ตอนที่ 519 ฝูอิงพ่าย
ภายในอึดใจเดียวถังเทียนเปิดกล่องผนึกพลังต้นกำเนิดไป 30 กล่องวิชาที่เขาปล่อยออกไปล้วนแปลกประหลาด กล่องทั้งหมดนี้ถูกปล่อยพลังออกไปอย่างเงียบๆ
ฝูอิงอ่อนกำลังลงสามารถรู้สึกได้ถึงอันตรายคุกคามเขาขณะที่หัวใจเขาเต้นแรง เหมือนกับว่าเขามองเห็นยมทูตกำลังเข้ามาใกล้ขณะที่เขาหลั่งเหงื่อเยียบเย็น อันตรายที่รุนแรงนี้ทำให้จิตใจเขาว่างเปล่า
ความกลัวตายทำให้เขาปลดปล่อยศักยภาพเต็มที่ เขากรีดร้องออกมาเต็มปอดส่วนบนเหมือนกับสัตว์ร้ายที่ใกล้ตาย เขาคลั่งและสิ้นหวัง
เกิดแสงรัศมีเจิดจ้าที่ฝ่ามือของเขา พลังโจมตีนี้ครอบคลุมทุกคนในพื้นที่
การต่อสู้ภายในทะเลเมฆจบไปแล้ว เซียนของถังเทียนได้รับชัยชนะ แต่ตอนนี้ทุกคนตกอยู่ในพื้นที่พลังโจมตีซึ่งฝูอิงตั้งใจปลดปล่อย
ภายในแสงเจิดจ้าที่มีพลังหนาแน่น เลือดและเนื้อบนฝ่ามือของฝูเอิงดูเหมือนจะมองเห็นกระทั่งโครงสร้างกระดูกของเขา ฝูอิงไม่ทันตระหนักเลยว่าสนามพลังของเขาขยายออกไปอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันนั้นสนามพลังภายในวิชาดาบเกียรติยศของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ค่าวิญญาณของวิชาดาบเกียรติยศของเขาตอนนี้สูงถึง 270 จุด!
ค่าพลังวิญญาณสูงที่สุดซึ่งสมาพันธ์ชาวยุทธได้บันทึกเอาไว้ก็คือ230!
“ตายซะเถอะ! พวกเจ้าทุกคนจะต้องตาย!”
เสียงร้องสิ้นหวังของฝูอิงดังกึกก้องไปทั่วทะเลเมฆสะบัดมือขวาใส่ศัตรูอย่างบ้าคลั่ง
ปัง ปัง!
กระแสรังสีแสงความร้อนสูงยิงออกไปด้านข้างทั่วไปหมด แม้ว่าลักษณะของดาบเกียรติยศจะดูแตกต่างไปบ้างเมื่อค่าวิญญาณสูงถึง 270 จุด
รังสีดาบทุกสายถูกปล่อยออกมาราวกับแสงอาทิตย์พลังทะลุทะลวงที่น่ากลัวไวอย่างน่าประหลาดใจ
พวกเซียนทุกคนตกใจไม่อยากจะเชื่อขณะที่พวกเขาวิ่งหาที่หลบ
ขณะที่มีแสงรัศมีวงกลมเจิดจ้าปรากฏบนพื้น พวกเขาก็หายไป อย่างไรก็ตาม ภายในไม่กี่วินาทีมีเสียงระเบิดบึ้ม ทั้งดินและหิมะพุ่งกระจายเหนือพื้นหลายสิบฟุต
บึ้ม บึ้ม บึ้ม!
