ตอนที่ 16-1 ศิลาดำ
เทือกเขาอะเมทิสต์ปกคลุมไปด้วยหมอกเย็นไร้ความรู้สึก ภายในเงื้อมภูเขาแห่งหนึ่ง เดเลียนั่งสมาธิหลับตา วันนี้เหมือนจะผ่านไปอย่างสงบสุข
“เดเลีย, บีบี!”
ทันใดนั้นมีเสียงหนึ่งดังขึ้น
เดเลียกำลังทำสมาธิอยู่เงียบๆ อดตกใจมิได้นางลืมตาทันทีและหันไปมอง ตอนนี้เสียงที่กังวลของบีบีก็ดังขึ้นเช่นกัน “พี่ใหญ่, ทำไมท่านถึงหยุดฝึกเล่า? ร่างแยกธาตุดินของท่านเป็นยังไงบ้าง? ท่านทำได้สำเร็จ หรือว่าจะ...?”
ขณะที่เดเลียมองดู นางเห็นว่าร่างของลินลี่ย์ในชุดสีฟ้าร่างหลักของเขามายืนอยู่ต่อหน้านางแล้ว
“เหตุการณ์เป็นอย่างไรบ้าง?” เดเลียเดินเข้ามาหาและถามด้วยความห่วงใย
ลินลี่ย์รู้อบอุ่นในหัวใจ เขาพยักหน้ากล่าว “ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ตอนนี้ร่างแยกธาตุดินของข้ากำลังอยู่ในระหว่างกลับมาและจะกลับมาถึงในไม่ช้า เดเลีย บีบี ข้าขอโทษ ข้าทำให้พวกเจ้าต้องกังวลใจในช่วงเวลาอย่างนี้” ลินลี่ย์ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดีในตอนนี้
เขาไม่รู้ว่าเขาควรบอกว่าตนเองโชคดีหรือว่าโชคร้าย
เขาเพิ่งทดสอบเคล็ดเดินดินในตอนแรกเมื่อเขาเผชิญหน้ากับอสูรอะเมทิสต์น้อย อย่างไรก็ตามเพราะเหตุนี้พลังของเขาเพิ่มขึ้นมากมาย ความจริงสมบัติกับวิบัติยากจะแยกแยะ
ทันใดนั้นเสียงฝีเท้าดังขึ้นจากแต่ไกล เป็นโอลิเวอร์
“ลินลี่ย์เจ้าหลบหนีออกมาได้สำเร็จใช่ไหม? ข้ากล้าบอกได้เลยจากสีหน้าของเจ้า” โอลิเวอร์หัวเราะลั่น
ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย
“พี่ใหญ่, ท่านหลบหนีได้สำเร็จ อย่างนี้ก็ต้องฉลอง! แม้ว่าเราอาจต้องติดอยู่ที่นี่อีกนานและต้องประหยัดเหล้ากันสักเล็กน้อย แต่วันนี้เราจะต้องฉลองแสดงความยินดีเต็มที่” แค่เพียงพลิกมือบีบีดึงเหล้าดีออกมาหลายขวด
เหล้าเป็นของมีค่ามากในเทือกเขาอะเมทิสต์
ภายในเทือกเขาอะเมทิสต์ต่อให้มีเงินหลายร้อยล้านศิลาดำก็อาจหาซื้อเหล้าสักขวดไม่ได้ อย่างไรก็ตามในเทือกเขาอะเมทิสต์การเก็บเกี่ยวอะเมทิสต์ง่ายดายเกินไป เหล้ากลับตรงกันข้ามหมดแล้วหมดเลย เพราะภูเขาอะเมทิสต์ไม่มีวัตถุดิบใดๆ ที่สามารถใช้ปรุงเหล้าได้
“ฮ่าฮ่า วันนี้ดื่มให้มากเท่าที่เจ้าต้องการได้เลย” ลินลี่ย์หัวเราะลั่น “ต่อให้ดื่มจนหมดเท่าที่เรามี ก็ไม่เป็นไร!”
บีบีจ้องมองทันที “พี่ใหญ่! ท่านมีความสุขได้,แต่ไม่อาจสุรุ่ยสุร่าย”
โอลิเวอร์ค่อนข้างแปลกใจเช่นกัน เดเลียมองดูลินลี่ย์ด้วยความประหลาดใจและถาม“ลินลี่ย์! เจ้ากำลังจะเลิกเหล้าหรือ?”
