ตอนที่ 16-6 เกาะไนฟ์เบลด
เกาะไนฟ์เบลดมีเส้นรอบวงเกาะเกือบหมื่นกิโลเมตรบนเกาะมียอดเขาแห่งเดียวสูงตระหง่านปรากฏเหมือนใบมีดที่ถูกชูขึ้นไปบนฟ้า ดังนั้นเกาะนี้จึงเรียกกันว่าเกาะไนฟ์เบลด(เกาะมีดดาบ)
เกาะไนฟ์เบลดเป็นรังโจรกลุ่มที่ใหญ่ที่สุด ทุกคนที่เดินทางในทะเลสตาร์มิสท์จะพยายามห่างเกาะไว้ แต่แม้อย่างนั้น...กองกำลังของเกาะไนฟ์เบลดมักจะกระจายเส้นทางออกไป เมื่อหาเป้าหมายพบพวกเขาจะนำกลุ่มโจมตีพร้อมกันทันที
“ครืนนน...”น้ำทะเลซัดสาดกระทบชายหาดของเกาะ
จู่ๆ สายห้าฟาดเปรี้ยงลง หลังจากประกายไฟฟ้าหายไปมีคนผู้หนึ่งยืนอยู่ที่ชายหาด เป็นบุรุษเคร่งขรึมผู้สะพายดาบศึก
ดวงตาที่ดุดันของบุรุษผู้นี้มองไปที่ยอดเขาสะดุดตาที่อยู่ห่างไกล เขาพึมพำ “เกาะไนฟ์เบลด นี่คือแห่งที่สอง!” และจากนั้นบุรุษผู้นั้นก้าวเดินร่างของเขาเป็นกระพริบวาบ แต่ละก้าวไปได้หลายร้อยเมตร เขาเดินลึกเข้าไปในเกาะ
ที่ยอดเขามีสมาชิกโจรกลุ่มใหญ่อาศัยอยู่ที่นี่
บุรุษที่ท่าทีดุร้ายนี้อยู่ในชุดดำยาวและเขาก้าวเดินอย่างอาจหาญ ดูเหมือนว่าเขาไม่สนใจเกี่ยวกับพลังของโจรทั้งหลายเหล่านี้
“ใครกัน?” ภายในป่าเขามีบางคนตะโกนขึ้น
สมาชิกโจรส่วนใหญ่อาศัยอยู่ที่นี่เกาะไนฟ์เบลด จึงเป็นธรรมดาที่มีคนพบเห็นบุรุษผมดำผู้นี้ แต่บุรุษผมดำไม่แม้แต่จะมองคนที่ตะโกนยังเดินก้าวละหลายร้อยเมตรต่อไป
โจรผู้นั้นสีหน้าเปลี่ยน และตะโกนลั่นทันที “มีคนบุกรุกภูเขา!”
“มีคนกำลังบุกรุกภูเขา!”
เสียงคำรามโมโหดังทั่วยอดเขา พวกโจรที่กำลังพักหรือฝึกฝนตกใจตื่นและทั่วทั้งเกาะไนฟ์เบลดกลับกลายเป็นเสียงดังโกลาหลทันใดนั้นพวกโจรสลัดจำนวนมากเคลื่อนไหวมาตามเสียง บางคนวิ่งเข้าหาบุรุษชุดดำ
แต่บุรุษผมดำไม่สนใจแม้แต่น้อย ยังคงเดินหน้าต่อ
“ตรงนั้น!” มีคนพบเขาทันที
“หยุดนะ!” อีกคนหนึ่งตะโกน
แต่บุรุษผมดำยังคงเดินก้าวละร้อยเมตรไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องโดยไม่สนใจอะไร
“ฆ่า!” เสียงโจรทั้งหลายที่อยู่ล้อมรอบตะโกนขึ้นอย่างไม่ลังเลใจพวกเขาควงอาวุธเข้าใส่อย่างไร้ความเมตตา ประกายแสงสีแดงเพลิง สีเหลืองน้ำตาล...ของพลังโจมตีกฎธาตุทุกชนิดเริ่มโจมตี
สีหน้าของบุรุษผมดำไม่เปลี่ยนไปสักนิด
“แครก....”