เมืองหานกู่ที่สร้างขึ้นด้วยความพยายามของชางหยางหวี่ตอนนี้กำลังจะถูกทำลาย พื้นไม่เสถียร ดินโคลนและหิมะโปรยลงมาราวกับฝนตก
เซียนคนหนึ่งที่หลบหนีการโจมตีช้าใช้แสงพลังป้องกันไว้ข้างหน้า ม่านพลังของเขามีค่าพลังวิญญาณเพียง 40จึงไม่สามารถหยุดยั้งพลังของมันไว้ได้
โลหิตฉีดพุ่งออกมาจากร่างกายของเขา
เขาถูกพลังโจมตีฟันจนขาดครึ่ง มันเกิดขึ้นเร็วเกินกว่าจะทันอ้าปากร้องออกมา
ในท่ามกลางทะเลเมฆฝูอิงผู้กระวนกระวายได้ยินเสียงประหลาดๆ ทันที เขาไม่รู้สึกถึงพลังงานใดๆ เขาพลาดไม่ทันรู้สึกว่ารอบๆตัวเขามีกล่องผนึกพลังต้นกำเนิดระเบิดออกพร้อมกัน
บึ้ม บึ้ม บึ้ม!
กล่องผนึกพลังต้นกำเนิดไม่มีรังสีพลังให้สังเกต ฝูอิงจึงรู้สึกไม่ได้ แต่ละกล่องจะมีพลังระเบิดร้ายแรงที่ปล่อยแสงรังสีที่ทะลุทะลวงร่างของฝูอิงได้
ฝูอิงหยุดอยู่กับที่ เขาเบิกตากว้างด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ ร่างของเขาเต็มไปด้วยแผลบาดเจ็บขนาดต่างๆกัน สิ่งที่แปลกก็คืออาการบาดเจ็บนี้ไม่มีเลือดหลั่งออกมา
สองวินาทีต่อมา
รังสีแสงก็ระเบิดออกมาจากภายในแผลบาดเจ็บเป็นชุดๆ
ปัง!
ฝูอิงถูกแสงสีขาวห้อมล้อม เปลวเพลิงลุกไหม้ แสงฉายขึ้นไปในอากาศ ทันใดนั้นฝูอิงกลายสภาพเป็นเถ้าถ่านและหายไป
แสงสีขาวหายไปกะโหลกและตู้อวาเรียสเงินลอยลงมาจากอากาศ
หลังจากเห็นเช่นนี้ถังเทียนรีบรับกะโหลกศีรษะไว้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามมันกำลังไหม้ร้อนแรงเหมือนกับแท่งเหล็กแดง ถังเทียนแทบจะโยนทิ้ง อย่างไรก็ตามเขารีบเก็บกะโหลกไว้ในตู้เก็บของอควาเรียน
ถังเทียนไม่ปล่อยตู้เก็บของอควาเรียสของฝูอิงแน่นอน!
เพียงชั่วขณะต่อมาถังเทียนก็ตั้งตัวได้ในที่สุดว่าพวกเขาฆ่าฝูอิงได้!
ในที่สุดฝูอิงก็ถูกพวกเขาทำลาย!
ความจริงแม้แต่ถังเทียนเองก็ตกใจกับพลังตอบโต้สุดท้ายก่อนฝูอิงตาย เป็นพลังตอบโต้ที่กร้าวแกร่งทรงพลังอย่างที่ถังเทียนไม่เคยเห็นมาก่อน ถังเทียนยังคงสั่นเมื่อคิดถึงพลังที่น่ากลัวของวิชาพลังดาบเกียรติยศ ด้วยพลังโจมตีที่กร้าวแกร่งอย่างนั้นไม่มีใครกล้าป้องกันต้านรับท่านมีแต่ต้องหลบหลีก ด้วยพลังที่มีค่าวิญญาณสูงขนาดนั้น พลังของมันย่อมน่ากลัว!
