่อกำเนิดฟ้าระดับห้า
ไม่ต้องพูดถึงอสูรที่เหลือเลย เพียงแค่มันเพียงตนเดียวก็เพียงพอจะฆ่าผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดได้ในพริบตาเดียว
จ้าวอสูรเพชรฆาตโบราณนี้นับว่าไร้เทียมทานโดยแท้ พลังของมันเพียงพอจะทำให้อีกฝ่ายกดดันสิ้นหวัง ทันทีที่มันปรากฏตัว แม้แต่หวงฉวนที่เยือกเย็นที่สุดก็ยังหน้าซีด เขาตะโกนบอกมนุษย์เพลิงเฝินเทียนและหวิ่นซิง “พาอสูรองครักษ์โบราณหนีไปเดี๋ยวนี้ เราจำเป็นต้องหนีกันเดี๋ยวนี้” เขาหายตัววับไปปรากฏอยู่ต่อหน้าเทพสิบสองปีกและพาอสูรโบราณสูงร้อยห้าสิบเมตรนี้เข้าไปในคัมภีร์ของเขาช่วยให้มันได้รอดพ้นจากชะตาถูกจ้าวอสูรเพชรฆาตโบราณสังหาร
มนุษย์เพลิงเฝินเทียนและหวิ่นซิงวิ่งไปหามนุษย์เสือหางสิงห์ และอสูรโครงกระดูกยักษ์
แต่ราชาเฮยอวี้แค่นเสียงเย็นชาและใช้กระบี่ทมิฬศักดิ์สิทธิ์ฟันใส่มนุษย์เพลิงเพื่อหยุดการเคลื่อนไหวของเขา
หวิ่นซิงเสี่ยงชีวิตโจมตีแม่ทัพเพชรฆาตโบราณทั้งสี่และช่วยมนุษย์เสือหางสิงห์กลับเข้าไปในคัมภีร์อัญเชิญของเขาได้ทัน
โครงกระดูกยักษ์ไม่โชคดีเท่าใดนัก
แม้ว่ามนุษย์สมิงสามตาและเวิ่งจินจะมีปฏิกิริยารวดเร็ว แต่ความเร็วของพวกเขาก็ยังตามหลังจ้าวอสูรเพชรฆาตโบราณอยู่มาก อสูรโครงกระดูกยักษ์ไม่สามารถปกป้องตนเองได้ และถูกจ้าวอสูรเพชรฆาตโบราณเหวี่ยงลงพื้นทันที ด้วยการโจมตีอย่างหนักหน่วงเพียงครั้งเดียว ร่างของอสูรโครงกระดูกยักษ์ที่สามารถทนทานต่อการโจมตีได้ทุกอย่างก็แตกสลายทันที โครงกระดูกแตกหัก และส่วนอกของเขากระแทกกองอยู่บนพื้น ภายใต้การโจมตีอย่างหนักหน่วงของจ้าวอสูรเพชรฆาตโบราณ ร่างของอสูรโครงกระดูกอ่อนแอราวกับมนุษย์ที่สร้างขึ้นจากกระดาษ
คลื่นความเย็นกัดกร่อนผิวที่ระเบิดออกมาเหวี่ยงมนุษย์สมิงสามตาและเวิ่งจินที่วิ่งเข้ามาเพื่อช่วยเหลือจนกระเด็นออกไป….
