ตอนที่ 16-3 อิ่มตัว
แคว้นเรนโบว์ เมืองบลูเมเปิลนี่คือจุดที่อยู่ปลายสุดทางทิศอาคเนย์ของทวีปเรดบุด จากเมืองบลูเมเปิลทุกคนบินต่ออีกชั่วขณะก่อนจะถึงเขตทะเลสตาร์มิสท์ที่กว้างใหญ่
ทุกคนมุ่งหน้ามาจากทวีปเรดบุดไปทางทิศตะวันออกจะมุ่งสู่ทวีปเจดโฟลทหรือทวีปบลัดริจทางทิศตะวันออกเฉียงใต้จะต้องเดินทางผ่านจุดนี้ ขณะที่เมืองบลูเมเปิลอยู่ใกล้ที่สุด สมาคมการค้าใหญ่บางแห่งจะมีสาขาอยู่ที่นี่ส่งผลให้เมืองบลูเมเปิลคึกคักมากกว่าในเมืองอื่นในทวีปเรดบุด!
“ประตูเมืองบลูเมเปิลมีทหารกองทัพเรดบุดยืนประจำการแปลกจริง” โอลิเวอร์หัวเราะและชื่นชมอย่างใจเย็น ขณะนี้เองกลุ่มของลินลี่ย์ทั้งสี่คนเข้ามาในเมืองบลูเมเปิลแล้วและกำลังเดินไปตามถนนในเมืองบลูเมเปิล
“เมืองบลูเมเปิลเป็นเมืองที่พัฒนาไปมากและคึกคัก การค้าขายทำให้สมาคมการค้าแยกขยายออกมาจากที่นี่ นอกจากนี้ยังมียอดฝีมือหลายคนผู้ต้องการเดินทางไปทวีปอื่นจะต้องเตรียมตัวที่นี่เช่นกันเป็นเรื่องสมเหตุผลแล้ว เพราะทหารเรดบุดจะต้องประจำการอยู่ในที่สำคัญอย่างนั้น” ลินลี่ย์กล่าวขณะเดียวกันก็กวาดสายตามองดูรอบๆ
ลินลี่ย์อยู่ในอารมณ์ที่ดี เพราะเขาเพลิดเพลินกับภาพเมืองบลูเมเปิลซึ่งแตกต่างจากเมืองรอยัลวิง
ลินลี่ย์จะไม่อารมณ์ดีได้ยังไง? ที่สำคัญพวกเขาได้ดำเนินการขั้นตอนใหญ่สำคัญกับการเดินทางเข้าสู่แคว้นอินดิโก
“ลินลี่ย์” เดเลียส่งสำนึกเทพกระตุ้นเตือน
“หือ?” ลินลี่ย์หันไปมองอย่างสงสัย เดเลียส่งสายตาไปทางบีบี และตอนนี้เองลินลี่ย์สังเกตว่าบีบีดูเหมือนค่อนข้างมีอารมณ์แปลก
เมื่อมาถึงเมืองบลูเมเปิล บีบีที่ปกติจะร่าเริงมีชีวิตชีวาไม่พูดอะไรสักคำ
เขาสวมหมวกฟางปิดบังใบหน้าครึ่งหนึ่ง เขาไม่สนใจสิ่งก่อสร้างรอบด้านหรือผู้คน บีบีแค่เดินเงียบๆ ยากจะบอกได้จากการมองดูสีหน้าว่าเขากำลังคิดอะไร แต่เมื่อเห็นเช่นนี้ลินลี่ย์เริ่มเข้าใจ
เป็นไปได้ว่ามีแต่เรื่องของนีซทำให้บีบีเป็นเช่นนี้
“บีบี” ลินลี่ย์เรียก
บีบีสะดุ้งจากภวังค์ทันทีและจากนั้นหันมามองลินลี่ย์อย่างมึนงง “พี่ใหญ่, เรียกข้าทำไม?”
