ตอนที่ 16-5 บุรุษผู้ทรงพลัง
เมื่อพายุหมอกทะเลเกิดขึ้น สายฟ้าเป็นล้านล้านสายจะฟาดลงมาจากท้องฟ้า แม้แต่เทพชั้นสูงก็ทนรับพลังนี้ไม่ได้ นี่ทรงพลังขนาดไหน?
แต่เบสผู้นี้ยังกล่าวอ้างว่ามีใครบางคนกล้าบินอยู่ในสถานการณ์แบบนั้นด้วยหรือ?
“ฮ่าฮ่า, เบส! เจ้าหลบหลีกสถานการณ์นี้ได้ก็เลยดีใจมากจนพ่นเรื่องไร้สาระออกมาหรือ? เจ้าก็เห็นพายุหมอกทะเลแล้ว แม้แต่เทพชั้นสูงที่ทรงพลังมากมายสามารถทนต่อสายฟ้านี้ได้ก็คงไม่บ้าพอบินไปในอากาศแน่” นักสู้อสูรผมเขียวหัวเราะขณะกล่าว
ลินลี่ย์และคนอื่นๆ พยักหน้าเล็กน้อย
ในสภาพแวดล้อมแบบนี้เป็นไปได้ว่ามีบางคนที่ทรงพลังระดับอสูรเจ็ดดาวหรือระดับเทพอสูรคงจะกล้าบินได้
“ถ้าเจ้าไม่เชื่อข้า อย่างนั้นก็ลืมไปเถอะ” เบสหัวเราะเบาๆไม่ใส่ใจอะไรอย่างเห็นได้ชัด “แต่ข้าไม่คิดว่าข้าเห็นผิดแน่นอน ข้าไม่เชื่อว่าข้า ข้าเพิ่งเห็นอะไรหลายอย่างมา” ในฐานะเทพแท้ เขาจะเห็นหลายอย่างได้อย่างไร?
“พี่ใหญ่ ก็แค่บินในสายฟ้า ท่านกับข้าสองคนก็สามารถบินได้ นั่นจะแค่ไหนกันเชียว?” เสียงของบีบีดังขึ้นในใจของลินลี่ย์ “แล้วไงเล่าถ้าสายฟ้าฟาดใส่ข้า? มันจะทำอะไรได้? เมื่อเราอยู่ในปราสาททราย, พี่ใหญ่,ท่านก็โดนเทพชั้นสูงนั่นใช้สายฟ้าโจมตีเต็มที่ แต่ก็ไม่เป็นไร ไม่ใช่หรือ?
ลินลี่ย์หัวเราะ
สายฟ้าหรือ?
ร่างหลักของเขาซึมซับหยดของเลือดทองนั้นไว้และจากนั้นดูดซับหยดพลังมหาเทพที่ทรงพลัง ร่างของเขาจึงมีพลังมากเหนือกว่าสมบัติเทพชั้นสูงไปแล้ว ลินลี่ย์ก็มั่นใจว่าความสามารถของเขาสามารถต้านพลังสายฟ้าได้
“บีบี! ข้าแน่ใจว่าเจ้าไม่ได้โอ้อวด” ลินลี่ย์ตอบเขาในใจ
บีบีหัวเราะ “เข้าใจแล้ว พี่ใหญ่ข้าไม่ใช่คนที่ชอบโอ้อวดพร่ำเพรื่อ” ทั้งสองคุยกันผ่านการเชื่อมโยงวิญญาณ และไม่มีทางที่คนอื่นจะได้ยิน
“ข้าก็เพิ่งเห็นมาเหมือนกัน มีคนบินอยู่ในสายฟ้าแน่นอน”จู่ๆ ก็มีเสียงดังขึ้น
“โอว?”