“ฮ่าฮ่าฮ่า...” ลินลี่ย์หัวเราะพลางส่ายศีรษะ “ไม่ใช่อย่างนั้น เป็นเพราะข้าพบวิธีพาพวกเจ้าทุกคนออกไปจากเทือกเขาอะเมทิสต์ได้แล้ว”
“ออกไปจากเทือกเขาอะเมทิสต์?” บีบี เดเลียและโอลิเวอร์ตกตะลึงอย่างช่วยไม่ได้
หลังจากผ่านเวลาไปนานหลายปีมากไม่มีใครที่เข้ามาในเทือกเขาอะเมทิสต์แล้วจะสามารถออกไปได้ด้วยตนเอง โอลิเวอร์และคนอื่นทดสอบมาแล้วเช่นกัน แต่ก็ยังไม่สามารถไปจากเทือกเขาอะเมทิสต์ได้ แต่ตอนนี้ลินลี่ย์บอกว่า.....
เดเลีย บีบีและโอลิเวอร์รู้ว่าลินลี่ย์เป็นคนยังไง พวกเขารู้ว่าลินลี่ย์ไม่ใช่คนโกหก
แต่การไปจากเทือกเขาอะเมทิสต์ เรื่องนี้เหลือเชื่อเกินไป
“พี่ใหญ่? ท่านพูดจริงหรือเปล่า?” บีบีเต็มไปด้วยความสงสัย และถามอีกครั้ง
“ลินลี่ย์! อย่าหลอกให้ข้ามีความสุขเก้อดีกว่า” โอลิเวอร์หัวเราะ แต่ตาของเขาจ้องมองลินลี่ย์ด้วยแววคาดหวัง ถ้าคนอื่นพูดอย่างนี้ โอลิเวอร์อาจไม่ให้ความสนใจ แต่นี่ลินลี่ย์เป็นคนพูด
ลินลี่ย์ไม่ใช่คนโกหก!
“ลินลี่ย์ เจ้ามีวิธีจัดการกับแรงดึงดูดประหลาดนั่นแล้วหรือ?” เดเลียพูดตรงกับใจคิด ถ้ามีคนต้องการไปจากเทือกเขาอะเมทิสต์ ก่อนอื่นเขาจะต้องจัดการกับแรงดึงดูดประหลาด แรงดึงดูดของเทือกเขาอะเมทิสต์เป็นสิ่งที่ทำให้แม้แต่เทพชั้นสูงทั้งปวงหมดโอกาสบิน
“ไม่ต้องห่วง ถ้าข้าบอกว่าเราสามารถจากไปได้ นั่นก็หมายความว่าเราสามารถจากไปได้” ลินลี่ย์พูดยืนยันแน่นอน
บีบี เดเลียและโอลิเวอร์มีแววยินดีปรากฏบนใบหน้าทุกคน
“พี่ใหญ่ เราจะจากไปอย่างไร?” บีบีถาม
ลินลี่ย์ยิ้ม “ก็ได้ ข้าจะสาธิตให้พวกเจ้าดู ไม่อย่างนั้นพวกเจ้าอาจจะไม่เชื่อ” ร่างหลักของลินลี่ย์สามารถยืมพลังเทพจากร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ของเขาได้ ทันใดนั้นร่างของลินลี่ย์เริ่มโคจรพลังธาตุดินศักดิ์สิทธิ์ และเขาใช้พลังรู้แจ้งที่เขาได้รับมาทันที
ระลอกพลังงานในพื้นที่กระจายออกจากขาลินลี่ย์ขยายไปตามพื้น
“แครก...”
ขณะเดียวกันพื้นภายในระยะร้อยเมตรเริ่มมีระลอกพลังแปลกประหลาด ลินลี่ย์ยิ้มขณะที่เขามองดูเดเลียบีบีและโอลิเวอร์ “พวกเจ้าคิดว่ายังไง?”
“หือ?”
