ตอนที่แล้วตอนที่ 111 ราคาของโลหิตและน้ำตา (อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 113 คนทรยศ? (อ่านฟรี)

ตอนที่ 112 การตัดสินใจของแม็กนัส (อ่านฟรี)


แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ สายเลือดแห่งมังกร

ตอนที่ 112 การตัดสินใจของแม็กนัส

แม็กนัสไม่ได้ไปไหน เขาไม่ยอมกลับไปโรงเรียนและบอกให้ดัมเบิลดอร์ทิ้งเขาไว้กับครอบครัว แต่รักนาร์กับเซเวอรัสอยู่ข้างนอกไม่ได้เพราะทั้งคู่ไม่มีความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการกับอดัมและเกรซ

“อย่าทำอะไรบ้าๆ นะแม็ก” รักนาร์แนะนำเขาขณะที่เขาจากไป

"ติดต่อเราหากนายต้องการอะไร แล้วฉันจะส่งยาบำรุงสุขภาพมาให้ ผิวไหม้ของพ่อนายก็รักษาได้ด้วยเวทมนตร์เหมือนกัน” สเนปกล่าว

แม็กนัสขอบคุณพวกเขา "ขอบใจพวกนายมากนะ ฉันจะติดต่อไปหากมีอะไรใหม่ แล้วไม่ต้องกังวล ฉันไม่สร้างเรื่องใหญ่โตหรอก"

ก่อนจากไปดัมเบิลดอร์ยังบอกกับเขาว่า "ฉันจะพยายามหาหมอที่ดีจากโรงพยาบาลวิเศษเซนต์มังโก เพื่อช่วยพ่อของเธอ และวิธีการป้องกันที่ทำให้ครอบครัวของเธอปลอดภัย นี่เป็นความล้มเหลวครั้งใหญ่ในการทำงานของพวกเขา พวกเขาไม่เคยคาดหวังว่ามักเกิ้ลจะลอบโจมตี ในขณะที่พวกเขามุ่งความสนใจไปที่ภัยคุกคามทางเวทมนตร์เท่านั้น”

แม็กนัสเข้าใจ พ่อมดไม่ค่อยรู้เรื่องที่เกิดขึ้นในโลกของมักเกิ้ลมากนัก เขาพยักหน้าและปล่อยพวกเขาไป

ไม่นานดัมเบิลดอร์ก็กลับไปที่ฮอกวอตส์ แม็กนัสไม่ได้กลับเข้าไปในห้องเพื่ออยู่กับแม่ของเขา เขาไปที่ระเบียงของโรงพยาบาลแทน

“อับราฮัมกับจอร์จ มานี่หน่อย” เขาเรียกเอลฟ์ทั้งสอง

*ป๊อป* X2

ด้วยเสียงนั้น ทั้งสองปรากฏตัวในชุดสุภาพบุรุษ

“พวกนายทำงานลับๆ ได้เก่งแค่ไหน ฉันไม่ได้พูดถึงงานบ้านนะ” แม็กนัสถาม

อับราฮัมตอบอย่างรวดเร็วว่า "เราเก่งมากครับ เราเคยออกล่าสัตว์วิเศษกับเจ้านายเก่าของเรามาหลายครั้ง สัตว์เหล่านั้นมีจมูกไม่ก็สายตาที่ดีมาก ดังนั้นเราต้องระวังให้มาก"

“ท่านครับ เราขอโทษที่ไม่ได้ดูแลคุณแกรนท์ให้ดีกว่านี้ ถ้าเราอยู่ที่นั่น เราอาจช่วยเขาได้ทัน” จอร์จขอโทษ