“เจ้ากำลังคิดถึงนีซใช่ไหม?” ลินลี่ย์ก้มหน้ามองบีบี
“ใช่แล้ว” บีบีพยักหน้าเล็กน้อยมีอาการเศร้าอย่างชัดเจน “นินนี่ไปทวีปเจดโฟลท นางคงออกไปจากเมืองบลูเมเปิลเช่นกัน” เมื่อมาถึงเมืองบลูเมเปิล บีบีอดคิดถึงนีซไม่ได้ จากนั้นบีบีถอนหายใจเบาๆ“อย่างไรก็ตาม นางคงมาเมืองบลูเมเปิลเมื่อหลายร้อยปีที่แล้ว”
บีบีเงยหน้าและหัวเราะอย่างเบื่อหน่าย “พี่ใหญ่, ข้าไม่เป็นไป นินนี่ไปทวีปเจดโฟลทหลายร้อยปีมาแล้ว เป็นเรื่องยากที่จะหานาง ในอนาคต เมื่อข้ามีโอกาส .... เอ่อ.. ไปกันเถอะไปปราสาทอสูรกัน” ขณะที่กล่าวบีบีเดินนำทาง
ลินลี่ย์กับเดเลียได้แต่มองหน้ากัน จากนั้นเดินตามเขา
โอลิเวอร์ลังเลเล็กน้อย ขณะคิดบางอย่างหลังจากลินลี่ย์และอีกสองคนเดินห่างออกไป “โอลิเวอร์, เจ้ากำลังคิดอะไร?” โอลิเวอร์ในตอนนี้ค่อยรู้สึกตัวและรีบตามเขาไป
“โอลิเวอร์” ลินลี่ย์กล่าว
“หือ?” โอลิเวอร์มองลินลี่ย์
“เจ้าตัดสินใจร่วมเดินทางกับเราไปทวีปบลัดริจหรือเปล่า?” ลินลี่ย์หัวเราะ ขณะที่เดินทางจากเมืองบลูเมเปิล เขาคุยเรื่องนี้กับโอลิเวอร์ “ทะเลสตาร์มิสท์กว้างใหญ่ไพศาลและยากจะพูดได้ว่ามีอันตรายแบบไหนที่เราจะต้องเผชิญระหว่างเดินทาง”
โอลิเวอร์หัวเราะอย่างใจเย็น “ลินลี่ย์! ในแดนนรกข้าไม่มีเป้าหมายหรือที่หมายโดยเฉพาะเจาะจง ข้าร่วมเดินทางกับเจ้าสักระยะหนึ่งได้ไม่มีปัญหา นอกจากนี้แม้ว่าทะเลสตาร์มิสท์จะมีอันตรายอยู่ภายใน แต่เรามีเจ้า เป็นยอดฝีมือผู้ทรงพลังไม่ใช่หรือ?”
ยอดฝีมือผู้ทรงพลัง?
ขณะที่ลินลี่ย์และโอลิเวอร์คุยกันบนถนนเนื่องจากผู้คนในถนนเมืองบลูเมเปิลหนาแน่น คนที่ได้ยินพวกเขามีอยู่มากคนเหล่านั้นอดมองไปที่ลินลี่ย์ไม่ได้ บางคนถ้าไม่แยแสหรือไม่ก็ขำขันเห็นได้ชัดว่าไม่มีใครในพวกเขามองลินลี่ย์ว่าทรงพลัง
เพราะลินลี่ย์เป็นแค่เทพแท้!