เดเลียและอีกสองคนประหลาดใจที่ประหลาดใจก็เพราะพวกเขาพบว่าผลกระทบที่ร่างกายพวกเขาได้รับจากแรงดึงดูดของเทือกเขาอะเมทิสต์อ่อนลงมากกว่า90%แม้ว่าจะยังมีแรงดึงดูดหลงเหลืออยู่บ้างแต่ก็ไม่พอป้องกันมิให้อีกสามคนบินได้
เดเลีย บีบีและโอลิเวอร์ลอยตัวจากภาคพื้นได้อย่างง่ายดาย
“ลินลี่ย์, นี่มันอะไรกัน?” โอลิเวอร์พบว่ามันช่างเหลือเชื่อ
“ใช่แล้ว” หน้าของบีบีเต็มไปด้วยอาการประหลาดใจ “การ์แลนและจาร์ร็อดบอกข้าว่าต่อให้เชี่ยวชาญสนามพลังโน้มถ่วง ก็ยังไม่มีประโยชน์ในภูเขาอะเมทิสต์แห่งนี้ จนกระทั่งตอนนี้แหละ ไม่มีใครสามารถลบล้างพลังดึงดูดได้เหมือนท่าน”
แม้ว่ายอดฝีมือบางคนมีพลังแข็งแกร่งพอจะบินได้แม้ว่าจะมีแรงดึงดูดก็ตาม แต่นั่นเป็นแค่เพียงอาศัยพลังล้วนๆต่างจากลินลี่ย์ที่อาศัยเคล็ดความรู้ลึกลับ
“ทีนี้พวกเจ้าเชื่อหรือยัง?” ลินลี่ย์ไม่อธิบายเพิ่ม
“ข้าเชื่อเจ้า ข้าเชื่อเจ้าแล้ว” หน้าของโอลิเวอร์เต็มไปด้วยอาการดีใจ ความไม่ทุกข์ใจตลอดหลายปีมานี้หายไปหมด
“พี่ใหญ่! แล้วพื้นที่สายลมแปลกประหลาดนั่นเล่า?” บีบีรีบถาม พื้นที่ลมปั่นป่วนนั้นได้กักยอดฝีมือหลายคนให้ติดอยู่ที่นี่
ลินลี่ย์หัวเราะอย่างใจเย็น “ไม่จำเป็นต้องถาม เมื่อเราออกไป ข้าจัดการเรื่องนั้นได้” ลินลี่ย์ยังคงจำวิธีที่อสูรอะเมทิสต์น้อยรีสเจมบอกอย่างชัดเจน เขาบอกว่าในพื้นลมที่มีเสียงประหลาดต้องอาศัยศิลาดำ เขาจึงจะสามารถผ่านพื้นที่ตรงนั้นไปได้
“ข้าต้องใช้เวลาในการตรวจสอบศิลาดำอย่างละเอียดก่อน” ลินลี่ย์พูดกับตนเองเบาๆ
หลังจากออกจากถ้ำลินลี่ย์รีบกลับมาทันทีและยังไม่ได้วิเคราะห์ศิลาดำ อย่างไรก็ตามแม้แต่ภาพในใจที่เขาเห็น ก็แสดงให้เห็นศิลาดำในด้านที่น่าทึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งมันมีรัศมีแฝงที่ทำให้ใจสั่นได้ และพลังจิตวิญญาณที่อยู่ในนั้นก็ถูกเปลี่ยนแปลงต่อเนื่อง สิ่งทั้งหมดนี้ล้วนแต่ดึงดูดความสนใจของลินลี่ย์ทั้งนั้น
“แต่แน่นอนว่าข้ายังจำเป็นต้องใช้เวลาเตรียมตัวและทำความเข้าใจวิธีที่เราจะใช้ออกไปข้างนอกก่อน” ลินลี่ย์หัวเราะ “เทือกเขาอะเมทิสต์เป็นสถานที่ปลอดภัย ในแดนนรกหาพื้นที่ปลอดภัยอย่างนี้สำหรับฝึกฝนได้ยากมาก”
“ความจริง นอกจากข้อบกพร่องของหมอกขาวที่ทำให้ที่นี่มีทัศนวิสัยการมองเพียงร้อยเมตรและแรงโน้มถ่วงประหลาดและชีวิตที่น่าเบื่อหน่ายในภูเขาอะเมทิสต์ นอกจากวันคลื่นหมอกแล้ว ถือได้ว่าที่นี่ปลอดภัยจริงๆ” โอลิเวอร์พยักหน้าเห็นด้วย