แม็กนัสตบไหล่ของเขา "มันไม่ใช่ความผิดของนาย จอร์จ มันเป็นความผิดของประเทศนี้ที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้อย่างรวดเร็วและปล่อยให้ผู้คนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต มันเป็นความผิดของผู้ก่อการร้ายเหล่านั้นที่คิดว่าข้อเรียกร้องของพวกเขาจะได้รับการยอมรับหากพวกเขาฆ่าคน ถึงฉันไม่ใช่รัฐบุรุษ แต่ฉันจะจัดการกับคนที่ทำร้ายครอบครัวของฉัน หน่วยสืบราชการลับได้ให้ภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิดแก่เรา ตอนนี้เราจะหาตัวพวกมันและทำลายซะ จะไม่มีความปราณีต่อคนที่ฆ่าผู้อื่นแล้วมีความสุขเพราะศาสนาหรือความเชื่อต่างจากของพวกมัน

ฉันก็เป็นคนหน้าซื่อใจคดเหมือนกันเพราะฉันทำสิ่งนี้ด้วยความเชื่อของฉันเอง แต่... ต้องไม่มีใครมายุ่งกับครอบครัวของฉัน!"

“เราต้องทำยังไงครับนายท่าน” ทั้งสองถาม

"ใช้คาถาชี้ทางและตามรอยพวกมัน เริ่มการค้นหาจากฐานทัพที่เกิดเหตุระเบิด เป็นไปได้ว่าพวกมันซ่อนตัวอยู่ไม่ไกล อาจคิดว่าจะไม่มีใครเห็น” แม็กนัสออกคำสั่ง เอลฟ์ทั้งสองยืดหลังให้ตรงรับคำสั่งอย่างจริงจังและผละจากไป

หลังจากนั้นก็กลับเข้าไปในห้อง อดัมลุกขึ้นและมองไปรอบๆ เกรซผู้เหนื่อยล้าและนอนหลับอยู่บนโซฟา

แม็กนัสยิ้มเมื่อสายตาของพวกเขาสบกัน "พ่อลางานก็ได้หากต้องการพักผ่อน จะไปให้ตัวเองโดนระเบิดทำไมฮะ?”

อดัมพูดด้วยเสียงกระซิบในขณะที่เขาไม่ต้องการขยับมากนักและร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด "อ่า... ครั้งหน้าพ่อจะจำไว้นะ"

"ไม่ต้องกังวลกับอาการบาดเจ็บของพ่อหรอกฮะ ทั้งหมดสามารถรักษาให้หายได้ด้วยยาวิเศษและคาถาบางอย่าง พ่อจะกลับมามีรูปร่างดีในหนึ่งเดือน ของวิเศษที่ผมให้พ่อไว้ช่วยชีวิตพ่อครั้งนี้ แต่เมื่อดูจากสถานการณ์ของประเทศนี้ ผมคงต้องทำมันให้มากขึ้นกว่าเดิม” แม็กนัสร่ายยาว

อดัมพยักหน้าเล็กน้อยและถามว่า "พ... พ่อเห็นลูกในความฝันของพ่อ..."

"ผมอยู่ที่นั่นจริงๆ ครับ ผมใช้เทคนิคเวทมนต์ที่เรียกว่าการพินิจใจใช้เพื่อบุกรุกจิตใจของผู้คนและดูความทรงจำของพวกเขา ผมใช้มันเพื่อปลุกพ่อโดยทำให้พ่อคิดว่าสิ่งที่พ่อเห็นคือความฝัน ผมต้องบอกว่าพ่อดูน่ารักมากตอนยังเด็กอยู่” แม็กนัสกล่าวพลางกลั้วหัวเราะ

"ฮิฮิ... แน่นอน... พ่อเป็นเด็กที่น่ารักที่สุดในละแวกนั้น ตอนนั้นมีพี่สาวคนสวยสุดน่ารักเคยหอมแก้มพ่อลูกด้วย..." อดัมหัวเราะเบาๆ

"อ๋องั้นเลยหรอ?" ทันใดนั้น เสียงของเกรซก็ดังมาจากด้านหลัง

แม็กนัสหัวเราะ "ไม่น่าแม่จ๋า ให้เขาผ่อนคลายหน่อย ตอนนั้นเขาอายุแค่ 5 ขวบเองฮะ”