เสียงประหลาดดังขึ้น ความเร็วของบุรุษผมดำไม่ตกลงแม้แต่น้อยเพียงสามก้าวเขาก็เคลื่อนตัวไปได้พันเมตร
“เฮ้? คนผู้นี้ไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้แม้แต่น้อยได้ยังไง?” โจรหลายคนไม่เข้าใจแม้แต่น้อย
“ปัง!”
จู่ๆ โจรสามสิบคนระเบิดขึ้นกะทันหัน เลือดเนื้อกระจายไปทั่วบริเวณประกายเทพของพวกเขาตกอยู่ด้านหนึ่ง ผู้โชคดีรอดชีวิตต่างหวาดผวา สีหน้าของพวกเขาขาวซีด ตอนนี้พวกเขาจึงได้รู้ตัวว่าเพิ่งจะถูกโจมตี
เพียงแต่ ความเร็วนั้นเร็วเกินไป พวกเขาไม่เห็นแม้แต่น้อย
กฎธาตุลม สายฟ้า และแสงเหมาะกับความเร็วมาก บางคนจะรวดเร็วมากเพียงใดขึ้นอยู่กับความสำเร็จของพวกเขา
แต่เมื่อถึงระดับความเร็วที่แม้แต่เทพแท้เหล่านี้ไม่สามารถรู้สึกอะไรได้เลยนั่นเป็นเรื่องน่ากลัว
จากเชิงเขาสู่ประตูปราสาทภายในเกาะไนฟ์เบลดเขาเดินเพียงยี่สิบแปดก้าว เขาฆ่าคนไปหกร้อยยี่สิบแปดคน เนื่องจากเขาสร้างความโกลาหลขนานใหญ่หัวหน้าเกาะไนฟ์เบลดทั้งสามคนต้องออกมาด้วยเป็นธรรมดา รวมทั้งยอดฝีมือของเกาะไนฟ์เบลดทุกคนรวมตัวอยู่ที่กำแพงปราสาท
เกาะไนฟ์เบลดมีผู้นำอยู่สามคน เทพชั้นสูงร้อยคนและเทพแท้เกินกว่าหมื่นคน ในแวดวงโจรถือได้ว่าพวกเขามีกองกำลังที่น่าทึ่ง
ขณะนี้เองเทพชั้นสูงเหล่านี้ออกมาพร้อมกับผู้นำทั้งสาม พวกเขาอยู่บนกำแพงของปราสาทกำลังจ้องมองมาทางบุรุษผมดำ
“เจ้าเป็นใคร ถึงได้กล้ามาฆ่าคนตามอำเภอใจที่นี่?” บุรุษผมขาวคนหนึ่งพูดขึ้นเสียงเสียงเย็นชา เขาคือแอ็กเก็ทหัวหน้าใหญ่ของเกาะไนฟ์เบลดและแอ็กเก็ทยังเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งในทั่วเกาะไนฟ์เบลด แอ็กเก็ทบอกได้ทันทีเลยว่าบุรุษผมดำรับมือได้ไม่ง่าย
“ทำไมคนผู้นี้ถึงได้มาหาเรื่องเราถึงรังโจร?” แอ็กเก็ทไม่เข้าใจ
สุดยอดฝีมือของแดนนรกโดยทั่วไปจะไม่ให้ความสนใจพวกโจร
บุรุษผมดำเงยหน้าช้าๆ หน้าของเขาขาวซีดและดวงตาที่จ้องมองแอ็กเก็ทเหมือนกับมีด “ข้าคือโรมิโอ บอนเซน!”
แอ็กเก็ทขมวดคิ้ว โรมิโอ บอนเซน?
เขาไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน
บุรุษผมดำพูดอย่างใจเย็น “ข้าได้ยินว่าท่านแอ็กเก็ทผู้นำแห่งเกาะไนฟ์เบลดกลายเป็นอสูรหกดาวมานานแล้ว วันนี้ข้ามีสองเหตุผลกับการมายังเกาะไนฟ์เบลด เหตุผลแรกเพื่อท้าทายเจ้า แอ็กเก็ท!”
แอ็กเก็ทอดหรี่ตามองไม่ได้ ขณะที่เขาประเมินน้ำหนักฝีมือด้วยสายตาเย็นชา
เขาเป็นอสูรหกดาวมาก่อนที่จะกลายเป็นโจรหลังจากผ่านไปหลายปี หลายคนไม่ทราบว่าตอนนี้เขามีพลังระดับอสูรเจ็ดดาวหรือไม่ นี่เป็นเหตุผลให้ไม่มีใครในเกาะไนฟ์เบลดกล้าตอแยเขา ไม่มีใครต้องการรุกรานคนที่อาจจะกลายเป็นอสูรเจ็ดดาวได้”
“คนผู้นี้กล้ามาท้าทายข้า อย่างนั้น... มีความเป็นไปได้ว่าเขามั่นใจว่าสามารถท้าทายกับอสูรเจ็ดดาวได้!” แอ็กเก็ทคำนวณอยู่ในใจ
ครู่ต่อมา...
“พี่น้อง ผนึกกำลังฆ่ามัน!” แอ็กเก็ทแผ่สำนึกเทพไปยังเทพชั้นสูงใกล้ๆรวมทั้งหัวหน้าอีกสองคน กลุ่มเทพชั้นสูงชักอาวุธพร้อมเพรียงกันและโจมตีอย่างสุดกำลังทันที
“ควั่บ!”
บุรุษผมดำลอยตัวขึ้นไปในท้องฟ้าทันที
“แอ็กเก็ท, เจ้าทำให้ข้าผิดหวังจริงๆ!” เสียงเยือกเย็นดังขึ้นจากท้องฟ้า ขณะเดียวกันปรากฏสายฟ้าและประกายไฟฟ้านับไม่ถ้วนม้วนตัวเป็นวังวนกระแสไฟฟ้าสว่างวาบแปลบปลาบสะดุดตา ฉายส่องใบหน้าของแต่คนในปราสาท
แอ็กเก็ทและคนอื่นๆ ตกใจกันหมดทุกคน
“พี่ใหญ่! นี่ดูเหมือนจะเป็นพายุหมอกทะเล” ไดมอนหัวหน้าคนที่สองที่อยู่ใกล้ๆแอ็กเก็ทพูดอย่างตื่นตัว
นี่คือฉากภาพของพายุหมอกทะเลจริงๆ สายฟ้านับไม่ถ้วนปรากฏหมุนเป็นวงโค้ง
“พี่ใหญ่ เราควรจะทำยังไง?” นีลีสหัวหน้าคนที่สามกระวนกระวายใจเช่นกัน
หน้าของแอ็กเก็ทน่ากลัว เขารู้ว่าทันทีที่สายฟ้านับไม่ถ้วนระดมโจมตีลงมามีความเป็นไปได้ถึงเก้าสิบเปอร์เซนต์ว่าเทพชั้นสูงทั้งหมดคงจะถูกฆ่า คนเหล่านี้คือยอดฝีมือระดับสูงของเกาะไนฟ์เบลด แอ็กเก็ทตะโกนเสียงดังทันที “โรมิโอ, ในเมื่อเจ้าท้าทายข้า..อย่างนั้นก็เข้ามาเลย
ขณะที่เขากล่าวเหล็กหมาดเขียวคู่หนึ่งปรากฏอยู่ในมือของเขา
“นี่คือดาบโจมตีที่ข้าเพิ่งพัฒนาขึ้น ถ้าเจ้าสามารถทนรับดาบนี้ได้ ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า!” เสียงเย็นชาดังขึ้นจากท้องฟ้าซึ่งมีประกายสายฟ้าและไฟฟ้าหมุนเป็นวังวน เมื่อเห็นเช่นนี้แอ็กเก็ทได้แต่แค่นเสียงเย็นชา ตลอดทั้งร่างของเขาเริ่มเปล่งรัศมีเขียวเลือนราง
ขณะเดียวกันทั่วทั้งตัวของแอ็กเก็ทกลายเป็นสภาพสว่างพร่าเลือนเหมือนหมอกไปทั้งตัว
“งั้นเจ้าก็มีความสามารถอยู่บ้างจริงๆ” เสียงเยือกเย็นดังลงมาจากวังวนสายฟ้าเบื้องบน
“บึ้ม!”