ถึงเวลานี้ร่างแยกธาตุดินที่กำลังกลับได้ออกมาจากผนังหินและหลอมรวมเข้ากับร่างหลัก เดเลียและบีบีเมื่อเห็นเช่นนี้ค่อยถอนหายใจโล่งอก
“ฮะฮะ, พี่ใหญ่...มาฉลองกันเถอะ!” บีบีได้รับข่าวดีสองชิ้นในคราวเดียวกันย่อมจะมีอารมณ์ตื่นเต้นเป็นธรรมดา
หลังจากกลุ่มของลินลี่ย์ฉลองความสำเร็จกันแล้ว ลินลี่ย์เริ่มเพ่งอยู่กับการวิเคราะห์ศิลาดำ
“ศิลาดำนี้มีรังสีธาตุดินแฝงอยู่ภายในและยังมีพลังจิตวิญญาณแฝงอยู่ด้วย แปลกจริงๆ” ลินลี่ย์ตรวจสอบศิลาดำอย่างระมัดระวัง เขามีความสงสัยอยู่เต็มอกจากนั้นเขาหัวเราะ“บางทีศิลาดำคงจะมีบางอย่างเชี่อมโยงกับอะเมทิสต์” หินอะเมทิสต์ชั้นยอดเป็นวัตถุธาตุดินโดยธรรมชาติ
อย่างไรก็ตาม อะเมทิสต์ก็มีพลังวิญญาณแฝงอยู่ด้วยเช่นกัน นี่คล้ายกับศิลาดำมาก
“เพียงรัศมีของพลังงานจิตวิญญาณในศิลาดำทำให้คนหัวใจสั่นไหวได้...” ลินลี่ย์พูดกับตนเอง
ศิลาดำยังคงมีรังสีพลังจิตร้อยแปดสายที่มีความเปลี่ยนแปลงแฝงอยู่ในภายใน รังสีพลังจิต 108สายมีการเปลี่ยนแปลงเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องทำให้ลินลี่ย์รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง การกำหนดควบคุมที่เขาพัฒนาขึ้นยังเป็นแค่พื้นฐานอยู่
แต่ภายในศิลาดำการกำหนดการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติมีระดับที่ลึกซึ้งยิ่งกว่า
ลินลี่ย์สงบใจทันทีและเริ่มวิเคราะห์วิธีที่เขาอาจใช้วิชาสนามพลังโน้มถ่วงนี้ แม้ว่าการควบคุมดูเหมือนจะง่าย แต่พอใช้เองกลับซับซ้อนมากเหมือนกับวิธีที่ลินลี่ย์เห็นหนามทั้ง 108 บนหลังของอสูรอะเมทิสต์น้อย แต่การเข้าใจการกำหนดค่าอย่างแท้จริงจำเป็นต้องใช้เวลาอีกมาก
ตอนนี้ นี่คือความยากลำบากที่เขาเผชิญ
อย่างก็ตาม ลินลี่ย์หมกมุ่นกับการควบคุมนี้...
“เมื่อพี่ใหญ่ฝึกฝนอย่างนี้ เขาไม่สนใจเวลาแม้แต่น้อย” บีบีบ่นพึมพำ เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรก ความจริงเขาบ่นอย่างนี้มานับครั้งไม่ถ้วน
เดเลียหัวเราะและมองเขา “บีบี, ใจเย็นๆ แล้วไปฝึกต่อเถอะ เพิ่งจะผ่านไปยี่สิบปีเอง,เวลาผ่านไปไวเหมือนสายฟ้า! ดูโอลิเวอร์สิ ทันทีที่เขาเริ่มทำสมาธิเขายังไม่ตื่นขึ้นมาเลยแม้แต่ครั้งเดียว ถ้าเจ้ามัวแต่ใจร้อนเกินไป เมื่อไหร่จะบรรลุระดับใหม่?”