ไม่มีใครสามารถป้องกันพลังโจมตีนั้นได้
หน้าของเสี่ยวเอ้อยิ่งซีดขาว โชคดีที่การโจมตีครั้งก่อนของฝูอิงยังไม่ทรงพลัง ถ้าไม่อย่างนั้นเขาคงไม่รอด
ทะเลเมฆหายไป
เซียนทุกคนมองดูสภาพหายนะของเมืองหานกู่ พวกเขาอาจมีพลังพอทำลายส่วนต่างๆ ของเมือง แต่ไม่มีใครที่มีพลังพอจะทำลายได้ทั่วทั้งเมอง
เมืองนี้ซึ่งถูกสร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันด้วยการผสมกันระหว่างคลื่นพลังเย็นและสมบัติลับกลับถูกทำลายโดยฝูอิงคนเดียว
ไม่มีที่ใดที่เหลืออยู่ในเมืองหานกู่ที่ไม่โดนแตะต้อง
ฝ่ายของถังเทียนสูญเสียเซียนไปห้าคน แต่ทั้งหมดถูกพลังโจมตีสุดท้ายของฝูอิงสังหาร
ค่าพลังวิญญาณ 270 จุดยังไม่มีใครมีพลังวิญญาณระดับนั้น เนื่องจากเป็นพลังโจมตีระดับเซียนชั้นเงิน ถังเทียนดีใจที่สามารถใช้กับดักเช่นนั้นได้ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าพลังโจมตีสูงสุดของฝูอิงเขาตระหนักได้ว่าไม่มีการป้องกันพลังนั้นได้เลย
แม้จะมีชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ แต่ความตื่นเต้นก็ต้องหายไปเนื่องเพราะคนที่ตายด้วยน้ำมือของฝูอิง
เสี่ยวเอ้อยังคงมองดูผิดหวังขณะที่ค่าพลังวิญญาณของเขาก็คือ80 แต่ค่าพลังวิญญาณของฝูอิงขึ้นไปถึงที่270 จุด ความแตกต่างในเรื่องพลังเป็นเรื่องสำคัญ
เป็นนักสู้ที่น่ากลัวจริงๆ...
เซียนเงินที่แท้จริงจะแข็งแกร่งระดับไหน?
แล้วเซียนระดับทองเล่า?
ถังเทียนและเสี่ยวเอ้อกำหมัด พวกเขาแบ่งปันความรู้สึกเดียวกันในเรื่องของชัยชนะเช่นเดียวกับเรื่องความปรารถนาจะให้ตนเองพัฒนาก้าวหน้า
ข้าต้องกลายเป็นผู้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นให้ได้! ถังเทียนลอบสาบานกับตัวเองเงียบๆ
ข้าต้องแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นไปอีก! เสี่ยวเอ้อก็สาบานกับตนเองเช่นกัน
ทุกคนเก็บกวาดพื้นที่สนามรบอย่างเคร่งขรึม เวลาเท่านั้นจะทำให้พวกเขาฟื้นจากความตกใจกลัวที่ได้รับจากการได้เห็นพลังโจมตีสุดท้ายจากฝูอิง
แต่ถึงอย่างนั้น ก็นับว่าได้ชัยชนะ!
*******
ในเวลาที่ฝูอิงตาย สมาพันธ์ชาวยุทธสามารถรู้สึกได้ พวกเขาประหลาดใจกับความสูญเสียเช่นนั้น ในฐานะที่เป็นสมาชิกคนหนึ่งของกรรมการบริหารสมาพันธ์ ความแข็งแกร่งและความเพียรของเขาในการต่อสู้นั้นน่ากลัว แม้ว่าจะเกิดในพื้นที่ซึ่งได้เปรียบน้อยก็ตาม เขาทุ่มเทความพยายามมากกว่าคนที่เหลือจนมีความสำเร็จระดับนี้จึงสมควรได้รับความเคารพ
ความจริงภายในสมาพันธ์ฝูอิงมักจะเป็นแบบอย่างของนักสู้ผู้ที่ไม่ได้มาจากพื้นที่ซึ่งมีสิทธิพิเศษ แม้จะใช้วิชาธรรมดาที่สุดซึ่งเขามีอย่างวิชาดาบเกียรติยศ, ท่าเท้าเงา,โล่เกียรติยศแต่ก็ทำให้เขาขึ้นไปเป็นกรรมการบริหารสมาพันธ์ได้!
ฝูอิงคือตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบที่พิสูจน์ให้พวกเขาเห็น ตราบใดที่มีคนทุ่มเทความพยายามเต็มที่ แม้จะไม่ได้เกิดในพื้นที่ซึ่งได้สิทธิ์พิเศษ คนผู้นั้นก็ยังสามารถยกระดับจนกลายเป็นเซียนคนหนึ่งได้หรือเป็นกรรมการบริหารได้!