ในแดนนรกเทพแท้จะถูกมองว่าเป็นพลเมืองธรรมดา พวกเขาไม่ถูกมองว่าเป็นยอดฝีมือแม้แต่น้อย
ลินลี่ย์สังเกตแววตาคนที่อยู่ใกล้ๆ เขาไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ “โอลิเวอร์! เจ้ากลายเป็นคนที่พูดเรื่องแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?” โอลิเวอร์น่าจะเป็นคนที่จริงจังและเย็นชาไม่ใช่คนที่ชอบหยอกล้อเล่นอย่างนี้ อย่างไรก็ตาม ลินลี่ย์เข้าใจว่าเหตุผลก็คือโอลิเวอร์ในตอนนี้มองเขาว่าเป็นสหายแท้จริง
ในดินแดนต่างถิ่นนั้น ผู้คนจากแผ่นดินเกิดเดียวกันจะสนิทและชอบพอกันมากกว่าธรรมดา
ในแดนนรก พวกเขาจึงสนิทกันมากกว่าเดิมแน่นอนเนื่องจากพวกเขาทั้งสองคนมาจากทวีปยูลาน
ปราสาทอสูร ปราสาทอสูรทุกแห่งจะเหมือนกันหมด
ตามมาตรฐาน กลุ่มของลินลี่ย์มาถึงที่ชั้นสองของปราสาทอสูร มีแนวห้องอยู่ในชั้นที่สอง ซึ่งก็หมายความว่าเป็นที่ให้อสูรหนึ่งดาวดำเนินการรับภารกิจ กลุ่มของลินลี่ย์ทั้งสี่คนเดินเข้าไปในห้องที่ว่าง
ภายในห้องมีสตรีผมทองชุดม่วงอยู่คนเดียว
สตรีชุดม่วงเงยหน้าและมองคนทั้งสี่ จากนั้นพูดอย่างสงบ “บอกมาเลย พวกเจ้าต้องการภารกิจแบบใด”
“เราสี่คนต้องการภารกิจสองดาวหวังว่าจะมีภารกิจที่เดินทางจากเมืองบลูเมเปิลไปเมืองนีซานของทวีปบลัดริจ” ลินลี่ย์กล่าว
เมืองนีซานอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปบลัดริจ จากทวีปเรดบุดจะต้องไปถึงเมืองนีซานก่อน
“ทวีปบลัดริจใช่ไหม? รอสักเดี๋ยว” สตรีชุดม่วงมองดูลินลี่ย์ด้วยดวงตาสีฟ้าจากนั้นหลับตาสักครู่แล้วลืมตาในเวลาต่อมา เมื่อนางทำเช่นนั้นเสร็จ ม้วนข้อความปรากฏขึ้นในมือนาง นางกล่าวขณะพลิกเปิด“จากเมืองบลูเมเปิลไปถึงเมืองชายแดนนีซานของทวีปบลัดริจ ในเดือนหน้ามี 13,043ภารกิจ มี 1,836 งานเป็นภารกิจสองดาว เชิญเลือกตามสบาย” ขณะที่นางกล่าว นางวางม้วนบันทึกภารกิจลงข้างหน้าลินลี่ย์
กลุ่มของลินลี่ย์ตะลึง
ตัวเลือกเกินกว่าหมื่น?
“ลินลี่ย์, เมื่อเรามาจากเมืองรอยัลวิง มีเพียง 11 งานเอง มี 3 งานเป็นภารกิจสองดาว” เดเลียตกใจ
สตรีชุดม่วงพูดอย่างใจเย็น “ทุกๆ วันมีผู้คนมากมายเดินทางจากเมืองบลูเมเปิลไปทวีปบลัดริจ, ทวีปเจดโฟลทหรือไม่ก็ทะเลสตาร์มิสท์ อย่างไรก็ตามภารกิจเกือบทั้งหมดเป็นกองคาราวานของพ่อค้าเองนอกจากนี้ไม่ค่อยมีภารกิจที่เป็นปัญหามากนัก แม้ว่าจะมีภารกิจมากกว่าหมื่นงานก็ตาม
ลินลี่ย์พลิกไปที่ภารกิจสองดาว
“พี่ใหญ่, เราจะเลือกภารกิจไหนดี?” บีบีมองดูเห็นรายการภารกิจมากมายเขาไม่รู้จะเลือกภารกิจไหน
ลินลี่ย์มองดูภารกิจอื่น “ครั้งนี้ข้าจะเลือกภารกิจง่ายๆ”
หลังจากได้รับประสบการณ์ลินลี่ย์ไม่กล้าเลือกภารกิจที่ต้องใช้อสูรจำนวนมาก ยิ่งต้องการใช้นักสู้อสูรจำนวนมาก ภารกิจจะมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ถ้ามีอสูรน้อยเกินไป การเดินทางจะมีปัญหายุ่งยากมากขึ้นและมีอันตรายเพิ่มขึ้น
ดังนั้นลินลี่ย์เลือกภารกิจสองดาวที่มีการจ้างกลุ่มอสูรสองดาว
“เอาภารกิจนี้” ลินลี่ย์ตัดสินใจ
“ภารกิจนี้หรือ?” บีบีชะโงกหน้ามองดู จากนั้นพึมพำ “เหมือนกับไม่ต้องจ่ายเงินเลยตลอดเส้นทางในทะเลสตาร์มิสท์แค่ห้าหมื่นศิลาดำเอง...” ภารกิจคุ้มครองครั้งก่อนมีผลตอบแทนถึงสองแสนศิลาดำ แต่แน่นอนว่า...
ในภารกิจนั้น ผู้ว่าจ้างก็คือบุรุษเขาขาวและบุรุษเขาดำซึ่งตายทั้งคู่กลุ่มของลินลี่ย์ทำภารกิจล้มเหลว ดังนั้นจึงไม่ได้รับค่าจ้างอะไร
“ถ้าเราไม่ได้รับค่าจ้าง แล้วจะมีประโยชน์อะไร?” ลินลี่ย์หัวเราะ
เดเลียหัวเราะเช่นกัน “บีบี! เจ้าสนใจเรื่องแบบนี้ด้วยหรือ?”
บีบีเก็บอะเมทิสต์มาสิบปีเต็ม โชคลาภที่เขาครอบครองแทบจะเทียบได้กับสมบัติทั้งหมดของตระกูลบอยด์
“ข้าก็พูดไปอย่างนั้นแหละ” บีบีบ่น
ความจริงลินลี่ย์ครุ่นคิดว่ายิ่งผลตอบแทนสูงมีแนวโน้มว่าจะมีอันตรายแฝงอยู่ในภารกิจที่เขารับทำนี้ เหมือนอย่างภารกิจคุ้มกันภัยครั้งล่าสุดจะถือว่าเป็นภารกิจสองดาวได้ยังไง? คนผู้ได้รับการว่าจ้างให้ทำภารกิจเหล่านั้นล้วนแต่เอาชีวิตไปทิ้งกันหมด นอกจากกลุ่มของลินลี่ย์ที่โชคดีพอไม่ถูกฟูโซ่ฆ่า อสูรรับจ้างอื่นๆ ล้วนตายกันหมด มีแต่เพียงแลร์มองต์ที่สามารถหลบหนีได้ ต้องขอบคุณพลังของเขา
“ขอตราอสูรให้ข้าสักเดี๋ยว” สตรีชุดม่วงกล่าว
หลังเสร็จงานเอกสารกลุ่มของลินลี่ย์ทั้งสี่คนออกจากปราสาทอสูร ขณะเดียวกันตอนนี้พวกเขารู้ว่าว่าจะออกเดินทางเมื่อใด อีกสามวันข้างหน้า! หนึ่งในเหตุผลที่ลินลี่ย์เลือกเลือกภารกิจนี้ ว่ากันตรงๆ ก็คือเพราะภารกิจจะเริ่มในอีกสามวัน”
กลุ่มของลินลี่ย์ทั้งสี่คนเพลิดเพลินกับอาหาร จากนั้นจ่ายเงินซื้อของเลิศรสและเหล้าดีเก็บสำรองไว้จากนั้นมุ่งหน้ากลับโรงแรม
สามวันต่อมา พวกเขาใช้เวลาอยู่ในลานว่างในโรงแรม
“หลังจากฝึกมาหกร้อยปี ข้าค่อนข้างก้าวหน้าในกฎธาตุดินและลมมีแต่ความก้าวหน้าของร่างแยกธาตุไฟของข้าช้าเหลือเกิน” ลินลี่ย์นั่งอยู่ในลานว่างไตร่ตรองถึงการฝึกฝนของตน