บีบีบุ้ยปาก แต่ไม่ยอมพูด
“ฮึ่ย,” บีบีตาเป็นประกาย “พี่ใหญ่ตื่นแล้ว” เดเลียรีบหันไปมองที่ลินลี่ย์นั่งสมาธิอยู่ ตอนนี้ลินลี่ย์ลืมตาแล้ว และหน้าของเขามีรอยยิ้มตลอดเวลา “อย่างนี้นี่เองศิลาดำสามารถใช้อย่างนี้ได้ ข้านี่โง่จริงๆ”
ลินลี่ย์หันไปทางบีบี “บีบี! มาทางนี้”
“มีอะไรเหรอ?” บีบีไม่ค่อยจะเข้าใจ
“ลองทำความรู้สึกสนามพลังโน้มถ่วงของข้า” ลินลี่ย์กล่าว
บีบีเชิดหน้า จากนั้นเดินเข้ามาทันที เขาพูดอย่างย่ามใจ “สนามพลังโน้มถ่วง?ใส่มาได้เต็มที่เลย ข้า..บีบีมีร่างกายแข็งแกร่งทรงพลังอยู่แล้ว สนามพลังโน้มถ่วงของท่านไม่สามารถทำอะไรข้าได้ไม่ว่ายังไงก็ตาม” บีบีมั่นใจเต็มที่และความจริงเป็นเพราะร่างกายที่แข็งแกร่งทนทานมากกว่า ลินลี่ย์จึงขอให้เขาช่วยมาลอง
“พร้อมแล้วนะ” ลินลี่ย์เริ่มใช้เคล็ดวิชาทันที
“แครก...”
ระลอกคลื่นพื้นที่แผ่ออกจากเท้าของลินลี่ย์กระจายผ่านพื้นดินและส่งผ่านพลังภายในไปอย่างต่อเนื่อง สิ่งที่แปลกก็คือศิลาดำลอยอยู่ในทะเลจิตสำนึกของลินลี่ย์ และรังสีพลังจิต 108 สายภายในศิลาดำเคลื่อนไหวในลักษณะเดียวกับระลอกพลังในพื้นที
เหมือนกับว่ามีพลังสองอย่างเคลื่อนไหวในระนาบเดียวกัน
“ฮ่าฮ่า แรงดึงดูดก็ดีอยู่นะ แต่ว่าทำอะไรข้าไม่ได้” บีบีพูดอย่างดีใจ แต่ทันใดนั้นสีหน้าของบีบีเปลี่ยนไป เขาสะบัดศีรษะอย่างแตกตื่น “พี่ใหญ่,หยุดเล่นก่อน..ข้าปวดหัวจะแย่อยู่แล้ว”
ลินลี่ย์ชะงักพลังทันที
“รู้สึกยังไงบ้าง?” ลินลี่ย์หัวเราะขณะมองดูเขา นี่คือสิ่งที่ลินลี่ย์ทำนายไว้แล้ว
บีบีจ้องมองลินลี่ย์อย่างประหลาดใจ “พี่ใหญ่, ตอนนี้ข้ามึนศีรษะมาก ความรู้สึกที่เพิ่งเกิดนั้นเหมือนอย่างที่ข้าได้ยินเสียงลมในทะเลหมอก รู้สึกเหมือนอย่างนั้น ข้าปวดศีรษะมาก ท่านทำได้ยังไง?” บีบีไม่อยากจะเชื่อ
“นี่เป็นผลจากสมบัติที่ข้าได้รับ” ลินลี่ย์อธิบาย
ความจริงในลำดับต่อมาที่เขาวิเคราะห์ศิลาดำ ลินลี่ย์จึงค่อยพบความจริงเรื่องนี้เป็นจุดวิเคราะห์นี้ที่ทำให้ลินลี่ย์ตระหนักถึงเหตุผลที่อสูรอะเมทิสต์น้อยบอกว่าด้วยศิลาดำนี้เขาไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับอิทธิพลของลมเสียงประหลาด เป็นเพราะผลพิเศษของเสียงลมประหลาดและผลกระทบทางวิญญาณของศิลาดำ
ลินลี่ย์สงสัย...