“ไป, ทุกคน จงไปที่ด้านสังเวียนแก้วฝั่งตะวันออก เข้าไปปรึกษาสถานการณ์กันในคัมภีร์อัญเชิญของข้า” หวงฉวนหันหน้ามาเผชิญกับราชาเฮยอวี้และปล่อยให้มนุษย์สมิงสามตาและเวิ่งจินได้หลบหนีจากอันตราย จากนั้นหวงฉวนนึกอะไรขึ้นมาได้ จึงเตือนเย่ว์หยาง “คุณชายสาม ท่านรีบกลับไปช่วยคนของท่านเถอะ ไว้เราค่อยเจอกันทีหลัง”
แน่นอน” เย่ว์หยางขี่หงส์เพลิงที่สร้างขึ้นจากเพลิงอมฤต บังคับให้เพชรฆาตโบราณที่เริ่มรายล้อมเข้ามาถอยกลับไป เขาฉุดราชันย์ปีศาจใต้ขึ้นมาและถอยไปอย่างรวดเร็ว
เนื่องจากจ้าวอสูรเพชรฆาตโบราณมาถึง การต่อสู้ครั้งนี้จึงไม่อาจใช้วิธีเดิมต่อสู้ได้
ถ้าราชาเฮยอวี้ไม่สร้างปัญหา หลายๆ อย่างจะง่ายขึ้น แต่ราชาเฮยอวี้เพิ่งเปลี่ยนจากพันธมิตรไปเป็นศัตรู ตอนนี้ไม่ว่ากลยุทธอะไรที่พวกเขาสร้างขึ้นมา ราชาเฮยอวี้สามารถมองเห็นแผนนั้นได้ ก่อนที่เขาจะสามารถคิดแผนฆ่าเฮยอวี้ได้ เย่ว์หยางจะไม่สู้กับเขาโดยตรง อย่างไรก็ตามราชาเฮยอวี้เกลียดเย่ว์หยางมากที่สุด เขาควงค้อนสายฟ้าถล่มสวรรค์และดาบทมิฬศักดิ์สิทธิ์ไล่ล่าเย่ว์หยางอย่างยินดี “คุณชายสาม ทำไมถึงได้หนีเหมือนกับสุนัขจรจัดเสียเล่า? เจ้าต้องการล้างแค้นให้จักรพรรดิอวี้ไม่ใช่หรือ? ตอนนี้เจ้ามีโอกาสแล้วนี่”
เย่ว์หยางก็เกลียดเขา ถ้าไม่ใช่เพราะจ้าวอสูรเพชรฆาตโบราณแล้ว เจ้ายังจะกล้าไล่ล่าข้าหรือ?
ความจริง ต่อให้ราชาเฮยอวี้ไล่ตามเขา เขาก็ไม่กล้าเข้ามาใกล้อยู่แล้ว เขาคงกล้าสู้ได้แต่ระยะไกลโดยใช้ปราณกระบี่และสายฟ้าเท่านั้น
เขายังกลัวต่อหงส์เพลิงที่สร้างขึ้นจากเพลิงอมฤต
เขามีเกราะ ดังนั้นเขาจึงไม่กลัวการโจมตีของเย่ว์หยาง แต่เพลิงอมฤตนี้สามารถล้างโลกได้ เป็นดาวข่มของเขา!
“ไปเลย ไปเลย เจ้าบัดซบ” เมื่อเย่ว์หยางเห็นว่าจ้าวอสูรเพชรฆาตโบราณยังคงทำลายกระดูกของอสูรโครงกระดูกยักษ์ ขณะที่สี่แม่ทัพเพชรฆาตโบราณยังไล่ตามหวงฉวนอยู่ เขาจึงเริ่มคลายใจขึ้นมาบ้าง โชคดีที่ กลับกลายเป็นว่าเจ้าพวกนี้ยังกลัวเพลิงอมฤตของเขาอยู่บ้าง หงส์เพลิงสร้างขึ้นจากเพลิงอมฤตสามารถบีบบังคับราชาเฮยอวี้ให้ถอยไปได้ เมื่อผ่านไปตามรายทางเขาเรียกนางพญากระหายเลือด อาหง, โคเงาอาหมัน, นางพญาดอกหนามมงกุฎทองตั่วตั่วและอสูรอื่นๆ กลับเข้าไปในคัมภีร์ ส่วนเสี่ยวเหวินหลีอยู่ข้างตัวเขา ราชาเฮยอวี้ยังไม่กล้าเผชิญหน้ากับเขาในตอนนี้ เขายังกลัวทักษะแฝงเร้นพันธนาการของเสี่ยวเหวินหลีและทำได้แต่เพียงใช้ปราณกระบี่โจมตีอยู่ไกลๆ การโจมตีเช่นนี้มีผลต่อเย่ว์หยางน้อยมาก