วังวนจากสายฟ้าขนาดใหญ่มหึมาเริ่มหมุนเร็วขึ้นทันที และสายฟ้าหนาแน่นเป็นเนื้อเดียวกันจากจุดนี้ลำแสงดาบสายฟ้าที่รุนแรงถูกยิงออกมาทันที พลังแฝงมหาศาลสร้างระลอกกระเพื่อมในท้องฟ้าขณะฟันลง
ตลอดทั้งตัวของแอ็กเก็ทคลุมไปด้วยหมอกและผิวของหมอกมีกงล้อลมปรากฏและหมุนปั่นอย่างรวดเร็ว
“แครก...” รอยแยกมิติปรากฏ
“พลังป้องกันที่ทรงพลังที่สุดของพี่ใหญ่” ไดมอนหัวหน้าคนที่สองและนีลีสหัวหน้าคนที่สามมองดูจากที่ไกลอย่างกระวนกระวาย พี่ใหญ่ของพวกเขาฝึกมาทางสายกฎธาตุน้ำ พลังป้องกันของกฎธาตุน้ำทั้งอ่อนและนุ่มนวลและถือได้ว่าเป็นพลังป้องกันที่ทรงพลังที่สุดในสายกฎธาตุแล้ว
“บึ้ม!”
ดาบสายฟ้าฉายประกายวาบขณะฟันลงใสกงล้อลม
“ปัง!” กงล้อลมระเบิดกลายเป็นเหล็กหมาดเขียวเข้มร่วงหล่นอยู่ข้างหนึ่งหมอกสลายไปเช่นกัน แสงสีเขียวที่คุมร่างแอ็กเก็ทหมุนเป็นรูปคล้ายเยื่อบางคลุมตัวแอ็กเก็ท เขาต้องการหนี แต่ความเร็วของดาบสายฟ้าเร็วเกินไปและตัดเข้าร่างของเขาโดยตรง
มันหยุดชะงักชั่วครู่
แต่จากนั้นดาบสายฟ้าฉายประกายวาบและตัดผ่าเข้าไปในเยื่อบุพลังนั้น
“ปัง!”จากนั้นเกิดการระเบิด ทั้งร่างของแอ็กเก็ทขาดกระจาย ประกายเทพสามชิ้นร่วงลงพื้นพร้อมกับแหวนเก็บสมบัติ ดาบสายฟ้าคืนสภาพเป็นดาบศึก และบุรุษผมดำโรมิโอบอนเซนปรากฏตัวอีกครั้ง
“แหวนมิติเก็บสมบัติ!”