"หืม... แล้วไง? แม่จะจัดการแน่ตอนพ่อลูกดีขึ้น” เธอขู่แต่ทั้งหมดก็เพราะรัก

*ฟึบ*

อับราฮัมปรากฏตัวขึ้น เขามองไปที่แม็กนัสแต่ถูกส่งสัญญาณให้อยู่เงียบๆ

“แม่ครับ ผมจะกลับบ้านไปเอาชุดเปลี่ยนมาให้แม่” แม็กนัสบอกเธอ

“ผมทำอาหารไว้ด้วยครับ เราจะแพ็คและนำมาให้คุณนาย” อับราฮัมมั่นใจเช่นกัน

“โอเคจ่ะ แม็ก” เกรซตอบอย่างแข็งกร้าวแล้วปล่อยให้แม็กนัสกับอับราฮัมจากไป

ทันใดนั้น อดัมก็พูดขึ้นว่า "เขาโกหกใช่ไหม?"

"ใช่ค่ะ และฉันก็กลัวเกินกว่าจะถามว่าทำไม ด้วยความสัตย์จริง ตั้งแต่เขาเริ่มเข้าไปพัวพันกับโลกเวทมนตร์ใบนี้ ทุกอย่างเกี่ยวกับเขากลายเป็นเรื่องลึกลับไปเสียหมด” เกรซตอบอย่างอารมณ์ดี

“ผมหวังว่าเขาจะไม่มีปัญหาอะไร...” อดัมถอนหายใจ

...

แม็กนัสมาถึงโกดังขนาดใหญ่ที่เกือบจะว่างเปล่าพร้อมกับอับราฮัม ที่นั่นเขาเห็นชาย 3 คนถูกมัดรวมกันบนเก้าอี้ แม็กนัสได้ยินเสียงกรีดร้องของพวกเขา

"แกเป็นตัวอะไรเนี่ย? โคตรน่าเกลียด!" หนึ่งในนั้นตะโกนใส่จอร์จ

*ชู่ววววว*

แม็กนัสเห็นปลายนิ้วของจอร์จส่งแสงวาบ และในไม่ช้าชายคนนั้นก็เริ่มกรีดร้อง

ไม่นานพวกเขาก็สังเกตเห็นแม็กนัสและตกใจมากที่มีเด็กคนหนึ่งมาที่นี่ด้วยเหตุผลบางอย่าง

“ช่วยเราด้วย...” พวกเขาร้องขอ

แม็กนัสเย้ยหยัน "ทำไมคนจับตัวพวกแกถึงช่วยด้วยล่ะ?"

ทั้งสามตกใจ "ว...ต-แต่ทำไมล่ะ?"

แม็กนัสหยิบไม้กายสิทธิ์ออกมาแล้วโบกมือ เขาเสกเลวิคอร์พัสใส่ทั้งสามคน พวกเขากลัวและตกใจว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นกับพวกเขาได้อย่างไร นี่เหมือนมีเวทมนตร์

"แกเป็นตัวอะไร?" พวกเขาถามอย่างหวาดกลัวในขณะที่ถูกตรึงข้อเท้ากลับหัวกลางอากาศ

*ตุบ*

แม็กนัสยกก้อนอิฐใกล้ๆ แล้วขว้างใส่ชายคนนั้น "มีแค่ฉันถามคำถามและพวกแกตอบ แล้วแกล่ะ ใครเป็นคนบงการระเบิดในวันนี้”

“คุณเกี่ยวอะ-...”