“บางทีภายในภูเขาอะเมทิสต์นี้อาจจะมีศิลาดำขนาดใหญ่ที่สามารถส่งผลและแผ่ขยายอิทธิพลไปได้เป็นร้อยหรือพันกิโลเมตร” ลินลี่ย์คาดเดา
“ลินลี่ย์, เจ้ากำลังทดสอบอะไร?” เดเลียเดินเข้ามาหาเช่นกัน
บีบีหันมายิ้ม “เดเลีย พี่ใหญ่ในเวลานี้ทรงพลังมากนัก ข้ากล้าพูดได้เลยว่าเราจะไม่มีปัญหาในการออกไปจากภูเขาอะเมทิสต์” หลังจากทดสอบวิชานี้แล้วบีบีมีความมั่นใจในตัวลินลี่ย์
เดเลียตาเป็นประกาย นางเดินเข้ามาหาลินลี่ย์และกล่าว“ลินลี่ย์เราจะไปกันเดี๋ยวนี้หรือ?”
ลินลี่ย์ขมวดคิ้วเล็กน้อย “ไม่ต้องรีบ เดเลีย,ในแดนนรกมีที่อันตรายหลายแห่งซุ่มซ่อนอยู่ เรารอจนกระทั่งแข็งแกร่งขึ้นอีกเล็กน้อยก่อนแล้วค่อยออกไป ตอนนี้ข้าเพิ่งจะหลอมรวมเคล็ดความรู้ลึกลับได้สองอย่าง อย่างไรก็ตาม ข้ามั่นใจว่าข้าจะสามารถหลอมรวมเคล็ดที่สามได้ในเวลาไม่ช้านี้
“หลอมรวมเคล็ดสามอย่าง?” เดเลียและบีบีประหลาดใจทั้งคู่
มียอดฝีมือน้อยมากที่หลอมรวมเคล็ดลึกลับสองอย่าง แต่จำนวนคนที่หลอมรวมเคล็ดสามอย่างมีน้อยมากต้องเข้าใจว่าอสูรหกดาวหลายคนเพียงแต่หลอมรวมเคล็ดลึกลับเพียงสามอย่าง ขณะที่การหลอมรวมเคล็ดสี่อย่าง...แม้แต่เอลควินอสูรเจ็ดดาวก็หลอมรวมได้เพียงสี่อย่าง
ด้วยการเพิ่มระดับพลัง พลังจะเพิ่มขึ้นสิบเท่าเช่นกัน! ความยากลำบากก็เพิ่มขึ้นอย่างมากเช่นกัน
ตัวอย่างเช่น ลินลี่ย์หลอมรวมเคล็ดชีพจรโลกและเคล็ดสนามพลังโน้มถ่วงแล้วการหลอมรวมเคล็ดที่สามเขาจะต้องมีเคล็ดที่สามเอาไว้หาจุดร่วมสำหรับเคล็ดทั้งสองซึ่งจะเป็นรากฐานของการหลอมรวม การหลอมรวมนั้นก็มีความเป็นไปได้อย่างไรก็ตามการหาจุดร่วมนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก
ตัวอย่างเช่นลินลี่ย์ใช้เวลายาวนานกว่าจะหาจุดร่วมระหว่างเคล็ดชีพจรโลกและเคล็ดสนามพลังโน้มถ่วงและไม่ประสบผลสำเร็จและไม่บรรลุระดับใหม่ หลังจากนั้นเขาใช้วเคล็ดแก่นธาตุดินและ เขาใช้เคล็ดแก่นธาตุดินเพื่อค้นหาจุดร่วมของเคล็ดลึกลับทั้งสองเหล่านี้
“ข้ามั่นใจว่าสามารถหลอมรวมเคล็ดลึกลับทั้งสามได้ แต่สี่อย่างเล่า?” ลินลี่ย์อดคิดถึงเคล็ดเดินดินไม่ได้ จนถึงตอนนี้เขายังไม่มีความรู้แจ้งสักอย่างว่าจะหลอมรวมเคล็ดเดินดินเข้ากับความรู้ลึกลับอื่นได้อย่างไร แต่อย่างน้อยเขาต้องเริ่มหลอมรวมเคล็ดเดินดินกับอีกสามเคล็ดอื่น
แต่เขายังไม่พบจุดร่วมแล้วเขาจะหลอมรวมกับอีกสามเคล็ดได้อย่างไร
เป็นไปได้ว่าแม้ใช้เวลาหมื่นปี เขาก็คงยังไม่สามารถทำได้
“ยิ่งปีนสูงก็ยิ่งยาก” ลินลี่ย์เข้าใจ