ช่วงระหว่างหกร้อยปี เขาใช้เวลาในภูเขาอะเมทิสต์ ร่างแยกธาตุดินได้รับความสำเร็จมากที่สุด ขณะที่ร่างแยกธาตุลมในที่สุดก็มีการหลอมรวมเคล็ดคลื่นเสียงและเคล็ดดนตรีได้ขณะที่การบรรลุระดับต่อไปคือแก่นธาตุลมจะทำได้ง่าย อย่างไรก็ตามกฎธาตุลมมีเคล็ดความรู้ถึงเก้าเคล็ดยิ่งเขาเดินหน้าฝึกต่อไปก็จะยิ่งช้ามากขึ้น
สำหรับร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ธาตุไฟ ในช่วงหกร้อยปีเขาแค่เพิ่งทำความเข้าใจพื้นฐานของเคล็ด กายเพลิงได้และยังไม่ถึงระดับเทพแท้
ลินลี่ย์หลับตา
ภายในทะเลจิตสำนึกของเขา มีร่างสามร่างนั่งเข้าสมาธิอยู่เหนือทะเลจิตสำนึกพวกเขาคือร่างแยกธาตุดินสีเหลือง ร่างแยกธาตุลมสีเขียวและร่างแยกธาตุไฟสีแดง ร่างลินลี่ย์ทั้งสามนั่งล้อมเป็นสามเหลี่ยมและเหนือวิญญาณนั้นเป็นวิญญาณรูปดาบสีรุ้ง
ภายใต้วิญญาณรูปดาบมีศิลาดำชิ้นหนึ่ง
ขณะเดียวกันสายหมอกทองถูกกลืนเข้าไปในวิญญาณรูปดาบเพียงแต่ความเร็วในการดูดกลืนนั้นช้าลงมาก
“หือ?” ลินลี่ย์ขมวดคิ้วลืมตา “เป็นเวลาเกินกว่าหกร้อยปีแล้วข้าได้บรรจุพลังอะเมทิสต์เข้าไว้ในแหวนมังกรขนดและกลั่น จากนั้นดูดซับไว้ หลังจากหกศตวรรษดูดซับพลังมาตลอดไม่มีหยุด ระดับความเร็วในการดูดซับในตอนนี้มีแต่ช้าลงๆ”
สถานการณ์เช่นนี้เริ่มขึ้นในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา ในอดีตความเร็วในการดูดซับไม่เคยลดลงมาก่อน
“หรือว่าปริมาณแก่นวิญญาณที่จะรับไว้ได้มีขีดจำกัดเพียงเท่านี้?” ลินลี่ย์ประหลาดใจ
และจากนั้น ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อยสมแล้วที่มีขีดจำกัด มิฉะนั้นถ้าวิญญาณสามารถเสริมพลังได้ต่อเนื่องไม่มีหยุด สุดท้ายผลจะลงเอยยังไง?