ชัยชนะที่ฝูอิงสั่งสมมาทั้งหมดและผลการต่อสู้ของเขาล้วนเป็นแรงบันดาลใจให้เหล่านักสู้ นอกจากนี้เขามักจะเป็นแบบอย่างของสมาพันธ์ทำให้ศิษย์รุ่นเยาว์รู้สึกมีความหวังและมุ่งมั่นว่าจะสามารถเป็นแบบเขาได้สักวัน
น่าเสียดาย,ตอนนี้เขาตายแล้ว
ผู้บริหารระดับสู้บางคนยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฝูอิงตายที่ไหน แต่เมื่อพวกเขารู้ว่าเขาถูกฆ่าตายที่เมืองหานกู่ก็ไม่มีใครอยากจะเชื่อ ผู้อาวุโสทุกคนมีความคิดเดียวอยู่ในใจ กลุ่มดาวราชสีห์ ต้องเป็นราชสีห์เลโอนถึงจะสร้างความวุ่นวายได้ขนาดนี้ เมืองหานกู่จะสามารถฆ่าฝูอิงได้ยังไง!
แม้ว่าไม่มีใครจากสมาพันธ์ชาวยุทธถูกส่งไปยังเมืองหานกู่ แต่ข่าวการต่อสู้ครั้งนี้แพร่กระจายไปทั่วทุกมุมของสวรรค์วิถี
เพชฌฆาตอิงถูกสังหารในเมืองหานกู่!
นอกจากข่าวที่น่าตกตะลึงแล้ว ยังมีภาพการต่อสู้ยิ่งสร้างความแตกตื่นฮือฮาขึ้นอีก ฝูอิงกดขี่ข่มเหงโดยไม่คำนึงถึงชีวิตมนุษย์
พวกเซียนอิสระก็มีแวดวงสังคมของตนเอง พวกเขาเบื่อหน่ายพวกคนที่เกิดมามีพลังแข็งแกร่งตามธรรมชาติดังนั้นเมื่อภาพการกระทำของฝูอิงถูกเปิดเผยสู่สาธารณะ ทุกคนจึงได้รับผลกระทบอย่างลึกซึ้ง นอกจากนี้ เพราะฝูอิงคุกคามครอบครัวของเซียนเหล่านี้นั่นยิ่งทำให้หลายคนโกรธแค้น
“คนโฉดชั่วเช่นนั้นเป็นสมาชิกกรรมการบริหารสมาพันธ์ชาวยุทธได้อย่างไร ข้าไม่รู้ว่าเขามีมาตรฐานแบบไหนจึงได้รับโอกาสให้มีที่นั่งเป็นกรรมการด้วย? บางทีการจะได้รับที่นั่งแบบนั้น คงต้องคุกคามชีวิตของครอบครัวคนอื่นใช่ไหม ถ้าเขาหรือนางไม่ยอมเชื่อฟังล่ะ? สมาพันธ์ชาวยุทธได้ทำเรื่องชั่วช้าเช่นนี้มากี่ครั้งแล้ว?ใครจะรู้ได้? ไม่มีใครเพราะทุกคนรวมทั้งครอบครัวของพวกเขาคงจะตายไปแล้ว...”