“เรามารวมกับนักรบโบราณกัน…” เมื่อผู้เฒ่าหนานกงเห็นว่าสถานการณ์การต่อสู้ล่มสลาย เขาเชิญนักสู้ปราณก่อกำเนิดให้เข้าไปในโลกคัมภีร์และรีบไปรวมกับนักรบโบราณและจักรพรรดิใต้พิภพ
“โธ่เว้ย!” จักรพรรดิฟ้าที่แต่เดิมทีต้องการพึ่งพาราชาเฮยอวี้ แต่เขาเกรงว่าจะถูกกฎรหัสโบราณสังหาร เนื่องจากราชาเฮยอวี้ไม่ได้อยู่ข้างเดียวกับเขาต่อไปแล้ว
หลังจากเหลือบมองจ้านหู่และเป่ยเหลียวหยาแล้ว พวกเขาหนีกลับเข้าไปในโลกคัมภีร์ของตัวเองอย่างน่าสมเพช
เมื่อเห็นองครักษ์สตรีโบราณทั้งสิบสองนางยังคงรักษาเด็กสาวยักษ์อยู่ เย่ว์หยางรีบอัญเชิญพวกนางกลับเข้าไปในคัมภีร์ด้วยเช่นกัน เสี่ยวเหวินหลีก็เรียกเมดูซ่าศิลา และอสูรสาวตนอื่นๆกลับเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับราชาเฮยอวี้
เมื่อปราศจากการควบคุมจากพวกนาง น้ำทะเลเยือกเย็นที่เหมือนมหาสมุทรกว้างใหญ่ในทางผ่านแก้วผลึกก็แตกกระจายทันที
น้ำกระเด็นไปทั่วทุกสารทิศ
แตกต่างจากสถานการณ์ของเย่ว์หยางกับราชาเฮยอวี้ ด้านหวงฉวนและเฝินเทียนกลายเป็นโรงฆ่าสัตว์นองเลือด
นับประสาอะไรกับเหล่าสหายนักสู้ปราณก่อกำเนิดฟ้า แม้แต่องครักษ์โบราณเหล่านั้นก็ยังถูกเพชรฆาตโบราณนับสิบสังหาร มีอยู่เพียงไม่กี่คนที่หวงฉวนช่วยเอาไว้ได้
ลานแก้วผลึก
จ้าวอสูรเพชรฆาตโบราณยังคงทรมานอสูรโครงกระดูกยักษ์จนกระทั่งตาย
มันทึ้งกระดูกของอสูรโครงกระดูกยักษ์และชูกระดูกสันหลังที่ยาวและฟาดลงกับพื้น จากนั้นก็เลาะขาและแขนของมัน ก่อนจะโยนส่วนที่แข็งที่สุดของโครงกระดูกยักษ์ออกไป กะโหลกของมันกลิ้งอยู่บนพื้น ตาของอสูรโครงกระดูกยักษ์หมองลงอย่างรวดเร็ว ความตายกำลังใกล้เข้ามา
แม่ทัพเพชรฆาตโบราณทั้งสี่พาบริวารอีกนับสิบตามไล่ล่าหวงฉวนกับเฝินเทียน
นอกจากนี้ยังมีจ่าฝูงเพชรฆาตโบราณที่ได้เริ่มช่วยราชาเฮยอวี้ที่กำลังถูกนกหงส์เพลิงอมฤตผลักดัน
แต่แผนของพวกเขาไม่สำเร็จได้ง่ายๆ
แม้จะไม่มีเย่ว์หยางคอยควบคุม หงส์เพลิงอมฤตก็มีจิตสำนึกที่จะขับไล่ศัตรูให้หนีไป ที่สำคัญคือหงส์เพลิงอมฤต คือของขวัญที่พี่น้องหงส์เพลิงมอบให้เย่ว์หยางไว้ป้องกันตัว แม้ว่าจะไม่มีชีวิต แต่มันก็มีปณิธาน แต่เพราะมีศัตรูมากมาย เย่ว์หยางเพียงแต่ใช้หงส์เพลิงคอยขับไล่ศัตรูให้หนีไปจากทางผ่านแก้วผลึก ป้องกันไม่ให้ศัตรูไล่ตามเขา จนกระทั่งเขาใช้พลังเอาตัวเด็กสาวยักษ์กลับเข้าไปในคัมภีร์ของเขาได้ เขาจึงถอนหายใจโล่งอก เขาไม่มีเวลาไปสมทบกับผู้เฒ่าหนานกงและจักรพรรดิใต้พิภพ เย่ว์หยางขี่หงส์เพลิงอมฤตและแล่นไปที่ใจกลางลานแก้วผลึก