ลินลี่ย์ไม่แน่ใจ
แม้ว่าแก่นวิญญาณจะเสริมพลังเข้าไปได้และดูเหมือนจะมีคุณภาพที่ก้าวหน้า ในความเป็นจริงนี่เป็นรูปแบบของคุณภาพที่มาจากปริมาณ คล้ายกับขวดอย่างหนึ่ง ถ้าท่านรู้สึกว่ามีแก๊สมากเกินไปแก๊สอาจจะบีบอัดจนกระทั่งกลายเป็นของเหลวไปได้
นี่คือตัวอย่างของคุณภาพที่เปลี่ยนแปลงมาจากปริมาณ
แต่ก็ยังมีขีดจำกัด เพราะถ้าท่านยังคงเติมแก๊สในขวด แม้หลังจากที่แก๊สกลายเป็นของเหลว ถ้าของเหลวถึงขีดจำกัดขวดก็อาจจะระเบิด...และวิญญาณจะแตกสลาย
นี่คือสถานการณ์ที่เกิดกับลินลี่ย์ วิญญาณของเขาถึงขีดจำกัดและไม่สามารถดูดซับเพิ่มได้แต่อย่างใด
ถ้าเขาต้องการเสริมพลังวิญญาณต่อไปอีก เขาต้องเพิ่มขนาดขวดและทำให้เสถียรขึ้นเหมือนกับเติมแก๊สในขวดและอัดแน่นจนเป็นของเหลว นี่คือรูปแบบการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพที่แท้จริงและมีวิธีเดียวที่ทำอย่างนี้ได้ คือบรรลุพลังเทพระดับต่อไป จากเทียมเทพเป็นระดับเทพแท้และจากเทพแท้ไปเป็นเทพชั้นสูง!
แม้แต่โดยการหลอมรวมกับประกายเทพประกายเทพจะช่วยให้วิญญาณของผู้ฝึกเปลี่ยนแปลง
แต่แน่นอนการกลายเป็นเทพด้วยตัวเองจะส่งผลให้กฎธาตุธรรมชาติชะลอลงมาและเพิ่มคุณภาพให้กับจิตวิญญาณ
นี่คือสาเหตุที่เทพชั้นสูงหลายคนแม้ว่าจะไม่ได้ดูดซับแก่นวิญญาณก็ยังมีพลังมากกว่าเทพแท้! ลินลี่ย์ดูดซับแก่นวิญญาณเอาไว้มาก แต่พลังวิญญาณของเขาถือได้ว่าเป็นแค่เทพแท้ระดับสูง เทียบกับเทพชั้นสูงเขายังขาดไปเล็กน้อย
สามวันต่อมาที่ประตูเมืองบลูเมเปิล กลุ่มคนมากมายรวมตัวกัน มีคนมากมายรวมตัวกันอยู่ที่นี่เตรียมตัวเดินทาง และมีเจ้าหน้าที่จากปราสาทอสูรอยู่ที่นี่ค่อนข้างมากเช่นกัน กลุ่มของลินลี่ย์แสดงตราอสูรให้ตรวจสอบและเจ้าหน้าที่ของปราสาทอสูรพากลุ่มลินลี่ย์ทั้งสี่คนไปที่อสูรโลหะ
“คนของพวกเจ้าอยู่ที่นี่” เจ้าหน้าที่ปราสาทอสูรพูดไม่กี่คำจากนั้นก็เดินจากไป
“พวกท่านทั้งสี่คน ข้าชื่อ..แอ็ชเป็นผู้ว่าจ้างท่าน” บุรุษผมทองหยักศกหัวเราะ “รออยู่ตรงนี้ก่อน ข้าจะไปพาคนทั้งหมดมาที่นี่ เมื่อเราพร้อมกันที่นี่ทั้งหมดแล้วเราจะออกทะเลกัน” ทันใดนั้นแอ็ชจ้องมองเดเลียไม่กระพริบตา
เดเลียตกใจกับการจ้องดูของเขา
ลินลี่ย์ขมวดคิ้ว ขณะที่บีบีพูดอย่างไม่พอใจ “เฮ้,เด็กน้อย เจ้าจ้องอะไร? มองอย่างนั้นหมายความว่ายังไง?”
“เทพชั้นสูง ฮ่าฮ่า ท่านเป็นเทพชั้นสูงหรือนี่?” แอ็ชยิ้ม “ฮ่าฮ่า คุ้มจริงๆ คุ้มจริงๆ คุ้มมาก! ข้าไม่คาดเลยว่าในบรรดาอสูรสองดาวยี่สิบเอ็ดคนจะมีอสูรเทพชั้นสูงรวมอยู่ด้วย”