เซียนผู้มีคุณธรรมและมีศักดิ์ฐานะคนหนึ่งแสดงความเห็นของเขาอย่างหงุดหงิด
“นี่คือเหตุผลที่ข้าจะไม่มีทางเข้าร่วมกับสมาพันธ์ชาวยุทธแน่” อาเบลโพล่งขึ้นมาเขาคือเซียนอิสระที่ระดับสูงกว่าฝูอิงมาก
“เราไม่ยอมตาย แต่เราจะไม่มีทางจำนนต่อภัยคุกคามดังกล่าว” เซียนอิสระอีกคนส่งเสียงดังขึ้นมาอย่างไม่พอใจ
เซียนคนหนึ่งผู้บัญญัติวิชากระแสมรณะที่ตัวเขาเองก็เป็นผู้โดดเด่นสะบัดกระบี่กล่าว “เซียนจะยอมรับการกระทำที่เลวร้ายเพื่อเอาชนะได้ยังไง เขาสูญเสียหัวใจเซียนไปแล้ว เขาเป็นแค่เบี้ยไร้ค่าในสมาพันธ์ชาวยุทธเท่านั้น”
กลุ่มดาวราชสีห์จะพลาดโอกาสนี้ได้ยังไง “ทำไมเราต้องทำสงครามกับสมาพันธ์ชาวยุทธด้วย? เพราะเราไม่อาจทนต่อความหยิ่งลำพองของพวกเขาต่อไปได้ พวกเขาหลงทางเสียแล้วและคิดว่าตนเองเป็นพระเจ้า พวกเขาอุปโลกน์ตัวเองว่าเป็นผู้พิทักษ์โลก และเราจะตกเป็นเหยื่อทดลองของพวกเขา ถ้าเราไม่ตอบโต้กลับ”
ในช่วงเวลานั้นเองสมาพันธ์ชาวยุทธตกเป็นเป้าสายตาของทุกคน
สมาพันธ์ไม่สามารถตอบสนองได้ทันเวลาเนื่องจากข่าวดังกล่าวได้แพร่สะพัดไปแล้ว
ตอนนี้ทางสมาพันธ์ถูกบังคับให้ออกมาประกาศต่อสาธารณชนว่าสิ่งใดก็ตามที่ฝูอิงทำลงไป นั่นเป็นการกระทำส่วนบุคคล พวกเขาจะต้องตรวจสอบการกระทำเช่นนี้อย่างเข้มงวด
อย่างไรก็ตามในรอบหลายปีที่ผ่านมาสมาพันธ์ชาวยุทธก็ได้ทิ้งชื่อเสียงที่เหลวแหลกไว้เช่นกัน และในเวลาไม่นานก็จะมีเรื่องน่าอายสองสามเรื่องที่สมาพันธ์ยอมรับว่าทำต่อสาธารณชนในบรรดาเรื่องเหล่านี้ ยังรวมถึงเรื่องฆ่าครอบครัวของคนอื่นด้วย
ชื่อเสียงของสมาพันธ์ชาวยุทธตอนนี้มีมลทินเสียแล้ว
สมาพันธ์ได้รับแรงกดดันในทางหนึ่ง และบุคคลภายในของพวกเขาก็ยังประณามการกระทำของฝูอิงผู้อาวุโสที่ริษยาและหงุดหงิดบางคนถึงกับโกรธ ที่แย่ที่สุดก็คือมันส่งผลต่อขวัญกำลังใจต่อทหารในแนวหน้า ทหารก็ยังรู้สึกว่าความยุติธรรมและอยุติธรรมก็เป็นส่วนหนึ่งของขวัญกำลังใจหลังจากข่าวของฝูอิงแพร่กระจายไป ผู้นำทหารล้มเหลวในการใช้มาตรการรับมือกับผลกระทบ ดังนั้นจึงมีแรงขัดแย้งกันระหว่างทหารกับหัวหน้าระดับกลาง
ในทางกลับกัน ขวัญกำลังใจของกองทัพกลุ่มดาวราชสีห์กลับสูงขึ้น พวกเขามุ่งมั่นต่อต้านการรุกรานอย่างบ้าอำนาจของสมาพันธ์ชาวยุทธ
เมื่อเห็นประจักษ์เรื่องนี้ ผู้นำทหารของกองทัพกลุ่มดาวราชสีห์ซึ่งมีความน่ากลัวอยู่แล้วมีความเข้าใจว่า น้ำขึ้นต้องรีบตัก ถึงเวลารุกคืนแล้ว
สมาพันธ์ชาวยุทธถูกบีบให้อยู่ในสถานการณ์ที่พวกเขาไม่เคยเผชิญมาก่อน