หัวหน้าอีกสองคนไดมอนและนีลีสจ้องมองแหวนมิติเก็บสมบัติทันที
แอ็กเก็ทดูแลสมบัติของเกาะไนฟ์เบลดมากกว่าครึ่งหนึ่งไว้ ทั้งหมดเก็บไว้ในแหวนมิติเก็บสมบัติของเขา
บุรุษผมดำโรมิโอยื่นมือรับแหวนมิติเก็บสมบัติไว้ ภาพที่เห็นนี้ทำให้กล้ามบนใบหน้าของพวกโจรกระตุก โรมิโอมองดูประกายเทพทั้งสามชิ้น “อสูรหกดาว? ความจริงเขามีพลังระดับอสูรหกดาว ถ้าข้าไม่บรรลุระดับใหม่เมื่อปีที่แล้ว ก็คงฆ่าเจ้าไม่ง่ายเหมือนอย่างวันนี้แน่”
โรมิโอหันไปมองคนอื่น
ไดมอนและนีลีสก็เป็นเทพชั้นสูงเช่นกันรู้สึกกลัวจนใจสั่น แอ็กเก็ทหัวหน้าของพวกเขาตายแล้ว ใครยังจะเอาชนะโรมิโอผู้นี้ได้? นอกจากนี้สำหรับยอดฝีมือระดับโรมิโอเทพชั้นสูงร้อยคนคงไม่สามารถทำอะไรกับเขาได้แม้แต่น้อย ต่อให้ผนึกกำลังสู้ก็ตาม
“ท่านโรมิโอ, พี่ใหญ่ตายเพราะพลังของเขาด้อยกว่าท่านท่านจากไปเป็นดีที่สุด” ไดมอนข่มความโกรธของเขา
บุรุษผมดำกวาดตามองพวกเขาจากนั้นพูดต่อ “ข้าบอกพวกเจ้าแล้วข้ามาในวันนี้ด้วยเหตุผลสองประการ ประการแรกเพื่อท้าสู้กับแอ็กเก็ท เหตุผลนี้สำเร็จลงแล้ว เหตุผลประการที่สอง...” ริมฝีปากของบุรุษผมดำยิ้มขึ้น เขาหัวเราะ
บุรุษผู้เยือกเย็นผู้นี้หัวเราะได้จริง รอยยิ้มของเขาแสดงถึงอาการดีใจ เพียงแต่กลุ่มโจรทุกคนรู้สึกใจสั่นสะท้าน
“เหตุผลที่สองก็คือ ทำลายเกาะไนฟ์เบลด!” โรมิโอบุรุษผมดำพูดด้วยเสียงเย็นชา!
“หนี!!!”
เสียงตะโกนดังขึ้นทันที และหัวหน้าทั้งสองคนรวมทั้งกลุ่มของเทพชั้นสูงแตกกระเจิงไปทุกทิศ โจรกลุ่มใหญ่บนเกาะไนฟ์เบลดแตกฮือทันที
“บึ้ม!” สายฟ้าจำนวนมากโจมตีพร้อมกันทันที
บรรดาเทพชั้นสูงร้อยคน ซากศพห้าสิบสองคนล้มลงทันที แต่แน่นอนว่าศพทั้งห้าสิบสองนั้นมีร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ระดับเทพชั้นสูงด้วยเช่นกัน ดังนั้นพวกเขายังคงหนีต่อไป
“พวกเขาหนีได้รวดเร็วดี” บุรุษผมดำโรมิโอหัวเราะเย็นชา ตอนนี้โจรทุกคนในเกาะไนฟ์เบลดต่างหนีไปหมด เหลืออยู่แต่เพียงศพเท่านั้น!