*ตู้ม*

คราวนี้อิฐก้อนใหญ่กระแทกเข้าที่ท้องของพวกเขา พวกเขาร้องด้วยความเจ็บปวด ปากของพวกเขาเต็มไปด้วยเลือด

ฉันต้องการความจริง” แม็กนัสเรียกร้อง

"หมอนั่น"

“ใช่ หมอนั่นแหละ”

พวกเขาสองคนทุบตีคู่หูของพวกเขา แม็กนัสปล่อยทั้งสองคนที่ตอบล้มลงกับพื้น

"อับราฮัม นายรู้วิธีลบความทรงจำหรือเปล่า?" แม็กนัสถามด้วยน้ำเสียงที่เบาลง

“ครับท่าน” อับราฮัมยืนยัน

"ดี ตัวนิ้วหัวแม่มือ นิ้วชี้ และนิ้วกลาง เพื่อไม่ให้พวกมันถือปืนได้อีก จากนั้นลบความทรงจำทั้งชีวิตของพวกมัน แล้วทิ้งพวกมันไว้นอกลอนดอน นั่นคือบทลงโทษของพวกมัน พวกมันพรากชีวิตผู้อื่น ฉันจะฆ่าพวกมันทั้งเป็น แต่สำหรับไอ้เวรนี่" แม็กนัสออกคำสั่งและหันกลับไปหาผู้บงการ

"แกทำอย่างนี้ทำไม?" เขาถาม

ชายคนนั้นตอบอย่างบ้าคลั่งว่า "แกไอ้คนอังกฤษไม่มีสิทธิ์อยู่เหนือไอร์แลนด์ เราจะไม่อยู่เฉยๆ จนกว่าไอร์แลนด์เหนือจะเป็นอิสระ"

"ทำไมหะ? เพราะงั้นแกเลยสามารถฆ่าล้างเผ่าพันธุ์พวกโปรเตสแตนต์หรอ? ฉันรู้ว่าพวกแกมีความเห็นต่าง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกแกมีสิทธิ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์คนอื่น อีกอย่างพวกแกก็เป็นคริสเตียนกันทั้งนั้น แค่มีพิธีกรรมต่างกันนิดหน่อย แล้วแกก็เลือกที่จะใช้ความรุนแรงเป็นคำตอบสำหรับปัญหาของพวกแก และความรุนแรงมีแต่จะส่งผลให้เกิดความรุนแรงมากขึ้น ดูสิว่าตอนนี้แกอยู่ที่ไหนหน่ะ?" แม็กนัสกล่าวว่า เขาไม่เชี่ยวชาญเรื่องการเมือง แต่ตอนเป็นเด็ก เขาเข้าใจเรื่องนี้ดีที่สุด

แกเป็นแค่เด็ก...ตัวประหลาด...” ชายคนนั้นเริ่มพูดพล่าม

แม็กนัสถอนหายใจ "ฉันพนันได้เลยว่า แอรีอานนา ดัมเบิลดอร์ ผู้น่าสงสารก็ถูกมักเกิ้ลเรียกว่าตัวประหลาดแบบนี้แหละ เลยทำให้เธอทุกข์ใจ ฉันอยากที่จะพบเธอแทนที่จะเป็นสุนัขจิ้งจอกเฒ่าอย่างดัมเบิลดอร์ซะอีก แกเคยรู้หรือไม่ว่ามีประชากรมนุษย์ส่วนหนึ่งที่มีวิวัฒนาการแตกต่างออกไป? พวกเขามีพลังวิเศษและมีชีวิตอยู่หลายพันปีแล้ว แต่เนื่องจากธรรมชาติของมนุษย์ที่ชอบโจมตีสิ่งที่ตัวเองไม่เข้าใจ พวกเขาจึงตัดสินใจซ่อนตัวในศตวรรษที่ 17

“นอกจากนี้ มันยังมีความจริงที่น่าสนุก ฉันคือผู้สืบทอดบัลลังก์อังกฤษคนต่อไป และคนที่แกโจมตีวันนี้ก็คือพ่อของฉัน!”

ชายผู้นั้นเริ่มโมโหและเริ่มเห่า "ฉัน-ฉันไม่รู้... แต่... ถ้าสิ่งที่แกพูดจะเป็นความจริง และมันเป็นเจ้าชายจริงๆ... ฉันจะวางระเบิดให้เยอะกว่านี้...ไอ้สารเลวนั่นจะต้องตายแน่ๆ!"