ผู้เฒ่าหนานกงและจักรพรรดิใต้พิภพกลับเข้าไปในคัมภีร์ตนเองทันที ตอนนี้ไปตั้งหลักกันก่อน
จ้าวอสูรเพชรฆาตโบราณโกรธการมาถึงของเย่ว์หยาง
มันคำรามใส่เย่ว์หยาง พยายามจะยับยั้งเด็กมนุษย์ตัวกระจิ๊ดให้หนีไปด้วยพลังคำรามของมัน
“คำรามเข้าไปเลยน้อง, จะคำรามหาอะไรมิทราบ ถ้าเจ้ามีความสามารถ ก็ลองเล่นกับไฟดู” ภายใต้การร่วมโจมตีจากราชาเฮยอวี้และจ้าวอสูรเพชรฆาตโบราณ เย่ว์หยางจำต้องลงสู่พื้น เขายังลอบชิงกะโหลกยักษ์ที่ถูกกระแทกและเก็บมันเข้าไปในแหวนเก็บสมบัติทันทีก่อนที่จะหนีออกไปอย่างใจเย็น การกระทำเช่นนี้ทำให้จ้าวอสูรเพชรฆาตโบราณแทบระเบิดด้วยความโกรธ มันเริ่มยิงระเบิดไฟออกจากปากของมัน อย่างไรก็ตาม นี่ไร้ผลโดยสิ้นเชิงต่อเย่ว์หยางที่กำลังขี่หงส์เพลิง ความเร็วยังแตกต่างกันมากนัก
“คุณชายสาม, เจ้าจะไม่มีทางหนีลอยนวลได้นานนักหรอก…” เมื่อเห็นการกระทำของเย่ว์หยาง ราชาเฮยอวี้กัดฟันกรอดๆ ด้วยความเกลียดชัง แต่เขาก็ไม่สามารถทำอะไรเด็กหนุ่มคนนี้ได้
อย่างไรก็ตาม ราชาเฮยอวี้มีความมั่นใจมาก
ไม่ว่าเย่ว์หยางจะอวดดีแค่ไหนก็ไม่มีทางสู้ทักษะแฝงเร้น ‘ทรยศ’ ของเขาได้เลย ก่อนที่จำกัดเวลาของสังเวียนมรณะจะหมดลง เป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะเอาชนะจ้าวอสูรเพชรฆาตโบราณและสี่แม่ทัพจ้าวอสูรโบราณ สำหรับหวงฉวน เฝินเทียนและหวิ่นซิงเล่า? จ่าฝูงเพชรฆาตโบราณทั้งหกและเพชรฆาตโบราณอีกห้าสิบสี่ตนก็สามารถบดขยี้พวกเขาให้เป็นเลือดเนื้อเลอะเลือนแล้ว แผนง่ายๆ ของราชาเฮยอวี้ก็คือ ทุกๆ สามวัน จะมีจ่าฝูงเพชรฆาตโบราณสามตนและเพชรฆาตโบราณอีกยี่สิบเจ็ดตนเข้ามาร่วม เมื่อเป็นแบบนั้น โอกาสสำเร็จของเย่ว์หยางและหวงฉวนก็จะยิ่งน้อยลงทุกที
ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นอัจฉริยะมากขนาดไหน พวกเขาก็ต้องตายอย่างสิ้นหวัง!
ราชาเฮยอวี้ยิ้มอย่างชั่วร้าย
เขายิ้ม ยินดีกับตัวเองอย่างมาก
เย่ว์หยางรู้สึกขัดใจอย่างมาก เขายกนิ้วกลางให้ราชาเฮยอวี้ “อย่าหลอกตัวเองดีกว่า คนที่หัวเราะคนสุดท้ายต่างหากคือผู้ชนะ มาดูกันว่าจะเหลือใครที่หัวเราะเป็นคนสุดท้าย!”
********************