“เป้าหมายที่สองสำเร็จแล้ว! ได้เวลาเริ่มเป้าหมายประการที่สาม....” บุรุษผมดำกลายเป็นประกายแสงสายฟ้าพุ่งหายลับไปในขอบฟ้า
หัวหน้าโจรคนที่สองไดมอนพาเอาเทพชั้นสูงสามสิบหกคนและเทพแท้อีกหลายพันหนีไป พวกเขาโดยสารอสูรโลหะมองดูภาพที่น่ากลัวข้างหน้า ขณะที่หนีเอาตัวรอดเพื่อไม่ให้ถูกฆ่ากันหมดหัวหน้าคนที่สองและหัวหน้าคนที่สามนำกำลังแยกย้ายกันหนี
“โชคร้ายอะไรอย่างนี้? เรากำลังทำมาได้ดีแล้ว เจ้าบัดซบที่แข็งแกร่งอย่างนี้ปรากฏตัวมาตั้งแต่เมื่อใด?” ความโกรธของไดมอนไม่มีขอบเขต
“สมบัติมหาศาลที่เราสร้างมา!” หัวใจของไดมอนปวดร้าว หัวหน้าแอ็กเก็ทและแหวนเก็บสมบัติซึ่งตกอยู่หลังจากเขาตาย! สมบัติที่เก็บเอาไว้มีมากมายเหนือกว่าที่เขาและหัวหน้าคนที่สามเก็บรวมกันเสียอีก
เทพชั้นสูงรอบๆ ตัวพวกเขามีสีหน้าบิดเบี้ยวน่าเกลียด
“หัวหน้าสอง มีอสูรโลหะอยู่ข้างหน้าเรา” ทันใดนั้นบริวารคนหนึ่งรายงานเขา
ไดมอนมองดูอสูรที่อยู่ในโลกด้านนอก โจรเหล่านี้เป็นพวกที่ดักปล้นมาตั้งแต่แรกแล้ว ตอนนี้พวกเขาอยู่ในสภาพอารมณ์ที่ผิดปกติใจอัดแน่นไปด้วยความโกรธ ไดมอนไม่กล้าระบายความโกรธกับบุรุษผมดำโรมิโอ แต่เขากล้าระบายอารมณ์กับคนเดินทางพวกนี้
“ฆ่าพวกมัน ฆ่าพวกมันให้หมด อย่าให้เหลือแม้แต่คนเดียว!” ไดมอนพูดด้วยน้ำเสียงอำมหิต
กลุ่มของไดมอนฆ่าทุกคนในเส้นทางขณะที่พวกเขามุ่งหน้าไปยังเกาะอื่น
กลุ่มของลินลี่ย์พักอย่างสบายในอสูรโลหะและแอ็ชกำลังหัวเราะ “เราอยู่ห่างจากเกาะไนฟ์เบลดเกินกว่าหมื่นกิโลเมตร ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร”
“เกาะไนฟ์เบลดแข็งแกร่งมากนักหรือ? เจ้าถึงได้กลัวพวกเขานัก?” บีบีกล่าว
“เกาะไนฟ์เบลดมีเฉพาะเทพชั้นสูงมากกว่าร้อยคนและข้าได้ยินมานานแล้ว หัวหน้าของพวกเขาเป็นอสูรหกดาวตามคำบอกขานเล่ากล่าวตอนนี้เขาควรมีพลังระดับอสูรเจ็ดดาวไปแล้ว เจ้าบอกข้าได้ไหมว่าทรงพลังไหม? แม้แต่หัวหน้ารองอีกสองคนก็มีพลังอ่อนแอกว่าหัวหน้าใหญ่เพียงเล็กน้อย” แอ็ชพูดด้วยความกลัว
ลินลี่ย์ลอบประหลาดใจ
กลุ่มโจรมีอสูรเจ็ดดาวอยู่ในนั้นจริงหรือนี่?
“เอ๊ะ?” ลินลี่ย์มองผ่านหน้าใสของอสูรโลหะออกไปด้านข้าง “ทำไมถึงมีอสูรโลหะสิบตัวและแต่ละตัวก็มีขนาดใหญ่นักเล่า? ดูเหมือนว่าจะมีคนเป็นร้อยอยู่ภายในอสูรโลหะแต่ละตัว จำนวนคนรวมทั้งหมดก็คงหลายพัน เป็นไปได้ไหมว่ากองคาราวานสินค้ากำลังเดินทางผ่านทะเลสตาร์มิสท์?”
ทันใดนั้นเอง
อสูรโลหะทั้งสิบกระจายกำลังบินด้วยความเร็วสูง ต่อมากลุ่มของลินลี่ย์มีคนราวยี่สิบคนถูกล้อมโดยกลุ่มคนที่ออกมาจากอสูรโลหะทุกตัว
กลุ่มของลินลี่ย์ตะลึงทันที
“แม้ว่าพวกเขาต้องการจะซุ่มปล้นเรา ก็ไม่จำเป็นต้องใช้คนเป็นพันกับคนกลุ่มเล็กๆของเราเลย” ลินลี่ย์รู้สึกมึนชา