"จอร์จ...หลุมพร้อมหรือยัง" แม็กนัสถามด้วยความโกรธ

“พร้อมแล้วครับท่าน” จอร์จตอบ

แม็กนัสพยักหน้าและหย่อนชายคนนั้นลงไปในหลุมบนพื้น "เทซีเมนต์ลงไป"

จอร์จดีดนิ้วและทันใดนั้นก็มีรถผสมคอนกรีตปรากฏขึ้นและเริ่มเทคอนกรีตลงบนหลุม

ในที่สุดชายคนนั้นก็ตระหนักว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขารู้ตัวว่าเขากำลังจะตาย และมีคนจำนวนไม่มากที่มีความแข็งแกร่งทางจิตใจที่จะยึดมั่นในความเชื่อของพวกเขาแม้ในยามที่ต้องเผชิญหน้ากับความตาย มีเพียงสายลับบ้าๆ บางคนเท่านั้นที่ทำเช่นนั้น

"ยกโทษให้ฉันด้วย... ฉ-ฉันจะไม่ทำอีก ฉันจะออกจาก IRA ได้โปรด..." เขาอ้อนวอน

"ไม่ ฉันรู้ว่าแกจะเล็งเป้าไปที่ครอบครัวของฉันอีกครั้ง ถ้าปล่อยแกก็ปาฏิหาริย์แล้ว ฉันยอมให้แกมีชีวิตอยู่เพื่อพูดความจริง แต่...ฉันรักพ่อกับแม่มากเกินกว่าจะปล่อยให้คนอย่างแกหายใจ" แม็กนัสตอบกลับ ตอนนี้เขาสูญเสียการแสดงอารมณ์ทั้งหมดบนใบหน้าไปแล้ว

จิตใจของเขากำลังบอกให้เขาหยุดและอย่าฆ่าเขา จนถึงตอนนี้ ผู้เสพความตายที่เขาฆ่าพวกมันได้เพราะพวกนั้นต่อสู้กับเขาตรงๆ และมันก็เป็นสถานการณ์ที่ชี้เป็นชี้ตาย แต่ ณ ที่แห่งนี้ เขาสามารถควบคุมชีวิตของชายคนนี้ได้อย่างเต็มที่

เขาหลับตาและพยายามคุยกับเมอร์ลิน เขารู้ว่าสร้อยลูกปัดล่องหนที่คอของเขามีความลึกลับมากมาย และเสียงของเมอร์ลินก็ออกมาจากที่นั่นเช่นกัน

“ผมควรจะฆ่าเขาไหมครับ เมอร์ลิน?” เขาถาม

โชคดีที่มีเสียงเมอร์ลินตอบกลับมาอย่างนุ่มนวล เขาพยายามช่วยแม็กนัสอย่างสุดความสามารถ "นี่คือสิ่งที่เจ้าต้องตัดสินใจเอง ลูกชาย ย้อนกลับไปในสมัยของข้า ผู้คนถูกตัดสินประหารชีวิตแม้แต่คดีเล็กๆ น้อยๆ ต่อให้เป็นการขโมยอาหารก็อาจพรากชีวิตของเจ้าได้

ข้าทราบดีว่าชีวิตมนุษย์นั้นล้วนสำคัญ แต่ข้าก็รู้ว่าเวลาเหล่านั้นเรียกร้องให้มีการลงทันฑ์เช่นนั้น เพื่อที่ไม่ให้คนอื่นกระทำเป็นเยี่ยงอย่าง อาเธอร์นำดาบแห่งความยุติธรรมมาฟันคอคนนับพันเป็นการส่วนตัว

ส่วน ณ ที่แห่งนี้ ชายคนนี้ต้องรับผิดชอบต่อการตายของหลายชีวิต เจ้าอาจจะคิดแค่เรื่องครอบครัว แต่จงจำไว้ด้วยว่าเขายังฆ่าชายบริสุทธิ์อีก 2 คน คนขับรถและผู้ช่วยของบิดาเจ้า พวกเขายังมีครอบครัว บางทีอาจจะเป็นเด็กด้วย ตอนนี้พวกเขาอาจจะกำลังร้องไห้อยู่ นอกเหนือจากร่างไร้วิญญาณของคนที่พวกเขารัก