ลินลี่ย์อดประหลาดใจไม่ได้ เขาหันไปมอง ไม่ใช่แค่ลินลี่ย์ อสูสผู้โชคดีรอดชีวิตคนอื่นก็หันไปมองด้วยคนพูดก็คือบุรุษหนุ่มหัวโล้นที่เป็นเทพชั้นสูง เขาพยักหน้าและกล่าว “และข้าเห็นชัดเจนว่าบนหลังของเขามีดาบโค้ง หรือดาบหนักสักอย่างนี่แหละ”
บุรุษหนุ่มหัวโล้นเป็นเทพชั้นสูง คำพูดของเขาน่าเชื่อถือมากกว่าเบส
“มีคนอยู่จริงๆ น่ะหรือ?”
“ถ้าท่านบ็อฟพูดก็คงเป็นเช่นนั้น มันจะไม่เป็นไปได้ยังไง?” ใครบางคนตอบทันที
“ข้า..เบสจะโกหกเรื่องแบบนี้ได้ยังไง? แม้แต่ท่านบ็อฟก็ยังพูดเหมือนกัน”เบสค่อนข้างดีใจทันที
บุรุษหนุ่มหัวโล้นชื่อว่าบ็อฟ บุรุษหนุ่มหัวโล้นหันมาจ้องมองดูเบส “เบส! เมื่อครู่นี้ มีสายฟ้านับไม่ถ้วนฟาดลงมานั่นเป็นห้วงเวลาเป็นหรือตายก็ได้ ข้ามีความมั่นใจว่าเป็นเหตุผลให้ข้าฟุ้งซ่านเล็กน้อยและยังมองดูรอบๆตัวข้าได้ ในสถานการณ์เช่นนั้นเจ้ายังสนใจในระยะห่างอย่างนั้นได้ยังไง?”
เบสตกใจ
ช่วงเวลาวิกฤติ เขาจะกล้าฟุ้งซ่านได้ยังไง?
เบสหัวเราะเก้อเขินขณะที่เคราของเขากระพือ “ข้าเพียงแต่มองระยะไกลหลังจากหลบผ่านวิกฤติสายฟ้าโจมตีได้ เพียงแต่เวลานั้น คนผู้นั้นลอยตัวอยู่ห่างๆแล้ว นั่นคือสาเหตุที่ข้าเห็นได้ไม่ชัดนัก รู้แต่ว่าเขามีอาวุธอยู่บนหลัง
“โอว” บุรุษหนุ่มหัวโล้นกล่าว
“เอาละ ทุกคนเราผ่านด่านทดสอบนี้ได้อย่างปลอดภัยนับว่าน่าสนุกสนานนัก ฮ่าฮ่า..แต่เรายังต้องเดินทางต่อไป” แอ็ช..ผู้ว่าจ้างหัวเราะ ขณะเดียวกันอสูรโลหะซึ่งแปลงเป็นเรือก็ปรากฏอยู่เหนือทะเล
ลินลี่ย์และคนอื่นๆ เข้าไปในอสูรโลหะทันที
“วืดดดด” อสูรโลหะแล่นฝ่าคลื่นต่อไปทันที
ภายในอสูรโลหะ พวกอสูรต่างมีอารมณ์ดีกันทุกคนหลังจากผ่านวิกฤติชีวิตมาได้ทุกคนหัวเราะเสียงดังดื่มเหล้า และพูดคุย ที่ผนังของห้องโถงดูโปร่งใสทั้งหมด ทุกคนสามารถมองเห็นทะเลด้านนอกผ่านผนังโลหะใส ตอนนี้บนผิวทะเลยังมีประกายไฟฟ้าอย่างเลือนราง แต่พลังอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด
“ที่ใจกลางวังวนมีสายฟ้าฟาดลงมาได้ยังไง?” โอลิเวอร์ยืนพิงผนังห้องโถงด้านหนึ่งจ้องมองด้านนอกพูดขึ้นทันที
“ยังมีสายฟ้าอีกหรือ?”
ลินลี่ย์และคนอื่นๆ หันไปมองทันที จากการมองผ่านผนังใสพวกเขาสามารถเห็นตำแหน่งซึ่งเป็นศูนย์กลางวังวนพายุสายฟ้าทันทีวังวนพายุหายไปแล้ว แต่ในตำแหน่งเหนือจุดนั้นสายฟ้าหนาแน่นโจมตีลงในตำแหน่งเดียว
อสูรโลหะเดินหน้าอย่างต่อเนื่องใกล้ตำแหน่งนั้นเข้าไปทุกที
“แปลกจริงๆข้าไม่เคยได้ยินว่ายังมีสายฟ้าโจมตีต่อหลังจากพายุหมอกทะเลผ่านไปแล้ว” ทันใดนั้นผู้คนเริ่มบ่นพึมพำ แม้ว่าไม่มีใครในพวกเขากังวลเรื่องความปลอดภัยแต่เพราะสายฟ้าหนาแน่นอยู่ในจุดเดียว จึงไม่มีทางที่จะโจมตีใส่พวกเขา
ลินลี่ย์จ้องมองทันที
“มีใครบางคนอยู่ที่นั่น!” ขณะที่พวกเขาเข้าไปใกล้ลินลี่ย์พบว่าในพื้นที่สายฟ้าพุ่งลงมาต่อเนื่อง ยังมีบุรุษคนหนึ่งยืนอยู่เหนือผิวทะเล
ระยะยังห่างไกลมากและลินลี่ย์แทบจะเห็นร่างของเขาไม่ชัด สายฟ้าฟาดลงมาอย่างรุนแรง แต่ร่างนั้นไม่หลบแม้แต่น้อย
“อา, มีบางคนอยู่ใต้สายฟ้าด้วย!” คนอื่นเริ่มพบเห็นด้วยเช่นกัน
“นั่นคือตำแหน่งใจกลางของวังวน สายฟ้าทรงพลังมาก แม้แต่อสูรเจ็ดดาวในตำนานก็ไม่น่าจะรับพลังสายฟ้าโจมตีได้โดยตรง”อสูรคนอื่นตกใจ อย่างไรก็ตามพวกเขาทุกคนเพียงแต่ได้ยินเรื่องราวอสูรเจ็ดดาวเท่านั้นการพบเห็นอสูรเจ็ดดาวเป็นเรื่องที่ยากมาก
“เฮ้, แอ็ช รีบเข้าไปใกล้ๆ ไปดูกันได้ไหม?” ทุกคนเริ่มกระตุ้นเขาทันที
ในแดนนรก ทุกคนเทิดทูนยอดฝีมือผู้แข็งแกร่ง คนผู้กล้ายืนอยู่ในท่ามกลางพายุหมอกทะเลและยังรับสายฟ้าฟาดด้วยตนเองย่อมควรค่าแก่การนับถือ แอ็ชพูดอย่างใจกว้าง “ได้เลย ข้าจะให้อสูรโลหะตรงไปเดี๋ยวนี้อย่างไรก็ตาม อย่างมากที่สุดเราคงจะเข้าใกล้ได้ระยะหนึ่งกิโลเมตรเท่านั้นการเข้าไปใกล้เกินไป อาจจะตอแยโทสะของท่านผู้นั้น”
ขณะที่เขากล่าวอสูรโลหะเข้าไปใกล้ที่ตำแหน่งนั้น
ระยะหนึ่งกิโลเมตร สำหรับพวกเทพก็ถือว่าใกล้มากพอแล้ว พวกเทพสามารถเห็นมดได้ในระยะนั้น
ตอนนี้สายฟ้าที่ดูเหมือนหนาใหญ่เป็นร้อยสายผสานกันโจมตีใส่คนผู้นั้นในทะเล คนผู้นั้นตัวผอมแต่เขายืนนิ่งกับที่ตัวตรงเหมือนคันทวน ผมสีดำยาวประบ่ากระพือพัดอยู่ในสายลม
ลินลี่ย์สามารถบอกได้ชัดเจนเลยว่าคนผู้นี้สะพายดาบศึกเล่มหนึ่งและศีรษะของเขาเงยหน้าจ้องมองสายฟ้า
“แครก...”
สายฟ้านับไม่ถ้วนฟาดใส่หน้าผากของเขาอย่างรุนแรงและจากนั้นแล่นไปทั่วร่างของเขา อย่างไรก็ตามบุรุษที่ยืนนิ่งกับที่ไม่ขยับเหมือนกับภูผา บางครั้งตาของเขาจะปล่อยรังสีเหมือนสายฟ้าแดงไปปะทะในเมฆหมอกด้านบนทำให้สายฟ้าหนาแน่จากหมอกเพิ่มความกล้าแข็งขึ้น
“ทรงพลังมาก!” หัวใจของลินลี่ย์กระตุก
พลังจากสายฟ้าปะทะกันทำให้มิติสั่นสะท้าน แต่คนผู้นั้นไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใด
ทุกคนในอสูรโลหะกลั้นลมหายใจ ยอดฝีมืออย่างนี้น่ากลัวมาก
“ยิงสายฟ้าจากดวงตา?” ลินลี่ย์เริ่มเข้าใจ คนผู้นี้น่าจะเป็นคนที่ฝึกมาทางกฎสายฟ้า
“เขาน่าจะเป็นที่ฝึกในกฎสายฟ้า” โอลิเวอร์พูดอย่างสงบ
คนอื่นๆ ตกใจพากันตื่นตัว เบสพยักหน้าด้วยเช่นกัน “สายฟ้าหลังจากฟาดลงมาจะสลายไปตามธรรมดา แต่คนผู้นี้โจมตีหมอกทะเลอย่างต่อเนื่อง พยายามล่อสายฟ้าจากหมอกทะเลให้ฟาดลงมาครั้งแล้วครั้งเล่า..แต่เท่าที่ข้าบอกได้ เขามีความสนุกกับการถูกสายฟ้าฟาดใส่”
“เขากำลังฝึก”บ็อฟกล่าว
ทุกคนพยักหน้า
สำหรับบางคนที่ฝึกในกฎสายฟ้า แล้วมาประสบกับสายฟ้าแห่งพายุหมอกทะเลนั่นเป็นวิธีฝึกที่ยอดเยี่ยม อย่างไรก็ตามวิธีฝึกแบบนี้ทำได้โดยยอดฝีมือที่แข็งแกร่งทรงพลังเท่านั้น
“ไปกันเถอะ” แอ็ชผู้ว่าจ้างหัวเราะทันที “ทั้งหมดที่เราทำได้ก็คือดูเขา ขณะที่เขายืนอยู่กับที่ ถ้าท่านผู้นั้นฝึกฝนเสร็จและเห็นเราอยู่ที่นี่และถ้าเขาโกรธ เราจะลำบากได้” ขณะที่เขาพูด แอ็ชสั่งอสูรโลหะให้จากไป
ทุกคนเริ่มหัวเราะ
ยอดฝีมือมีความภูมิใจของตนเองเว้นแต่มีสถานการณ์พิเศษบางอย่าง พวกเขาจะไม่ระบายความโกรธกับคนที่อ่อนแอกว่า
แสงอาทิตย์โลหิตฉายรัศมีผ่านหมอกบางลงมายังลูกคลื่นด้านล่างและอสูรโลหะขับเคลื่อนผ่านสายลมและคลื่นมุ่งไปข้างหน้า
ลินลี่ย์และเดเลียนั่งอยู่ที่หัวเรือ
“สองปีแล้วตั้งแต่เราออกเดินเรือในทะเล ในทะเลมีโจรน้อยกว่าในภาคพื้นทวีปมาก” ลินลี่ย์ถอนหายใจ “ในทวีปเรดบุด มีบ่อยครั้งมากที่เราต้องเผชิญกับพวกโจร อย่างไรก็ตามในทะเลสตาร์มิสท์เราจะเจอพวกเขาสองเดือนต่อครั้ง”
เดเลียพยักหน้า
และจากนั้นนางหัวเราะ “ลินลี่ย์! เจ้าร้ายกาจจริงๆ ไม่ว่าเจ้าพูดเรื่องใดๆ จบมักจะเกิดเรื่องนั้นเสมอ”
“อะไรนะ?” ลินลี่ย์หันไปมองทันที
ความจริงในระยะไกลออกไปใต้น้ำทะเลมีร่างหลายร่างลอยขึ้นมา ขณะเดียวกัน งูเขียวยักษ์ดุร้ายตัวขนาดสี่คนโอบผุดออกมาจากผิวน้ำทะเล มันยาวอย่างน้อยร้อยเมตร งูเขียวยักษ์มีขนาดเท่ากับมังกรยักษ์กระแทกใส่อสูรโลหะทำให้มันหยุดทันที
ลินลี่ย์อดส่ายศีรษะหัวเราะไม่ได้ แค่เพียงพลิกมือ...
“โรวววว!” หมีปฐพีสูงสิบเมตรปรากฏตัวออกมาทันที หมียักษ์คว้าตัวงูเขียวยักษ์ทันทีและฉีกงูยักษ์ออกเป็นสองส่วน
ความจริงเหตุผลเดียวที่ฝ่ายตรงข้ามสร้างสัตว์ประหลาดธาตุหยาบนี้ก็เพียงเพื่อให้อสูรโลหะหยุดชะงัก
“หึหึ ข้าไม่คาดเลยว่าเราจะเผชิญหน้ากับโจร ทะเลสตาร์มิสท์น่าเบื่อเกินไป ในที่สุดก็มีเรื่องน่าสนใจปรากฏขึ้น” เสียงหัวเราะดังขึ้นมาจากภายในอสูรโลหะขณะที่อสูรหลายคนกรูกันออกมา
กลุ่มอสูรทั้งหมดอยู่ด้านนอกอสูรโลหะ
ขณะนั้นเอง ปรากฏร่างหลายร้อยร่างลอยตัวอยู่ต่อหน้าอสูรโลหะ เพียงแต่ตอนนั้นพวกเขาสังเกตเห็นเดเลียทันที
“อสูรเทพชั้นสูง?” โจรทั้งร้อยคนรู้สึกว่าสถานการณ์มีอุปสรรคเสี้ยนหนาม
“เฮ้, เจ้าจะกลัวทำไม? เจ้ากลัวกะอีแค่เห็นอสูรเทพชั้นสูงสองคนนี่น่ะหรือ? เบสบุรุษเคราดำเป็นคนที่กลัวว่าโลกจะสงบเกินไปจึงตะโกนร้องเรียกเสียงดัง
กลุ่มของลินลี่ย์ทั้งสี่คนผ่อนคลายมาก โจรร้อยกว่าคนนี้ไม่มีเทพชั้นสูงแม้แต่คนเดียว พวกเขาไม่มีอาการคุกคามแม้แต่น้อย
“แยกย้าย” คนที่เป็นหัวหน้าเป็นชายหัวโล้นมีเกล็ดปลาที่หน้าผากเป็นประกาย
ในขณะนั้นเอง...
ลินลี่ย์และอีกสองสามคนสามารถรู้สึกได้ถึงพลังที่น่ากลัว และพวกเขาหันไปมองทันที ตอนนั้นกลุ่มของลินลี่ย์เห็นสายฟ้าพุ่งลงจากฟ้ารายล้อมคนผู้หนึ่งไว้ ลินลี่ย์พบด้วยความประหลาดใจ “เป็นเขานั่นเอง” นั่นคือยอดฝีมือที่พวกเขาพบเมื่อปีที่แล้วคนที่รับพลังสายฟ้าโจมตีจากพายุหมอกทะเลโดยตรง
ขณะเดียวกับที่ร่างนี้ลอยตัวลงมา เขาปล่อยหมัดขวากระแทกลงจากอากาศอย่างรุนแรง
“ปัง!”
หมัดอัดกระแทกใส่อากาศที่ว่างเปล่า แต่เสียงระเบิดพลังดังน่ากลัว ขณะเดียวกันในศูนย์กลางของหมัดมีระลอกคลื่นพลังกระจายออกเป็นแนวโค้งหงิกงอผ่านกลุ่มลินลี่ยไปโจมตีกลุ่มโจรที่ต้องการหนี
เงียบงัน...
โจรทุกคนที่ถูกพลังไฟฟ้าสั่นสะท้านจากนั้นร่วงลงและจมน้ำช้าๆ
เพียงโจมตีครั้งเดียว โจรร้อยกว่าคนก็ตายกันหมด!
แอ็ช, เบสและคนอื่นๆ ต่างจ้องมองปากอ้าค้าง ลินลี่ย์เคยพบกับเอลควินบลูไฟร์และอสูรอะเมทิสต์น้อยและยอดฝีมือทรงพลังอื่นมาแล้วดังนั้นเขาจึงมีประสบการณ์มากกว่าคนอื่น จึงไม่ตกใจมากเกินไปนัก เพียงแต่ลินลี่ย์สงสัย “ในแดนนรกมีโจรนับไม่ถ้วนเลย กล่าวโดยทั่วไปพวกยอดฝีมือไม่สนใจจะจัดการกับพวกเขา แต่ยอดฝีมือผู้นี้...ทำไมกัน?
นี่เป็นเรื่องน่าสงสัยจริงๆ
ขณะเดียวกันลินลี่ย์มองดูคนผู้นี้ซึ่งอยู่ใกล้พวกเขาอย่างระมัดระวัง หน้าของเขาเหมือนรูปสลักจากมีดและสายตาของเขาเหมือนมีดคมกริบ เขาเปล่งกลิ่นอายที่น่ากลัวและแหลมคมผมทุกเส้นเหยียดตรงเหมือนลวด ขณะที่สะบัดพลิ้วในสายลมและมีเสียงแปลกประหลาด
บุรุษผู้นั้นก้มหน้ามองดูศพโจรที่กำลังจมแค่นเสียงเย็นชา “พวกโจรขโมยสมควรตายให้หมด!”
หลังจากพูดจบเขาบินเข้าไปในเมฆหมอกด้านบนเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูงหายลับไปทันที ทุกคนที่เข้าไปในเมฆหมอกจะถูกสายฟ้าโจมตีดังนั้นไม่ว่าผู้นั้นผ่านไปตรงที่ใดจะมีประกายสายฟ้าวาบขึ้นเป็นระยะ
“ความเร็วของเขาไวมาก เขาททรงพลังแข็งแกร่งจริงๆ” โอลิเวอร์กล่าวเบาๆ
กลุ่มอสูรที่ออกมาข้างนอกค่อยรู้สึกตัวในเวลาต่อมา
“อ๊า...ศพพวกโจรทั้งหมดกำลังจมลง มีประกายเทพและแหวนมิติตั้งมากมาย!” เบสเคราดำรำพันทันทีและอสูรคนอื่นก็เพิ่งรู้ตัวในตอนนี้เช่นกัน อย่างไรก็ตามศพทั้งหมดจมลงไปนานแล้ว
มีคนมากที่อาศัยอยู่ที่ก้นทะเลเช่นกันสำหรับเทพจะอยู่ในน้ำหรือบนบกไม่มีความแตกต่างกันมาก
พวกอสูรเริ่มนึกเสียใจทันที
“ฮ่าฮ่า ถ้าพวกมันไปแล้ว อย่างนั้นก็ลืมเสียเถอะ ดูพวกท่านทุกคนสิ ฮ่าฮ่า ไปต่อเถอะ” แอ็ชหัวเราะ “พื้นที่ทะเลข้างหน้ายังมีกองกำลังโจรที่แข็งแกร่งทรงพลังพวกมันอาศัยอยู่ที่นั่น เกาะไนฟ์เบลดต้องแน่ใจนะว่าจะต้องใช้เส้นทางอ้อมที่เกาะนั้นไป
ขณะที่เขาพูดแอ็ชเริ่มควบคุมอสูรโลหะอีกครั้งและมุ่งหน้าไปต่อด้วยความเร็วสูง
ตอนนี้ลินลี่ย์กำลังคิดถึงการปรากฏตัวของคนผู้นั้น “ยอดฝีมือที่ฝึกกฎธาตุสายฟ้าน่าจะมีพลังระดับอสูรเจ็ดดาว” ลินลี่ย์ประเมินอยู่ในใจ