ชายคนนี้สร้างความเจ็บปวดให้อีกหลายคน และไม่รู้ว่าเขาทำให้ใครเสียชีวิตไปแล้วกี่คน ถ้าเจ้าปล่อยเขาไปวันนี้ ไม่มีใครรู้ว่าเขาจะฆ่าอีกกี่คน

จงจำไว้ว่าเมื่อสุนัขบ้ามันจะพยายามกัดคนรอบข้าง มันจึงต้องถูกจับและทำให้หลับไปตลอดกาล ผู้ก่อการร้ายเหล่านี้ก็ไม่ต่างกับสุนัขบ้า และถึงแม้เจ้าจะไม่สำเร็จโทษเขาในวันนี้ สักวันหนึ่งเขาก็ต้องตายอยู่ดี และปลายทางของเขาก็ถูกตัดสินแล้ว สู่ขุมนรก"

“นรกมีอยู่จริงหรอครับ?” แม็กนัสถามด้วยความสนใจ

"แน่นอน นักปราชญ์ชราที่สโตนเฮนจ์ผู้นั้นบอกเรื่องนี้กับข้า อา ข้าเองก็อยากคุยกับเขามากกว่านี้ เขามีความรู้มากมาย อย่างไรก็ตาม กลับมาที่หัวข้อหลัก มันคือการตัดสินใจของเจ้า แม็กนัส" เมอร์ลินร่ายยาวแล้วหยุดพูดไป

แล้วสติแม็กนัสก็กลับมา จ้องมองชายคนนั้น คร่ำครวญในขณะที่หลุมค่อยๆ เต็ม ตอนนี้มันเอ่อมาถึงคอของชายคนนั้นแล้ว

~ถ้าฉันทำสิ่งนี้ในวันนี้ ฉันจะสร้างแบบอย่างให้ตัวเอง ผู้ก่อการร้ายอย่างเขา คนบ้าอย่างเขาต้องหลับใหลชั่วนิรันดร์~ เขาคิดกับตัวเองและในที่สุดก็ตัดสินใจได้

เขาเดินเข้าไปใกล้ชายที่หยุดกรีดร้อง แต่ใบหน้าของเขายังคงเต็มไปด้วยความหวาดหวั่นและหวาดกลัว "ช่วยฉันด้วย... ได้โปรด… ยกโทษให้ฉันเถอะ..."

แม็กนัสชี้ไม้กายสิทธิ์ไปที่เขา "ขอโทษนะ แต่ฉันได้ตัดสินใจแล้วว่าฉันจะใช้ชีวิตนี้ยังไง จะไม่มีการปราณีคนอย่างคุณ ฉันไม่สามารถเพิกเฉยต่อเสียงร้องไห้ของครอบครัวของคนที่คุณฆ่า คนที่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับคุณหรือ IRA

ฉันสามารถแสดงความเมตตาเล็กๆ น้อยๆ ได้นะ ความตายที่ไม่เจ็บปวด ฉันรู้ว่าถ้าเป็นอาเธอร์ก็คงทำเช่นเดียวกัน สตูเปฟาย!+"

ทันทีที่คาถากระทบเขาเขาก็หมดสติและในไม่ช้าหลุมก็เต็มไปด้วยคอนกรีต พื้นโกดังเริ่มดูเหมือนเดิม

“กลับบ้านไปเก็บเสื้อผ้าของแม่กันเถอะจอร์จ” แม็กนัสพูดแล้วเดินออกจากโกดัง

ขณะที่พวกเขาเดินออกไป แม็กนัสถอนหายใจ "อา... ฉันลืมถามชื่อหมอนั่นเลย"

"ไม่เป็นไรหรอกครับท่าน คนอย่างเขาไม่สมควรได้รับการจดจำ" จอร์จตอบแล้วหายตัวไปพร้อมกับแม็กนัส

_____________________________

เพจแปลถ้าเช่นนั้นข้าขอลา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด